สวัสดีครับ ขอประเดิมบทความแรกหลังจากที่กลับมา
เรื่องของเรื่องคือไปเล่นเกม IZUMO4 แล้วรู้สึกชอบ “เอนิชิ” ตัวร้าย
(?)ของเกมนี้มาก ประทับใจจนอดไม่ได้ที่จะทำอะไรสักอย่างเพื่ออวยเธอ ก็เลยเขียน Spoil เกมฉบับนี้ขึ้นมา
Spoil จะแบ่งเป็น 3 Part+Extra
(รวมทั้งหมด 4 Part) นี่คือ Part แรก
* ที่จริงเขียนเสร็จตั้งแต่เดือนเมษายนแล้ว แต่ตอนนั้นอยู่ในที่ๆเข้าเว็บ Tirkx ไม่ได้ เลยตั้งใจไว้ว่ากลับไทยเมื่อไรค่อยเอามาอัพ แต่พอกลับมาปรากฏว่าเว็บ Tirkx ก็ไม่อยู่แล้ว
IZUMO4 คืออะไรIZUMO4 คือเกม Visual Novel RPG เรท 18+ ผลงานร่วมของค่าย Debonosu
(ในโอกาสครบรอบ 5ปี)กับค่าย light
(ในโอกาสครบรอบ 15ปี)ค่าย Debonosu มักจะผลิตเกมที่มีระบบการเล่นดีๆ
(?)ออกมาเสมอ แต่ในสายตาผมเนื้อเรื่องออกจะจืดๆไปนิดจนไม่น่าเล่น แต่คราวนี้เพราะได้ความร่วมมือจากค่าย light ซึ่งเป็นค่าย Visual Novel ที่มีชื่อเสียงด้านเนื้อเรื่องอลังการ แอ็คชั่นอลังการ ความจูนิเบียวเต็มขั้น
(และคันจิยากนรกจนอ่านไม่ออก) เกมเลยออกมาเป็น Visual Novel RPG ที่เนื้อเรื่องดีมากๆจนน่าประทับใจ
แม้เกมจะเขียนว่าเป็นภาค4 แต่ก็
ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับภาคก่อนๆ ต่อให้ไม่เคยเล่นภาคก่อนๆมาก่อนก็เข้าใจได้
อย่ามัวแต่เกริ่น ไปเริ่มกันเลยดีกว่า
หากท่านใดต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกมนี้ สามารถไปดูได้ใน link ข้างล่าง
(แปลเป็นภาษาไทยไว้ให้แล้ว)https://vermillionend.blogspot.com/2017/07/izumo-4.htmlเรื่องราวของตัวร้ายผู้น่าสงสาร Part 1: เด็กสาวลึกลับคุเซ ไดจิเป็นนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาๆที่อาศัยอยู่ในเมืองอิซุโมะ
เขาใช้ชีวิตธรรมดาๆ อาศัยอยู่กับพ่อ, แม่ และมิโซระ น้องสาวบุญธรรมผู้ร่าเริงของเขา (เด็กผู้หญิงผมทองในรูปด้านบน)
เดิมทีมิโซระเป็นลูกพี่ลูกน้อง แต่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตไปเพราะอุบัติเหตุ ครอบครัวของเขาเลยรับเธอมาเลี้ยง
แม้จะไม่มีความผูกพันทางสายเลือด แต่ทั้งคู่ก็สนิทกันมาก มากขนาดที่คนรอบข้างบอกว่าสนิทกันยิ่งกว่าพี่น้องจริงๆอีก
ไดจิกับมิโซระมีเพื่อนสมัยเด็กชื่อทาคาโต้ โฮนามิ (เด็กสาวผมดำในรูปด้านบน)
โฮนามิเป็นสาวงามผู้สมบูรณ์แบบ ทั้งเรียนเก่ง, เรียบร้อย, อัธยาศัยดี แถมยังเป็นมิโกะคอยช่วยงานที่บ้านซึ่งเป็นศาลเจ้าอีกด้วย
ทั้งสามสนิทกันมาก ตอนเช้าจะไปโรงเรียนด้วยกันเสมอ
