เว็บติดตามสถานการณ์ในยูเครนแบบ Live Map

[franchan]

[quote/]
มันเป็นเรื่องอิสระ กับเรื่องเพื่อสังคมครับ ถ้าชอบใช้ของที่ผลิตในประเทศ แล้วขายของให้ต่างประเทศคือพวกไปทำสงครามชนะ
เพราะเอาความมั่งคั่งกลับสู่ประเทศ
แต่พวกหาเงินในประเทศแล้วเอาไปเปย์ ซื้อของต่างประเทศ พวกนี้ทำให้ประเทศยากจนลงครับ
ถ้าอย่างเราๆผลิตเองไม่ได้ เลยนำเข้าอันนี้ก็พอรับได้อยู่
แต่แทนที่จะไปกินกาแฟอเมซอน แต่เดินเข้า สตาร์บั๊ก อันนี้คือฝักใฝ่ต่างชาติเอาเงินออกนอกประเทศ
ถ้าเป็นพวกรักชาติเขาก็คงรู้สึกไม่พอใจเท่าไหร่
แต่ถ้าให้เทียบกรณี ชุดกิโมโน ตะวันตกก็เป็นครับ
ลองใส่ชุดนาซีไปเดินเล่นสิ 
ส่วนเรื่องกวดวิชา อันนั้นเขาช่วยผู้ปกครองนะจะไปคิดไรมากแทนเขา คือกวดวิชามากๆเด็กเครียด พ่อแม่ผู้ปกครองต้องทำงานหาเงินมาให้ลูกเรียนพิเศษ
บ้านเขาเครียดกว่าบ้านเราเยอะ เรียนปรกติ เช้ายันค่ำ แล้วยังต่อเรียนพิเศษยัน 3-4 ทุ่ม กดๆลงมามันก็ดีอยู่

ส่วนเรื่องเล่นเกม อันนั้นผมก็ว่าเรื่องมากจริงนั่นแหล่ะ แต่ถ้าจำไม่ผิดมันเป็นเพราะฝั่งผู้ปกครองที่อยากให้ลูกเล่นเกมน้อยลงนะ
ส่วนเรื่องคนในพรรคห้ามกินอาหารญี่ปุ่น ไทยก็มีครับ ฉันจะไม่ไปกินร้านอาหารของฝั่งตรงข้ามทางการเมือง คือด่าๆเขาไว้เยอะ ชวนคนไม่กินถ้าตัวเองไปกินก็งานเข้าสิ
พูดถึงเรื่องไม่อุดหนุนฝั่งตรงข้าม เป็นแนวคิดฝั่งตะวันตกด้วยนะครับ

อันนี้เยอรมัน ผู้ชายนั่นคือนายก สาวๆประท้วงเรื่องก๊าซรัสเซีย
[youtube/]

สาวๆในคลิปคนนึงสวยใช้ได้เลยนะว่าแต่โชนมเหรอครับถึงsensor

อีกเรื่องกาแฟอเมซอนถ้าให้พูดตรงๆคือมันไม่อร่อยน่ะครับขนมก็ไม่อร่อยศู้สตาบัคไม่ได้ถ้าไม่นับเรื่องราคาแต่แน่นอนผมไม่ได้กินอเมซอนเพราะไม่ค่อยอร่อยส่วนสตาบัคไม่กินเพราะแพงเกินปกติร้านกาแฟท้องถิ่นแก้วละ40-60ครับ

[Black7nos]

การปกครองมันก็แบ่งง่ายๆเป็นเผด็จการกับเสรีนิยมแค่นั้นแหละครับ เผด็จการก็รวบอำนาจจะเป็นพรรค เป็นตระกูล เป็นบุคคล ฯลฯ ก็เหมือนๆกันที่ไม่กระจายอำนาจให้ประชาชน  เสรีนิยมก็ตรงกันข้าม  แต่ผมว่าคอมมิวนิสต์นี่เป็นลัทธิเพ้อเจ้อที่ไม่มีทางทำได้ในความเป็นจริงครับ เพราะลิงที่ไหนจะยอมสละอำนาจ? ผมเองถ้าอยู่แบบนั้นก็ไม่อยากครับ(ฮา)

คอมมิวนิสต์ ไม่ได้กระจายอำนาจนะครับ เป็นระบบที่รวมอำนาจ แต่รวมอำนาจเพื่อที่จะให้ง่ายต่อการบริหารเพื่อทำให้คนเท่ากัน
แต่ประชาธิปไตยนี่แหละที่เลือกยอมสละอำนาจ กระจายอำนาจให้คนทุกคนครับ


ยกตัวอย่างความแตกต่างการบริหาร
กรณีเก็บภาษี
- ประชาธิปไตย จะขึ้นอยู่กับกฎหมายและนโยบายของรัฐๆ นั้น ท้องถิ่นมีอำนาจตัดสินใจเอง
- คอมมี่ จะขึ้นกับรัฐบาลกลางและกฎหมายกลาง ท้องถิ่นไม่มีสิทธิตัดสินใจเอง

[franchan]

[quote/]


คอมมิวนิสต์ ไม่ได้กระจายอำนาจนะครับ เป็นระบบที่รวมอำนาจ แต่รวมอำนาจเพื่อที่จะให้ง่ายต่อการบริหารเพื่อทำให้คนเท่ากัน
แต่ประชาธิปไตยนี่แหละที่เลือกยอมสละอำนาจ กระจายอำนาจให้คนทุกคนครับ


ยกตัวอย่างความแตกต่างการบริหาร
กรณีเก็บภาษี
- ประชาธิปไตย จะขึ้นอยู่กับกฎหมายและนโยบายของรัฐๆ นั้น ท้องถิ่นมีอำนาจตัดสินใจเอง
- คอมมี่ จะขึ้นกับรัฐบาลกลางและกฎหมายกลาง ท้องถิ่นไม่มีสิทธิตัดสินใจเอง
[/quoted]

ว่าแต่ในโลกนี้มีไหมประเทศไหนที่เป็นคอมมิวนิสจริงๆหรือว่ามีแต่เผด็จการ คณาธิปไตย ฟราสซิส อ้างคอมมิวนิสเพื่อเข้าหาประชาชนกลุ่มล่างให้สนับสนุนตนเอง

[PeanutButter]

[quote/]
มันเป็นเรื่องอิสระ กับเรื่องเพื่อสังคมครับ ถ้าชอบใช้ของที่ผลิตในประเทศ แล้วขายของให้ต่างประเทศคือพวกไปทำสงครามชนะ
เพราะเอาความมั่งคั่งกลับสู่ประเทศ
แต่พวกหาเงินในประเทศแล้วเอาไปเปย์ ซื้อของต่างประเทศ พวกนี้ทำให้ประเทศยากจนลงครับ
ถ้าอย่างเราๆผลิตเองไม่ได้ เลยนำเข้าอันนี้ก็พอรับได้อยู่
แต่แทนที่จะไปกินกาแฟอเมซอน แต่เดินเข้า สตาร์บั๊ก อันนี้คือฝักใฝ่ต่างชาติเอาเงินออกนอกประเทศ
ถ้าเป็นพวกรักชาติเขาก็คงรู้สึกไม่พอใจเท่าไหร่
แต่ถ้าให้เทียบกรณี ชุดกิโมโน ตะวันตกก็เป็นครับ
ลองใส่ชุดนาซีไปเดินเล่นสิ 
ส่วนเรื่องกวดวิชา อันนั้นเขาช่วยผู้ปกครองนะจะไปคิดไรมากแทนเขา คือกวดวิชามากๆเด็กเครียด พ่อแม่ผู้ปกครองต้องทำงานหาเงินมาให้ลูกเรียนพิเศษ
บ้านเขาเครียดกว่าบ้านเราเยอะ เรียนปรกติ เช้ายันค่ำ แล้วยังต่อเรียนพิเศษยัน 3-4 ทุ่ม กดๆลงมามันก็ดีอยู่

ส่วนเรื่องเล่นเกม อันนั้นผมก็ว่าเรื่องมากจริงนั่นแหล่ะ แต่ถ้าจำไม่ผิดมันเป็นเพราะฝั่งผู้ปกครองที่อยากให้ลูกเล่นเกมน้อยลงนะ
ส่วนเรื่องคนในพรรคห้ามกินอาหารญี่ปุ่น ไทยก็มีครับ ฉันจะไม่ไปกินร้านอาหารของฝั่งตรงข้ามทางการเมือง คือด่าๆเขาไว้เยอะ ชวนคนไม่กินถ้าตัวเองไปกินก็งานเข้าสิ
พูดถึงเรื่องไม่อุดหนุนฝั่งตรงข้าม เป็นแนวคิดฝั่งตะวันตกด้วยนะครับ

