ที่บอกว่าพระยาอุ้ยมีพรสวรรค์สูงมากเพราะว่า ฮ่องเต้ฝึกมวยมาหลายปีแต่อุ้ยมันฝึกไม่กี่เดือนฝีมือพอๆกัน แล้วตอนสู้กับอ๋าวป้ายโดนอุ้ยลอบกัดยังยอกเลยว่ายอดฝีมือโจมตี มันฝึกไม่นานเองนะนั่น แต่จุดเด่นสุดๆของอุ้ยมีอยู่สามอย่างครับ 1 ไม่เลือกวิธีมันไม่เคยอายเลยนะที่จะลอบกัด-วางยา-ติดสินบนฯลฯ 2 หัวไวมากๆแต่มันขี้เกียจอย่างแรง 3 ดวงนี่อยู่ระดับEX+++เลยมั๊ง? ถ้าเทียบกับเฉียวฟงนี่ สมองค่อนข้างดี ฝีมือดีมากแต่ดวงนี่ แลนเซอร์ขัดๆ ถ้าอุ้ยไปอยู่ในแปดเทพฯไม่เป็นตัวโจ๊กก็บอสลับละงานนี้ ถ้าเป็นบอสนี่พวกพระเอกตายยังไม่รู้เลยว่าตายเพราะอะไร?-ตายตอนไหนก็ไม่รู้
ท่านพูดขึ้นมาผมก็พึ่งสังเกต แต่ขันทีไฮ่บอกว่า ไทเฮาไม่ได้ตั้งใจฝึกคังซีจริงจังนี่ครับ?
แต่ในเรื่องก็กำหนดให้คังซีนั้นอัจฉริยะจริงๆตามประวัติศาสตร์ เลยไม่ค่อยมีใครโวยเท่าไรว่าทำไมฮ่องเต้เด็กนี่เทพแท้ ปราบแม่ทัพสถาปนาแผ่นดินได้ตั้งแต่หัวเท่ากำปั้น
ความสามารถทางการเมืองและแผนการก็ทำเอาตั้งกึงน้ำอึ้งไปเลย
และอย่างที่ท่านว่าล่ะครับ อุ้ยเสี่ยวป้อนี่เห็นอย่างนั้นมันรบเก่งจริง เพราะเอาสิ่งที่ตนเองไม่ถนัดเช่น การบัญชาการให้คนอื่นทำ ส่วนตนเองทำสิ่งที่ถนัด เช่น หลอกลวงศัตรู หาแผนพิลึก ใช้คนได้ถูกงานฯลฯ
อุ้ยในแปดเทพผมคิดได้ประมาณว่า อุ้ยไปบวชเลยไปติดสอยห้อยตามหลวงจีนชุดเทาหรือเป็นเพื่อนกับซีจู้น่ะครับ
พูดถึงตัวร้ายผมชอบแบบเคฟก้านะครับ ดูมีเสน่ห์ในตัวมันเองดี
จากเรื่องอะไรเอ่ย?
ถ้าไม่ได้เขียนแนวเรียล(สมจริง)มากๆ
ผมว่าไม่ต้องสนใจพวก ซู มากก็ได้
*อย่างน้อยคือ แต่ละอย่างเกิดขึ้นแบบ ไม่"เกินไป" จนดูเหมือนกำปั้นทุบดิน
พวก ซู ทั้งหลาย
เก่งไป ฉลาดไป โชคดีเกินไป บังเอิญเกินไป ฯลฯ
อ่อนไป โง่เกินไป ซวยเกินไป ผิดเวลาเกินไป ฯลฯ
ถ้าไม่ได้เน้นเรียล พวกนี้เป็นสิ่งจำเป็นในแนวอื่นเกือบทุกเรื่อง คาแรคเตอร์แปลกๆ การเจอเหตุการณ์ดีหรือซวยสุดๆ ฯลฯ
พวก ซู ทั้งหลาย เป็นของปราบเซียน ที่พวกนักวิจารณ์ใช้กัน จนโดนจิกกัดว่า ถ้าเกลียดหรือจะด่างานใด แต่หาจุดด่าไม่ได้ ให้ใช้ ซู เป็นต้นเพลิง
ก็นั่นล่ะครับ พระเอกส่วนใหญ่มักจะมีความซูไม่มากก็น้อยเพื่ออธิบายว่าทำไมถึงสามารถสู้กับคนที่ฝึกวิชามาก่อนตนเองตั้งหลายปีได้
ซูก็เป็นเหตุที่ทำให้นักวิจารณ์ตำหนิได้เช่นกัน
ปกติแล้วผมจะคิดว่าทุกตัวละครมีชื่อที่เห็นในเรื่องคือคนพิเศษของจักรวาลนั้น และ ตัวละครหลัก คือคนพิเศษในคนพิเศษ ที่ไม่สามารถวัดได้ด้วยมาตรฐานธรรมดาน่ะครับ
ตัวร้ายมันก็มีหลายระดับนะ เรื่องที่ดีควรมีระดับตัวร้ายที่ชัดเจน ส่วนแมรี่ซูนี่ลำบากแฮะ มองไม่เหมือนคนอื่น เพราะกระแสพระเอก โกง เก่งแต่เกิด อภิมหาโคตรเทพเกิดใหม่ ส่วนตัวคิดว่ายังไงตัวเอกก็แมรี่ซูมากกว่า เพราะตัวร้ายต้องสมเหตุสมผลในระดับนึง(เพื่อหลีกเลียงการโดนด่าว่าเป็นซูนั่นละ) ยิ่งใหญ่อยู่ก่อนรอพระเอกมาล้ม (หายากที่จะเจอตัวร้ายที่เกิดหลังพระเอกแต่ซูกว่าพระเอก)
อนึ่ง ซูนี่วัดจากความไม่สมเหตุสมผลด้วยนะ (ดังนั้นตัวร้ายที่ครองพลังมาหมื่นปีจะเก่งกล้ามากต้องรุมทั้งกองทัพก็ไม่ได้ซูอะไร เพราะมีเหตุผลอายุหมื่นปีมารองรับ)
แถมรู้สึกคนส่วนมากชอบพระเอกซูนา แต่ต้องมีเงื่อนไข ข้อจำกัด เพื่อความลุ้น(แต่ถ้าเป็นแนว กาว ก็ลืมทุกอย่างไปได้เลย)
ส่วนเรื่องเกิดใหม่เป็นตัวร้าย... จริงๆแล้วรากฐานน่าจะมาจากท่านเรย์กะนี่ละ(คือหลังเรื่องนี้แล้วแนวนี้ก็ออกมาเยอะเลย แต่ไม่ได้ตามเช็คจริงจังนะ) คือคอนเซ็ป โอโตเมะเกมนี่ตัวร้าย(นางอิจฉา) นี่ดีทุกอย่างยกเว้นวีนแตกจนตัวเองวอดวาย ประเด็นคือถ้าเธอไม่วีนแตกเธอจะมีชีวิตแสนสุขเลยไม่ใช่รึเป็นชีวิตในฝันของสาวๆเลย แต่เพื่อความสนุกเนื้อเรื่องจึงดำเนินเปรียบเทียบระหว่างของจริงกับโอโตเมะเกม(ทำลายแฟล็กเพื่อชีวิตแสนสุข)
ทีนี้พอแนวนี้ดังแล้วก็ลามไปแฟนตาซี ตัวเอกเกิดเป็นตัวร้ายแต่คุณธรรมอยู่ครบ แย่งซีนพระเอกเยอะๆมันก็เป็นพระเอกเอง เป็นดารค์ฮีโร่ เท่ห์กว่าพระเอกปกติ ประมาณนั้น
ก็นั่นล่ะครับ ตัวร้ายยิ่งใหญ่มาก่อนรอพระเอกมาล้ม ฝึกมามากกว่า แต่พอกลับชาติมาเกิดใหม่ก็โกงขึ้นไปอีกทั้งที่พรสวรรค์ของตนติดท็อปของเรื่องอยู่แล้วยังมีข้อได้เปรียบที่รู้อนาคตอีก
เช่น อาวเอี้ยงฮงมังกรหยก ได้จังหวะหลังจากที่เก่งอยู่แล้วก็ไปขโมยฝึกวิชาเก้าอิมจากสุสานโบราณและเก้าเอี้ยงจากเส้าหลิน....
