อัพเดตข่าวสงครามยูเครน วันที่ 221 ของสงคราม (สถานการณ์ในยูเครน & สถานการณ์ในยุโรป) 1. หลังจากที่เมื่อวานนี้ผมพึ่งรายงานไปว่าสถานการณ์ในเมืองไลมาน (Lyman) กำลังเข้าขั้นวิกฤติสำหรับฝ่ายรัสเซีย ดูเหมือนว่าตอนนี้ทางกระทรวงกลาโหมรัสเซียจะออกมายอมรับถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยการประกาศถอนกองกำลังทหารออกจากเมืองไลมานและพื้นที่โดยรอบแล้ว
การถอยทัพจากไลมาน นับเป็นความพ่ายแพ้ใหญ่ครั้งล่าสุดของฝ่ายรัสเซียจนถึงตอนนี้ นับตั้งแต่รัสเซียสูญเสียการควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ในแถบจังหวัดคาร์คิฟ (Kharkiv Oblast) ให้แก่ยูเครนเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา และส่งผลให้ตลอดทั้งเดือนกันยายน กองทัพยูเครนสามารถปลดแอกดินแดนของตนคืนจากฝ่ายรัสเซียได้มากถึง 10,608 ตร.กม.
(เทียบได้กับจังหวัดขอนแก่นของไทย) และส่งผลให้ตอนนี้ ดินแดนของยูเครนที่ยังอยู่ในการควบคุมของรัสเซียลดลงมาอยู่เพียง 17.72% หรือประมาณ 106,975 ตร.กม. เท่านั้น
(ใหญ่กว่าภาคเหนือ แต่เล็กกว่าภาคอีสานของไทย) นอกจากนี้ การสูญเสียเมืองไลมานของฝ่ายรัสเซียยังเกิดขึ้นในระยะเวลาเพียง 1 วัน หลังจากที่ทางรัฐบาลรัสเซียประกาศผนวกดินแดนยึดครองในยูเครนมาเป็นของตน ซึ่งรวมถึงเมืองไลมานด้วย
ภาพประกอบ 1 แสดงพื้นที่ที่ยูเครนพึ่งทำการปลดแอกคืนจากรัสเซีย (สีเหลืองอ่อน) ในการรบที่ไลมานครั้งนี้
ภาพประกอบ 2 แสดงพื้นที่โดยภาพรวมของทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน มีความเป็นไปได้ว่ารัสเซียจะทำการถอนกำลังจากแนวตั้งรับตลอดริมแม่น้ำออสกิล (Oskil River) เพื่อทำการสร้างแนวป้องกันใหม่ลากยาวจากเมืองทรอยต์สเกอ (Troitske) สวาโทฟ (Svatove) ลงมาจนถึงเมืองเครมินนา (Kreminna) แทน
ในขณะที่กองทัพรัสเซียในไลมานกำลังล่าถอย อีกด้านหนึ่ง มีรายงานจากหน่วยข่าวกรองของยูเครน ว่ากองทัพรัสเซียกำลังเริ่มระดมกำลังพลชุดใหม่ขึ้นในเบลารุส โดยมีการตรวจพบว่าบุคลากรของเบลารุสกำลังทำการจัดเตรียมค่ายทหาร สนามบิน สถานีรถไฟ คลังสรรพาวุธ และอื่นๆ เพื่อรองรับการมาของทหารรัสเซียจำนวนมาก โดยในเบื้องต้นหน่วยข่าวกรองของยูเครนพบว่ารัสเซียกำลังเตรียมการเคลื่อนกำลังพลชุดแรกจำนวนประมาณ 20,000 นาย จากทั้งหมด 120,000 นายเข้าไปยังเบลารุส และจากคำกล่าวอ้างของนายพาเวล ลาตุชกา (Pavel Latushka) หนึ่งในนักการเมืองฝ่ายค้านของเบลารุส ปธน.ลูคาเชนโกของเบลารุสได้ตกลงจะเข้าร่วมสงครามโดยการประกาศระดมกำลังพลของเบลารุสจำนวนประมาณ 100,000 นาย ในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายนปีนี้ ไปจนถึงกุมภาพันธ์ปีหน้า ทำให้มีความเป็นไปได้ว่ารัสเซียอาจใช้กำลังทหารที่พึ่งทำการระดมพลมานับหมื่นนับแสนนาย ในการเปิดแนวรบทางเหนือของยูเครนขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ในขณะที่กองทัพยูเครนได้ทำการเตรียมความพร้อมรับมือโดยการจัดการซ้อมรบ “นอร์เธิร์นสตอร์ม” (Northern Storm Military Exercise) ขึ้นระหว่างกองทัพ ตำรวจชายแดน และกองกำลังรักษาดินแดนยูเครน
