แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: เด็กสมัยนี้อ่อนแอเกิน หรือ โรงเรียนเรามันโรงเรียนยอดมนุษย์หว่า  (อ่าน 10042 ครั้ง)

ออฟไลน์ monnyja

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 333
  • ถูกใจแล้ว: 154 ครั้ง
  • ความนิยม: +11/-41
คนเป็นครู อาจารย์ เขาก็อยากให้เด็ก มันมีชีวิตกับเผชิญสังคมได้ในภายภาคหน้า

แต่ปัญหา ณ เวลานี้คือ  คนเป็นครู กับ โรงเรียน กลายเป็นเป้าหมายรุมถล่มจากพวกพ่อแม่ผู้ปกครองยุคใหม่
ทั้งโดนลากเข้าการเมือง ทั้งจะลงโทษหรือสอนอะไรเด็กก็ไม่ได้
ึแถมโดนตะโกนด่าให้สั่งปิดโรงเรียนกันแทบจะรายวัน
พวกคุณคิดว่า เขาเห็นความสำคัญของโรงเรียนกันแค่ไหนล่ะ??
ครูทำผิด คนสองคน จะให้ปิดโรงเรียนท่าเดียว   ถ้างั้นสู้  ไม่ต้องมีโรงเรียน มีมหาลัยมันไปเลยไม่ดีกว่ารึ

ขนาดแค่สอนให้เด็กยกมือไหว้ ครูยังโดนด่าว่าสอนระบอบเผด็จการให้เด็กน่ะ??
ลามไปกระทั่งหนังสือแบบเรียน  ขนาดหนังสือภาษาไทย  มานี มานะ ชูใจ ก็ยังโดนหาว่าแทรกความคิดระบอบเผด็จการ

นี่เขาเรียกคนมองเห็นคุณค่าทางการศึกษารึครับ??


ที่เค้าด่าๆกันถามจริงคุณได้ฟังฉบับเต็มรึเปล่า รวมถึงแบบเรียนที่เค้าว่ากันได้อ่านฉบับเต็มมั้ยต้องแยกแยะ
พวกโหนรวมหรือป้ายสีตีกินเรื่องนี้เพื่อเอาความชอบธรรมในการว่าเด็กออกด้วย ร่วมถึงพวกครูก็เช่นกัน ครูดีๆโรงเรียนดีๆก็ไม่เห็นมีใครด่าเรื่องที่เค้าเรียกร้องบางข้อมันมีมูลจริงๆ บางเรื่องก็เลยเถิด แต่ไม่ไช่ตีรวนว่าเด็กสมัยนี้ด้อยค่าครู ต้องแยกเป็นเรื่องๆ
1 ต้องยอมรับครูและกระบวนการศึกษาไทยมีปัญหาจริง ทั้งคุณภาพครู สื่อการเรียนการสอน โรงเรียนและภาควิชาการ
ถ้ายังยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้ ก็ไม่มีวันแก้ปัญหาได้ เพราะขั้นแรกของการแก้ปัญหาคือต้องยอมรับว่ามันเป็นปัญหาก่อน ไม่งั้นก็ไม่มีวันได้เริ่ม
2 โรงเรียนที่เค้าเรียกร้องให้ปิด บางโรงเรียนก็น่าโดนจริง อย่างที่เป็นข่าวล่าสุด ครูไม่มีใบอนุญาติครูแล้วทำงานได้ไง
บางโรงเรียนก็เกิดจากไม่ยอมประนีประนอมกับเด็กและผู้ปกครอง เลยเถิดจนลาม บางโรงเรียนเด็กเรียกร้องมากเกินไปก็มี
แยกเป็นเรื่องๆไปสิ อย่าตีกินว่าเด็กสมัยนี้ไม่เอาครูหมด
3 ต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมทั้งครูทั้งนักเรียน เพราะสังคมไม่มีทางเหมือนเดิมได้ตลอด ที่มันมีปัญหาเพราะมันไม่มีการคุยและประนีประนอมกัน ไม่มีการหาทางออกร่วมกัน ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ยอมลง หรือยอมรับข้อเรียกร้องอีกฝ่ายก็จะวนกันอยู่แบบนี้แหล่ะ
ปล. ผมว่าจะไม่มามู้นี้แล้วนา
เห็นแนวความคิดหลายๆอันในมู้นี้แล้ว หดหู่ ไม่รู้ตอบเอามันส์รึคิดอย่างงั้นจริงๆถ้าคิดอย่างนั้นจริงๆ ผมขอภาวนาให้พวกคุณลองเสพย์สื่อหลายๆเจ้า
จากทั้งฝั่งตรงข้ามหรือสื่อนอกดูบ้าง หวังว่ามันจะช่วยให้คุณได้รู้อะไรนอกจาก วิถีที่บ้านเราพยายามยัดเยียดมาตลอด
แม้มันจะเป็นยาขมแบบสุดๆก็เถอะ

When we do right, nobody remembers.
When we do wrong, nobody forgets.
 

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,679
  • ถูกใจแล้ว: 2830 ครั้ง
  • ความนิยม: +187/-0
ผมว่าน่าจะแยกไปเลย
รร.นี้ภาคบังคับ
รร.นี้ภาคพิเศษ


ภาคบังคับตามกฏกระทรวงพอไม่มีการบังคับใดๆทั้งสิ้น
คะแนนจากการสอบจากส่วนกลาง 100%
เครื่องแต่งกาย ทรงผมตามสบาย
การสอน ครูให้อ่านกันเอาเอง ใครสงสัยค่อยถาม
จะไม่เข้าเรียนก็ได้ตามสบาย
กฏรักษาตามกฏหมายพอ
ผลการเรียน ถ้าสอบไม่ผ่านก็ให้สอบใหม่เรื่อยๆเดือนละครั้ง


ไม่มีเกรด มีแค่ผ่านรึไม่




ส่วน รร.พิเศษคือ มุ่งเน้นความเป็นเลิศ
รร.สามารถออกกฏทึ่ไม่ขัดต่อกฏหมายได้หมด
ใครไม่พอใจก็ไม่ต้องเข้ามาเรียน
 

ออฟไลน์ blademaster

  • จุดต่ำสุดแห่งวงศ์วานหมี
  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,141
  • ถูกใจแล้ว: 305 ครั้ง
  • ความนิยม: +29/-472
แต่มานีมานะนี่สนับสนุน เผด็จการชัวร์ๆนะทใครทันได้เรียนน่าจะรู้สึก

จากหลายๆความเห็น เหมือนจะบอกว่าทโรวเรียนไม่ใช่ที่ให้ความรู้ แต่ให้ไปหาคอนเน็คชั่นแฮะ

ส่วนกรณีทำโทษแล้วเด็กเดี้ยง เด็กทั้งห้อง โดน100ทีแล้วยังสบาย มีคนเดียวเป็นง่อย. จะบอกว่าลงโทษหนักไปก้อไม่ได้นะ หรือจะบอกว่าทั้งห้องคือยอดมนุษย์ มีคนธรรมดาคนเดียวในห้อง(ที่เดี้ยงน่ะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 30, 2020, 12:38:06 PM โดย blademaster »
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,228
  • ถูกใจแล้ว: 3931 ครั้ง
  • ความนิยม: +299/-402
แต่มานีมานะนี่สนับสนุน เผด็จการชัวร์ๆนะทใครทันได้เรียนน่าจะรู้สึก

จากหลายๆความเห็น เหมือนจะบอกว่าทโรวเรียนไม่ใช่ที่ให้ความรู้ แต่ให้ไปหาคอนเน็คชั่นแฮะ

ส่วนกรณีทำโทษแล้วเด็กเดี้ยง เด็กทั้งห้อง โดน100ทีแล้วยังสบาย มีคนเดียวเป็นง่อย. จะบอกว่าลงโทษหนักไปก้อไม่ได้นะ หรือจะบอกว่าทั้งห้องคือยอดมนุษย์ มีคนธรรมดาคนเดียวในห้อง(ที่เดี้ยงน่ะ)
หรือไม่จริงไอ้ที่ว่าประสบความสำเหร็จนะไม่ไช่มาจากความรู้สักนิดเราเรียนจบหมอมาทำงานเปิดคลีนิกสร้างรพ.ของตัวเองคือประสบความสำเหร็จ ในมุมมองผมมันคือคอนเน็กชันและเงินทุนขนาดใหณ่ที่ต่อไห้ไม่เรียนอะไรมาเลย แต่ถ้ามีคอนเนกชันและเงินทุนก็ทำได้เหมือนกันถ้าไห้เปรียบเทียบนะหมอที่จบนอกคิดค้นตัวยาใหม่คิดค้นการรักษาใหม่ได้ นี่ต่างหากที่เรียกว่าประสบความสำเหร็จในวิชาชีพถามว่าวุฒเท่ากันจบปริญณาเหมือนกัน ถามว่าหมอเมือไทยมีใครทำได้บ้างถ้าถามถึงคนประสบความสำเหร็จจากการศึกษา ส่วนมากเรียนมาจากนอกทังนั้นนี่ไม่ได้บอกถึงความห่วยในระบบการเรียนของไทยเหรอ ผมถึงบอกว่าความต่างของพวกที่เรียนสูงกับเรียนต่ำ(ในไทย)แทบไม่มีมันต่างกันที่ต้นทุน แล้วเทียบกันพวกที่จบสูงแล้วเป็นพนักงานกับเรียนไม่สูงเปิดร้านของตัวเองได้มันต่างกันตรงไหน ยิ่งพวกประสบความสำเหร็จด้วยความรู้ผมถามเลยว่าใครครับมีใครบ้าง ไม่เอาพวกจบนอกนะเอาที่จบในไทยระบบการเรียนไทยมันเก่าเกินไป

ออฟไลน์ blademaster

  • จุดต่ำสุดแห่งวงศ์วานหมี
  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,141
  • ถูกใจแล้ว: 305 ครั้ง
  • ความนิยม: +29/-472
 
[quote/]
หรือไม่จริงไอ้ที่ว่าประสบความสำเหร็จนะไม่ไช่มาจากความรู้สักนิดเราเรียนจบหมอมาทำงานเปิดคลีนิกสร้างรพ.ของตัวเองคือประสบความสำเหร็จ ในมุมมองผมมันคือคอนเน็กชันและเงินทุนขนาดใหณ่ที่ต่อไห้ไม่เรียนอะไรมาเลย แต่ถ้ามีคอนเนกชันและเงินทุนก็ทำได้เหมือนกันถ้าไห้เปรียบเทียบนะหมอที่จบนอกคิดค้นตัวยาใหม่คิดค้นการรักษาใหม่ได้ นี่ต่างหากที่เรียกว่าประสบความสำเหร็จในวิชาชีพถามว่าวุฒเท่ากันจบปริญณาเหมือนกัน ถามว่าหมอเมือไทยมีใครทำได้บ้างถ้าถามถึงคนประสบความสำเหร็จจากการศึกษา ส่วนมากเรียนมาจากนอกทังนั้นนี่ไม่ได้บอกถึงความห่วยในระบบการเรียนของไทยเหรอ ผมถึงบอกว่าความต่างของพวกที่เรียนสูงกับเรียนต่ำ(ในไทย)แทบไม่มีมันต่างกันที่ต้นทุน แล้วเทียบกันพวกที่จบสูงแล้วเป็นพนักงานกับเรียนไม่สูงเปิดร้านของตัวเองได้มันต่างกันตรงไหน ยิ่งพวกประสบความสำเหร็จด้วยความรู้ผมถามเลยว่าใครครับมีใครบ้าง ไม่เอาพวกจบนอกนะเอาที่จบในไทยระบบการเรียนไทยมันเก่าเกินไป
ก้อใช่นะ การศึกษามันไม่สำคัญ สำคัญแค่คอนเน็คชั่นกะเงินทุน เพราะงั้นสถาบันดังๆ หากเป็นแนวเรียนครบจบแน่ หากมันมีเครดิทดีก่อหางานได้ง่าย

แต่มหาลัยไหนจบยากหรือสอบเข้ายาก อาจจะคอนเฟิร์มความเก่งได้ในระดับนึง แต่เก่ง หรือจะสู้มีทุน

กลอนสมัยก่อนที่ว่า อันพ่อแม่ไม่มีทองจะกองให้ จงตั้งใจพากเพียรเรียนหนังสือ

หรือเรียนสูงๆจะได้เป็นเจ้าคนนายคน

มันคือบอกให้เรียนแล้วไปสอบข้าราชการนั่นแหละ ข้าราขการ ทำไงรวย ก้อต้องคอรัปชั่นสิ สมัยก่อนจับได้ยาก ทั้งใต้โต๊ะทั้งสินน้ำใจ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 30, 2020, 02:02:51 PM โดย blademaster »
 

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,679
  • ถูกใจแล้ว: 2830 ครั้ง
  • ความนิยม: +187/-0
[quote/]
หรือไม่จริงไอ้ที่ว่าประสบความสำเหร็จนะไม่ไช่มาจากความรู้สักนิดเราเรียนจบหมอมาทำงานเปิดคลีนิกสร้างรพ.ของตัวเองคือประสบความสำเหร็จ ในมุมมองผมมันคือคอนเน็กชันและเงินทุนขนาดใหณ่ที่ต่อไห้ไม่เรียนอะไรมาเลย แต่ถ้ามีคอนเนกชันและเงินทุนก็ทำได้เหมือนกันถ้าไห้เปรียบเทียบนะหมอที่จบนอกคิดค้นตัวยาใหม่คิดค้นการรักษาใหม่ได้ นี่ต่างหากที่เรียกว่าประสบความสำเหร็จในวิชาชีพถามว่าวุฒเท่ากันจบปริญณาเหมือนกัน ถามว่าหมอเมือไทยมีใครทำได้บ้างถ้าถามถึงคนประสบความสำเหร็จจากการศึกษา ส่วนมากเรียนมาจากนอกทังนั้นนี่ไม่ได้บอกถึงความห่วยในระบบการเรียนของไทยเหรอ ผมถึงบอกว่าความต่างของพวกที่เรียนสูงกับเรียนต่ำ(ในไทย)แทบไม่มีมันต่างกันที่ต้นทุน แล้วเทียบกันพวกที่จบสูงแล้วเป็นพนักงานกับเรียนไม่สูงเปิดร้านของตัวเองได้มันต่างกันตรงไหน ยิ่งพวกประสบความสำเหร็จด้วยความรู้ผมถามเลยว่าใครครับมีใครบ้าง ไม่เอาพวกจบนอกนะเอาที่จบในไทยระบบการเรียนไทยมันเก่าเกินไป


แล้วการคิดค้นตัวยาใหม่ๆรึ วิธีการรักษาใหม่ๆมันไม่ใช้เส้นสายกับเงินทุนยังไง
การคิดค้นยาใหม่ๆ มันต้องมีการทดสอบการใช้จริงจำนวนมาก ไม่มีเส้น จะไปหาคนป่วยจากไหน
ไม่มีทุน จะมีคนไหนสร้างทีมวิจัยได้


จริงอยู่อาจจะมีข่าว คนที่โนเนมสุดๆ คิดวิธีใหม่ๆออกมาให้ถูกยอมรับได้ แต่นั่นก็เรียกได้ว่าทั้งโลก โอกาสมีแค่ 1 ในร้อยล้านได้
ที่เหลือมันก็มีทุนขนาดใหญ่หนุนหลังทั้งนั้น


ไปดูอันดับมหาลัยโลกละ จุฬาที่ 200+
https://www.topuniversities.com/universities/chulalongkorn-university

แต่พวกแรงค์กิ้งพวกนี้ อย่าไปคิดมาก เคยดู 100 อันดับแรก ของอีกเวปนึง เป็นอเมริกา กับ อังกฤษ ประมาณ 80% ได้
ส่วนเอเชีย มีสิงคโปร์ จีน ใต้หวัน เกาหลี แค่นี้มั้งที่ติด แล้วมีแค่จีน กับ สิงคโปร์ที่อันดับพอดูดีหน่อย
ที่เหลือออกราวๆ แทรกขึ้นมาได้มากกว่า
https://www.timeshighereducation.com/world-university-rankings/2021/world-ranking#!/page/0/length/-1/sort_by/rank/sort_order/asc/cols/scores
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 30, 2020, 04:03:21 PM โดย deaddy »
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: nosta

ออฟไลน์ nosta

  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 2,522
  • ถูกใจแล้ว: 1150 ครั้ง
  • ความนิยม: +106/-145
[quote/]
หรือไม่จริงไอ้ที่ว่าประสบความสำเหร็จนะไม่ไช่มาจากความรู้สักนิดเราเรียนจบหมอมาทำงานเปิดคลีนิกสร้างรพ.ของตัวเองคือประสบความสำเหร็จ ในมุมมองผมมันคือคอนเน็กชันและเงินทุนขนาดใหณ่ที่ต่อไห้ไม่เรียนอะไรมาเลย แต่ถ้ามีคอนเนกชันและเงินทุนก็ทำได้เหมือนกันถ้าไห้เปรียบเทียบนะหมอที่จบนอกคิดค้นตัวยาใหม่คิดค้นการรักษาใหม่ได้ นี่ต่างหากที่เรียกว่าประสบความสำเหร็จในวิชาชีพถามว่าวุฒเท่ากันจบปริญณาเหมือนกัน ถามว่าหมอเมือไทยมีใครทำได้บ้างถ้าถามถึงคนประสบความสำเหร็จจากการศึกษา ส่วนมากเรียนมาจากนอกทังนั้นนี่ไม่ได้บอกถึงความห่วยในระบบการเรียนของไทยเหรอ ผมถึงบอกว่าความต่างของพวกที่เรียนสูงกับเรียนต่ำ(ในไทย)แทบไม่มีมันต่างกันที่ต้นทุน แล้วเทียบกันพวกที่จบสูงแล้วเป็นพนักงานกับเรียนไม่สูงเปิดร้านของตัวเองได้มันต่างกันตรงไหน ยิ่งพวกประสบความสำเหร็จด้วยความรู้ผมถามเลยว่าใครครับมีใครบ้าง ไม่เอาพวกจบนอกนะเอาที่จบในไทยระบบการเรียนไทยมันเก่าเกินไป


คืออ่านที่ผมพิมพ์บ้างรึเปล่า
ถ้าเรียนไม่ช่วยให้ประสบความสำเร็จ คนที่ประสบความสำเร็จจะส่งลูกเรียนสูงๆทำไม ดูลูกๆเจ้าสัวระดับประเทศนี่จบสูงๆดีๆกันทุกคน
ที่ให้ไปดูรายได้เฉลี่ยแต่ละระดับการศึกษาก็ไม่ดู


https://www.admissionpremium.com/content/519

ต่างกันหลายเท่ากับรายได้คนจบน้อยกับคนจบสูง
คนรวยระดับต้นๆในประเทศหลายคนก็ไม่ได้เรียนนอกนะครับ

 [quote/] ก้อใช่นะ การศึกษามันไม่สำคัญ สำคัญแค่คอนเน็คชั่นกะเงินทุน เพราะงั้นสถาบันดังๆ หากเป็นแนวเรียนครบจบแน่ หากมันมีเครดิทดีก่อหางานได้ง่าย

แต่มหาลัยไหนจบยากหรือสอบเข้ายาก อาจจะคอนเฟิร์มความเก่งได้ในระดับนึง แต่เก่ง หรือจะสู้มีทุน

กลอนสมัยก่อนที่ว่า อันพ่อแม่ไม่มีทองจะกองให้ จงตั้งใจพากเพียรเรียนหนังสือ

หรือเรียนสูงๆจะได้เป็นเจ้าคนนายคน

มันคือบอกให้เรียนแล้วไปสอบข้าราชการนั่นแหละ ข้าราขการ ทำไงรวย ก้อต้องคอรัปชั่นสิ สมัยก่อนจับได้ยาก ทั้งใต้โต๊ะทั้งสินน้ำใจ


แล้วสถาบันไหนนี่เรียนครบจบแน่แต่เครดิตดีละครับ พวกเรียนครบจบแน่ก็ ม โนเนม จบมาตกงาน ต้องทำงานนอกสายกันทั้งนั้น ม ดีๆ เข้ายากจบยากถึงจะหางานง่ายเงินเดือนสูง  ถ้าเรียนไปเพื่อหาคอนเนคชั่นอย่างเดียวเค้าจะสอนไปเพื่ออะไร ตั้งกลุ่มเที่ยวดื่มไม่ดีกว่าเหรอไม่ต้องเรียน


เก่งดีกว่ามีทุนนะครับ ลองเทียบคนจบ ม ท๊อป กับคนถูกหวยรางวัลที่ 1 ไทยดู โอกาสคนจบ ม ระดับท๊อปมากกว่าด้วยซ้ำำ จบ เอก หมอ จุฬา ก็เงินเดือน ครึ่งแสน ทำไปนานๆก็เป็นแสน กินไปตลอดชีวิต ส่วนคนถูกหวยรางวัลที่1 ไม่กี่ปีก็หมดตัวกันถ้วนหน้า

 

ออฟไลน์ blademaster

  • จุดต่ำสุดแห่งวงศ์วานหมี
  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,141
  • ถูกใจแล้ว: 305 ครั้ง
  • ความนิยม: +29/-472
เรียนสูงเพื่อหาคอนเน็ท ไม่ใช่หาความรู้

ดังนั้นการเรียนไๆม่ช่ยให้ประสบความสำเร็จ แต่การไปเนียนเพื่อหาคอนเน็ท ช่วยให้ประสบความสำเร็จ

คนเรียนสูงได้ แสดงว่าเค้ารวยอยู่แล้วในส่วนนึง ไม่เห็นแปลกนิ


คนถูกหวยรางวัลที่1 หากบริหารเป็นไม่ต้องเก่งไรมาก ก้ออย่สบายไปตลอดครับ ที่เห็นหม คือพวกโง่มาก ถึงมากที่สุด

หากเรียนเก่งๆ แล้วการันตีรวย พวกเด็กที่ติดคณิตโอลิมปิก น่าจะติดรายชื่อคนรวยที่สุด1ใน1000มั่งแล้ว

หรือนักวิทยาศาสตร์โลก คงมีใครสักคนรวยจนติดอันดับเศรษฐฐี อ่ะ
 

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,679
  • ถูกใจแล้ว: 2830 ครั้ง
  • ความนิยม: +187/-0
พูดถึงคนถูกหวย ระหว่างเรียนสูง ทำงานเก็บเงินจนมีตังเก็บเท่ากับรางวัลที่ 1
กับไม่ต้องเรียนสูง ทำงานเก็บเงิน แล้วเอาไปลงหวยหมด จนได้รางวัลผลตอบแทนเทียบเท่ารางวัลที่ 1


อันไหนมีโอกาสมีโอกาสมากกว่ากัน ;D




เอาจริงๆไม่ต้องเรียนสูงทำงานขยันขันแข็ง
ศึกษาด้วยตัวเองก็รวย รึประสพผลสำเร็จได้


แต่สิ่งที่ยากที่สุดของการประสพผลสำเร็จรึรวย
คือการตั้งคำถามและการหาคำตอบ
บางอย่างคิดได้ พอไปถาม คนที่เรียนด้านนั้นมา
มันก็แจงให้ฟังเลย ต่องใช้เงินเท่าไหร่ เวลาเท่าไหร่ถึงจะสำเร็จ

ถ้าลงมือทำโดยไม่รู้อะไรเลย ก็คงเสียเวลาเป็นปีๆ
สุดท้ายความคิดใหม่ๆมันก็เก่าไปละ


คือถ้าเราอยากเป็นวิศวะ ก็สอบเข้าให้ได้สิ
เดี๋ยวเขาจะสอนเองว่าการเป็นวิศวะจะต้องทำไงถึงจะประสพผลสำเร็จ


แต่ถามว่าคนที่จบมาทำงานไม่ตรงสาย เกรดเท่าไหร่
เรียนจบจากมหาลัยอะไร 


ถ้าเก่งพอ ต่อให้ทำเอกชนไม่รุ่ง งานราชการก็มีเปิดสอบแทบทุกปี
ถึงจะมีคนใช้เส้นเข้า แต่คนเก่งจริงเท่าที่เห็นสอบติดหลายที่เลยแหล่ะ


ส่วนคนที่ทำเอกชน คนเก่งยังไงก็มีงานทำ
ส่วนพวกที่ตกงาน จนต้องย้ายสายงาน มันก็ปรกติ


ถ้าคนมีมากกว่างาน มันก็ต้องมีคนตกงาน
พอคนที่ไม่เก่งพอในสายงาน ย้ายสายงาน
มันก็ไปแย่งที่ คนในสายงานเดิมที่ไม่เก่งพอ
มันก็จะเตะกันเป็นทอดๆ


ส่วนพวกเปิดกิจการเอง โดยไม่ใช้ความรู้ระดับสูงขึ้นมา
พอทำแล้วรวย ยังไงก็มีคนก็อบ สุดท้ายก็รายได้ลดลง
จนอาจต้องเปลี่ยนงานเพราะไม่คุ้ม




ส่วนพวกค้าขายแล้วรวยน่ะ มันก็มีขีดจำกัดอยู่
คือถ้าเราเจอช่องว่าง เราก็จะแทรกลงไปได้
แต่ถ้าขยายตัวขึ้นถึงจุดนึง ยังไงก็ต้องไปตีชาวบ้าน
สุดท้านคือคนที่เก่งที่สุดจะชนะกินรวบ




สรุปคือ ถ้าไม่พึงดวงรึเส้นไม่ต้องเรียนสูงก็รวยได้ แต่ต้องเก่ง
แล้วก็ต้องเก่งกว่าคนที่เรียนมาโดยตรง
ไม่งั้นก็แค่พออยู่พอกิน ตราบที่ไม่เจอคู่แข่งก็ไม่มีปัญหา


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 30, 2020, 06:09:06 PM โดย deaddy »
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: nosta

ออฟไลน์ nosta

  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 2,522
  • ถูกใจแล้ว: 1150 ครั้ง
  • ความนิยม: +106/-145
เรียนสูงเพื่อหาคอนเน็ท ไม่ใช่หาความรู้

ดังนั้นการเรียนไๆม่ช่ยให้ประสบความสำเร็จ แต่การไปเนียนเพื่อหาคอนเน็ท ช่วยให้ประสบความสำเร็จ

คนเรียนสูงได้ แสดงว่าเค้ารวยอยู่แล้วในส่วนนึง ไม่เห็นแปลกนิ


คนถูกหวยรางวัลที่1 หากบริหารเป็นไม่ต้องเก่งไรมาก ก้ออย่สบายไปตลอดครับ ที่เห็นหม คือพวกโง่มาก ถึงมากที่สุด

หากเรียนเก่งๆ แล้วการันตีรวย พวกเด็กที่ติดคณิตโอลิมปิก น่าจะติดรายชื่อคนรวยที่สุด1ใน1000มั่งแล้ว

หรือนักวิทยาศาสตร์โลก คงมีใครสักคนรวยจนติดอันดับเศรษฐฐี อ่ะ


ก็เพราะไม่เรียนไงถึงได้โง่มาก มีเงินเท่าไหร่ก็หมด คนจบ โอลิมปิก หลายคนทำงานระดับสูงรายได้ดีรวยพอตัวนะ เป็นสายวิศวะกร วิทยาศาสตร์ ดีกว่าค่าเฉลี่ยลิบ


คอนเนคชั่นไม่ต้องเรียนก็หาได้ครับ ชวนเพื่อนลูกมาตั้งวงก็พอ


คนที่เรียนต่ำๆก็มีคอนเนคชั่นมีเพื่อนฝูงเหมือนกัน แต่คนเรียนดีมันจะคบเพื่อนที่เอาการเอางานมากกว่า คอนเนคชั่นดีกว่าเพราะคนเรียนสูงมันเก่งกว่าด้วย


คนเรียนสูงไม่จำเป็นต้องรวยเลย ม รัฐก็มี คนจนชนชั้นกลาง ก็จบ ม ดังๆกันเพียบ ไอ้พวก ม เอกชน จ่ายครบจบแน่ ค่าเทอมแพง ไม่รวยเข้าไม่ได้ ก็ไม่มีใครอยากเข้า เพราะเข้าไปก็ไม่ได้ความรู้ คนรวยๆจำนวนมากจึงส่งลูกเข้า ม รัฐ ไม่ใช่เพราะหาเพื่อนรวย หาเพื่อนรวย เข้า ม เอกชนดีกว่า แต่ ม รัฐ ระดับท๊อปมีการศึกษาที่ดี และเพื่อนก็คุณภาพดีกว่า คือไม่รวยมากแต่เก่งฉลาด

     จริงๆสงสัยอยู่นะว่าไอ้คนที่บอกว่าการเรียนไม่มีประโยชน์นี่ จะส่งลูกเรียนแค่การศึกษาขั้นต่ำรึเปล่า เพราะเห็นหลายคนบอกการเรียนไม่มีประโยชน์ แต่กลับเข็นลูกให้เข้ามหาลัยให้ได้ สอนลูกตัวเองอย่างสอนลูกคนอื่นอย่างนึง 555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 30, 2020, 06:50:21 PM โดย nosta »
 

ออฟไลน์ pol

  • สาวกผู้สนับสนุนเซนนิคุง2Y
  • จอมทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 16,684
  • ถูกใจแล้ว: 19192 ครั้ง
  • ความนิยม: +360/-0
  • เพศ: ชาย
  • นักอู้มือหนึ่ง
เห็นชอบพูดกันว่าคนที่ประสบความสำเร็จไม่ต้องเรียนสูงๆ อยากจะตอบว่านั่นมันแค่1ใน100  ไปดูประวัติของเจ้าของบริษัทขนาดใหญ่ดูก็ได้ว่าเขาเรียนจบมากี่สาขา. แล้วพวกที่ตอนหนุ่มๆไม่ได้เรียนพอมีเงินเขาก็ไปเรียนเพิ่มกันทั้งนั้นแหละครับ
 

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,679
  • ถูกใจแล้ว: 2830 ครั้ง
  • ความนิยม: +187/-0
เห็นชอบพูดกันว่าคนที่ประสบความสำเร็จไม่ต้องเรียนสูงๆ อยากจะตอบว่านั่นมันแค่1ใน100  ไปดูประวัติของเจ้าของบริษัทขนาดใหญ่ดูก็ได้ว่าเขาเรียนจบมากี่สาขา. แล้วพวกที่ตอนหนุ่มๆไม่ได้เรียนพอมีเงินเขาก็ไปเรียนเพิ่มกันทั้งนั้นแหละครับ


เท่าที่ผมเคยค้น 50 คนรวยที่สุดในไทย ถ้าไม่นับมาจากมรดก รึอายุ 60+
ทุกคนเรียนจบอย่างต่ำคือ ป.ตรี แล้วมีหลายคน มีใบปริญญามากกว่า 1 ใบ
และก็มีหลายคนจบจากมหาลัยดัง รึคณะหัวแถว ที่คะแนนสอบเข้าสูงลิ่ว
ยิ่งพวกรวยด้วยอายุน้อยๆโปรไฟล์การศึกษานี่อย่างหรูเลย
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: pol, nosta

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,228
  • ถูกใจแล้ว: 3931 ครั้ง
  • ความนิยม: +299/-402
ผมว่าแม่งไม่ตรงประเด็นผมไม่ได้หมายความว่าไม่มีความรู้แล้วจะประสบความสำเหร็จ มันต้องมีความรู้สิครับถึงทำได้แต่ที่พูดๆมามันคือระบบการเรียนในไทยครับอย่ามัว ไอ้ที่ว่ามาแต่ละคนจบนอกทังนั้นหรือป่าวเอาคนจบในไทยมาสักคนสิ วุติไทยกับนอกเท่ากันนะแต่คนจบนอกทำใมถึงทำได้ดีกว่า หรือรร.ในไทยเมื่อเรียนแล้วทำใมยังต้องเรียนพิเศษเพิ่ม บอกเลยโคตรชัดคือเรียนไปแม่งไม่ได้อะไรสุดท้ายความรู้ก็อยู่นอกรร. ดังนั้นที่ผมบอกว่าคนจบสูงในไทยกับคนที่จบไม่สูงในไทยไอ้พวกที่ประสบความสำเหร็จนะความรู้แม่งไม่ต่างกัน ส่วนพวกจบสูงแต่ทำงานนอกสายงานกับจบไม่สูงแต่ทำงานเปิดกิจการได้ความรู้ในอาชีพพวกนี้ก็ไม่ต่างกัน เช่นจบหมอมาเปิดร้านอาหารขายดีรวยมันต่างจากจบไม่สูงเปิดร้านขายอาหารเเล้วรวยตรงไหนถ้าต่างสายงานไอ้ที่เรียนมามันก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ความรู้กับการศึกษาในไทยมันคนละเรื่องกันครับที่ผมว่าคือระบบการศึกษาในไทย มันไห้ความไม่รู้ยัดเยียดอุดมคติแย่ๆไห้ความรู้ผิดๆมาตลอด ยกตัวอย่างง่ายๆอย่างลุกนังสลับขาครูเอามาไช้ลงโทษเพราะเรียนรด.ถูกทำโทษมาแบบนี้ แต่มันไม่คิดเลยว่ารด.หรือทหารอย่างน้อยมันก็ผ่านการทดสอบร่างกายเบื้องต้นไปแล้ว แต่เพราะไม่มีความรู้เลยเอามาไช้กับเด็กทังๆที่เป็นความรู้ด้านกีฟาขั้นพื้นฐาน ว่าการลุกนังสลับขามันเป็นการทำลายกล้ามเนื้อท่านี้มีไว้สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างความทนทานในการออกกำลัง ต้องทำเป็นเซ็ตๆแล้วพักรอไห้กล้ามเนื้อคืนตัวไม่เหมาะกับเด็กอายุต่ำกว่า18ที่กล้ามเนื้อยังไม่สมบูรณ์ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าการศึกษาไทยไห้ความรู้แค่ไหนนี่แค่เรื่องพื้นฐานเลยนะ และอย่าบอกว่าก็ไม่ได้เรียนด้านกีฟามาผมถามกลับรร.แม่งไม่มีครูพละเหรอฟะ

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,679
  • ถูกใจแล้ว: 2830 ครั้ง
  • ความนิยม: +187/-0
ถึงทำงานข้ามสาขาก็ต่างครับ


ผมเคยฟังคนรวยคนนึงออกรายการอะไรซักอย่าง


เขาจบวิศวะ รึวิทยาคอมนี่แหล่ะ
ไปเปิดร้านเน็ต ร้านโชวห่วย ร้านนู่นนี่นั่นเป็นสิบอย่างเลย


แต่เขาสามารถบริหารพร้อมกันได้ เพราเขาเขียนโปรแกรม ดูแลกิจการ
ทำให้สามารถตรวจสอบการทำงานลูกน้องได้หมด


ถือว่าตรงสาขาไหมล่ะครับ


รึบางคนจบวิศวะเกษตร ไปเป็นเซลล์ ขายอุปกรณ์เกษตร
ก็รวยครับ ถามว่าลูกค้าจะสั่งซื้อของจากวิศวะ รึจบม.ปลายครับ


ทุกวันนี้เวลาไปซื้ออุปกรณ์คอม น้องผมมันพูดประตำว่าเซลขายไม่รู้เรื่องเห้อะไร
น้องมันจบคอมมา มันฟังก็รู้ครับ


รึเคยคุยกับช่างแอร์ พอบอกแอร์ไม่เย็นแม่มบอกว่า
เพราะผนังมันยังไม่ชื้นเลยเก็บความเย็นไม่ได้


เอาจริงๆคือมันเป็นอินเวิทเตอร์ มันจะเย็นน้อยกว่ารุ่นเดิมๆ รึเย็นช้ากว่า


พอจะเห็นไหมครับว่าความรู้ตามสายงานทำมาโดยตรง
คนไม่รู้เรื่องจริง คนอื่นเขาก็ดูออก


แต่อย่างหลายคนเรียนจบสูงมาอย่างน้อย ป.ตรี
ขนาดไม่ได้เรียนรึทำงานด้านนั้น แต่ก็ศึกษาต่อเองได้
สามารถแยกแย่ะได้ดีกว่าพวกช่าง ที่จบไม่สูงซะอีก


