แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: Collectivism กลุ่มนิยม ปัญหาของคนญี่ปุ่นและคนเอเชีย  (อ่าน 1749 ครั้ง)

ออฟไลน์ richter

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • แม่ทัพหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 2,156
  • ถูกใจแล้ว: 1349 ครั้ง
  • ความนิยม: +52/-25
คลิปนี้พูดถึงระบบสังคมของญี่ปุ่นได้เห็นภาพและเข้าใจง่ายมาก จนหลายๆ ที่เรางงกันเช่นว่าทำไมบริษัทญี่ปุ่นทำตลาดโลกไม่ค่อยเป็นนั้นเพราะอะไร  :-X
หลายประเทศในเอเชียเองก็ยังมีเค้ารางของกลุ่มนิยมนี้อยู่
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: sariora123

ออฟไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 13,524
  • ถูกใจแล้ว: 5439 ครั้ง
  • ความนิยม: +448/-445
Re: Collectivism กลุ่มนิยม ปัญหาของคนญี่ปุ่นและคนเอเชีย
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2021, 09:17:44 PM »
ก็อย่างที่ผม เคยบ่นๆ ไว้แหละว่า ญี่ปุ่นมันแปลกๆ นี่แหละชาตินิยมหรือใช้อะไรแบบแนวคิดเก่าๆ จนจะพาตัวเองชิบหายนี่แหละ ไม่ใช่ว่าไม่มีพวกพัฒนาตัวเองอ่ะนะ แต่มันส่วนน้อย
แนวคิดบางอย่างมันฝังแน่นซะจน เฮ้อ 




ญี่ปุ่นน่ะไม่เท่าไร แต่ไอ้ที่แปลกใจ คือจีนนี่ก็อยากจะเลียนแบบบ้าง เอาตามสบายเลยล่ะกัน
 

ออฟไลน์ providence_gundam

  • ยอดขุนพลหมี
  • *****
  • กระทู้: 5,200
  • ถูกใจแล้ว: 2520 ครั้ง
  • ความนิยม: +348/-417
  • เพศ: ชาย
Re: Collectivism กลุ่มนิยม ปัญหาของคนญี่ปุ่นและคนเอเชีย
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2021, 09:29:44 PM »
ก็อย่างที่ผม เคยบ่นๆ ไว้แหละว่า ญี่ปุ่นมันแปลกๆ นี่แหละชาตินิยมหรือใช้อะไรแบบแนวคิดเก่าๆ จนจะพาตัวเองชิบหายนี่แหละ ไม่ใช่ว่าไม่มีพวกพัฒนาตัวเองอ่ะนะ แต่มันส่วนน้อย
แนวคิดบางอย่างมันฝังแน่นซะจน เฮ้อ 




ญี่ปุ่นน่ะไม่เท่าไร แต่ไอ้ที่แปลกใจ คือจีนนี่ก็อยากจะเลียนแบบบ้าง เอาตามสบายเลยล่ะกัน


มันแปลกตรงทั้งๆที่เป็นแบบนั้น ยังมีคนคอย support อยู่อีกเยอะด้วย อารมณ์ติดลมบนไปแล้ว แต่ก็ไม่สามารถกระเตื้องไปมากกว่านี้ได้


อาจเป็นเพราะอเมริกา ไฮท์ ฮิตเลอร์ ::)
คนที่ชอบ FF7 มักมีแต่คนที่สมองไม่พัฒนา
 

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,140
  • ถูกใจแล้ว: 3060 ครั้ง
  • ความนิยม: +210/-3
Re: Collectivism กลุ่มนิยม ปัญหาของคนญี่ปุ่นและคนเอเชีย
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2021, 06:41:48 AM »
ก็อย่างที่ผม เคยบ่นๆ ไว้แหละว่า ญี่ปุ่นมันแปลกๆ นี่แหละชาตินิยมหรือใช้อะไรแบบแนวคิดเก่าๆ จนจะพาตัวเองชิบหายนี่แหละ ไม่ใช่ว่าไม่มีพวกพัฒนาตัวเองอ่ะนะ แต่มันส่วนน้อย
แนวคิดบางอย่างมันฝังแน่นซะจน เฮ้อ 




ญี่ปุ่นน่ะไม่เท่าไร แต่ไอ้ที่แปลกใจ คือจีนนี่ก็อยากจะเลียนแบบบ้าง เอาตามสบายเลยล่ะกัน


เขาใช้แล้วได้ผลดีมาก่อนนะเออ
ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้
เขามาจากประเทศแพ้สงครามจนถึงแนวหน้าของโลกด้วยพลังชาตินิยมเลยนะเออ


อย่างญี่ปุ่นก็รู้ๆกัน เกาหลีก็ใช้พัฒนาแข่งกับญี่ปุ่น
จีนก็ใช้มาตลอดจนขึ้นอันดับ 2 ของโลกด้านเศรษฐกิจไปละ


อเมริกาก็ใช้  แต่ใช้แบบศัตรูของชาติแทน
ตาลีบันฆ่าคนฆ่าทหารเมกาหรอ ไร้สาระ
ตกเทรนไปแล้ว ยุคนี้มันต้องเล่นจีน บ่อเกิดแห่งความชั่วร้ายตัวเชื้อโรค ตัวขี้โกง ;D


ไปดูข่าว ทวีปอเมริกา กลาง ใต้ กำลังลดการใช้ usd
ไปถือ btc แทน


ถ้าจำไม่ผิด อัตราการถือครอง usd ของธนาคารกลางประเทศต่างๆลดลง 20-40%นี่แหล่ะ
คือจำตัวเลขตั้งต้นไม่ได้


แต่หลายๆประเทศแห่ซื้อทองสะสมทองกันแทน usd


ความโกงของการพิมพ์เงินเองคือ
เงินไว้สร้างงาน สร้างกำลังการผลิตให้ประเทศเจริญก้าวหน้า


เงินเฟ้อคือการทำให้มูลค่าเงินลดลง
แล้วเมกาก็ตั้งใจทำให้ประเทศเงินเฟ้อทุกปี
เพราะเป็นการดูดความมั่งคั่งจากผู้ถือครองดอลล่า

อย่างกู้หนี้ 1000 ล้าน ถ้ารถกำไรคันละ 1 ล้าน ต้องสร้างรถมา 1000 คันมาขายใช้หนี้
แต่กว่าจะคืนหนี้ 1 ปีเงินเฝ้อไป 5% รถราคาเพิ่มไป 5%
แปลว่าจำนวนรถที่ต้องขายจะลดลง 50 คัน :o

เงินเฟ้อในไทย คือดูดความมั่งคั่งของคนที่ฝากเงินบาท


แต่ usd ใช้ทั่วโลก แปลว่าที่เมกาอัดฉีดเงินจนเงินเฟ้อรอบนี้
คือเมกาดูดกลืนความมั่งคั่งจากทุกประเทศที่ถือครอง usd  :(

มีข่าว amazon ดันไปทำให้เงินเฟ้อไม่เพิ่มตามที่ รบ.ต้องการ เจอเรียกปรับทัศนคติเลย ;D

จนมีคนเขาแซวๆกันเลยถ้าไม่กลัวค่าเงินพัง เมกาคงทำให้เงินเฟ้อปีละ 10% ไปละ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 30, 2021, 07:00:57 AM โดย deaddy »
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: daijobu, nosta

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,468
  • ถูกใจแล้ว: 3133 ครั้ง
  • ความนิยม: +193/-432
Re: Collectivism กลุ่มนิยม ปัญหาของคนญี่ปุ่นและคนเอเชีย
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2021, 09:13:41 AM »
ขอบคุณครับ
ผมจำได้ว่าแนวไซเบอร์พังก์หลายคนอาจจะลืมไปแล้วแต่ที่มาของแนวไซเบอรืพังก์คือจากคนอมเริกา กลัวความก้าวหน้าของญี่ปุ่นในยคก่อนหน้านี้น่ะครับ
ว่าอัตราการเติบโตอย่างนี้ญี่ปุ่นต้องครองโลกอย่างแน่นอน
สุดท้ายอัตราการเติบโตก็มีจำกัด
จีนอาจจะพยายาไม่พลาดอย่างญี่ปุ่น ที่เริ่มเข้ายุคจักรวรรดินิยมเหมือนกันแล้ว
สังเกตจากแนวทางนิยาย เริ่มมีแนวคิดไปทำอาณานิคมเพื่อชิงทรัพยากรจากประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น

หารู้ไม่ว่า ทำแบบอเมริกาที่ปั๊มแบ้งก์ใช้เองนั้นสบายกว่าการไปยึดอาณานิคมที่ต้องสู้กับพวกชนพื้นเมืองอะไรต่างๆอีก
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: deaddy

ออฟไลน์ Wannabe

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 262
  • ถูกใจแล้ว: 131 ครั้ง
  • ความนิยม: +4/-13
Re: Collectivism กลุ่มนิยม ปัญหาของคนญี่ปุ่นและคนเอเชีย
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2021, 10:38:22 AM »
ขอบคุณครับ
ผมจำได้ว่าแนวไซเบอร์พังก์หลายคนอาจจะลืมไปแล้วแต่ที่มาของแนวไซเบอรืพังก์คือจากคนอมเริกา กลัวความก้าวหน้าของญี่ปุ่นในยคก่อนหน้านี้น่ะครับ
ว่าอัตราการเติบโตอย่างนี้ญี่ปุ่นต้องครองโลกอย่างแน่นอน
สุดท้ายอัตราการเติบโตก็มีจำกัด
จีนอาจจะพยายาไม่พลาดอย่างญี่ปุ่น ที่เริ่มเข้ายุคจักรวรรดินิยมเหมือนกันแล้ว
สังเกตจากแนวทางนิยาย เริ่มมีแนวคิดไปทำอาณานิคมเพื่อชิงทรัพยากรจากประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น

หารู้ไม่ว่า ทำแบบอเมริกาที่ปั๊มแบ้งก์ใช้เองนั้นสบายกว่าการไปยึดอาณานิคมที่ต้องสู้กับพวกชนพื้นเมืองอะไรต่างๆอีก


สิ่งที่อเมริกาบังคับขอให้ญี่ปุ่นทำให้ในขณะนั้น  ในขณะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังเติบโต
อย่างก้าวกระโดดก็คือ  ขอให้ญี่ปุ่นทำให้ค่าเงินตัวเองแข็งขึ้น  เพื่อให้สินค้าญี่ปุ่นมีราคาแพงขึ้น
ในสมัยเมื่อหลายสิบปีก่อนหน้านี้  ราวปี80กลางๆหล่ะมั้ง??  จนทำให้สินค้าญี่ปุ่นไม่สามารถ
แข่งขันในตลาดได้ง่าย  (สมัยก่อนสินค้าญี่ปุ่นก็เหมือนสินค้าจีนสมัยเมื่อสิบปีก่อนนี้  ที่สินค้าจีน
มีที่ยืนแล้วแย่งตลาดมาได้  ก็เพราะราคาสินค้าที่ถูกแต่คุณภาพห่วย  ญี่ปุ่นสมัยก่อนก็เป็นเช่นกัน)
จนเป็นเหตุให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นสะดุดไร้การเติบโต(รวมทั้งไร้เงินเฟ้อ)เป็นเวลาหลายสิบปี 
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: richter

ออฟไลน์ richter

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • แม่ทัพหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 2,156
  • ถูกใจแล้ว: 1349 ครั้ง
  • ความนิยม: +52/-25
Re: Collectivism กลุ่มนิยม ปัญหาของคนญี่ปุ่นและคนเอเชีย
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2021, 10:59:22 AM »
ก็อย่างที่ผม เคยบ่นๆ ไว้แหละว่า ญี่ปุ่นมันแปลกๆ นี่แหละชาตินิยมหรือใช้อะไรแบบแนวคิดเก่าๆ จนจะพาตัวเองชิบหายนี่แหละ ไม่ใช่ว่าไม่มีพวกพัฒนาตัวเองอ่ะนะ แต่มันส่วนน้อย
แนวคิดบางอย่างมันฝังแน่นซะจน เฮ้อ 




ญี่ปุ่นน่ะไม่เท่าไร แต่ไอ้ที่แปลกใจ คือจีนนี่ก็อยากจะเลียนแบบบ้าง เอาตามสบายเลยล่ะกัน 
กลุ่มนิยมมันลงรากลึกกว่าชาตินิยมเยอะครับ
ตัวอย่างที่เห็นได้ทั่วไปของสังคมที่มีเค้าลางของกลุ่มนิยมก็เช่นการเปรียบเทียบลูกตัวเองกับลูกเพื่อนบ้าน
ถ้าลูกทำนู่นนี่นั่นและไม่ทำนี่นั่นนู่นจะทำให้พ่อแม่ขายหน้าอับอายแก่ชุมชนสังคมเพื่อนฝูงเป็นต้น

ที่จีนต้องการทำบ้างนั้นผมคิดว่าเพราะกลุ่มนิยมนั้นเป็นรูปแบบที่สร้างเสถียรภาพในการเมืองการปกครองได้มากที่สุด
ในคลิปเองก็ได้ยกตัวอย่างช่วงที่ญี่ปุ่นนั้นสงบสุขยาวนานกว่า 200 ปี ไร้ซึ่งสงครามภายใน
แต่แลกมาด้วยการหยุดนิ่งในการพัฒนาใดๆ แช่แข็งชาติกว่า 200 ปี

คนในระบบนี้ต้องไปพัฒนาทักษะด้านการอ่านบรรยกาศ อ่านสีหน้าหัวหน้า เพื่อการเอาตัวรอดในกลุ่มแทนที่จะพัฒนาความสามารถที่จะพัฒนาทางศาสตร์และศิลป์อื่น
ในคลิปได้พูดถึงและยกตัวอย่างอธิบายถึงเหตุและผลของสภาพวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่นในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

[quote/]


เขาใช้แล้วได้ผลดีมาก่อนนะเออ
ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้
เขามาจากประเทศแพ้สงครามจนถึงแนวหน้าของโลกด้วยพลังชาตินิยมเลยนะเออ


อย่างญี่ปุ่นก็รู้ๆกัน เกาหลีก็ใช้พัฒนาแข่งกับญี่ปุ่น
จีนก็ใช้มาตลอดจนขึ้นอันดับ 2 ของโลกด้านเศรษฐกิจไปละ


อเมริกาก็ใช้  แต่ใช้แบบศัตรูของชาติแทน
ตาลีบันฆ่าคนฆ่าทหารเมกาหรอ ไร้สาระ
ตกเทรนไปแล้ว ยุคนี้มันต้องเล่นจีน บ่อเกิดแห่งความชั่วร้ายตัวเชื้อโรค ตัวขี้โกง ;D


ไปดูข่าว ทวีปอเมริกา กลาง ใต้ กำลังลดการใช้ usd
ไปถือ btc แทน


ถ้าจำไม่ผิด อัตราการถือครอง usd ของธนาคารกลางประเทศต่างๆลดลง 20-40%นี่แหล่ะ
คือจำตัวเลขตั้งต้นไม่ได้


แต่หลายๆประเทศแห่ซื้อทองสะสมทองกันแทน usd


ความโกงของการพิมพ์เงินเองคือ
เงินไว้สร้างงาน สร้างกำลังการผลิตให้ประเทศเจริญก้าวหน้า


เงินเฟ้อคือการทำให้มูลค่าเงินลดลง
แล้วเมกาก็ตั้งใจทำให้ประเทศเงินเฟ้อทุกปี
เพราะเป็นการดูดความมั่งคั่งจากผู้ถือครองดอลล่า

อย่างกู้หนี้ 1000 ล้าน ถ้ารถกำไรคันละ 1 ล้าน ต้องสร้างรถมา 1000 คันมาขายใช้หนี้
แต่กว่าจะคืนหนี้ 1 ปีเงินเฝ้อไป 5% รถราคาเพิ่มไป 5%
แปลว่าจำนวนรถที่ต้องขายจะลดลง 50 คัน :o

เงินเฟ้อในไทย คือดูดความมั่งคั่งของคนที่ฝากเงินบาท


แต่ usd ใช้ทั่วโลก แปลว่าที่เมกาอัดฉีดเงินจนเงินเฟ้อรอบนี้
คือเมกาดูดกลืนความมั่งคั่งจากทุกประเทศที่ถือครอง usd  :(

มีข่าว amazon ดันไปทำให้เงินเฟ้อไม่เพิ่มตามที่ รบ.ต้องการ เจอเรียกปรับทัศนคติเลย ;D

จนมีคนเขาแซวๆกันเลยถ้าไม่กลัวค่าเงินพัง เมกาคงทำให้เงินเฟ้อปีละ 10% ไปละ 
ชาตินิยมนี่ผมคิดว่าทุกประเทศใช้กันหมด แต่กลุ่มนิยมนี่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
อย่างในความก้าวหน้าของจีน ญี่ปุ่น เกาหลี เราแทบไม่รู้หรือไม่ได้ยินถึงคนที่เป็นต้นคิดของความก้าวหน้านั้นๆ เลย
มีเพียงชื่อกลุ่มองค์กรหรือชื่อหัวหน้ากลุ่มองค์กร เท่านั้นเพราะกลุ่มนิยมนั้นไม่ให้ค่ากับปัจเจกบุคคลภายในแต่เน้นสำคัญที่เสถียรภาพของกลุ่ม
คำกล่าวที่ว่าโดดเด่นมักเป็นภัย หรือ ไม้สูงลู่ลม(a tall tree attracts the wind) เป็นตัวอย่างของกลุ่มนิยมที่เน้นเสถรียรภาพมากกว่า
ถ้าไอสไตล์หนีไปอยู่ในสังคมกลุ่มนิยมแล้วล่ะก็เราคงไม่ได้ยินชื่อของเขาเป็นอย่างแน่ครับ

เรื่องเงินเฟ้อนี้คุยกันยาวล่ะครับ แต่โดยภาพรวมแล้วผมมองว่าเงินเฟ้อดีกว่าเงินฝืด
เงินเฟ้อพลักดันให้คนหาเงินเพิ่ม(กดดันผู้บริโภค) ส่วนเงินฝืดพลักดันให้กิจการลดต้นทุนเพิ่มผลิตภัณฑ์(กดดันผู้ผลิตและให้บริการ)
ปัญหาเงินฝืดมันอยู่ตรงที่ผู้บริโภคนั้นสามารถเป็นผู้ผลิตได้แต่ผู้ผลิตขาดทุนปิดกิจการแล้วกลายเป็นผู้บริโภคนั้นจะหารายได้อย่างไร
เพราะกิจการที่ปิดไปคือลดต้นทุนแล้วแต่ก็ยังไม่รอดซึ่งต้นทุนแรกที่ลดกันส่วนใหญ่ก็คือค่าแรงคนงานซึ่งก็เป็นการลดรายได้ของผู้บริโภค
จนสุดท้ายเงินส่วนใหญ่หายไปจากระบบเนื่องจากคนเน้นเก็บเงินไว้ไม่เอามาใช้ทำให้กระแสเงินสดในระบบเศรษฐกิจชะงักงันในที่สุด

ตรงกันข้ามกับเงินเฟ้อซึ่งค่าของเงินลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากมีการพิมพ์เงินเพิ่มเรื่อยๆ
(แม้แต่ทองที่ได้จากการขุดเหมืองขึ้นมาใหม่เองก็ทำให้เกิดเงินเฟ้อเช่นกันเหมือนกับกรณีที่บริษัทในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มจำนวนหุ้นแทนการแตกพาร์ทหุ้นเดิม)
ทำให้การเก็บเงินไว้แบบสภาวะเงินฝืดกลายเป็นลายน้ำพริกลงแม่น้ำ
ทำให้คนต้องเอาเงินมาใช้ในระบบเพื่อรักษามูลค่าของสินทรัพย์ที่ถือครองเอาไว้
Currency และ Current Balance นั้นถูกเรียกอย่างมีความหมายถึงนัยยะและความเกี่ยวเนื่อง

ที่ทำให้คนสับสนในเรื่องเงินนั้นผมคิดว่าเป็นการที่เอา "เงินตรา" ซึ่งหมายถึงสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนโดยไม่สูญเสียมูลค่าระหว่างการแลกเปลี่ยน
และ "เงินตรา" ซึ่งหมายถึงสินทรัพย์ซึ่งสามารถถือครองซื้อขาย "เก็งกำไรได้"
ดังนี้ "เงินตรา" นั้นจึงเป็น "สื่อกลางในการแลกเปลี่ยนโดยไม่สูญเสียมูลค่าระหว่างการแลกเปลี่ยน" แต่ "มีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าระหว่างการถือครอง"

หากมองอีกมุมหนึ่งก็จะเห็นได้ว่าการถือครองเงินตรานั้นก็คล้ายกับการถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์หรือบิตคอยต์
เพียงแต่อัตราความเปลี่ยนแปลงของมูลค่าเงินตรานั้นน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับหุ้นและบิตคอยต์
ถ้ามองเป็นหุ้นก็เป็นหุ้นบลูชิปที่ค่อยๆ ดิ่งลงอย่างช้าๆ ซึ่งถ้าขายช็อตนั้นดันต้องเสียดอกเบี้ยระหว่างที่รอขายคืน

ดังนี้ต่อให้ไม่มีมะกันมันก็ต้องเฟ้อเพื่อให้เศรษฐกิจทุนนิยมเดินหน้าต่อไปครับ

ขอบคุณครับ
ผมจำได้ว่าแนวไซเบอร์พังก์หลายคนอาจจะลืมไปแล้วแต่ที่มาของแนวไซเบอรืพังก์คือจากคนอมเริกา กลัวความก้าวหน้าของญี่ปุ่นในยคก่อนหน้านี้น่ะครับ
ว่าอัตราการเติบโตอย่างนี้ญี่ปุ่นต้องครองโลกอย่างแน่นอน
สุดท้ายอัตราการเติบโตก็มีจำกัด
จีนอาจจะพยายาไม่พลาดอย่างญี่ปุ่น ที่เริ่มเข้ายุคจักรวรรดินิยมเหมือนกันแล้ว
สังเกตจากแนวทางนิยาย เริ่มมีแนวคิดไปทำอาณานิคมเพื่อชิงทรัพยากรจากประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น

หารู้ไม่ว่า ทำแบบอเมริกาที่ปั๊มแบ้งก์ใช้เองนั้นสบายกว่าการไปยึดอาณานิคมที่ต้องสู้กับพวกชนพื้นเมืองอะไรต่างๆอีก
 
เงินคนอื่นเขาเอาทองหรือแร่ที่มีคนให้ค่าหนุน แต่มะกันหนุนเงินตราตัวเองด้วยกำลังทางการทหารและเศรษฐกิจ
อัตราการเติบโตของเงินตราถูกจำกัดด้วยจำนวนทองและแร่มีค่าครับ มะกันเป็นหลุมดำทางการเงินเพราะขายอะไรไปก็มีเงินจ่ายกลับมาได้เนื่องจากปั้มเงินเอง
ถ้าทุกประเทศใช้ทองและแร่มีค่าค้ำซึ่งไม่มีการเพิ่มจำนวนขึ้นแล้วก็จะทำให้เกิดสภาวะเงินฝืดระดับโลกในที่สุดครับ
คนรวยก็จะดองเงินจนของถูกมากๆ แล้วค่อยๆ ทะยอยนำออกมาใช้เหมือนพวกช้อนหุ้นช้อนบิตคอยตอนถูกแล้วค่อยๆ ปล่อยขายตอนแพง

ออฟไลน์ Wannabe

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 262
  • ถูกใจแล้ว: 131 ครั้ง
  • ความนิยม: +4/-13
Re: Collectivism กลุ่มนิยม ปัญหาของคนญี่ปุ่นและคนเอเชีย
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2021, 11:15:01 AM »
เรื่องมันนี่เกม(เกมทางการเงิน)  ต้องยกให้ยิวเก่งสุด  ยิวคือผู้สร้างเกมให้ชาวโลกเล่นตามเกมที่
พวกเขากำหนด  นำกระแสทุนให้ไหลมากองที่พวกเขา


อย่างเช่นคำที่กำหนดให้ค่าเงินผูกกับทองก็อเมริกา(หล่ะมั้ง  ถ้าจำไม่ผิด  แต่จำได้ว่า  น่าจะยุค
ลินคอนเปล่าหว่า  ที่กำหนดให้ค่าเงินดอลมีค่าเป็นทอง)  แล้วพอราวๆต้นทศวรรษ70กว่าๆ  ก็
ไม่ไหวหล่ะตอนนั้นอเมริกาก็เละเทะมาก  จนถึงขั้นขูดรีดทองเพื่อมารักษาเสถียรภาพเงินดอลล์


แล้วจะทำยังไงหล่ะทีนี้  ทุกคนกำลังเทขายดอลล์  เพราะดอลล์ไปผูกติดกับทอง  แต่อเมริกา
ไม่มีทอง  จะทำยังไงให้ทุกคนเลิกเทขายทอง  ยังคงต้องเอาดอลล์เก็บไว้ในท้องพระคลัง
ยิวก็เลยให้อเมริกาไปป่วนบ่อน้ำมัน  หนุนจนเด็กสร้างตนเองเป็นใหญ่  ซึ่งนั่นก็คือซาอุฯ
แล้วบังคับโดยยอมแลกกับการปกป้อง  โดยบอกว่าต่อแต่นี้น้ำมันจะต้องทำการซื้อขายด้วย
ดอลล์อเมริกาเท่านั้น


นับจากนั้นมา  ทั่วโลกจึงทำการซื้อขายน้ำมันด้วยดอลล์  ทุกคนต้องมีดอลล์เอาไว้ในมือ
ไม่เทเงินดอลล์ออกจากท้องพระคลัง  เพราะทุกประเทศจำต้องใช้น้ำมัน  ยิวเก่งมั๊ยหล่ะ
 :P :P


ตอนนี้มันนี่เกมกำลังจะเปลี่ยนไป  อเมริกาต้องทำยังไงให้ทุกคนยังคงถือกระดาษเปล่า
ที่เรียกว่าดอลล์ต่อไป  ก็บิทคอยน์ไง  อันนี้เขาลือกันนะ  จีนไม่เล่นเกมนี้  สั่งแบนบิทคอยน์
แล้วตอนนี้อเมริกาก็พยายามทยอยดูแลตลาดพันธบัตรตัวเอง  ถ้ามีเยอะไปในตลาด  ก็
ทยอยซื้อคืน  เพื่อรักษาเสถียรภาพ


บวกกับการไปเที่ยวบังคับให้ประเทศต่างๆให้ถือค่าสกุลเงินตนเองเอาไว้  แม้แต่จีนก็ยัง
โดนอเมริกาบังคับเบย~

 ;D
 

ออฟไลน์ richter

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • แม่ทัพหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 2,156
  • ถูกใจแล้ว: 1349 ครั้ง
  • ความนิยม: +52/-25
Re: Collectivism กลุ่มนิยม ปัญหาของคนญี่ปุ่นและคนเอเชีย
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2021, 11:44:14 AM »
ถ้าอย่างงั้นอีกหน่อยมะกันคงต้องทำแผงโซล่าอวกาศไปบังแสงอาทิตย์มั้งครับ ใครไม่จ่ายไม่ได้แสงแดด  ;D

เรื่องจีนผมมองว่าจีนต้องการจะกระชับวงล้อมในการควบคุมจัดการสินทรัพย์ของชาติมากกว่า
ถ้าคนจีนหาเงินทางง่ายหมดแล้วพรรคคอมมิวนิสจีนจะคุมยังไง ประชาชนคือสินทรัพย์ของพรรค
ดูตอนนี้สิครับไล่พวกรวยๆ ตั้งแต่แจ็คหม่าที่พยายามหลุดการควบคุมไปจนถึงขาใหญ่ธุรกิจต่างๆ
ไม่แน่เราอาจจะได้เห็นการปฏิวัติทางวัฒนธรรมเวอร์ชั่น 2.0 ก็เป็นได้

หากท่านชมคลิปที่ผมได้วางไว้ ณ ต้นกระทู้นี้ก็จะพอเห็นแนวทางเดียวกันนี้ที่บูชิโดญี่ปุ่นได้ล้างสมองคนเพื่อเสถียรภาพจนแช่แข็งชาติได้เป็น 200 กว่าปี
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: GoldDigger

ออฟไลน์ GoldDigger

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 272
  • ถูกใจแล้ว: 126 ครั้ง
  • ความนิยม: +6/-12
Re: Collectivism กลุ่มนิยม ปัญหาของคนญี่ปุ่นและคนเอเชีย
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2021, 12:04:27 PM »
ถ้าอย่างงั้นอีกหน่อยมะกันคงต้องทำแผงโซล่าอวกาศไปบังแสงอาทิตย์มั้งครับ ใครไม่จ่ายไม่ได้แสงแดด  ;D

เรื่องจีนผมมองว่าจีนต้องการจะกระชับวงล้อมในการควบคุมจัดการสินทรัพย์ของชาติมากกว่า
ถ้าคนจีนหาเงินทางง่ายหมดแล้วพรรคคอมมิวนิสจีนจะคุมยังไง ประชาชนคือสินทรัพย์ของพรรค
ดูตอนนี้สิครับไล่พวกรวยๆ ตั้งแต่แจ็คหม่าที่พยายามหลุดการควบคุมไปจนถึงขาใหญ่ธุรกิจต่างๆ
ไม่แน่เราอาจจะได้เห็นการปฏิวัติทางวัฒนธรรมเวอร์ชั่น 2.0 ก็เป็นได้

หากท่านชมคลิปที่ผมได้วางไว้ ณ ต้นกระทู้นี้ก็จะพอเห็นแนวทางเดียวกันนี้ที่บูชิโดญี่ปุ่นได้ล้างสมองคนเพื่อเสถียรภาพจนแช่แข็งชาติได้เป็น 200 กว่าปี

เท่าที่ฟังคนจีนมา  ทั้งเอกชนจีนที่โอดครวญและก็ทั้งทัศนคติเจ้าหน้าที่จีนต่อทรัพย์สินเอกชน
ทางรัฐจีนเห็นว่า  ทรัพย์สินทุกอย่างเป็นของภาครัฐ  เอกชนจีนคือหนึ่งในฟันเฟือง  คล้ายๆเป็น
ทหารที่ต่อสู้รบในภาคธุรกิจ


รัฐจีนไม่ต้องการไล่เอกชนจีน  ซ้ำยังต้องการเชิญชวนเหล่าหัวเฉียว(จีนโพ้นทะเล)  ให้มาช่วยกัน
ทำให้จักรวรรดิจีนยิ่งใหญ่  รัฐจีนยังไงๆก็มีแนวคิดคอมมิวฯติดปลายนวม  ยังคงมีกลิ่นอายคอมมิวฯ
บางอย่างเช่นการที่รัฐจีนกระทำต่อแจ็กหม่า  นั่นก็เพราะแจ็กหม่ากำลังจะยุ่งในเรื่องภาคการเงิน
ภาคไฟแนน 


แจ็กหม่าต้องการการให้ประชาชนเข้าถึงเงินทุนได้ง่ายเกินไป  ซึ่งมันเป็นดาบสองคม  คงคล้ายๆ
เหตุการณ์กองทุนหมู่บ้านหนึ่งล้านที่ให้ใครก็ได้ME้ได้ง่ายๆในวงเงินห้าหมื่นบาท  ในสมัยก่อนนั่นแหละ
ที่ถ้าประชาชนเข้าถึงทุนได้ง่าย  แต่ไม่มีศักยภาพเพียงพอในการใช้คืนทุน  ไม่มีวินัยการเงินที่ดี
มันจะดาบนั้นคืนสนอง  เพราะมันเป็นดาบสองคมที่ออกหัวออกก้อยได้ทั้งนั้น  อยู่ที่ว่าคนที่ME้ดีเลว


ในเรื่องการลงโทษแจ็กหม่า  อันนี้เห็นด้วยกับรัฐจีนนะ  คงคล้ายๆไทยสมัยก่อนที่ได้ยกเลิกกองทุน
หมู่บ้าน  หล่ะมั้ง  ส่วนอะไรอีกนะ  อ้อ  เกี่ยวกับด้านข้อมูลส่วนบุคบคก็ด้วย  ตอนนี้รัฐจีนกำลัง
เข้มงวดสุดๆ  ด้วยวลีที่ว่า  "ข้อมูลส่วนบุคคลถือเป็นส่วนบุคคลอันควรปกป้อง  แอปใดหรือกิจการใด
ไม่สามารถเข้าถึงหรือใช้ประโยชน์เหล่านี้  ถ้าไม่ได้รับความเห็นชอบจากเจ้าของบุคคลนั้น"  ราวๆนี้
ซึ่งมีวงเล็บว่า  ยกเว้นรัฐบาล  ฮา 


แต่อันนี้ก็เข้าใจได้นะ  ประมาณว่า  รัฐจีนก็พยายามปกป้องสิทธิประชาชน  ปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
ของประชาชน  ไม่ให้บริษัทเอกชนหรือใครๆเอาไปละเมิด  เขาปกป้องพลเรือนพวกเขา  ไม่ใช่ว่ารัฐจีน
จะไม่ปกป้อง  อันนี้น่าชื่นชม  เพียงแต่จีนต่างจากฝรั่งหน่อยก็คือ  ฝรั่งนั้นแม้แต่ภาครัฐก็ไม่สามารถควร
ที่จะเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน  แต่รัฐจีนถือว่ารัฐต้องเข้าถึงข้อมูลพวกนี้ได้แต่เอกชนห้าม
 

ออฟไลน์ pol

  • สาวกผู้สนับสนุนเซนนิคุง2Y
  • จอมทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 17,728
  • ถูกใจแล้ว: 20732 ครั้ง
  • ความนิยม: +367/-7
  • เพศ: ชาย
  • นักอู้มือหนึ่ง
Re: Collectivism กลุ่มนิยม ปัญหาของคนญี่ปุ่นและคนเอเชีย
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2021, 04:07:32 PM »
ถ้าอย่างงั้นอีกหน่อยมะกันคงต้องทำแผงโซล่าอวกาศไปบังแสงอาทิตย์มั้งครับ ใครไม่จ่ายไม่ได้แสงแดด  ;D

เรื่องจีนผมมองว่าจีนต้องการจะกระชับวงล้อมในการควบคุมจัดการสินทรัพย์ของชาติมากกว่า
ถ้าคนจีนหาเงินทางง่ายหมดแล้วพรรคคอมมิวนิสจีนจะคุมยังไง ประชาชนคือสินทรัพย์ของพรรค
ดูตอนนี้สิครับไล่พวกรวยๆ ตั้งแต่แจ็คหม่าที่พยายามหลุดการควบคุมไปจนถึงขาใหญ่ธุรกิจต่างๆ
ไม่แน่เราอาจจะได้เห็นการปฏิวัติทางวัฒนธรรมเวอร์ชั่น 2.0 ก็เป็นได้

หากท่านชมคลิปที่ผมได้วางไว้ ณ ต้นกระทู้นี้ก็จะพอเห็นแนวทางเดียวกันนี้ที่บูชิโดญี่ปุ่นได้ล้างสมองคนเพื่อเสถียรภาพจนแช่แข็งชาติได้เป็น 200 กว่าปี
นี่มันกันดั้มภาคดับเบิ้ลโอชัดๆ  8)  เล่นซะจนประเทศที่ขายน้ำมันล้มละลายไปเลย
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,468
  • ถูกใจแล้ว: 3133 ครั้ง
  • ความนิยม: +193/-432
Re: Collectivism กลุ่มนิยม ปัญหาของคนญี่ปุ่นและคนเอเชีย
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2021, 04:14:10 PM »
[quote/]
กลุ่มนิยมมันลงรากลึกกว่าชาตินิยมเยอะครับ
ตัวอย่างที่เห็นได้ทั่วไปของสังคมที่มีเค้าลางของกลุ่มนิยมก็เช่นการเปรียบเทียบลูกตัวเองกับลูกเพื่อนบ้าน
ถ้าลูกทำนู่นนี่นั่นและไม่ทำนี่นั่นนู่นจะทำให้พ่อแม่ขายหน้าอับอายแก่ชุมชนสังคมเพื่อนฝูงเป็นต้น

ที่จีนต้องการทำบ้างนั้นผมคิดว่าเพราะกลุ่มนิยมนั้นเป็นรูปแบบที่สร้างเสถียรภาพในการเมืองการปกครองได้มากที่สุด
ในคลิปเองก็ได้ยกตัวอย่างช่วงที่ญี่ปุ่นนั้นสงบสุขยาวนานกว่า 200 ปี ไร้ซึ่งสงครามภายใน
แต่แลกมาด้วยการหยุดนิ่งในการพัฒนาใดๆ แช่แข็งชาติกว่า 200 ปี

คนในระบบนี้ต้องไปพัฒนาทักษะด้านการอ่านบรรยกาศ อ่านสีหน้าหัวหน้า เพื่อการเอาตัวรอดในกลุ่มแทนที่จะพัฒนาความสามารถที่จะพัฒนาทางศาสตร์และศิลป์อื่น
ในคลิปได้พูดถึงและยกตัวอย่างอธิบายถึงเหตุและผลของสภาพวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่นในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

[quote/]
ชาตินิยมนี่ผมคิดว่าทุกประเทศใช้กันหมด แต่กลุ่มนิยมนี่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
อย่างในความก้าวหน้าของจีน ญี่ปุ่น เกาหลี เราแทบไม่รู้หรือไม่ได้ยินถึงคนที่เป็นต้นคิดของความก้าวหน้านั้นๆ เลย
มีเพียงชื่อกลุ่มองค์กรหรือชื่อหัวหน้ากลุ่มองค์กร เท่านั้นเพราะกลุ่มนิยมนั้นไม่ให้ค่ากับปัจเจกบุคคลภายในแต่เน้นสำคัญที่เสถียรภาพของกลุ่ม
คำกล่าวที่ว่าโดดเด่นมักเป็นภัย หรือ ไม้สูงลู่ลม(a tall tree attracts the wind) เป็นตัวอย่างของกลุ่มนิยมที่เน้นเสถรียรภาพมากกว่า
ถ้าไอสไตล์หนีไปอยู่ในสังคมกลุ่มนิยมแล้วล่ะก็เราคงไม่ได้ยินชื่อของเขาเป็นอย่างแน่ครับ

เรื่องเงินเฟ้อนี้คุยกันยาวล่ะครับ แต่โดยภาพรวมแล้วผมมองว่าเงินเฟ้อดีกว่าเงินฝืด
เงินเฟ้อพลักดันให้คนหาเงินเพิ่ม(กดดันผู้บริโภค) ส่วนเงินฝืดพลักดันให้กิจการลดต้นทุนเพิ่มผลิตภัณฑ์(กดดันผู้ผลิตและให้บริการ)
ปัญหาเงินฝืดมันอยู่ตรงที่ผู้บริโภคนั้นสามารถเป็นผู้ผลิตได้แต่ผู้ผลิตขาดทุนปิดกิจการแล้วกลายเป็นผู้บริโภคนั้นจะหารายได้อย่างไร
เพราะกิจการที่ปิดไปคือลดต้นทุนแล้วแต่ก็ยังไม่รอดซึ่งต้นทุนแรกที่ลดกันส่วนใหญ่ก็คือค่าแรงคนงานซึ่งก็เป็นการลดรายได้ของผู้บริโภค
จนสุดท้ายเงินส่วนใหญ่หายไปจากระบบเนื่องจากคนเน้นเก็บเงินไว้ไม่เอามาใช้ทำให้กระแสเงินสดในระบบเศรษฐกิจชะงักงันในที่สุด

ตรงกันข้ามกับเงินเฟ้อซึ่งค่าของเงินลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากมีการพิมพ์เงินเพิ่มเรื่อยๆ
(แม้แต่ทองที่ได้จากการขุดเหมืองขึ้นมาใหม่เองก็ทำให้เกิดเงินเฟ้อเช่นกันเหมือนกับกรณีที่บริษัทในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มจำนวนหุ้นแทนการแตกพาร์ทหุ้นเดิม)
ทำให้การเก็บเงินไว้แบบสภาวะเงินฝืดกลายเป็นลายน้ำพริกลงแม่น้ำ
ทำให้คนต้องเอาเงินมาใช้ในระบบเพื่อรักษามูลค่าของสินทรัพย์ที่ถือครองเอาไว้
Currency และ Current Balance นั้นถูกเรียกอย่างมีความหมายถึงนัยยะและความเกี่ยวเนื่อง

ที่ทำให้คนสับสนในเรื่องเงินนั้นผมคิดว่าเป็นการที่เอา "เงินตรา" ซึ่งหมายถึงสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนโดยไม่สูญเสียมูลค่าระหว่างการแลกเปลี่ยน
และ "เงินตรา" ซึ่งหมายถึงสินทรัพย์ซึ่งสามารถถือครองซื้อขาย "เก็งกำไรได้"
ดังนี้ "เงินตรา" นั้นจึงเป็น "สื่อกลางในการแลกเปลี่ยนโดยไม่สูญเสียมูลค่าระหว่างการแลกเปลี่ยน" แต่ "มีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าระหว่างการถือครอง"

หากมองอีกมุมหนึ่งก็จะเห็นได้ว่าการถือครองเงินตรานั้นก็คล้ายกับการถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์หรือบิตคอยต์
เพียงแต่อัตราความเปลี่ยนแปลงของมูลค่าเงินตรานั้นน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับหุ้นและบิตคอยต์
ถ้ามองเป็นหุ้นก็เป็นหุ้นบลูชิปที่ค่อยๆ ดิ่งลงอย่างช้าๆ ซึ่งถ้าขายช็อตนั้นดันต้องเสียดอกเบี้ยระหว่างที่รอขายคืน

ดังนี้ต่อให้ไม่มีมะกันมันก็ต้องเฟ้อเพื่อให้เศรษฐกิจทุนนิยมเดินหน้าต่อไปครับ

[quote/]
เงินคนอื่นเขาเอาทองหรือแร่ที่มีคนให้ค่าหนุน แต่มะกันหนุนเงินตราตัวเองด้วยกำลังทางการทหารและเศรษฐกิจ
อัตราการเติบโตของเงินตราถูกจำกัดด้วยจำนวนทองและแร่มีค่าครับ มะกันเป็นหลุมดำทางการเงินเพราะขายอะไรไปก็มีเงินจ่ายกลับมาได้เนื่องจากปั้มเงินเอง
ถ้าทุกประเทศใช้ทองและแร่มีค่าค้ำซึ่งไม่มีการเพิ่มจำนวนขึ้นแล้วก็จะทำให้เกิดสภาวะเงินฝืดระดับโลกในที่สุดครับ
คนรวยก็จะดองเงินจนของถูกมากๆ แล้วค่อยๆ ทะยอยนำออกมาใช้เหมือนพวกช้อนหุ้นช้อนบิตคอยตอนถูกแล้วค่อยๆ ปล่อยขายตอนแพง
ผมจำได้ตอนที่ท่านออกจะโมดหมากตอนที่คุยเรื่องตลาดหุ้น ฮามองในของความคิด แสดงว่าแนวคดิอมเริกันได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดหากหวังจะเติบโตนั่นล่ะครับ
อีกประเด็นหนึ่งผมไม่อยากจะโทษอเมริกาทีเีดยวนัก
อเมริกามองว่า เคสญี่ปุ่นเพระาอเมริกาวางแผนต่อต้านคอมมิวนิสม์ให้เทคโนโลยีอะไรหลายๆอย่างแก่ญี่ปุ่นไป

อันที่จริง เราสามารถทำให้รุ่งเรืองได้ในระดับหนึ่ง แต่หากอยากพัฒนาต่อไป เราต้องการความโลภของอเมริกา ซิลิคอนวัลเลย์นั่นเอง ???
ดูอย่างอีลอนมัสก์ ผมไปเจอแนวคิดว่า เทคโนโลยีจรวดที่จริงคือเทคโนโลยีอาวุธขีปปณาวุธเว็บที่ผมเล่นมีการแซวกันว่า นักเขียนที่พยายามเขียนให้สมจริง อ่านวิธีการสร้างจรวด จะโดนจับตาในบัญชีดำของรัฐบาล ::)
มันเป็นเรืิ่องจริงครับที่ปล่อยให้เอกชนมีอำนาจ จะพัฒนาเร็วเอามากๆ
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 13,524
  • ถูกใจแล้ว: 5439 ครั้ง
  • ความนิยม: +448/-445
Re: Collectivism กลุ่มนิยม ปัญหาของคนญี่ปุ่นและคนเอเชีย
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2021, 04:33:54 PM »
[quote/]

เท่าที่ฟังคนจีนมา  ทั้งเอกชนจีนที่โอดครวญและก็ทั้งทัศนคติเจ้าหน้าที่จีนต่อทรัพย์สินเอกชน
ทางรัฐจีนเห็นว่า  ทรัพย์สินทุกอย่างเป็นของภาครัฐ  เอกชนจีนคือหนึ่งในฟันเฟือง  คล้ายๆเป็น
ทหารที่ต่อสู้รบในภาคธุรกิจ


รัฐจีนไม่ต้องการไล่เอกชนจีน  ซ้ำยังต้องการเชิญชวนเหล่าหัวเฉียว(จีนโพ้นทะเล)  ให้มาช่วยกัน
ทำให้จักรวรรดิจีนยิ่งใหญ่  รัฐจีนยังไงๆก็มีแนวคิดคอมมิวฯติดปลายนวม  ยังคงมีกลิ่นอายคอมมิวฯ
บางอย่างเช่นการที่รัฐจีนกระทำต่อแจ็กหม่า  นั่นก็เพราะแจ็กหม่ากำลังจะยุ่งในเรื่องภาคการเงิน
ภาคไฟแนน 


แจ็กหม่าต้องการการให้ประชาชนเข้าถึงเงินทุนได้ง่ายเกินไป  ซึ่งมันเป็นดาบสองคม  คงคล้ายๆ
เหตุการณ์กองทุนหมู่บ้านหนึ่งล้านที่ให้ใครก็ได้กู้ได้ง่ายๆในวงเงินห้าหมื่นบาท  ในสมัยก่อนนั่นแหละ
ที่ถ้าประชาชนเข้าถึงทุนได้ง่าย  แต่ไม่มีศักยภาพเพียงพอในการใช้คืนทุน  ไม่มีวินัยการเงินที่ดี
มันจะดาบนั้นคืนสนอง  เพราะมันเป็นดาบสองคมที่ออกหัวออกก้อยได้ทั้งนั้น  อยู่ที่ว่าคนที่กู้ดีเลว


ในเรื่องการลงโทษแจ็กหม่า  อันนี้เห็นด้วยกับรัฐจีนนะ  คงคล้ายๆไทยสมัยก่อนที่ได้ยกเลิกกองทุน
หมู่บ้าน  หล่ะมั้ง  ส่วนอะไรอีกนะ  อ้อ  เกี่ยวกับด้านข้อมูลส่วนบุคบคก็ด้วย  ตอนนี้รัฐจีนกำลัง
เข้มงวดสุดๆ  ด้วยวลีที่ว่า  "ข้อมูลส่วนบุคคลถือเป็นส่วนบุคคลอันควรปกป้อง  แอปใดหรือกิจการใด
ไม่สามารถเข้าถึงหรือใช้ประโยชน์เหล่านี้  ถ้าไม่ได้รับความเห็นชอบจากเจ้าของบุคคลนั้น"  ราวๆนี้
ซึ่งมีวงเล็บว่า  ยกเว้นรัฐบาล  ฮา 


แต่อันนี้ก็เข้าใจได้นะ  ประมาณว่า  รัฐจีนก็พยายามปกป้องสิทธิประชาชน  ปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
ของประชาชน  ไม่ให้บริษัทเอกชนหรือใครๆเอาไปละเมิด  เขาปกป้องพลเรือนพวกเขา  ไม่ใช่ว่ารัฐจีน
จะไม่ปกป้อง  อันนี้น่าชื่นชม  เพียงแต่จีนต่างจากฝรั่งหน่อยก็คือ  ฝรั่งนั้นแม้แต่ภาครัฐก็ไม่สามารถควร
ที่จะเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน  แต่รัฐจีนถือว่ารัฐต้องเข้าถึงข้อมูลพวกนี้ได้แต่เอกชนห้าม


ท่านมองว่า จีนควบคุมการเผยข้อมูล นี่ทำเพื่อชาวบ้านเหรอครับ


เอาจากข่าวที่ผมดูมาก่อนหน้านี้


แอปเปิ้ลโดนฟ้องศาล โดยมีพนักงาน(อดีต)ราวๆ 20 คนให้ข้อมูลกับศาลว่า
แอปเปิ้ลสาขาจีน จงใจไม่ปกป้องขอมุลและตั้งระบบความปลอดภัยในระดับสูงตามคำขอ ของ CCP  น่าจะรวมถึงการให้ขอมูลผู้ใช้งานอีกเยอะด้วย


และเทสล่า มีข่าวมาก่อนหน้านี้ว่า เทสล่าถูกขอข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้งานผลิตภัณของบริษัท  ซึ่งไม่ใช่ผู้ใช้งานในจีน  เทสล่าปฏิเสธไม่ให้


เห็นข่าวมากก่อนหน้านี้ราวๆ เดือน 2 เดือน(ข่าวแอปเปิลเก่าสุด)


สรุปเลยคือจีนไม่ได้ห่วงชาวบ้านหลอก แต่ห่วงว่าตัวเองจะโดนขายแบบที่ตัวเองทำกับบ.ต่างชาติไงล่ะ  ;D ;D ;D
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,468
  • ถูกใจแล้ว: 3133 ครั้ง
  • ความนิยม: +193/-432
Re: Collectivism กลุ่มนิยม ปัญหาของคนญี่ปุ่นและคนเอเชีย
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2021, 05:58:45 PM »
แอปเปิ้ลนี่ทะเลาะกับหน่วยข่าวกรองของอเมริกามาแล้วนะครับ ไม่ใช่แค่กับจีนว่าจะไม่เปิดเผยข้อมูลของลุกค้า ??? ใครจะว่อาะไรก็ช่าง อาจจะมีนอกในกันลับหลัง แต่ผมให้เครดิตอเมริกาตรงนี้เอามากกว่าจีน
..
น่าสนใจเรื่องคนรวยผมไปเจอว่า คนรวยชาวจีนพยายามยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินออกนอกประเทศ การห้ามบิตคอยทำให้พวกนั้นอาจจะต้องเลปี่ยนแปนการต่างๆ
สุดท้ายจุดชีวาดของประเทศคือคนรวยสินะ
หากคนรวยขึ้นมา ตามนิสัยจะไม่พอใจอะไรง่ายๆอเมริกาคือดินแดนแห่งกิเลสในสายตาคนทั่วๆไปคเพราะอย่างนี้ล่ะ
รู้สึกเศร้าขึ้นมานิดๆเหมือนกัน
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 13,524
  • ถูกใจแล้ว: 5439 ครั้ง
  • ความนิยม: +448/-445
Re: Collectivism กลุ่มนิยม ปัญหาของคนญี่ปุ่นและคนเอเชีย
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2021, 06:25:34 PM »
เรื่องนี้ผมมองว่าแอปเปิลมันหน้าเงินเห็นแก่ได้ ก็แน่อหละจีนลูค้ามันเยอะนิ


แต่ถ้าถึงกับขายขอมูลคนนที่อยู่นอกจีนล่ัก็แม่มโดนเชือดแน่ ;D


เหมือนเช่นกฏหมาย กลุ่มg7ที่ออกมา ให้เลือกข้างไปเลยว่าจะเป็นบ.สัญชาติตะวันตก หรือไม่
ถ้าไม่อยากโดนกฏหมายนี้ก็ย้ายประเทศซะ แม่มก็ไม่ย้าย ;D











 

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก