เว็บติดตามสถานการณ์ในยูเครนแบบ Live Map

[samuison]

อะแฮ่ม ทางเลือกที่สาม third position คือนาซีไงครับ?


National socialism


หรือหลายๆคนจะลืมไปแล้ว?


ว่าโลกปัจจุบันเกิดขึ้นได้เพราะคอมมี่กับทุนนิยมร่วมมือกันกำจัดนาซี?

[sariora123]

เป็นความเจ็บแค้นของ  ฝัางทุนนิยิม ที่ดันไปยอมให้คอมมี่ลืมตาอ้าปากได้


ผมยังจำได้ดี เรื่องที่รุ่นก่อนๆ เล่าไว้ว่า


แม็คอาเธอร์ คิดจะฆ่าล้างบางคอมมี่แบบให้หมดจากคาบสมุ เกาหลี ถึงขั้นของ
นุค มาเลยนะแต่ เรื่องไม่ผ่าน แถมโดนปลด อีกต่างหาก เพราะฝั่งการเมืองห่วงหน้าตา  มากกว่า


แมคอาเธอร์ยังด่าทิ้งท้าย  มี อัดวิดิโอไว้เปิดหลังแกตาย
ว่าไม่ฆ่าคอมมี่ให้หมด ละก็ จักลายเป็นศัตรูสำคัญของอเมริกาในอนาคต
รุ่นก่อนๆ นี่ผมบอกได้เลยว่า เขาปลูกฝังให้เกลียดคอมมี่ ยิ่งกว่าสมัยนี้เยอะ


เจอหน้านี่ปานจะฆ่ากันตายได้เลย  
โดยเฉพาะ พวกที่หนี ลี้ภัยมาจาก ประเทศคอมมี่
อย่างที่เรารู้กัน พวกนี้ เกลียดคอมมิวนิสต์ยิ่งกว่าคนจากโลกเสรีทุนซะอีก
 
ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด พวกกลุ่มชาตินิยมจัดๆ หรือ ต่อต้านคอมมี่แบบหัวรุนแรง นี่
สมาชิก คนระดับสูงภายใน
อดีต คนคิวบาร์ โซเวียด หรือจีนลี้ภัยมาเพียบ
แค้นฝังหุ่นยิ่งกว่าชักกี้

[deaddy]

เป็นความเจ็บแค้นของ  ฝัางทุนนิยิม ที่ดันไปยอมให้คอมมี่ลืมตาอ้าปากได้


ผมยังจำได้ดี เรื่องที่รุ่นก่อนๆ เล่าไว้ว่า


แม็คอาเธอร์ คิดจะฆ่าล้างบางคอมมี่แบบให้หมดจากคาบสมุ เกาหลี ถึงขั้นของ
นุค มาเลยนะแต่ เรื่องไม่ผ่าน แถมโดนปลด อีกต่างหาก เพราะฝั่งการเมืองห่วงหน้าตา  มากกว่า


แมคอาเธอร์ยังด่าทิ้งท้าย  มี อัดวิดิโอไว้เปิดหลังแกตาย
ว่าไม่ฆ่าคอมมี่ให้หมด ละก็ จักลายเป็นศัตรูสำคัญของอเมริกาในอนาคต
รุ่นก่อนๆ นี่ผมบอกได้เลยว่า เขาปลูกฝังให้เกลียดคอมมี่ ยิ่งกว่าสมัยนี้เยอะ


เจอหน้านี่ปานจะฆ่ากันตายได้เลย  
โดยเฉพาะ พวกที่หนี ลี้ภัยมาจาก ประเทศคอมมี่
อย่างที่เรารู้กัน พวกนี้ เกลียดคอมมิวนิสต์ยิ่งกว่าคนจากโลกเสรีทุนซะอีก
 
ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด พวกกลุ่มชาตินิยมจัดๆ หรือ ต่อต้านคอมมี่แบบหัวรุนแรง นี่
สมาชิก คนระดับสูงภายใน
อดีต คนคิวบาร์ โซเวียด หรือจีนลี้ภัยมาเพียบ
แค้นฝังหุ่นยิ่งกว่าชักกี้

เอาจริงๆมันก็ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบหรอกครับ ประชาธิปไตย อาจจะเป็นการปกครองเวอร์ชั่นล่าสุดที่ได้รับความนิยมสูงจากความประสพผลสำเร็จจากความเจริญรุ่งเรือง

แต่ผมว่าถ้าดูจริงๆ ประเทศที่ระบบเศรษฐกิจดี ประเทศเจริญรุ่งเรือง มันไม่ได้มาจากประชาธิปไตย แต่มันมาจากเหล่าเพื่อนอเมริกาต่างหาก
คือประเทศไหนอเมริกาดัน จะเจริญรุ่งเรืองอย่างไว แล้วส่วนใหญ่อเมริกาก็ดันประเทศประชาธิปไตยมากกว่า

แต่ก็แน่นอนบางประเทศอเมริกาก็ค้าขายด้วยทั้งที่เป็นระบบอื่นๆที่ไม่เป็นประชาธิปไตย อย่างจีน

ส่วน อิรัก เป็นประเทศที่เจริญๆอยู่ดีๆ อเมริกาก็มองว่าเป็นภัยแล้วก็ยัดเยียดประชาธิปไตยให้ กลายเป็นว่าก็ได้เป็นประชาธิปไตยแต่ความชิบหายเกิดขึ้นแล้ว
ไม่รู้อีกกี่ปีจะฟื้นตัวได้เหมือนก่อนเป็นประชาธิปไตย
บอกว่าเป็นเผด็จการไม่ดี เลยยัดเยียดความชิบหายให้

แบบผมเห็น ดร.คนนึง บอกประวัติศาสตร์บอกแล้วว่า เป็นประชาธิปไตยจะเจริญรุ่งเรือง
แต่ ดร.คนนั้นดันขนเงินออกจากไทยไปลงทุนเวียดนามเพียบ อยากแซวแกจริงๆ แต่แกไม่เคยอ่านคอมเม้นต์นี่สิ

[sariora123]

[quote/]
เอาจริงๆมันก็ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบหรอกครับ ประชาธิปไตย อาจจะเป็นการปกครองเวอร์ชั่นล่าสุดที่ได้รับความนิยมสูงจากความประสพผลสำเร็จจากความเจริญรุ่งเรือง

แต่ผมว่าถ้าดูจริงๆ ประเทศที่ระบบเศรษฐกิจดี ประเทศเจริญรุ่งเรือง มันไม่ได้มาจากประชาธิปไตย แต่มันมาจากเหล่าเพื่อนอเมริกาต่างหาก
คือประเทศไหนอเมริกาดัน จะเจริญรุ่งเรืองอย่างไว แล้วส่วนใหญ่อเมริกาก็ดันประเทศประชาธิปไตยมากกว่า

แต่ก็แน่นอนบางประเทศอเมริกาก็ค้าขายด้วยทั้งที่เป็นระบบอื่นๆที่ไม่เป็นประชาธิปไตย อย่างจีน

ส่วน อิรัก เป็นประเทศที่เจริญๆอยู่ดีๆ อเมริกาก็มองว่าเป็นภัยแล้วก็ยัดเยียดประชาธิปไตยให้ กลายเป็นว่าก็ได้เป็นประชาธิปไตยแต่ความชิบหายเกิดขึ้นแล้ว
ไม่รู้อีกกี่ปีจะฟื้นตัวได้เหมือนก่อนเป็นประชาธิปไตย
บอกว่าเป็นเผด็จการไม่ดี เลยยัดเยียดความชิบหายให้

แบบผมเห็น ดร.คนนึง บอกประวัติศาสตร์บอกแล้วว่า เป็นประชาธิปไตยจะเจริญรุ่งเรือง
แต่ ดร.คนนั้นดันขนเงินออกจากไทยไปลงทุนเวียดนามเพียบ อยากแซวแกจริงๆ แต่แกไม่เคยอ่านคอมเม้นต์นี่สิ

ควาใสำเร็จทั้งหลายมาจากทุนนิยมครับท่าน
ทุนนิยม ชาวยิวนรี่แหละคิดค้น เราควจ บูชายิวดีไหม
ระบบการปกครองหลักๆ ในโลกนี่มีชาวยิวเกี่ยวข้องในการกำเนิดทั้งนั้นเลยนะเออ

[pol]

ประชาธิปไตยเป็นระบบทึ่เฮงซวยน้อยที่สุดแล้วครับ  เพราะเรายังรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่คอมมี่นี่อย่าว่าแต่ใครโกงเลยเกิดการโกงขึ้นเรายังไม่รู้ด้วยซ้ำไป  มีข่าวลือเรื่องธนาคารในเมืองจีนที่ชาวบ้านเบิกเงินไม่ได้เป็นเพราะเจ้าหน้าที่รัฐถูกซื้อโดยนายทุนนะเออ มาประท้วง?ตูกระทืบ 

[sariora123]

อสังกาจี น่าจะเริ่มมีปัญหาจริงๆ แบบที่มีคนพูดไว้ก่อนหน้า


ท่านลูสมุยก็บ่นๆ ว่า อยู่ ๆดีๆ ก็มีหลายสำนักหลายช่องพูดถึงอสังหาในจีน


คือมันต้องมีอะไร ทะแม่งๆ แล้วแน่ๆ
เห็นว่าตอนนี้น่าจะเริ่มมีปัญหากันแล้วนะ

[PeanutButter]

อัพเดตข่าวยูเครน วันที่ 189 ของสงคราม Part 1

1. นายมีฮาอิล กอร์บาชอฟ (Mikhail Gorbachev) อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียตคนสุดท้าย (ค.ศ. 1985-1991) และประธานาธิบดีสหภาพโซเวียตเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ (ค.ศ. 1990-1991) ได้ถึงแก่อสัญกรรมแล้วเมื่อวานนี้ในวัย 91 ปี ณ โรงพยาบาลกลางมอสโก (Moscow Central Clinical Hospital) นับตั้งแต่มีข่าวลือในเดือนมิถุนายนปี 2020 ว่ากอร์บาชอฟมีอาการเจ็บป่วยและต้องเข้ารับการดูแลจากแพทย์ในโรงพยาบาล โดยหลังเสร็จสิ้นพิธีศพ ร่างของกอร์บาชอฟจะถูกนำไปฝังที่สุสานโนโวเดวิชี่ (Novodevichy Cemetery) ข้างกับที่ฝังศพภรรยาของเขา นางไรซา กอร์บาโชวา (Raisa Gorbacheva) ซึ่งเสียชีวิตตั้งแต่ปี 1999

เมื่อพูดถึงประเด็นเรื่องสงครามยูเครน นายอเล็กเซย์ เวเนดิคตอฟ (Alexei Venediktov) บรรณาธิการและผู้ก่อตั้งสำนักข่าว “เอคโค่ออฟมอสโก” (Echo of Moscow) ได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร “ฟอบส์รัสเซีย” (Forbes Russia) ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ว่ากอร์บาชอฟนั้นไม่พอใจอย่างมากต่อนโยบายการทำสงครามของ ปธน.ปูติน “นโยบายการปฏิรูปทั้งหมดของกอร์บาชอฟนั้นถูกทำลายสิ้น ไม่เหลืออะไรเลย พวกมันสลายเป็นเถ้าถ่านและฝุ่นควันไปหมดแล้ว”

เรื่องดังกล่าวไม่น่าแปลกใจนัก ในวันที่ 21 ก.พ. หรือ 3 วันก่อนสงครามรัสเซีย-ยูเครนจะเริ่ม นายพาเวล พาลาจเชนโก (Pavel Palazhchenko) อดีตล่ามแปลภาษาประจำกายกอร์บาชอฟ ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว “ฟ็อกซ์นิวส์” (Fox News) ถึงประเด็นความขัดแย้งยูเครน-รัสเซียกับตัวกอร์บาชอฟ โดยนายพาลาจเชนโกได้กล่าวไว้ว่า “ท่าน(กอร์บาชอฟ)มักจะคอยเตือนอยู่เสมอ ว่ามันอาจเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้รัสเซียกับยูเครนต้องแตกแยกจากกัน แต่ท่านก็ทำในส่วนที่ท่านสามารถทำได้เพื่อหวังให้ทั้งสองชาติใกล้ชิดกันมากขึ้น ฉะนั้นสำหรับท่านแล้ว นี่ถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้าโศกเสียใจอย่างมากทีเดียว”

กอร์บาชอฟยังเคยกล่าววิพากษ์วิจารณ์ปูตินไว้หลายครั้ง ครั้งหนึ่งในปี 2011 ขณะขึ้นพูดในหอประชุมมหาวิทยาลัยเท็กซัส ออสติน (University of Texas at Austin) กอร์บาชอฟได้กล่าวถึงปูติน ซึ่งขณะนั้นกำลังเตรียมการจะกลับมาดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีสมัยที่สามไว้ว่า "ผมสามารถเข้าใจได้ว่าเขา(ปูติน)ต้องใช้วิธีแบบเผด็จการในการรวบอำนาจในช่วงสมัยแรก(ของการดำรงตำแหน่ง) แต่ถ้าหากเขาจะใช้วิธีแบบเผด็จการเพื่อกำหนดอนาคต(ของประเทศ)แล้วละก็ ผมว่านั่นจะเป็นข้อผิดพลาดมหันต์" กอร์บาชอฟกล่าวต่อ “ไม่ว่าคุณจะมองไปที่ไหน เช่นในแอฟริกา เผด็จการที่ปกครองมายาวนานกว่า 20 ปีจะให้ความสำคัญอยู่เพียงสิ่งเดียว นั่นคือการรักษาอำนาจของตน ผมเชื่อว่านั่น คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับประเทศของเรา”

อีกครั้งหนึ่งในปี 2017 กอร์บาชอฟได้เขียนบทความวิพากษ์วิจารณ์ปูตินในนิตยสาร “ไทม์” (Time) ว่าแม้ปูตินจะช่วยพยุงรักษารัสเซียให้รอดพ้นจากภัยเศรษฐกิจและความมั่นคงทางการเมืองในประเทศ แต่กลับแลกมาด้วยอำนาจของสภาผู้แทนที่ถดถอย สื่อที่ไม่มีปากเสียง ศาลขาดความเป็นกลาง ทำให้เศรษฐกิจที่ควรจะเติบโตกลับถดถอยย้อนกลับ คุณภาพชีวิตของประชาชนเสื่อม ความยากจนแพร่กระจาย คอร์รัปชั่นทั่วทุกแห่ง ก่อนจะเขียนทิ้งท้ายบทความไว้ว่า “ข้าพเจ้าเชื่อว่าประชาธิปไตยคือหนทางสู่ความสำเร็จของรัสเซีย”


2. รายงานจากสำนักข่าว “เดอะวอชิงตันโพสต์” (The Washington Post) ที่ได้ทำการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ของสหรัฐและยูเครน พวกเขาพบว่ายูเครนได้หลอกล่อระบบสอดแนมของรัสเซียด้วยการใช้รถ HIMARS ปลอมที่ทำจากไม้ ทำหน้าที่เป็นตัวล่อเป้าให้ฝ่ายรัสเซียสับสนกับเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง M142 HIMARS ของจริงที่ยูเครนใช้ นี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ว่าทำไมกลาโหมรัสเซียถึงได้อ้างหลายครั้งว่าสามารถทำลาย HIMARS ของยูเครนได้ ถึงขั้นเจ้าหน้าที่สหรัฐรายหนึ่งกล่าวติดตลกว่า “พวกรัสเซียอ้างว่าสามารถทำลายไฮมาร์ส (HIMARS) ได้เยอะกว่าจำนวนที่เราส่งให้ยูเครนซะอีก”


3. นายวอปก์ โฮกส์ตรา (Wopke Hoekstra) รมว.การต่างประเทศและรองนายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ ได้กล่าวขณะให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว “อาร์ทีแอลนิวส์” (RTL Nieuws) ว่ารัฐบาลเนเธอร์แลนด์สนับสนุนข้อเสนอของชาติยุโรปตะวันออก ในการคว่ำบาตรห้ามการออกใบอนุญาตวีซ่านักท่องเที่ยว (Tourist Visa) ให้แก่นักท่องเที่ยวสัญชาติรัสเซียทั้งหมด เพื่อเป็นการแสดงท่าทีตอบโต้ต่อการรุกรานยูเครนโดยรัฐบาลรัสเซีย นับเป็นประเทศยุโรปตะวันตกชาติแรกในสหภาพยุโรปที่แสดงท่าทีสนับสนุนต่อข้อเสนอมาตรการดังกล่าว

