เอ่อ...ก็พอจะเข้าใจนะว่าหมายถึงอะไร... ถูกแล้วล่ะ มองไม่ผิดหรอก แต่คำที่ใช้อธิบายอาจจะยังไม่ตรงสักเท่าไหร่
ตามความเห็นของเรานะ? เราคิดว่าคำที่ใช้อธิบายสถานการณ์ในประเทศไทยได้ดีที่สุดก็คือคำว่า "หมกมุ่น" ล่ะ
แล้วก็ใช่ มันเกิดขึ้นแน่นอน คนไทยหมกมุ่นอยู่กับเรื่องความรักจริงๆ ไม่ได้คิดไปเองกันแน่ๆ แต่เรื่องที่คนไทยจัดงานเทศกาลตามชาวบ้านเค้าตลอดทั้งปีน่ะเป็นคนละเรื่องกัน
ถามว่ามันมาจากไหนอย่างงั้นเหรอ? อืม... ก็ไม่รู้เหมือนกัน
บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าสังคมไทยสมัยก่อนไม่ค่อยมีอะไรให้ทำนอกจากเรื่องนี้ก็ได้
แต่เรื่องหนึ่งที่เราพอจะตอบได้ก็คือเรื่องสื่อบรรเทิง บอกไปแล้วก็คงจะทำให้หดหู่กันเปล่าๆ แต่ว่า... อืม ก็เอาเถอะ
คนไทยไม่ค่อยจะขยัน ถ้าพูดให้ละเอียดก็คือไม่ค่อยจะสร้างสรรค์ พูดถึงวัฒนธรรมโดยรวมๆไม่ได้พูดถึงตัวบุคคล เกือบทุกสิ่งทุกอย่างในประเทศไทยมาจากการไหลตามน้ำกันทั้งนั้น
ทั้งเพลง ทั้งละคร อาจจะมองกันว่ามันซ้ำซาก มันน้ำเน่า แต่การใช้ความรักเป็นแกนกลางของเรื่องนั้นก็ทำให้มันขายออกได้อยู่เรื่อยๆ สื่อบรรเทิงไม่ได้เกิดมาเพราะคนทำอยากที่จะสื่ออะไรออกมา
ทางคนดูก็เป็นอย่างนั้น แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การยอมรับความบรรเทิงสำเร็จรูปเท่านั้น คนไทยยังมีปัญหาเรื่องการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงลึกด้วย เนื้อหาที่ขายดีส่วนใหญ่จะเป็นอะไรที่ตีความได้ง่าย
ไม่ต้องใช้สมองเท่าไหร่ สั้นๆก็คือคนไทยไม่ชอบอะไรซับซ้อน คนผลิตสื่อก็ไม่อยากทำอะไรซับซ้อนเหมือนกัน ได้ประโยชน์กันทั้งคู่ (อาจจะมีบางส่วนเป็นข้อยกเว้น)
อ้อ! แล้วก็เรื่อง... แยกความรักกับ Sex ออกจากกัน เอ่อ เอาจริงๆนะ คนไทยมีปัญหาเรื่องนี้กันมากก็จริงแต่ปัญหาไม่ได้อยู่แค่ที่ไทยอย่างเดียวหรอก เรื่องนี้มันเป็นปัญหาที่แพร่หลายมากๆเลยล่ะ
เราก็เข้าใจนะว่าผู้ชายลำบากเรื่องพวกนี้อยู่พอสมควร แต่ว่า... เอ่อ... หยุดแค่นี้ก่อนดีกว่า เรายังไม่ค่อยอยากโดนรุมสกรัมสักเท่าไหร่
อืม ก็น่าจะแค่นี้ล่ะนะ ยังมีอีกหลายประเด็นที่สามารถขยายเพิ่มเติมได้ก็จริง แต่วันนี้เราไม่ได้มาสอนสังคมศาสตร์หรือว่าจิตวิทยา ออกทะเลต่อไปก็คงจะไม่ดี แต่ถ้าอยากให้พูดต่อก็บอกได้นะ