แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมคนแบบนี้ถึงไม่ไปให้ไกลๆซักที  (อ่าน 6781 ครั้ง)

ออฟไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 11,044
  • ถูกใจแล้ว: 4622 ครั้ง
  • ความนิยม: +303/-441
Re: ทำไมคนแบบนี้ถึงไม่ไปให้ไกลๆซักที
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: มีนาคม 03, 2020, 08:21:14 PM »
     สังเกตุมั้ยว่าคนที่มีความสามารถไปได้ง่ายๆสบายๆจะไม่ค่อยไป พวกเศรษฐี พวกจบนอกที่ขอกรีนการ์ด บลูการ์ดได้สบายๆ คนที่มีความสามารถอยู่ที่ไหนก็สบาย


        ส่วนคนที่เกลียดประเทศตัวเองคือคนที่ไปไหนไม่ได้ มักจะไม่เคยออกจากประเทศเลย ได้ยินเรื่องความสบายของต่างประเทศจากสื่อต่างๆ แต่ไปไม่ได้ไม่มีประเทศไหนต้องการไม่มีเงินทักษะ ภาษา ถ้าได้อยู่ต่างประเทศจริงๆพวกนี้จะเป็นโฮมเลซ เพราะภาษาไม่ได้ งานก็หายาก เค้าก็ต้องจ้างคนที่สื่อสารกันรู้เรื่องก่อน คนพวกนี้อยู่ที่ไหนก็ลำบาก บางทีไปทำงานต่างประเทศแบบผิดกฎหมาย กลายเป็นเหยื่ออาชญากรรมบ้าง โฮมเลซบ้าง


          มันอยู่ที่ตัวเอง คนที่มันเอาการเอางาน ต่อให้เกิดมาจน ก็ตั้งใจเรียนสอบทุน จบต่างประเทศได้ อยากใช้ชีวิตที่ต่างประเทศก็ทำได้และอยู่อย่างสบาย เพราะวุฒิสูง ถ้ารักเมืองไทยอยากอยู่ไทย ก็สบายอยู่ดี


          ประเทศไทยก็มีเรื่องให้ด่า แต่ต่างประเทศบางทีก็ไม่ได้วิเศษเหมือนที่คนไทยส่วนใหญ่คิด คนที่จบนอก ทำงานต่างประเทศได้ส่วนมากเค้ากลับไทย เศรษฐีที่ไปขออาศัยต่างประเทศได้ก็เลือกอยู่ไทย


         คนที่รู้สึกลำบาก ทุกข์ ให้แก้ที่ตัวเองก่อน รู้จักขวนขวายหาความรู้เก็บเงิน พอเก่งๆก็สบายเอง


น้าผมอยู่เมืองนอก สวีเดน เอาจริงๆ คือได้ผัวอยู่อยู่สวีเดน แกอยู่มาเป็น 10 ปีแล้วแต่ก็ยังอยากกลับไทย เพราะอยู่ไทยมันเคยชินกว่า ทั้งสภาพอากาศ ทั้งการกินการอยู่ แต่อยู่ทางโน้นทำเงินได้เยอะกว่า
ส่วนผัวแก ก็ชอบอยู่ทางนั้นมากกว่าเพราะมันเคยชินมากกว่าไทย


ลูกสาวน้า (ลูกติดก่อนจะมีผัวฝรั่ง) ก็เทียวๆ ไปสวีเดนอยู่เรื่อยๆ เพราะไปทางนั้นมันหาเงินได้ดีกว่า แต่อยู่ไม่ได้สบายกว่าไทย ซึ่งมันก็แล้วแต่ความชอบของคน เพราะใกล้ๆ บ้าน บางคนไปเปิดร้านอาหารอยู่อเมริกา
จนแทบจะอยู่ยาวไม่กลับก็มี     ต้องบอกว่าแล้วแต่รสนิยม ส่วนตัวของใครของมัน บางคนชอบ บางคนไม่ชอบ ของแบบนี้มันห้ามกันไม่ได้


น้าชวนไปอยู่ทำงานที่นั่นสัก 3-4 ปีล่ะก็มีเงินมาทำทุนได้หลายอย่างแน่ๆ ผมก็ยังไม่ไป เพราะ ขี้เกียจ ไม่ใช่คนขยันขนาดนั้นไปอยู่จะแย่เปล่าๆ
น้าไปอยู่นี่ลูกน้องเจ้านายรักเลยด้วยซ้ำเพราะทำงานดีเลิศซะจนเจ้านายงงว่าทำไมมันทำได้ดีขนาดนี้
ทำงานในโรงเพาะเห็ดขายน่ะ ถ้าตรงส่วนไหนน้าดูแลตรงนั้นเก็บได้เยอะกว่าปกติ เป็นเท่าตัว  ระยะหลังที่ยุโรปมีปัญหากับรัสเซียยอดขายตกลงไปเยอะ
งานเลยไม่ได้มีให้ทำ ประจำเหมือนแต่ก่อน  [spoiler]ถ้าเอาตามนิสัยจริงๆ ไปอยู่ทางโน้นก็ได้ เพราะโดยนิสัยสันดานจริงๆ


ตอนนี้ เลือกอยู่แบบตามใจตัวเองมากกว่า  ผมเลือกอยู่แบบเน้นความพอใจส่วนตัว
เงินตัวเองสนองได้แค่ไหนก็แค่นั้น
อีกเรื่อง
   ดร. อาจอง ไม่ได้ทำงานให้นาซ่าโดยตรง แต่เป็นรับงาน แบบ เอาทซอส ไม่ใช่เหรอ
ที่ทำงานในนาซ่าจริงๆ เลย อ.ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ  รายนี้เคยเข้าไปทำงานในนาซ่าจริงๆ เคยทำโครงงานแข่งขันกันในนาซ่าชนะได้ที่ 1  เคยเดินเข้าตึกผิด รถตำรวจนี่ไม่รู้แห่มากจากไหนมารุมรวบตัว
 อันที่จริงก็ไม่ได้ว่าเก่งเลิศเลออะไร แต่แกจบแบบความรู้กว้างประยุคใช้เป็น
รายนี้กลับมาเมืองไทย เพราะทำแผนผังความชอบ กับอนาคต ตอนแก่ตัว เทียบกันแล้ว อยู่เมืองไทยมีสิ่งที่ชอบมากกว่าอยู่อเมริกา ยกเว้นเรื่องรายได้ และแกมองว่าตอนแก่ตัวเกษียณ ถ้าอยู่อเมริกา คงไปจบที่บ้านพักคนชรา
ตอนแกจะกลับ เพื่อน ดร. คนอื่นในนาซ่าบอกแกว่า ถ้ากลับมาไทยล่ะก็ จะกลายเป็นนักวิทยาศาทตร์ที่จนแน่นอน  แต่เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาหลักที่แกสนใจตามแผนผังที่แกวางไว้แกเลยกลับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 03, 2020, 09:21:44 PM โดย sariora123 »
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,189
  • ถูกใจแล้ว: 3909 ครั้ง
  • ความนิยม: +298/-402
Re: ทำไมคนแบบนี้ถึงไม่ไปให้ไกลๆซักที
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: มีนาคม 03, 2020, 08:53:58 PM »
[quote/]


ใครขี้แพ้วัดกันที่ความสำเร็จจริงดีกว่าครับ คุณไปว่าเศรษฐีที่เค้ามีหลายแสนล้านขี้แพ้ผมขำครับ พวกนี้เค้าลงทุนต่างประเทศเยอะนะครับ คุณอาจจะไม่รู้แต่บางปี cp มีกำไรจากต่างประเทศมากกว่ากำไรในประเทศอีกครับเพราะเค้าลงทุนในจีนเยอะมาก ซื้อหุ้นไว้เพียบ
ผมลงลิ้งไม่ได้แต่คุณลองไปเซิร์จ google ดู ว่า cp  กำไร จีน จะเห็นเลยว่า cp กำไรจากจีนใน 2560  มากกว่าที่กำไรทั้งหมดในไทย 3 ปี