ทั้งนี้ รัฐบาลฝรั่งเศส เยอรมนี และไซปรัสได้แสดงท่าทีคัดค้านต่อข้อเสนอดังกล่าว ด้วยมองว่าเป็นการเหมารวมพลเมืองรัสเซียทั้งหมดว่าสนับสนุนการกระทำของรัฐบาลรัสเซีย อย่างไรก็ดี นางอันนาเลนา แบร์บ็อค (Annalena Baerbock) รมว.การต่างประเทศเยอรมนี ได้เสนอให้สหภาพยุโรปหาแนวทางเป็นกลางร่วมกัน เช่นการใช้มาตรการยกเลิกสิทธิพิเศษด้านวีซ่าแก่พลเมืองสัญชาติรัสเซีย แทนที่จะเป็นการคว่ำบาตรเต็มตัว เพื่อไม่ให้พลเมืองรัสเซียที่คัดค้านการกระทำของรัฐบาลรัสเซียในยูเครนต้องได้รับความเดือดร้อนไปด้วย



ที่มา:

สปอยส์ ซ่อน ซ่อน:

[PeanutButter]

อัพเดตข่าวยูเครน วันที่ 189 ของสงคราม Part 2

4. เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา สำนักข่าว “เดอะวอชิงตันโพสต์” (The Washington Post) รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลเจ้าหน้าที่นิรนามของรัฐบาลสหรัฐและพันธมิตรนาโต้ ว่าโดรนติดอาวุธจากอิหร่านได้ถูกส่งไปถึงมือของกองทัพรัสเซียแล้ว โดยโดรนติดอาวุธที่อิหร่านได้ทำการส่งมอบให้แก่รัสเซียประกอบไปด้วยโดรนรุ่น Shahed-129, Shahed-191 Saegheh และ Mohajer-6 ซึ่งล้วนเป็นโดรนขนาดกลางที่มีสมรรถนะใกล้เคียงกับโดรนติดอาวุธ TB-2 Bayraktar ของยูเครน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่นิรนามยืนยันว่าตอนนี้ทหารรัสเซียยังคงทำการฝึกใช้งานและทดสอบประสิทธิภาพของโดรนอยู่ในอิหร่าน และอิหร่านพึ่งทำการส่งวิศวกรเข้าไปติดตั้งระบบสั่งการและควบคุมในรัสเซีย จึงยังต้องใช้เวลาอีกสักพักหนึ่งกว่าโดรนของอิหร่านจะพร้อมใช้งานโดยกองทัพรัสเซีย

ทั้งนี้ นายไมเคิล ไนทส์ (Michael Knights) นักวิเคราะห์ด้านการทหารจากสถาบันวอชิงตันด้านนโยบายตะวันออกใกล้ (The Washington Institute for Near East Policy) ได้ให้ความเห็นว่าโดรนของอิหร่านนั้นยังขาดความพร้อมสำหรับสนามรบจริงอย่างสงครามยูเครน เนื่องจากอิหร่านเคยใช้โดรนเหล่านี้เพื่อลอบโจมตีกองกำลังซาอุดิอาระเบียในสงครามกลางเมืองเยเมน หรือลอบโจมตีฐานทัพสหรัฐในอิรักเท่านั้น จึงยังเป็นที่น่าสงสัยว่าโดรนเหล่านี้จะมีประสิทธิภาพในสงครามใหญ่มากน้อยเพียงใด

เจ้าหน้าที่นิรนามผู้ให้ข้อมูลแก่นักข่าวยังให้ความเห็นเป็นในทางเดียวกัน โดยกล่าวว่าจากการทดสอบประสิทธิภาพของโดรนอิหร่านโดยกองทัพรัสเซีย กลับพบว่ามีปัญหาในการใช้งานอยู่มากและมักเกิดเหตุขัดข้องบ่อยครั้ง และตั้งข้อสงสัยว่าโดรนเหล่านี้จะแสดงบทบาทในสงครามยูเครนได้อย่างที่รัสเซียหวังหรือไม่

ด้านนายคลิฟฟ์ คุปชาน (Cliff Kupchan) ประธานบริษัท “ยูเรเซียกรุ๊ป” (Eurasia Group) ได้ให้ความเห็นว่าความช่วยเหลือระหว่างอิหร่านและรัสเซียจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน (Iran Nuclear Deal) แต่อย่างใด เนื่องจากเป้าหมายหลักของชาติตะวันตกที่ดำเนินการเจรจาคือการจำกัดขีดความสามารถในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่ก็ได้เน้นย้ำว่า การที่รัสเซีย มหาอำนาจอันดับสองหรือสามของโลก ต้องทำการขอความช่วยเหลือจากประเทศอิหร่านนั้น เท่ากับเป็นการเปิดเผยให้โลกเห็นถึงขีดความสามารถทางทหารจริงๆ ของรัสเซียว่าอยู่ในระดับใด


5. สำนักข่าว “เรียโนวอสติ” (RIA Novosti) ของรัสเซีย รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากหน่วยความมั่นคงกลาง (FSB) ว่าทางการรัสเซียได้ทำการระบุตัวผู้ต้องสงสัยรายที่สองที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบสังหาร น.ส.ดาเรีย ดูกินา (Darya Dugina) บุตรสาวของนายอเล็กซานเดอร์ ดูกิน (Alexander Dugin) นักรัฐศาสตร์และนักการเมืองกลุ่มชาตินิยมฝ่ายขวาชาวรัสเซีย

สำหรับผู้ต้องสงสัยรายนี้มีชื่อว่านายบ็อกดาน เซียกาเนนโก (Bogdan Tsyganenko) ชายชาวยูเครนจากจังหวัดโดเนตสก์ (Donetsk Oblast) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน ทาง FSB กล่าวว่านายเซียกาเนนโกได้เดินทางออกจากบ้านพักของตนตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม จากนั้นจึงได้ทำการลักลอบเดินทางเข้ารัสเซียผ่านทางประเทศเอสโตเนียช่วงปลายเดือนกรกฎาคม พร้อมกับเปลี่ยนมาใช้ชื่อปลอมว่า “บ็อกดาน คัสเซียนอฟ” (Bogdan Kasyanov) เมื่อไปถึงรัสเซีย นายเซียกาเนนโกจึงได้ทำการจัดเตรียมเอกสารและทะเบียนรถปลอม รวมถึงการจัดหาระเบิดให้แก่นางนาตาเลีย วอฟก์ (Natalya Vovk) ผู้ซึ่งทาง FSB กล่าวว่าเป็นทหารหญิงจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษอาซอฟ (Azov Special Operation Detachment) ของยูเครน และเป็นผู้ลงมือสังหาร น.ส.ดูกินา โดยการลอบวางระเบิดรถยนต์

อย่างไรก็ดี ทาง FSB กล่าวว่านายเซียกาเนนโกได้เดินทางออกนอกรัสเซียเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. หนึ่งวันก่อนการลอบสังหาร น.ส.ดูกินา


