ความจริงคือผู้ชายโดนเหยียดหนักกว่าเพศหญิงเยอะครับเพียงแต่ความอดทนในการไม่ตอบโต้นั้นสูงกว่าเยอะแค่นั้นเอง หลายๆการกระทำที่ผู้ชายปติบัติต่อผู้หณิงฝ่ายชายไม่มีความคิดเหยียดเพศเลย แต่ดันโดนมองว่าเหยียดเพศเสมอ บางที่ผมก็ไม่เข้าใจว่าจะเอายังไงกันแน่คือถ้าฝ่ายหณิงต้องการกล่าวหาว่าฝ่ายชายเหยียดเพศคือทำได้เสมอ แม้แต่ลุกไห้นังในรถสาธารนะยังโดนด่าว่าเหยียดเพศได้หาว่าคิดว่าผู้หณิงอ่อนแอกว่าจนต้องขอที่นั้งเหรอ แต่ฝ่ายชายหลายๆครังที่ถูกเหยียดกลับไม่ตอบโต้อย่างเป้าใหณ่ นี่คือผิดตรงไหนทำใมถึงต้องเหยียดบางที่ก็ซึ่งๆหน้าเลยว่ารังเกรียดที่ทำงานช้ากว่าหรือแย่กว่า คือถ้าคุณอายุงานมากกว่าจบสูงกว่าแต่ดันเปรียบเทียบ ตัวเองกับเด็กจบใหม่หรือคนจบต่ำกว่าฝ่ายชายว่าโง่แค่นี้ก็ทำไม่ได้หรือไช้เวลานานเกินไป มันคือการเหยียดแบบทุกเม็ดครับผู้หณิงมักจะเหยียดฝ่ายชายเสมอถ้าตัวเองทำในบางเรื่องได้ดีกว่า ซึ่งมันคือความคิดว่าฝ่ายหณิงต่ำกว่าอ่อนแอกว่าฝ่ายชายซึ่งเป็นความคิดของฝ่ายหณิง ปกติฝ่ายชายไม่มีความคิดเหยียดอะไรแบบนี้แค่ฝ่ายชายมักจะแบ่งไห้แยกการแข่งขันชายหณิงไปเลย และถ้ามีการแข่งขันในรูปแบบใดๆฝ่ายชายปกติจะไม่ถือสาหรือเเข่งด้วย หรืออย่างน้อยๆคือไม่สนแพ้ชนะกับฝ่ายหณิงจริงจัง แต่ฝ่ายหณิงจะจริงจังในเรื่องพวกนี้มากถ้าชนะเท่ากับฝ่ายชายไช้ไม่ได้