เป็นตัวร้ายในนิยายที่ผมเขียนครับ
โบว์ (เบญจมาศ)
-อันธพาลประจำห้อง6 เป็นลูกนายทหารยศพลเอก
-ค่อนข้างกร่าง ชอบรังแกคนที่อ่อนแอกว่า โดยเฉพาะผู้ชายเนิร์ดเพราะใช้ความเป็นเพศแม่ขู่อีกฝ่ายได้
-มักเหยียดคนรักเพศเดียวกัน เพราะโดนปลูกฝังจากพ่อที่บิวท์ให้เกลียดแม่ที่หนีไปกับคู่รักหญิง โดยแม่โบว์เป็นเลสเบี้ยน แต่งงานกับพ่อโบว์เพื่อตามใจพ่อแม่ที่หัวโบราณ แต่สุดท้ายมีใจให้เลสเบี้ยนอีกคนแล้วก็หนีตามกันไป
-มีลิ่วล้อเป็นผู้ชาย 2 คน ชอบจับเป้าหมายที่เธอรังแกในการขังห้องแคบๆที่มุมอับโรงเรียน และมักเทลูกปิงปองลงพื้นให้เป้าหมายสะดุดล้มประจำ
ยามิ (โสรยา)
-ที่บ้านทำธุรกิจสีเทา โดยเปิดร้านขายโจ๊กบังหน้า
-เผินๆเหมือนเป็นคนไม่สนโลก ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร
-เป็นเด็กสมองดีเกือบๆอัจฉริยะ แต่เป็นไซโคพาธและบ่างช่างยุ ชอบเห็นคนอื่นทรมาณ
-วีรกรรมแรกคือตอนอยู่ ป.2 (2536) แอบขุดประวัติครอบครัวเพื่อนร่วมห้องคนหนึ่ง ที่เป็นลูกของทหารที่ยิงผู้คนในเหตุการณ์พฤษภา35 (แต่แม่เขารับไม่ได้กับสามีเลยหอบลูกหนีมาจากกรุงเทพ) ก็เอามาประจาน ด้วยกระแสรังเกียจทหารช่วงนั้นแรง เพื่อนคนนั้นโดน Bully จากเพื่อนร่วมห้องที่หลายคนสูญเสียญาติจากเหตุการณ์นั้น
-ปัจจุบัน(2540) ชอบแอบดูวีรกรรมการรังแกคนของคนอื่นๆ พอภารโรงมาเห็นเธอมักจะให้เงินค่าปิดปากเสมอ (สมัยนั้นไม่มีกฎหมายค่าแรงขั้นต่ำ) ภารโรงก็สมยอมให้ทำเป็นมองไม่เห็น
มีน (มนต์ธิดา)
สถานะ : สำเร็จไปแล้ว 90%
-ลูกสาวประธานสมาคมผู้ปกครอง
-มีภาพลักษณ์เป็นคนดี หน้าตาสระสวย พูดจาไพเราะ
-แต่จริงๆอีโก้สูง ชอบเหยียดคนที่ด้อยกว่า เข้าหาคนอื่นด้วยผลประโยชน์ และเหยียดคนที่คิดว่าทำผิดศีลธรรม
-มักอ้างตัวว่าเป็นกลาง แต่ลึกๆเลือกพวกอันธพาลเพราะไม่เรื่องมากแถมปกป้องตัวเองได้
คุณนายลิ้มทอง
-เป็นแม่ของมีน อายุ 50 กว่าแต่ยังสาว
-อาชีพคือประธานสมาคมผู้ปกครอง ทำธุรกิจสำนักพิมพ์และสถานีวิทยุ
-มีความสามารถในการพูดชักจูงคนสูง เจ้าของสินค้าหลายแบรนด์มักขายดีหากได้เธอเป็นสปอนเซอร์
-แต่เบื้องหลังยัดใต้โต๊ะกับหน่วยงานต่างๆเพื่อผลประโยชน์ เป็นเมียน้อย ผอ.สุเทพซึ่งเป็น ผอ.คนปัจจุบัน รวมทั้งยัง X หมู่กับบรรดาครูชายที่เป็นกรรมการเพื่อล็อคผลให้ห้อง 1/6 ซึ่งลูกตัวเองอยู่เพื่อให้ชนะในการประกวดต่างๆ
สุเทพ
-เป็น ผอ. โรงเรียนช่วงปี 2540-2543
-ฝีปากดี มักให้ความหวังด้วยโครงการต่างๆ
-รับใต้โต๊ะเป็นนิจ โครงการแต่ละอย่างมักใช้ัสดุด้อยคุณภาพ
-มีภรรยาเป็นเศรษฐีนีเจ้าของธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทรายใหญ่ แต่ก็แอบมากิ๊กกับคุณนายลิ้มทองเป็นประจำตั้งแต่ 30 ปีก่อนยาวเรื่อยมาถึงปัจจุบัน อีกทั้งเมื่อก่อนยังเคยแอบเล่นชู้กับแม่ของภรรยามาแล้วแต่ก็ไม่เคยโดนจับได้
ครูคิ้ม (ขนิษฐา)
-ครูฝ่ายปกครอง บริหารทั่วไป
-ภายนอกเป็นคนเด็ดขาด ดุดัน เป็นที่ยำเกรง
-แต่เบื้องหลังแอบเล่นชู้กับครูหนุ่มๆเนื่องจากสามีไม่ค่อยมีเวลาว่าง แลกกับการไม่โดนลงโทษทางวินัยที่นักเรียนร้องเรียนมา
-มักพล่ามเรื่องศีลธรรมและลงโทษทางวินัยแก่ครูสอนสุขศึกษาที่สอนวิชาเพศศึกษาที่คิดว่าไม่เหมาะสมทางศีลธรรม แต่เบื้องหลังเลี้ยงหมาเนยไว้บำบัดความอยาก และใช้เส้นสายสามีเข้านอกออกในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเพื่อไป X กับโลมาตัวผู้
-ตอนยังเป็นครูชั้นผู้น้อยเคยให้ครูอาวุโสค้ำประกันหนี้สหกรณ์ครูให้ แต่หลังๆได้สามีรวยระดับเจ้าพ่อมาปลดหนี้ทั้งหมดให้+ใช้เส้นสายให้ขึ้นเป็นครูฝ่ายปกครอง แล้วก็ถีบหัวครูอาวุโสคนนั้นทิ้งแถมจับผิดทุกเม็ด
เพิ่มภายหลัง
ครูเมธา
-ครูประจำชั้นห้องที่โบว์กับยามิและมีนเรียน
-โดนพ่อแม่บังคับเป็นครูเพื่อความมั่นคง แต่ตัวเมธาไม่ชอบเพราะอยากเป็นอาชีพอื่น แต่เป็นอาชีพที่ในสายตาผู้ใหญ่ดูไม่มั่นคงและไร้สาระ
-เป็นครูก็เช้าชามเย็นชาม ไม่ค่อยสนใจเด็ก ทำโทษทีก็เหมาทั้งห้องหรือทั้งคู่
-ที่ไม่โดนทำโทษทางวินัยเพราะมีเซกซ์กับครูปกครอง(เป็นหนึ่งในบรรดาผัวน้อยครูคิ้ม)
-ลึกๆเป็นไซโคพาธอ่อนๆ ชอบเห็นคนได้รับความเจ็บปวด หลายๆครั้งมักแอบดูนักเรียนโดนทำร้าย ทำทีไม่สนใจแต่ลึกๆโคตรฟิน
-วีรกรรมตอนเด็กสุดแสบ คือไปต่อยหน้าตุ๊ดที่เรียกร้องสิทธิเพศที่สามในช่วงวันงานโรงเรียน แต่ตัวเองรอดเพราะทำชื่อเสียงให้โรงเรียนจากการไปแข่งขันงานวิชาการได้รองชนะเลิศ
คุณ
@Taw ออกแบบตัวละครได้ดีขึ้นมีมิติขึ้นนะครับ ยิ่งถ้าเพิ่ม Background ปูมหลังให้ลึกยิ่งขึ้น
ก็จะยิ่งทำให้คนอ่านเข้าใจว่าตัวละครตัวนี้ผ่านอะไรมา อะไรหล่อหลอมให้เขาเป็นเช่นนี้ คนอ่านจะยิ่งอินมากขึ้น
ผมอยากให้คุณลองเขียน Background และปูมหลังของตัวละครให้ลึกลงไปกว่านี้อีก เพราะในความเป็นจริงแล้วไม่มีมนุษย์คนไหนที่ชั่วร้ายมาแต่กำเนิด
แต่สังคมและสิ่งแวดล้อมคือสิ่งที่หล่อหลอมเขา เพราะคนทุกคนจะสิ่งที่เรียกว่า Id Ego และ Superego ซึ่งเป็นกลไกของจิตใจที่อธิบายโดยซิกมันต์ ฟรอยด์
ผลมันจะเกิดก่อนเหตุไม่ได้ มันจะต้องมีสิ่งที่เรียกว่าเหตุมาก่อนเสมอครับ
ผมอยากให้คุณ
@Taw เวลาสร้างตัวละครร้าย อยากให้นึกถึง Joker ที่แสดงโดย Joaquin Phoenix อะไรคือสิ่งที่หล่อหลอมให้เขาต้องทำเช่นนี้
ตัว Joker คือ กระจกเงาภาพสะท้อนความเน่าเฟะและความเหลื่อมล้ำของสังคมเมืองใหญ่อย่างก็อธแธมซิตี้ หรือ เมกาในยุค 1920 - 1933 หรือยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 1
หรืออีกเรื่องหนึ่งที่ผมอยากให้คุณ
@Taw ลองอ่าน คือ เรื่อง1-nen A-gumi no Monster หรือชื่อไทย มอนสเตอร์ปี 1 ห้อง A
ซึ่งเป็นเรื่องของครูหนุ่มต้องเผชิญกับนักเรียนหญิงม.ปลายสาย Bully หลายคน ซึ่งแต่ละคนที่มีพฤติกรรมเช่นปัจจุบัน มันจะมีการเล่าย้อนว่าในอดีตพวกเธอผ่านประสบการณ์ร้ายๆอะไรมา
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เหมาะสำหรับการอ้างอิงในการออกแบบตัวละครร้ายได้ดีมากๆ ผมแนะนำเลย ทุกตัวละครนักเรียนหญิงตัวร้ายในเรื่องนี้ค่อนข้างมีมิติและปูมหลัง
ยกตัวอย่าง ผมขอสมมุติเพิ่มเติมปูมหลังของนายสุเทพ นายสุเทพทำงานเป็น ผอ.ปี 2540 แสดงว่าถ้านายสุเทพอายุ 58 ปี
นายสุเทพก็จะเกิดปี 2485 ซึ่งเป็นปีปลายยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 และเริ่มจำความได้ตอน 3 ขวบ ปี 2488 ซึ่งเป็นยุคปลายสงครามโลก
นายสุเทพเกิดในยุคปลายของสงครามโลกครั้งที่ 2 เศรษฐกิจตกต่ำ เป็นยุคข้าวยากหมากแพง คนตกงาน แต่อาหารแพง
พ่อของสุเทพเป็นข้าราชการป่าไม้น้ำดี ซื่อสัตย์ ไม่คอรัปชั่น เป็นที่รักของชาวบ้าน
แต่เพราะความซื่อสัตย์ในยุคสงครามข้าวยากหมากแพง แม้พ่อของนายเป็นข้าราชการป่าไม้
พ่อของสุเทพพยายามสอนสุเทพมาตลอดให้ยึดหลักคุณธรรม ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น
เงินเดือนของพ่อนั้นไม่มากแถมต้องทำงานไกลบ้านเดือนหนึ่งจะกลับบ้านครั้งหนึ่ง แถมนายสุเทพก็มีน้องอีก 4 คน
ลำพังรายได้ของพ่อของสุเทพจึงไม่ค่อยจะพอ สุเทพจึงต้องช่วยทำงานไปด้วยเรียนหนังสือไปด้วย
เพื่อหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัว เรียกได้ว่า ปากกัดตีนถีบ ตั้งแต่เด็กๆ
พอถึงปี 2503 สถานการณ์สงครามเย็นกำลังสุกงอมถึงขีดสุด
เป็นยุคสมัยของจอมพลสฤษฎิ์ ธนะรัชต์ ได้เปิดสัมปทานเหมืองแร่และป่าไม้แก่เอกชน
พ่อของนายสุเทพซึ่งเป็นข้าราชการป่าไม้น้ำดีได้พยายามคัดค้านสุดกำลัง