อันนี้เยอรมัน ผู้ชายนั่นคือนายก สาวๆประท้วงเรื่องก๊าซรัสเซีย
[youtube/]

   การเปรียบเทียบกิโมโนกับเครื่องแบบนาซีนี่ไม่ถูกต้องนะครับ เพราะกิโมโนเป็นแค่เครื่องแต่งกายทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเท่านั้น ในขณะที่เครื่องแบบนาซีมันคือสัญลักษณ์ที่แทนถึงระบอบนาซีที่ก่อสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จนทำให้มีคนตายหลายสิบล้านคน ระดับมันไม่สามารถเอามาเทียบกันได้เลย ถ้าจะให้ใกล้เคียงผมว่าต้องเปรียบกับกรณีในบ้านเรามากกว่า ตอนช่วงวันไว้อาลัยของบุคคลที่คุณก็รู้ว่าใครนั่นแหละครับ ที่เขาโปรโมตให้ใส่เสื้อดำ-เสื้อขาวกันทั้งประเทศ แล้วพอมีคนใส่เสื้อสีอื่นมาก็โดนล่าแม่มดเสียอย่างงั้น ทั้งนี้บุคคลนั้นอาจไม่มีเสื้อสีดำใส่หรือมีแต่ไม่พร้อมใส่ในวันนั้นก็ได้ 

ในคลิปนี่ผมเห็นแล้วฮาหน้าตาลุงชอลซ์แฮะ หน้าตาแกแบบยิ้มกรุ้มกริ่มดี   

[pol]

[quote/]

   การเปรียบเทียบกิโมโนกับเครื่องแบบนาซีนี่ไม่ถูกต้องนะครับ เพราะกิโมโนเป็นแค่เครื่องแต่งกายทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเท่านั้น ในขณะที่เครื่องแบบนาซีมันคือสัญลักษณ์ที่แทนถึงระบอบนาซีที่ก่อสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จนทำให้มีคนตายหลายสิบล้านคน ระดับมันไม่สามารถเอามาเทียบกันได้เลย ถ้าจะให้ใกล้เคียงผมว่าต้องเปรียบกับกรณีในบ้านเรามากกว่า ตอนช่วงวันไว้อาลัยของบุคคลที่คุณก็รู้ว่าใครนั่นแหละครับ ที่เขาโปรโมตให้ใส่เสื้อดำ-เสื้อขาวกันทั้งประเทศ แล้วพอมีคนใส่เสื้อสีอื่นมาก็โดนล่าแม่มดเสียอย่างงั้น ทั้งนี้บุคคลนั้นอาจไม่มีเสื้อสีดำใส่หรือมีแต่ไม่พร้อมใส่ในวันนั้นก็ได้ 

ในคลิปนี่ผมเห็นแล้วฮาหน้าตาลุงชอลซ์แฮะ หน้าตาแกแบบยิ้มกรุ้มกริ่มดี   

เขาเปรียบเทียบถึงประเทศจีนที่มีสาวๆคอสเพลย์มาใส่ชุดกิโมโนของญี่ปุ่นแล้วถูกชาวบ้านด่า+ตำรวจจับว่าเป็นพวกชาตินิยมเว่อร์ๆครับท่าน   

[PeanutButter]

อัพเดตข่าวยูเครน วันที่ 190 ของสงคราม Part 2

3. ดูเหมือนว่าจำนวนประชาชนชาวยูเครนที่เสียชีวิตในการสู้รบ ณ เมืองมาริอูโปล (Mariupol) ทางใต้ของยูเครน นับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. - 20 พ.ค. กินระยะเวลายาวนานเกือบสามเดือน จะมีมหาศาลกว่าที่ประมาณการไว้มาก หากอ้างอิงตัวเลขจากฝั่งยูเครน โดยนายมิโคลา โอซีเชนโก (Mykola Osychenko) นักสังคมสงเคราะห์และประธานสำนักข่าว “นีโปรทีวี” (Dnipro TV) ได้ออกมากล่าวตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค. ว่าเขาได้รับตัวเลขจากเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลสุสานและห้องเก็บศพในเมืองมาริอูโปลถึงยอดพลเมืองมาริอูโปลที่เสียชีวิตนับตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้น โดยพบว่ามีพลเมืองมาริอูโปลมากถึง 87,000 รายเสียชีวิต และอีก 26,750 รายที่เสียชีวิตแต่ไม่สามารถระบุตัวตนที่แท้จริงได้ เมื่อรวมกัน เท่ากับว่าในมาริอูโปลมียอดพลเมืองยูเครนที่เสียชีวิตจากการสู้รบมากถึง 113,750 ราย

อย่างไรก็ดี ตัวเลขทั้งสองมาจากแหล่งข่าวแค่สองแหล่งเท่านั้น คือแหล่งข่าวจากสุสานอิลลิชิฟ (Illichiv Morgue) และสำนักงานอัยการโนโวอาซอฟ (Novoazov Prosecutor’s Office) ซึ่งนายโอซีเชนโกคาดว่าน่าจะยังมีตัวเลขผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายอีกมากในสุสานอื่นๆ ของเมือง

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีรายงานจาก “สแตรทคอมยูเครน” (StratCom Ukraine) หรือศูนย์สื่อสารทางยุทธศาสตร์และความมั่นคงทางสารสนเทศ (Centre for Strategic Communications and Information Security) องค์กรเอกชนที่ร่วมงานกับรัฐบาลยูเครนในการพัฒนาและปรับปรุงระบบเครือข่ายการสื่อสารภายในและระหว่างหน่วยงานรัฐ กล่าวว่ากองทัพรัสเซียกำลังพยายามปกปิดร่องรอยของเหตุการณ์โจมตีโรงละครมาริอูโปล (Mariupol Theatre Airstrike) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 มี.ค. เมื่อกองทัพรัสเซียได้ทำการทิ้งระเบิดเข้าใส่โรงละครวิชาการภูมิภาคโดเนตสก์ (Donetsk Academic Regional Drama Theater) ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่หลบภัยจากการโจมตีของรัสเซีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 300-600 ราย โดยอ้างอิงจาก “สแตรทคอมยูเครน” กล่าวว่าตอนนี้กองทัพรัสเซียได้ทำการโบกปูนทับพื้นอาคารของโรงละคร เพื่อหวังปกปิดร่องรอยของผู้เสียชีวิตจำนวนมากจากเหตุการณ์โจมตีดังกล่าว


4. มาดูสถานการณ์ในเยอรมนีกันบ้าง ล่าสุดมีรายงานจากสำนักข่าว “ดีไซต์” (Die Zeit) ของเยอรมนี ซึ่งอ้างอิงแหล่งข่าวจากสำนักงานคุ้มครองรัฐธรรมนูญ (BfV) หน่วยข่าวกรองภายในประเทศเยอรมนี ได้กล่าวว่ามีเจ้าหน้าที่ระดับสูงสองรายภายในกระทรวงกิจการด้านเศรษฐกิจและสภาพภูมิอากาศ ซึ่งดูแลรับผิดชอบด้านนโยบายพลังงานกับประเทศรัสเซีย ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าอาจเป็นสายลับรัสเซียที่คอยยุยงรัฐบาลเยอรมนีให้ดำเนินนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อรัสเซีย

การสืบสวนครั้งนี้เริ่มขึ้นหลังจากทาง BfV ได้รับคำร้องว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งสองราย (แหล่งข่าวไม่ได้เปิดเผยชื่อและตำแหน่งของผู้ต้องสงสัย) มีพฤติกรรมน่าสงสัย ได้แก่การวิพากษ์วิจารณ์มาตรการคว่ำบาตรของนายโอลัฟ ชอลซ์ (Olaf Scholz) นายกรัฐมนตรีของเยอรมนีที่มีต่อรัสเซีย รวมถึงการแสดงจุดยืนสนับสนุนการกระทำของรัสเซียหลายต่อหลายครั้ง

อย่างไรก็ดี จากแหล่งข่าว จนถึงตอนนี้ทาง BfV ยังไม่มีหลักฐานที่หนักแน่นเพียงพอในการเอาผิดเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งสองรายแต่อย่างใด

สำหรับประเด็นด้านพลังงาน ล่าสุดบริษัท “แกสพรอม” (PJSC Gazprom) รัฐวิสาหกิจด้านกิจการน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย ได้ประกาศยุติการจ่ายก๊าซธรรมชาติให้แก่เยอรมนีผ่านทางท่อส่งก๊าซ “นอร์ดสตรีมวัน” (Nord Stream 1) เป็นระยะเวลา 3 วัน นับตั้งแต่วันนี้จนถึงวันเสาร์ที่ 3 ก.ย. โดยอ้างว่าเป็นไปเพื่อซ่อมบำรุงระบบการทำงานของท่อก๊าซ