คือถ้าไม่รู้จะอธิบายคร่าวๆคือ พวกช่างเวลาเรียน
มักเน้นท่องจำมากกว่า เช่น ปริมาณขนาดนี้ใช้เท่านี้
สูงเท่านี้ ต้องกว้างเท่านี้


ส่วนวิศวะจะเรียนว่ามันมาได้ยังไง คือสามารถปรับการใช้งานได้


พอเวลาไปทำงานนอกสาขา วิศวะหลายคนจะไปหยิบหนังสือเพื่อทำความเข้าใจ
ใจความสำคัญ


ส่วนพวกจบช่างที่เป็นสายอาชีพ จะใช้วิธีจำเอา
เช่น พื้นลานจอดรถ เคยทำมางานไม่สำคัญพังก็ได้
พอมาทำงานที่บังคับมาตรฐานก็เจ๊งรัวๆ


ที่จะสื่อคือ ในมหาลัย มันจะสอนวิธีการมาได้ซึ่งความรู้
วิธีการค้นคว้า วิธีตั้งสมมุติฐาน วิธีการเข้าสู่ความรู้ต่างๆ


สามารถรู้และลองเทคโนโลยีที่ราคาแพงได้โดยไม่ต้องซื้อมาใช้
แล้วก็กลุ่มเพื่อน รึอ. ที่จะแน่ะนำเราได้ถ้าเราถาม


ต่อให้ทำงานขายที่ใช้ความรู้แค่ท่องจำก็ขายได้แล้ว
แต่เวลาคุยกับเซล ที่จบ ประถม กับเซล ที่จบมหาลัย
ถามว่าเวลาสงสัยในสินค้า คนที่รู้จริงกับไม่รู้จริง
ความน่าซื้อต่างแน่นอน




มันมีหลายอย่างในมหาลัยครับ ที่ข้างนอกไม่มีสอน แต่ได้ใช้
ถ้าคนที่เรียนจบมาสังเกตุดูมันมีผลกับชีวิตจริงๆหลายอย่างด้วย


อย่างแต่ก่อนผมเกลียดภาษาอังกฤษมาก
พอไปเรียนมหาลัย เพื่อนมันเสพสื่อแปลอิ้งกันปรกติ
ถามมันๆบอกอ่านๆไปเดี๋ยวก็ชิน
พอลองตามมันก็ชินจริงๆ ไม่ต้องไปสนแกรมม่าให้ปวดหัว




ส่วนการเรียนระดับมัธยม เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการเรียนภาคบังคับ
เพื่อนบ้านรวยมีวิสัยทัศน์มันก็ไม่ได้มาสอนเราหรอก


แล้วสาขาที่เรียนก็มีผลต่อแนวคิดด้วย


ในหน่วยงานที่ทำงานผม จะมีความคิดของาองกลุ่ม


กลุ่มนึงเป็นนักพัฒนา สิ่งที่คิดคือ ผลลัพธ์
ส่วนพวกนักกฏหมาย สนแต่วิธีการ


พอสายนักพัฒนาเป็นหัวหน้า งานพัฒนาจะมาเต็ม
งบพัฒนาพุ่ง
แต่พอเป็นเจ้านายเป็นนักกฏหมาย งานพัฒนาจะไม่ค่อยออก
งบมีแต่ใช้จัดอบรม งานก็มีแต่ไล่ฟ้องชาวบ้าน


นักกฏหมายไม่ค่อยคิดการสร้างงาน
แต่ชอบงานจับผิด งานลงโทษ


อย่างสายกฏหมาย จ.นึง เห็นวัดทำผิดก็ไปยึดที่วัด
จากวัดดังมีเงินเข้ามากมาย มีชาวบ้านมาค้าขายมากมาย
กลายเป็นเกือบร้าง สิ่งปลูกสร้างมูลค่าหลายสิบล้าน
ที่สร้างไว้ก็ร้างไม่ได้ใช้
กำแพงวัดก็จะได้ทุบทิ้ง
เรียกว่าระดับพระสังฆราชมาไกล่เกลี่ยเลย


ส่วนิีก จ. เจ้านายเป็นสายพัฒนา
วัดดังทำผิดหรอ ก็เรียก เจ้าอาวาสมา
ที่ทำอยู่ผิดกฏหมายนะ ไปทำมาให้ถูกนะ
แล้ววัดก็ไปแก้ไขเดินเรื่องตามระเบียบแล้วเรื่องก็จบ


นี่แหล่ะ ความต่างของสายงาน
นักกฏหมายยอมเสียหายนับร้อยนับพันล้าน เพื่อเอาผิด
ส่วนนักพัฒนา บอกถ้าคุณทำผิดก็ไปทำให้ถูกสิ
สุดท้ายก็ไม่มีใครเสียประโยชน์



 

ออฟไลน์ nosta

  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 2,522
  • ถูกใจแล้ว: 1150 ครั้ง
  • ความนิยม: +106/-145
ผมว่าแม่งไม่ตรงประเด็นผมไม่ได้หมายความว่าไม่มีความรู้แล้วจะประสบความสำเหร็จ มันต้องมีความรู้สิครับถึงทำได้แต่ที่พูดๆมามันคือระบบการเรียนในไทยครับอย่ามัว ไอ้ที่ว่ามาแต่ละคนจบนอกทังนั้นหรือป่าวเอาคนจบในไทยมาสักคนสิ วุติไทยกับนอกเท่ากันนะแต่คนจบนอกทำใมถึงทำได้ดีกว่า หรือรร.ในไทยเมื่อเรียนแล้วทำใมยังต้องเรียนพิเศษเพิ่ม บอกเลยโคตรชัดคือเรียนไปแม่งไม่ได้อะไรสุดท้ายความรู้ก็อยู่นอกรร. ดังนั้นที่ผมบอกว่าคนจบสูงในไทยกับคนที่จบไม่สูงในไทยไอ้พวกที่ประสบความสำเหร็จนะความรู้แม่งไม่ต่างกัน ส่วนพวกจบสูงแต่ทำงานนอกสายงานกับจบไม่สูงแต่ทำงานเปิดกิจการได้ความรู้ในอาชีพพวกนี้ก็ไม่ต่างกัน เช่นจบหมอมาเปิดร้านอาหารขายดีรวยมันต่างจากจบไม่สูงเปิดร้านขายอาหารเเล้วรวยตรงไหนถ้าต่างสายงานไอ้ที่เรียนมามันก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ความรู้กับการศึกษาในไทยมันคนละเรื่องกันครับที่ผมว่าคือระบบการศึกษาในไทย มันไห้ความไม่รู้ยัดเยียดอุดมคติแย่ๆไห้ความรู้ผิดๆมาตลอด ยกตัวอย่างง่ายๆอย่างลุกนังสลับขาครูเอามาไช้ลงโทษเพราะเรียนรด.ถูกทำโทษมาแบบนี้ แต่มันไม่คิดเลยว่ารด.หรือทหารอย่างน้อยมันก็ผ่านการทดสอบร่างกายเบื้องต้นไปแล้ว แต่เพราะไม่มีความรู้เลยเอามาไช้กับเด็กทังๆที่เป็นความรู้ด้านกีฟาขั้นพื้นฐาน ว่าการลุกนังสลับขามันเป็นการทำลายกล้ามเนื้อท่านี้มีไว้สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างความทนทานในการออกกำลัง ต้องทำเป็นเซ็ตๆแล้วพักรอไห้กล้ามเนื้อคืนตัวไม่เหมาะกับเด็กอายุต่ำกว่า18ที่กล้ามเนื้อยังไม่สมบูรณ์ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าการศึกษาไทยไห้ความรู้แค่ไหนนี่แค่เรื่องพื้นฐานเลยนะ และอย่าบอกว่าก็ไม่ได้เรียนด้านกีฟามาผมถามกลับรร.แม่งไม่มีครูพละเหรอฟะ


คนเรียนกับไม่เรียนนี่สติปัญญา ไอคิวต่างกันเยอะนะ ที่โพสไปนี่ดูบ้างรึเปล่า คนวุฒิสูงในไทยรายได้ดีกว่าคนวุฒิต่ำหลายเท่านะ แล้วไอ้คนทำงานนอกสายมักจะทำได้ดีกว่าคนที่ไม่จบอะไรเลย เพราะมันฉลาดกว่าไง เอาคนไม่จบอะไรมาเปิดร้านอาหารก็ได้ร้านอาหารข้างทาง เอาวิศวะมาเปิดร้านอาหารออกมาเป็น mk


     เอารายได้เฉลี่ยมาเทียบกันมันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าคนจบสูงกว่ามันเก่งกว่ารายได้ดีกว่า แล้วข้อมูลที่ผมโพสให้ดูก็เป็นข้อมูลของประเทศไทยด้วย จบสูงๆในไทยก็ดีกว่าไม่จบ ผมคบคนหลายวุฒิการศึกษา คนจบปริญญาทำงานออฟฟิส กับคนงานจบต่ำๆความคิดสติปัญญาต่างกันมาก เป็นเหตุให้คนยอมจ้างจ่ายเงินแพงกว่าเพื่อจ้างคนจบสูงมาทำงานบางประเภท
 

ออฟไลน์ gaiar33

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 11,244
  • ถูกใจแล้ว: 6557 ครั้ง
  • ความนิยม: +293/-263
  • เพศ: ชาย
  • หัวหน้าองค์กร(ไม่)ลับ
อย่างที่ผมพิมพ์ไป คือ ปัญหายุคนี้ มันค่อยๆสะสม
- เด็กไม่เอาโรงเรียนกันมากขึ้น แต่ยังไม่ใช่ทั้งหมดผมถึงเรียกว่าส่วนใหญ่ไง  ซึ่งมันเริ่มกลายเป็นส่วนใหญ่ขึินทุกวัน
- ครู อาจารย์ มีสิทธิ์ในการอบรมสั่งสอนน้อยลง อันนี้เรื่องจริง ต้องมาทำงานในโรงเรียนกันเอง ถึงจะรู้ซึ้งครับ  ว่าต้องทำสงครามกับเหล่าปกครอง ที่เรียกร้องสิทธิพิเศษให้ลูกตัวเองกันมากขึ้น  ตามยุคสมัยที่จะเอาสิทธิมนุษยชนเป็นที่ตั้ง
และบอกเลยไม่ใช่เรื่องสนุก และครู หลายต่อหลายท่านก็ท้อกันมาเยอะ
- เอะอะ จะให้ ปิดโรงเรียน ผู้ปกครองยุคนี้แรงพอๆกับที่ คนไล่พิมพ์ด่ากันตาม fb ทวิต บลาๆๆ  นั่นแหล่ะ 

ใครทำผิดซักคน โรงเรียนต้องถูกสั่งปิดอย่างเดียว ลูกคนอื่นไมมีที่เรียนกูไม่สน ต้องได้ตามที่กูต้องการ
- ระบบการศึกษา สมควรต้องปรับ
เราผ่านวิกฤติกักตัวโควิด กันมาแล้ว ก็เห็นๆกันนิว่า จะเรียนออนไลน์ ตั้งแต่ เด็กอนุบาล ยัน มหาลัยดังๆระดับโลก ก็ทำกันได้  เพราะงั้นการศึกษาภาคบังคับ ไม่จำเป็นที่เด็กนักเรียน นักศึกษา จะต้องถ่อสังขาร มาถึงห้องเรียนกันก็ยังไง
อ็อซฟอส เค็มบริท เขาก็ยังทำกันได้ ไม่เห็นจะมีเด็กคนไหนตายเพราะไม่ได้ไปโรงเรียน
กรณีถ้ามีโรคร้ายแรง ระบาดเหมือนโควิด อีกรอบในไทย เราก็ต้องออนไลน์กันอีกรอบอยู่ดี ไอ้ตอนนี้ยังไม่มีคนเลยไม่เห็นว่ามันสำคัญมาก

- และก็อีกล่ะ ในเมื่อผู้ปกครองส่วนใหญ่ เห็นว่าถ้าส่งลูกมาโรงเรียนแล้วต้องเจอปัญหา นั่นโน่นนี่  ก็ปรับกลักสูตร ภาคบังคับแบบออนไลน์ไปซะก็สิ้นเรื่อง
- คนยุคนี้ให้ความสำคัญกับสถาศึกษาน้อยลง  คนส่วนใหญ่ก็เห็นเป็นแค่ที่รับฝากเลี้ยงลูกตอนตัวเองไปทำงานแค่นั้นล่ะ  ไม่ได้มองว่าเป็นสถานที่ให้ความรู้กันอีกแล้ว
- คนยุคใหม่ ไม่เอาความรู้เก่า อันนี้การศึกษาต้องปรับแบบเรียนให้ตามยุคให้ทัน  อันไหนโบราณเกินก็ไม่ต้องมายัดเยียดให้เด็กเรียน  ไม่งั้นถึงเวลาก็มาโดนด่ากัน  ครูแม่งตกยุคว่า  หนังสือแบบเรียนแม่งตกยุคว่ะ
 

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,679
  • ถูกใจแล้ว: 2830 ครั้ง
  • ความนิยม: +187/-0
อย่างที่ผมพิมพ์ไป คือ ปัญหายุคนี้ มันค่อยๆสะสม
- เด็กไม่เอาโรงเรียนกันมากขึ้น แต่ยังไม่ใช่ทั้งหมดผมถึงเรียกว่าส่วนใหญ่ไง  ซึ่งมันเริ่มกลายเป็นส่วนใหญ่ขึินทุกวัน
- ครู อาจารย์ มีสิทธิ์ในการอบรมสั่งสอนน้อยลง อันนี้เรื่องจริง ต้องมาทำงานในโรงเรียนกันเอง ถึงจะรู้ซึ้งครับ  ว่าต้องทำสงครามกับเหล่าปกครอง ที่เรียกร้องสิทธิพิเศษให้ลูกตัวเองกันมากขึ้น  ตามยุคสมัยที่จะเอาสิทธิมนุษยชนเป็นที่ตั้ง
และบอกเลยไม่ใช่เรื่องสนุก และครู หลายต่อหลายท่านก็ท้อกันมาเยอะ
- เอะอะ จะให้ ปิดโรงเรียน ผู้ปกครองยุคนี้แรงพอๆกับที่ คนไล่พิมพ์ด่ากันตาม fb ทวิต บลาๆๆ  นั่นแหล่ะ 

