ประวัตศาสตร์เป็นเรื่องของ หลักฐานกับการตีความ ใคาว่าผู้ชนะเขียนประวัติศาสตร์เป็นเรื่องไม่จริง มันก็เกือบจะจริงนั่นแหละ
ยกตัวอย่างสงคราม เวียดนาม ในมุมมองคนในภูมิภาคนี้ คนอเมริกา มันคือสิ่งผิดพลาดน่าระอาย
กับคนไทย หรือทหารผ่านศึกที่เคยไปเวียดนาม นั้นคือครั้งหนึ่งในชีวิต มันคือความภูมิใจของเขา
สมัยเรียนผมเคยเจออาจารย์ที่เป้นทหารไปรบที่เวียดนาม แกไม่เคยคิดเสียใจเลยด้วย เป็นประสปการณ์ชีวิต
เพราะเราคือ ปชต. แต่พวกนั้นคือ คอมมิวนิสต์ ไปรบเพื่อหยุด และทำลายพวกคอมมี่
หากลองมองมุมกลับกันว่าถ้า อเมริกาไม่เปิดสงครามเวียดนามนั้นจะเกิดอะไร เวียดนามใต้คงโดนกลืนไปอย่างรวดเร็วจากันนั้น
เขมรก็จะถูกถล่มอย่างง่ายดาย เพราะพวกเวียดกงไม่เสียกำลังรบไปอย่างหนักเพราะการต่อสู้กับทหารอเมริกากับทหารไทย
จากนั้นคงไม่แคล้วที่ไทยจะต้องโดนพวกคอมมิวนิสต์ในสมัยนั้น โจมตี ทั้งจากทางเขมร และ ลาว
ถ้ามองอย่างนี้แล้ว เหล่าคนไทยควรคิดไหมว่าสงครามเวียดนามเป็นเรื่องน่าอับอาย ??
ในสงครามครั้งนั้น ทหารไทยเข้าไปร่วมสงคราม ไม่ถึง 5000คนด้วยซ้ำ (ถ้าผิดแจ้งด้วย) กำลังพลที่สงไปมันมากพอจะส่งผลอะไรกับสงครามไหม
ที่ผมเห็นคือ ในสมัยนั้นเหล่าทหารไทยแม้จะมีแค่นั้น แต่สร้างวีรกรรมผลงานไว้หลายครั้งก็เท่านั้น ถ้าดูจากจำนวนแล้วทหารไทยเราก็แทบจะไม่ได้ส่ง
ผลต่อทิศทางอะไรของสงครามเลยนะ แต่ทุกวันนี้ยังมีคนบ่นกับ กล่าวหาไทยด้วยเรื่องนี้อยู่เรื่อย เพราะอะไร เพราะแค่เขาไม่ชอบใจที่ไทยเคยรวมมือกับอเมริกา ??
ถ้าครั้งนั้นอเมริกาไม่เข้ามา สุดท้ายคนที่จะต้องบ่นคงเป็นคนไทยที่ประเทศอาจต้องเปรี่ยนแปลงเป็นระบบอื่นที่ไม่เหมือนกับในปัจจุบัน ก็เป็นได้
ขอตอบในฐานะที่เป็นลูกหลานคนจีนนะครับว่า"เอ็งจะบ้าเรอะ!" ก็จริงอยู่ว่าการข่มขืน-ฆ่าที่นานกิงมันมีเรื่องของการเมืองแฝงอยู่มากมายเหลือเกิน. แต่คนญี่ปุ่นในโพสนี้พูดเหมือนกับว่ามันไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้นเลยซึ่งมันไม่ใช่แล้ว. เรื่องเท็จมันมีเสริมเข้าไปอยู่แล้วแต่ไม่ได้หมายความว่าทหารญี่ปุ่นไม่ได้ทำอะไรเลย. ถึงมันเป็นเรื่องที่ผ่านมาอีกไม่นานก็จะครบร้อยปีแต่การที่ไม่ยอมรับความจริงต่างหากที่ทำให้ประเทศจีนสามารถนำเรื่องนี้มาใช้ได้เรื่อยๆ
ผมอ่านตีตวามได้ว่า เรื่องมันโดนใส่สีตีไข่เพิ่มขึ้นไปจากความเป็นจริง แต่ก็ไม่รู้นะว่าความจริงในนิยามเขามันจะขนาดไหน