เหรียญ Crypto ตัวใหม่ ใช้ HDD SSD ขุด อาจเกิดภาวะขาดตลาดต่อเนื่อง
Update : 18 Apr 2021
View : 21,429
ปัจจุบัน Cryptocurrency หรือสกุลเงินดิจิทัลก็มีบทบาทสำคัญในสภาวะขาดแคลน Hardware ในหลายๆส่วน โดยเฉพาะการ์ดจอ (Graphic Card) เพราะว่ามันสามารถเอาไปทำการขุด Cryptocurrency ได้นั่นเอง ทำให้นักลงทุนทั้งหลายก็มีการเข้ามากวาดซื้อ จนเหล่า Gamer นั้นไม่สามารถหาซื้อการ์ดได้ในราคาปกติ
ในวงการ Cryptocurrency ก็รู้ถึงจุดนี้กันเป็นอย่างดี จึงได้มีการพยายามสร้างตัวเหรียญ Crypto ใหม่ที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการขุด ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนเป็น Proof of Stake ก็ดี หรือว่าจะหา Hardware อื่นๆมาขุดก็ดี
รายงานล่าสุดจาก HKEPC ก็ได้ระบุว่าเหรียญ Crypto ตัวใหม่ที่ชื่อว่า Chia นั้นจะสามารถถูก Mined หรือขุดได้ด้วย Storage อย่าง Harddrive และ SSD ทั้งหลาย ทำให้นักขุดในประเทศจีนก็ได้เริ่มมีการกวาดซื้อ Storage เหล่านี้มากขึ้นอย่างรวดเร็ว
หลักการทำงานของการขุดทั่วไปจำพวก Bitcoin และ Altcoin ที่ต้องใช้พลังการประมวลผลนั้น ผู้ใช้จะได้รางวัลเป็นเหรียญส่วนแบ่งจากวิธีการ Proof of Work แต่สำหรับ Chia ตัวนี้จะใช้หลักการที่เรียกว่า Proof of Space and Time .. โดยจุดประสงค์ของ Chia นี้ก็เป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานมากมายเหมือนพวก การ์ดจอ และ ASIC Miner
นักพัฒนาเหรียญ Chia มีชื่อว่า Bram Cohen คนเดียวกับที่พัฒนา BitTorrent โดยเขาคิดว่าการใช้ Storage ในการทำประโยชน์ให้กับ Cryptocurrency นั้นเป็นเรื่องที่ดีกว่า เพราะว่า Storage เหล่านี้ราคาถูกกว่า ใช้พลังงานน้อยกว่า และหาซื้อง่ายกว่าการ์ดจอ หรือตัว ASIC Miner นั่นเอง
กระแสนี้ค่อนข้างมาแรงในประเทศจีน เพราะถึงแม้ว่าเหรียญที่ว่า ยังไม่มีการเปิดให้เทรด แต่เหล่านักลงทุนก็ได้มีการเริ่มกวาดซื้อ Storage เพื่อเตรียมพร้อมแล้ว เนื่องจากเหรียญ Chia นี้จำเป็นต้องใช้พื้นที่ว่างใน Storage ที่มาก สำหรับการอ่านและเขียนของระบบ .. อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญอีกอย่างเลยก็จะเป็นในเรื่องของความทนทานหรือ Endurance ที่เมื่อเอามาใช้งานแบบนี้แล้ว SSD / HDD ทั่วไปอาจไม่เหมาะสม นักลงทุนจึงหันไปมอง Storage ในกลุ่ม Data Center หรือ Enterprise มากกว่า
ตอนนี้ราคาของ Storage นั้นก็มีการขยับขึ้นแล้วตั้งแต่ 26USD ไปจนถึง 76USD และที่ประเทศจีน SSD หลายๆตัวก็หมดสต็อกเป็นที่เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็น M.2 NVMe ขนาด 1TB - 2TB ทั้งหลาย .. แม้ว่าการนำสินค้าเกรด Consumer มาใช้งานแบบนี้อาจจะยังไม่ค่อยเหมาะสม แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่เมื่อสินค้าเกรด Enterprise / Data Center นั้นหมดสต็อกแล้ว สินค้าเกรด Consumer ก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย
ใครที่ต้องการประกอบคอมหรือซื้ออุปกรณ์ไอทีช่วงนี้ อาจจะเหนื่อยกันหน่อยครับ เพราะว่ากระแส Cryptocurrency นั้นมาแรงจริงๆ .. สิ่งที่ทำได้ก็คงจะเป็นการรอให้ Cryptocurrency ส่วนใหญ่นั้นให้ปันผลเป็นระบบ Proof of Stake .. ถึงตอนนั้นจะได้ไม่ต้องมาแย่ง Hardware กับคนทั่วไปอย่างเราๆ
ข้อมูล : Wccftech
https://www.overclockzone.com/view-4990?fbclid=IwAR1cJb94olr_ltfz2iZpZnm13qIKGPeOG-0PGho5m5J-x8cJufP6xzhEjPE