บทวิเคราะห์ส่วนตัว

ณ ตอนนี้ผมค่อนข้างมั่นใจแล้วว่าการลอบสังหาร น.ส.ดูกินา นั้น เป็นการจัดฉากโดยทาง FSB ของรัสเซียเอง โดยหลักคือรายละเอียดของ “ผู้ต้องสงสัย” ทั้งสองที่ทาง FSB ปล่อยออกมา ว่าทั้งสองเดินทางเข้ารัสเซียช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ก่อนจะลงมือสังหาร น.ส.ดูกินา ในวันที่ 20 ส.ค. ซึ่งจะเท่ากับว่าทั้งสองมีระยะเวลาเตรียมตัวแค่เพียง 1 เดือนเท่านั้นในการสะกดรอยตาม การจัดทำเอกสารปลอม การจัดหาระเบิด การวางแผนลอบสังหาร ฯลฯ ซึ่งถือว่าน้อยเกินไป และถ้าทั้งสอง ซึ่งเป็นชาวยูเครน เป็นผู้วางแผนและลงมือลอบสังหารจริง ก็ยิ่งน่าสงสัยว่าทำไมถึงได้พุ่งเป้าไปที่ น.ส.ดูกินา ซึ่งเป็นเพียงแค่ผู้สื่อข่าวโปรรัฐบาลรัสเซียเท่านั้น แทนที่จะทำการวางแผนลอบสังหารบุคคลสำคัญทางการเมืองหรือการทหารของรัสเซียแทน ไม่ต้องพูดถึงวิธีการทำงานแบบแปลกๆ ของ “ผู้ต้องสงสัย” ทั้งสองที่ทาง FSB เปิดเผยออกมา เช่นนายเซียกาเนนโกได้เดินทางเข้าประเทศรัสเซียก่อน แล้วจึงทำการปลอมแปลงเอกสารให้นางวอฟก์ ถามว่าทำไมนายเซียกาเนนโกไม่ทำเอกสารปลอมให้นางวอฟก์ตั้งแต่ก่อนเข้าประเทศรัสเซีย หรือนางวอฟก์ที่พาลูกสาวตนเองมาทำ “ภารกิจลอบสังหาร” ในครั้งนี้ด้วย



ที่มา:

สปอยส์ ซ่อน ซ่อน:

[pol]

อสังกาจี น่าจะเริ่มมีปัญหาจริงๆ แบบที่มีคนพูดไว้ก่อนหน้า


ท่านลูสมุยก็บ่นๆ ว่า อยู่ ๆดีๆ ก็มีหลายสำนักหลายช่องพูดถึงอสังหาในจีน


คือมันต้องมีอะไร ทะแม่งๆ แล้วแน่ๆ
เห็นว่าตอนนี้น่าจะเริ่มมีปัญหากันแล้วนะ

มันเน่าจนกลบไม่ค่อยจะไหวแล้วละครับจีนเลยต้องเบี่ยงเบนความสนใจโดยการไปทำท่าจะบุกไต้หวันไง  ปลุกกระแสรักชาติแบบฟายๆเหมือนกับรัสเซียนั่นแหละครับ     แต่จากเหตุการณ์หลายๆอย่างที่จีนทำออกมานี่ไต้หวันคงจะบอกว่าใครจะโง่ไปรวมชาติกับเอ็ง?  เทียนอันเหมิน  ซินเจียงอุยกูร์  จราจลที่ฮ่องกง  ล็อกดาวน์  คอรัปชั่นกันยับๆ  ไต้หวันคงจะบอกว่าขืนตูไปรวมกับเอ็งนี่ถูกดูดเงินไปจนหมดตัวแหงๆ

[samuison]

ไปอ่านในเว็บฝร่ง มีหลายคนคดิว่า กอบาชอฟตายไปนานแล้ว มีคนด่ากอบาชอฟว่าทำให้สหภาพล่มสลายแต่ผมมองว่าการที่แกรอดมาจนแก่ 90 ได้นี่จะบอกว่าแกล้มเหลวหรือ?
ไม่ดดนจับขังคุกขี้ไก่หรือฆ่าผมก็ถือว่าแกรอดมาได้ในระดับหนึ่งแล้วล่ะ
จำได้ว่ามีคนชมแกที่ไปโฆษณาแม็คโดนัลดืให้ในยุค 80 แสดงถึงชัยชนะของทุนนิยมเนหือคอมมี่ไม่รู้ว่าอมเรกิาอวยกันเองหรอืเปล่า
แต่มีเรื่องเล่าว่า ทางสมาชิกพรรคนึกว่าอเมริกาจัดฉากที่เห็นซูเปอร์มาร์เก็ตมีอาหารเต็มในอเมริกา

[sariora123]

ร้านแม็คคือ ความพ่ายแพ้ของ คอมมี่ครับ
เพราะเป็นการแสดงให้เห็นความเป็นทุนนิยมในโลกตอมมี่
ก็อย่างที่รู้ๆ กัน ไปเจอโลกเสรีทุนที่ด่าได้ยัน ปธน.นี่ เสร็จกันแทบทุกราย




นอกเรื่อง
ไม่ค่อยเดียวกับสงคราม แต่ก็น่าจะเกี่ยวที่หลังนั่นแหละ
เห็นว่าอนาคตอีกไม่กี่ปี? จะมีการทดสอบ
เครื่องยนต์นิวเคลียร์ที่ใช้กับจรวดอวกาศ


เผื่อใครไม่ทราบคือ เครื่องยนต์นิวเคลียร์ มันไม่ได้ผลิตพลังงาน
แบบในหนัง อ่ะนะ คือ มันสร้างความร้อนจำนวนมาก แล้วเรา
ทำการเปลี่ยงพลังความร้อนเป็นพลังงานรูปอื่นเพื่อใช้งาน
เช่นเอาไปต้มน้ำ ได้ไอน้ำไปปั่นกังหันเป็นพลังงานกล เอาไปปั่นไฟ
ได้ไฟฟ้า  ไม่ใช่ว่าเตานิวเคลียร์มันสร้างไฟฟ้าออกมาได้เลย
แบบไอ้เตา  Ark  ของ โทนี่ สตาค 
หรือเอาไฟฟ้าไปทำไอพ่นแบบ ชุดไอร่อนแมน ก็ยังทำไม่ได้นะ


ถ้าผมเข้าใจหลักการไม่ผิด ไอ้จรวดเครื่องยนต์นิวเคลียร์
ใช้เตานิวเคลียร์ช่วยเพิ่มความร้อนให้เชื้อเพลิง และการจุดระเบิด
ด้วยเชื้อเพลิงที่เท่ากัน [size=78%]ถ้าหลักการมันไม่โม้ คือ [/size]
ไปได้ไกลกว่าเดิม 2-3 เท่าตัว
ข้อเสีย เพราะมันร้อนจัดเครื่องอาจระเบิดได้ง่ายกว่าเดิม
เชื้อเพลิงจรวด+นิเคลียร์ ยิ่งกว่าโกโ้กครั้นช์แน่ๆ
เครื่องเสีย รั่ว ไม่ระเบิด ก็ตายด้วยรังษีแทน
ตอนนี้เทคโนฯด้านวัสดุถึงขั้นแล้วสินะถึงจะทำอีก


อ้อ รัสเซียเคยอวดเหมือนกันเมื่อไม่กี่ปีก่อนว่ามีจรวดเครื่องยนต์นิวเคลียร์
บินได้รอบโลกโดยไม่ต้องเติมเชื้อเพลิง ไม่จำกัดระยะทาง
ผมก็แซะติ่งฝั่งรัสเซียไปหลายรอบล่ะว่า ทำได้จริง
นี่โครตเสียของ เอามามำจรวดยิงกันทำไม
ถ้าเอาไปทำจรวดอวกาศ
รัสเซียตั้งอนานิคมได้ยัน ดาวพลูโต

[samuison]

ไปอ่านเจออสังหาจีน เห็นว่าจับคนที่หลอกลวงได้แล้ว แต่ผมก็คิดว่าแบบเดียวกับเคสนัตตี้หรือพิงกี้นั่นล่ะ
คนเขาไมไ่ด้ต้องการจับคนร้ายแต่ต้องการเงินคืน ซึ่งเงินพวกนี้คงหายสาบสูญไปแล้ว
น่าเศร้าแทนเมหือนกัน มีคนบอกว่า ยูนิคอร์นไม่มีจริง
หากเราไม่ใช่พระเอกอิเซไคที่มีความรู้ข้ามยุค มันทำอย่างนั้นไมไ่ด้หรอก

[sariora123]

เคยดูหนังเรื่อง เกมฉวยโอกาศรวย  ไหมครับ
ที่พูดถึง วิกฤษ อสังหาอเมริกา งวดก่อนโน้น


เล่าผ่านมุมมอง คนที่ทำงานบริษัทจัดการสินทรัพย์ กองทุน
บางคนบังเอิญรู้ว่าจะเกิด บางคนเห็นแล้วว่าจะมา
บางคแค่จะเข้ามาทำกำไร บางคนจะต่อต้าน
แต่สุดท้ายมันก็เกิดขึ้นจริงๆ