ทั้งนี้ ในปัจจุบันรัสเซียได้ทำการส่งก๊าซให้แก่เยอรมนีผ่านท่อส่งก๊าซ “นอร์ดสตรีมวัน” เป็นจำนวนเพียง 33 ล้าน ลบ.ม./วัน หรือคิดเป็น 20% จากกำลังการส่งก๊าซสูงสุด 167 ล้าน ลบ.ม./วันในช่วงก่อนสงคราม ซึ่งชาติตะวันตกมองว่าเป็นการกระทำเพื่อตอบโต้ต่อมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก แม้ว่าฝ่ายรัสเซียจะอ้างว่าการลดปริมาณก๊าซที่ส่งให้แก่เยอรมนีนั้นมีสาเหตุมาจากระบบการทำงานที่ชำรุดเสียหายก็ตาม

แม้ว่าจะมีความกังวลเรื่องการขาดแคลนก๊าซธรรมชาติในฤดูหนาวที่จะถึงนี้ รวมถึงข่าวความเป็นไปได้ที่รัฐบาลเยอรมนีอาจพิจารณาเลื่อนการปลดระวางโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 3 แห่งในประเทศที่มีกำหนดการปิดใช้งานถาวรภายในวันที่ 31 ธ.ค. นี้ออกไปก่อนชั่วคราว แต่นายโรเบิร์ต ฮาเบ็ค (Robert Habeck) รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กิจการด้านเศรษฐกิจและสภาพภูมิอากาศ ได้ออกมากล่าวในวันที่ 28 ส.ค. ที่ผ่านมา ยืนยันว่าการฝืนใช้งานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ต่อไปนั้นได้ไม่คุ้มเสีย เนื่องจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งสามสามารถทดแทนก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียได้เพียง 2% เท่านั้น อย่างไรก็ดี เขากล่าวว่าหากผลการทดสอบความเป็นไปได้ในการยืดอายุการใช้งานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในรัฐบาวาเรียทางใต้มีผลออกมาเป็นบวก เขาอาจพิจารณาให้ยืดอายุการใช้งานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในบาวาเรีย เนื่องจากบาวาเรียเป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศ



ที่มา:

สปอยส์ ซ่อน ซ่อน:

[PeanutButter]

[quote/] เขาเปรียบเทียบถึงประเทศจีนที่มีสาวๆคอสเพลย์มาใส่ชุดกิโมโนของญี่ปุ่นแล้วถูกชาวบ้านด่า+ตำรวจจับว่าเป็นพวกชาตินิยมเว่อร์ๆครับท่าน   

   ผมทราบครับว่าเรากำลังคุยกันเรื่องนั้น ซึ่งท่าน deaddy ก็เลยตอบในโพสต์ก่อนหน้าว่าในตะวันตกก็มีเหตุการณ์ลักษณะนี้กับเครื่องแบบของนาซีเหมือนกัน ผมเลยตอบกลับว่าการเอากิโมโนไปเปรียบเทียบกับเครื่องแบบนาซีมันไม่เหมาะสม ถ้าผู้แต่งคอสเพลย์แต่งชุดเป็นทหารจักรวรรดิญี่ปุ่นจนทำให้ชาวบ้านในจีนไม่พอใจก็ว่าไปอย่าง แต่กิโมโนมันเป็นแค่ชุดทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเฉยๆ ไม่ได้เกี่ยวโยงกับการสังหารหมู่ประชาชนจำนวนมากแบบเดียวกันจักรวรรดิญี่ปุ่นหรือระบอบนาซีแต่อย่างใด (ยกเว้นแค่ว่ากิโมโนมันเป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นใน Pop Culture ทั่วโลกแค่นั้นเอง) ฉะนั้นการเอากิโมโนไปเทียบกับเครื่องแบบของนาซีจึงเป็นการเปรียบเทียบที่ผิดบริบทน่ะครับ



อันนี้สงสัยอย่างนึงครับ ผมจะกดแท็กคนอื่นยังไงหว่า     เมื่อกี้ผมอยากลองแท็กชื่อท่าน deaddy ไว้ด้วยแต่ก็หาวิธีไม่เจอ (ยังไม่ค่อยคล่องกับการใช้งานเว็บเท่าไหร่แฮะ   )

[PeanutButter]

อัพเดตข่าวยูเครน วันที่ 190 ของสงคราม Part 3

5. มาดูข่าวด้านเศรษฐกิจกันบ้าง อ้างอิงจากรายงานล่าสุดของสำนักงานสถิติยุโรปหรือยูโรแสตท (Eurostat) ขณะนี้อัตราเงินเฟ้อสำหรับประเทศในพื้นที่ยูโร (Euro Area) หรือยูโรโซน (Eurozone) ได้พุ่งขึ้นสูงถึง 9.1% สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ประมาณ 9% และสูงที่สุดนับตั้งแต่อัตราเงินเฟ้อในกลุ่มยูโรโซนเริ่มพุ่งสูงขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว

หากแบ่งแยกย่อยออกเป็นภาคส่วนต่างๆ จะพบว่าภาคพลังงานมีอัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดที่ 38.3% ซึ่งถือว่าลดน้อยลงแล้วจากอัตราเงินเฟ้อ 39.8% ในเดือนกรกฎาคม ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาสูบมีอัตราเงินเฟ้อที่ 10.6% สูงขึ้นจากเดือนกรกฎาคมที่มีอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 9.8% โดยมีสาเหตุหลักมาจากภัยแล้งที่ร้ายแรงที่สุดในรอบ 500 ปีในทวีปยุโรป ซึ่งส่งผลให้การเก็บเกี่ยวพืชผลการเกษตรทำยอดได้ต่ำกว่าเป้า ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมของใช้ครัวเรือนมีอัตราเงินเฟ้อที่ 5% เพิ่มขึ้น 0.5% จากเดือนกรกฎาคม และภาคการบริการมีอัตราเงินเฟ้อที่ 3.8% เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม

หากแยกย่อยลงไปในระดับประเทศ เยอรมนีจะมีอัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดด้วยอัตราเงินเฟ้อ 8.8% ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 50 ปี ขณะที่ฝรั่งเศสและสเปนมีอัตราเงินเฟ้อลดลงจากเดือนกรกฎาคม โดยอัตราเงินเฟ้อลดลงมาอยู่ที่ 6.5% และ 10.3% ตามลำดับ

ด้านรัสเซียยังคงเผชิญกับผลกระทบจากการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัทโทรคมนาคม “อีริคสัน” (Telefonaktiebolaget LM Ericsson) จากสวีเดน ได้ประกาศเตรียมทยอยลดขนาดกิจการต่างๆ ของตนในรัสเซียลง หลังจากที่ยุติการขยายกิจการในรัสเซียชั่วคราวตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา พร้อมกับจะให้เงินสนับสนุน-ชดเชยแก่พนักงานกว่า 400 รายในรัสเซีย ขณะที่ “โนเกีย” (Nokia Corporation) จากฟินแลนด์ ได้ประกาศเตรียมการถอนกิจการทั้งหมดออกจากรัสเซียแล้วภายในสิ้นปีนี้ โดยบริษัทจะยังคงดำเนินงานต่างๆ ตามข้อสัญญากับลูกค้าในรัสเซียจนหมดอายุสัญญา ก่อนทำการถอนตัวจากรัสเซียอย่างเป็นทางการ

นอกจากทั้งสองบริษัทแล้ว “เดลล์” (Dell Inc.) จากสหรัฐยังได้ประกาศปิดกิจการทั้งหมดในรัสเซียอย่างเป็นทางการเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ได้ทำการปิดสำนักงานของบริษัทในรัสเซียทั้งหมดลงตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม


6. ด้านผลการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของรัฐมนตรีต่างประเทศของชาติสมาชิกสหภาพยุโรปเมื่อวานนี้ ได้ผลออกมาแล้วว่าสหภาพยุโรปจะทำการยุติข้อตกลงการอำนวยความสะดวกด้านการจัดทำวีซ่า (Visa Facilitation Agreement) ระหว่างสหภาพยุโรปกับรัสเซียในปี 2007 ซึ่งจะมีผลให้สหภาพยุโรปยกเลิกการให้สิทธิพิเศษแก่พลเมืองสัญชาติรัสเซียในการจัดทำวีซ่า และทำให้ขั้นตอนการทำวีซ่าสำหรับชาวรัสเซียนั้นยุ่งยากมากขึ้นและมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น