2. ในยุโรป รัสเซียยังคงใช้ก๊าซธรรมชาติของตนเป็นเครื่องมือกดดันและตอบโต้รัฐบาลในยุโรปจากการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัท “แกสพรอม” (PJSC Gazprom) รัฐวิสาหกิจด้านกิจการน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย ได้ประกาศยุติการส่งก๊าซให้แก่อิตาลีเป็นการชั่วคราว โดยอ้างว่ามีสาเหตุมาจากปัญหาด้านข้อตกลงระเบียบการปฏิบัติงานในการลำเลียงก๊าซระหว่าง “แกสพรอม” กับรัฐบาลออสเตรีย ซึ่งเป็นทางผ่านของท่อก๊าซจากรัสเซียไปยังอิตาลี อย่างไรก็ดี ปัญหาดังกล่าวจะไม่ส่งผลต่ออิตาลีมากนัก เนื่องจากอิตาลีได้ลดปริมาณการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียลง และทดแทนด้วยการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากประเทศในทวีปแอฟริกาแทน
นอกจากอิตาลี มอลโดวาเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย โดยบริษัท “มอลโดวาแกส” (MoldovaGaz JSC) ได้รายงานว่าทางบริษัท “แกสพรอม” ได้ลดปริมาณการจ่ายก๊าซให้มอลโดวาลงจำนวน 30% จากเดิมที่มอลโดวานำเข้าก๊าซจากรัสเซียปริมาณ 8.1 ล้าน ลบ.ม./เดือน ได้ลดลงเหลือเพียง 5.7 ล้าน ลบ.ม./เดือน เท่านั้น โดยทาง “แกสพรอม” อ้างว่าสาเหตุในการลดการจ่ายก๊าซให้กับมอลโดวา เนื่องมาจากเหตุขัดแย้งกับบริษัท “จีทีเอสโอยู” (GTSOU) หรือ “กิจการท่อส่งก๊าซแห่งยูเครน” (Gas Transmission System Operator of Ukraine) บริษัทผู้ให้บริหารขนส่งก๊าซธรรมชาติผ่านท่อก๊าซสายรัสเซีย-ยูเครน-ยุโรป
ภาพประกอบ 1 โครงข่ายท่อก๊าซระหว่างรัสเซียและยุโรป สีแดงคือท่อก๊าซที่ทำการส่งก๊าซจากรัสเซียไปยังประเทศในยุโรป
อย่างไรก็ดี ยังมีข่าวดีสำหรับยุโรปอยู่ ในแถบยุโรปใต้ ท่อก๊าซ “โครงข่ายเชื่อมต่อท่อแก็สกรีซ-บัลแกเรีย” (Gas Interconnector Greece-Bulgaria) หรือ “ไอจีบี” (IGB) โครงการท่อลำเลียงก๊าซธรรมชาติจากกรีซไปยังบัลแกเรีย
(ซึ่งกรีซนำเข้าจากอาเซอร์ไบจันมาอีกทอดหนึ่ง) ได้เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่ได้ทำพิธีเปิดขั้นต้นไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ท่อก๊าซ “ไอจีบี” นั้นมีกำลังส่งก๊าซได้มากถึง 3,000 ล้าน ลบ.ม./ปี และปัจจุบันกำลังอยู่ในระหว่างการเพิ่มกำลังส่งเป็น 5,000 ล้าน ลบ.ม./ปี เพื่อช่วยให้ประเทศในภูมิภาคบอลข่าน ไม่ว่าจะเป็นกรีซ บัลแกเรีย โรมาเนีย เซอร์เบีย และนอร์ธมาซิโดเนีย สามารถลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียได้
ภาพประกอบ 2 แผนที่เก่าจากปี 2019 แสดงระบบท่อของ “โครงข่ายเชื่อมต่อท่อแก็สกรีซ-บัลแกเรีย” (Gas Interconnector Greece-Bulgaria)
ทางฝั่งยุโรปเหนือ เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา ได้มีการทำพิธีเปิดโครงข่ายท่อส่งก๊าซ “บอลติคไปป์” (Baltic Pipe) ระหว่างนอร์เวย์-เดนมาร์ค-โปแลนด์ ท่อก๊าซ “บอลติคไปป์” นั้นมีกำลังส่งก๊าซได้มากถึง 10,000 ล้าน ลบ.ม./ปี และเช่นเดียวกับท่อก๊าซ “ไอจีบี” ท่อก๊าซ “บอลติคไปป์” จะช่วยให้ประเทศในแถบยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก เช่นโปแลนด์ สามารถลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียได้
ภาพประกอบ 3 แผนที่แสดงโครงข่ายท่อก๊าซ “บอลติคไปป์” (Baltic Pipe)
ที่มา: