ตอนนี้ผมคิดคาร์แรคเตอร์ตัวละครได้ตัวนึงครับ...
ลักษณะทางกายภาพเป็นผู้หญิงวัยกลางคน ผมขาวสั้นหยิกดัดลอน(เหตุที่ผมขาวเพราะโดนผึ้งต่อยตอนพักร้อนเที่ยวป่าป่าตอนอายุ 30 ต้นๆแล้วเกิดผลข้างเคียงทำให้หัวหงอกทั้งหัวก่อนวัย)
อายุ 53 ปี. สูง 188 ซม.
หน้าที่การงานเป็นผู้ว่าการรถไฟหมู่เกาะซีน่า ซึ่งเป็นหมู่เกาะที่มีขนาดประมาณ 2.5 ใน3 ของประเทศไทย โดยเธอเป็นผู้ว่ามาตั้งแต่อายุ 40 ปี(พศ.2550 วาระละ 4 ปีก็จริง แต่สมัยไม่จำกัด เลือกได้เรื่อยๆตราบที่อายุยังไม่60) การบริหารของเธอนั้นตั้งแต่มาดำรงตำแหน่งก็สร้างผลงานไว้ดีมาก เช่น...
พศ.2550 สร้างทางคู่จากเดิมไกลจากรัศมีต้นรางแค่ 150 กม. ก็ขยายยาวไปจรดปลายราง พร้อมทั้งอัพสถานีต่างๆให้เป็นชานชาลาสูง ยกระดับเป็นทางแบบBTS ในโซนที่ผ่านตัวเมือง-ตัวจังหวัด โดยจุดที่ยกระดับก็จะมีการติดระบบไฟฟ้าที่รางด้วย
รวมระยะทางประมาณ575 กม.(สายตะวันออก) และ 600 กม.(สายตะวันตก)
เสร็จสิ้นประมาณต้นปี พศ.2556 พศ.2551 สั่งซื้อรถดีเซลรางรุ่นใหม่(แบบไฮบริด รับไฟฟ้าจากราง)มาลงวิ่งรถด่วนที่เดิมมีแต่รถนั่งชั้นสามพัดลม-ชั้นสองปรับอากาศ และทำความเร็วได้แค่ 105 กม/ชม แต่รถรุ่นใหม่นี้วิ่งได้ 120 กม/ชม เป็นรถนั่งเบาะเอน 48 ที่นั่ง/คัน 6 ตู้/ขบวน
ได้รับการส่งมอบครบทุกขบวนตอนกลางปี พศ.2552พศ.2553 ทยอยปรับปรุงรถโดยสารประเภทต่างๆ(รถพ่วง)เป็นรถแอร์ พร้อมทั้งยกเลิกรถชั้นสามในรถด่วนทุกขบวน ในขณะเดียวกันก็มีการสั่งซื้อรถไฟไฮบริดอีกแบบ เป็นแบบเบาะคู่ฝั่ง-เดี่ยวฝั่ง 33 ที่นั่ง/คัน พ่วง 6 ตู้/ขบวนเพื่อเอามาเปิดเดินรถด่วนพิเศษในปีหน้า
และปีเดียวกันนี้ยังสร้างสถานีในเมืองหลวงแยกเป็นสถานีสำหรับรถสินค้า แต่ก็มีรถไฟโดยสารบางส่วนเข้า-ออกด้วยเช่นกัน
พศ.2554 หลังได้รถไฮบริดขบวนแรกก็เปิดเดินรถด่วนพิเศษ จอดเพียง 6 สถานี(รวมต้นทาง-ปลายทาง) ในระยะทางร่วมๆครึ่งพันกิโลเมตร ให้บริการด้วยความเร็ว 160 กม/ชม ค่าโดยสารตามระยะคือ 300-500-650-800-950-1,200 บาท(ยกเว้นช่วงเสาร์ อาทิตย์ ปีใหม่ จะลดราคาระยะละ 100 บาทช่วงกลางทาง และระยะปลายทางเก็บแค่ 1,000 บาท)
