[quote/]
นี่คือการบ่งบอกว่าวิชามันจะถูกพัตนาอับเดทขึ้นตามกาลเวลาในความเป็นจริงวิชาในอดีตจึงไม่น่าจะดีกว่าปัจจุบัน
ฉบับดั้งเดิมไม่ได้แปลว่าดีสุด แต่ปรับปรุงก็ไม่ได้จำเป็นต้องดีสุดเช่นกัน
ในนิยายจีนมั้งจะมีวิชาที่ถ้าฝึกครบทุกกระบวนท่าอย่างช่ำชอง
จะมีการหลอมรวมเป็นกระบวนท่าลับสุดท้ายขึ้นมา
การที่ย่อวิชาให้กระชับ จะง่ายต่อการฝึก
แต่บางส่วนในเนื้อในอาจขาดหายไป
เช่น วิชาแทงกระบี่ มีแทงเพื่อทะลวง
แทงเพื่อเปิดทาง แทงลวง แทงสังหาร แทงสะกัด แทงชิงจังหว่ะ แทงเพื่อประสาน ......
คือท่าเดียวกันแต่จุดมุ่งหมายต่างกัน ออกแรงต่างกันจังหว่ะต่างกัน
การทุ่มน้ำหนักต่างกัน ความไวต่างกัน
ใครเล่นเกมแนวกระดานหรือเทินเบสบ่อยจะเจอ
กระบวนท่าเดียวแต่พลิกแพลงได้มากมาย
คอมโบได้มากมาย
เพราะงั้นวิชาดั้งเดิมอาจออกแบบให้ครอบคลุม
แต่พอมาอยู่ในมือพวกบ้าพลัง ...
จะมายืดเยื้อหลอกล่อทำไม ซัดตรงๆแรงๆ การ์ดแตกแล้วซ้ำก็ชนะละ
ถ้าเป็นตัวละครแนวฉลาดล้ำ การย่อวิชาอาจจะตัดส่วนไม่จำเป็นออกไปได้ แล้วเขาอาจจะมีวิชาอื่นทดแทนที่ดีกว่า
อย่างเตียบ่อกี้ที่ไปฝึกวิชาสำนักต่างๆ แต่ใช้ลมปรานเก้าเอี้ยง
กลายเป็นกระบวนท่า a เอาลมปราณ s มาใส่
ระดับเลยเป็น a
+ในขณะที่ ถ้ากระบวนท่า a ลมปราณประจำวิชา a
วิชาจะเป็น a+
แต่ลมปราณคนส่วนใหญ่ฝึกมาก่อน จะทิ้งไปฝึกใหม่บางทีก็เสียเวลามากไป
ตัดๆทิ้งไป แล้วไปใช้ลมปราณระดับ b ที่เคยฝึกๆมาแล้วเป็น วิชาระดับ a- ยังสะดวกกว่า
กลายเป็นหลายๆวิชาที่โดดเด่นด้านกระบวนท่า
แต่ลมปราณระดับต่ำกว่า ก็คงโดนตัดวิชาลมปราณออก
เพราะใช้วิชาอื่นแทนได้
อย่างในเรื่องกระบี่เย้ย วิชาระดับเจ้าสำนัก ลมปราณม่วง ที่เขาว่ากันว่ายิ่งฝึกนานยิ่งเทพ
อยู่ในสำนักที่มีวิชากระบี่ เดียวดาย ที่คนใช้ๆมาก่อนแทบจะไร้พ่าย
ถ้าไม่เพราะลมปราณม่วงดีจริง จะกลายเป็นวิชาสุดยอดของสำนักหรือ
แท้จริงแล้ว ตัวลมปราณอาจไม่สุดยอด แต่มันเป็นลมปราณที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อประสานกับเพลงกระบี่ก็ได้
แต่เนื่องด้วยว่ามันเต็มไปด้วย เพลงกระบี่ที่มีแต่อัจฉริยะที่จะฝึกสำเร็จ กับพลังลมปราณที่เสียเวลาฝึกนานไป
ทั้งที่ไร้พ่ายในยุคก่อนๆ ก็คงสำเร็จทั้ง 2 วิชา แต่น่าจะเพราะต้องการ ความสามารถของคนฝึกมากไป
คนมันเลยแตกออกเป็นสองสาย
สรุปคือ ถ้ามีตัวเลือกวิชาดีๆเยอะ บางอย่างก็ตัดไปเถอะ
แต่ ถ้าเลือกฝึกวิชาเดียว ส่วนใหญ่ฉบับสมบูรณ์จะดีกว่า