มันคือการผสมระหว่างอัจฉริยะระดับต้นๆของจักรวาลนั้นกับโอกาสที่ปกติไม่สามารถทำได้แต่ก็คว้าโอกาสนั้นมาได้เพราะเกิดใหม่
แล้วกรณีตัวร้ายโอโตเมะเกมนี่....ไม่ต้องไปไกลถึงโอโตเมะเกมหรอกครับ แค่ละครไทยก็ไม่ต่างกัน ตัวร้าย นางแบบ สาวเชื้อเจ้า เศรษฐีเพื่อนกับตระกูลพระเอกฯลฯ ผมมองว่าสัญชาตญาณพื้นฐานและความต้องการของลูกค้าผู้หญิงไม่ว่าชาติไหนก็เหมือนกัน คือ สวย รวย สถานะทางสังคมสูง
คงจะอัดอั้นที่ตัวเอกต้องกำหนดให้สถานะต่ำต้อยกว่าและตนเองต้องประพฤติตัวเป็นคนดีเพื่อเอาชนะใจทุกคน
ด้านมืดเข้าได้ง่ายกว่าด้านสว่างอยู่แล้วครับ ตอบสนองความปรารถนาของตนเองได้ตั้งแต่เริ่มเลย ไม่ต้องคอยตอนจบของเรื่อง
ความจริงเกิดใหม่เป็นดาร์คฮีโร่ก็ไม่จำต้องดาร์คก็ได้ หากย้อนกลับไปตั้งแต่ต้นเรื่องเลย เช่นสมมติว่าเป็นซาสึเกะจากนารุโตะ ก็มีพรสวรรค์อันดับสองของห้องรองจากซากุระอยู่แล้ว และรู้วิธีการฝึกของแยกเงาพันร่างกับการผนึกจักระ ก็ไปทำดีกับนารุโตะ ขอเรียนวิชาผนึกจักระจากยาโมโตะ ก็สามารถขอยืมจักระจากนารุโตะ เอามาใช้ในการฝึกด้วยแยกเงาพันร่างได้ ไม่จำเป็นต้องเข้า ด้านมืด หรือเป็นดาร์คฮีโร่เลยแม้แต่น้อย
อย่างเรื่อง เดธแฟล็กนั่น คยเขียนต้องมีเงื่อนไขบังคับว่า พูดได้แต่เรื่องไม่ดีเท่านั้น แต่ผมไปอ่านบอร์ดหนึ่งมา มีคน[
วิเคราะห์ว่า ฮาโรลนี่มันโกงนะเพราะนึกภาพเกม เราต้องมีปาร์ตี้ และถ้าเป็นบอส เท่ากับว่าฮาโรลสู้กับปาร์ตี้ของพระเอกได้อย่างสูสีตั้งแต่ต้นยันจบเรื่อง หากวิเคราะห์ตามเนื้อเรื่องแล้วเท่ากับว่ามีพรสวรรค์ในการพัฒนาเท่ากับพระเอกทั้งทีมรวมกัน
ตัวร้ายที่ดี มันไม่ใช่ร้ายไปหมดทุกอย่าง แบบนั้นเป็นตัวร้ายแบบยุคเก่า
มันต้องมี BK ให้กับแนวคิด ต้องมีความสมเหตุผลให้ลุ้น ในบางครั้งให้คนลุ้นให้ตัวร้ายชนะมากกว่าพระเอก
มันจะทำให้คนติดตามมากกว่า
การเดินเรื่อง พระเอกผู้ร้าย ก็เหมือนไม้ผลัดกัน เรื่องถึงมีมิติ หากอ้างด้านเดียว ก็ไม่ต่างจากแนวผู้กล้าปราบจอมมารเท่าไหร่
ที่พูดมาทั้งเรื่อง มาโผล่ตอนจบให้พระเอกเชือดทีเดียวจบ
นั่นล่ะครับ ตัวร้ายที่ดีรือตัวกำหนดเรื่อง อย่างดาร์ธเวเดอร์ ทำให้สตาวอส์เป็นสตาวอส์ถึงทุกวันนี้