อย่างไรก็ดี บรรดานักศึกษา นักข่าว และผู้ลี้ภัยทางการเมืองสัญชาติรัสเซียจะยังคงสามารถยื่นเรื่องขอทำวีซ่าในสหภาพยุโรปได้ตามปกติ นอกจากนี้มาตรการใหม่จะยังไม่มีผลต่อใบอนุญาตวีซ่านักท่องเที่ยวจำนวนกว่า 12 ล้านใบที่สหภาพยุโรปได้ออกให้แก่พลเมืองสัญชาติรัสเซียไปก่อนหน้านี้ แต่เจ้าหน้าที่จากสหภาพยุโรปยืนยันว่าพวกเขากำลังมองหาความเป็นไปได้ในการดำเนินมาตรการบางอย่างกับผู้ถือครองวีซ่านักท่องเที่ยว 12 ล้านใบจากรัสเซีย

ด้านชาติสมาชิกจากกลุ่มยุโรปตะวันออก เช่นฟินแลนด์และเอสโตเนีย ที่สนับสนุนมาตรการห้ามออกใบอนุญาตวีซ่านักท่องเที่ยว (Tourist Visa) ให้แก่นักท่องเที่ยวสัญชาติรัสเซียทั้งหมด ได้กล่าวแสดงความพึงพอใจต่อท่าทีล่าสุดของสหภาพยุโรปในครั้งนี้ และมองว่ามาตรการคว่ำบาตรฉบับใหม่นี้เป็นการก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้อง

อ้างอิงข้อมูลจาก “ฟรอนเท็กซ์” (Frontex) หรือสำนักงานความมั่นคงชายแดนและชายฝั่งยุโรป กล่าวว่านับตั้งแต่สงครามรัสเซีย-ยูเครนเริ่มขึ้นในวันที่ 24 ก.พ. จนถึงปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวสัญชาติรัสเซียราว 1 ล้านคนที่เดินทางเข้าสู่สหภาพยุโรป โดยพบนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียจำนวนมากที่สุดในฟินแลนด์ (333,000 คน) เอสโตเนีย (234,000 คน) และลิธัวเนีย (132,000 คน)


7. ทางด้านสถานการณ์ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริสเซีย (Zaporizhzhia Nuclear Power Plant) ซึ่งตกอยู่ใต้การยึดครองของกองทัพรัสเซีย ทางใต้ของยูเครน มีรายงานจากฝั่งยูเครนว่าเจ้าหน้าที่ตรวจการณ์นานาชาติจากทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ IAEA (International Atomic Energy Agency) นำขบวนโดยนายราฟาเอล กรอสซี (Rafael Grossi) ผู้อำนวยการ IAEA คนปัจจุบัน ได้เดินทางผ่านเขตแดนของยูเครน ไปถึงจังหวัดซาโปริสเซีย (Zaporizhzhia Oblast) ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริสเซียแล้ว

อย่างไรก็ตาม หลังจากเดินทางไปถึงเขตจังหวัดซาโปริสเซีย ดูเหมือนจะมีรายงานการเล่นตุกติกจากฝั่งรัสเซียเข้ามาเสียแล้ว เริ่มจากนายวลาดิเมียร์ โรกอฟ (Vladimir Rogov) ชาวยูเครนแปรพักตร์และเจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นโปรรัสเซียที่กองทัพรัสเซียตั้งขึ้นมาในซาโปริสเซีย ได้ประกาศไม่ให้สิทธิพิเศษในการเดินทางข้ามแดนแก่ทีมผู้ตรวจการณ์ ทำให้ทีมผู้ตรวจการณ์ต้องเสียเวลานานในการเข้ารับการตรวจสอบ ณ ด่านผ่านแดน และยังกล่าวเชิงประชดประชันแกมข่มขู่ ว่าทีมผู้ตรวจการณ์จาก IAEA จะได้รับความปลอดภัยและความสะดวกสบายหากเลือกจะเดินทางมาเยือนผ่านดินแดนของฝ่ายโปรรัสเซียตั้งแต่แรก อีกทั้งยังมีรายงานจากฝั่งรัสเซีย อ้างว่าพลร่มของกองทัพยูเครนได้พยายามเข้าตีเมืองเอเนอร์โฮดา (Enerhodar) ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริสเซีย โดยมีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอจากประชาชนในพื้นที่แสดงให้เห็นการระดมยิงปืนใหญ่และจรวดเข้าใส่เมือง และการเคลื่อนไหวของกองทัพรัสเซีย แต่ไม่มีหลักฐานใดๆ ที่บ่งชี้ว่ามีทหารยูเครนทำการบุกเข้ามาในพื้นที่จริงอย่างที่รัสเซียอ้าง ทำให้เป็นที่น่าสงสัยว่ารัสเซียอาจทำการจัดฉากเพื่อใส่ร้ายป้ายสียูเครน



ที่มา:

สปอยส์ ซ่อน ซ่อน:

[pol]

[quote/]

   ผมทราบครับว่าเรากำลังคุยกันเรื่องนั้น ซึ่งท่าน deaddy ก็เลยตอบในโพสต์ก่อนหน้าว่าในตะวันตกก็มีเหตุการณ์ลักษณะนี้กับเครื่องแบบของนาซีเหมือนกัน ผมเลยตอบกลับว่าการเอากิโมโนไปเปรียบเทียบกับเครื่องแบบนาซีมันไม่เหมาะสม ถ้าผู้แต่งคอสเพลย์แต่งชุดเป็นทหารจักรวรรดิญี่ปุ่นจนทำให้ชาวบ้านในจีนไม่พอใจก็ว่าไปอย่าง แต่กิโมโนมันเป็นแค่ชุดทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเฉยๆ ไม่ได้เกี่ยวโยงกับการสังหารหมู่ประชาชนจำนวนมากแบบเดียวกันจักรวรรดิญี่ปุ่นหรือระบอบนาซีแต่อย่างใด (ยกเว้นแค่ว่ากิโมโนมันเป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นใน Pop Culture ทั่วโลกแค่นั้นเอง) ฉะนั้นการเอากิโมโนไปเทียบกับเครื่องแบบของนาซีจึงเป็นการเปรียบเทียบที่ผิดบริบทน่ะครับ



อันนี้สงสัยอย่างนึงครับ ผมจะกดแท็กคนอื่นยังไงหว่า     เมื่อกี้ผมอยากลองแท็กชื่อท่าน deaddy ไว้ด้วยแต่ก็หาวิธีไม่เจอ (ยังไม่ค่อยคล่องกับการใช้งานเว็บเท่าไหร่แฮะ   )

ชุดนาซีมันเหมือนกับชุดของนิกาย KKK นะท่าน ซึ่งถ้ากล้าๆแต่งตัวแบบนี้ออกมาจะถูกด่าหรือถูกตำรวจจับมันก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว   แต่ชุดกิโมโนมันเป็นชุดธรรมดาๆของญี่ปุ่นแต่จีนดันปลุกกระแสคลั่งชาติขึ้นมาไงครับมันเลยไม่เหมือนกัน ผมกับท่าน Sariora เลยพูดกันว่าจีนมันประสาทกลับไปแล้ว
ป.ล  วิธีเรียกยูสเซอร์เนมที่ท่านอยากคุยด้วยก็ @PeanutButter  แล้วจะมีชื่อยูสเซอร์เนมที่คล้ายๆกันโผล่มาเพียบ ท่านก็เลือกยูสเซอร์เนมที่ท่านอยากติดต่อด้วยก็จบครับ

[sariora123]

แบบใส่เสื้อลายธงจักรวัติญี่ปุ่นไง
จไมได้ว่าเรื่องไหน ดันใส่เข้าประกอบฉาก
ต้องมาทำCG. ลบออก


หรือว่ามันธง ราชนาวีญี่ปุ่น  เคยมีประเด็นถก ด่าดันมาแล้วที่ญี่ปุ่นเปิดตัวเรือดำน้ำ โดยคลุมด้วยธงราชนาวีญี่ปุ่น

ทำเอาจีน เกาหลี ร้องแรกแหกกระเฌอ กันยกใหญ่
ผมยังด่างแม่งเลยไอ้พวกไม่มีการศึกษา
นั่นมันธงราชนาวีญี่ปุ่น พวกแอดช่องสายทหารหลายคนยังต้องขยี้ตาก่อน เพราะ ธงจักรวรรดิ กับราชนาวีญี่ปุ่น ต่างกันนิดเดียว
แต่บางช่องแม่งกลับไม่รู้