ใครทำผิดซักคน โรงเรียนต้องถูกสั่งปิดอย่างเดียว ลูกคนอื่นไมมีที่เรียนกูไม่สน ต้องได้ตามที่กูต้องการ
- ระบบการศึกษา สมควรต้องปรับ
เราผ่านวิกฤติกักตัวโควิด กันมาแล้ว ก็เห็นๆกันนิว่า จะเรียนออนไลน์ ตั้งแต่ เด็กอนุบาล ยัน มหาลัยดังๆระดับโลก ก็ทำกันได้  เพราะงั้นการศึกษาภาคบังคับ ไม่จำเป็นที่เด็กนักเรียน นักศึกษา จะต้องถ่อสังขาร มาถึงห้องเรียนกันก็ยังไง
อ็อซฟอส เค็มบริท เขาก็ยังทำกันได้ ไม่เห็นจะมีเด็กคนไหนตายเพราะไม่ได้ไปโรงเรียน
กรณีถ้ามีโรคร้ายแรง ระบาดเหมือนโควิด อีกรอบในไทย เราก็ต้องออนไลน์กันอีกรอบอยู่ดี ไอ้ตอนนี้ยังไม่มีคนเลยไม่เห็นว่ามันสำคัญมาก

- และก็อีกล่ะ ในเมื่อผู้ปกครองส่วนใหญ่ เห็นว่าถ้าส่งลูกมาโรงเรียนแล้วต้องเจอปัญหา นั่นโน่นนี่  ก็ปรับกลักสูตร ภาคบังคับแบบออนไลน์ไปซะก็สิ้นเรื่อง
- คนยุคนี้ให้ความสำคัญกับสถาศึกษาน้อยลง  คนส่วนใหญ่ก็เห็นเป็นแค่ที่รับฝากเลี้ยงลูกตอนตัวเองไปทำงานแค่นั้นล่ะ  ไม่ได้มองว่าเป็นสถานที่ให้ความรู้กันอีกแล้ว
- คนยุคใหม่ ไม่เอาความรู้เก่า อันนี้การศึกษาต้องปรับแบบเรียนให้ตามยุคให้ทัน  อันไหนโบราณเกินก็ไม่ต้องมายัดเยียดให้เด็กเรียน  ไม่งั้นถึงเวลาก็มาโดนด่ากัน  ครูแม่งตกยุคว่า  หนังสือแบบเรียนแม่งตกยุคว่ะ



ผมว่าปัญหาเพราะเป็นหลักสูตรบังคับครับ
คือเหมือนสั่งก๋วยเตี๋ยว เอาต้มยำแซ่บๆ น้ำใส น้ำตก  เย็นตาโฟ


คือคนต้องการไม่เหมือนกัน พอโดนบังคับให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกันมันก็ต้องโวยแน่นอน


ครูโดนสั่งให้สอนให้นักเรียนต้องสอบผ่านทุกคน
แต่บางคนดื้อไม่ตั้งใจทำตาม พอลงโทษเบาก็ไม่ปรับปรุง
ลงโทษหนักก็โดนเอาเรื่อง ปล่อยไปก็โดนผลงานประเมินต่ำ


สอนช้าเด็กเก่งก็เบื่อ สอนไว เด็กโง่ก็ตามไม่ทัน
พอสอนช้าแล้วไปแยกสอนพิเศษสำหรับเด็กเก่ง
ก็โดนว่ากะหาเงินอีก นั่นมันสอนนอกเวลานะไม่ใช่เวลาราชการ


จริงๆวิธีแก้คือแยกนักเรียนออกย่อยให้หมดเลย


ใครชอบน้ำใส ก็ไปทางนึง ใครชอบน้ำตกก็ไปอีกที่นึง


ส่วนใครสั่งสเต็กในร้านก๋วยเตี๋ยวก็เชิญเขาออกไปนั่งร้านสเต็ก


แต่ให้แป่ะป้ายก่อนให้เขารู้ก่อน 
แล้วให้มีสอบวัดระดับกลางก็พอ


ใส่เงื่อนไขข้อตกลงไป


ใครไม่ชอบกฏ รร. สามารถย้าย จากเรียนใน รร.
เป็นหลักสูตร ออนไลน์ได้ในเทอมถัดไป หรือภายใน 2 สัปดาห์แรกหลังเปิดเทอม
หรือจะกลับมาหลักสูตรปรกติก็ทำได้เช่นกัน
แล้วผสมก็ยังได้ คือเกลียด อ.วิชานี้ รึที่สอนมันไม่ตรงใจ ก็ออนไลน์เฉพาะวิชานี้


แต่คนที่เข้าหลักสูตรออนไลน์ ก็จะต้องรับผิดชอบตัวเอง
ครูไม่ต้องเอามาคิดประเมิณผลงาน


ดีจะตาย ครูจะได้งานสอนลดลง
นร.ที่ตั้งใจเข้าเรียนก็จะไม่โดนเด็กไม่สนใจเรียนกวน
แถมได้เจอสาวห้องอื่นบ้าง กรณีมีคนออนไลน์เยอะ
จนต้องเอามาเรียนรวมกับห้องอื่น ;D
 

ออฟไลน์ sechan

  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 2,943
  • ถูกใจแล้ว: 1732 ครั้ง
  • ความนิยม: +139/-261
ปัญหาเรียนสูงมา แต่ไม่มีปัญญาทำเอง มีความรู้ว่าทำไงแต่ลงมือให้ลูกน้องทำ. ลูกน้องความรู้ไม่มีทำงานหนัก ฟังจากที่หัวหน้าสั่ง แต่เงินเดิอนน้อย. ประเด็นคือ ถ้าเรีนสูงกันหมดไม่มีลูกน้อง. ผมว่าโครงสร้างงานปัจจุบัน นี่แทบลื้อยกแผงนะ lol.  พวกใช้แรงงานเงินเดือนต่ำ มาก แต่กลับกันงานที่คุมการใช้แรงงานกำไรไม่มากพอจะจ้างพวกนี้แพงเหมือนกัน. ในขณะที่ต่างประเทศ พวกใช้แรงงานรายได้สูงกว่า ???
 

ออฟไลน์ gaiar33

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 11,244
  • ถูกใจแล้ว: 6557 ครั้ง
  • ความนิยม: +293/-263
  • เพศ: ชาย
  • หัวหน้าองค์กร(ไม่)ลับ


จัดหนักกันไป เด็กที่เรียนอยู่ ก็หาโรงเรียนเรียนกันเอาเอง
 

ออฟไลน์ pol

  • สาวกผู้สนับสนุนเซนนิคุง2Y
  • จอมทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 16,684
  • ถูกใจแล้ว: 19192 ครั้ง
  • ความนิยม: +360/-0
  • เพศ: ชาย
  • นักอู้มือหนึ่ง
[img/]

จัดหนักกันไป เด็กที่เรียนอยู่ ก็หาโรงเรียนเรียนกันเอาเอง

ถ้าคนๆนี้จะปิดโรงเรียนผมก็ดีใจด้วยครับ แค่เห็นความคิดแต่ละอย่างผมนี้อึ้งไปเลย ครูที่มาสอนต้องไปขูดหินปูนทุกปี.  8)  แล้วทำไมถึงมีครูที่ไม่มีใบอนุญาตอยู่เยอะจังเลยครับ? ผมสงสัยมากๆเลยละว่ามันเหมาะสมและไม่ผิดกฎหมายงั้นหรือ?
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: nosta, kroek

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก