เมื่อวานไม่ค่อยมีข่าวอะไรน่าสนใจนัก ผมเลยถือโอกาสอู้สักวัน

แล้วรวบยอดข่าวของเมื่อวานกับวันนี้ไว้ในโพสต์เดียวซะเลย
อัพเดตข่าวยูเครน วันที่ 117-118 ของสงคราม Part 1
1. รายงานจากรัสเซียและยูเครน กล่าวว่ากองทัพยูเครนได้ทำการยิงมิสไซล์โจมตีใส่แท่นขุดเจาะน้ำมัน 3 แท่นของฝ่ายรัสเซียในทะเลดำเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยนายเซอร์เกย์ อัคโซนอฟ (Sergey Aksyonov) ประธานสาธารณรัฐไครเมียของรัสเซีย และนายโอเล็กซีย์ ฮอนชาเรนโก (Oleksiy Honcharenko) สมาชิกรัฐสภายูเครน ต่างรายงานผ่านบัญชีเทเลแกรมส่วนตัว ว่าแท่นขุดเจาะน้ำมันจำนวน 3 แท่นของบริษัทเชอร์โนมอร์เนฟต์แกส (Chernomorneftegaz) รัฐวิสาหกิจด้านการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในทะเลดำของไครเมีย ถูกยิงโจมตีด้วยมิสไซล์จากยูเครน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ขุดเจาะ 5 รายสูญหายในทะเลและ 3 รายได้รับบาดเจ็บ ขณะที่กองทัพรัสเซียกำลังดำเนินการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ที่เหลืออยู่บนแท่นขุดเจาะ จากเจ้าหน้าที่แท่นขุดเจาะทั้งหมด 109 คน
เดิมที แท่นขุดเจาะน้ำมันในทะเลดำและตัวบริษัทเชอร์โนมอร์เนฟต์แกสไม่ใช่ของรัสเซีย แต่เป็นของยูเครนภายใต้ชื่อเดิมว่า “ชอร์โนมอร์นาฟโตกาส” (Chornomornaftogaz) ต่อมาในปี 2014 รัสเซียได้ทำการยึดแท่นขุดเจาะน้ำมันในทะเลดำและแปลงสภาพบริษัท “ชอร์โนมอร์นาฟโตกาส” จากเดิมที่เป็นรัฐวิสาหกิจของยูเครน ให้กลายเป็นของรัสเซียแทนภายใต้ชื่อ “เชอร์โนมอร์เนฟต์แกส”
แท่นขุดเจาะน้ำมันเหล่านี้ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งเมืองท่าโอเดสซา (Odesa) ของยูเครนประมาณ 100 กม. และห่างจากไครเมียของรัสเซียประมาณ 150 กม. ในปัจจุบัน แท่นขุดเจาะน้ำมันในทะเลดำไม่เพียงถูกใช้เพื่อการขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติใต้ทะเลเท่านั้น กองทัพรัสเซียยังได้ดัดแปลงแท่นขุดเจาะเหล่านี้ให้กลายเป็นฐานตรวจการณ์ทางทะเลและฐานป้องกันภัยทางอากาศ โดยการติดตั้งระบบเรดาร์และมิสไซล์ต่อต้านอากาศยาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการตัดขาดทางออกทะเลของยูเครน จึงไม่น่าแปลกใจนักที่ยูเครนจะเลือกโจมตีแท่นขุดเจาะน้ำมันเหล่านี้
2. นายเบน สติลเลอร์ (Ben Stiller) ดาราตลกชื่อดังชาวอเมริกัน ได้เดินทางเยือนยูเครนและเข้าพบปะกับ ปธน.เซเลนสกี้เมื่อวานนี้ ในฐานะทูตสันถวไมตรีสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR Goodwill Ambassador) เพื่อหารือเรื่องความช่วยเหลือแก่ผู้ลี้ภัยสงครามนับล้านคนในยูเครนและโปแลนด์
ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ นายสติลเลอร์พึ่งเดินทางไปเยือนผู้ลี้ภัยชาวยูเครนในโปแลนด์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และได้พูดคุยหารือกับเจ้าหน้าที่ของฝั่งโปแลนด์เรื่องความช่วยเหลือแก่ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนด้วยเช่นกัน
3. นางโอลก้า ทรอฟิมต์เซวา (Olga Trofimtseva) เอกอัครรัฐทูตประจำกระทรวงของยูเครน ได้เปิดเผยตัวเลขการส่งออกธัญพืชของยูเครนในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พบว่ามีตัวเลขการส่งออกอยู่ที่ 1.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับยอดการส่งออกในเดือนเมษายน ซึ่งมีตัวเลขอยู่ที่ 643,000 ตันเท่านั้น
หากนำตัวเลขการส่งออกในเดือนพฤษภาคมมาเปรียบเทียบกับตัวเลขการส่งออกธัญพืชในช่วงเวลาปกติของยูเครน ซึ่งอยู่ที่ 5 ล้านตัน/เดือน จะเห็นได้ว่ายอดการส่งออกธัญพืชปัจจุบันยังอยู่ต่ำกว่ายอดการส่งออกปกติถึง 70% แต่ก็ยังถือว่าเพิ่มขึ้นจากยอดการส่งออกในเดือนเมษายนมากกว่าเท่าตัว ซึ่งนางทรอฟิมต์เซวาได้กล่าวขอบคุณความช่วยเหลือจากประเทศต่างๆ เช่นโปแลนด์ โรมาเนียและเยอรมนี ที่ได้มอบความช่วยเหลือแก่ยูเครนหลายอย่างในการทำให้ยูเครนยังสามารถส่งออกธัญพืชของตนออกสู่ตลาดโลกได้ เช่นการลดขั้นตอนในการเดินทางขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน และการตั้งสถานีรับส่งสินค้าบริเวณชายแดนยูเครน