อัพเดตข่าวยูเครน
1) หลังจากการประชุมในพระราชวังแวร์ซาย ผู้นำชาติต่างๆ ในสหภาพยุโรปตกลงที่จะให้ยูเครนมีสถานะเป็น “ผู้สมัครสมาชิก” (Candidate Status) กล่าวแบบเห็นภาพคือยูเครนผ่านการประเมินเบื้องต้นจากชาติสมาชิกให้สามารถเข้าสมัคร EU ได้ ซึ่งจากนี้ไป ยูเครนและ EU จะร่วมมือ-ประสานงานกันเพื่อพัฒนาและบูรณาการยูเครนให้เข้ากับหลักกฎหมายของสหภาพยุโรป ซึ่งจะใช้เวลาหลายปีหรือแม้แต่เป็นสิบปี แต่อย่างน้อยที่สุด ยูเครนก็ผ่านก้าวแรกของการเข้าร่วมเป็นสมาชิก EU ได้แล้วเรียบร้อย
2) รัฐสภาสหรัฐกำลังอยู่ในระหว่างพิจารณาร่างกฎหมายเพื่อคว่ำบาตรการซื้อ-ขายทองคำสำรองของประเทศรัสเซีย ซึ่งมีมูลค่ารวมกันมากกว่า 130,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยผู้เชี่ยวชาญต่างประเมินว่าเนื่องด้วยค่าเงินรูเบิลของรัสเซียที่อ่อนค่าลงอย่างหนัก จะบีบให้รัสเซียต้องนำทองคำออกมาขายแลกสกุลเงินต่างชาติเพื่อให้สามารถทำการค้ากับต่างประเทศได้
กฎหมายดังกล่าวมีเนื้อหาห้ามบุคคล หรือนิติบุคคลชาวอเมริกาทำการซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนทองคำที่มาจากประเทศรัสเซีย ไม่ว่าในแบบกายภาพ (ทองคำแท่ง ทองคำรูปพรรณ) หรือแบบดิจิตอล (ซื้อ-ขายออนไลน์) รวมถึงกล่าวว่าจะมีบทลงโทษสำหรับ “คนกลาง” ที่ทำการซื้อ-ขายทองคำกับรัสเซีย และนำเงินมาซื้อ-ขายกับสหรัฐอีกทอดหนึ่ง (คงไม่ใช่ใครนอกจากจีน)
? ท่านอ่านที่ผมพิมพ์ให้ดีๆก่อนแล้วค่อยมาโวยครับ
ผมบอกว่าผู้หญิงยูเครนถูกทหารรัสเซียข่มขืนไม่ได้บอกว่าเธอไปสมัครใจนอนกับทหารรัสเซีย
เข้าใจคำว่าข่มขืนใช่ไหมครับ? มันไม่ได้เป็นความยินยอมของเหยื่ออยู่แล้ว สงครามทุกครั้งที่เกิดขึ้นจะมีการปล้น ฆ่า ข่มขืน เกิดขึ้นเสมอ ซึ่งผมก็ไม่ได้เชียร์ให้รบกัน ส่วนเรื่องขายตัวอาจจะมีผู้หญิงบางคนสิ้นหนทางจนต้องไปทำแบบนั้น ซึ่งมันก็ไม่ควรจะเกิดขึ้นถ้าการเจรจาสำเร็จ ผมชอบดูหนังสงคราม ชอบอาวุธยุทโธปกรณ์ แต่ไม่เคยชอบสงครามที่เกิดขึ้นจริงๆครับ
ที่ท่านพิมพ์ไว้มันเป็นแบบนี้นะครับ "ผู้หญิงถูกทหารข่มขืนไปกี่คน ? ขายตัวแลกเงินก็น่าจะเยอะ เวรแท้ๆ"
ผมไม่รู้หรอกว่าท่านมีเจตนาสื่อว่าอะไร หรือกำลังคิดสิ่งใดอยู่ตอนพิมพ์ แต่การใช้ประโยคมันส่อไปในความหมายว่า "ไม่น่าปล่อยให้ถูกข่มขืนฟรีๆ ควรจะเก็บเงินจากทหารที่จะมาข่มขืนซะ อย่างน้อยยังได้เงิน"
ซึ่งมันผิด
ผิดตรรกะ คนที่ถูกข่มขืนไม่ได้สมยอมแต่แรก แล้วจะเขาไปเก็บเงินค่าตัวทำไม
ผิดจริยธรรม ไม่ต้องพูดอะไรมาก การข่มขืนมันเป็นเรื่องผิดอยู่แล้ว
ผิดหลักความเป็นจริง
1) ทหารรัสเซียที่มาเขามาเพื่อ “รุกราน” ไม่ใช่มาเที่ยวแบบพัทยา เหตุที่เกิดขึ้นจึงถือเป็นการผิดหลักมนุษยธรรม และกฎการปฏิบัติในสงคราม (แน่นอนว่าความเป็นจริงอีกข้อหนึ่งคือการข่มขืนเกิดขึ้นเป็นปกติในสงคราม แต่การที่มันเป็นสิ่งปกติไม่ได้แปลว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เป็นสิ่งที่เราควรสืบทอดต่อไปยังลูกหลาน หรือเป็นสิ่งที่เราไม่ควรแก้ไข)
2) เงินไม่ใช่สิ่งจำเป็นยามต้องเอาตัวรอดในภาวะสงคราม ปัจจัย 4 ต่างหากที่สำคัญ ซึ่งคนที่ทำลายปัจจัย 4 เหล่านี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นทหารรัสเซียเอง เพราะทหารยูเครนไม่มีความจำเป็นใดที่จะต้องทำลายบ้านของตัวเองอยู่แล้ว
3) ค่าเงินรูเบิลรัสเซียกำลังอ่อนค่าลงอย่างรุนแรง ฉะนั้นต่อให้ขายตัวให้ทหารรัสเซียมากแค่ไหน เงินที่ได้มาก็แทบจะไร้ค่าอยู่ดี
หากท่านไม่ได้เจตนาสื่อความหมายในแบบที่ผมคิด ผมก็ต้องขออภัยท่านด้วยหากทำให้เสียบรรยากาศในกระทู้
แต่ว่า ผมก็ขอแนะนำให้ท่านตรวจทานประโยคให้ดีก่อนโพสต์ด้วย มิเช่นนั้นจะทำให้ผู้อื่นเข้าใจความหายของท่านผิดไปได้