ผมเคยบ่นไปล่ะว่า ประเทศไหนเริ่มเอาศีลธรรมความดีมาอวด


มันเริ่มมีเรื่องเหี้รยๆ เกิดขึ้นล่ะ

[KAGUYA]

อัพเดตข่าวยูเครน วันที่ 190 ของสงคราม Part 3

5. มาดูข่าวด้านเศรษฐกิจกันบ้าง อ้างอิงจากรายงานล่าสุดของสำนักงานสถิติยุโรปหรือยูโรแสตท (Eurostat) ขณะนี้อัตราเงินเฟ้อสำหรับประเทศในพื้นที่ยูโร (Euro Area) หรือยูโรโซน (Eurozone) ได้พุ่งขึ้นสูงถึง 9.1% สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ประมาณ 9% และสูงที่สุดนับตั้งแต่อัตราเงินเฟ้อในกลุ่มยูโรโซนเริ่มพุ่งสูงขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว

หากแบ่งแยกย่อยออกเป็นภาคส่วนต่างๆ จะพบว่าภาคพลังงานมีอัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดที่ 38.3% ซึ่งถือว่าลดน้อยลงแล้วจากอัตราเงินเฟ้อ 39.8% ในเดือนกรกฎาคม ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาสูบมีอัตราเงินเฟ้อที่ 10.6% สูงขึ้นจากเดือนกรกฎาคมที่มีอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 9.8% โดยมีสาเหตุหลักมาจากภัยแล้งที่ร้ายแรงที่สุดในรอบ 500 ปีในทวีปยุโรป ซึ่งส่งผลให้การเก็บเกี่ยวพืชผลการเกษตรทำยอดได้ต่ำกว่าเป้า ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมของใช้ครัวเรือนมีอัตราเงินเฟ้อที่ 5% เพิ่มขึ้น 0.5% จากเดือนกรกฎาคม และภาคการบริการมีอัตราเงินเฟ้อที่ 3.8% เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม

หากแยกย่อยลงไปในระดับประเทศ เยอรมนีจะมีอัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดด้วยอัตราเงินเฟ้อ 8.8% ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 50 ปี ขณะที่ฝรั่งเศสและสเปนมีอัตราเงินเฟ้อลดลงจากเดือนกรกฎาคม โดยอัตราเงินเฟ้อลดลงมาอยู่ที่ 6.5% และ 10.3% ตามลำดับ

ด้านรัสเซียยังคงเผชิญกับผลกระทบจากการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัทโทรคมนาคม “อีริคสัน” (Telefonaktiebolaget LM Ericsson) จากสวีเดน ได้ประกาศเตรียมทยอยลดขนาดกิจการต่างๆ ของตนในรัสเซียลง หลังจากที่ยุติการขยายกิจการในรัสเซียชั่วคราวตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา พร้อมกับจะให้เงินสนับสนุน-ชดเชยแก่พนักงานกว่า 400 รายในรัสเซีย ขณะที่ “โนเกีย” (Nokia Corporation) จากฟินแลนด์ ได้ประกาศเตรียมการถอนกิจการทั้งหมดออกจากรัสเซียแล้วภายในสิ้นปีนี้ โดยบริษัทจะยังคงดำเนินงานต่างๆ ตามข้อสัญญากับลูกค้าในรัสเซียจนหมดอายุสัญญา ก่อนทำการถอนตัวจากรัสเซียอย่างเป็นทางการ

นอกจากทั้งสองบริษัทแล้ว “เดลล์” (Dell Inc.) จากสหรัฐยังได้ประกาศปิดกิจการทั้งหมดในรัสเซียอย่างเป็นทางการเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ได้ทำการปิดสำนักงานของบริษัทในรัสเซียทั้งหมดลงตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม


6. ด้านผลการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของรัฐมนตรีต่างประเทศของชาติสมาชิกสหภาพยุโรปเมื่อวานนี้ ได้ผลออกมาแล้วว่าสหภาพยุโรปจะทำการยุติข้อตกลงการอำนวยความสะดวกด้านการจัดทำวีซ่า (Visa Facilitation Agreement) ระหว่างสหภาพยุโรปกับรัสเซียในปี 2007 ซึ่งจะมีผลให้สหภาพยุโรปยกเลิกการให้สิทธิพิเศษแก่พลเมืองสัญชาติรัสเซียในการจัดทำวีซ่า และทำให้ขั้นตอนการทำวีซ่าสำหรับชาวรัสเซียนั้นยุ่งยากมากขึ้นและมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น

อย่างไรก็ดี บรรดานักศึกษา นักข่าว และผู้ลี้ภัยทางการเมืองสัญชาติรัสเซียจะยังคงสามารถยื่นเรื่องขอทำวีซ่าในสหภาพยุโรปได้ตามปกติ นอกจากนี้มาตรการใหม่จะยังไม่มีผลต่อใบอนุญาตวีซ่านักท่องเที่ยวจำนวนกว่า 12 ล้านใบที่สหภาพยุโรปได้ออกให้แก่พลเมืองสัญชาติรัสเซียไปก่อนหน้านี้ แต่เจ้าหน้าที่จากสหภาพยุโรปยืนยันว่าพวกเขากำลังมองหาความเป็นไปได้ในการดำเนินมาตรการบางอย่างกับผู้ถือครองวีซ่านักท่องเที่ยว 12 ล้านใบจากรัสเซีย

ด้านชาติสมาชิกจากกลุ่มยุโรปตะวันออก เช่นฟินแลนด์และเอสโตเนีย ที่สนับสนุนมาตรการห้ามออกใบอนุญาตวีซ่านักท่องเที่ยว (Tourist Visa) ให้แก่นักท่องเที่ยวสัญชาติรัสเซียทั้งหมด ได้กล่าวแสดงความพึงพอใจต่อท่าทีล่าสุดของสหภาพยุโรปในครั้งนี้ และมองว่ามาตรการคว่ำบาตรฉบับใหม่นี้เป็นการก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้อง

อ้างอิงข้อมูลจาก “ฟรอนเท็กซ์” (Frontex) หรือสำนักงานความมั่นคงชายแดนและชายฝั่งยุโรป กล่าวว่านับตั้งแต่สงครามรัสเซีย-ยูเครนเริ่มขึ้นในวันที่ 24 ก.พ. จนถึงปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวสัญชาติรัสเซียราว 1 ล้านคนที่เดินทางเข้าสู่สหภาพยุโรป โดยพบนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียจำนวนมากที่สุดในฟินแลนด์ (333,000 คน) เอสโตเนีย (234,000 คน) และลิธัวเนีย (132,000 คน)


7. ทางด้านสถานการณ์ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริสเซีย (Zaporizhzhia Nuclear Power Plant) ซึ่งตกอยู่ใต้การยึดครองของกองทัพรัสเซีย ทางใต้ของยูเครน มีรายงานจากฝั่งยูเครนว่าเจ้าหน้าที่ตรวจการณ์นานาชาติจากทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ IAEA (International Atomic Energy Agency) นำขบวนโดยนายราฟาเอล กรอสซี (Rafael Grossi) ผู้อำนวยการ IAEA คนปัจจุบัน ได้เดินทางผ่านเขตแดนของยูเครน ไปถึงจังหวัดซาโปริสเซีย (Zaporizhzhia Oblast) ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริสเซียแล้ว

อย่างไรก็ตาม หลังจากเดินทางไปถึงเขตจังหวัดซาโปริสเซีย ดูเหมือนจะมีรายงานการเล่นตุกติกจากฝั่งรัสเซียเข้ามาเสียแล้ว เริ่มจากนายวลาดิเมียร์ โรกอฟ (Vladimir Rogov) ชาวยูเครนแปรพักตร์และเจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นโปรรัสเซียที่กองทัพรัสเซียตั้งขึ้นมาในซาโปริสเซีย ได้ประกาศไม่ให้สิทธิพิเศษในการเดินทางข้ามแดนแก่ทีมผู้ตรวจการณ์ ทำให้ทีมผู้ตรวจการณ์ต้องเสียเวลานานในการเข้ารับการตรวจสอบ ณ ด่านผ่านแดน และยังกล่าวเชิงประชดประชันแกมข่มขู่ ว่าทีมผู้ตรวจการณ์จาก IAEA จะได้รับความปลอดภัยและความสะดวกสบายหากเลือกจะเดินทางมาเยือนผ่านดินแดนของฝ่ายโปรรัสเซียตั้งแต่แรก อีกทั้งยังมีรายงานจากฝั่งรัสเซีย อ้างว่าพลร่มของกองทัพยูเครนได้พยายามเข้าตีเมืองเอเนอร์โฮดา (Enerhodar) ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริสเซีย โดยมีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอจากประชาชนในพื้นที่แสดงให้เห็นการระดมยิงปืนใหญ่และจรวดเข้าใส่เมือง และการเคลื่อนไหวของกองทัพรัสเซีย แต่ไม่มีหลักฐานใดๆ ที่บ่งชี้ว่ามีทหารยูเครนทำการบุกเข้ามาในพื้นที่จริงอย่างที่รัสเซียอ้าง ทำให้เป็นที่น่าสงสัยว่ารัสเซียอาจทำการจัดฉากเพื่อใส่ร้ายป้ายสียูเครน



ที่มา:
[spoiler/]

แบบนี้พวกผู้ตรวจการณ์คงตรวจไม่เจออะไรนอกจากของที่รัสเซียอยากให้เจอแหงๆ

[sariora123]

ผมสงสัยอยู่อย่างนึง ว่า ไทยนี่น่ะจริงๆ แล้วมันลูกน้องอเมริกา ชัดๆ

คือสังเกตอยูหลายรอบล่ะว่า

นโยบาย อะไรหลายๆ อย่าง พออเมริกาทำ แล้วอีกสักหน่อย หรือพักใหญ่ๆ
ไทยจะทำตาม

ดูข่าวเรื่องไบเดน ยกหนี้กยศ.ให้คนอเมริกา
ไม่นาน บ้สเราจะเรียนแบบบ้าง แต่ไม่เหมือนกันซะทีเดียว
(ของอเมริกานี่ ผมยังสงสัยนะ คทอหนี้กยศ. ใันไม่ใช่น้อยๆ คือใช้กันหัวฟู)

แต่กับบางรัฐก็มีส่งเสริมให้ทุนกันเยอะมากจนแทบไม่ได้ใช้เงินตัวเองเลยก็มี

ไปดูติ่งรัสเซียเถียงกับติ่งอเมริกาน เรื่องจรวดอเมริกาเลื่อนส่ง

เพราะไม่ได้เครื่องยนต์รัสเซียมาทำ อยากจะหัวเราะเป็นภาษาชาวนาเม็กคือ

ไอ้ที่ตั้งโด่เป็นปลัดขิกรอส่งขึ้นมันคืออะไรฟระ
จรวด ไม่ใช่ประทัดแม่งจะส่ง าแล้วประกอบใช้ได้เลยใน2-3วัน
สร้าง ประกอบ ทดสอบความปรอดภัย ใช้เวลากันเป็นปี

ที่อดีต อเมริกาใช้เครื่องยนต์รัสเซีย เพราะมันถูกกว่าสร้างเอง
ทำเองก็ได้แต่ต้นทุนมันแพง กว่าไปซื้อ


และการเลื่อนปล่อยจรวดนี่ ปกตินี่นา เพราะการปล่อยต้องการ สภาพต่างๆ ที่สมบูรณ์สุด
แรงลม อุณภูมิ ความชื้น บราๆ  สภาะ อกาศผิดจากที่คำนวนไว้
ส่งไปอาจเกิดปัญหากับจรวดได้โชคไม่ดี อาจบึ้ม หรือ ไม่ติดวงโคจร
คือจะถามว่าแล้วทำไมไม่สร้างจรวดที่มันยิงได้ในเกือบทุกสภาพ

ต้นทุนมันแพงไง

[pol]

อเมริกานี่มาตรฐานมันสูงครับ จรวดถ้าสเป็คต้องเร็ว 10 มัค แต่ดันทำได้แค่ 9 มันก็บอกว่าล้มเหลว แต่จีนและรัสเซียบอกว่าประสบความสำเร็จ  ไอ้จรวดไฮเปอร์ฯ เนี่ยอเมริกามันมีโครงการมาตั้งนานแล้วแต่มันไม่ทำเพราะมันไม่คุ้ม ตูกระหน่ำจรวดความเร็วต่ำกว่าเสียงเป็นสิบๆลูกดีกว่ามีเงินน้อยแล้วยิงจรวดไฮเปอร์ฯได้แค่ 2-3 ลูก

[PeanutButter]

อัพเดตข่าวสงครามยูเครน วันที่ 191 ของสงคราม

1. อัพเดตข่าวล่าสุดจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริสเซีย (Zaporizhzhia Nuclear Power Plant) จังหวัดซาโปริสเซีย (Zaporizhzhia Oblast) ทางใต้ของยูเครน ทีมงานผู้ตรวจการณ์จากทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ IAEA (International Atomic Energy Agency) จำนวน 14 ราย ได้เดินทางไปถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริสเซียแล้ว และได้ทำการตรวจสอบสภาพความปลอดภัยเบื้องต้นของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แล้วเช่นกัน อย่างไรก็ดี ในตอนนี้ทาง IAEA ยังไม่ได้ทำการเปิดเผยข้อมูลสภาพความปลอดภัยภายในของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริสเซียออกมาแต่อย่างใด แต่ได้มีการเปิดเผยเบื้องต้นว่า "สภาพของมัน(โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริสเซีย)นั้นชัดเจนว่าได้ถูกโจมตีหลายต่อหลายครั้ง นี่เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถปล่อยให้ดำเนินต่อไปได้”

ทั้งนี้ นายราฟาเอล กรอสซี (Rafael Grossi) ผู้อำนวยการ IAEA ได้กล่าวหลังเสร็จสิ้นภารกิจการตรวจสอบว่าทาง IAEA จะทำการประจำเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจการณ์บางส่วนไว้ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริสเซียด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริสเซียจะปลอดภัยจากการสู้รบ และเพื่อเป็นแหล่งข่าวเป็นกลางที่สามารถรายงานสถานการณ์และข้อมูลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้อย่างถูกต้อง โดยไม่ผ่านจากสื่อของฝ่ายยูเครนและรัสเซีย ซึ่งต่างกล่าวหากันไปหาตั้งแต่เดือนที่แล้วเรื่องการยิงปืนใหญ่ใส่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริสเซีย

ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันกับการเยือนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริสเซียของทีมผู้ตรวจการณ์จาก IAEA ทางกองทัพรัสเซียได้อ้างว่ายูเครนได้ทำการส่งหน่วยรบพิเศษจำนวน 60 นาย เข้าลอบโจมตีทางนํ้าด้วยเรือเล็ก 7 ลำ และเรือโป๊ะ 2 ลำ ในเมืองเอเนอร์โฮดาร์ (Enerhodar) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริสเซีย ซึ่งทางรัสเซียอ้างว่าหน่วยรบดังกล่าวได้ถูกทำลายสิ้นแล้วโดยทหารรัสเซียในพื้นที่ และอ้างว่ายูเครนมีเป้าหมายเพื่อหวังสร้างสถานการณ์ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เพื่อใส่ร้ายรัสเซีย อย่างไรก็ดี ทางกองทัพรัสเซียกลับไม่มีหลักฐานยืนยันใดๆ ถึงการมีตัวตนอยู่ของหน่วยรบพิเศษยูเครนเหล่านี้ (อาวุธ เสื้อผ้า ซากศพ ฯลฯ) ทำให้คำกล่าวอ้างของฝั่งรัสเซียนั้นขาดนํ้าหนักที่มากพอ และเชื่อได้ว่าเป็นฝ่ายรัสเซียมากกว่าที่เป็นผู้จัดฉากสร้างสถานการณ์เพื่อใส่ร้ายยูเครน


2. ความช่วยเหลือทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนของชาติตะวันตกยังคงส่งมาให้ยูเครนไม่ขาดสาย ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้ประกาศเตรียมการส่งมอบโดรนล่าทุ่นระเบิดใต้นํ้าจำนวน 6 ลำให้แก่กองทัพเรือยูเครน โดยโดรนจำนวน 3 ลำจะมาจากโดรนเก็บกู้ทุ่นระเบิดใต้นํ้าที่ใช้งานโดยราชนาวีของสหราชอาณาจักร และอีก 3 ลำมาจากการจัดซื้อจากบริษัทผู้ผลิต คาดว่าโดรนชุดแรกสุดจะสามารถทำการส่งมอบให้แก่กองทัพเรือยูเครนได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หลังจากที่ทหารยูเครนเสร็จสิ้นการฝึกใช้งานโดรนดังกล่าวร่วมกับกองทัพเรือสหรัฐและราชนาวีสหราชอาณาจักรแล้ว

ทางฝั่งเอกชน มูลนิธิเลโก้ (LEGO Foundation) จากเดนมาร์คได้ประกาศบริจาคเงินช่วยเหลือจำนวน 100 ล้านโครน (13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ / 490 ล้านบาท) เพื่อสนับสนุนด้านการบูรณะโรงเรียนในยูเครน รวมถึงเป็นเงินสนับสนุนด้านการศึกษาให้แก่นักเรียนชาวยูเครนด้วย


3. กลับมาอีกครั้งสำหรับข่าวการเสียชีวิตปริศนาของมหาเศรษฐีรัสเซีย ล่าสุดมีรายงานว่านายราวิล มากานอฟ (Ravil Maganov) ประธานคณะกรรมการบริหารและหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท “ลุกออยล์” (PJSC Lukoil Oil Company) บริษัทมหาชนด้านกิจการนํ้ามันและก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย ได้เสียชีวิตเมื่อวานนี้หลังจากประสบเหตุตกจากอาคารโรงพยาบาลสูง 6 ชั้น

อ้างอิงจากรายงานข่าวในรัสเซีย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในโรงพยาบาลกลางมอสโก (Moscow Central Clinical Hospital) ที่ซึ่งนายมากานอฟเดินทางไปรักษาอาการโรคหัวใจอยู่บ่อยครั้ง โดยบางกระแสข่าวกล่าวว่านายมากานอฟทำการฆ่าตัวตาย ขณะที่บางกระแสข่าวกล่าวว่าเขาประสบอุบัติเหตุตกลงมาจากตึกสูง 6 ชั้นหลังจากทำการยืนสูบบุหรี่อยู่ข้างหน้าต่าง และเกิดพลัดตกลงมา อย่างไรก็ดี ที่ทราบแน่ชัดคือกล้องวงจรปิดในจุดที่นายมากานอฟตกลงมานั้นไม่สามารถจับภาพเหตุการณ์ในช่วงเกิดเหตุได้ เนื่องจากกำลังทำการซ่อมแซมอยู่

ทั้งนี้ บริษัท “ลุกออยล์” เป็นหนึ่งในกิจการยักษ์ใหญ่ไม่กี่เจ้าในรัสเซียที่ออกมาแสดงท่าทีคัดค้านต่อการทำสงครามในยูเครน โดยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทางบริษัทได้ทำการส่งจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐบาลของ ปธน.ปูติน เรียกร้องให้หาทงออกอย่างสันติแต่โดยเร็ว



ที่มา:

สปอยส์ ซ่อน ซ่อน:

[sariora123]

อเมริกานี่มาตรฐานมันสูงครับ จรวดถ้าสเป็คต้องเร็ว 10 มัค แต่ดันทำได้แค่ 9 มันก็บอกว่าล้มเหลว แต่จีนและรัสเซียบอกว่าประสบความสำเร็จ  ไอ้จรวดไฮเปอร์ฯ เนี่ยอเมริกามันมีโครงการมาตั้งนานแล้วแต่มันไม่ทำเพราะมันไม่คุ้ม ตูกระหน่ำจรวดความเร็วต่ำกว่าเสียงเป็นสิบๆลูกดีกว่ามีเงินน้อยแล้วยิงจรวดไฮเปอร์ฯได้แค่ 2-3 ลูก

ผมถึงได้ชอบความบ้าของประเทศนี้ไง
มันมีความบ้าบอที่ไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม
แต่แม่งก็ทำกัน ล่าสุดไปหาแกะสูตรปุ๋ย
พวกยร้ห้อดีๆ มา คือ สคบ. บ้านเขาดีจริง
ชอบให้ระบุส่วนประกอบมาด้วย
ทำให้ พอที่จะหาสารทดแทนได้ แต่สารประกอย
บางตัวหาไม่ได้ น่าจะสั้งผลิตพิเศษ

[pol]

สมัยก่อนผมเคยดูช่องยูทูปช่องหนึ่งเขาบอกว่าแต่ละประเทศจะมีชาติๆหนึ่งเอาไว้ใช้เป็นมันสมอง อเมริกาใช้ยิว  อังกฤษใช้สก็อต   รัสเซียใช้เช็กฯ  อันนี้ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่านะเอามาคุยกันสนุกๆเท่านั้นเอง

[samuison]

ผมเชือ่เรื่องเผ่าพีันธู์นะ แต่อาจจะผสมกับวัฒนธรรมด้วย
เช่น

สังเกตนักตีปิงปองโอลิมปิค
ไม่ว่าชาติไหนจะหัวดำหมด
อาจจะต้องขอบคุณท่านเหมา่ที่สร้างวัฒนธรรมการตีปิงปองวไ้ให้กับชาวเอเชียหัวดำ
แต่ก็มีคนทำแนวว่า ที่พวกเรามีลีกส์เล่นเกมส์ต่างๆนั้น
เพราะเอเชียมี hand eye coordinate การเคลื่อนไหวมือและตาได้ดี
แบบเดียวกับที่ชาวผิวดำ ไปอยู่ในทีมบาสเก็ตบอลเสียเยอะ แต่ไม่ค่อยได้อยู่ว่ายน้ำ เพระาไขมันไม่เมหาะกับว่ายน้ำ แต่ร่างกายเมหาะกับการสปริงของบาสเก็ตบอลฯลฯ
อาจจะเป็นเรือ่งเรซิสม์แต่ผมว่าน่าสนใจดีมากๆ

[Black7nos]

กล้องไม่สามารถจับภาพการตกตึกของนายราวิล มาการอฟ ประธานกรรมการบริหารบริษัทลุกออยล์
แปลกๆนะ ทำไมมันเหมือนประเทศแถวๆนี้เลยที่เกิดเรื่องทีไร กล้องเสียทุกที โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่
 

[PeanutButter]

อัพเดตข่าวสงครามยูเครน วันที่ 192 ของสงคราม Part 1

1. ความช่วยเหลือจากชาติตะวันตกยังคงส่งมาให้ยูเครนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีรายงานว่าภายในสัปดาห์หน้า ทางสหภาพยุโรปจะทำการประกาศเงินช่วยเหลือทางเศรษฐกิจแก่ยูเครนชุดใหม่ มูลค่ากว่า 5,000 ล้านยูโร (180,000 ล้านบาท)

สำนักข่าว “ยูราแอ็กทีฟ” (EURACTIV) รายงานว่าภายในการประชุมอย่างไม่เป็นทางการระหว่างรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจของชาติสมาชิกสหภาพยุโรปช่วงสุดสัปดาห์หน้า จะมีการลงนามร่วมกันอย่างเป็นทางการระหว่างชาติสมาชิกสหภาพยุโรป เพื่อประกาศมอบเงินทุนสนับสนุนมูลค่า 5,000 ล้านยูโร (180,000 ล้านบาท) ให้แก่รัฐบาลยูเครน โดยเงินดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “ความช่วยเหลือด้านการเงินมหภาค” (Macro-Financial Assistance) โครงการสำหรับมอบเงินกู้ให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านของสหภาพยุโรป อันเป็นโครงการเก่าแก่ที่ดำเนินมาหลายสิบปี หลังจากนั้นโครงการจะถูกรับรองอย่างเป็นทางการโดยสภากิจการทั่วไป (General Affairs Council) ภายในวันที่ 20 ก.ย.

สำหรับเงินกู้มูลค่ากว่า 5,000 ล้านยูโร (180,000 ล้านบาท) ชุดนี้ เดิมทีเป็นส่วนหนึ่งของเงินกู้มูลค่า 9,000 ล้านยูโร (328,000 ล้านบาท) ที่คณะกรรมาธิการยุโรปนำเสนอในเดือนพฤษภาคม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเงินงบประมาณในโครงการ “รีบิลด์ยูเครน” (RebuildUkraine) แต่เนื่องจากแผนดังกล่าวถูกคัดค้านโดยเยอรมนีซึ่งต้องการมอบความช่วยเหลือในรูปเงินให้เปล่าแก่ยูเครนแทนการให้เงินกู้ และการขาดแคลนงบประมาณของสหภาพยุโรป ทำให้สหภาพยุโรปเปลี่ยนแผนเป็นการมอบเงินกู้จำนวน 1,000 ล้านยูโร (36,000 ล้านบาท อิงจากอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตรา ณ ช่วงเวลานั้น) ให้แก่ยูเครนแทนในวันที่ 12 ก.ค.

