แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: อยากรู้แฮะเด็กที่โตมากับเกมแนวชากาอนาคตจะเป็นยังไง  (อ่าน 3511 ครั้ง)

ออฟไลน์ Panzerelite

  • ยอดขุนพลหมี
  • *****
  • กระทู้: 6,337
  • ถูกใจแล้ว: 2070 ครั้ง
  • ความนิยม: +160/-1071
  • เพศ: ชาย
  • ขอเทพแมวจงสถิตอยู่กับท่าน
เราก็ยอมรับนะว่าเกมเป็นสื่อที่มีผลกระทบต่อเด็กพอสมควร อย่างรุ่นเราๆก็คือเกมออนไลย์ แรกๆนี้เกมออนไลย์จะไม่มีตัวช่วยอะไรมากแบบแรค แต่ยุคหลังๆนี้มีแม้แต่บอทในเกม เป้นตัวช่วย คนเจนYหลายคนจะเป้นพวกความอดทนต่ำ(นั่งปั้มเวลเป็นวันๆไม่ไหว) ชอบทางลัด(ขี้เกียจเล่นมากซื้อไอดีแม่ม ไม่ก็ซื้อของเทพทรู) ไม่แปลกใจเลยคนสมัยนี้เป้นเหยื่อพวกMLM หรือแม้แต่นโยบายรัฐบ้างอย่างที่ เอื้อประโยชย์ให้กับกลุ่มนายทุนเยอะ เช่น Start up เพราะคนรุ่นใหม่หวังแต่รวยเร็ว โดยไม่คำนึงถึงความเป็นไปได้ทางธุรกิจ

เกมสมัยนี้นิยมมากคือ
1.MOBA ซึ่งจริงๆสร้างมาเพื่อสนองกับคนเจนYมากกว่า เก่งได้ในตาเดียว มีสูตรสำเร็จชัดเจนว่าต้องอัพของอะไร ที่เหลือก็อยู่ที่การควบคุมตัวละคร จังหวะรุก จังหวะออกสกิลจังหวะถอย
2.FPS มันก็ยังมีและเป็นของตายไปแล้วแต่ ส่วนใหญ่ถ้าเกมดีจริงๆก็มักเสียตัง อย่างCSGO หรือPUB เกมไหนที่เป็นF2P จริงๆก็ยังมีระบบเทพทรูอยู่ดี (ยกเว้นพวกเกมสงครามโลกทั้งหลาย อันนั้นอยู่ที่ฝีมือกับความเมตตาของDEVมากกว่า เช่นwarthunderบางแพทโซเวียตมันก็โกงเกิน ประวัตศาสตร์จริงๆมันท่อนไม้บินได้ชัดๆ ไม่แปลกใจพวกนักบินเยอรมันเทพๆนี้มาจากศึกฝั่งตะวันออกทั้งนั้น)

3.เกมชากา เกมส่วนใหญ่ในตลาดตอนนี้คือเกมชากาล้วน เกมทรัพยากรมันมีแต่ก็น้อยมาก แล้วเรทส่วนมากก็เกลือสุดๆ ชากานี้มันคือการพนันเลยนะ กลายเป็นว่าทุกวันนี้ โทรศัพท์มือถือเราคือ เครื่องสลอทแมทชีนที่ติดตัวไปไหนมาไหนได้ ไม่ต้องไปเวกัสแต่เวกัสสถิตอยู่ในมือถือทุกคน ซ้ำรายเกมแพรตฟอร์มหลายเกมก็เอาระบบloot boxมาใช้ ว่าเทพทรูว่าแย่เจอชากาแย่กว่า หลายเกมซื้อเกมแล้วก็ยังเจอร้านเงินจริงในเกมแถมเป็นกล่องสุ่มอีก

ยอมรับเลยว่าสื่อสมัยนี้มีแต่แย่ๆเต็มไปหมด การที่มีระบบโซเชียลเข้ามา บางทีมันทำให้เราเข้าถึงข่าวสารได้เร็วขึ้น แต่ส่วนใหญ่ไอ้พวกดีๆไม่ค่อยตามอ่านอ่านแต่พวกแย่ๆ เน็ตไอเด้าแย่ๆ เต็มไปหมด ทีวีมีช่องมากขึ้นก็กลายเป็นละครแย่ๆ ตบกัน ข่มขืนกันก็มากตามเพื่อแย่งเรตติ้งกัน บางช่องนี้มีเช้ากลางวันเย็นเลย(เปิดไปช่องสารคดีก็เจอแต่ขายของซะงั้น หุ้นTV Directพุ่งกระจาย)

แล้วสังคมก็แย่ขึ้นมาก การแข่งขันก็สูง ความเครียดก็เยอะ ประชาธิปไตยก็รอไปอีก20ปี เรียนก็ยากขึ้น จบมาตกงานอีก ธุรกิจใหม่ๆนับวันยิ่งโตยาก รายใหญ่ยิ่งผูกขาด ความเหลื่อมล้ำยิ่งมากขึ้นทุกวัน เราสงสารเด็กเจนต่อไปเลยนะ สมัยก่อนเปิดเน็ตไปยังหาเกมใหม่ๆดีๆมาเล่นได้ สมัยนี้จะซื้อเกมยังต้องคิดแล้วคิดอีก สมัยก่อนเบื่อๆก็ไปเช่าหนังดูกันได้ เช่าการ์ตูนย์อ่านได้ ซื้อC-kids อ่านได้ สมัยนี้ลงเน็ตหมดซึ่งบางมุมมันก็ดีที่เราเข้าถึงสื่อต่างๆได้ง่ายขึ้น แต่ว่าคุณภาพหละ เราไม่มีบก.มาคัดกรองแล้ว บทความต่างๆเชื่อถือได้ไหม หลอกลวงไหม นิยายต่างในเด็กดีนี้เป็นนิยายปั่นแรงค์ไหม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 14, 2017, 04:22:51 PM โดย Panzerelite »
 

ออฟไลน์ saengdaed

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,697
  • ถูกใจแล้ว: 589 ครั้ง
  • ความนิยม: +81/-119
ของผมโตมาก็กับ rpg กับ slg

เล่นแบบอ่านไม่ออกสักตัว
แต่เล่นๆ ไปก็พอเดาเนื้อเรื่องออกบ้าง
จนเดี๋ยวนี้มีเนื้อเรื่องสรุปไปตาม net ก็ ดูแล้วเทียบกับที่เล่น เดาเนื้อเรื่องได้ถูกเกือบ 100%
ส่วนความลับในเกมต่างๆ ที่เจอ บางทีใ นnet ก็ไม่มี ผมก็เลย post ลง net บ้าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 14, 2017, 04:36:56 PM โดย saengdaed »
 

ออนไลน์ Overmars

  • นักปราชญ์แห่งเขาเซนนิคุมะ
  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,230
  • ถูกใจแล้ว: 2215 ครั้ง
  • ความนิยม: +228/-225
ชีวิตย่่อมมีหนทางของมัน  : ดร.แกรนท์ - จูราสสิกพาร์ค
 

ออฟไลน์ Mr.Rick

  • นักปราชญ์แห่งเขาเซนนิคุมะ
  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,270
  • ถูกใจแล้ว: 5895 ครั้ง
  • ความนิยม: +125/-44
  • เพศ: ชาย
  • กำลังแปลอยู่ใจเย็นๆ~~
ยุคสมัยเปลี่ยน อะไรๆก็เปลี่ยนไปมาก หากยังเป็นเหมือนเดิมมันคงเป็นไปไม่ได้หรอกฮะ
กระผมเองก็คิดเหมือนกันว่าเด็กยุคใหม่จะเป็นยังไง การพัฒนามันต้องควบคู่ไปกับการควบคุมที่เข้มงวดด้วย แต่จะให้เข้มงวดมากเกินไปเดี๋ยวก็เป็นประเด็นดราม่าอีก

กระผมยอมรับเลยว่าสมัยกระผมยังเด็กๆนั้นกระผมไม่ค่อยได้เล่นเกมออนไลน์หรืือเกมคอม เกมมือถืออะไรนี่หรอกฮะ ส่วนใหญ่ก็ไปปั่นจักรยาน วิ่งไล่จับ ซ่อนแอบเอาซะมากกว่า ???
ก็เลยไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวเกมออนไลน์ยุคก่อนๆว่าเป็นยังไง แล้วเกมออนไลน์สมัยนี้กระผมเองก็ไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับมันมากซะด้วย เห็นจากที่เหล่าผองเพื่อนของกระผมเล่นกันแล้วมันดูปวดหัวชอบกล

ส่วนเรื่อง Start up นี่กระผมคิดว่ามันมีไว้เอาใจคนอยากลงทุนแต่ไม่มีงบล่ะนะฮะ เอาไอเดียไปเสนอนายทุน ถ้าเขาถูกใจเราก็ได้เงินไปลงทุน ถ้าไม่ถูกใจก็แห้วต่อไป น่าจะเป็นทางเลือกสำหรับเด็กรุ่นใหม่ที่หัวดีๆได้อยู่

ส่วนเรื่องสื่อเดี๋ยวนี้กระผมก็เห็นด้วยเหมือนกันฮะ สื่อต่างๆในโลกโซเชียลนี่ไม่รู้ว่าจะเชื่อได้จริงรึเปล่า จรรยาบรรณการเขียนข่าวไม่ค่อยจะมีกัน เขียนข่าวใส่ไข่กันมั่วเพื่อเอายอดวิว ยอดไลค์บ้างล่ะ :-X
แต่ในเรื่องความเครียดนี่เรายังถือว่าดีกว่าพนักงานเงินเดือนญี่ปุ่นอยู่รึเปล่าฮะ(?) แต่ในด้านความเจริญอะไรแล้วนี่เรายังเทียบเขาไม่ได้หรอกเนอะก็ต้องรอๆกันไป เพราะประเทศเราเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาอยู่ยังไงล่ะฮะ ;D ;D

ปล.หากไม่ถูกใจใครก็ขออภัยด้วยนะฮะ :)

ออฟไลน์ Panzerelite

  • ยอดขุนพลหมี
  • *****
  • กระทู้: 6,337
  • ถูกใจแล้ว: 2070 ครั้ง
  • ความนิยม: +160/-1071
  • เพศ: ชาย
  • ขอเทพแมวจงสถิตอยู่กับท่าน
ยุคสมัยเปลี่ยน อะไรๆก็เปลี่ยนไปมาก หากยังเป็นเหมือนเดิมมันคงเป็นไปไม่ได้หรอกฮะ
กระผมเองก็คิดเหมือนกันว่าเด็กยุคใหม่จะเป็นยังไง การพัฒนามันต้องควบคู่ไปกับการควบคุมที่เข้มงวดด้วย แต่จะให้เข้มงวดมากเกินไปเดี๋ยวก็เป็นประเด็นดราม่าอีก

กระผมยอมรับเลยว่าสมัยกระผมยังเด็กๆนั้นกระผมไม่ค่อยได้เล่นเกมออนไลน์หรืือเกมคอม เกมมือถืออะไรนี่หรอกฮะ ส่วนใหญ่ก็ไปปั่นจักรยาน วิ่งไล่จับ ซ่อนแอบเอาซะมากกว่า ???
ก็เลยไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวเกมออนไลน์ยุคก่อนๆว่าเป็นยังไง แล้วเกมออนไลน์สมัยนี้กระผมเองก็ไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับมันมากซะด้วย เห็นจากที่เหล่าผองเพื่อนของกระผมเล่นกันแล้วมันดูปวดหัวชอบกล

ส่วนเรื่อง Start up นี่กระผมคิดว่ามันมีไว้เอาใจคนอยากลงทุนแต่ไม่มีงบล่ะนะฮะ เอาไอเดียไปเสนอนายทุน ถ้าเขาถูกใจเราก็ได้เงินไปลงทุน ถ้าไม่ถูกใจก็แห้วต่อไป น่าจะเป็นทางเลือกสำหรับเด็กรุ่นใหม่ที่หัวดีๆได้อยู่

ส่วนเรื่องสื่อเดี๋ยวนี้กระผมก็เห็นด้วยเหมือนกันฮะ สื่อต่างๆในโลกโซเชียลนี่ไม่รู้ว่าจะเชื่อได้จริงรึเปล่า จรรยาบรรณการเขียนข่าวไม่ค่อยจะมีกัน เขียนข่าวใส่ไข่กันมั่วเพื่อเอายอดวิว ยอดไลค์บ้างล่ะ :-X
แต่ในเรื่องความเครียดนี่เรายังถือว่าดีกว่าพนักงานเงินเดือนญี่ปุ่นอยู่รึเปล่าฮะ(?) แต่ในด้านความเจริญอะไรแล้วนี่เรายังเทียบเขาไม่ได้หรอกเนอะก็ต้องรอๆกันไป เพราะประเทศเราเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาอยู่ยังไงล่ะฮะ ;D ;D

ปล.หากไม่ถูกใจใครก็ขออภัยด้วยนะฮะ :)


ถ้ามีเงินแล้วไปเสนอนายทุน จุดจบก็จะเป็นแบบสยามบานาน่าไงคับ  CPคาบไปแดรก



ปัญหาคือเด็กสมัยใหม่ตีความสตาทอัพหลายแบบคับ การทำธุรกิจธรรมดาหลายคนก็บอกว่าเป็นสตาร์ทอัพ ปํญหาคือประเทศนี้ชอบโปรโมทอะไรพวนี้แรงมากๆ ตามประสาของเด็กจบใหม่ทุกคนมันก็จะบ้าตามกระแสธุรกิจนั้นไป แต่ผลสรุปว่าเจ๊งกันไม่เป็นถ้า เช่นพวกร้านกาแฟ(ไปงานเกี่ยวกับธุรกิจต่างๆ พวกขายอุปกรณ์กาแฟนี้ครองเกือบครึ่งงานเลยนะ คนสมัยใหม่นี้คิดแต่ว่าถ้าจะรวยนี้ทำงานประจำมันไม่มีวันรวยแน่ๆ(ก็จริงๆ โดยเฉพาะทำแบบสุจริต ถ้าทำงานประจำแล้วรวยได้นี้มันโกงเขามาและ) แต่การทำธุรกิจมันไม่ใช่ง่ายๆ บางคนทำธุรกิจแบบเด็กเล่นขายของ สุดท้ายเจ๊งกันเป็นว่าเล่น ทุกวันนี้ปัญหาเศรษฐกิจไทยก็มาจากจุดนี้


คนสมัยนี้อยู่ยาก แข่งขันยาก แถมนับวันเครื่องจักรยิ่งเข้ามาแทนที่มนุษย์อีก เรายังคิดเลยถ้าอีก10ปี เครื่องจักรเข้ามาแทนที่มนุษย์ในงานส่วนใหญ่หมด แล้วคนส่วนใหญ่จะทำยังไง ระบบเศรษฐกิจจะเป็นยังไง คนรวย1%ที่ถือครองทรัพยากรอาจค่าขายกันเอง ส่วนคน99%ก็รอกินปักปักหรอ


 
 

ออฟไลน์ thepingman

  • นักปราชญ์แห่งเขาเซนนิคุมะ
  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,563
  • ถูกใจแล้ว: 1769 ครั้ง
  • ความนิยม: +115/-30
  • ไม่ใช่หมีสักหน่อย
ผมมองว่าชากามันเป็นวิวัฒนาการมาจาก Rare Random Drop ของเกม MMORPG ครับ

อย่าบอกนะว่าพวกคุณไม่เคยไปตบบอส RO เพื่อหาแรร์ไอเทมน่ะ ไปตบแล้วก็ต้องลุ้นว่าจะได้ของหรือเปล่าอีกทีด้วยนั่นไม่ใช่ชากาหรือครับ?

ชากามันแล้วแต่บางเกมด้วยครับ ถ้าหากกล่องเกลือมันดรอปจากมอนฯ ธรรมดาหรือจากการเล่นปกติได้อย่างงั้นมันก็ไม่ใช่พนันเพราะมันเหมือนๆ กับ drop แบบที่ว่าไปข้างบน แต่ถ้าเมื่อไหร่เอากล่องเกลือพวกนี้ไปใส่ shop แล้วใช้เงินจริงซื้อ นั่นคือพนันแล้วครับ จริงๆ ถ้าจะใส่ shop ควรใส่เป็นของชิ้นๆ ไปเลยดีกว่าแล้วคิดแพงหน่อยก็ยังได้เพราะถือว่าเป็นค่าไม่ต้องมานั่งลุ้นกล่องเกลือ แถมจะว่า Pay to Win ก็ว่าได้ไม่เต็มปากเพราะคนไม่จ่ายเลยก็หาของได้เหมือนกัน

ส่วนเรื่องจะมีอิทธิพลอะไรกับเด็กไหม มันมีปัจจัยหลายอย่างที่เรามองจากหน้าจอแบบนี้แล้วไม่เห็นอยู่นะครับ เช่นกลุ่มตัวอย่างไหน ความสามารถของกลุ่มตัวอย่างนั้นที่จะเป็นตัวแทนของประชากรทั้งประเทศเป็นเท่าไหร่? อะไรแบบนี้ เอาจริงๆ มันไม่แน่นอนและเชื่อถือได้ยากครับโดยเฉพาะเวลาบ้านเราเวลาวิจัยหรือเก็บสถิติกันแต่ละเรื่องน่ะขี้เหนียวจะตาย สำรวจออกมาอย่างเก่งก็ตัวอย่างหลักหมื่น - 5 หมื่น เทียบกับประชากร 68 ล้านคน นี่ก็แค่ 0.07% เองนะครับ คิดว่าทั้งประเทศจะเป็นแบบเดียวกับคน 0.07% ที่สำรวจหรือครับ?

ปล. ที่บอกงานประจำไม่มีทางรวย นิยามคำว่างานประจำว่ายังไงครับ? คือทำร้านกาแฟก็งานประจำ เปิดร้านอาหารร้านขายของก็งานประจำไม่ใช่เรอะ?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 14, 2017, 05:43:24 PM โดย thepingman »
นิยายหัดแต่ง เชิญจิ้มได้ครับ
http://goshujin.tk/index.php?topic=2904.0
โฮ่ง!
 

ออฟไลน์ Mr.Rick

  • นักปราชญ์แห่งเขาเซนนิคุมะ
  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,270
  • ถูกใจแล้ว: 5895 ครั้ง
  • ความนิยม: +125/-44
  • เพศ: ชาย
  • กำลังแปลอยู่ใจเย็นๆ~~
[quote/]


ถ้ามีเงินแล้วไปเสนอนายทุน จุดจบก็จะเป็นแบบสยามบานาน่าไงคับ  CPคาบไปแดรก



ปัญหาคือเด็กสมัยใหม่ตีความสตาทอัพหลายแบบคับ การทำธุรกิจธรรมดาหลายคนก็บอกว่าเป็นสตาร์ทอัพ ปํญหาคือประเทศนี้ชอบโปรโมทอะไรพวนี้แรงมากๆ ตามประสาของเด็กจบใหม่ทุกคนมันก็จะบ้าตามกระแสธุรกิจนั้นไป แต่ผลสรุปว่าเจ๊งกันไม่เป็นถ้า เช่นพวกร้านกาแฟ(ไปงานเกี่ยวกับธุรกิจต่างๆ พวกขายอุปกรณ์กาแฟนี้ครองเกือบครึ่งงานเลยนะ คนสมัยใหม่นี้คิดแต่ว่าถ้าจะรวยนี้ทำงานประจำมันไม่มีวันรวยแน่ๆ(ก็จริงๆ โดยเฉพาะทำแบบสุจริต ถ้าทำงานประจำแล้วรวยได้นี้มันโกงเขามาและ) แต่การทำธุรกิจมันไม่ใช่ง่ายๆ บางคนทำธุรกิจแบบเด็กเล่นขายของ สุดท้ายเจ๊งกันเป็นว่าเล่น ทุกวันนี้ปัญหาเศรษฐกิจไทยก็มาจากจุดนี้


คนสมัยนี้อยู่ยาก แข่งขันยาก แถมนับวันเครื่องจักรยิ่งเข้ามาแทนที่มนุษย์อีก เรายังคิดเลยถ้าอีก10ปี เครื่องจักรเข้ามาแทนที่มนุษย์ในงานส่วนใหญ่หมด แล้วคนส่วนใหญ่จะทำยังไง ระบบเศรษฐกิจจะเป็นยังไง คนรวย1%ที่ถือครองทรัพยากรอาจค่าขายกันเอง ส่วนคน99%ก็รอกินปักปักหรอ


  
ประเด็นที่ว่าเครื่องจักรเข้ามาแทนที่มนนุษย์นั้นผมว่าก็น่าคิดนะฮะ
เครื่องจักรได้มีการพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆแล้วก็ค่อยๆเข้ามามีบทบาทในชีวิตของคนเรามากขึ้น แล้วถ้าถามว่ามันจะทำให้คนตกงานไหม กระผมตอบได้เลยว่าแน่นอนนะฮะ

แล้วเรื่องแบบนี้มันก็มีมาตั้งนานแล้วล่ะฮะ ที่เทคโนโลยีทำให้คนตกงาน แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอกนะฮะ พออาชีพหายไปหนึ่ง เดี๋ยวก็ต้องมีเพิ่มอีกหนึ่งอยู่ดี ให้มันสมดุลกับความต้องการและการพัฒนาของเทคโนโลยีล่ะนะฮะ
พอผ่านไปสักพัก เหล่าคนทำงานเริ่มหาอาชีพทำกันได้ มันก็จะมีเทคโนโลยีใหม่ๆออกมาทำให้ผู้คนตกงานอีกนั่นแหละฮะ ในมุมมองของกระผมแล้วมันก็วนลูปอย่างนี้ไปเรื่อยๆแหละฮะ

แล้วก็ใช่ว่ามันจะมีแต่ข้อเสียนะฮะ ข้อดีของการพัฒนาก็มีอยู่เหมือนกัน อย่างอุตสาหกรรมการทอผ้านั้น  ในสมัยก่อนนู้นนนน เสื้อผ้านั้นมีราคาที่แพงมากๆแน่นอนอยู่แล้วใช่ไหมล่ะฮะ เนื่องมาจากความยุ่งยากในการจัดการเรื่องเส้นด้าย การทอผ้า ถักเสื้ออะไรพวกนี้ก็ต้องใช้ฝีมือคนทั้งนั้น แต่พอมีเครื่องทอผ้าเข้ามา ก็มีเสื้อผ้าราคาถูกออกมามากขึ้น จนคนธรรมดาทั่วไปก็สามารถหาเสื้อผ้าดีๆใส่ได้ในราคาที่เอาไหว แล้วก็มีอีกหลายๆเรื่องเลยแหละฮะ :-X


ออฟไลน์ tangmokou

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 319
  • ถูกใจแล้ว: 154 ครั้ง
  • ความนิยม: +14/-6
มันก็ปรับตัวกันไปผมเชื่อว่าต่อไปยังมีสิ่งใหม่ๆเข้ามาอีกสำคัญคือคนรอบตัวจะสอนให้พวกเขาอยู่กับมันยังไงไม่ใช่ให้เขาอยู่ลำพังแล้วโทษว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้มอมเมาพวกเขา
 

ออฟไลน์ Panzerelite

  • ยอดขุนพลหมี
  • *****
  • กระทู้: 6,337
  • ถูกใจแล้ว: 2070 ครั้ง
  • ความนิยม: +160/-1071
  • เพศ: ชาย
  • ขอเทพแมวจงสถิตอยู่กับท่าน
[quote/]ประเด็นที่ว่าเครื่องจักรเข้ามาแทนที่มนนุษย์นั้นผมว่าก็น่าคิดนะฮะ
เครื่องจักรได้มีการพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆแล้วก็ค่อยๆเข้ามามีบทบาทในชีวิตของคนเรามากขึ้น แล้วถ้าถามว่ามันจะทำให้คนตกงานไหม กระผมตอบได้เลยว่าแน่นอนนะฮะ

แล้วเรื่องแบบนี้มันก็มีมาตั้งนานแล้วล่ะฮะ ที่เทคโนโลยีทำให้คนตกงาน แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอกนะฮะ พออาชีพหายไปหนึ่ง เดี๋ยวก็ต้องมีเพิ่มอีกหนึ่งอยู่ดี ให้มันสมดุลกับความต้องการและการพัฒนาของเทคโนโลยีล่ะนะฮะ
พอผ่านไปสักพัก เหล่าคนทำงานเริ่มหาอาชีพทำกันได้ มันก็จะมีเทคโนโลยีใหม่ๆออกมาทำให้ผู้คนตกงานอีกนั่นแหละฮะ ในมุมมองของกระผมแล้วมันก็วนลูปอย่างนี้ไปเรื่อยๆแหละฮะ

แล้วก็ใช่ว่ามันจะมีแต่ข้อเสียนะฮะ ข้อดีของการพัฒนาก็มีอยู่เหมือนกัน อย่างอุตสาหกรรมการทอผ้านั้น  ในสมัยก่อนนู้นนนน เสื้อผ้านั้นมีราคาที่แพงมากๆแน่นอนอยู่แล้วใช่ไหมล่ะฮะ เนื่องมาจากความยุ่งยากในการจัดการเรื่องเส้นด้าย การทอผ้า ถักเสื้ออะไรพวกนี้ก็ต้องใช้ฝีมือคนทั้งนั้น แต่พอมีเครื่องทอผ้าเข้ามา ก็มีเสื้อผ้าราคาถูกออกมามากขึ้น จนคนธรรมดาทั่วไปก็สามารถหาเสื้อผ้าดีๆใส่ได้ในราคาที่เอาไหว แล้วก็มีอีกหลายๆเรื่องเลยแหละฮะ :-X




มันต่างกันนะสมัยก่อน ตอนที่ผลิตเครื่องทอผ้าได้ อาชีพทอผ้าก็หายไป แต่ทุกอย่างก็ไม่ใช้ว่าจะใช้เครื่องจักรทำได้หมด  ผลิตผ้าได้ แต่การตัดเย็บต่างๆก็ต้องใช้คนอยู่ดี ทุกวันนี้โรงงานรองเท้าต่างๆ ก็ยังใช้คนทั้งนั้น ในการตัดเย็บ


แต่หุ่นยนต์นี้มันต่างกันคับ อาจจะเหลือคนคุมแค่คนเดียวหรือไม่เหลือเลยเพราะAI คุมแทน เครื่องเสียก็มีโดรนไปซ่อม แล้วเครื่องจักรก็จะทำงานในส่วนของมนุษย์ทุกขั้นตอนหรือต่อให้ต้องใช้มือจริงๆก็มีแขนกลทำ งานวิเคราะห์ต่างๆนี้ใช้โปรแกรมเอาง่ายๆ อยากได้เอการอะไรก็ปริ้นเอา


แม้แต่โรงเรียนเองอาจจะไม่จำเป็นเลย เพราะเราสามารถหาข้อมูลต่างๆได้บนอินเตอร์เน็ต ทำไว้ครั้งเดียวอยู่อีกเป็น100ปี ผมเชื่อนะอาจไม่ใช่10หรือ20ปี อาจะ50-60ปี ปานนั้นผมคงเป็นคุณตาแก่ๆไปแล้ว การจ้างงานอาจเหลือแค่5% และเป็นงานแบบครั้งคราวด้วยแบบเคสที่ไม่สามารถให้หุ่นยนต์มาแก้ไขปัญหาได้จริงๆ หรืองานวิจัยและพัฒนา จริงๆแค่การจ้างงานหายไปซัก30-40%ก็น่ากลัวแล้ว ถ้าแรงงานระดับล่าง กลาง ไม่มีงานทำหมดจะเกิดอะไรขึ้น สงครามกลางเมืองเปลี่ยนเป็นคอมมิวนิศมันมีแน่นอน แล้วจะเป็นสงครามที่สุญเสียมากๆ เพราะเราจะได้สู้กับกองทัพโดรนที่ไม่มีคำว่าพลาด จากกลุ่มผู้มีอำนาจในขณะนั้นที่พยายามปกป้องสถานะของตัวเอง และถ้าฝ่ายนั้นชนะ ก็อย่างว่าคับ คน99%ก็กินปักปักกันต่อไป
 

ออฟไลน์ nosta

  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 2,522
  • ถูกใจแล้ว: 1150 ครั้ง
  • ความนิยม: +106/-145
เรื่องคนตกงานหมดเพราะหุ่นไม่น่าเป็นไปได้อย่างน้อยก็ในอนาคตอันไกล้ คิดดูว่า งานในอดีตถูกเครื่องจักรแทนได้มากขนาดไหน ทั้งการเกษตร เหมืองแร่ อุตสาหกรรม ต่างไช้เครื่องจักรช่วยได้หมด แต่คนก็ย้ายไปทำงานภาคบริการแทน เพราะความต้องการของคนม้นไม่มีที่สิ้นสุด ต่อไห้เราทำงานได้มีประสิทธิภาพมากแค่ไหนแต่ความต้องการก็ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  หุ่นยนต์และเครื่องจักรก็มีมานานแล้ว แต่อัตราการตกงานของคนก็ไม่ได้อิงกับอัตราการไช้หุ่นยนต์ 


https://en.m.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_unemployment_rate


ประเทศที่คนตกงานเยอะกลับเป็นประเทศที่ล้าหลังไช้หุ่นยนต์และเครื่งจักรน้อยมาก การว่างงานมันเกิดจากปัญหาเศรษฐกิจ ความสามารถในการแข่งขัน และ ค่าแรงขั้นต่ำมากกว่า


คนรุ่นหลังน่าจะสบายกว่าเราเยอะครับ เหมือนเราสบายกว่าคนรุ่นก่อนมาก อาจจะยกเว้นถ้าเกิดสงครามโลกก็อีกเรื่อง คนรุ่นหลังยังมีงานไห้ทำอีกเยอะ เพราะต่อไห้เป็นหุ่นก็ยากจะสนองความต้องการมนุษย์ได้หมด ถ้าแต่ละคนอยากไช้ชีวิตเศรษฐี มีรถ มีบ้านหลังใหญ่ เครื่องบิน เรือยอร์ช แถมเปลี่ยนทุกเดือน เปลี่ยนมือถือ เปลี่ยนคอมทุกเดือน หุ่นที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นก็จะสนองความต้องการของมนุษย์ได้มากขึ้น ก็จะทำงานแทนเรา และเราต้องทำงานดูแลหุ่นแทน ทำการวิจัย หาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆมาสนองมนุษย์ ส่วนถ้าหุ่นมันฉลาดเท่าเรามันทำทุกอย่างที่เราทำได้หมด ก็ไม่มีเหตุผลใดๆที่มันต้องร้บใช้เรา
 

ออนไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 13,082
  • ถูกใจแล้ว: 5304 ครั้ง
  • ความนิยม: +445/-445
[quote/]


มันต่างกันนะสมัยก่อน ตอนที่ผลิตเครื่องทอผ้าได้ อาชีพทอผ้าก็หายไป แต่ทุกอย่างก็ไม่ใช้ว่าจะใช้เครื่องจักรทำได้หมด  ผลิตผ้าได้ แต่การตัดเย็บต่างๆก็ต้องใช้คนอยู่ดี ทุกวันนี้โรงงานรองเท้าต่างๆ ก็ยังใช้คนทั้งนั้น ในการตัดเย็บ


แต่หุ่นยนต์นี้มันต่างกันคับ อาจจะเหลือคนคุมแค่คนเดียวหรือไม่เหลือเลยเพราะAI คุมแทน เครื่องเสียก็มีโดรนไปซ่อม แล้วเครื่องจักรก็จะทำงานในส่วนของมนุษย์ทุกขั้นตอนหรือต่อให้ต้องใช้มือจริงๆก็มีแขนกลทำ งานวิเคราะห์ต่างๆนี้ใช้โปรแกรมเอาง่ายๆ อยากได้เอการอะไรก็ปริ้นเอา


แม้แต่โรงเรียนเองอาจจะไม่จำเป็นเลย เพราะเราสามารถหาข้อมูลต่างๆได้บนอินเตอร์เน็ต ทำไว้ครั้งเดียวอยู่อีกเป็น100ปี ผมเชื่อนะอาจไม่ใช่10หรือ20ปี อาจะ50-60ปี ปานนั้นผมคงเป็นคุณตาแก่ๆไปแล้ว การจ้างงานอาจเหลือแค่5% และเป็นงานแบบครั้งคราวด้วยแบบเคสที่ไม่สามารถให้หุ่นยนต์มาแก้ไขปัญหาได้จริงๆ หรืองานวิจัยและพัฒนา จริงๆแค่การจ้างงานหายไปซัก30-40%ก็น่ากลัวแล้ว ถ้าแรงงานระดับล่าง กลาง ไม่มีงานทำหมดจะเกิดอะไรขึ้น สงครามกลางเมืองเปลี่ยนเป็นคอมมิวนิศมันมีแน่นอน แล้วจะเป็นสงครามที่สุญเสียมากๆ เพราะเราจะได้สู้กับกองทัพโดรนที่ไม่มีคำว่าพลาด จากกลุ่มผู้มีอำนาจในขณะนั้นที่พยายามปกป้องสถานะของตัวเอง และถ้าฝ่ายนั้นชนะ ก็อย่างว่าคับ คน99%ก็กินปักปักกันต่อไป


ตามนั้นแหละครับ เคยมีกรณีตัวอย่างให้เห็นในเมืองนอกที่เอาแผนกวิเคราะห์ข้อมูลบางอย่าง ออกไปทั้งแผนกแล้วใช้คอมพิวเตอร์ในกระประมวลผลวิเคราะห์แทน มีแค่คนควบคุมดูแลแล้วก็ซ่อมแซมอับเกรดระบบเท่านั้น ผลที่ได้คือแทบไม่ต่างอะไรกับการจ้างงานคนมาวิเคราะห์เลย เขาบอกว่าถ้าวันหน้าระบบสามารถซ่อมและแก้ไขตัวเองได้ จะไม่มีความจำเป็นต้องใช้คนควบคุมอีกต่อไป 


ในอนาคตมีคนเคยบอกไว้ว่าการเรียนในโรงเรียนอาจไม่จำเป็นอีกต่อเพราะทุกวันนี้เราเข้าใจระบบการเรียนรู้ในสมองมากขึ้นเรื่อย อนาคตที่ว่าวันนึงเราอาจแค่เสียบปลั๊กยัดข้อมูลเข้าสมองเหมือนในแมตทริก หรือใช้การเรียนรู้ในเวลาหลับ แทนการเรียนในห้องเรียนนั้นอาจไม่ไกลเกินฝันอย่างแน่นอน


ในอนาคตนั่นเรื่องหุ่นยนต์ที่จะมาแทนที่คนนั้นจริงมันเริ่มขึ้นแล้วในตอนนี้ที่เราเอาหุ่นมาแทนคนกันมากกว่าแต่ก่อน แต่เรื่องนี้ส่วนตัวผมมองว่ามันยังอีกไกลมาก เว้นแต่มีตัวแปรสำคัญบางอย่างเข้ามาแทรกอย่างเช่น วันนึงราคาหุ่นยนต์นั้นถูกลงอย่างมากจนสามารถหามาใช้งานได้ง่ายๆ แต่มันก็จะติดปัญหาอีก ตัวอย่างอย่างเช่น ประเทศอเมริกาที่มีปัญกาด้าน ชม.การทำงาน มีการสำรวจเขาพบว่า ชั่วโมงรวมการทำงานของแรงงานทั้งหมดเมื่อ 40ปีที่แล้ว กับปัจจุบันนั้นแทบไม่ต่างกันมากนัก แต่กลับมีผลผลิตออกมามากกว่าเดิม โดยที่จำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้นแต่การจ้างงานนั้นยังมีอยู่เท่าเดิมไม่ได้มากขึ้น ผลผลิตออกมาจึงมีมากเกินไปกว่าที่เงินของคนที่จะซื้อกลายเป็นมีสินค้าล้นตลาด แต่คนไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อมันทั้งหมด จนกลายเป็นปัญหาเศรษฐกิจอย่างนึง
    ผมเคยได้ยินมหาเศรษฐีจีนอย่าง แจ๊ค หม่า เขาคาดการไว้ว่า ตลาดในทุกวันนี้ยังอยู่ในช่วยเริ่มพัฒนาและมันจะมีการเปรียนแปลงในอนาคตอย่างแน่นอน ด้วยเทคโนโลยี ความก้าวหน้าต่างๆ ทำให้ช่องว่างต่างถูกลดลงไปเรื่อย เขามองว่าธุรกิจขนาดใหญ่ในอนาคตจะอยู่ได้ยากขึ้นกว่าเดิม ระดับกลางและ เล็กจะสามารถทำกำไรได้ง่ายกว่าตอบสนองความต้องการของตลาดได้ดีกว่า
 

ออฟไลน์ nosta

  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 2,522
  • ถูกใจแล้ว: 1150 ครั้ง
  • ความนิยม: +106/-145
อีกหน่อย คงมีการไช้พลังงานสะอาดแทนพลังงานคาร์บอน เพราะหุ่นสามารถลดค่าไช้จ่ายในการผลิตได้ ตั้งโคโลนีใต้น้ำ ตั้งโคโลนีในอวกาศ เพราะดวงอาทิตย์ก็มีวันดับและก็ต้องมีความต้องการใหม่ๆเพิ่มขึ้นอีกมากในอนาคตที่เรายังไม่รู้ เช่นเดียวกับคนสมัยยุคหินคงไม่รู้ว่าคนสมัยเราต้องการ ดูทีวี เล่นเกมส์ ฟังวิทยุ
 

ออฟไลน์ Panzerelite

  • ยอดขุนพลหมี
  • *****
  • กระทู้: 6,337
  • ถูกใจแล้ว: 2070 ครั้ง
  • ความนิยม: +160/-1071
  • เพศ: ชาย
  • ขอเทพแมวจงสถิตอยู่กับท่าน
อีกอันที่น่ากลัวมาก คือสังคมแบบidiocracy คนโง่ครองเมือง ทุกวันนี้หลายๆประเทศบนโลกโดยเฉพาะแถบเอเชีย ค่อนข้างต่อต้านนักคิดพวกนี้มาก ถือว่าพวกนี้เป็นอันตรายต่อระบบการปกครองแบบเผด็จการ ระบอบทุนนิยมต่างๆ ทุกวันนี้สื่อต่างๆจะโดนควบคุมอย่างหนักมากการแสดงความคิดเห็นใดๆจะจำกัดมาก ร้ายแรงที่สุดคือแบบเขมรแดงคือจับคนฉลาดๆไปฆ่าทิ้งให้หมด


เราไปศึกษาเว็ปพันทิปดูว่า ทำไมกระทู้มมีคุณภาพถึงลดลงมาก พบว่าพวกเม้นคุณภาพนี้โดนแบนง่ายมากไม่ว่าเรื่องอะไร แต่พวกโพสโง่ๆเกรียนๆนี้ 10ปีก็ไม่โดนลบ และแม้แต่พวกเพจสาระเองบางทีก็ไปเล่นเรื่องชาวบ้านมากขึ้นเยอะ  เพราะมีอยู่ครั่้งหนึ่ง คสช เรียกเพจดังทุกเพจไปปรับทัศนะคติหมดเลยนะ และดูจากคุณภาพประชากรต่างๆแม้แต่คุณภาพของผู้นำประเทศไม่ว่าสารขันต์ ฟิลิปปิน หรือเมกา เรามันก็น่ากังวลมากว่า อีกไม่เกิน20ปีจะเป็นยุคidiocracyแน่ๆ คือคนเก่งๆต่างๆจะถูกกดลงไปไม่ให้เกิด สังคมมีแต่คนโง่เต็มไปหมด คนโง่มีอำนาจ ทำอะไรโง่ๆ ใช้กำลังเหนือเหตุผลไม่ก็ใช้ความเป็นอนุรักษ์นิยมต่างๆปกครอง



 

ออฟไลน์ amatsuka

  • หมีเต็มตัว
  • *
  • กระทู้: 71
  • ถูกใจแล้ว: 25 ครั้ง
  • ความนิยม: +2/-2
อีกอันที่น่ากลัวมาก คือสังคมแบบidiocracy คนโง่ครองเมือง ทุกวันนี้หลายๆประเทศบนโลกโดยเฉพาะแถบเอเชีย ค่อนข้างต่อต้านนักคิดพวกนี้มาก ถือว่าพวกนี้เป็นอันตรายต่อระบบการปกครองแบบเผด็จการ ระบอบทุนนิยมต่างๆ ทุกวันนี้สื่อต่างๆจะโดนควบคุมอย่างหนักมากการแสดงความคิดเห็นใดๆจะจำกัดมาก ร้ายแรงที่สุดคือแบบเขมรแดงคือจับคนฉลาดๆไปฆ่าทิ้งให้หมด


เราไปศึกษาเว็ปพันทิปดูว่า ทำไมกระทู้มมีคุณภาพถึงลดลงมาก พบว่าพวกเม้นคุณภาพนี้โดนแบนง่ายมากไม่ว่าเรื่องอะไร แต่พวกโพสโง่ๆเกรียนๆนี้ 10ปีก็ไม่โดนลบ และแม้แต่พวกเพจสาระเองบางทีก็ไปเล่นเรื่องชาวบ้านมากขึ้นเยอะ  เพราะมีอยู่ครั่้งหนึ่ง คสช เรียกเพจดังทุกเพจไปปรับทัศนะคติหมดเลยนะ และดูจากคุณภาพประชากรต่างๆแม้แต่คุณภาพของผู้นำประเทศไม่ว่าสารขันต์ ฟิลิปปิน หรือเมกา เรามันก็น่ากังวลมากว่า อีกไม่เกิน20ปีจะเป็นยุคidiocracyแน่ๆ คือคนเก่งๆต่างๆจะถูกกดลงไปไม่ให้เกิด สังคมมีแต่คนโง่เต็มไปหมด คนโง่มีอำนาจ ทำอะไรโง่ๆ ใช้กำลังเหนือเหตุผลไม่ก็ใช้ความเป็นอนุรักษ์นิยมต่างๆปกครอง






ผมว่าคนที่มีอำนาจไม่โง่นะเข้าขั้นฉลาดเลยหล่ะ(แต่ฉลาดแกมโกง)เพราะอะไร  เพราะประชาชนโง่ปกครองชักจูงง่ายกว่าไง ส่วนพวกฉลาดก็ถูกล้างบางเพราะจะมีผลกระทบต่ออำนาจของตัวเอง อย่างบ้านเราก็กีฬาสีที่ผ่านมาซึ่งโดนชักจูงจากผู้มีอำนาจทั้งสองฝั่ง
 

ออฟไลน์ Panzerelite

  • ยอดขุนพลหมี
  • *****
  • กระทู้: 6,337
  • ถูกใจแล้ว: 2070 ครั้ง
  • ความนิยม: +160/-1071
  • เพศ: ชาย
  • ขอเทพแมวจงสถิตอยู่กับท่าน
[quote/]


ผมว่าคนที่มีอำนาจไม่โง่นะเข้าขั้นฉลาดเลยหล่ะ(แต่ฉลาดแกมโกง)เพราะอะไร  เพราะประชาชนโง่ปกครองชักจูงง่ายกว่าไง ส่วนพวกฉลาดก็ถูกล้างบางเพราะจะมีผลกระทบต่ออำนาจของตัวเอง อย่างบ้านเราก็กีฬาสีที่ผ่านมาซึ่งโดนชักจูงจากผู้มีอำนาจทั้งสองฝั่ง


มันน่ากลัวมากกว่าคือ การเมืองสมัยใหม่มันจะมี ทั้งหน้าฉากกับหลังฉากอยู่แล้วคับ หน้าฉากคือพรรคการเมือง นักการเมือง หรือท่านผู้นำต่างๆ กับหลังฉากคือนายทุนต่างๆตามระบอบทุนนิยม หรือข้าราชการ ขุนนาง ทหารต่าง คนที่จะคุมได้ทั้งหลังฉากหน้าฉากจริงๆมีน้อยมาก ส่วนใหญ่มันต้องระดับมหาราช หรือสุดยอดผู้นำแบบปูติน อะไรพวกนี้


และในระบอบทุนนิยมนี้นายทุนมีิอำนาจมาก ขนาดสั่งรัฐบาลไม่ว่ามาจากอะไรให้ซ้ายหันขวาหันได้ อย่างเมกาคนที่อยู่หลังฉากคือนายทุนอาวุธสงคราม นายทุนน้ำมัน ไม่ว่าเมกาจะได้รัฐบาลไหนสงครามต้องมีแน่นอน และส่วนใหญ่ก็ไปแถวๆตะวันออกกลางนี้เพราะตะวันออกกลางมีน้ำมัน (อย่างเกาหลีเหนือนี้ แค่หลอกขายของญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้คับ เผลอๆนายทุนอาวุธนี้ยัดตังค่าขนมให้ไอ้อ้วนคิมด้วย) แม้แต่การเมืองไทยเอง รัฐบาลทหารหรือทักษิณมันก็แค่ฉากหน้า ฉากหลังนี้มีกลุ่มนายทุน ผลประโยชย์ต่างๆเต็มไปหมด แม้แต่ระดับที่พูดถึงไม่ได้ก็ตาม
 

ออฟไลน์ Phaeton

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 576
  • ถูกใจแล้ว: 154 ครั้ง
  • ความนิยม: +5/-4

เรื่องสือเกมต่างๆ เอาจริงๆมันก็เป็นไปตามยุคสมัยนะ
-สมัยก่อนพวกเกมออฟไลน์ยุคนั้น มันก็มีพวกชอบสบายไม่ชอบลำบาก อย่างเกมrpgแทนที่จะเวลก็ไปหาtrainer ส่วนแนวstrategyก็กดสูตรตลอดไม่ยอมเล่นเอง(ประสบการณ์ที่ฮาในการเล่นstarcraftสู้กับเพื่อนครั้งแรกคือ10วิหลังเกมเริ่่มก็มีเพื่อนคนนึงพิมพ์chatว่าpower overwhelming เท่านั้นแหละฮาทั้งก้วน)
-ส่วนเรื่องพนันผมมองว่ามันก็มีตั้งนานแล้วแค่มันเปลี่ยนรูปแบบ เช่นการดรอปของมันก็คือการเอาเวลาไปพนันกับโอกาสได้ของ ซึ่งเกมออนไลน์สมัยแรกๆเวลาก็คือเงินเพราะส่วนมากเป็นair time


คหสต เรื่องเกมกาชา ถ้ามองในแง่ดีมันก็มีอยู่บ้างแหละครับ เนื่องจากเกมกาชาหลายๆเกมจะจำกัดการเล่นจากค่าพลังงานซึ่งสำหรับสายฟรีมันก็เป็นการฝึกการบริหารเวลาอย่างนึงนะครับ ตั้งแต่การตัดสินใจเลือกเกมที่เล่นได้ การรู้จักหาข้อมูลการตัดสินใจอะไร การลองผิดลองถูกแบบไม่ค่อยเจ็บตัว การใช้staminaให้คุ้มค่า การเลือกปั้นยูนิตอย่างคุ้มค่า การบริหารเวลา/สัดส่วนการทำเควสรายวันกับกิจกรรมจำกัดเวลา การบริหารpremium currencyการอดใจเปิดเฉพาะที่จำเป็น ฯลฯ เพื่อเอาไปสู้กับสายเปย์ไม่หนักได้   ผมเคยเล่นเกมกาชาเคยเป็นทั้งสายฟรี สายเติมน้อยๆ จนถึงโลมา แต่สำหรับผมเป็นสายฟรีสนุกสุดเพราะความท้าทายนี่แหละ (แต่ผมก็ไม่รู้นะว่าเด็กๆจะมองเกมกาชาแบบเดียวกับผมไหม)

เรื่องเด็กกับสื่อ ผมว่ามันก็ตามยุคตามสมัยนะ สมัยผมเด็กก็มีผู้ใหญ่บ่นว่าเด็กสมัยนั้นมีเกมมีการ์ตูนมอมเมาเยอะกว่าแต่ก่อน และผมก็เคยคุยกับผู้ใหญ่รุ่นพ่อที่เคยโดนบ่นเหมือนกันว่าเอาแต่โขกหมากรุกทั้งวันไม่ทำการทำงาน ซึ่งสิ่งบันเทิงตามยุคสมัยมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ คนก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพราะยุคก่อนและยุคเรามันก็มีทั้งคนที่ปรับตัวอยู่ได้และคนที่ปรับตัวไม่ได้อยู่ไม่ได้ ผมก็คิดว่าเด็กสมัยใหม่ก็เช่นกัน

 

ออฟไลน์ thepingman

  • นักปราชญ์แห่งเขาเซนนิคุมะ
  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,563
  • ถูกใจแล้ว: 1769 ครั้ง
  • ความนิยม: +115/-30
  • ไม่ใช่หมีสักหน่อย
ผมนึกขึ้นได้อีกอย่างนะครับ เอาแต่เล็งไปที่กาชา แต่ลืมสลากกินแบ่งรัฐบาลกับหวยใต้ดินไปได้ไงครับ? อันนี้อยู่มาตั้งกะรุ่นปู่รุ่นย่า ไม่เห็นมีใครโวยวายว่ามอมเมาเยาวชนทั้งที่ใครๆ ก็ซื้อได้ แถมพ่อแม่ซื้อเป็นตัวอย่างกันประจำเกือบทุกงวด

อันนี้ผมว่าหนักกว่ากาชาอีกนะครับ เพราะโอกาสถูกอย่างเก่งที่สุดคือ 1 ในร้อยจากเลขท้าย 2 ตัว ถ้าจะเอาเลขท้าย 3 ตัวก็ 1 ใน 1000 นี่ไม่เรียกว่าการพนันหรือครับ? อ้อ ถ้าหวยใต้ดินล่ะก็มีโอกาสที่เจ้ามือจะเบี้ยวไม่จ่ายอีกต่างหาก อันนี้คือโอกาสถูก 0% เลยด้วยซ้ำแต่ก็ยังมีคนเล่นกันอยู่โดยไม่มีใครว่าอะไร

ผมว่าเด็กที่มีพ่อแม่ซื้อสลากกินแบ่งฯ ให้ดูเนี่ยจะมีโอกาสติดกาชามากกว่าปกตินะครับ เพราะเด็กเห็นพ่อแม่ทำได้ไม่เห็นผิดนี่นา
นิยายหัดแต่ง เชิญจิ้มได้ครับ
http://goshujin.tk/index.php?topic=2904.0
โฮ่ง!
 

ออฟไลน์ Lucifer216

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,352
  • ถูกใจแล้ว: 1080 ครั้ง
  • ความนิยม: +33/-0
คนตกงานเพราะหุ่น ผมว่าไม่มีทางเกิดขึ้นง่ายๆหรอกครับ แต่ถ้าคนตกงานเพราะเลือกมาก รักสบาย ไม่มีความอดทน อันนี้สิแน่นอนกว่าครับ ส่วนพวกเด็กที่โตมากับกาชาจะเป็นยังไงก็คงไม่ต่างจากยุคสมัยเราๆหรอกครับ จำสติ๊กเกอร์ดราก้อนบอลได้ไหมครับ การ์ดเลเซอร์มีใครเคยได้ครบชุดบ้าง สะสมเป็น 10 เล่มขาดอยู่ใบเดียวทุกเล่มนี่แหละ  >:(

ถึงรูปแบบจะเปลี่ยนไป แต่วิถีทางของมันก็ยังคงอยู่ครับ
 

ออฟไลน์ Mr.Rick

  • นักปราชญ์แห่งเขาเซนนิคุมะ
  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,270
  • ถูกใจแล้ว: 5895 ครั้ง
  • ความนิยม: +125/-44
  • เพศ: ชาย
  • กำลังแปลอยู่ใจเย็นๆ~~
ผมนึกขึ้นได้อีกอย่างนะครับ เอาแต่เล็งไปที่กาชา แต่ลืมสลากกินแบ่งรัฐบาลกับหวยใต้ดินไปได้ไงครับ? อันนี้อยู่มาตั้งกะรุ่นปู่รุ่นย่า ไม่เห็นมีใครโวยวายว่ามอมเมาเยาวชนทั้งที่ใครๆ ก็ซื้อได้ แถมพ่อแม่ซื้อเป็นตัวอย่างกันประจำเกือบทุกงวด

อันนี้ผมว่าหนักกว่ากาชาอีกนะครับ เพราะโอกาสถูกอย่างเก่งที่สุดคือ 1 ในร้อยจากเลขท้าย 2 ตัว ถ้าจะเอาเลขท้าย 3 ตัวก็ 1 ใน 1000 นี่ไม่เรียกว่าการพนันหรือครับ? อ้อ ถ้าหวยใต้ดินล่ะก็มีโอกาสที่เจ้ามือจะเบี้ยวไม่จ่ายอีกต่างหาก อันนี้คือโอกาสถูก 0% เลยด้วยซ้ำแต่ก็ยังมีคนเล่นกันอยู่โดยไม่มีใครว่าอะไร

ผมว่าเด็กที่มีพ่อแม่ซื้อสลากกินแบ่งฯ ให้ดูเนี่ยจะมีโอกาสติดกาชามากกว่าปกตินะครับ เพราะเด็กเห็นพ่อแม่ทำได้ไม่เห็นผิดนี่นา 
หวยในมือผมนี่สั่นเลยฮะ ???

ออฟไลน์ wanit000

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 844
  • ถูกใจแล้ว: 721 ครั้ง
  • ความนิยม: +56/-66
อย่าหลอกตัวเองเลยครับ นิสัยดั้งเดิมของมนุษท์ทุกคนชอบการพนันอยู่แล้ว แต่คนสมัยก่อนเค้าเล่นจนหมดเนื้อหมดตัวเป็นหนี้เป็นสิ้นครับ เพราะยังไม่มีความคิดเท่าคนสมัยนี้ การพนันเลยเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างมาก แต่เดียวนี้คนฉลาดขึ้น เล่นแค่พอที่ตัวเองมีไม่ได้่ขายบ้านขายรถเล่น  ผมถือว่านี้เป็นการพัฒนาของมนุษท์นะ แล้วเรื่องคนตกงาน ท่านลองคิดดูว่า สื่อบันเทิงบนโลกนี้ ย้ำ บนโลกนี้ที่โลกหมุนไว เทคโนโลยี่ไปไว มันเกิดจากอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะมันขายได้ดีทั่วโลกจนมีเงินกำไรมหาศาลมาต่อยอดได้ไว หนัง เพลง ก้อเพราะขายได้ทั่วโลกจริงทุ่มทุนสร้างได้มหาศาลเกิดเป็นผลงาน classis มานักต่อนัก ถ้าเหตุการ์ณที่ท่านเกิดจริง คนตกงาน คนรวยชื้อกันเอง ท่านคิดดูว่า คนรวยจะเหลือ สิงบันเทิงอะไรบ้าง หนังเหรอ ไม่มีใครทำขายแล้วแน่นอน ถ้าอยากได้ ต้องจ้างคนมาทำเอง แล้วถ้าจะเอาดีๆ ใช้ทุนมหาศาล เกมส์เหรอ เล่นคนเดียวไม่สนุก เอา แจกเครื่องเล่นแจกเน็ตให้มาเล่นด้วยกันหน่อย กีฟาต่างๆ จากที่เสียตังเล่น จะกลายเป็นพวกคนรวยจ้างให้ไปเล่นด้วยแทน และเทคโนโลยี่จะอยุดนิ่ง เพราะไม่มีเหตุผลที่จะไปลงทุนในสิ่งที่มองไม่เห็นกำไร เพราะคนทั่วโลกไม่มีคนเงินชื้อแล้ว จริงมะ  มนุษท์เราติดกับดักคำว่า อยากรวยเพราะเป็นเรื่องยากที่จะรวย แต่ถ้ารวยแบบที่ท่านว่า แล้วคนอื่นๆจนหมดไม่มีกำลังชื้ออะไรเลย ถึงตอนนั้นคนรวยจะมีความสุขจริงๆเหรอ เค้าจะไม่อยากดูหนังสนุกๆ เรื่องใหม่ หรือเล่นเกมส์ใหม่ๆ หรือแม้กระทั่งอยากได้ โทรศัพทเทคโนโลยี่ใหม่ๆเลยเหรอ ??? เมื่อคนไม่มีปัญญาจ่ายค่าเน็ต ชื้อมือถือ คนรวยก้อต้องสร้างมือถือในราคาเเพงมาใช้เอง โลกอินเตอร์เน็ตที่เหลือแต่พวกคนรวยเล่น ต้องอย่าลืมว่าของฟุ่มเฟีอยทั้งหลายในยุคนี้ จุดเด่นมันคือ MP เล่นกับบอทมันล้าสมัยไปแล้วสำหรับยุคนี้  ถ้าจะมีอะไรพลิกโอกาสให้คนธรรมดาได้ ก้อคงเป็นอาชีพ เล่นเกมส์กับคนรวยนั้นละ ส่วนหนังผมมองไม่ออกจริงๆ ว่าถ้าคนไม่มีเงินสนับสนุนแล้วมันจะสร้างหนัง 100 ล้าน พันล้านออกมากันได้อยู่ใหม เมื่อลูกค้าเหลือแต่พวกรวย 1%ของโลก
 

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก