เรื่องของงานอดิเรก
ส่วนตัวแล้ว [งานอดิเรก] ผมมองว่ามันเปิดกว้างมากครับ เพราะเราจะไม่รู้ได้เลยว่าชอบทำส่งนั้นหรือไม่ ถ้าไม่ได้ทดลองทำมันก่อน
อย่างกรณีของผม เมื่อก่อนชอบเล่นเกมส์ ต่อมาชอบอ่านนิยาย แล้วก็มาถึงวันนี้ ที่ชอบวาดรูป + ทำอาหาร + เขียนนิยายพ่วงมาด้วย
ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าตัวเองจะชอบแต่งนิยาย (ฮา)
การเปลี่ยนงานอดิเรกที่ตัวเองไม่ชอบนั้น หรือความต้องบอกว่า "เราไม่อาจรู้ได้ว่าชอบหรือไม่ชอบ หากไม่ลองทำดูก่อนครับ"
ส่วนตัวแล้ว สิ่งที่ไม่ชอบทำ หากได้ลองทำดูแล้ว ถ้าไม่ชอบ มันจะหยุดทำเองโดยอัตโนมัติครับ หรือต่อให้จำเป็นต้องทำด้วยสภาวะจำยอมบางอย่าง มันจะไม่ใช่เรียกว่างานอดิเรกครับ แต่เป็น [จำเป็นต้องทำ]
อย่างกรณีของผม มันมีสองเคสที่เกิดขึ้นในตอนเป็นวัยทำงานครับ
1. เมื่อก่อนผมไม่ชอบออกกำลังกายตอนเช้า ซึ่งส่งผลให้สุขภาพแย่มาก ปัจจุบันเลยต้องวิ่งทุกเช้าก่อนมาทำงาน ซึ่งที่ทำไม่ใช่ทำในฐานะงานอดิเรก แต่ทำเพราะ [รักตัวเอง] ครับ
2. อีกเคสคือการเล่นหุ้นครับ คือเมื่อก่อนผมไม่สนใจหุ้น ไม่สนใจการลงทุนเลย จนกระทั้งโดนทางบ้านบ่นว่าให้เอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่มันหาเงินได้ เลยเจียดเวลามาลงกับหุ้น
แน่นอนว่าตอนแรกผมก็ไม่ชอบครับ แต่พอมองภาพรวมไปจนถึงอนาคต ก็พบว่ามันจำเป็นกับชีวิต สุดท้ายเลยเริ่มศึกษาและเริ่มลงทุนจนมาถึงทุกวันนี้
ถามว่ามันคืองานอดิเรกไหม ? ซึ่งมันก็ไม่ใช่ครับ ที่ผมเล่นหุ้นนี้มันก็เหมือนกับออกกำลังกายตอนเช้า คือทำเพราะอยู่ในสภาวะจำเป็นที่ควรทำนั่นละครับ
สรุปคือผมมองว่างาน [อดิเรก] ก็คืองานอดิเรก ส่วนสิ่งที่ำทเพื่อให้ประโยชน์ตัวเอง ก็คือทำเพราะ [มันจำเป็น] แต่ถ้าหากว่างาน [อดิเรก] ที่เราทำมันให้ประโยชน์กับตัวเองได้ ก็ถือว่า win-win ครับ