ทั้งนี้ จากแหล่งข่าวนิรนามผู้ให้ข้อมูลแก่ “ยูราแอ็กทีฟ” ได้กล่าวว่ารัฐบาลฮังการีเป็นเพียงชาติเดียวที่แสดงท่าทีคัดค้านต่อแผนมอบเงินกู้มูลค่า 5,000 ล้านยูโร (180,000 ล้านบาท) ชุดนี้ให้แก่ยูเครน เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนเงินงบประมาณกลางของสหภาพยุโรป ทำให้ชาติสมาชิกตกลงกันในการออกเงินงบประมาณบางส่วนของตนให้แก่สหภาพยุโรป ซึ่งฮังการีได้แสดงท่าทีคัดค้านแผนการดังกล่าว

นอกจากสหภาพยุโรป สหรัฐยังเป็นอีกชาติหนึ่งที่กำลังเตรียมการจะมอบเงินช่วยเหลือยูเครนชุดใหญ่ตามมาอีกในอนาคต โดยมีรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของ ปธน.โจ ไบเดน ได้ยื่นร่างงบประมาณฉุกเฉินมูลค่ากว่า 47,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1,700,000 ล้านบาท) ให้สภาคองเกรสพิจารณา ซึ่งร่างงบประมาณฉุกเฉินดังกล่าว ประกอบไปด้วย

1.1 งบประมาณสำหรับยูเครน จำนวน 13,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (500,000 ล้านบาท)
1.2 งบประมาณสำหรับวัคซีนโรคโควิด-19 (Covid-19) จำนวน 7,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (260,000 ล้านบาท)
1.3 งบประมาณสำหรับชุดทดสอบโรคโควิด-19 จำนวน 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (73,000 ล้านบาท)
1.4 งบประมาณสำหรับบรรเทาปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ จำนวน 6,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (238,000 ล้านบาท)
1.5 งบประมาณสำหรับโรคฝีดาษลิง จำนวน 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (165,000 ล้านบาท)
1.6 งบประมาณอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ ในส่วนของเงินงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับยูเครนนั้น น.ส.ชาแลนด้า ยัง (Shalanda Young) ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณและการจัดการของทำเนียบขาว ได้กล่าวว่าทางรัฐบาลสหรัฐได้ใช้เงินงบประมาณสำหรับสนับสนุนยูเครนจำนวน 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1,370,000 ล้านบาท อิงจากอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตรา ณ ช่วงเวลานั้น) ที่สภาคองเกรสได้อนุมัติให้รัฐบาลสหรัฐตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค. ไปแล้วกว่า 3/4 (30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ / 1,100,000 ล้านบาท)

นอกจากความช่วยเหลือจากสหรัฐและสหภาพยุโรป ฟินแลนด์ยังได้ประกาศความช่วยเหลือทางทหารชุดที่ 8 ให้แก่ยูเครนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา มูลค่ากว่า 8,300,000 ยูโร (300 ล้านบาท) ทำให้จนถึงปัจจุบัน มูลค่าความช่วยเหลือทางการทหารของฟินแลนด์ที่มอบให้กับยูเครนนั้นมีมูลค่ารวมแล้วกว่า 92,300,000 ยูโร (3,370 ล้านบาท) อย่างไรก็ดี เนื่องจากฟินแลนด์นั้นถือนโยบายปกปิดข้อมูลความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนเป็นความลับ ทำให้เราไม่สามารถทราบได้ว่าความช่วยเหลือจากฟินแลนด์นั้นจะประกอบไปด้วยอะไรบ้าง



ที่มา:

สปอยส์ ซ่อน ซ่อน:

[PeanutButter]

อัพเดตข่าวสงครามยูเครน วันที่ 192 ของสงคราม Part 2

2. นอกจากการสนับสนุนยูเครน ชาติตะวันตกยังคงหาทางยกระดับการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดรัฐมนตรีการคลังจากชาติสมาชิกกลุ่ม G7 ซึ่งประกอบไปด้วยสหรัฐ สหราชอาณาจักร แคนาดา ญี่ปุ่น เยอรมนี อิตาลี และฝรั่งเศส ได้ร่วมกันประกาศตั้งเพดานราคาน้ำมันนำเข้าจากรัสเซีย เพื่อบรรเทาปัญหาราคาน้ำมันทั่วโลกที่พุ่งตัวสูงขึ้น และเพื่อลดปริมาณรายได้จากการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย

สำหรับรูปแบบการทำงานของเพดานราคาน้ำมันนำเข้าจากรัสเซียนั้น กล่าวคือชาติสมาชิก G7 จะทำการประกาศตั้งเพดานราคาน้ำมันดิบและน้ำมันกลั่นที่นำเข้าจากรัสเซีย จากนั้นจึงบังคับใช้ให้บริษัทและองค์กรต่างๆ ที่ทำธุรกิจซึ่งเกี่ยวข้องกับการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย เช่นบริษัทประกันเรือสินค้า บริษัทเรือบรรทุกน้ำมัน หรือท่าเรือสินค้า จะต้องชำระค่าธุรกรรมน้ำมันจากรัสเซียไม่เกินปริมาณที่รัฐบาล G7 กำหนดไว้ ไม่ว่าทางฝั่งรัสเซียจะเรียกร้องค่าธุรกรรมเท่าใดก็ตาม

แน่นอนว่าในทางทฤษฎี รัสเซียสามารถใช้บริการของบริษัทเอกชนอื่นๆ ในประเทศของตน หรือจีนและอินเดีย เพื่อมาแทนที่บริษัทประกันเรือสินค้าหรือบริษัทเรือบรรทุกน้ำมันจากตะวันตกได้ แต่ในทางปฏิบัติจริงนั้นทำได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากชาติตะวันตก ผ่านสมาคมคุ้มครองและประกันภัยนานาชาติ (International Group of P&I Clubs) สมาคมของผู้ประกอบธุรกิจการประกันภัยทางทะเลและขนส่งกว่า 90% ของโลก ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร สหรัฐ และประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปเช่นลักเซมเบิร์กและสวีเดน และเมื่อนับรวมกับสมาคมคุ้มครองและประกันภัยทางทะเลอื่นๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักร สหรัฐ และชาติในสหภาพยุโรปอื่นๆ จะเท่ากับว่ามีบริษัทผู้ประกอบกิจการประกันภัยทางทะเลและการขนส่งทางทะเลกว่า 95% ที่จะต้องปฏิบัติตามมาตรการเพดานราคาน้ำมันชุดนี้

ทั้งนี้ ยังไม่มีการกำหนดเพดานราคาน้ำมันดิบและน้ำมันกลั่นจากรัสเซียอย่างเป็นรูปธรรม แต่นางเจเน็ต เยลเลน (Janet Yellen) รมว.การคลังสหรัฐ เชื่อมั่นว่าจะมีการหารืออย่างเป็นทางการเพื่อวางมาตรการและกำหนดเพดานราคาน้ำมันจากรัสเซียภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

คาดการณ์ว่าเพดานราคาน้ำมันดิบจากรัสเซียจะถูกนำมาใช้อย่างเป็นทางการภายในปลายปีนี้ ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงเวลาที่มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันดิบจากรัสเซียของสหภาพยุโรปจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ นั่นคือภายในวันที่ 9 ธ.ค. หรือบ้างก็คาดว่ามาตรการเพดานราคาน้ำมันดิบอาจถูกบังคับใช้ภายในต้นปีหน้า ใกล้เคียงกับช่วงเวลาที่มาตรการคว่ำบาตรผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นจากรัสเซียของสหภาพยุโรปจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 5 ก.พ.

ที่น่าสนใจอีกประการคือ ในมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นจากรัสเซียของสหภาพยุโรปนั้น ยังรวมถึงการร่วมมือกับสหราชอาณาจักรในการประกาศห้ามไม่ให้ผู้ประกอบธุรกิจการประกันภัยทางทะเลและขนส่งภายในสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร ทำการออกใบประกันให้กับเรือบรรทุกน้ำมันที่ทำการขนส่งน้ำมันจากรัสเซียด้วย

แน่นอนว่าเมื่อรู้ข่าว ทางฝั่งรัสเซีย นำโดยนายอเล็กซานเดอร์ โนวัก (Alexander Novak) รองนายกรัฐมนตรี และนายดมีตรี เปสคอฟ (Dmitry Peskov) โฆษกประจำสำนักประธานาธิบดีรัสเซีย จึงได้แถลงการณ์ตอบโต้โดยทันควัน โดยนายโนวักกล่าวว่าหากประเทศใดบังคับใช้มาตรการเพดานราคาน้ำมันนำเข้าจากรัสเซีย รัสเซียจะยุติการส่งออกน้ำมันให้แก่ประเทศดังกล่าวในทันที ขณะที่นายเปสคอฟกล่าวว่าหากบริษัทใดที่ปฏิบัติตามมาตรการเพดานราคาน้ำมันของชาติตะวันตก รัสเซียจะยุติการทำธุรกรรมกับบริษัทดังกล่าวด้วย



ที่มา:

สปอยส์ ซ่อน ซ่อน: