ความคิดเห็นของเราในฐานะประชาชนคนธรรมดาน่ะเหรอ? น่าสงสารคนที่ตั้งใจศึกษาข้อมูลการตลาดและเตรียมการมาเป็นอย่างดีที่ถูกแย่งชิงรางวัลของความพยายามไปอย่างโหดร้าย...
.............ซะที่ไหนล่ะ!
สมน้ำหน้า!!! สะใจจริงๆ!!! ถ้าจะมีความรู้สึกอะไรนอกจากนั้นก็คงจะเป็นความเสียดายที่เราไม่ได้มีส่วนร่วมในเหตุการประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ล่ะนะ
เอาล่ะ มาถึงช่วงสาระกันบ้าง ถึงจะพูดอย่างนั้นเราก็ไม่ได้มีข้อมูลเรื่องตลาดหุ้นเชิงลึกอะไรที่จะมาวิเคราะห์ให้ฟังหรอกนะ...
ก่อนอื่นเลย เริ่มต้นที่ Gamestop ถ้าให้พูดง่ายๆก็คือ Gamestop ไม่ได้มีค่าอะไรในตัวของมันเองเลย ไม่มีจริงๆ เป็นแค่บริษัทที่ผลกำไรและราคาหุ้นตกลงจนเป็นประวัติการแค่นั้น
นอกจากเรื่องแนวทางการขายเกมที่ไม่ปรับตัวตามยุคสมัยตามที่หลายคนบอกมาแล้ว Gamestop ยังค่อนข้างจะมีชื่อเสียที่เกมเมอร์หลายๆคนเกลียดมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว
ทั้งเรื่องที่สั่งให้พนักงานขายเกมโดยไม่สนจรรยาบรรณเอย เรื่องที่สั่งให้พนักงานมาทำงานในช่วงที่ประกาศ Lockdown เอย ไม่ใช่เรื่องแปลกที่หุ้นจะตกถึงขนาดนั้น
การที่นักลงทุนรายใหญ่จะแห่กัน Short sell ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ประเด็นที่หลายๆคนไม่ได้สนใจกันเท่าไหร่ก็คือ หุ้นของ Gamestop ถูก Shortsell มากจนถึงขนาดที่มีจำนวนหุ้น
ที่ถูก Shortsell มากกว่าความเป็นจริง (ซึ่งผิดกฏหมายกันเห็นๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับWall Street เช่นกัน...
) มากที่สุดในประวัติศาสตร์เลยด้วยซ้ำ
(ถ้าจำไม่ผิดน่าจะอยู่ที่ประมาณ 140% ล่ะนะ แต่ถ้าสนใจก็น่าจะหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ไม่ยาก) รายละเอียดที่เหลือก็ตามที่เห็น... ประเด็นที่เราพยายามจะสื่อน่ะเหรอ?
สถานการณ์นี้เกิดขึ้นจากการที่ Wall Street โลภเกินพอดี พอเหล่านักลงทุนรายย่อย (Reddit) เห็นโอกาสก็เข้ามาเล่นงานปั่นราคาหุ้นจนเกิดเป็นหายนะครั้งใหญ่ของ Wall Street
แต่ต้นเหตุที่หายนะอย่างนี้ขึ้นก็มาจากความโลภของนัลงทุนรายใหญ่ที่ทำให้หุ้นขาดแคลนหนักถึงขนาดนี้
อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจก็คือความเกลียดชังระหว่าง Wall Street กับนักลงทุนรายย่อย ที่ผ่านมาพวกนักลงทุนรายใหญ่เป็นฝ่ายเอาเปรียบนักลงทุนรายย่อยด้วยการใช้เงินทุนที่มากกว่าและ
ข้อมูลที่เหนือกว่าควบคุมตลาดหุ้นมาโดยตลอด เท่านั้นยังไม่พอ ยังเป็นเรื่องที่รู้กันดีว่า Wall Street ดูถูกว่าเหล่านักลงทุนรายย่อยเป็นแค่ 'แกะ' อีกต่างหาก
เหตุการณ์นี้เลยไม่ใช่แค่เรื่องของเงินเท่านั้น (แต่แน่นอนว่ามีเงินย่อมดีกว่าไม่มีเงิน) แต่เป็นเรื่องของการล้างแค้นของเหล่า 'แกะ' ด้วย
จนถึงตอนนี้ชาว Reddit ก็ยังคงบอกให้ช่วยกันอดทนไม่ปล่อยขายหุ้นอยู่เพื่อสร้างความเสียหายให้กับ Wall Street มากขึ้น
ประเด็นสุดท้ายก็คือเรื่องความเป็นตลาดเสรี (Free Market) ที่แท้จริง เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้คำวิจารณ์จากฝั่งนักลงทุนรายย่อยมีน้ำหนักขึ้นมาอย่างชัดเจน
ซึ่งก็คือเรื่องของความไม่เท่าเทียม ที่โทษว่านักลงทุนรายย่อยขาดทุนย่อยยับเป็นความผิดของตัวเอง แต่เวลา Wall Street โดนเล่นงานกลับบ้างดันโทษว่าเป็นความผิดของสามัญชนซะอย่างงั้น?
นอกจาก Elon Musk แล้ว คำกล่าวหาว่าเป็นความผิดของพวกแฮกเกอร์บ้าง (ซึ่งไม่จริง) พวก Gamergate บ้าง (ซึงก็ไม่จริงอีก) แม้แต่คำกล่าวหาว่าคนที่ปั่นราคาหุ้น Gamestop เป็น
พวก Racist ก็ยังมี (ซึ่งก็ไม่จริงกันเห็นๆ) ยังไม่รวมถึงความพยายามจะกู้สถานการณ์ด้วยการระงับการซื้อขายหุ้น Gamestop และเงินช่วยเหลือเยียวยา
(ซึ่งอันนี้เราก็ไม่ทราบรายละเอียดชัดเจนเลยจะไม่พูดถึง) ทำให้เห็นว่าจริงๆแล้วตลาดเสรีที่โฆษณาตัวเองมาตลอดว่าทุกคนเท่าเทียมกันภายใต้กลไกตลาดนั้นเป็นเรื่องตอแหลกันเห็นๆ
ทั้งๆที่เป็นความผิดของนักลงทุนรายใหญ่ที่พยายามจะควบคุมตลาด (จนถึงขั้นที่ผิดกฏหมาย) แต่พอเกิดพลาดท่าขึ้นมากลับกล่าวโทษคนอื่นแถมยังได้รับความช่วยเหลืออีกต่างหาก
เพิ่มเติมอีกนิดคือข้อคิดเห็นที่น่าสนใจที่เห็นผ่านตามาจากการตามติดสถานการณ์ในครั้งนี้
- ถ้า 'แกะ' รวมพลังกัน ก็มีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้เหมือนกัน
- พวก 'แกะ' ไม่ได้โง่ พวกเค้าแค่มีเงินทุนไม่มากพอและไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้เหมือนพวกนักลงทุน Wall Street แค่นั้นเอง
สถานการณ์นี้พิสูจน์ให้เห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าพวกเค้ามีเงินทุนและข้อมูลที่มากเพียงพอ
- เหตุการณ์ในครั้งนี้จะเปลี่ยนตลาดหุ้นไปตลอดกาล กระแสสังคมที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับผลิตภัณฑ์นั้นเลยจะเข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจลงทุน
ป.ล. แน่นอนว่าอีกไม่นานสถานการณ์จะสงบลง แต่ที่น่าสนใจก็คือหลายคนมองว่าจุดที่ราคาหุ้นขึ้นสุดจนเกิด Short Squeeze ขั้นวิกฤตยังมาไม่ถึงเลยด้วยซ้ำ
เนื่องจากว่าหลายๆคนยังยืนกรานจะไม่ปล่อยหุ้น อย่างไรก็ตามการเข้าไปร่วมวงแจมในตอนนี้มีความเสี่ยงเป็นอย่างยิ่งและไม่เป็นที่แนะนำ
ถ้ามีคนที่ตามอ่านที่เราเขียนได้จนจบก็ขอขอบคุณจริงๆ พอแค่นี้ล่ะน้า~