ไอ้คนที่กลับมาไทยรวยเป็นหลักร้อยล้านถึงแสนล้านก็มีครับ บางคนทำงานต่างประเทศระดับท๊อปยังกลับมาไทยเลย อย่าง ดร อาจอง ทำงานนาซ่านะครับ  คนที่จบนอกทำงานในไทยระดับท๊อปดังๆเยอะมาก เทียบกับคนที่ทำงานต่างประเทศจนมีชื่อไม่ค่อยมีครับ วัดกันที่ความสำเร็จจริงดีกว่า
ลงทุนกับหุ้นมันคนละอย่างกับสร้างกิจการไหมครับพวกเทรดหุ้นผมเห็นจ้างคนวิเคราะห์กันทังนั้นและมันมีหุ้นที่ไม่ค่อยมีความเสี่ยงเยอะนะครับอย่างลงหุ้นแสนล้านปีหนึ่งกำไรร้อยล้านแบบนี้เรียกว่าได้กำไรเยอะหรือลงทุนแบบความเสี่ยงต่ำ ผมวัดความสำเหร็จของกิจการคือสร้างความสำเหร็จในประเทศได้แล้วกระจายสาขาไปแบบชาวบ้าน เช่นเซเว่นที่ขยายแฟนชายไปหลายๆประเทศ
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: TakinBackMylove

ออฟไลน์ ติดเมะ

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 699
  • ถูกใจแล้ว: 324 ครั้ง
  • ความนิยม: +71/-176
Re: ทำไมคนแบบนี้ถึงไม่ไปให้ไกลๆซักที
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: มีนาคม 03, 2020, 09:05:57 PM »
ผมว่าอาจเป็นเพราะ การที่เขาเริ่มเกิดอาการเกลียดประเทศตัวเอง อาจจะเป็นเพราะสภาพความเป็นอยู่รึเปล่า เขามีปัญหาอะไรรึเปล่า

สู้เราไม่ไปสนใจมันเลยดีกว่า ปล่อยมันไป ปล่อยมันพล่ามไปคนเดียว คำพูดที่มันพล่ามออกมา ให้เรามองมันเป็นแค่เศษอากาศซะ
มองผ่านครับ ไม่ต้องไปสนใจมัน พอไม่มีใครสนใจมัน มันพล่ามไปเดี๋ยวมันก็หยุดไปเอง ไม่มีใครเล่นด้วยกลายเป็นพล่ามกับลมพล่ามกับอากาศไป
รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รักในหลวง
ไม่เอาสามกีบ ไม่เอาทักษิณ ไม่เอาทอนกับบุตร
 

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,652
  • ถูกใจแล้ว: 2824 ครั้ง
  • ความนิยม: +186/-0
Re: ทำไมคนแบบนี้ถึงไม่ไปให้ไกลๆซักที
« ตอบกลับ #43 เมื่อ: มีนาคม 03, 2020, 09:45:24 PM »
[quote/]
ลงทุนกับหุ้นมันคนละอย่างกับสร้างกิจการไหมครับพวกเทรดหุ้นผมเห็นจ้างคนวิเคราะห์กันทังนั้นและมันมีหุ้นที่ไม่ค่อยมีความเสี่ยงเยอะนะครับอย่างลงหุ้นแสนล้านปีหนึ่งกำไรร้อยล้านแบบนี้เรียกว่าได้กำไรเยอะหรือลงทุนแบบความเสี่ยงต่ำ ผมวัดความสำเหร็จของกิจการคือสร้างความสำเหร็จในประเทศได้แล้วกระจายสาขาไปแบบชาวบ้าน เช่นเซเว่นที่ขยายแฟนชายไปหลายๆประเทศ


หุ้นกำไรเท่าไหร่ กี่พัน กี่หมื่น กี่แสนล้าน ไม่ใช่สาระครับ
สาระที่สำคัญคือความเสี่ยง กับผลตอบแทนครับ


โดยพื้นฐาน หุ้นจะมีมูลค่า กับปันผล ครับ
เช่น บ. มูลค่า ล้านล้าน มีล้านๆ หุ้น จะตกหุ้นละบาท
ปันผล 1 บาทต่อหุ้น


แปลว่าถ้าเราซื้อที่หุ้นละ 10 บาท จะได้ปันผล 10%
แต่เวลาซื้อจริงไม่มีใครขายราคานี้ครับ เขาไปขาย 40 บาท
ถ้าซื้อก็ได้ปันผล 2.5%


แต่หุ้นอีกตัวธุรกิจ ทรัพย์สินพันล้าน มีพันล้านหุ้น มูลค่าตกหุ้นละบาท
ปันผล 1 บาทต่อหุ้น เขาซื้อขายที่ 10 บาท ปันผล 10%




อีกหุ้นมูลค่าหมื่นล้าน มีหมื่นล้านหุ้น ตกหุ้นละบาท
ปันผลหุ้นละบาท แต่ซื้อขายกันหุ้นละ 100 บาท ปันผล 1%






คิดว่าหุ้นตัวไหนน่าซื้อสุดครับ


เฉลย
สปอยส์ ซ่อน ซ่อน:
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: nosta

ออฟไลน์ nosta

  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 2,522
  • ถูกใจแล้ว: 1150 ครั้ง
  • ความนิยม: +106/-145
Re: ทำไมคนแบบนี้ถึงไม่ไปให้ไกลๆซักที
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: มีนาคม 03, 2020, 10:05:49 PM »
[quote/]
ลงทุนกับหุ้นมันคนละอย่างกับสร้างกิจการไหมครับพวกเทรดหุ้นผมเห็นจ้างคนวิเคราะห์กันทังนั้นและมันมีหุ้นที่ไม่ค่อยมีความเสี่ยงเยอะนะครับอย่างลงหุ้นแสนล้านปีหนึ่งกำไรร้อยล้านแบบนี้เรียกว่าได้กำไรเยอะหรือลงทุนแบบความเสี่ยงต่ำ ผมวัดความสำเหร็จของกิจการคือสร้างความสำเหร็จในประเทศได้แล้วกระจายสาขาไปแบบชาวบ้าน เช่นเซเว่นที่ขยายแฟนชายไปหลายๆประเทศ


ไอ้ที่จ้างคนวิเคราะห์นะเจ๊งซะเยอะนะครับ ถ้าไม่มีความรู้ก็โดนหลอกง่ายๆ


 Cp เค้ากำไรจากหุ้นจีนเยอะกว่าที่กำไรจากไทย 3 ปี ขนาดพึ่งไปลงทุนได้ไม่นาน แสดงว่าอัตราผลตอบแทนต่อเงินลงทุนสูงมาก เพราะส่วนใหญ่ เค้าก็ลงทุนที่ไทยนี่แหละ
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,189
  • ถูกใจแล้ว: 3909 ครั้ง
  • ความนิยม: +298/-402
Re: ทำไมคนแบบนี้ถึงไม่ไปให้ไกลๆซักที
« ตอบกลับ #45 เมื่อ: มีนาคม 03, 2020, 10:13:57 PM »
[quote/]
ไม่ดีเลยคะ  อย่าจ้างคนวิเคราะห์  วิเคราะห์เองดีที่สุด  หากฏหมายอะไรปัจจัยที่เกี่ยวข้องมาอ่าน เดี๋ยวก็ได้เอง  อย่างน้อยก็น่าจะอ่านหนังสือสอนการลงทุนห้าร้อยเล่มค่อยลงทุนนะคะ
ไม่ครับผมหมายถึงการลงทุนหุ้นมันไม่เกี่ยวกับการสร้างกิจการอย่างการสร้างบ.ขึ้นมานะครับการเล่นหุ้นกับการทำบ.มันต่างกัน มีเงินพันล้านเหมือนกันเล่นหุ้นกับสร้างบ.อะไรสักอย่างด้วยเงินเท่ากันความต่างมันคือหุ้นคือการลงทุนกับตนอื่นด้วยตวามสามารถของคนอื่นทำไห้เงินคุณโตขึ้น กับเปิดบ.ของตัวเองคือการไช้ทักษะกับแนวคิดของคุณบริหารองกรณ์ของคุณเพื่อไห้เงินที่คุณลงทุนโตขึ้น สมมุติสองคนนี้ทำเงินได้เท่ากันแล้วจับมาทำงานเช่นรัฐบาลสาขาการค้าอย่างพานิชคิดว่าใครจะทำได้ดีกว่ากัน การลงทุนด้วยการซื้อหุ้นไม่ได้บอกว่าคุณเก่งกาจในการสร้างกิจการพวกนี้ไม่มีทุนเริ่มต้นจำนวนมากก็ทำอะไรไม่ได้ME้ก็ไม่มีใครไห้ME้ด้วยถ้าเริ่มจาก0 กลับกันพวกที่สร้างกิจการเองเก่งต่อไห้เริ่มจาก0ก็ยังขยายกิจการตัวเองได้ตัวอย่างก็ผู้พันแซนเดอร์ที่ขยายกิจการขายไก่ไปทัวโลก แต่cpผมไม่เห็นจะทำได้ขยายตลาดไปจีนผมก็ไม่เห็นจะมี
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: TakinBackMylove

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,652
  • ถูกใจแล้ว: 2824 ครั้ง
  • ความนิยม: +186/-0
Re: ทำไมคนแบบนี้ถึงไม่ไปให้ไกลๆซักที
« ตอบกลับ #46 เมื่อ: มีนาคม 03, 2020, 10:24:33 PM »
[quote/]
ไม่ครับผมหมายถึงการลงทุนหุ้นมันไม่เกี่ยวกับการสร้างกิจการอย่างการสร้างบ.ขึ้นมานะครับการเล่นหุ้นกับการทำบ.มันต่างกัน มีเงินพันล้านเหมือนกันเล่นหุ้นกับสร้างบ.อะไรสักอย่างด้วยเงินเท่ากันความต่างมันคือหุ้นคือการลงทุนกับตนอื่นด้วยตวามสามารถของคนอื่นทำไห้เงินคุณโตขึ้น กับเปิดบ.ของตัวเองคือการไช้ทักษะกับแนวคิดของคุณบริหารองกรณ์ของคุณเพื่อไห้เงินที่คุณลงทุนโตขึ้น สมมุติสองคนนี้ทำเงินได้เท่ากันแล้วจับมาทำงานเช่นรัฐบาลสาขาการค้าอย่างพานิชคิดว่าใครจะทำได้ดีกว่ากัน การลงทุนด้วยการซื้อหุ้นไม่ได้บอกว่าคุณเก่งกาจในการสร้างกิจการพวกนี้ไม่มีทุนเริ่มต้นจำนวนมากก็ทำอะไรไม่ได้กู้ก็ไม่มีใครไห้กู้ด้วยถ้าเริ่มจาก0 กลับกันพวกที่สร้างกิจการเองเก่งต่อไห้เริ่มจาก0ก็ยังขยายกิจการตัวเองได้ตัวอย่างก็ผู้พันแซนเดอร์ที่ขยายกิจการขายไก่ไปทัวโลก แต่cpผมไม่เห็นจะทำได้ขยายตลาดไปจีนผมก็ไม่เห็นจะมี


ถ้าเทียบ ทำกิจการเองคือการเอาอนาคต กับเวลาทั้งหมดไปลงทุน
ถึงคุณจะเก่ง แต่ถ้าล้มก็ถึงกับน็อคได้เลย


แต่ตลาดทุน ถ้าลงทุนแบบไม่เสี่ยงเอาชีวิตไปแขวน
ก็สามารถเข้าๆออกๆได้เรื่อยๆ


ถ้าถามผม ไม่แน่จริง ไปเปิดกิจการเองมีแต่เจ๊ง
แต่ถึงได้ได้กำไรดี ถ้าเตะตาคนอื่น ก็โดนคนเล่นอยู่ดี
แต่ตลาดหุ้น ถ้าไม่แส่หาเรื่องมันก็ไม่เจออะไรพิศดาร​ ต่อให้เล่นจนรวยก็ตาม
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: TakinBackMylove

ออฟไลน์ nosta

  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 2,522
  • ถูกใจแล้ว: 1150 ครั้ง
  • ความนิยม: +106/-145
Re: ทำไมคนแบบนี้ถึงไม่ไปให้ไกลๆซักที
« ตอบกลับ #47 เมื่อ: มีนาคม 03, 2020, 10:27:02 PM »
[quote/]
ไม่ครับผมหมายถึงการลงทุนหุ้นมันไม่เกี่ยวกับการสร้างกิจการอย่างการสร้างบ.ขึ้นมานะครับการเล่นหุ้นกับการทำบ.มันต่างกัน มีเงินพันล้านเหมือนกันเล่นหุ้นกับสร้างบ.อะไรสักอย่างด้วยเงินเท่ากันความต่างมันคือหุ้นคือการลงทุนกับตนอื่นด้วยตวามสามารถของคนอื่นทำไห้เงินคุณโตขึ้น กับเปิดบ.ของตัวเองคือการไช้ทักษะกับแนวคิดของคุณบริหารองกรณ์ของคุณเพื่อไห้เงินที่คุณลงทุนโตขึ้น สมมุติสองคนนี้ทำเงินได้เท่ากันแล้วจับมาทำงานเช่นรัฐบาลสาขาการค้าอย่างพานิชคิดว่าใครจะทำได้ดีกว่ากัน การลงทุนด้วยการซื้อหุ้นไม่ได้บอกว่าคุณเก่งกาจในการสร้างกิจการพวกนี้ไม่มีทุนเริ่มต้นจำนวนมากก็ทำอะไรไม่ได้กู้ก็ไม่มีใครไห้กู้ด้วยถ้าเริ่มจาก0 กลับกันพวกที่สร้างกิจการเองเก่งต่อไห้เริ่มจาก0ก็ยังขยายกิจการตัวเองได้ตัวอย่างก็ผู้พันแซนเดอร์ที่ขยายกิจการขายไก่ไปทัวโลก แต่cpผมไม่เห็นจะทำได้ขยายตลาดไปจีนผมก็ไม่เห็นจะมี


นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จหลายคนก็เริ่มจากเงินน้อยๆหลายคนพ่อแม่ยากจนนะครับ หุ้นมันลงทุนให้คนอื่นบริหารจริงแต่ต้องมีทักษะในการดูว่า บริษัทไหนจะไปได้ดี บรษัทไหนน่าลงทุน ไม่จำเป็นต้องมีเงินเยอะๆ ไม่จำเป็นต้องกู้มาลงทุน คุณลองไปดูประวัตินักลงทุนตัวท๊อปๆของทั้งไทยทั้งต่างชาติ ส่วนมากไม่ได้เริ่มจากเงินเยอะๆ

เซียนหุ้นอย่างวอเร็นบัฟเฟตก็บอกว่ายิ่งมีเงินน้อยยิ่งทำกำไรง่ายเพราะเข้าออกได้เร็ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 03, 2020, 10:37:44 PM โดย nosta »
 

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,652
  • ถูกใจแล้ว: 2824 ครั้ง
  • ความนิยม: +186/-0
Re: ทำไมคนแบบนี้ถึงไม่ไปให้ไกลๆซักที
« ตอบกลับ #48 เมื่อ: มีนาคม 03, 2020, 10:59:39 PM »
[quote/]


นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จหลายคนก็เริ่มจากเงินน้อยๆหลายคนพ่อแม่ยากจนนะครับ หุ้นมันลงทุนให้คนอื่นบริหารจริงแต่ต้องมีทักษะในการดูว่า บริษัทไหนจะไปได้ดี บรษัทไหนน่าลงทุน ไม่จำเป็นต้องมีเงินเยอะๆ ไม่จำเป็นต้องกู้มาลงทุน คุณลองไปดูประวัตินักลงทุนตัวท๊อปๆของทั้งไทยทั้งต่างชาติ ส่วนมากไม่ได้เริ่มจากเงินเยอะๆ

เซียนหุ้นอย่างวอเร็นบัฟเฟตก็บอกว่ายิ่งมีเงินน้อยยิ่งทำกำไรง่ายเพราะเข้าออกได้เร็ว


คำนวนง่ายๆ ถ้ากำไรจากหุ้นปีละ 20% 20 ปี 38 เท่า
30% 20 ปี 190 เท่า ลงทุน 1 ล้าน มีตัง 190 ล้าน
40% = 836
50% =3325


ถามว่าหุ้นที่เติบโต 50% ใน 1 ปีมีเยอะแค่ไหน เยอะมาก
ขนาดโต 1-10 เท่าก็มีเรื่อยๆแทบทุกปี


แถมพวกเซียนๆ นอกจากจะเลือกหุ้นเก่งละ ยังบอกต่อให้คนมาเห็นแล้วช่วยดันราคา
แม่มมันจะไม่รวยได้ยังไง ::)




[quote/]
เดี๋ยวเรามีกิจการบางอย่างเป็นของตัวเองด้วย เรื่องกิจการเป็นเรื่องของการมองเห็นโอกาสแล้วลงทุนมากกว่า  ไม่ได้เอาอนาคตไปลงทุนนะ  แต่แค่เห็นโอกาสทำเงิน 


สมมุติเรามองว่า เปิดร้านตรงนี้ดี เราก็ไปลงทุนเปิดร้าน ไปดูแลร้านเอง เพราะมองเห็นโอกาส
แต่กลับเป็นว่า เปิดไปปีแรกๆกิจการดีมาก พอคนมาเห็น ก็แข่ง แรกๆก็ยังดีอยู่ แต่พอโดนแย่งลูกค้า
งานก็ยิ่งต้องทุ่มเทขึ้น จะออกไปทำอย่างอื่นก็ไม่ได้ สุดท้ายก็ได้แค่ประคับประคอง


แต่เวลาก็หมดไปๆ ผ่านไปหลายปีก็เสียเวลา ที่จะไปเริ่มต้นใหม่ ก็คือการเอาอนาคตไปฝากไว้


บางคนเงินเก็บนับ 10 ปีก็หมดเกลี้ยงแถมติดหนี้ธนาคาร แปลว่าหมดโอกาสเริ่มต้นใหม่จนกว่าจะใช้หนี้หมด


ถ้าเปิดกิจการ ส่วนใหญ่ไม่รอดก็เจ๊ง ไอ้ที่เติบโตสูงๆมันจะไปมากที่สุดเท่าที่ 2 มือ จะทำไหวแล้วก็หยุด


ส่วนพวกที่ไปรุ่งแล้วร่ำรวยกลับมาได้คือยังกับแทงบอล คือเดาได้ว่า ทีมที่แทงเหนือกว่าแต่เอาเข้าจริงมันก็มีสิทธฺ์พลิกได้


ดูอย่างลิเวอร์พูลชนะมาจนจะได้แชมป์ใครจะนึกว่าต้องมาแพ้ทีมหนีตกชั้น


ญาติผมเปิดกิจการจากตัวคนเดียวไปจนเงินหมุน เดือนละ 4-5 ล้าน
สุดท้ายบริหารไม่ไหว ของเสียโดนคืนสินค้า เลยโดนสถาบันการเงินแบล็คลิส ต้องไปกู้หนี้นอกระบบมาพยุง
สุดท้ายไปไมไหวต้องล้มละลาย


เวลาที่ใช้ไป นับสิบปี สุดท้ายต้องมาเริ่มใหม่ขายของแบบกับดินข้างถนน แล้วก็ดูเริ่มจะลืมตาอ้าปากได้อีก แต่ยังไม่เท่าเดิม




นี่ไงครับ การเปิดกิจการ เอาเวลา เอาอนาคตไปฝากไว้ชัดๆ


แต่ถ้าไปซื้อแล้วปล่อยเช่าไรงี้มันถือเป็นการลงทุนมากกว่า ใช้คำว่าเปิดกิจการ
รึกิจการหลายๆอย่างที่เราไม่ได้บริหารเลย มันก็คือการลงทุนมากกว่า


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 03, 2020, 11:03:08 PM โดย deaddy »
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: TakinBackMylove

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,189
  • ถูกใจแล้ว: 3909 ครั้ง
  • ความนิยม: +298/-402
Re: ทำไมคนแบบนี้ถึงไม่ไปให้ไกลๆซักที
« ตอบกลับ #49 เมื่อ: มีนาคม 04, 2020, 04:27:03 AM »
[quote/]


คำนวนง่ายๆ ถ้ากำไรจากหุ้นปีละ 20% 20 ปี 38 เท่า
30% 20 ปี 190 เท่า ลงทุน 1 ล้าน มีตัง 190 ล้าน
40% = 836
50% =3325


ถามว่าหุ้นที่เติบโต 50% ใน 1 ปีมีเยอะแค่ไหน เยอะมาก
ขนาดโต 1-10 เท่าก็มีเรื่อยๆแทบทุกปี


แถมพวกเซียนๆ นอกจากจะเลือกหุ้นเก่งละ ยังบอกต่อให้คนมาเห็นแล้วช่วยดันราคา
แม่มมันจะไม่รวยได้ยังไง ::)




[quote/]


สมมุติเรามองว่า เปิดร้านตรงนี้ดี เราก็ไปลงทุนเปิดร้าน ไปดูแลร้านเอง เพราะมองเห็นโอกาส
แต่กลับเป็นว่า เปิดไปปีแรกๆกิจการดีมาก พอคนมาเห็น ก็แข่ง แรกๆก็ยังดีอยู่ แต่พอโดนแย่งลูกค้า
งานก็ยิ่งต้องทุ่มเทขึ้น จะออกไปทำอย่างอื่นก็ไม่ได้ สุดท้ายก็ได้แค่ประคับประคอง


แต่เวลาก็หมดไปๆ ผ่านไปหลายปีก็เสียเวลา ที่จะไปเริ่มต้นใหม่ ก็คือการเอาอนาคตไปฝากไว้


บางคนเงินเก็บนับ 10 ปีก็หมดเกลี้ยงแถมติดหนี้ธนาคาร แปลว่าหมดโอกาสเริ่มต้นใหม่จนกว่าจะใช้หนี้หมด


ถ้าเปิดกิจการ ส่วนใหญ่ไม่รอดก็เจ๊ง ไอ้ที่เติบโตสูงๆมันจะไปมากที่สุดเท่าที่ 2 มือ จะทำไหวแล้วก็หยุด


ส่วนพวกที่ไปรุ่งแล้วร่ำรวยกลับมาได้คือยังกับแทงบอล คือเดาได้ว่า ทีมที่แทงเหนือกว่าแต่เอาเข้าจริงมันก็มีสิทธฺ์พลิกได้


ดูอย่างลิเวอร์พูลชนะมาจนจะได้แชมป์ใครจะนึกว่าต้องมาแพ้ทีมหนีตกชั้น


ญาติผมเปิดกิจการจากตัวคนเดียวไปจนเงินหมุน เดือนละ 4-5 ล้าน
สุดท้ายบริหารไม่ไหว ของเสียโดนคืนสินค้า เลยโดนสถาบันการเงินแบล็คลิส ต้องไปกู้หนี้นอกระบบมาพยุง
สุดท้ายไปไมไหวต้องล้มละลาย


เวลาที่ใช้ไป นับสิบปี สุดท้ายต้องมาเริ่มใหม่ขายของแบบกับดินข้างถนน แล้วก็ดูเริ่มจะลืมตาอ้าปากได้อีก แต่ยังไม่เท่าเดิม




นี่ไงครับ การเปิดกิจการ เอาเวลา เอาอนาคตไปฝากไว้ชัดๆ


แต่ถ้าไปซื้อแล้วปล่อยเช่าไรงี้มันถือเป็นการลงทุนมากกว่า ใช้คำว่าเปิดกิจการ
รึกิจการหลายๆอย่างที่เราไม่ได้บริหารเลย มันก็คือการลงทุนมากกว่า



แต่cpมันไม่มีคู่แข่งในไทยไงครับประเด็นคือคุณไปแข่งขันในที่ๆมีการแข่งขันไม่ไหวเรื่องมันก็มีแค่นี้ ส่วนการเอาเงินจากการผูกขาดตลาดไปเล่นหุ้นไห้มันงอกเงือยมันคนละประเด็นกับการแข่งขันระหว่างบ. ถ้าคุณเล่นหุ้นจนมีกำไรเยอะผมถือว่าคุณเก่งด้านการเก็งกำไรในบ.อื่นๆคุณเล็งเห็นว่าบ.ที่คุณไปลงทุนจะเติบโตและคืนกำไรไห้ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณสามารถบริหารบ.ของตัวเองไห้ก้าวหน้าได้มันคนละประเด็นกัน ที่ผมบอกเเบบนี้เพราะคนรวยส่วนใหณ่ในไทยเป็นแบบนี้ผูกขาดการค้าแบบอภิสิทธชนพอคนแบบนี้มาเป็นรมต.การค้าการคลังต่อไห้เล่นหุ้นเก่งแค่ไหนมันก็บริหารไม่รอดครับ ผมถึงบอกว่าลงทุนกับหุ้นแล้วรวยกับสร้างบ.จนรวยมันต่างกันแต่การสร้างบ.จนรวยผมนับแค่พวกที่แข่งขันแบบเสรีครับไม่ไช่พวกผูกขาด ถ้าพวกบ.ใหณ่ๆในไทยเก่งจริงก็ไปเปิดสาขานอกประเทศได้นานแล้วครับที่ทำไม่ได้เป็นเพราะสู้เขาไม่ได้ ผมไม่ยกเจ้าใหณ่แบบkfcก็ได้แบรนขายโดนัทอย่างคริสปี้ครีมยังเปิดแฟนชายขายนอกประเทศได้ แต่cpไทยกลับทำไม่ได้ทังที่กุมตลาดไทยเจ้าเดียวเม็ดเงินมหาศาลจริงๆแล้วไม่ไช่ว่าไม่พยายามผมเห็นหลายครังแล้วที่cpแพ้กลับมาจากการพยายามขยายตลาดไปต่างประเทศ

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,652
  • ถูกใจแล้ว: 2824 ครั้ง
  • ความนิยม: +186/-0
Re: ทำไมคนแบบนี้ถึงไม่ไปให้ไกลๆซักที
« ตอบกลับ #50 เมื่อ: มีนาคม 04, 2020, 09:08:58 AM »
พูดถึง cp ผูกขาดไหม ก็ผูกขาด แต่อย่าลืม cp รุ่งเรื่องในยุคเจนเดียวนะครับ
คือผู้บริหารหลักที่พา cp สู่บ.ระดับประเทศ ก็อยู่ตั้งแต่ยังเป็นกิจการห้องแถว
เรื่องการบริหารเค้าเก่งแน่นอนครับ
ไม่ใช่ว่าโตเพราะผูกขาดซะทีเดียว

ส่วนความเสรีทางการค้า ผมมองว่าไทยเปิดเสรี แต่ต่างชาติหลายประเทศไม่เสรีจริงๆครับ


อย่างอเมริการึยุโรปจะมีมาตรฐานนู่นนี่นั่น เพื่อตั้งกำแพงกีดกัน บ.ต่างชาติ


อย่างเอาการค้ามนุษย์มาเป็นข้ออ้างทั้งที่มันคนละบ.กันเลย
รึการตั้งกำแพงภาษีต่างๆ ทั้งที่ บ.ต่างชาติต้องแบกค่าขนส่งอยู่ละ


รึอย่างจีน คุณจะมาลงทุนเปล่าๆไม่ได้ คุณต้องให้คนจีนเรียนรู้
ความลับ บ. คุณด้วย จะได้ไปสร้างแข่งได้


รึหลายประเทศก็ใส่เงื่อนไขต่างๆเพื้อป้องกันนายทุนต่างชาติมาทำลายตลาด


ส่วนการลงทุนในไทย แค่ให้คนไทยถือหุ้น เกิน ครึ่งก็พอ
พอเอาเข้าจริงก็เป็นนอมินี จน บ.ต่างชาติมาลงทุนแล้วก็โตง่ายๆ


ถ้าไม่ใช่กิจการที่มีความแปลกใหม่รึโดดเด่น การจะไปเปิดตลาด
เปิดกิจการไปก็โตยาก


อย่างไก่ย่าง 1 ชิ้นปรกติขาย 20
พอเป็น ไก่ย่างจาก บ. ต่างชาติ ก็ต้องขาย 80


แต่ทำไม kfc ขายได้ ก็เพราะ บ.ต่างชาติมาลงทุนในไทย
ต้องผ่าน บ. ไทย


อย่าง เปบซี่ ก่อนนี้ บ. ขาใหญ่ด้านเครื่องดื่ม บ.นึงซื้อ แฟนไชน์มา
พอเป๊ปซี่ เรียกร้องค่า lc ที่ บ. นั้นมองว่าไม่คุ้มจะต่อสัญญา


เค้าก็เลยไปตั้ง บ.ผลิตเองเลย แล้วซื้อสูตรหัวเชื้อจากอีก บ. นึงมา
เพื่อทำสินค้าที่คล้ายกันมาขาย


จะสังเกตุได้เลยครับ ช่วงนึงเป๊ปซี่ จะหายไปจากตลาด
แถมพอกลับมาก็ไม่มีขวดแก้ว เพราะขวดแก้วอยู่ในครือ บ.ขาใหญ่


แล้วจะหาซื้อตามร้านค้าต่างๆก็ยากขึ้น เพราะขาใหญ่ขายสินค้าตัวเอง
แล้วพยายามกีดกันแบรนด์อื่นอยู่แล้ว


บ.ที่เป๊ปซี่ ใช้ในการทำตลาดในไทยก็สู้เค้าไม่ได้
กลายเป็นหาซื้อยากกว่าอีกแบรนด์ที่เพิ่งเกิดใหม่


พอจะพูดถึง สงครามแบรนด์


ไก่ผู้พันแซน ขายแพง คนก็ซื้อ แต่ลองเปลี่ยนเป็นชื่อ ผู้พันสุกี้
แบบนี้สิครับคิดว่าคนจะอยากจ่ายแพงไปกินไหม


ถ้าดู บ.ไทยที่ไปเปิดตลาดต่างชาติสำเร็จอย่าง กระทิงแดง
เค้าก็ต้องไปเทค ไปตั้งบ. ในต่างประเทศ แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นเรดบูล


จนคนต่างชาติหลายคนไม่รู้ว่าเป็น บ.ไทย
หลายคนอาจจะคิดว่ามาจากสเปนอะไรงี้


แล้วไปลงทุนสร้างแบรนด์ตามประเทศต่างๆอีกเพียบ
ไปซื้อทีมกีฬา ประเทศต่างๆ แล้วใช้ชื่อหรือ โลโก้ บ. ตัวเองลงไป
ทำให้กระทิงแดงได้เกิด


แต่สินค้า cp คืออะไร ไก่สดแช่แข็งงี้
สินค้าส่วนใหญ่เป็นสิค้าวัตถุดิบ เวลาตีตลาด ก็โดนกำแพงภาษี
คนจะซื้อ ก็ไม่สนว่าต้องเป็นไก่นำเข้า เขาดูแค่คุณภาพผ่าน แล้วราคาถูก
พอปรุงไปก็แทบไม่ต่าง จะซื้อของต่างชาติทำไม




แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไปตีตลาดไม่ได้ ก็ขายได้


แต่การลงทุนหลายอย่างก็อาจจะไม่รอด ไม่ใช่เพราะเก่งน้อยกว่า บ.ต่างชาติ
แต่รูปแบบสินค้าหลายอย่างไม่เอื้อ ถ้าลงทุนเพิ่มก็อาจจะสู้ได้สบาย


แต่การลงทุนเพิ่มบางทีไม่คุ้มเท่าขายทิ้งแล้วเอาเงินไปลงทุนอย่างอื่นแทน


อย่างพวกเทสโก้โลตัส แมคโคร สุดท้ายก็โดนเทค อาจจะเพราะ บ.แม่มีปัญหา
รึเอาเงินค่าเทคไปทำอย่างอื่นดีกว่าก็ตาม


เพราะงั้นบางที ไม่ใช่ บริหารสู้ไม่ได้
แต่พอหักลบกับกำแพงที่ต้องเจอ บางทีเอาตังไปทำอย่างอื่นคุ้มกว่า


อย่างร้านอินเตอร์เน็ตสมัยก่อนบูมมาก พอคนรู้ก็มีพวก ตร. พวกบ.ต่างๆ
มาขอมีส่วนแบ่งด้วย จนร้านเน็ตแค่พออยู่ได้
พอปัจจุบันคนแห่ไปเล่นมือถือ แถมส่วนใหญ่ก็ต่อเน็ตที่บ้าน
ตอนนี้กลายเป็นไม่คุ้ม เอาตังไปทำกิจการอย่างอื่นคุ้มกว่า


เพราะงั้นมันไม่ใช่ทุกธุรกิจจะรุ่งได้เพราะแบรนด์ บางอย่างแข่งกันที่ราคา
บ.ให้ดียังไง เจอแต้มต่อของเจ้าถิ่น บางทีเอาเงินไปลงทุนที่อื่นคุ้มกว่า


แต่ตัวเลขบางอย่าง ไม่ทำเองก็ไม่รู้ บ.หลาย บ. เลยลองลงทุน พอไม่เวิคก็ถอย


แล้วบ.ใหญ่อย่าง cp มีช่องให้ลงทุนมากมาย ถ้ามองแล้วว่ากำไรต่ำ ก็พร้อมจะถอย


ต่างกับ บ. อย่างกระทิงแดง ที่ใช้ทุนเพื่อสร้างแบรนด์ อัดโฆษณา
จะไปขายประเทศไหนก็มีแค่ขายให้ออก มากกว่าจะโดนกำแพงจาก รบ.ประเทศนั้นๆ
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: nosta

ออฟไลน์ nosta

  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 2,522
  • ถูกใจแล้ว: 1150 ครั้ง
  • ความนิยม: +106/-145
Re: ทำไมคนแบบนี้ถึงไม่ไปให้ไกลๆซักที
« ตอบกลับ #51 เมื่อ: มีนาคม 04, 2020, 04:13:09 PM »
Cp มันมาจากกิจการเล็กๆนะครับ  แถมคู่แข่ง cp นี่เพียบนะ นับรวมๆผมว่า cp มีคู่แข่งเยอะที่สุดในไทยแล้ว ทั้งร้านของชำ คนเลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา ชาวไร่ชาวนา โทรคมนาคม คู่แข่งอื้อแบบนี้ไม่ใช่ผูกขาดนะ ผูกขาดมันต้องสัมปทานมีเจ้าเดียวแบบ bts รถเมล์ แอร์พอร์ตลิ้งค์ พอบริษัทมันใหญ่ขึ้นมีอำนาจในตลาดคนก็มองว่าผูกขาด


        เค้าก็แสดงให้เห็นความสามารถแล้ว ทั้งดันบริษัทจากเล็กๆ ทั้งการลงทุนต่างประเทศ แต่ชาวเน็ตไทยจำนวนมากก็คิดว่า เป็นเรื่องง่ายๆ คิดว่าแค่ผูกขาดก็จบ (แล้วตอนบริษัทเล็กๆจะผูกขาดยังไง) ลงทุนก็แค่จ้างคนมาวิเคราะห์ แต่ก็ไม่เห็นคนที่ไปเหยียดเค้าประสบความสำเร็จร่ำรวยเท่าเค้า


       ที่จริงในทางจิตวิทยาเรียกว่า ดันนิ่งครูเกอร์ เอฟเฟค ยิ่งคนที่ี่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยจะยิ่งคิดว่าตนเองเก่ง คิดว่าจะลงทุนทำอะไรก็ง่ายแล้วก็หมดตัว คิดว่าก่ออาชญากรรมได้โดยที่ไม่มีใครจับได้แล้วก็ติดคุก
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Dunning%E2%80%93Kruger_effect
 

ออฟไลน์ Yongkare

  • สาวกผู้สนับสนุนเซนนิคุง2Y
  • แม่ทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 2,003
  • ถูกใจแล้ว: 566 ครั้ง
  • ความนิยม: +41/-29
  • เพศ: ชาย
  • อย่างรู้เนื๊อแท้ของคน จงมอบอำนาจให้แก่เขา
Re: ทำไมคนแบบนี้ถึงไม่ไปให้ไกลๆซักที
« ตอบกลับ #52 เมื่อ: มีนาคม 04, 2020, 04:21:11 PM »
ตอนนี่cp โตออกจากไทยแล้วนะครับตอนนี้ ลงทุนในหลายระเทศมาก ล่าสุดซ์๊อหุ้นบริษัทอาหารใหญ่สุดในเมกาแล้ว

There is nothing either good or bad but thinking make it so
ไม่มีสิ่งใดบนโลกที่ดีหรือเลว ความคิดของเราต่างหากที่ทำให้เกิดความดีความเลว
Hamlet Act 2,scene 2, 239-251
 

ออฟไลน์ Lucifer216

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,318
  • ถูกใจแล้ว: 1042 ครั้ง
  • ความนิยม: +32/-18
Re: ทำไมคนแบบนี้ถึงไม่ไปให้ไกลๆซักที
« ตอบกลับ #53 เมื่อ: มีนาคม 04, 2020, 05:16:10 PM »
สำหรับผม CP นี่ไม่เรียกว่าผูกขาดนะครับ เพราะเขาก็มีคู่แข่งอยู่เยอะเลย แต่ความฉลาดและความสามารถในการบริหารของเจ้าสัวแก่ดีจริงๆครับ ที่สำคัญแกอยู่เป็นไม่ขัดแข้งขัดขาใครยอมเปลี่ยนสีไปเรื่อยเพื่อให้ตัวเองคงอยู่ ถ้าไม่เก่งจริงทำไม่ได้นะครับ ที่สำคัญสามารถสร้างตัวได้ใน Gen เดียวมาเป็นมหาเศรษฐีเบอร์ 1 ของไทยได้ไม่ธรรมดาแน่นอน ที่เราเห็นว่าผูกขาดเพราะเรามาเห็นตอนที่เขามีเงินมีเส้นสายทางธุรกิจแล้ว และเขาก็ไม่หยุดนิ่งที่จะอยู่กับแค่กิจการเดิมๆไปเรื่อยๆ เขามองหาช่องทางและขยายกลุ่มธุรกิจไปยังสินค้าอื่นๆอีก ถ้าให้เปรียบกับบริษัทญี่ปุ่นก็น่าจะพวก Mitsubishi ที่ผลิตตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเครื่องบินรบ คือครอบคลุมทุกอย่างแต่ก็มีคู่แข่งในสินค้าประเภทนั้นๆอยู่ด้วย เพียงแต่ของไทยพวกคู่แข่งที่ว่าเนี่ยมันยังไม่ใหญ่มากพอจะมาเทียบเคียงกลุ่ม CP ได้

ธุรกิจที่ผูกขาดในไทยตัวอย่างชัดเจน คือ การรถไฟครับ ไม่มีรถไฟเอกชนสักเจ้ามีอยู่เจ้าเดียววิ่งทั่วประเทศแต่แปลกไหมขาดทุนทุกปี ไม่เคยกำไรเลยเพราะอะไรเพราะบริหารกันไม่เป็น อ้างคนไม่นิยมขึ้นรถไฟทำให้ขาดทุน แต่ก็ไม่พัฒนาเพื่อดึงดูดคนให้ไปใช้เลย ผมเคยนั่งไปประจวบขึ้นรถไฟชั้น 3 ใช้เวลาไป 6 ชั่วโมง!!!!! แค่ประจวบนะถ้าไปไกลกว่านั้นจะกี่ชั่วโมง ไม่แปลกที่คนจะไม่ขึ้นกัน  :-X
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: nosta, Taw

ออฟไลน์ Yongkare

  • สาวกผู้สนับสนุนเซนนิคุง2Y
  • แม่ทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 2,003
  • ถูกใจแล้ว: 566 ครั้ง
  • ความนิยม: +41/-29
  • เพศ: ชาย
  • อย่างรู้เนื๊อแท้ของคน จงมอบอำนาจให้แก่เขา
Re: ทำไมคนแบบนี้ถึงไม่ไปให้ไกลๆซักที
« ตอบกลับ #54 เมื่อ: มีนาคม 04, 2020, 05:23:03 PM »
สำหรับผม CP นี่ไม่เรียกว่าผูกขาดนะครับ เพราะเขาก็มีคู่แข่งอยู่เยอะเลย แต่ความฉลาดและความสามารถในการบริหารของเจ้าสัวแก่ดีจริงๆครับ ที่สำคัญแกอยู่เป็นไม่ขัดแข้งขัดขาใครยอมเปลี่ยนสีไปเรื่อยเพื่อให้ตัวเองคงอยู่ ถ้าไม่เก่งจริงทำไม่ได้นะครับ ที่สำคัญสามารถสร้างตัวได้ใน Gen เดียวมาเป็นมหาเศรษฐีเบอร์ 1 ของไทยได้ไม่ธรรมดาแน่นอน ที่เราเห็นว่าผูกขาดเพราะเรามาเห็นตอนที่เขามีเงินมีเส้นสายทางธุรกิจแล้ว และเขาก็ไม่หยุดนิ่งที่จะอยู่กับแค่กิจการเดิมๆไปเรื่อยๆ เขามองหาช่องทางและขยายกลุ่มธุรกิจไปยังสินค้าอื่นๆอีก ถ้าให้เปรียบกับบริษัทญี่ปุ่นก็น่าจะพวก Mitsubishi ที่ผลิตตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเครื่องบินรบ คือครอบคลุมทุกอย่างแต่ก็มีคู่แข่งในสินค้าประเภทนั้นๆอยู่ด้วย เพียงแต่ของไทยพวกคู่แข่งที่ว่าเนี่ยมันยังไม่ใหญ่มากพอจะมาเทียบเคียงกลุ่ม CP ได้

ธุรกิจที่ผูกขาดในไทยตัวอย่างชัดเจน คือ การรถไฟครับ ไม่มีรถไฟเอกชนสักเจ้ามีอยู่เจ้าเดียววิ่งทั่วประเทศแต่แปลกไหมขาดทุนทุกปี ไม่เคยกำไรเลยเพราะอะไรเพราะบริหารกันไม่เป็น อ้างคนไม่นิยมขึ้นรถไฟทำให้ขาดทุน แต่ก็ไม่พัฒนาเพื่อดึงดูดคนให้ไปใช้เลย ผมเคยนั่งไปประจวบขึ้นรถไฟชั้น 3 ใช้เวลาไป 6 ชั่วโมง!!!!! แค่ประจวบนะถ้าไปไกลกว่านั้นจะกี่ชั่วโมง ไม่แปลกที่คนจะไม่ขึ้นกัน  :-X
เรื่องนี้ผมก็แปลกใจนะครับรถไฟชั้น1เต็มตลอดโดยเฉพาะสายใต๊ราคา 900+ เท่ากับเครื่องบินบวกลบไม่เกินสามร้อย  แต่ขาดทนทุกปี  จะเอาคนนอกไปบริหาร ก็อยุดประท้วง

There is nothing either good or bad but thinking make it so
ไม่มีสิ่งใดบนโลกที่ดีหรือเลว ความคิดของเราต่างหากที่ทำให้เกิดความดีความเลว
Hamlet Act 2,scene 2, 239-251
 

ออฟไลน์ Lucifer216

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,318
  • ถูกใจแล้ว: 1042 ครั้ง
  • ความนิยม: +32/-18
Re: ทำไมคนแบบนี้ถึงไม่ไปให้ไกลๆซักที
« ตอบกลับ #55 เมื่อ: มีนาคม 04, 2020, 05:37:04 PM »
[quote/]เรื่องนี้ผมก็แปลกใจนะครับรถไฟชั้น1เต็มตลอดโดยเฉพาะสายใต๊ราคา 900+ เท่ากับเครื่องบินบวกลบไม่เกินสามร้อย  แต่ขาดทนทุกปี  จะเอาคนนอกไปบริหาร ก็อยุดประท้วง
มีนอกมีในอยู่ไงครับ ถึงไม่อยากให้คนนอกไปบริหาร ถ้าเปลี่ยนเป็นรัฐวิสาหกิจเมื่อไหร่ก็ต้องมีคนนอกหรือเอกชนเข้าไปดูแลด้วย ที่นี้จะเอาของถูกๆมาให้คนใช้ไม่ได้แล้วไง เพราะจะโดนตรวจสอบได้ง่ายกว่าเดิม พวกส่วนต่างค่าของอะไรพวกนี้ก็จะหายไป หรืออาจมีค่าเบิกซ่อมที่ไม่มีอยู่จริงอีก ขืนเปิดก็เจ๊งกันหมด ขยะใต้พรมมันเยอะเกินครับ
 

ออฟไลน์ sechan

  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 2,938
  • ถูกใจแล้ว: 1729 ครั้ง
  • ความนิยม: +139/-261
Re: ทำไมคนแบบนี้ถึงไม่ไปให้ไกลๆซักที
« ตอบกลับ #56 เมื่อ: มีนาคม 04, 2020, 05:48:29 PM »
Cp นี่ธุรกิจอะไรดี พี่แกทุ่มตลาดกระทืบ คนบุกเบิกทันที ถ้ายอมสวามิภักดิ์ขายกิจการก็จะซื้อ ไม่ยอมนี่ เปิดแข่งทันทีด้วยทุนมหาศาลแล้วทุ่มตลาด.... เออ มุมมองกว้างไกล ปลาใหญ่กินปลาเล็ก เขาไม่ทำเรื่องจิ๊บจ๊อยอย่างผูกขาดหรอก  เออออ.  จะหาคำสรรเสริญยังไงดี... :o :o   
 

ออฟไลน์ Lucifer216

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,318
  • ถูกใจแล้ว: 1042 ครั้ง
  • ความนิยม: +32/-18
Re: ทำไมคนแบบนี้ถึงไม่ไปให้ไกลๆซักที
« ตอบกลับ #57 เมื่อ: มีนาคม 04, 2020, 06:28:00 PM »
Cp นี่ธุรกิจอะไรดี พี่แกทุ่มตลาดกระทืบ คนบุกเบิกทันที ถ้ายอมสวามิภักดิ์ขายกิจการก็จะซื้อ ไม่ยอมนี่ เปิดแข่งทันทีด้วยทุนมหาศาลแล้วทุ่มตลาด.... เออ มุมมองกว้างไกล ปลาใหญ่กินปลาเล็ก เขาไม่ทำเรื่องจิ๊บจ๊อยอย่างผูกขาดหรอก  เออออ.  จะหาคำสรรเสริญยังไงดี... :o :o   
ถ้างั้น Microsoft ผูกตลาดหรือเปล่าครับ อะไรดีพี่แกซื้อมาควบรวมหมด Google ละ ผูกขาดหรือเปล่า ผมมองเรื่องของธุรกิจมันเป็นเรื่องของปลาใหญ่กินปลาเล็กอยู่แล้ว ยกเว้นของคุณดีจริงๆไม่กลัวของเลียนแบบคุณก็เกิดได้ Windows ก็ไม่ได้ผูกตลาด Os แล้วเดี๋ยวนี้ หรือ Google ที่พยายามจะเจาะตลาดเกมทำเครื่องเกมสตรีมออกมาก็ไม่สามารถเข้าไปแย่งชิงพื้นที่ของเจ้าเก่าๆได้ หรือธุรกิจมือถือที่ Microsoft กับ Google พยายามจะเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย ผมก็ไม่เห็นเขาจะเข้าไปกระทืบพวกเจ้าบุกเบิกได้เลย โดนกระทืบกลับขาดทุนยับด้วยซ้ำ เอาแค่เจ้ารองๆอย่าง Sony ที่ตลาดมือถือหดตัวเป็นแค่มือรองๆ ยังทำกำไรได้เยอะกว่ามือถือที่ Microsoft กับ Google ทำเลยครับ ทั้งๆที่ 2 เจ้านี้เงินทุนหนากว่าเยอะแน่นอน
ก่อนอื่นต้องนิยามคำว่าผูกตลาดก่อนว่ามันคืออะไร ในมุมมองผมมันการทำอะไรก็ตามที่ไม่มีคู่แข่งหรือไม่สามารถสร้างคู่แข่งขึ้นมาได้ ผมเลยยกตัวอย่างเรื่อง รถไฟไทยที่ไม่สามารถมีการสร้างคู่แข่งทางการตลาดได้เลยเพราะตามกฏหมายไม่สามารถอนุญาตทำได้ หรือพวกธุรกิจประเภทเดียวกันหลายยี่ห้อแต่มีเจ้าของเป็นคนเดียวกันอันนี้ก็เรียกผูกตลาด แต่ถ้าเป็น CP ผมว่ามันคือการครองตลาดมากกว่าคือเป็นเบอร์ 1 ที่เบอร์ 2 ตามมาหลายช่วงตัว
เทียบกับไอดอลในไทยก็ต้อง BNK48 ทุกคนรู้จักแน่นอน แต่ถ้าพูดถึง Sweat 16! , CM Cafe , Siam Dream จะมีคนรู้จักกี่คนทั้งๆพวกนี้ก็เป็นไอดอลในไทยที่เกิดมาใกล้ๆกับ BNK48 เหมือนกัน ดังนั้น BNK48 = CP คือครองตลาดไอดอลอยู่แต่ก็ไม่ถึงกับผูกขาด เพราะยังมีคู่แข่งทียังแชร์ตลาดส่วนนี้อยู่ แล้วถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันวงอื่นๆก็พร้อมจะขึ้นมาครองตลาดแทนได้เหมือนกันครับ
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Taw