แต่ตอนนี้คือสมัยรัฐบาลทหารที่มีอำนาจมาก จึงใช้อำนาจกดดันและกลั่นแกล้งต่อพ่อของนายสุเทพ
เช่น การดองตำแหน่ง การไม่ปรับขึ้นเงินเดือน รวมถึงการโยกย้ายที่ทำงานให้ยิ่งไกลบ้านและกันดารยิ่งกว่าเดิม
ซึ่งพ่อสุเทพก็ทนได้จนถึง ปี 2507 พ่อสุเทพก็ทนแรงกดดันไม่ไหวจึงได้ฆ่าตัวตายด้วยปืนสั้น
เป็นเวลาเดียวกับที่นายสุเทพเรียนจบในมหาลัยฯเปิดในกรุงเทพคณะคุรุศาสตร์เพื่อทำอาชีพครู เตรียมรับราชการบรรจุเป็นครู
นายสุเทพเสียใจมาก แต่ก็พยายามดำเนินตามรอยเป็นข้าราชการที่ดีตามพ่อของเขา
แต่แล้ว ปี 2517 สุเทพทำงานเป็นครูสอนวิชาภาษาไทยจนถึงอายุ 32 ปี ได้แต่งงานแล้ว
เขามีลูกศิษย์ลูกหามากมายที่เรียนจบไปนับถือเขาไม่น้อย เนื่องจากเขาสอนเก่ง พูดเก่ง ทำให้นายสุเทพเป็นอาจารย์ที่พอมีชื่อเสียงพอสมควร
วันหนึ่งแม่ของนายสุเทพก็ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็ง
นายสุเทพเป็นข้าราชการครูที่มีเงินเดือนแค่พอเลี้ยงครอบครัวกับแม่แค่ข้าวสารกรอกหม้อจึงไม่มีเงินเก็บพอที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาล
ยุคสมัยนั้นแม้กองทัพเมกาเริ่มถอนกองทัพออกจากค่ายต่างๆในประเทศไทยกลับประเทศเมกา
เนื่องจากปธน.ริชาร์ด นิกสันได้จับมือกับประธานเหมาในปี 2515 เพื่อที่จะให้จีนเป็นตัวแทนทำสงครามตัวแทนเมกา
เพื่อที่เมกาจะได้ดึงกองทัพกลับมาตุภูมิอย่างไม่เสียหน้า ขณะที่จีนก็มาเป็นกันชนใส่เวียดนามแทน
แต่รัฐบาลไทยกลับยิ่งออกนโยบายปราบปรามกลุ่มคอมมิวนิสต์รุนแรงยิ่งขึ้น เพื่อคานอำนาจกับสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย
หน่วยงานหน่วยข่าวกรองของรัฐบาลไทย ได้เพ่งเล็งเห็นว่านายสุเทพเป็นที่เคารพและมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย
ทางการจึงได้ส่งเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองมาชักชวนนายสุเทพที่กำลังประสบปัญหาทางการเงินในการหาเงินค่ารักษาพยาบาลแก่มารดา
นายสุเทพซึ่งกำลังมืดแปดด้านที่จะหาเงินรักษาแม่จึงเก็บเรื่องนี้กลับไปคิด
เขาคิดถึงพ่อซึ่งเป็นข้าราชการน้ำดีที่สุดท้ายจุดจบของการเป็นคนดีคือไม่ได้อะไรเลย แถมถูกกดดันให้ฆ่าตัวตาย
"คุณธรรม ศีลธรรม และมโนธรรม มันแก้ปัญหาไม่ได้ แต่เงินต่างหากที่แก้ปัญหาให้แก่เขาได้"
นายสุเทพจึงตัดสินใจรับข้อเสนอดังกล่าวจากเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง
โดยงานที่เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองให้นายสุเทพทำก็คือการเพิ่มแนวคิดชาตินิยมและบูชาตัวบุคคลลงไปในเนื้อหาบทเรียนของนักเรียน
รวมถึงในฐานะครูภาษาไทยที่มีความชำนาญด้านการเขียนบทความ
ต่อมาเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองให้นายสุเทพได้รับโอกาสเขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์
ในแนวโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับภัยคอมมิวนิสต์และด้อยคุณค่าสหพันธ์นิสิตนักศึกษาลง
เขาประสบความสำเร็จไม่น้อย มีผู้อ่านหลายคนติดตามเขา เนื่องจากเขาเป็นคนเขียนสะบัดสำนวนดี อ่านสนุก เรตติ้งดี
เงินค่าตอบแทนจากหน่วยข่าวกรองนั้นดีมาก แถมตำแหน่งการงานก็ก้าวกระโดดจากเส้นสายที่ได้รับจากหน่วยข่าวกรอง
ปี 2518 นายสุเทพก็ได้รับตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการ เงินเดือนและสวัสดิการต่างก็ได้รับเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับสมัยเป็นครูภาษาไทยธรรมดา
จนในที่สุดนายสุเทพก็มีเงินรักษาพยาบาลด้วยการผ่าตัดแม่ของเขาได้สำเร็จ
นั่นทำให้เขารู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวและแม่ของเขา
และรู้สึกว่าการกระทำเป็นคนดีมีคุณธรรมแบบพ่อของสุเทพนั้นเป็นสิ่งไร้ประโยชน์
เพราะตั้งแต่รู้จักกับหน่วยข่าวกรอง สุเทพก็ได้เห็นว่าใครๆเขาก็ทำตามๆกันทั้งนั้น
คนที่ไม่ทำตาม คนที่น้ำเชี่ยวแต่เอาเรือขวางต่างหากละที่ผิด
สุเทพมีทัศนคติที่เปลี่ยนไปจากเดิมมาก ภายนอกและต่อหน้าสาธารณะเขาจะทำตัวเป็นครูที่ลูกศิษย์เคารพรัก
แต่ลับหลังเขาก็จะทำทุกอย่างเพื่อหาผลประโยชน์จากอำนาจของตำแหน่งผู้ช่วยผอ.
และยิ่งถลำลึกลงไปมากขึ้นเรื่อยๆ เขาได้รับการโยกย้ายไปประจำโรงเรียนในตัวเมืองยิ่งขึ้นจากทางการ
ทำให้ผลประโยชน์จากตำแหน่งและเงินเดือนยิ่งสูงขึ้น
ปี 2527 นายสุเทพอายุ 42 ปี ก็ได้ขึ้นเป็นผู้ช่วยผอ..ของโรงเรียนชื่อดัง ตอนนี้เขามีชื่อเสียงมีหน้ามีตาในวงการการศึกษา
ภายนอกสังคมเห็นว่านายสุเทพเป็นผู้ช่วยผอ.อายุน้อย หนุ่มไฟแรง
แต่เบื้องหลังได้ใช้ตำแหน่งหาผลประโยชน์จากการกินหัวคิวการก่อสร้างอาคารเ่รียนใหม่
รวมถึงเขาได้หย่ากับภรรยาคนเก่า และแต่งงานใหม่กับเศรษฐีนีเจ้าของโรงแรมและรีสอร์ทใหญ่
ทว่ารองผอ.โรงเรียนเริ่มสงสัย รองผอ.สุเทพ สุเทพจึงต้องจัดการก่อนที่เรื่องจะแดง และนายสุเทพกระสันอยากได้เก้าอี้ตำแหน่งรองผอ.
ผู้ช่วยผอ.สุเทพจึงจัดฉากใส่ร้ายป้ายสีรองผอ. ด้วยการร่วมมือกับคุณนายลิ้มทองซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานสมาคมผู้ปกครองโรงเรียนนี้ซึ่งมีพีสาวของมนต์ธิดา(มีน)
เนื่องจากคุณนายลิ้มทองต้องการให้แน่ใจว่าโรงเรียนจะส่งชื่อพี่สาวเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนในโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประเทศ
แต่เงื่อนไขการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนคือต้องสอบได้เป็นที่ 1 ของชั้นเรียน แน่นอนว่าพี่สาวมีนสอบได้ที่ 2 มาโดยตลอด
คุณนายลิ้มทองจึงจัดฉากรองผอ.คนนั้นเบื้องหลังลวนลามเด็กนักเรียนหญิง โดยใช้งานพี่สาวของมีนแสดงละครว่าถูกรองผอ.ลวนลาม
โดยที่ผู้ช่วยผอ.สุเทพได้แอบติดตั้งกล้องถ่ายทำเอาไว้ และได้ตัดต่อวีดีโอ และนำมาสู่การฟ้องร้องในที่สุด
รองผอ.ถูกจับ แต่เขาก็ยืนยันว่าบริสุทธิ์ ดังนั้นเพื่อให้แน่ใจว่ารองผอ.จะถูกกำจัด ผู้ช่วยผอ.สุเทพจึงได้ใช้เส้นสายจากหน่วยข่าวกรองของทางการอีกครั้ง
เพื่อที่จะให้ตำรวจร่วมมือกับการสร้างพยานหลักฐานเท็จในครั้งนี้ รองผอ.จึงถูกใส่ความและเข้าคุกในที่สุด
หลังจากรองผอ.ถูกจัดการ เนื่องจากตำแหน่งว่างนายสุเทพจึงได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นรองผอ.แทนที่คนเก่าที่ถูกใส่ความ
เขาได้ใช้อำนาจของรองผอ.แอบแก้คะแนนสอบของพี่สาวมีน ทำให้พี่สาวของมีนได้ที่ 1 โรงเรียนและเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประเทศได้ในที่สุด
ต่อมาเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองนั้นก็ได้เลื่อนยศขึ้นเป็นระดับพลเอก เขาจึงได้ถือโอกาสใช้เส้นสายระหว่างเขากับ รองผอ.สุเทพ ส่งโบว์เข้าเรียนโรงเรียนแห่งนี้โดยทำข้อสอบเป็นพิธี
และต่อให้โบว์จะเกเรแค่ไหน แต่ก็ไม่เคยสอบตก นั่นก็เพราะ รองผอ.สุเทพช่วยแก้คะแนนของโบว์ให้ไม่ตกซ้ำชั้น เพื่อนร่วมชั้นสงสัยผลการสอบของโบว์ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ไม่กี่ปีต่อมาสุเทพก็ได้เป็นผอ.โรงเรียนนี้สมใจ เนื่องจากผอ.คนเก่าเกษียรอายุราชการ
(อันนี้ผมเขียนเพิ่ม Background กับ ปูมหลังของนายสุเทพให้เกี่ยวข้องกับตัวละครคนอื่น จะเอาไปเป็นไอเดียหรือเอาไปใช้หมดเลยก็ได้นะครับ เต็มที่เลย)