* โฮนามิเป็นนางเอกหลักของเกม ไม่ว่าจะมองยังไงก็นางเอกหลักชัดๆ รูปได้ขึ้นหน้าแรกของเว็บ, ตัวละครอยู่ชื่อแรก, Icon เข้าเกมก็เป็นรูปเธอ แถมคุณซาคาคิบาระ ยุยยังเป็นคนพากย์อีกที่โรงเรียนยาคุโมะ ไดจิสังกัดอยู่ชมรมวิจัยประวัติศาสตร์ท้องถิ่น
แต่ก็เป็นสมาชิกผีที่มักจะโดดชมรมอยู่บ่อยๆ
ทว่า ตอนนี้สถานการณ์ชมรมอยู่ในสภาพย่ำแย่
ชมรมเหลือสมาชิกกันแค่ 3 คน แถมงานโรงเรียนก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
ทำให้บางครั้งรุ่นพี่อายากะ ประธานชมรมผู้เอาจริงเอาจัง(เด็กสาวที่ล็อคคอไดจิอยู่ในรูปด้านบน)ต้องมาลากคอไดจิไปช่วยเตรียมงาน
สมาชิกอีกคนของชมรมวิจัยประวัติศาสตร์ท้องถิ่นคือรุ่นพี่ฮาคุโตะ (เด็กสาวที่กำลังนอนกินมันฝรั่งแผ่นอยู่ในรูปด้านบน)
ฮาคุโตะเป็นเพื่อนสนิทของอายากะ
เธอเป็นสมาชิกผีเช่นกัน ไม่โดดชมรมก็จริง แต่ก็ไม่ช่วยงานด้วยเหมือนกัน ปกติจะทำตัวเอื่อยเฉื่อยอยู่บนโซฟา นอนกินขนมไป อ่านการ์ตูนไป
ไดจิใช้ชีวิตนักเรียนธรรมดาๆแบบนั้นเรื่อยมา
จนกระทั่ง……
เช้าวันหนึ่งเขาฝันว่ากำลังสู้กับเด็กสาวผมสีเงินที่ดูอายุรุ่นราวคราวเดียวกันอยู่
โฮนามิ, มิโซระ และรุ่นพี่อายากะถูกเธอฆ่าตายไปเรียบร้อยแล้ว
ในฝัน เขาเข้าห้ำหั่นกับเธอด้วยความโกรธแค้น
หลังไดจิตื่นขึ้นมา เขาก็รู้สึกคาใจกับความฝันนั้นอย่างบอกไม่ถูก
เย็นวันเดียวกัน ในอาคารเรียนตอนหลังเลิกเรียน ไดจิได้พบกับเด็กสาวที่โผล่มาในความฝันของเขา
สีผมและสีตาของเด็กสาว สีขาวของกระดูกกับสีแดงของโลหิตได้ดึงดูดสายตาของเขาไปอย่างน่าอัศจรรย์
แต่พอรู้สึกตัว เธอก็ไม่อยู่แล้ว
เด็กสาวหายวับไปราวกับไม่อยู่ตรงนั้นมาตั้งแต่แรก
…
…
…
วันต่อมา ไดจิที่รู้สึกคาใจกับตัวตนของเด็กสาวเป็นอย่างมากได้ตัดสินใจลองตามหาเธอดู แต่ก็ไม่พบ
ทว่า ในขณะที่เขากำลังจะกลับบ้านนั้นเอง เด็กสาวก็มาปรากฏกายต่อหน้าเขาอีกครั้ง
เธอมองหน้าเขา แล้วก็หันหลังเดินจากไป
ไดจิรีบตามเธอไปทันที แต่ไม่ว่าจะวิ่งเท่าไรก็ตามเธอไม่ทัน
เขาเริ่มรู้สึกได้ถึงความผิดแปลก เขาวิ่งสุดแรง ส่วนเธอแค่เดินอย่างช้าๆ แต่ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไรเขาก็ตามเธอไม่ทัน
ในตอนนั้นเองที่เขาเพิ่งสังเกตเห็นรอบข้าง
เขาอยู่ในตึกเรียนก็จริง แต่นี่ไม่ใช่ตึกเรียนที่เขาคุ้นเคย
รับรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าเป็นสถานที่ที่ต่างกันออกไปอย่างชัดเจน
มีบรรยากาศน่าขนลุก และที่สำคัญ ทั้งๆที่เพิ่งเลิกเรียนแท้ๆ แต่กลับไม่มีคนอยู่เลย !