ออฟไลน์ Taw

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,352
  • ถูกใจแล้ว: 584 ครั้ง
  • ความนิยม: +47/-605
Re: ทำไมคนแบบนี้ถึงไม่ไปให้ไกลๆซักที
« ตอบกลับ #58 เมื่อ: มีนาคม 04, 2020, 06:29:30 PM »
สำหรับผม CP นี่ไม่เรียกว่าผูกขาดนะครับ เพราะเขาก็มีคู่แข่งอยู่เยอะเลย แต่ความฉลาดและความสามารถในการบริหารของเจ้าสัวแก่ดีจริงๆครับ ที่สำคัญแกอยู่เป็นไม่ขัดแข้งขัดขาใครยอมเปลี่ยนสีไปเรื่อยเพื่อให้ตัวเองคงอยู่ ถ้าไม่เก่งจริงทำไม่ได้นะครับ ที่สำคัญสามารถสร้างตัวได้ใน Gen เดียวมาเป็นมหาเศรษฐีเบอร์ 1 ของไทยได้ไม่ธรรมดาแน่นอน ที่เราเห็นว่าผูกขาดเพราะเรามาเห็นตอนที่เขามีเงินมีเส้นสายทางธุรกิจแล้ว และเขาก็ไม่หยุดนิ่งที่จะอยู่กับแค่กิจการเดิมๆไปเรื่อยๆ เขามองหาช่องทางและขยายกลุ่มธุรกิจไปยังสินค้าอื่นๆอีก ถ้าให้เปรียบกับบริษัทญี่ปุ่นก็น่าจะพวก Mitsubishi ที่ผลิตตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเครื่องบินรบ คือครอบคลุมทุกอย่างแต่ก็มีคู่แข่งในสินค้าประเภทนั้นๆอยู่ด้วย เพียงแต่ของไทยพวกคู่แข่งที่ว่าเนี่ยมันยังไม่ใหญ่มากพอจะมาเทียบเคียงกลุ่ม CP ได้

ธุรกิจที่ผูกขาดในไทยตัวอย่างชัดเจน คือ การรถไฟครับ ไม่มีรถไฟเอกชนสักเจ้ามีอยู่เจ้าเดียววิ่งทั่วประเทศแต่แปลกไหมขาดทุนทุกปี ไม่เคยกำไรเลยเพราะอะไรเพราะบริหารกันไม่เป็น อ้างคนไม่นิยมขึ้นรถไฟทำให้ขาดทุน แต่ก็ไม่พัฒนาเพื่อดึงดูดคนให้ไปใช้เลย ผมเคยนั่งไปประจวบขึ้นรถไฟชั้น 3 ใช้เวลาไป 6 ชั่วโมง!!!!! แค่ประจวบนะถ้าไปไกลกว่านั้นจะกี่ชั่วโมง ไม่แปลกที่คนจะไม่ขึ้นกัน  :-X

เห็นด้วยเลย จนท ไม่รู้เป็นไร เอะอะตีตั๋วชั้นสามให้อย่างเดียวถ้าไม่บอกว่าจะขึ้นชั้นอะไร(ซึ่งบางคนไม่รู้ไงว่ามีรถแบบไหนบ้างไง เจอให้ชั้นขอทานก่อนเลย) เน้นชั้นสามเยอะเกินขนาดรถด่วนยังมี(แถมเอาเก้าอี้พลาสติกมาให้บริการอีก ค่าตั๋วก็ไม่ถูกนะ แพงกว่ารถเร็วชั้นสองด้วย) รถแอร์ก็มีน้อยแถมซื้อโคตรยาก ถ้าไม่จองก่อนอย่างน้อย 2-3 วันก็อย่าหวัง แถมรถนั่งแอร์แบบเบาะเอนบางคันหมุนเบาะไม่ได้(ไม่ใช่เสียนะ แต่ระบบเป็นงั้นเลย) ต้องหันหลังทิศรถวิ่งครึ่งคัน ได้แบบหันหลังคือโคตรเวียนหัว นั่งรถไฟทีเหมือนฝึกทหารถ้าโชคไม่ดีพอ

ที่สถานีก็มีตารางเดินรถอย่างเดียวไม่บอกว่าจอดไหนบ้าง ค่ารถเท่าไหร่ มีชั้นไหนบริการ
จริงๆเคยมีที่สถานีปากช่องนะ บอกหมดว่าจอดที่ไหน มีรถแบบไหนบริการ แต่นานมากละ พอโครงการรถไฟฟรีมาบอร์ดข้อมูลนั้นหาย ป่านนี้ยังไม่เอากลับมาเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 04, 2020, 06:31:06 PM โดย Taw »
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Lucifer216

ออฟไลน์ Overmars

  • นักปราชญ์แห่งเขาเซนนิคุมะ
  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,178
  • ถูกใจแล้ว: 2193 ครั้ง
  • ความนิยม: +226/-225
Re: ทำไมคนแบบนี้ถึงไม่ไปให้ไกลๆซักที
« ตอบกลับ #59 เมื่อ: มีนาคม 05, 2020, 09:23:29 AM »
[quote/]
ถ้างั้น Microsoft ผูกตลาดหรือเปล่าครับ อะไรดีพี่แกซื้อมาควบรวมหมด Google ละ ผูกขาดหรือเปล่า ผมมองเรื่องของธุรกิจมันเป็นเรื่องของปลาใหญ่กินปลาเล็กอยู่แล้ว ยกเว้นของคุณดีจริงๆไม่กลัวของเลียนแบบคุณก็เกิดได้ Windows ก็ไม่ได้ผูกตลาด Os แล้วเดี๋ยวนี้ หรือ Google ที่พยายามจะเจาะตลาดเกมทำเครื่องเกมสตรีมออกมาก็ไม่สามารถเข้าไปแย่งชิงพื้นที่ของเจ้าเก่าๆได้ หรือธุรกิจมือถือที่ Microsoft กับ Google พยายามจะเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย ผมก็ไม่เห็นเขาจะเข้าไปกระทืบพวกเจ้าบุกเบิกได้เลย โดนกระทืบกลับขาดทุนยับด้วยซ้ำ เอาแค่เจ้ารองๆอย่าง Sony ที่ตลาดมือถือหดตัวเป็นแค่มือรองๆ ยังทำกำไรได้เยอะกว่ามือถือที่ Microsoft กับ Google ทำเลยครับ ทั้งๆที่ 2 เจ้านี้เงินทุนหนากว่าเยอะแน่นอน
ก่อนอื่นต้องนิยามคำว่าผูกตลาดก่อนว่ามันคืออะไร ในมุมมองผมมันการทำอะไรก็ตามที่ไม่มีคู่แข่งหรือไม่สามารถสร้างคู่แข่งขึ้นมาได้ ผมเลยยกตัวอย่างเรื่อง รถไฟไทยที่ไม่สามารถมีการสร้างคู่แข่งทางการตลาดได้เลยเพราะตามกฏหมายไม่สามารถอนุญาตทำได้ หรือพวกธุรกิจประเภทเดียวกันหลายยี่ห้อแต่มีเจ้าของเป็นคนเดียวกันอันนี้ก็เรียกผูกตลาด แต่ถ้าเป็น CP ผมว่ามันคือการครองตลาดมากกว่าคือเป็นเบอร์ 1 ที่เบอร์ 2 ตามมาหลายช่วงตัว
เทียบกับไอดอลในไทยก็ต้อง BNK48 ทุกคนรู้จักแน่นอน แต่ถ้าพูดถึง Sweat 16! , CM Cafe , Siam Dream จะมีคนรู้จักกี่คนทั้งๆพวกนี้ก็เป็นไอดอลในไทยที่เกิดมาใกล้ๆกับ BNK48 เหมือนกัน ดังนั้น BNK48 = CP คือครองตลาดไอดอลอยู่แต่ก็ไม่ถึงกับผูกขาด เพราะยังมีคู่แข่งทียังแชร์ตลาดส่วนนี้อยู่ แล้วถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันวงอื่นๆก็พร้อมจะขึ้นมาครองตลาดแทนได้เหมือนกันครับ
ก็เข้าใจที่พูดอ่ะนะ แต่อย่าเอา CP ไปเทียบกับ Google / Microsoft เลย สองยักษ์ใหญ่นั่นยังมีผลงานบุกเบิกตลาดที่ยังไม่มีใครเคยทำมาก่อน สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ อะไรมาเยอะแยะ

แต่ CP คือไม่รับความเสี่ยงของการบุกเบิกตลาดใหม่เลย รอดูจนเห็นว่ามีคนทำแล้วเวิร์คถึงค่อยเข้ามาแข่ง คุณเคยเห็นนวัตกรรมใหม่ ๆ อะไรจาก CP บ้างไหมล่ะ ?
อย่าบอกว่าธุรกิจการเกษตรจะให้สร้างนวัตกรรมอะไรนะ !  ไม่งั้นไปดูมอนซานโต้ของสหรัฐก็ได้ว่าสร้างอะไรขึ้นมาบ้าง นั่นก็ธุรกิจเกษตรเหมือนกัน
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Lucifer216, maotrade, pol และมีอีก 0 หมีที่ถูกใจสิ่งนี้

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก