รับน้องตายกันอีกละ

[mangamancer]

https://www.thairath.co.th/news/society/1915049?cx_testId=0&cx_testVariant=cx_0&cx_artPos=1#cxrecs_s

https://www.thairath.co.th/news/society/1915125?cx_testId=7&cx_testVariant=cx_1&cx_artPos=2#cxrecs_s

https://www.thairath.co.th/news/local/south/1915285?cx_testId=0&cx_testVariant=cx_0&cx_artPos=0#cxrecs_s

ทุกท่านดูไว้ มหาลัยที่เวลามีเรื่องแล้วเอาแต่แก้ตัวหรือปกป้องคนผิด อย่าไปเรียนหรือส่งลูกหลานไปเรียน
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1915241?cx_testId=41&cx_testVariant=cx_1&cx_artPos=0&cx_type=contextual#cxrecs_s

สำหรับผมไม่เคยเข้าใจว่ากิจกรรมพวกนี้ทำไมต้องมีสืบเนื่องมายาวนาน ทั้งที่ไม่ได้ต่างจากเด็กเล่นขายของไม่ได้ทำให้นักศึกษาเรียนเก่งขึ้นแต่ประการใด
อันดับมหาลัยไทยในเวทีโลกตกเอาๆสวนทางกับเพื่อนร่วมอาเซียน ก็ยังมัวแต่บ้าอะไรพวกนี้อยู่ได้ 

• Tweet

[deaddy]

จริงๆตัวกิจกรรมมันดี แต่คนเอาไปใช้ทำผิดวัตถุประสงค์
คือเด็กใหม่พอเข้าไปแรกๆก็ไม่มีเพื่อน พอมีอีเวนท์มันก็ช่วยให้คุ้นเคยกับเพื่อนง่ายขึ้น


แต่พวกรุ่นพี่บ้าๆไม่รู้ว่าควรหยุดที่ตรงไหน คนเป็นร้อยเป็นพันมันไม่ใช่ว่าทุกคนจะร่างกายแข็งแรง
ให้พวกสมองกล้ามมาคุมน้อง บางคนแค่วิ่ง 1 นาทีก็หอบแย่ละ มาเจอพวกรุ่นพี่ที่วิ่ง 5 ชม. ได้


ในมุมมองรุ่นพี่ก็มองว่าสำออย แต่ร่างกายคนไม่ไหวก็คือไม่ไหว 
แล้วไอ้พวกรุ่นพี่มันรู้จักการปฐมพยาบาลคนรึเปล่าก็ไม่รู้

หลายๆมหาลัยเลยต้องมีครูไปคุม ไม่งั้นเดี๋ยวก็เกิดเรื่อง

[topkun]

ตัวรุ่นพี่ตอนเป็นรุ่นน้อง โดนมาก่อนไง เก็บความแค้น
แต่มันลงที่รุ่นพี่ไม่ได้ ก็เอามาลงที่รุ่นน้องแทน เพื่อความสะใจ
ที่มันเลิกไม่ได้ เพราะอารมณ์แบบตัวเองโดน แล้วรุ่นน้องก็ต้องโดนเหมือนกัน
มันเลยต้องจัดเพื่อเอาคืนความแค้นที่สั่งสมไว้ ไม่มีใครคิดอยากยกเลิก ให้ตัวเองโดนอยู่ฝ่ายเดียว

[sariora123]

จริงๆตัวกิจกรรมมันดี แต่คนเอาไปใช้ทำผิดวัตถุประสงค์
คือเด็กใหม่พอเข้าไปแรกๆก็ไม่มีเพื่อน พอมีอีเวนท์มันก็ช่วยให้คุ้นเคยกับเพื่อนง่ายขึ้น


แต่พวกรุ่นพี่บ้าๆไม่รู้ว่าควรหยุดที่ตรงไหน คนเป็นร้อยเป็นพันมันไม่ใช่ว่าทุกคนจะร่างกายแข็งแรง
ให้พวกสมองกล้ามมาคุมน้อง บางคนแค่วิ่ง 1 นาทีก็หอบแย่ละ มาเจอพวกรุ่นพี่ที่วิ่ง 5 ชม. ได้


ในมุมมองรุ่นพี่ก็มองว่าสำออย แต่ร่างกายคนไม่ไหวก็คือไม่ไหว 
แล้วไอ้พวกรุ่นพี่มันรู้จักการปฐมพยาบาลคนรึเปล่าก็ไม่รู้

หลายๆมหาลัยเลยต้องมีครูไปคุม ไม่งั้นเดี๋ยวก็เกิดเรื่อง

สมัยเรียน ผมเดินไปเรียน 2เดือน แต่รอนนั้นรุ่นพี่จะถามจี่ ไม่หยุดว่าใครมีโรคประจำตัวอะไรไหม และรุ่นพี่ที่ร่วมกิจกรรมทุกคนเดินไปด้วยเหมือนกันหมด มีมารับเวลาต้องไปย้ายตึกเรียนมีบางคนที่มีโรคประจำตัวเท่านั่นที่นั่งรถไป คือตึกเรียนมันห่างกันและไม่ได้เรียนรวมกันในตึกเดียวทุกวิชา
ส่วนรุ่นพี่ที่ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรรมก็ปกติ แต่ส่วนใหญ่จะไปกันคลละเวลา เพื่อไม่ให้เห็นว่านั่ง รถหรือมอไซด์ไป สมัยนั้นถือว่า แฟร์กันดีมากเพราะช่วงแรกเป็นการฝึกให้รู้จักดูแด ตื่นมาจัดการตัวเองเพื่อไปเรียนด้วยตัวเองให้ได้
หมด 2 เดือนไปก็ โพำำำ frestyle กันล่ะ ตื่นสายกันเกือบหมดเลย 
สมัยเรียนกิจกรรมรับน้อย จะจัดก็ต้องดีๆ ระวัดตัวกันยกกลุ่มเพราะอธิการบดี บอกว่ามีปัญหา แกไม่เอาไว้ทั้งหมด
พระจอม สาขานอก เลยมีปัญหาเรื่องรับน้อง หรือตีกันระหว่าคณะน้อยมาก อย่างมากคือเกือบจะวางมวยกันแต่สุดท้ายต้องเลิก

[providence_gundam]

มันก็วนๆอยู่กับแค่คำว่า"พี่ก็เป็นแบบนี้มาก่อน ยังรอดมาได้เลย"

[Tanatana]

การรับน้องดีๆสนุกๆมันก็มีครับ เพียงแต่ว่าพวกนักข่าวเค้าไม่เอาเรื่องแบบนี้มาทำข่าวหรอกว่า "มหาลัย กกก รับน้องสนุก กิจกรรมดี สร้างมิตรภาพ" มันไม่มีคนอ่าน เราก็เลยเจอกันแต่ข่าวแบบนี้อย่างเดียว

[mangamancer]

ตัวรุ่นพี่ตอนเป็นรุ่นน้อง โดนมาก่อนไง เก็บความแค้น
แต่มันลงที่รุ่นพี่ไม่ได้ ก็เอามาลงที่รุ่นน้องแทน เพื่อความสะใจ
ที่มันเลิกไม่ได้ เพราะอารมณ์แบบตัวเองโดน แล้วรุ่นน้องก็ต้องโดนเหมือนกัน
มันเลยต้องจัดเพื่อเอาคืนความแค้นที่สั่งสมไว้ ไม่มีใครคิดอยากยกเลิก ให้ตัวเองโดนอยู่ฝ่ายเดียว

มันก็เหมือนกับเรื่องทรงผม/เครื่องแบบนักเรียนเลยนะ
คนไทยนี่ประหลาด แทนที่จะอยากให้คนรุ่นหลังได้ดี กลับคิดกันแต่ว่าสมัยกรูๆโดนมาคนรุ่นหลังก็ต้องโดนด้วย
ไม่ใช่วิธีคิดแบบปัญญาชนเลย น่าสังเวช