ต่างคนต่างฟันกำไรไปไม่น้อย

ตอนจบ
เล่าว่าไปโทษพนักงานบัญชีบริษัทใหญ่ว่าเป็นคนตกแต่งบัญชี
ให้ดูสวยเกินจริงเป็นต้นเหตุ ทั้งๆที่แม่งก็ทำกันหมดนั่นแหละ

ผ่านด้านมืดวงการ บางคนก็เลิก บางคนก็อยูในวงการต่อ


แนวๆ เดียวกับ  วูฟ ออฟ วอล์สตรีท แต่คลละทาง

[samuison]

เห็นว่าเล่าว่า หลายๆคนจะห้ามไม่ให้หายนะเกิด แต่ก็ห้ามกระแสสังคมไม่ไหว เลยหาผลประโยชน์ไปด้วยจากรเื่องที่เรารู้ว่กาำลังจะเกิดนี่ล่ะ

[PeanutButter]

อัพเดตข่าวยูเครน วันที่ 190 ของสงคราม Part 1

1. แม้ตอนนี้รายงานเรื่องการรบในจังหวัดเคอร์สัน (Kherson Oblast) ทางใต้ของยูเครนจะยังคงเงียบงัน เนื่องจากยูเครนพึ่งเริ่มปฏิบัติการโจมตีโต้กลับได้ไม่นาน อีกทั้งยังได้เรียกร้องให้สื่อช่วยกันปิดข่าวความเคลื่อนไหวของกองทัพยูเครนไม่ให้รัสเซียรับรู้ ทำให้ข่าวคราวการรบในพื้นที่เคอร์สันจึงค่อนไปทาง “ข่าวลือ” มากกว่าในตอนนี้ อย่างไรก็ดี สำนักข่าว “ซีเอ็นเอ็น” (CNN) ได้เปิดเผยรายละเอียดเล็กน้อยในช่วงการเตรียมการของฝ่ายยูเครนก่อนเริ่มเปิดฉากการรุกโต้กลับว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร

รายงานจาก “ซีเอ็นเอ็น” ที่ได้ทำการสัมภาษณ์ทั้งเจ้าหน้าที่ของสหรัฐและยูเครน เปิดเผยว่ายูเครนใช้เวลาเตรียมการก่อนเริ่มเปิดฉากการรุกในเคอร์สันประมาณ 2-3 เดือน หรือตั้งแต่เดือนมิถุนายนโดยประมาณ ซึ่งในช่วงเลาดังกล่าวรัฐบาลยูเครนได้ทำการเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐส่งความช่วยเหลือทางทหารมาให้เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่กำลังพลที่จะทำการรุกเข้าตีเคอร์สัน ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวสหรัฐได้ทำการส่งมอบอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ให้กับยูเครนผ่านอำนาจการเบิกถอนตามคำสั่งประธานาธิบดี (Presidential Drawdown Authority) ซึ่งอนุญาตให้รัฐบาลสหรัฐสามารถทำการส่งมอบอาวุธยุทโธปกรณ์ภายในคลังของกองทัพสหรัฐให้แก่ชาติพันธมิตรได้โดยทันที ไม่ว่าจะเป็นปืนใหญ่และกระสุนปืนใหญ่ เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง ยานเกราะ และรถยนต์ทหารจำนวนมาก

นอกจากการสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ สหรัฐยังได้ทำการวาดภาพการรบ (War Gaming) ซึ่งเป็นการจำลองสถานการณ์การรบจริงเพื่อวิเคราะห์หาความเป็นไปได้ในการศึกทางใต้ร่วมกับกองทัพยูเครน บทความยังกล่าวอีกว่าในตอนแรกฝ่ายยูเครนต้องการเปิดปฏิบัติโต้กลับที่กว้างขวางกว่านี้ นั่นคือไม่ใช่วางเป้าหมายแค่จังหวัดเคอร์สันเพียงแห่งเดียว แต่ยังรวมไปถึงแผนการปลดแอกจังหวัดซาโปริสเซีย (Zaporizhzhia Oblast) ด้วย ก่อนที่ฝ่ายยูเครนจะเปลี่ยนใจในภายหลัง

เมื่อถามความเห็นของเจ้าหน้าที่ทหารนิรนามของสหรัฐต่อปฏิบัติการรุกโต้กลับของยูเครนในเคอร์สัน เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวให้ความเห็นว่าปฏิบัติการของยูเครนในเคอร์สันนั้นยังไม่ถึงระดับที่เรียกว่าเป็นปฏิบัติการตอบโต้ (Counter-Offensive) และยังเร็วเกินไปที่จะฟันธงผลลัพธ์ของการรุกครั้งนี้ของฝ่ายยูเครน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่นิรนามกล่าวว่าตอนนี้กองทัพยูเครนอยู่ในระดับที่สูสีกับรัสเซียแล้ว ทั้งจากการได้รับอาวุธยุทโธปกรณ์จากชาติตะวันตก รวมถึงการฝึกทหาร ขวัญกำลังใจ การประสานงานระหว่างหน่วยรบ ไหวพริบสติปัญญา และความสามารถในการปรับตัวอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามรัสเซียจะยังคงความได้เปรียบเรื่องจำนวนกำลังพลและอาวุธสงครามจำนวนมากที่ยังมีมากกว่าฝ่ายยูเครน 


2. เป็นทั้งข่าวดีและข่าวร้ายสำหรับยูเครน รายงานจากสำนักข่าว “เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล” (The Wall Street Journal) โดยอ้างอิงจากเจ้าหน้าที่ในกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ กล่าวว่าตอนนี้จำนวนกระสุนปืนใหญ่ขนาด 155 ม.ม. ของสหรัฐกำลังลดลงอยู่ในระดับที่น่ากังวล หลังจากสหรัฐได้ทำการส่งมอบกระสุนปืนใหญ่ขนาด 155 ม.ม. ให้แก่ยูเครนจำนวนทั้งหมด 806,000 นัดตลอดช่วงสงคราม (ข้อมูล ณ วันที่ 24 ส.ค.) และแม้จะไม่ได้กล่าวว่าสหรัฐมีจำนวนกระสุนปืนใหญ่ในคลังสำรองทั้งหมดเท่าไหร่ แต่เจ้าหน้าที่นิรนามก็ได้กล่าวไว้ว่าระดับของกระสุนปืนใหญ่ในคลังสำรองปัจจุบันนั้น “ต่ำกว่าระดับที่น่าพึงพอใจ” และกล่าวเสริมต่อว่า “ต่ำกว่าค่าความเหมาะสมที่เราต้องการหากว่าต้องเข้าสู่การรบ” เป็นการบ่งบอกโดยนัยว่าจำนวนกระสุนปืนใหญ่ในคลังสำรองไม่ได้ต่ำในระดับที่เป็นอันตราย แต่ก็น้อยจนอยู่ในระดับที่ทำให้กองทัพสหรัฐวิตกหากว่าเกิดสงครามครั้งใหม่ขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันกับสงครามยูเครนในตอนนี้ เช่นในช่องแคบไต้หวัน หรือในซีเรียและอิรัก

ทั้งนี้ การแก้ปัญหากระสุนปืนใหญ่ขาดแคลนนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องใช้เวลา ตามคำกล่าวของนางแม็กเคนซี อีเกลน (Mackenzie Eaglen) นักวิเคราะห์จาก AEI หรือสถาบันวิสาหกิจเพื่อการวิจัยด้านนโยบายสาธารณะอเมริกา (American Enterprise Institute for Public Policy Research) และนายแบร็ด มาร์ติน (Brad Martin) นักวิเคราะห์จากบริษัท “แรนด์” (RAND Corporation) และผู้อำนวยการสถาบันห่วงโซ่อุปทานเพื่อความมั่นคงแห่งชาติ “แรนด์” (RAND National Security Supply Chain Institute) กล่าวตรงกันว่าปัญหาหลักของการยกระดับอัตราการผลิตอาวุธในสหรัฐนั้นอยู่ที่ความล่าช้าและการขาดการประสานงานระหว่างกองทัพ สภาคองเกรส และกลุ่มอุตสาหกรรมอาวุธ

