ส่วนตัวผมยังสองจิตสองใจอยู่นะ คือฟังแล้วมีเหตุผลทั้งคู่
ฝ่ายสนับสนุนแมนซิตี้บอกว่า กฏ Financial Fairplay ไม่แฟร์ เป็นการกีดกันหน้าใหม่ที่ต้องการเข้ามาแชร์ส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจจากรายใหญ่เจ้าเดิม
ไม่ต่างกับกฏหมายเบียร์/สุรา ที่ไม่เอื้อรายย่อยให้มาแข่งกับรายใหญ่
สมมติว่าคุณรวยจากธุรกิจคมนาคม แล้วเห็นโอกาสในธุรกิจห้างสรรพสินค้า
คุณเลยไปซื้อธุรกิจห้างวาโก้ เอ๊ย ! จัสโก้ แล้วลงเงินขยายห้างให้ใหญ่โต เพิ่มสาขาจำนวนมากเพื่อแข่งกับพวกเซ็นทรัล โลตัส เดอะมอลล์ ที่เป็นรายใหญ่เจ้าเดิม ๆ
แล้วอยู่ ๆ รัฐก็เข้ามาบอกว่าคุณทำผิดกฏ เงินที่จะขยายห้างต้องมาจากกำไรของห้างเท่านั้น ห้ามนำเงินทุนจากที่อื่นมาลงทุน แม้จะเป็นเงินของเจ้าของเอง
เทา่กับอีกกี่ร้อยปี ก็ไม่มีวันที่จะมีห้างไหนมาแข่งกับเครือเซ็นทรัล โลตัส เดอะมอลล์ได้
ลดการแข่งขัน ส่งเสริมการผูกขาดของยักษ์ใหญ่ สุดท้ายผู้บริโภค/ลูกค้าเสียผลประโยชน์
ส่วนฝ่ายสนับสนุนยูฟ่าบอกว่า คุณใช้เงินเกินกว่าที่หามาได้ แถมยังตกแต่งปกปิดบัญชีอีก เป็นธุรกิจทั่วไป ขาดทุนขนาดนี้โดนฟ้องล้มละลายแล้ว
แถมตกแต่งบัญชีแบบนี้ เงินทุนนอกระบบที่ปลอมที่มาราวกับจะมีเจตนาฟอกเงินอีก มีความเสี่ยงที่รัฐจะเข้ามาตรวจสอบและลงโทษหนักสุดถึงขนาดให้ยุติการดำเนินธุรกิจต่อไปด้วยซ้ำ
นี่โดนแค่โทษปรับ แถมแบนออกจากการแข่งขันไม่กี่ปีถือว่ายูฟ่าใจดีมากแล้ว
แล้วคุณเห็นด้วยกับทางฝั่งไหนครับ ?