ปล.ที่ยิ่งแย่คือหลายๆที่เวลามีเรื่อง จะไม่สนคนก่อเรื่องแต่จะเล่นงานคนเอามาตีแผ่แทน
ประมาณว่าคนก่อเรื่องไม่ผิด ผิดที่คนที่ทำให้คนนอกรู้
ซึ่งเป็นแนวคิดในการรักษาชื่อเสียงสถาบันที่บัดซบมาก นี่มันยุคไหนแล้ว คิดว่าได้ผลรึ 

[ohyeah112]

 รอบนี้ไม่ใช่รับน้องนะ แต่เป็นซ้อมเชียร์ลีดน่ะ

[mangamancer]

^ไม่สำคัญครับว่าจะเรียกหรือจัดหมวดหมู่ว่าอะไร มันก็คือการรังแกรุ่นน้องจนตายอยู่ดี
กิจกรรมที่ทำก็ใช่ว่าจะขาดไม่ได้ในการเรียนการสอนระดับมหาลัย ไปให้ความสำคัญกันแต่สิ่งที่ไม่เป็นสาระ

[TestPilot]

เรื่องผิดไม่ขอออกความเห็น ปล่อยคนทำรับกรรมไปตามความจริงที่เกิด

แต่ซ้อมเชียร์กับรับน้องบริบทภายนอกมันต่างกันจริง

รับน้องมันคือกิจกรรมที่เหมือนจะไม่บังคับแต่ออกเชิงบังคับโดยคนหมู่มาก(คนไม่เข้าจะโดนมองแบ่งแยก)

แต่ซ้อมเชียร์ลีดนี่คนที่ได้ซ้อมคือต้องอาสาเป็นลีดเองนะ มันคือกิจกรรมที่ไม่ได้บังคับเข้าให้เข้าร่วม

ส่วนเรื่องการจัดการภายในกลุ่มลีดนี่แล้วแต่ที่ เพื่อนผมเป็นลีด(มหาลัยนี่ล่ะ)ไม่ไหวมันก็ขอออกได้ ไม่มีใครว่าอะไร

[mangamancer]

^มันก็ยังกับบอกว่าใครสมัครเป็นทหารก็ต้องทำใจว่าจะถูกซ้อมจนตายด้วย มันไม่ควรเป็นอย่างนั้นครับ
เขาสมัครเป็นเชียร์ลีดเดอร์ไม่ได้สมัครใจมาตาย ความยินยอมมันไม่ได้คลุมมาถึง
คือการซ้อมเชียร์ลีดเดอร์มันไม่ควรเป็นอะไรที่เสี่ยงตาย แต่คนปัญญาอ่อนและบ้าอำนาจก็ทำให้มันเป็นเรื่องเสี่ยงตายขึ้นมาได้ น่าทึ่งไหมล่ะ
ไม่สิพูดผิด เอาคนพวกนี้ไปเทียบกับคนปัญญาอ่อนก็จะเป็นการหยาบคายต่อคนปัญญาอ่อน คนปัญญาอ่อนเขาดีกว่าคนพวกนี้เยอะ

[deaddy]

ไปฟังมาม่าละ ประเด็นที่ตายไม่ใช่เพราะ สมัครใจรึไม่ โดนซ้อมรึไม่


แต่เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ล้วนๆ
ราวๆเหมือนแข่งไตรกีฬา แล้วจัดว่ายน้ำไปไว้อันสุดท้าย คนเลยตระคริวจมน้ำตายเป็นว่าเล่น


คือ น้องเค้าร่างกายแข็งแรงดี โดนทำโทษน้องเค้าก็ทำได้ระดับนึงอยู่
คือเห็นว่าให้ไปวิ่ง 8 กม. น้องเค้าวิ่งไป 6 กม. มั้ง แล้วก็ล้มช็อคตาย


คือราวๆ ทำกิจกรรมอื่นๆจนเหนื่อยเต็มที่ แล้วสั่งไปวิ่ง หัวใจรับไม่ไหวเลยหยุดเต้นเลย


คนสั่งมันก็คงไม่รู้นั่นแหล่ะ ว่าเป็นคำสั่งที่เสี่ยงต่อชีวิต
ส่วนน้องก็คงเพราะเป็นคนแข็งแรง เลยคิดว่าทำได้ แต่ไม่รู้ใจตัวเอง ว่ามันถึงขีดสุดไปแล้ว


เรียกว่าถ้าเป็นหลายๆคนคงยอมนอนกลิ้งหอบโดนว่าก่อนจะหัวใจล้มเหลว
แต่น้องเค้ามีพลังใจเหนือร่างกาย เลยตายไม่รู้ตัว


คือถ้าคนเรามันจะมีระดับการเต้นชีพจรที่รับไหวอยู่ อย่าให้เกินมันเสี่ยงหัวใจล้มเหลวได้
แต่คนวัยหนุ่มสาวจะมีตัวเลขที่รับได้สูงมาก คนปรกติเลยไม่เป็นไร
แต่พวกมีอายุจะออกกำลังกายแล้วมีตรวจชีพจรพร้อมกันด้วย เลยจะรู้ว่าควรออกได้แค่ไหน




สรุปคือรุ่นพี่ผิด 100% ที่สั่งน้องไปวิ่งในสภาพไม่พร้อม แล้วไม่มีความรู้
เห็นว่าหัวใจหยุดเต้นไป 16 นาที ไม่รู้ว่าที่กลับมาเต้นคือ หมอช่วยรึปฐมพยาบาล รึกลับมาเต้นเอง


แต่ชัดเจนว่ารุ่นพี่ทำไปโดยไม่มีคนมีความรู้ และไม่มีแผนเตรียมรองรับไว้ดีพอ
ส่วนรุ่นน้องก็คงทำตามคำสั่งโดยไม่คิดนั่นแหล่ะ เพราะคิดว่าตัวเองไหว

[mangamancer]

เหตุการณ์พวกนี้ร้อยทั้งร้อยคนสั่งมันไม่รู้หรอกครับว่าทำแล้วจะตาย ถ้ารู้ใครจะไปสั่ง
ผมถึงบอกว่าโง่แต่บ้าอำนาจคือคุณสมบัติของคนพวกนี้ครับ คิดว่าตัวเองเก่งกล้ายิ่งใหญ่ แต่จริงๆเป็นแค่เด็กน้อยเล่นขายของ
ความรู้ทางวิทยาศาสตร์การกีฬา กายวิภาค ฯลฯ ไม่มี แต่สั่งคนอื่นออกกำลังหนักตามใจ
ปฐมพยาบาลก็ไม่น่าจะเป็น การเตรียมพร้อมด้านอุปกรณ์เครื่องมือปฐมพยาบาลก็เชื่อได้ว่าไม่มี

[samuison]

ไตรกรีฑานี่ขนาดเทพๆอย่างแลนซ์อาร์มสตรองยังต้องซ้อมร่างกายเตรียมความพร้อมและโด๊ปยาประกอบเลยนะครับ
เอาคนธรรมดาที่ร้อยพ่อพันแม่ ไม่ได้เตรียมตัวขนาดนั้นไป จะเสียชีวิตและตายไก็ไม่แปลกหรอก
จัดกิจกรรมแบบนี้ ในการวิ่งมาราธอนต่างๆ เขาถึงต้องมีเต๊นท์พยาบาล จุดพักให้น้ำต่างๆเตรียมเอาไว้ตลอดเส้นทาง
แม้กระทั่ง หน่วยฝึกพิเศษก็ยังต้องมีระฆังให้ตีหากไม่สามารถฝึกซ้อมต่อไปได้แล้ว
ลทเรียนว่าควรจะรอบคอบมากกว่านี้ในการจัดกิจกรรมประเภทนี้
คนเราไม่เหมือนกัน

คนอาจจะพูดเรื่องว่า กินไปสิ ทุกอย่างกินได้ กินไปไม่ตายหรอก
แต่คนบางคนแพ้เนยถั่วขั้นรุนแรงทำให้หัวใจหยุดเต้นตายได้จริงๆ คนเรามันไม่เหมือนกันจึงต้องระมัดระวังเอามากๆ

[TestPilot]

^มันก็ยังกับบอกว่าใครสมัครเป็นทหารก็ต้องทำใจว่าจะถูกซ้อมจนตายด้วย มันไม่ควรเป็นอย่างนั้นครับ
เขาสมัครเป็นเชียร์ลีดเดอร์ไม่ได้สมัครใจมาตาย ความยินยอมมันไม่ได้คลุมมาถึง
คือการซ้อมเชียร์ลีดเดอร์มันไม่ควรเป็นอะไรที่เสี่ยงตาย แต่คนปัญญาอ่อนและบ้าอำนาจก็ทำให้มันเป็นเรื่องเสี่ยงตายขึ้นมาได้ น่าทึ่งไหมล่ะ
ไม่สิพูดผิด เอาคนพวกนี้ไปเทียบกับคนปัญญาอ่อนก็จะเป็นการหยาบคายต่อคนปัญญาอ่อน คนปัญญาอ่อนเขาดีกว่าคนพวกนี้เยอะ

ผมก็ไม่ได้บอกว่าสมัครใจเป็นลีดคือสมัครใจมาตายซะหน่อยครับ ผมแค่จะสื่อว่าลีดมันหยืดหยุ่นกว่ารับน้องเพราะไม่ได้มาเชิงบังคับแบบคนหมู่มากลากไป

ปัญหาผมก็บอกอยู่ว่ามันคือการจัดการภายในกลุ่มลีดเอง คนสั่งไม่รู้เรื่อง แล้วคนทำดันทำตามแบบคิดว่าตัวทำได้ เลยเกิดการสูญเสียขึ้นมา

[mangamancer]

เป็นคนถูกสั่งจะเข้าใจว่าเป็นสิ่งที่ทำได้โดยไม่เสี่ยงก็ไม่แปลกหรอกครับ
จากสามัญสำนึกก็ต้องคิดว่ามันไม่อันตรายสิรุ่นพี่เขาถึงกล้าสั่งให้ทำ
หารู้ไม่ว่ารุ่นพี่เองก็ไม่ได้รู้ประสีประสาอะไร ที่ทำท่าเหมือนกร้านโลกอาวุโสจัดนั้นจริงๆกลวงโบ๋

[deaddy]

เอาจริงๆ เรื่องความรู้นี่ ผมโทษ มหาลัย รึกระทรวงศึกษานะ


คือที่เคยเรียนมามีสอนเรื่อง ฮีทสโตรก การเป็นลมต่างๆอยู่
แต่ไม่เห็นสอนเรื่อง การออกกำลังกายหนักที่เสี่ยงต่อชีวิตมั่งเลย


คือตั้งสมมุติฐาน สอนความรู้สำหรับคนอ่อนแอ แต่ไม่สอนอันตรายจากความแข็งแรง


แล้วจริงๆพวกกิจกรรมต่างๆ กับพวกรับน้องทั้งหมด ทางมหาลัยจะห้ามรึไม่ก็ว่ากันไป


แต่แทนที่จะห้ามแล้วก็จบ แล้วพอมีเรื่องก็ไม่ต้องรับผิดชอบ


ควรจะออกกฏให้ชัดไปเลย เช่น
กิจกรรมที่จะจัด ที่มีคนตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ต้องขออนุญาติจากสภานิสิตเท่านั้น
ฝ่าฝืนพักการเรียน 1 เทอม ฝ่าฝืนแล้วเกิดความเสียหาย อาจพิจารณาถึงขั้นไล่ออก


แล้วให้คนในสภา ต้องมีความรู้ในการจัดกิจกรรมต่างๆ กำกับดูแลให้ความรู้

[sariora123]

เอาจริงๆ เรื่องความรู้นี่ ผมโทษ มหาลัย รึกระทรวงศึกษานะ


คือที่เคยเรียนมามีสอนเรื่อง ฮีทสโตรก การเป็นลมต่างๆอยู่
แต่ไม่เห็นสอนเรื่อง การออกกำลังกายหนักที่เสี่ยงต่อชีวิตมั่งเลย


คือตั้งสมมุติฐาน สอนความรู้สำหรับคนอ่อนแอ แต่ไม่สอนอันตรายจากความแข็งแรง


แล้วจริงๆพวกกิจกรรมต่างๆ กับพวกรับน้องทั้งหมด ทางมหาลัยจะห้ามรึไม่ก็ว่ากันไป


แต่แทนที่จะห้ามแล้วก็จบ แล้วพอมีเรื่องก็ไม่ต้องรับผิดชอบ


ควรจะออกกฏให้ชัดไปเลย เช่น
กิจกรรมที่จะจัด ที่มีคนตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ต้องขออนุญาติจากสภานิสิตเท่านั้น
ฝ่าฝืนพักการเรียน 1 เทอม ฝ่าฝืนแล้วเกิดความเสียหาย อาจพิจารณาถึงขั้นไล่ออก


แล้วให้คนในสภา ต้องมีความรู้ในการจัดกิจกรรมต่างๆ กำกับดูแลให้ความรู้

อธิการบดี ห่วยเอง ครับ

สมัยเรียนพระจอม อย่างที่ผมเล่าว่า สาขานอก อธิการบดีเข้มมากเรื่องกิจกรรมรับน้อง
เกิดเหตุอะไร หรือนอกกฏมหาลัย   ให้ออกหมดยกยวง ใครมีรายชื่อในการจัดกิจกรรมโดยหมดไม่ว่าจะเข้าหรือไม่เข้าปัญหามันอยู่ที่ ตัวมหาลัย ตัวอธิการบดีเองนั่นแหละ ไม่ยอมจัดการ
สมัยผมนี่ ยังเคยได้ยินเลยว่า ถ้าต้องปิดคณะแกก็จะปิด จะได้ไม่มีปัญหาแบบนี้อีก

เป็นวิธีที่โหดมาก แต่ได้ผลไหม  ได้ผลดีเลยล่ะกับมหาลัยที่เรียนอ่ะนะ  ไม่งั้นคุมไม่อยู่
(สมัยนั้นเรื่องที่เข้มงวดมากที่สุดคือ รับน้อง กับทะเลาะกันในมหาลัยนี่แหละ 2 เรื่องหลักๆ )

[Hanaroo]

อันนี้ ผมมองว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์นะ ใครมันจะรู้ล่ะว่าให้วิ่งแค่นั้นจะตายได้

[amamizu]

นึกถึงคณะที่เราเคยเรียนสมัยก่อน ประชุมเชียร์เหี้ยมาก เริ่มตั้งแต่ 4 โมงเย็นยันราวๆเที่ยงคืนกว่าทุกวัน ให้มาออกกำลังกายหนักๆ วิ่ง วิดพื้น ซิทอัพ กลิ้งไปบนโคลน ฯลฯ ตอนร้องเพลงเชียร์ก็ห้ามขยับเขยื้อนเลย แม้แต่เกาเพราะคันก็ไม่ได้ ร้องเพลงห้ามผิดห้ามเสียงเบา ไม่งั้นโดนลงโทษ พอทำมากๆเข้าปรากฏว่าป่วยกันระนาว เลยมีคนป่วยยื่นใบรับรองแพทย์ขอหยุดลาประชุมเชียร์ใครกันหลายคน ปรากฏลากันมากๆ ไอรุ่นพี่โกรธอีก คราวนี้ไม่รับละใบรับรองแพทย์ ป่วยก็ต้องมา ถ้าใครไม่ยอมเข้าประชุมเชียร์รุ่นพี่จะให้เพื่อนๆตัดออกจากรุ่น โดยใช้วิธีลงโทษดุด่าเพื่อนที่มาสารพัด สร้างความเกลียดชังยุยงให้เพื่อนๆคิดว่าเป็นความผิดของคนเหล่านั้นนะที่พวกคุณต้องโดนลงโทษแรงๆ เพราะคนเหล่านั้นไม่มา ดังนั้นคุณต้องเกลียดชัง รุมกลั่นแกล้งคนที่ไม่มาพวกนั้น สร้างความแตกแยกอีก โอยคิดแล้วยังอยากย้อนเวลากลับไปตบหน้าเรียงตัวไอพวกรุ่นพี่พวกนั้นจัง เอาเรามาทรมานทุกวัน คงสนุกมากนักสิ