อย่างไรก็ดี ในขณะที่สหรัฐกำลังเริ่มกังวลถึงจำนวนกระสุนปืนใหญ่ของตนที่ลดต่ำลง รัฐบาลสวีเดน นำโดยนางมักดาเลียนา อันเดอช็อน (Magdalena Andersson) นายกรัฐมนตรี และนางแอน ลินด์ (Ann Linde) รมว.การต่างประเทศ ก็ได้ประกาศความช่วยเหลือทางทหารชุดที่ 7 ซึ่งเป็นชุดใหม่ล่าสุดของสวีเดนให้แก่ยูเครน มูลค่ากว่า 500 ล้านโครนา (46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ / 1,700 ล้านบาท) โดยความช่วยเหลือชุดนี้จะเน้นไปที่การจัดหากระสุนปืนใหญ่ให้แก่กองทัพยูเครนเป็นหลัก อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการระบุแน่ชัดว่ากระสุนปืนใหญ่ที่สวีเดนจะจัดหาให้กับยูเครนนั้นเป็นรุ่นใดหรือมีปริมาณเท่าใด

นอกจากกระสุนปืนใหญ่แล้ว นางลินด์ยังได้กล่าวอีกว่ารัฐบาลและกองทัพสวีเดนกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดส่งอาวุธทันสมัยอื่นๆ ของกองทัพสวีเดนให้แก่ยูเครน ไม่ว่าจะเป็นปืนใหญ่วิถีโค้งอัตตาจรขนาด 155 ม.ม. รุ่น Archer ซึ่งมีประจำการอยู่ในกองทัพสวีเดนจำนวน 48 คัน หรืออาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-อากาศ (SAM) รุ่น RBS70 ซึ่งมีทั้งรุ่นประทับบ่ายิงและรุ่นติดตั้งกับยานพาหนะสำหรับใช้ต่อต้านอากาศยาน เป็นต้น หลังจากที่นายดมีโตร คูเลบา (Dmytro Kuleba) รมว.การต่างประเทศยูเครน ได้ทำการเดินทางเยือนสวีเดนเมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา และได้ทำการร้องขอความช่วยเหลือด้านปืนใหญ่ กระสุนปืนใหญ่ และ อวป.ต่อต้านอากาศยานเพิ่มเติมจากสวีเดน

สำหรับงบความช่วยเหลือทางทหารชุดนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของเงินงบประมาณจำนวน 1,000 ล้านโครนา (93 ล้านดอลลาร์สหรัฐ / 3,400 ล้านบาท) ที่รัฐบาลสวีเดนได้ประกาศมอบเป็นทุนสนับสนุนให้แก่รัฐบาลยูเครนเมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยเงินจำนวนครึ่งหนึ่งจะถูกใช้เป็นงบสนับสนุนด้านการทหาร และอีกครึ่งหนึ่งจะเป็นเงินสำหรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ซึ่งรวมไปถึงการซื้อธัญพืชจากยูเครนเพื่อนำไปมอบให้แก่ประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือที่ประสบวิกฤติขาดแคลนอาหาร



ที่มา:

สปอยส์ ซ่อน ซ่อน:

[franchan]

เอาเถอะครับวันนี้ผมเพิ่งตระหนักว่าความเข้าใจของคนละยุคสมัยนี้ยากปรองดองกันละ

- ยุคผม เขาสอนถึงข้อดีข้อเสียของระบอบการปกครองหลายแบบ จะแบบไหนก็สามารถกลายเป็นระบอบเผด็จการได้ถ้าคิดจะทำหรือประชาชนใช้อำนาจตัวเองโดยไม่ระวัง ระบอบคอมก็แค่ระบอบนึงที่ริดรอนสิทธิเสรีภาพบางส่วนแต่ไม่ใช่ระดับระบอบเผด็จการ

- แต่ยุคนี้หลังโซเวียตล่มสลาย การโฆษณาหรือบทเรียนของฝ่ายชาติตะวันตกตลอด30ปี ผมตระหนักแล้วว่าคนรุ่นใหม่จำนวนมาก เข้าใจว่าขอแค่เป็นคอมมิวนิสต์=ระบอบเผด็จการเลย ไม่ยอมหันไปดูประวัติศาสตร์ว่ารูปแบบการปกครองอื่นที่ไม่ใช่คอมก็สร้างเผด็จการได้ว่าบางทีพลาดมาก็แย่กว่าระบอบคอมมิวนิสต์ 

- สมัยผม สอนระบอบประชาธิปไตยดีก็จริงแต่ถ้าทำผิดก็อย่ายอมรับว่ามันถูกแค่เพราะเป็นระบอบประชาธิปไตย  แต่ปัจจุบัน ขนาดผมยกตัวอย่างที่ระบอบประชาธิปไตยทำพลาดจนคนตายมากมาย คนรุ่นใหม่ก็บอกว่าไม่เป็นไรไม่ก็ว่าผมว่าฝักใฝ่คอมเลย (ผมไม่ได้ยกตัวอย่างเพื่อบอกว่าประชาธิปไตยไม่ดีนะอย่าเข้าใจผิด ยุคก่อนเป็นปกติที่เขายกตัวอย่างเพื่อบอกสอนว่าระบอบไหนๆถ้าใช้ไม่ดีก็ให้ผลเลวร้ายเหมือนกัน แต่คนรุ่นใหม่บางคนจะโกรธผมทันที)


- คนที่ยอมอยู่ใต้ระบอบที่ไม่ใช่ประชาธิปไตยแต่ถูกชาติประชาธิปไตย"เจตนา"รุกรานแบบไม่ได้ร้องขอให้ช่วย และตายมากมายบ้านแตกสาแหรกขาด ถือเป็นเรื่องสมควร ไม่ผิดอะไร? บางคนบอก สมควรตายแล้ว ปกครองระบอบแบบนั้น?

- ทั้งที่ถ้าเป็นในสังคมเราการฆ่าคนอื่นยังไงก็ผิดกม.แต่พอชาติที่เป็นประชาธิปไตยฆ่าล้างชาติไม่ประชาธิปไตยแบบเหตุผลอ่อนด้อยหรือเหตุผลพิสูจน์ได้ว่าเฟค พอกลายเป็นเรื่องระบอบการปกครอง กลับมีบางคนที่"อำมหิต"บอกผมว่าไม่เป็นไร? จนผมมองว่าบางคนหมกหมุ่นพอกับศาสนาแหละ แบบสงครามศาสนาที่ทำเพื่อพระเจ้า ฆ่าเท่าไหร่ก็ไม่ผิด
- ผมไม่ใช่คอมนะ ออกจะฝ่ายประชาธิปไตย แต่ก็ไม่ใช่จะเชียร์ชาติประชาธิปไตยไม่ลืมหูลืมตาว่าถูกหมด ผิดก็ผิดซิ การรนหาเรื่องให้ชาติเองก็ไม่น่าเห็นใจ (ทีกม.อาญาบ้านเมือง คนที่ยั่วยุให้เกิดเรื่องก็มีส่วนผิดในเหตุที่เกิดขึ้น)
- ยอมรับได้ ว่าไม่ใช่การปกครองประชาธิปไตยต้องขาวสะอาด การเมืองหรือความมั่นคงของประเทศอะไรก็มีเทาๆที่ต้องทำเรื่องที่สุ่มเสี่ยงเพื่อผลประโยชน์ชาติ แต่ไม่ใช่ตั้งเป็นแบบประชาธิปไตยคือความถูกต้อง ไม่งั้นถ้าจะเอาแบบนั้นเผด็จการที่เริ่มเกิดจากระบอบประชาธิปไตยแบบนาซีก็ไม่ผิดนะซิ เหมือนสงครามครูเสดสมัยใหม่


- 30ปีค่านิยมมันเปลี่ยนไปแล้ว จนผมกลัวเลยละ

- ไม่ต้องอธิบายให้ผมเชื่ออะไรนะ สัจธรรมรุ่นผมคงมองว่าล้าหลังและเป็นสันดานกับบางคนไปแล้ว และผมกลัวคนที่จะว่าผมว่าเป็นพวกฝักใฝ่คอมแค่เพราะไม่ยอมรับว่าผิดเป็นถูกหรือทำได้แล้วกันไป ผมยังกลัวคนที่คิดแบบนั้นมากกว่า

- สรุปคือ ใครจะเชื่อการปกครองอะไรแต่แค่สนทนา ขออย่าฆ่ากันแบบสงครามครูเสดก็ละกัน ให้นั่นเป็นเรื่องระหว่างประเทศไป

สำหรับผมไม่ค่อยสนใจประชาธิปไตยหรือคอมมี่นะแต่ผมชอบอิสระซึงคอมมี่มันไม่ให้อิสระอย่างจีนในยุคหลังๆนี่เหมือนเริ่มจำกัดสิทนู่นนี่นั่นเต็มไปหมดล่ะเช่นรีดไถหรือบังคับให้คนรวยบริจาคเงินให้รัฐบาลโดยคนรวยที่โดนก็พวกนักธุรกิจ ดารา หรือมาแบนกวดวิชา จำกัดชม.เล่นเกมส์ของเด็ก  ห้ามสมาชิกพรรคกินอาหารญี่ปุ่น แม้กระทั่งคนจีนแค่แต่งชุดญี่ปุ่นยังโดนตำรวจเอาไปสอบสวนเลยแต่แน่นอนประเทศประชาธิปไตยที่จำกัดสิทผมก็เกลียดเหมือนกันเช่นเกาหลีใต้เมื่อหลายปีก่อนมีข่าวประมาณว่าคนเกาหลีโดนปลุกให้รักชาติ ให้ต่อต้านญี่ปุ่น โดยในข่าวเขียนประมาณว่าสินค้าญี่ปุ่นขายไม่ได้และที่สำคัญคนชาตินิยมหัวรุนแรงบางกลุ่มดันไปคุกคามคนที่เค้าใช้สินค้าญี่ปุ่นเช่นคนรีวิวเครื่องสำรางญี่ปุ่นโดนทัวลงไปรุมด่า  ร้านอาหารโดนลูกกดดันให้เอาเบียญี่ปุ่นออกจากร้าน

[PeanutButter]

ไปอ่านในเว็บฝร่ง มีหลายคนคดิว่า กอบาชอฟตายไปนานแล้ว มีคนด่ากอบาชอฟว่าทำให้สหภาพล่มสลายแต่ผมมองว่าการที่แกรอดมาจนแก่ 90 ได้นี่จะบอกว่าแกล้มเหลวหรือ?
ไม่ดดนจับขังคุกขี้ไก่หรือฆ่าผมก็ถือว่าแกรอดมาได้ในระดับหนึ่งแล้วล่ะ
จำได้ว่ามีคนชมแกที่ไปโฆษณาแม็คโดนัลดืให้ในยุค 80 แสดงถึงชัยชนะของทุนนิยมเนหือคอมมี่ไม่รู้ว่าอมเรกิาอวยกันเองหรอืเปล่า
แต่มีเรื่องเล่าว่า ทางสมาชิกพรรคนึกว่าอเมริกาจัดฉากที่เห็นซูเปอร์มาร์เก็ตมีอาหารเต็มในอเมริกา

พูดตามตรงว่าผมเองก็นึกว่ากอร์บาชอฟตายไปนานละ     พึ่งมารู้ตอนตามข่าวสงครามยูเครนว่าแกยังมีชีวิตอยู่ (R.I.P. กอร์บาชอฟ)

โดยส่วนตัวผมชื่นชมแกนะ มีเจตนาดีอยากปฏิรูปสหภาพโซเวียตให้ทันสมัยทัดเทียมชาติตะวันตก มองว่าระบบเก่าที่ใช้มานั้นไม่ทันโลกและไม่สามารถแข่งขันกับทุนนิยมตะวันตกได้ ไม่ต่างอะไรกับเติ้ง เสี่ยวผิงของจีน โชคร้ายที่แกดันโดนฝ่ายชาตินิยมรัฐประหารเสียก่อน นำไปสู่ความวุ่นวายทางการเมืองจนทำให้สหภาพโซเวียตล่มสลายไปไม่หวนคืน ไม่งั้นเราอาจได้เห็นสหภาพโซเวียตโฉมใหม่ที่อยู่ยงมาจนถึงปัจจุบันแล้วก็ได้

เรื่อง McDonald นี่ผมไม่ชัวร์ แต่แกเคยไปถ่ายโฆษณาให้กับ Pizza Hut ในรัสเซียด้วยล่ะ

[deaddy]

[quote/]

สำหรับผมไม่ค่อยสนใจประชาธิปไตยหรือคอมมี่นะแต่ผมชอบอิสระซึงคอมมี่มันไม่ให้อิสระอย่างจีนในยุคหลังๆนี่เหมือนเริ่มจำกัดสิทนู่นนี่นั่นเต็มไปหมดล่ะเช่นรีดไถหรือบังคับให้คนรวยบริจาคเงินให้รัฐบาลโดยคนรวยที่โดนก็พวกนักธุรกิจ ดารา หรือมาแบนกวดวิชา จำกัดชม.เล่นเกมส์ของเด็ก  ห้ามสมาชิกพรรคกินอาหารญี่ปุ่น แม้กระทั่งคนจีนแค่แต่งชุดญี่ปุ่นยังโดนตำรวจเอาไปสอบสวนเลยแต่แน่นอนประเทศประชาธิปไตยที่จำกัดสิทผมก็เกลียดเหมือนกันเช่นเกาหลีใต้เมื่อหลายปีก่อนมีข่าวประมาณว่าคนเกาหลีโดนปลุกให้รักชาติ ให้ต่อต้านญี่ปุ่น โดยในข่าวเขียนประมาณว่าสินค้าญี่ปุ่นขายไม่ได้และที่สำคัญคนชาตินิยมหัวรุนแรงบางกลุ่มดันไปคุกคามคนที่เค้าใช้สินค้าญี่ปุ่นเช่นคนรีวิวเครื่องสำรางญี่ปุ่นโดนทัวลงไปรุมด่า  ร้านอาหารโดนลูกกดดันให้เอาเบียญี่ปุ่นออกจากร้าน

มันเป็นเรื่องอิสระ กับเรื่องเพื่อสังคมครับ ถ้าชอบใช้ของที่ผลิตในประเทศ แล้วขายของให้ต่างประเทศคือพวกไปทำสงครามชนะ
เพราะเอาความมั่งคั่งกลับสู่ประเทศ
แต่พวกหาเงินในประเทศแล้วเอาไปเปย์ ซื้อของต่างประเทศ พวกนี้ทำให้ประเทศยากจนลงครับ
ถ้าอย่างเราๆผลิตเองไม่ได้ เลยนำเข้าอันนี้ก็พอรับได้อยู่
แต่แทนที่จะไปกินกาแฟอเมซอน แต่เดินเข้า สตาร์บั๊ก อันนี้คือฝักใฝ่ต่างชาติเอาเงินออกนอกประเทศ
ถ้าเป็นพวกรักชาติเขาก็คงรู้สึกไม่พอใจเท่าไหร่
แต่ถ้าให้เทียบกรณี ชุดกิโมโน ตะวันตกก็เป็นครับ
ลองใส่ชุดนาซีไปเดินเล่นสิ 
ส่วนเรื่องกวดวิชา อันนั้นเขาช่วยผู้ปกครองนะจะไปคิดไรมากแทนเขา คือกวดวิชามากๆเด็กเครียด พ่อแม่ผู้ปกครองต้องทำงานหาเงินมาให้ลูกเรียนพิเศษ
บ้านเขาเครียดกว่าบ้านเราเยอะ เรียนปรกติ เช้ายันค่ำ แล้วยังต่อเรียนพิเศษยัน 3-4 ทุ่ม กดๆลงมามันก็ดีอยู่

ส่วนเรื่องเล่นเกม อันนั้นผมก็ว่าเรื่องมากจริงนั่นแหล่ะ แต่ถ้าจำไม่ผิดมันเป็นเพราะฝั่งผู้ปกครองที่อยากให้ลูกเล่นเกมน้อยลงนะ
ส่วนเรื่องคนในพรรคห้ามกินอาหารญี่ปุ่น ไทยก็มีครับ ฉันจะไม่ไปกินร้านอาหารของฝั่งตรงข้ามทางการเมือง คือด่าๆเขาไว้เยอะ ชวนคนไม่กินถ้าตัวเองไปกินก็งานเข้าสิ
พูดถึงเรื่องไม่อุดหนุนฝั่งตรงข้าม เป็นแนวคิดฝั่งตะวันตกด้วยนะครับ

อันนี้เยอรมัน ผู้ชายนั่นคือนายก สาวๆประท้วงเรื่องก๊าซรัสเซีย

[Black7nos]

หลายคนเข้าใจผิดเรื่องระบอบการปกครอง และผมเคยอธิบายเมื่อนานมาแล้ว
ระบอบปกครอง = แนวทางและวิธีการจัดการทรัพยากรทุกอย่าง ทั้งคน เศรษฐกิจ สังคม ฯลฯ


อย่างแรก ประชาธิปไตย กับ คอมมิวนิสต์ จริงๆแล้วคือ "เหรียญเดียวกันที่อยู่คนละด้าน"
ความหมายก็คือ จุดสูงสุด(Goal) หรือวัตถุประสงค์(Purpose) มันเหมือนกัน คือ "มนุษย์ทุกคนเท่ากัน" สิ่งนี้คือหัวใจทั้งประชาธิปไตยและคอมมี่ที่มีเหมือนกันและตรงกัน
แต่จุดแตกต่างก็คือ วิธีการ(Method) ที่ใช้นั้นแตกต่างกัน


ประชาธิปไตย ใช้หลักการและวิธีการที่เรียกว่า "เสรีนิยม" ใครมีกำลังหาทรัพยากรเท่าใด ตราบเท่าที่ไม่เบียดเบียนหรือแย่งของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง สามารถหาได้เท่าที่ต้องการ โดยไม่ต้องจ่ายค่าคุ้มครองเป็นทรัพยากรให้แก่ใครที่ไม่ใช่รัฐ เพื่อจุดมุ่งหมายสูงสุดคือ "คนเท่ากัน" ใช้กระบวนการกระจายอำนาจ


คอมมิวนิสต์ ใช้หลักการและวิธีการที่เรียกว่า "เสมอภาค" ทรัพยากรทั้งประเทศมีจำกัด ดังนั้นการที่คนหนึ่งใช้ทรัพยากรใดๆก็ย่อมใช้ทรัพยากรของทุกคนทั้งประเทศเหมือนกัน ดังนั้นคนที่ใช้ทรัพยากรมากเพื่อ Generate รายได้ให้แก่ตนเองมาก จำเป็นต้องชดใช้หรือจ่ายทรัพยากรคืนแก่ผู้ที่ไม่ได้ใช้แต่ถูกเอาไปมากตาม เพื่อที่รัฐจะเอาทรัพยากรที่จ่ายคืนมาทำให้"คนเท่ากัน" โดยใช้กระบวนการรวมอำนาจ


ดังนั้นมันคือความเหมือนในความแตกต่าง จริงๆแล้วเนื้อแท้ประชาธิปไตยกับคอมมิวนิสต์เป็นระบบที่ดีทั้งคู่ครับ เพราะมุ่งหมายลดความเหลื่อมล้ำ และทำให้คนเท่ากัน สองระบอบนี้ไม่ใช่ศัตรูกันครับ


อีกเรื่องหนึ่งที่คนเข้าใจผิดจนถึงทุกวันนี้ คอมมิวนิสต์ ไม่เท่ากับ เผด็จการ แค่จุดประสงค์มันก็แตกต่างมากแล้ว
เผด็จการ นั้นมีจุดประสงค์ก็คือ การจัดสรรทรัพยากรทั้งหมดให้แก่คนๆเดียวหรือกลุ่มๆเดียว
ทุนนิยม ไม่เท่ากับ ประชาธิปไตย


ผมอธิบายสั้นๆง่ายๆ คือ Goal + Method
1.ประชาธิปไตย คนเท่ากัน + กระจายอำนาจ (อำนาจเอกชนเหนือรัฐ)
2.คอมมิวนิสต์ คนเท่ากัน + อำนาจรวมศูนย์ (อำนาจรัฐเหนือเอกชน)
3.อนาธิปไตย,ทุนนิยม คนไม่เท่ากัน + กระจายอำนาจ (อำนาจเอกชนเหนือรัฐ)
4.เผด็จการ,ฟาสซิสต์,กษัตริย์,จักรวรรดิ คนไม่เท่ากัน + อำนาจรวมศูนย์ (อำนาจรัฐเหนือเอกชน)


ยิ่งถ้าเราดูความสัมพันธ์ในเชิงของปฏิปักษ์
คอมมิวนิสต์ เป็นศัตรูกับ อนาธิปไตย,ทุนนิยม
ขณะที่ประชาธิปไตย เป็นศัตรูกับ เผด็จการ, กษัตริย์, ฟาสซิสต์


เพิ่มเติมสุดท้ายที่คนเข้าใจระบอบบางประเทศผิด
- จีน เป็น ฟาสซิสต์ ไม่ใช่ คอมมิวนิสต์ (เวียดนามยังมีความใกล้เคียงในคอนเซปคอมมิวนิสต์มากกว่ามาก)
- รัสเซีย นั้นเหมือนจีน คือ เป็นฟาสซิสต์ (รัสเซีญไม่เคยเป็นคอมมิวนิสต์ แม้จะอ้างว่าเป็นลูกพี่คอมมี่ก็ตาม)
- เกาหลีเหนือ ไม่ใช่ คอมมิวนิสต์ หากแต่เป็นระบอบกษัตริย์
- เมกา เป็นลูกผสม ระหว่างทุนนิยม กับ ประชาธิปไตย ไม่ใช่ประชาธิปไตยแท้ (Direct Democracy)
- ประเทศแถบสแกนดิเนเวียและแคนาดาเป็น ประชาธิปไตยผสมกับคอมมิวนิสต์ เรียกว่า ประชาธิปไตยแบบสังคมนิยม (เอาข้อดีของ 2 ระบบมารวมกัน)
- สวิตเซอแลนด์ เป็นหนึ่งในประเทศที่เป็น Semi Direct Democracy ประชาธิปไตยแบบกึ่งสายตรง


หมายเหตุ Direct Democracy (ประชาธิปไตยสายตรง)เต็มรูปแบบนั้นเป็นระบอบที่กระจายอำนาจอย่างสมบูรณ์ (Absolute Decentralized Power)
เป็นระบอบที่ไม่มีคำว่า "รัฐ" ไม่มี "เจ้าหน้าที่ราชการ" ไม่มี "นักการเมือง" ไม่มี"ทหาร" ไม่มี"ตำรวจ"
อำนาจทั้งหมดอยู่ที่ประชาชน ประชาชนจะต้องเป็นทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นนักการเมือง ทุกคนเป็นตำรวจ ทุกคนเป็นทหาร
ไม่มีการเลือกตั้งผู้แทน เพราะไม่มีนักการเมือง ทุกอย่างใช้การลง"ประชามติ" ไปตั้งแต่หน่วยที่เล็กที่สุด คือ "ชุมชน" แล้วขยายสเกลใหญ่ขึ้นเป็นแคว้น ไปจนถึงเป็นประเทศ
เป็นการบริหารแบบ Bottom to Top โดยสมบูรณ์ ไม่ใช่ Top to Bottom แบบที่เราคุ้นชินกัน ที่นายกฯ หรือปธน.ออกนโยบายแล้วระดับล่างกว่าก็รับไปทำ

[pol]

การปกครองมันก็แบ่งง่ายๆเป็นเผด็จการกับเสรีนิยมแค่นั้นแหละครับ เผด็จการก็รวบอำนาจจะเป็นพรรค เป็นตระกูล เป็นบุคคล ฯลฯ ก็เหมือนๆกันที่ไม่กระจายอำนาจให้ประชาชน  เสรีนิยมก็ตรงกันข้าม  แต่ผมว่าคอมมิวนิสต์นี่เป็นลัทธิเพ้อเจ้อที่ไม่มีทางทำได้ในความเป็นจริงครับ เพราะลิงที่ไหนจะยอมสละอำนาจ? ผมเองถ้าอยู่แบบนั้นก็ไม่อยากครับ(ฮา)