นอกเรื่องนิดเน้อ คิดว่าเป็นเพราะอะไรอเมริกาแอนด์สหายถึงยังไม่หนุนอาวุธให้ประชาชนของพม่าครับ?
ในมุมมองของผม ผมเชื่อว่าสาเหตุหลักๆ คือ
1. ความต่างของสงคราม กรณีของเมียนมาร์เป็นสงครามกลางเมือง หากรัฐบาลสหรัฐจะเข้าไปแทรกแซงจะทำให้ถูกมองว่าเข้าไปแทรกแซงกิจการภายในประเทศอื่นเพื่อผลประโยชน์ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่อเมริกันชนประทับใจหรือสนับสนุนด้วยแน่ๆ หลังจากที่สหรัฐพึ่งจะถอนกำลังออกมาจากอัฟกานิสถานกับอิรักหลังไปติดหล่มในสองประเทศนี้นานกว่า 20 ปี
กลับกัน สงครามยูเครนเป็นการรุกรานของชาติมหาอำนาจภายใต้ผู้นำเผด็จการอย่างรัสเซีย ซึ่งเป็นศัตรูของสหรัฐมาช้านาน ใส่ประเทศที่เล็กกว่าอย่างยูเครน อีกทั้งรัฐบาลยูเครนประสบความสำเร็จในช่วงต้นสงครามในการประชาสัมพันธ์ว่ารัสเซียรุกรานประเทศยูเครนเพื่อทำลายอิสรภาพ เสรีภาพ และประชาธิปไตยในยูเครน ทำให้รัฐบาลและประชาชนในชาติตะวันตกสามารถใช้เหตุผลในการสนับสนุนยูเครนเพื่อพิทักษ์เอกราชและอำนาจอธิปไตยของประเทศอื่น
(ยูเครน) จากการรุกรานของชาติจักรวรรดินิยมหัวโบราณ
(รัสเซีย) ได้ง่าย ซึ่งกรณีนี้ไม่ใช่แค่สหรัฐประเทศเดียว แต่รวมถึงประเทศประชาธิปไตยตะวันตกทั้งหมด เช่นสหราชอาณาจักร สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น แคนาดา ออสเตรเลีย หรือไต้หวัน จนเกิดเป็นกระแสสงครามเย็นยุคใหม่ ว่าไม่ใช่การต่อสู้ด้วยอุดมการณ์ทุนนิยม vs. คอมมิวนิสต์แบบในอดีต แต่จะเป็นประชาธิปไตย vs. เผด็จการอำนาจนิยม แทน
2. ความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ยูเครนเป็นหนึ่งในประเทศรัฐกันชน 5 ประเทศ
(ยูเครน มอลโดวา ฟินแลนด์ เบลารุส สวีเดน) ที่กั้นระหว่างรัสเซียกับสหภาพยุโรปและองค์การนาโต้ การที่รัสเซียเข้ามารุกรานยูเครน จึงถูกมองจากสหรัฐและยุโรป
(โดยเฉพาะสหราชอาณาจักรกับประเทศยุโรปตะวันออก) ว่าเป็นการพยายามทำลายสันติภาพของยุโรปที่ดำเนินมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง และเป็นการทำลายเสถียรภาพของยุโรปที่ดำเนินมานับตั้งแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียต ทำให้รัสเซียกลายสภาพเป็นภัยคุกคามอันดับหนึ่งของสหรัฐและชาติยุโรปแทบทั้งหมด ทำให้การสนับสนุนยูเครนเพื่อให้สามารถต่อกรกับรัสเซียได้กลายเป็นเป้าหมายหลักของสหรัฐและชาติพันธมิตรไปในเวลานี้
กลับกัน เมียนมาร์เป็นแค่สงครามกลางเมือง ไม่ว่าฝ่ายรัฐบาลพลเรือนหรือรัฐบาลทหารชนะสงคราม ก็ไม่มีอะไรรับรองว่าจะส่งผลด้านบวกต่อสหรัฐในระดับที่มีนัยยะสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อรัสเซีย-อินเดีย-จีนมีอิทธิพลในเมียนมาร์มากกว่าสหรัฐเยอะ การเข้าไปแทรกแซงกลับจะทำให้สามประเทศนี้กังวลต่อการขยายอำนาจของสหรัฐในภูมิภาค และหันมาจับมือเป็นพันธมิตรกันมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่สหรัฐต้องการให้เกิดขึ้นแต่อย่างใด นอกจากนี้ ปัญหาหลักของสหรัฐในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่ใช่เรื่องในเมียนมาร์ แต่เป็นทะเลจีนใต้กับประเทศพันธมิตรดั้งเดิมของสหรัฐ
(ไทย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์) ซึ่งในระยะหลังเริ่มมีท่าทีเข้าหาจีนมากขึ้นจากการค้า เป้าหมายหลักของสหรัฐในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จึงไม่ใช่การเปิดสงครามตัวแทนในเมียนมาร์ แต่เป็นการพยายามรักษาอิทธิพลเก่าในภูมิภาคให้แข็งแกร่งดังเดิมเพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากจีนมากกว่า
3. วัฒนธรรมและเชื้อชาติ ข้อนี้ง่ายดายที่สุดแล้ว ยูเครนแม้จะเป็นต่างชาติต่างภาษาต่างวัฒนธรรมกับสหรัฐและยุโรปตะวันตก แต่อย่างน้อยพวกเขาก็นับถือพระเจ้าองค์เดียวกัน มีประวัติศาสตร์สมัยใหม่ร่วมกัน มีความสัมพันธ์ในระดับองค์กรนานาชาติร่วมกัน เป็นชนชาติยุโรปผิวขาวเหมือนกัน ทำให้มันง่ายกว่าสำหรับชาวตะวันตกที่จะรู้สึกว่าเหตุการณ์ในยูเครนเป็นเรื่องใกล้ตัว แตกต่างกับสงครามในเมียนมาร์ที่เป็นสงครามกลางเมืองของกลุ่มคนต่างเชื้อชาติ ต่างภาษา ต่างศาสนา ต่างวัฒนธรรม อีกทั้งยังมีปฏิสัมพันธ์กับชาติตะวันตกในเวทีโลกเพียงน้อยนิด ทำให้มันยากกว่ามากที่ชาวตะวันตกจะมีความรู้สึกร่วมไปกับการต่อสู้ของคนเมียนมาร์ และออกจะมองว่าสงครามในเมียนมาร์เป็นเรื่องไกลตัวมากกว่า