[quote/]
กลุ่มโรคซาร์สเป็นกลุ่มโรคระบาดร้ายแรง แต่จีนนิ่งเงียบ ถามหน่อยว่ามัน make sense ตรงไหนครับ
แล้วที่สำคัญ การบิดเบือนข้อมูลเพื่อปกปิดความผิดของภาครัฐ เกิดขึ้นเป็นประจำนะครับ และเกิดขึ้นทุกประเทศด้วย
ส่วนอเมริกาเนี่ย ตั้งแต่แรกเลยคือไม่สนใจ แต่พอมีข่าวลือว่า จีนปกปิดข้อมูล ทรัมป์มันก็ "ได้ทีขี่แพะไล่" แค่นั้น
พอเป็นอย่างนั้น รัฐบาลจีนหันปลายกระบอกปืนเข้าหาคู่อริอย่างอเมริกาทันที แล้วก็ทำสงครามน้ำลายกัน
แต่ ข่าวลือ ที่ว่า จีนปกปิดข้อมูลมาตั้งแต่แรกนั้น มันเกิดขึ้นที่จีน ไม่ใช่อเมริกามาใส่ไคล้นะครับ มันแค่ "ได้ทีขี่แพะไล่" แค่นั้น
[quote/]
ใช่ครับ ข่าวรัฐเชื่อถือได้ แต่ต้อง make sense ด้วย
ถ้าแบบ เฮ้ย ตูพบโรคซาร์สนะ แต่ตูไม่ทำอะไร ไม่มีอาร๊าย ยังไงแบบนี้ต้องมีอะไรแน่ๆ นั่นละ
ส่วนใหญ่ ข่าวรัฐจะเชื่อถือไม่ได้เลย
คือ ไอ้ข่าวที่เป็นผลเสียต่อรัฐ เพราะข้าราชการชอบปกปิดความผิดครับ
เห็นประจำ เป็นกันมาตลอด
จีนไม่ได้นิ่งเงียบนะครัง อย่างที่ผมบอกจีนบอกผ่าน CCTV
ให้ระวังเวลาเดินทางเข้าออก อู๋ฮั่น แม้ยังไม่ปิดเมืองแต่เริ่มไล่ตรวจแล้ว
ตอน 31 ธันวาคม ถึงปิดตลาดขายของป่าเพราะต้นตอของคนป่วยหลายคนมาจากที่นั่น
แต่ข่าวที่บอกจีนปิดข่าว มาจากฮ่องกงกลุ่มประท้วง
ที่พยายามยกเรื่อง หมอหลี่มาเพื่อโจมตีจีน
ตอนแรกทางจีนเองก็ตอบโต้ แต่พอหมอหลี่ตาย
ทางจีนหยุดตอบโต้ เพราะถ้าทำต่อถือว่าทำลายขวัญบุคคลากรที่เสี่ยงภัย
เพราะถือว่าหมอหลี่คือคนที่เป็นแนวหน้าในการต่อสู้โรคนี้เช่นกัน
อย่างที่เห็นว่าก่อนหมอหลี่ตาย ทางการจีนได้ส่งคำขอโทษไปก่อน
จมหมายลาตายของหมอหลี่ ถึงไม่อยากลำเลิกเรื่องนี้อีก
และทางการจีนตอนนั้น ต้องการสร้างวีรบุรุษ เพื่อเพิ่มขวัญให้บุคลากร
ในการต่อต้านโรคนี้
แต่ก็เป็นจังหวะที่กลุ่มต่างหยิบจุดนี้มาเล่น แบะทางจีนก็แก้ตัวยากเพราะ
ถ้าตอบโต้ เท่าลบหลู่วีรบุรุษที่ตัวเองสร้าง มันจะมีผลต่อความเชื่อมั่นได้