ไม่มีคนอื่นอยู่เลย…… ใช่ เขาคลาดสายตาจากเด็กสาวไปซะแล้ว
เขาพยายามมองหาเธอ แต่สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาเขากลับไม่ใช่เด็กสาว แต่เป็นสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่น่าขนลุก
รูปร่างของมันไม่เหมือนกับสิ่งมีชีวิตใดๆบนโลกใบนี้ พวกมันน่าขยะแขยงและมีกลิ่นอายของซากศพ
ใช่แล้ว มันคือสัตว์ประหลาด
เหล่าสัตว์ประหลาดได้กระโจนเข้าหาเหยื่ออันโอชะของมันทันที
เป็นสถานการณ์สิ้นหวังอย่างแท้จริง
ทว่า ไดจิกลับใจเย็นอย่างบอกไม่ถูก
ใจเย็นราวกับว่าเคยเผชิญสถานการณ์แบบนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนเขาหนีไปที่ห้องชมรม หยิบดาบสำริดขึ้นสนิมพังๆที่เป็นวัตถุโบราณซึ่งโรงเรียนรับดูแลในฐานะสื่อการสอนขึ้นมา
ดาบอยู่ในสภาพหักครึ่ง ใบมีดก็ไม่เหลือแล้ว
แต่เขารู้ดีว่าเขาสามารถใช้มันเป็นอาวุธได้“ถ้าเป็นอาวุธของชั้นล่ะก็ ลองปกป้องชีวิตชั้นให้หน่อยเซ่”
ไดจิภาวนาอยู่ในใจ
แสงสว่างมารวมกันที่ดาบ
แล้วสนิมก็ค่อยๆหลุดออก ส่วนแสงสว่างก็กลายเป็นคมดาบ
คมดาบเฉือนเนื้อของสัตว์ประหลาดได้อย่างง่ายดายราวกับใช้มีดตัดเนยแข็ง
ไดจิใช้ดาบนั้นกำจัดสัตว์ประหลาดที่บุกเข้ามาตัวแล้วตัวเล่า
ทั้งๆที่ไม่เคยฝึกดาบมาก่อน แต่เขากลับเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว
เหมือนกับว่าร่างกายของเขาขยับไปเองตามความเคยชินหลังไดจิจัดการสัตว์ประหลาดจนหมด เขาก็ออกมาที่ดาดฟ้า
ดาดฟ้าแห่งนี้เป็นดาดฟ้าที่เขาคุ้นเคย ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของสถานที่ลึกลับน่าขนลุกนั่น
และเป็นที่ๆเด็กสาวยืนรอเขาอยู่
เขาถามชื่อเธอ แต่เธอกลับตอบว่า……
“ชื่อจริงๆของฉัน
ตัวคุณในตอนนี้ไม่รู้หรอก…… เอนิชิ
(โชคชะตา)------จะใช้ชื่อนี้ไปก่อนละกัน ถ้าจะแสดงถึงความสัมพันธ์ของฉันกับคุณแล้วล่ะก็ ชื่อแบบนี้ล่ะที่เหมาะสมที่สุด”
พอเด็กสาวพูดจบก็หยิบเคียวขนาดใหญ่ขึ้นมา
แล้วบุกเข้ามาหมายเอาชีวิตเขาทันที !
ไดจิปัดป้องพลางถามสาเหตุที่เธอจ้องจะเอาชีวิตเขา
แต่เด็กสาวกลับบอกแค่ว่าชื่อ “เอนิชิ
(โชคชะตา)” ของเธอนั่นล่ะคือคำตอบ เธอกับเขามีโชคชะตาให้ต้องมาฆ่ากัน
การโจมตีของเอนิชินั้นรวดเร็ว แม่นยำ และหนักหน่วง
แต่เขากลับ
รับมือเธอได้ราวกับว่าในอดีตเคยสู้กับเธอมาแล้วเขาพยายามบอกให้เธอหยุด แต่เด็กสาวผมเงินกลับไม่ตอบและกระหน่ำโจมตีเขาต่อไป
……เขาจึงตัดสินใจโจมตีกลับไป
หลบการโจมตีของเธอ แล้วอาศัยจังหวะนั้นฟันสวนกลับไปยังเด็กสาว
ทว่า เธอกลับอยู่ในสภาพไร้การป้องกัน
คมดาบสะท้อนอยู่บนนัยน์สีโลหิตของเด็กสาว กล่าวคือเธอเห็นดาบของเขาแล้ว
แต่เธอกลับไม่หลบ ไม่ใช่ว่าหลบไม่ทัน แต่
จงใจไม่หลบ ราวกับต้องการให้คมดาบของเขาปลิดชีวิตเธอไดจิที่รู้ตัวได้เบี่ยงวิถีดาบออกไปอย่างทันเวลาเฉียดฉิว
นั่นเป็นตอนที่เด็กสาวแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมาครั้งแรก
เธอโกรธเกรี้ยวและถามสาเหตุที่เขาหยุดการโจมตี
เด็กสาวได้สูญเสียความเยือกเย็นไป เธอกระหน่ำโจมตีเขาอย่างบ้าคลั่ง
ราวกับแค้นใจที่เขาไปขวางการฆ่าตัวตายของเธอ
เคร้ง !
เคียวขนาดใหญ่ได้ถูกหยุดลง
โฮนามิ เพื่อนสมัยเด็กของเขาใช้ดาบคู่กระโดดลงมาหยุดเคียวยักษ์นั่นไว้
ทั้งไดจิและโฮนามิต่างตกใจกับสภาพของอีกฝ่าย ไม่มีใครคิดว่าเพื่อนสมัยเด็กของตัวเองจะเกี่ยวข้องกับโลกที่ผิดธรรมดานี่
“ชิ มาขวางกันได้นะ” เอนิชิสบถออกมา
“ถอยไป อิซุโมะเบื้องหลัง……ฉันไม่มีธุระกับคุณ” เอนิชิพูดกับโฮนามิ
“ไม่ได้หรอก อิวานางะฮิเมะ” เพื่อนสมัยเด็กของเขาตอบกลับไป
โฮนามิกับเอนิชิประจันหน้ากัน
นัยน์ตาเพื่อนสมัยเด็กของเขาดุดันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ส่วนทางอีกฝั่งนั้น……
“ไว้มาเจอกันใหม่ค่ะ” เอนิชิพูดพร้อมใช้เคียวฟันไปกลางอากาศ เกิดเป็นช่องมิติ
จากนั้นเธอก็จ้องมาทางเขา
“อย่าลืมซะล่ะ ฉันคือเอนิชิ เป็นอีกครึ่งหนึ่งของคุณ”
เด็กสาวผมเงินพูดทิ้งท้ายไว้เช่นนั้นก่อนจะหายลับไปในช่องมิติ
หลังจากนั้นโฮนามิก็พาไดจิมาหาทาคาโต้ อาสึทาเนะ พ่อของเธอ แล้วอธิบายทุกอย่างให้ฟัง
ทั้งเรื่อง “ดินแดนโยมิ” ดินแดนแห่งความตาย, “โยโมสึอิคุสะ” เหล่าอสูรกายที่อาศัยอยู่ในโยมิ
ด้วยสาเหตุหลายๆอย่างทำให้นานๆครั้งจะเกิด “ถนนสู่โยมิ” ขึ้นมาบนโลกนี้ ตอนแรกถนนสู่โยมิจะแค่ทำให้รู้สึกไม่ดีเฉยๆ แต่ถ้าปล่อยไว้เรื่อยๆถนนสู่โยมิจะขยายใหญ่ขึ้นเป็นระดับที่คนหลงเข้าไปข้างในได้ และสุดท้ายคือขยายใหญ่ขนาดที่โยโมสึอิคุสะผ่านออกมาได้เอง
และคนที่ทำหน้าที่ปิดถนนสู่โยมิ รวมถึงกำจัดโยโมสึอิคุสะก็คือองค์กร “อิซุโมะเบื้องหลัง” ที่พวกโฮนามิสังกัดอยู่
ทว่า ก็มีกรณีที่ถนนสู่โยมิขยายตัวอย่างรวดเร็วจนคนหลงเข้าไปได้ทันทีอยู่
นั่นคืออิวานางะฮิเมะ เด็กสาวผู้เป็นสัตว์ประหลาดอมตะในคราบมนุษย์ ไม่แก่และไม่ตาย
สถานที่หรือยุคสมัยที่อิวานางะฮิเมะปรากฏตัวขึ้นจะเกิดถนนสู่โยมิขึ้นอย่างมากมายแน่นอน และเหล่าโยโมสึอิคุสะก็ไม่โจมตีอิวานางะฮิเมะ
ไม่ว่าจะมองยังไงก็เข้าใจได้ทันทีว่าอิวานางะฮิเมะคือหัวหน้าของเหล่าโยโมสึอิคุสะ
ส่วนพลังในการปราบมารของโฮนามินั้นได้มาจากการใช้ “อุซึจิขับไล่ความชั่วร้าย” สายห้อยประดับด้วยด้ายห้าสีที่เป็นเครื่องรางในศาสนาชินโต
อุซึจิขับไล่ความชั่วร้ายที่เธอใช้เป็นของที่ได้รับการบวงสรวงอยู่ที่ศาลเจ้าของเธอ และสืบทอดกันมารุ่นตอนรุ่นในหมู่มิโกะปราบมาร
ในยามต่อสู้ อุซึจิขับไล่ความชั่วร้ายจะแปรเปลี่ยนเป็นอาวุธที่ใช้ได้ผลกับโยโมสึอิคุสะ และชุดมิโกะที่สามารถป้องกันมลทินจากดินแดนโยมิได้
ทว่า การจะใช้อุซึจิขับไล่ความชั่วร้ายได้นั้นต้องผ่านการฝึกฝนที่ยากลำบากเป็นเวลานาน
แม้จะฟังทุกอย่างจบก็ยังอธิบายเรื่องพลังของปริศนาของไดจิไม่ได้อยู่ดี
ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนแล้ว ในเมื่ออิวานางะฮิเมะปรากฏตัวขึ้นก็หมายความว่าหลังจากนี้จะมีถนนสู่โยมิมากมายเปิดขึ้นอย่างแน่นอน
ด้วยปัญหาคนไม่พอ ประกอบกับเป็นห่วงลูกสาว พ่อของโฮนามิจึงขอร้องให้ไดจิช่วยโฮนามิในการชำระล้างถนนสู่โยมิและกำจัดโยโมสึอิคุสะ
ไดจิตอบตกลงทันทีเพราะโฮนามิเป็นเพื่อนคนสำคัญของเขา, ถ้าปล่อยไว้เฉยๆไม่ลงมือทำ จะมีคนบริสุทธิ์ต้องกลายเป็นผู้เคราะห์ร้ายจากโยโมสึอิคุสะ ซึ่งอาจจะรวมไปถึงมิโซระ น้องสาวคนสำคัญของเขาด้วยก็ได้
และที่สำคัญที่สุดคือไม่ว่าจะมองยังไงอิวานางะฮิเมะก็หมายหัวเขาอยู่แน่นอน ต่อให้ตอนนี้กลัวแล้วหนีไปก็ไม่มีความหมายอยู่ดี ยังไงก็หนีไม่พ้น
คุเซ ไดจิได้ตัดสินใจร่วมมือกับกลุ่มอิซุโมะเบื้องหลัง
ไม่ใช่เพื่อใคร แค่เพื่อปกป้องเพื่อนคนสำคัญ, น้องสาวที่รักยิ่ง และชีวิตของเขาเอง
…
…
…
อีกด้านหนึ่ง ภายใต้ฟากฟ้าเดียวกันยังมีเด็กสาวคนหนึ่งอยู่
แค่คิดว่าใต้ฟ้าเดียวกันมี “เขา” อยู่ ความว่างเปล่าในหัวใจของเธอก็ได้ถูกเติมเต็ม
เป็นเวลาเกือบ 2,000 ปีที่เธอเฝ้าตามหาเขา
ตลอดช่วงเวลานั้นโลกเปลี่ยนไปมาก แต่สำหรับเธอที่เดินอยู่บนเวลาไร้สุดจบแล้ว สิ่งเหล่านั้นก็เป็นแค่ทิวทัศน์ที่ผ่านเลยไป ไม่ต่างอะไรกับภาพลวงตา
“แต่…… ตั้งแต่วันนี้ไปจะไม่เหมือนเดิม”
เพราะเธอได้พบพานกับเขาอีกครั้ง
“ครั้งนี้นี่ล่ะ------”
“จะไม่ปล่อยให้หนีไปได้ ไม่ยอมให้หนีหรอก------จะทำให้มันจบลงให้ได้ โชคชะตาที่ผูกพันเราสองคนเข้าด้วยกันนี่ !”
เอนิชิพึมพำเช่นนั้นคนเดียวภายใต้ท้องฟ้ายามราตรี
OP MoviePart 2 ไว้มาต่อพรุ่งนี้
(วันที่ 1 พฤศจิกายน)ป.ล. ที่เลือกอัพบทความนี้วันนี้เพราะเป็นฤกษ์งามยามดี
(เรอะ? จริงๆก็เป็นเพราะไม่ว่างด้วยนั่นล่ะ) ฉากในเกมเป็นเดือนคันนาซึกิ
(เดือนสิบในปฏิทินจันทรคติญี่ปุ่น) และวันนี้ก็เป็นวันแรกของคันนาซึกิพอดีครับ
EDIT 10/08/2017 : ย้าย Blog จาก Exteen มา Blogspot แล้ว เลยแก้ไข Link