และช่วงนี้เอง(อดีต)รถร้อนที่เอาไปติดแอร์ก็ได้ทยอยออกมาวิ่งแล้ว โดยรถ บชทป ใช้สีเหลือง(เดิมสีขาว-น้ำเงิน)+เปลี่ยนสีหลังคาเป็นสีขาว ส่วนรถ บชสป ใช้สีเดิมคือขาว-น้ำเงิน(ยกเว้น บชส.ควีนส์แลนด์ที่เป็นรถสแตสเลสจะใช้สีเขียว) เปลี่ยนตำแต่งประตูมาอยู่ค่อนหน้า-ค่อนหลังช่วงกลางรถ+ติดตั้งระบบเปิด-ปิด เพิ่มเบาะเป็นเบาะฝั่งนึงเบาะสามที่(ยกเว้นที่ติดประตูกับหัว-ท้ายสุด)-อีกฝั่งเบาะคู่ เปลี่ยนแต่สีหลังคาเป็นสีขาวเท่านั้น
พศ.2555 ทยอยเปิดทางคู่เพิ่มฝั่งละ 170 กม. และทางยกระดับในเมืองหลัก 1 เมือง และยังมีการสั่งซื้อรถไฟดีเซรางไฮบริดสำหรับรถด่วนรุ่นใหม่ที่ใช้ความเร็วได้ 140 กม/ชม พ่วง 7 คัน/ขบวน ส่วนชุดรถด่วนเดิมย้ายไปประจำการรถเร็ว
พศ.2556 ฟื้นฟูรถรวม(มีรถสินค้าและตู้โดยสารในขบวนเดียวกัน)ที่เคยโดนยุบเลิกไปเมื่อปี พศ.2547 ก่อนเจ๊แกมา แต่เดิมรถรวมวิ่งด้วยความเร็วต่ำ(50-70 กม/ชม) จอดทุกสถานี รถร้อนชั้นสามล้วน ป้าแกก็เอามา Modifly ใหม่เป็นใช้รถสินค้าบตญ(คล้ายๆแบบรถไฟขนทหารในสงครามโลก) พ่วงรถแอร์ บชทป.48 ที่นั่ง(ปกติรถพ่วงที่ไม่ใช่รุ่นใหม่จะมี 64 ที่นั่ง)แถมมีโซฟายืดเส้นยืดสาย(เปิดขายเป็นที่นั่งเฉพาะวันศุกร์ วันจันทร์ และช่วงปีใหม่ นอกนั้นคือถ้าเมื่อยก็มานอนราบตรงนี้เอาได้) เข้า-ออกในสถานีคลังสินค้า จอดน้อยเฉพาะสถานีใหญ่ๆวิ่งด้วยความเร็ว 90 กม/ชม
ซึ่งปีนี้เองทางคู่ก็ได้สร้างเสร็จเรียบร้อยพร้อมระบบไฟฟ้าในโซนทางยกระดับ ทางบางส่วนที่อ้อมเขาก็มีการสร้างทางใหม่ควบคู่กัน เหลือเฉพาะรถท้องถิ่นกับรถนำเที่ยว รถรวม(เพื่อไปรับสินค้าโซนนั้น)วิ่งให้บริการ
ก็ประมาณนี้ในด้านผลงาน นอกนั้นป้าแกก็ยังบริหารด้วยความเข้าใจ เพราะป้าตัวละครนี้เคยเป็นลูกค้าขาประจำรถไฟตอนเด็กๆ เส้นชีวิตแนวๆละครหลังข่าว เป็นลูกที่เกิดกับคุณชายกับแม่บ้าน บ้านใหญ่รับไม่ได้เฉดหัวไปนอกบ้านที่เมืองหลวง เลยย้ายมาต่างจังหวัดที่อำเภอเล็กๆอยู่เยี่ยงคนธรรมดา ป้าแกก็ไม่รู้ว่าเป็นลูกคนใหญ่คนโตด้วย โดยภารกิจที่ใช้รถไฟบ่อยๆคือตอนสมัยเรียนมหาลัยในตัวเมือง ต้องนั่งรถไฟไป-กลับบ้านกับตัวเมืองประจำ นั่งทุกชั้นจนผูกพันธ์แล้วสนใจในรถไฟแล้วมีแนวคิดพัฒนาเต็มหัวไปหมด จึงสมัครเข้าทำงานกับการรถไฟ แล้วไต่เต้าเป็นผู้ว่า
แต่อยากให้มีด้านเทาๆบ้าง แต่ก็นึกไม่ออกจะเขียนประมาณไหนดีให้เหมาะครับ รวมถึงหนทางการไต่เต้าด้วย แสดงความเห็นได้เต็มที่ครับ