แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: คุยไร้สาระ-ทำไมชอบเฉลยว่าผุ้ชายเป็นใหญ่ที่สุดในบ้าน ก๊วยเจ๋ง/อึ้งย้งและคนอื่นๆ  (อ่าน 2838 ครั้ง)

ออฟไลน์ gaiar33

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 11,229
  • ถูกใจแล้ว: 6563 ครั้ง
  • ความนิยม: +295/-263
  • เพศ: ชาย
  • หัวหน้าองค์กร(ไม่)ลับ
ส่วนตัว  "เพราะผู้ชายส่วนใหญ่ แก้ปัญหาด้วยความรุนแรงเกิน 50% "   เพราะงั้น "ผู้หญิงส่วนใหญ่จึงไม่อยากมีปัญหาด้วย" ยกบ้านให้ปกครองไปเลยล่ะกัน


ดูจากรอบโลกง่ายๆ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน คนที่ฆ่า ทะเลาะวิวาท กันเยอะที่สุดก็ "ผู้ชาย" นั่นแหล่ะ 8)

หรือย่างเคสง่ายๆ ขับรถปาดหน้ากัน ก็พร้อมจะฆ่ากันบนถนนแล้วทุกวินาที

ประสบการณ์ตรงที่ผ่านพวกหัวร้อนมาเยอะ


พวหนังนือการ์ตูนหลายเรื่อง ก็ทำนายไว้ว่า อีกหน่อยผู้ชาย ก็จะฆ่ากันจนสูญพันธุ์หมดจนเหลือแต่เพศหญิง


* gaiar33  ย้ำว่า ความเห็นส่วนตัว  8)

 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: sariora123

ออฟไลน์ KAGUYA

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY2
  • จอมพลหมีผู้เกรียงไกร
  • ****
  • กระทู้: 21,190
  • ถูกใจแล้ว: 7138 ครั้ง
  • ความนิยม: +588/-548
โดยส่วนตัวมองว่าความเท่าเทียมทางเพศนะมันไม่มีอยู่จริง แต่ไอ้ประโยคที่ว่า"ผู้ชายคิดด้วยสมอง ผู้หญิงคิดด้วยหัวใจ"มันก็ไร้สาระนะ เพราะผมเห็นผู้ชายที่คิดด้วยสัญชาตญานกับหัวใจมาก็เยอะ และก็เห็นผู้หญิงที่คิดด้วยสมองตามหลักเหตุผลมาก็เเยะเหมือนกัน
 

ออนไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 13,061
  • ถูกใจแล้ว: 5296 ครั้ง
  • ความนิยม: +445/-445
ส่วนตัว  "เพราะผู้ชายส่วนใหญ่ แก้ปัญหาด้วยความรุนแรงเกิน 50% "   เพราะงั้น "ผู้หญิงส่วนใหญ่จึงไม่อยากมีปัญหาด้วย" ยกบ้านให้ปกครองไปเลยล่ะกัน


ดูจากรอบโลกง่ายๆ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน คนที่ฆ่า ทะเลาะวิวาท กันเยอะที่สุดก็ "ผู้ชาย" นั่นแหล่ะ 8)

หรือย่างเคสง่ายๆ ขับรถปาดหน้ากัน ก็พร้อมจะฆ่ากันบนถนนแล้วทุกวินาที

ประสบการณ์ตรงที่ผ่านพวกหัวร้อนมาเยอะ


พวหนังนือการ์ตูนหลายเรื่อง ก็ทำนายไว้ว่า อีกหน่อยผู้ชาย ก็จะฆ่ากันจนสูญพันธุ์หมดจนเหลือแต่เพศหญิง


* gaiar33  ย้ำว่า ความเห็นส่วนตัว  8)




ผมมองว่าไม่นะ เพราะผู้ชายแม้ว่ามันจะทะเลาะ ฆ่ากันตายยังไง ทำเรื่องแบบนี้มาตลอดหลายพันปี แต่สุดท้ายมันยังวางฐานวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ไว้ได้ มาตั้งแต่โบราณ  ไม่งั้นทำสงครามฆ่ากันแบบสมัยก่อนโน้นตายกันเยอะๆ ป่านนี้ผู้หญิงเป็นใหญ่ ไปแล้ว 


    อ่ะนึกถึงมังงะเรื่องนึงที่ พูดถึงเรื่องที่มนุษย์ต่างดาวที่ผู้ชายมันสูญพันธ์ไปหมด เหลือแต่ผู้หญิง ผุ้หญิงเลยต้องโคลนกันเองขึ้นมา
    ในแง่วิทฯ  เคยได้ยินว่า โครโมโซมของผู้ชายอย่างเดียวมันสามารถทำให้มีเพศชายและหญิงได้ แต่กลับกันโครโมโซมของเพศหญิงด้วยกันเองไม่สามารถสร้างเพศชายได้

 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,382
  • ถูกใจแล้ว: 3104 ครั้ง
  • ความนิยม: +188/-432
[quote/]


 อย่างที่ผมบอกคือ ความมักง่าย ไม่ใช่เรื่องไม่ดี ถ้าใช้ถูกที่ ถูกประเภท 
เทคโน เทคนิคใหม่ๆ เกิดมาเพราะคนเราอยากมักง่ายทำอะไรที่สะดวกกว่าเดิม ก็คงพูดเช่นนี้ได้  แต่กับผู้หญิงคือ  เอาความมักง่าย มาใช้ไม่ถูกเรื่องครับ
อย่างที่ยกตัวอย่าง ว่า ของที่ไม่สามารถ ละเลยขั้นตอนการใช้งานได้เลย ไม่งั้นพัง
    ถ้าให้อยู่ในมือผู้หญิง   พังชิบหายแบบไม่ต้องคิด เห็นตัวอย่างมาเยอะ โดยเฉพาะ ที่บ้าน   
    ผมถึงได้บอกไงว่าผู้หญิงมักใช้ความมักง่ายเอาสะดวกับเรื่องที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง 




ผมว่าความคิดสร้างสรรค์นั้นมีมากน่ะครับ
ผมมองว่าเรา think differently มากกว่าจะเป็นเรื่องเหตุผลหรืออารมณ์
ช่วงนี้ผมศึกษาแนวนิยายย้อนอดีต
ผู้หญิงย้อนอดีตชอบทำอาหาร เปิดร้านอาหาร ค้าขยสร้างความร่ำรวย
ผู้ชา่ยอาจจะเป็นฝรั่ง คิดแต่จะทำอุตสาหกรรมและทำคลองขุด canal อย่าเงดียวเลย
จนผมแซวพวกนั้นว่า
สุยหยางตี้น่าจะคือคนตะวันตกกลับชาติมาเกิด

การเมืองหรือการรบอะไรก็เก่งพอสมควรแต่ไม่สนการเมืองและทั้งชีวิตทุ่มเทที่เมกกะโปรเจค
บ้านเมืองคนจะตายประท้วงอะไรไม่สนใจ สร้างคลองขุดอวินเหอให้เสร็จเท่านั้น
ซึ่งมันก็เป็นประโยชน์จริงนั่นล่ะ แต่ทำให้อาณาจักรเปลืองงบและความวุ่นวายเกิดขึ้นตามมาไปด้วย ???
โดยส่วนตัวมองว่าความเท่าเทียมทางเพศนะมันไม่มีอยู่จริง แต่ไอ้ประโยคที่ว่า"ผู้ชายคิดด้วยสมอง ผู้หญิงคิดด้วยหัวใจ"มันก็ไร้สาระนะ เพราะผมเห็นผู้ชายที่คิดด้วยสัญชาตญานกับหัวใจมาก็เยอะ และก็เห็นผู้หญิงที่คิดด้วยสมองตามหลักเหตุผลมาก็เเยะเหมือนกัน
ก็นั่นล่ะครับ ผมคิดว่าบางครั้งผู้หญิงปิบัตินิยมมากๆในเรื่องอขงการเลือกคู่ครองคือแบบนิยายจียนกลับชาติยุคหกศูนย์ที่ผมอ่านแนะนำให้น้องสาว เลือกคนที่หล่อ รวยสูงร้อยเจ็ดสิบห้าขึ้น ฐาติเข้ากับตนได้แต่งงาน ไม่ต้องสนใจเรื่องความรัก
ว่ากันตรงๆผู้ชายใช้อารมณ์มากกว่าหากมองเรือ่งผลประโยชน์ล้วนๆ
เพอร์ซี่ย์เข้ากับกระทรวงและนายกฟัดจ์มีอะไรไม่ดี?พ่อทำงานมานานปีแค่ทำกองสิ่งประดิษฐ์ของมักเกิ้ลตีจากครอบครัวไปเข้าหานายกฟัดจ์ยังมีโอกาสก้าวหน้าในหน้าที่การงานมากกว่าเพอร์ซี่ย์ทำผิดตรงไหน?
นั่นคือแนวความคิดที่มองแต่ผลประโยชน์ล้วนๆไม่เอาอารมณืมาเกี่ยวข้องล่ะครับ
ส่วนตัว  "เพราะผู้ชายส่วนใหญ่ แก้ปัญหาด้วยความรุนแรงเกิน 50% "   เพราะงั้น "ผู้หญิงส่วนใหญ่จึงไม่อยากมีปัญหาด้วย" ยกบ้านให้ปกครองไปเลยล่ะกัน


ดูจากรอบโลกง่ายๆ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน คนที่ฆ่า ทะเลาะวิวาท กันเยอะที่สุดก็ "ผู้ชาย" นั่นแหล่ะ 8)

หรือย่างเคสง่ายๆ ขับรถปาดหน้ากัน ก็พร้อมจะฆ่ากันบนถนนแล้วทุกวินาที

ประสบการณ์ตรงที่ผ่านพวกหัวร้อนมาเยอะ


พวหนังนือการ์ตูนหลายเรื่อง ก็ทำนายไว้ว่า อีกหน่อยผู้ชาย ก็จะฆ่ากันจนสูญพันธุ์หมดจนเหลือแต่เพศหญิง


* gaiar33  ย้ำว่า ความเห็นส่วนตัว  8)


ฮา ไม่หรอกครับ
ทางเทคนิค คนเรา pragmatic ปฏิบัตินิยมมากกว่าที่เราคิด
อย่างสมัยนี้ที่อัตราประชากรโสดมากขึ้นเพระาแต่ละคนคำนวณเรื่องความเสี่ยงจากการแต่งงานมากขึ้น
เพจอีเจ๊ยบเลียบด่วยน ยังเคยเล่นมุกตกใจว่า ไม่เคยรู้เลยว่าเพจตูจะมีคนเวอร์จิ้นมากขนาดนี้ ;D
ปรบมือ เม้นบน มีสาระมาก


เอาเข้าจริงๆ ในชีวิตจริงๆ ผมมักเจอแต่พวกที่มีตรรกะประหลาดๆ  ในบ้านก็ คนที่คิดจะกินน้ำยาฆ่าเชื้อไปฆ่าโควิต  :D  (ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจอคนแบบในข่าวตรงหน้าตัวเอง )
     หรือแบบว่าเปิดยากันยุงไฟฟ้าในห้อง นี่ถึงกับต้องด่าเลยเสียงดังไม่งั้น ผมบอกเลยว่า ขี้เกียจเก็บศพ แจ้งราชการ (ถึงผู้ใหญ่บ้านจะอยู่ข้างบ้านก็เหอะนะ)
     ในบางเรื่องผมก็เพียรกับตรรกะแนวคิด เหตุผลแปลก ของผู้หญิงเหมือนกัน แบบว่าเพลียรมาก คิดออกมาได้ไงวะ ทั้งๆ ทีเรื่องบางเรื่องสามารถทำหรือจัดการได้ดี


 
ผมให้เครดิตความคิดสร้างสรรค์ของผู้หญิงในหลายๆเรื่องมากนะครับพยายามมองในอีกแง่มุม ผู้หญิงคงมองว่าผุ้ชายแปลกๆไในหลายๆเรื่องเหมือนกัน
แต่ที่ผมตั้งกระทู้นี้มาคือทั้งกิมมย้ง เจเค อ.นาโอโกะ
แตกต่างกันเชื้อชาติภาษา ประเพณี
ก็ดันเล่นมุกเดียวกันน่ะครับ
ว่าพ่ออ่อนแอกว่าแม่ แต่เป็นหัวหน้าครอบครัวนะว่างั้น

[quote/]
ตัวอย่าของท่านคือ หนึ่งในเรื่องเล่าของอิทธิพลจากการใช้ชีวิตในกิจกรรมแต่ละวัน อย่าง; ถูกประทุษร้าย (HP series), ช เหนือ และ ญ คล้ายคนรับใช้อย่างไร้สิทธิส่วนตัว (ธรรมเนียมหลายชาติ ที่ยอมให้ ช เหนือกว่า) หรือราว มีลูกมากจน ญ เป็นแม่บ้านแบบเลี่ยงไม่ได้,


ข่าวของท่าน ผมทั้งเคยได้ยินและเจอประสบการณ์โดยตรงมาก่อน ผู้ฝึกตนในจิตวิทยา ศิลปศาสตร์ หรือวาทศาสตร์ ซึ่งก็มีส่วนกับการฝึกใช้อารมณ์เพื่อผลลัพธ์; กล่าวได้เช่น ครูรร.ประถม ญ หลายคนไม่ได้เก่งลงโทษ ตำหนิ แต่ใช้วิธีประชดวิพากษ์ให้นักเรียนฟัง, เป็นอาจารย์แก่ลูกศิษย์เก่าที่เคยทำผลงานวาดภาพแปะเต็มกระดานโชว์เต็มไปหมด


และอีกหลายคนเป็นอ.คณิตศาสตร์ - วิทย์เก่งๆที่จินตนาการเยี่ยมจนเกือบพูดภาษาปกติไม่ได้ ขณะที่ด้านลบหนักๆก็มี เช่น; ชู้, ‘สงครามสนามรัก’ ที่เถื่อนน้อยกว่า ช, เป็นต้นเหตุของ ช ตีกันเพราะใช้เสน่ห์โดยไม่รู้ตัว ไม่ค่อยมีใครเป็นนักกีฬา เพราะค่านิยมชวนนินทา ‘หน้าสวย หรือ น่ารัก’ จะเสียเปล่า อย่างน้อยซัก 72% ที่ผมเคยเจอมาคือ ไม่กลายเป็นเจ้าสำอาง ฟุ่มเฟือย ก็ขี้เกียจตกงานอยู่กับบ้านไปเลยก็มี


28%; ‘Housewife’ คืออะไร เพราะทำงานเช้ากินข้าวพร้อมลูก สามีทุกวัน แถมลูกยังพึ่งพาตัวเองได้ดีด้วย ครูทีมีวิจารณญาณ หรือ สามัญสำนึกที่ดี เป็นที่เคารพแก่คนร่วมงาน กลายเป็นแฟนคุณภาพที่ทำเอา ช Playboy เป็นเด็กดีมาเยอะ บางคู่ก็กลายเป็น Geek ไปเลยก็มี ส่วนที่ไม่เข้าพวกก็กลายเป็น ‘สตรีอัจฉริยะ’ ไปเลย ทำให้เป็นที่ขัดตาพวกหน้าเงินทั้งหลาย


สำหรับความแตกต่างกับ ช สั้นๆ ก็คงจะตอบได้ว่าอาจจะเหนือกว่าด้านตรรกะ เหตุผลและนักปฏิบัติ - นักคิด และบางครั้งก็จริงจังเกินไป หรือริษยาขึ้นสมองเพราะอัตตาในใจมาก อาจเป็นเพราะพวกเขาเป็นพ่อไม่ได้จนกว่า ญ จะคลอดลูกให้ บางคนเป็นคนสามัญสำนึกก็อยากเป็นพ่อมากกว่าผัว อีกกลุ่มหนึ่งอาจกลับตัวไม่ก็กลาย ‘พ่อลูกลืม’ ไปเลยก็มี
คนฉลาดมากจะกลายเป็นโรคซึมเสร้าก็เป้นปรากฎการณ์ที่น่าสนใจน่ะครับ
ไปจเอคนวิเคาระห์ว่าหาศาสนาและพระคริสต์ซะ
เรือ่งการเป็นผู้นำครอบครัวผมว่ามันมีอะไรที่มากกว่านั้น ไม่ใช่ผู้ชายที่ควบคุมครอบครัวอย่างเดียวตามที่คิดกันมีอีกคนหนึ่งทำภาพสะท้อนของเจเคที่หใ้คุณวิสลี่ย์ฺเซย์โนไลบ่เพอร์ซี่ออกจากบ้าน
คือในนิยาย ้านเมืองเกิดหายนะ
ผู้ชายจะเป็นคนถามคำถามพระเอกแต่คำถามจะมากจาการกระวิบของผู้หญิง
คือผู้หญิงเป็นนคนเกลี้ยกล่อมผู้ชายอยู่ข้างหลังนั่นเอง แต่หใ้ผู้ชายที่บ้าเลือดมากกว่าตั้งคำถามกับคนแปลกหน้าที่มีพลังมากกว่า
[quote/]


ผมมองว่าไม่นะ เพราะผู้ชายแม้ว่ามันจะทะเลาะ ฆ่ากันตายยังไง ทำเรื่องแบบนี้มาตลอดหลายพันปี แต่สุดท้ายมันยังวางฐานวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ไว้ได้ มาตั้งแต่โบราณ  ไม่งั้นทำสงครามฆ่ากันแบบสมัยก่อนโน้นตายกันเยอะๆ ป่านนี้ผู้หญิงเป็นใหญ่ ไปแล้ว 


    อ่ะนึกถึงมังงะเรื่องนึงที่ พูดถึงเรื่องที่มนุษย์ต่างดาวที่ผู้ชายมันสูญพันธ์ไปหมด เหลือแต่ผู้หญิง ผุ้หญิงเลยต้องโคลนกันเองขึ้นมา
    ในแง่วิทฯ  เคยได้ยินว่า โครโมโซมของผู้ชายอย่างเดียวมันสามารถทำให้มีเพศชายและหญิงได้ แต่กลับกันโครโมโซมของเพศหญิงด้วยกันเองไม่สามารถสร้างเพศชายได้


แนวดิสโทเปียอาจจะเป็นอย่างนั้นทีผู่้ชายฆ่ากันเอง
แต่ผู้ชายก็โดนควบคุมด้วยวัฒนธรรมเช่นกันครับ
"ไม่เล่นงานใครข้างหลัง"
"เคลียร์ใจจับมือกันคือจบ"
ผมมองว่ามันคือธรรมเนียมที่สะท้อนการเาอตัวรอดของระหว่างผู้ชายมาตั้งแต่สมัยบรรพกาลน่ะครับ
เอาแบบข้อเท็จจริงคือ
เราที่ไม่อชบชกต่อยอาจจะไม่เห้ฯด้วยกับพ่อแม่หรือลุงที่พูดว่า
"ผู้ชายชกกันไปเถอะเดี๋ยวมันก็ดีกัน"
ซึ่งก็มีเคสอย่างนั้นจริงๆเหมือนกัน แต่ต้องอยู่ภายใต้การต่อยกันในฐานะเท่าเทียม

เปรียบเปรยโดราเอมอน
ก็ตอนที่โนบิสึเกะมาโลกอดีต ไจแอนท์มาหาเรือ่งโนบิตะ โนบิสึเกะไม่ยอมต่อยกันพักหนึ่งไจแอนท์ชมว่าใจกล้าไม่เลวถูกใจแล้วเลยชวนไปเล่นเบสบอลกัน ???
มุกโชวเน็นที่กระทืบศัตรูแล้วเอามาเป็นเพื่อนได้ ถูกใจเด็กผู้ชายแนวโชวเน็นก็มีที่มาจากสัญชาตญาณตรงนี้ล่ะครับ
วัฒนธรรมว่า"เล่นงานกันข้างหลังคือพวกตุ๊ดตู่""ลุกผู้ชายชกกันต่อหน้าคือจบกันตรงนั้น"
แต่ยุคสมัยใช้อาวุธมันทำให้ทำอย่างนรั้นกันไม่ได้ล่ะมั้ง
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออนไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 13,061
  • ถูกใจแล้ว: 5296 ครั้ง
  • ความนิยม: +445/-445
เรื่องทำนองนี้ผมเคยฟังจาก คนอื่นว่า ผู้ชายแม้ว่ามันจะทะเลาะฆ่ากันตาย กันอย่างไร
   แต่ทว่าในท้ายที่สุดหากก็ยังรักษาผลประโยชน์ของพวกเดียวกันเอง ไม่เลือกที่จะทำลายกันเองจนไม่เหลืออะไร  เลยเป็นที่มาของฐานรากวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่
   ไม่อย่างนั้นยุคอดีตที่ เกณเอาผู้ชายออกไปรบกันตายกันเยอะแยะสมัยก่อน และโดยรวมผู้หญิงก็มีจำนวนเยอะกว่าผู้ชายอยู่ด้วยแล้ว ผมมองว่าหากผุ้หญิงตั้งใจจะครองโลกแทนชายหรือสร้างฐานรากทางวัฒนธรรม ผุ้หญิงเป็นใหญ่กว่าย่อมมีสิทธิทำได้  แต่กลับไม่เป็นไปอย่างนั้นซะนี่

 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,382
  • ถูกใจแล้ว: 3104 ครั้ง
  • ความนิยม: +188/-432
เรื่องทำนองนี้ผมเคยฟังจาก คนอื่นว่า ผู้ชายแม้ว่ามันจะทะเลาะฆ่ากันตาย กันอย่างไร
   แต่ทว่าในท้ายที่สุดหากก็ยังรักษาผลประโยชน์ของพวกเดียวกันเอง ไม่เลือกที่จะทำลายกันเองจนไม่เหลืออะไร  เลยเป็นที่มาของฐานรากวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่
   ไม่อย่างนั้นยุคอดีตที่ เกณเอาผู้ชายออกไปรบกันตายกันเยอะแยะสมัยก่อน และโดยรวมผู้หญิงก็มีจำนวนเยอะกว่าผู้ชายอยู่ด้วยแล้ว ผมมองว่าหากผุ้หญิงตั้งใจจะครองโลกแทนชายหรือสร้างฐานรากทางวัฒนธรรม ผุ้หญิงเป็นใหญ่กว่าย่อมมีสิทธิทำได้  แต่กลับไม่เป็นไปอย่างนั้นซะนี่


มีคำถามที่ผมสงสัยมาและเจอถามว่า
นิสัยเราก่อเกิดวัฒนธรรมหรือวัฒนธรรมก่อให้เกิดนิสัย?
มุกหนึ่งที่ผมเจอในมหาสงครามชิงบัลลังก์น่ะครับTheReach
วิเคราะก์กันกับ GM ว่าคืดิรแดนที่ยังเชือ่เกีบยรติศักดิ์ของอัศวินอยู่
ผมบอกว่าเพราะมันคือดินแดนอุดมสมบูรณ์ ไม่มีอาหารขาดแคลนย ทำให้ประชาชนยังเชื่อว่ามีสิ่งที่สำคัญกว่าอาหารหรือเงินรา นั่นคือเกียรติของอัศวิน
GM บอกว่านั่้นก็ใช่บางส่วนแต่ในวัฒนธรรมนั้นอาจจะมีนิยนั้นมาตั้งแต่ต้นแล้วแค่พัฒนามาเป้นวัฒนธรรมอย่างเป็นทางการ
เราสังเกตดีดีแม้แต่ในประวัติศาสตร์สามก๊กที่ฝรั่งแซวว่าคือมหาศึกชิงบัลลังก์แบบมีสเตียรอยด์ที่เปลี่ยนฝ่ายหักหลังกันไปมา

คนที่รอดได้คือคนที่ทำตัวแบบพระเอกโชวเน็นคือไว้ชีวิตฝ่ายตรงข้ามที่ยอมสวามิภักดิ์เป็นลุกน้อง
หากให้ยกโวลเดอมอร์อีกครั้ง
ทางเทคนิคโวลเดอมอร์ก็พยายามเกลี้ยกล่อมให้คนเข้าร่วมก๊วนน่ะครับ เผื่อจะลืมกันไปแล้ว ฮายึดโรงเรียนก่อนเพื่อสอนศาสตร์มืดให้เด็กรุ่นต่อไปพี่แกให้ความสำคัญกับการศึกษาเอามากๆ ฮา :P
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออนไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 13,061
  • ถูกใจแล้ว: 5296 ครั้ง
  • ความนิยม: +445/-445
 ;Dในความเป็นจริงแล้วเกียรติของอัศวินไม่ได้มาจากอัศวิน แต่มาจากศัตรูของอัศวิน ครับ
 :) :) :) :) :) :) :) :)
ย้อนแย้งดีไหมล่ะ  ;D เรื่องนี้น่าจะย้อนไปในสมัยสงครามศาสนา(ครูเสด) โน้นแหละ ที่ฝ่ายซาลาดิน นั้น
ต่อสู้อย่างมีระบบระเบียบ มีเกียรติรักษาในคำพูดของตัวเอง
เลยเป็นที่มาของ เกียรติและศักษ์ศรี ของอัศวินที่คนเริ่มต้นไม่ใช่อัศวิน ;D ;D ;D

แบบในสามก๊กคนที่ ถูกทำให้เชื่อว่าโง่และอ่อนแอที่สุดกลับกันอาจเป็นคนที่ฉลาดที่สุด
อย่างเล่าเสี้ยน ที่แม้ว่าจะรบแพ้ ยอมสวามิพรรก โดนด่าว่าเป็นพวกขี้ขลาด
แต่กลับรักษาชีวิตไว้ได้ เมืองไม่โดนถล่ม เรียกได้ว่า อย่างน้อยการทูตการเจรจาฝีปากต้องดีไม่น้อยแหละนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2021, 12:24:50 AM โดย sariora123 »
 

ออฟไลน์ gaiar33

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 11,229
  • ถูกใจแล้ว: 6563 ครั้ง
  • ความนิยม: +295/-263
  • เพศ: ชาย
  • หัวหน้าองค์กร(ไม่)ลับ
จริงๆประชากรโลกมันควรจะเกือบหมดเพราะสงครามใหญ่ๆมานานแล้ว

แต่แทบทุกประเทศก็ใช้การบังคับแต่งงาน เจตนาข่มขืน ออกกฎหมายให้มีลูกได้เยอะๆ เพือเพิ่มประชากรของตัวเอง
แต่ก็อีกไม่นานหรอก เพราะทุกวันนี้คนก็อ้างเสรี เป็นโสดมากขึ้น การเกิดลดลง การตายจากสาเหตุต่างๆมากขึ้น สงครามและการฆ่ากันรายวันก็ยังไม่จบ

ป้ายหน้าผู้ชายเป็นใหญ่ในครอบครัวก็จะค่อยๆหมดไปครับ
ลองถามดูก็ได้ทุกวันนี้คนจะแต่งงานไปทำไม ในเมื่อเด็กรุ่นใหม่มันชอบพูดกันว่า
"อย่ามามีลูก เพราะอยากทวงบุญคุณตอนแก่"
 

ออฟไลน์ KAGUYA

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY2
  • จอมพลหมีผู้เกรียงไกร
  • ****
  • กระทู้: 21,190
  • ถูกใจแล้ว: 7138 ครั้ง
  • ความนิยม: +588/-548
จริงๆประชากรโลกมันควรจะเกือบหมดเพราะสงครามใหญ่ๆมานานแล้ว

แต่แทบทุกประเทศก็ใช้การบังคับแต่งงาน เจตนาข่มขืน ออกกฎหมายให้มีลูกได้เยอะๆ เพือเพิ่มประชากรของตัวเอง
แต่ก็อีกไม่นานหรอก เพราะทุกวันนี้คนก็อ้างเสรี เป็นโสดมากขึ้น การเกิดลดลง การตายจากสาเหตุต่างๆมากขึ้น สงครามและการฆ่ากันรายวันก็ยังไม่จบ

ป้ายหน้าผู้ชายเป็นใหญ่ในครอบครัวก็จะค่อยๆหมดไปครับ
ลองถามดูก็ได้ทุกวันนี้คนจะแต่งงานไปทำไม ในเมื่อเด็กรุ่นใหม่มันชอบพูดกันว่า
"อย่ามามีลูก เพราะอยากทวงบุญคุณตอนแก่"

ไม่ใช่ว่าเพราะทุกวันนี้ผู้ชายดีๆมันมีน้อยลงเหรอครับ แล้วก็ก็ไอ้เรื่องนิยมโสดนะมันก็ทั้ง2เพศนะแหละ
 

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,044
  • ถูกใจแล้ว: 3007 ครั้ง
  • ความนิยม: +208/-2
จริงๆประชากรโลกมันควรจะเกือบหมดเพราะสงครามใหญ่ๆมานานแล้ว

แต่แทบทุกประเทศก็ใช้การบังคับแต่งงาน เจตนาข่มขืน ออกกฎหมายให้มีลูกได้เยอะๆ เพือเพิ่มประชากรของตัวเอง
แต่ก็อีกไม่นานหรอก เพราะทุกวันนี้คนก็อ้างเสรี เป็นโสดมากขึ้น การเกิดลดลง การตายจากสาเหตุต่างๆมากขึ้น สงครามและการฆ่ากันรายวันก็ยังไม่จบ

ป้ายหน้าผู้ชายเป็นใหญ่ในครอบครัวก็จะค่อยๆหมดไปครับ
ลองถามดูก็ได้ทุกวันนี้คนจะแต่งงานไปทำไม ในเมื่อเด็กรุ่นใหม่มันชอบพูดกันว่า
"อย่ามามีลูก เพราะอยากทวงบุญคุณตอนแก่"



ก็ถ้าลูกผมพูดงี้ผมก็ไล่หนีจากบ้านทันทีเลยนะ ;D 
ยิ่งเป็นเด็กมัธยมนี่หนุกหนาน
คืออาจจะช่วยจนอายุบรรลุนิติภาวะทางกฏหมายกรณีไม่เลี้ยงดู


แต่เงินเรียนมหาลัย หาเองเลย ค่าเรียนพิเศษ ต่างๆหาเองเลย ไปสอบก็ตามสบายเลย
คือแค่เลี้ยงดูยันครบอายุที่กฏหมายกำหนดพอ
แล้วตัดจากกองมรดกด้วย ;D   


คือถ้าเอ็งคิดว่าการเลี้ยงเอ็งเป็นความพอใจของพ่อแม่ไม่ใช่บุญคุณ
ก็รับการดูแลขั้นต่ำตามที่กฏหมายระบุไว้พอ ;D


เดี๋ยวปั้มลูกใหม่ก็ได้ ถ้าแก่กันจนไม่มีประจำเดือนก็เอามรดกที่เตรียมไว้ไปให้หมอช่วย ;D
 

ออฟไลน์ pol

  • สาวกผู้สนับสนุนเซนนิคุง2Y
  • จอมทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 17,728
  • ถูกใจแล้ว: 20681 ครั้ง
  • ความนิยม: +363/-6
  • เพศ: ชาย
  • นักอู้มือหนึ่ง
ส่วนตัว  "เพราะผู้ชายส่วนใหญ่ แก้ปัญหาด้วยความรุนแรงเกิน 50% "   เพราะงั้น "ผู้หญิงส่วนใหญ่จึงไม่อยากมีปัญหาด้วย" ยกบ้านให้ปกครองไปเลยล่ะกัน


ดูจากรอบโลกง่ายๆ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน คนที่ฆ่า ทะเลาะวิวาท กันเยอะที่สุดก็ "ผู้ชาย" นั่นแหล่ะ 8)

หรือย่างเคสง่ายๆ ขับรถปาดหน้ากัน ก็พร้อมจะฆ่ากันบนถนนแล้วทุกวินาที

ประสบการณ์ตรงที่ผ่านพวกหัวร้อนมาเยอะ


พวหนังนือการ์ตูนหลายเรื่อง ก็ทำนายไว้ว่า อีกหน่อยผู้ชาย ก็จะฆ่ากันจนสูญพันธุ์หมดจนเหลือแต่เพศหญิง


* gaiar33  ย้ำว่า ความเห็นส่วนตัว  8)


แหมๆท่านพูดยังกับผู้หญิงนั้นแสนดีไม่โหดเหี้ยมเลยสักคนนะครับ บูเช็คเทียนใจดีเนอะ?  ซูสีไทเฮานี่คงจะโคตรแม่พระเลยนะท่าน :)   มนุษย์เรามันก็พอๆกันนั่นแหละครับขอให้มีอำนาจเมื่อไร ความเลวจะปรากฏกันทุกคน
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: sariora123

ออนไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 13,061
  • ถูกใจแล้ว: 5296 ครั้ง
  • ความนิยม: +445/-445
[quote/]ไม่ใช่ว่าเพราะทุกวันนี้ผู้ชายดีๆมันมีน้อยลงเหรอครับ แล้วก็ก็ไอ้เรื่องนิยมโสดนะมันก็ทั้ง2เพศนะแหละ
โดยสัดส่วนประชากรแล้ว ชายมีน้อยกว่าผู้หญิงด้วยนะ   
แล้วส่วนมาก ที่ผมเห็น หมายถึงผู้หญิงล่ะนะ  เอาแบบปกติดี ๆ นี่ไม่เคยเจอเลยสักคน
 :)


จริงๆประชากรโลกมันควรจะเกือบหมดเพราะสงครามใหญ่ๆมานานแล้ว

แต่แทบทุกประเทศก็ใช้การบังคับแต่งงาน เจตนาข่มขืน ออกกฎหมายให้มีลูกได้เยอะๆ เพือเพิ่มประชากรของตัวเอง
แต่ก็อีกไม่นานหรอก เพราะทุกวันนี้คนก็อ้างเสรี เป็นโสดมากขึ้น การเกิดลดลง การตายจากสาเหตุต่างๆมากขึ้น สงครามและการฆ่ากันรายวันก็ยังไม่จบ

ป้ายหน้าผู้ชายเป็นใหญ่ในครอบครัวก็จะค่อยๆหมดไปครับ
ลองถามดูก็ได้ทุกวันนี้คนจะแต่งงานไปทำไม ในเมื่อเด็กรุ่นใหม่มันชอบพูดกันว่า
"อย่ามามีลูก เพราะอยากทวงบุญคุณตอนแก่"

ตลอด ปวศ. โลก เท่าที่มีบันทึก ผู้ชายมันฆ่ากันเองมากี่พันปีแล้วท่าน  :) ;D
และมันก็ยังคงฆ่ากันต่อไปอีกนั่นแหละ  แต่ทำไมหลายพันปีมานี้ วัฒนธรรมหญิงเป็นใหญ่มันเกิดขึ้น มาแบบจริงๆ จังๆ ไม่ค่อยได้เลยล่ะ
ประวัติศาสตร์มักซ้ำรอยเสมอ นี่คือความจริงของโลกเรา  ;) ;D

เหตุผล ที่ผมเองไม่มีเมียสักที เพราะแม่งหาดีๆ ไม่ค่อยได้แหละนะ   
มันมีหมดนั่นแหละ ไม่ว่าจะชายหรือหญิง ที่แม่งหวังจะไปเกาะคู่ตัวเองแดก 
ถ้าหากมองในแง่โลกเสรี และความเท่าเทียมกันทางเพศ แล้ว ชีวิตคู่นั้นควร ช่วยกันหากิน หาเลี้ยงครอบครัว ช่วยกัน สร้าง ไม่ใช่ผลักไปให้ใครคนใดคนนึง
      นึงถึงมู้ในพันทิปเก่า ที่ผัวจนก็ว่าไม่ดีจะทิ้งไปหาผัวที่รวยกว่า อืม มองมุนกลับ มึงไม่ทำมาหากินให้รวยแล้วไปหาผัวตามสเปกมึงวะ
สังคมที่ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันผมไม่เคยเห็นจริงๆ อ่ะนะ เห็นแต่พวกกระแดะอยาก...... มากกว่า เพรียกับโลกนี้  ???


[quote/]


ก็ถ้าลูกผมพูดงี้ผมก็ไล่หนีจากบ้านทันทีเลยนะ ;D 
ยิ่งเป็นเด็กมัธยมนี่หนุกหนาน
คืออาจจะช่วยจนอายุบรรลุนิติภาวะทางกฏหมายกรณีไม่เลี้ยงดู


แต่เงินเรียนมหาลัย หาเองเลย ค่าเรียนพิเศษ ต่างๆหาเองเลย ไปสอบก็ตามสบายเลย
คือแค่เลี้ยงดูยันครบอายุที่กฏหมายกำหนดพอ
แล้วตัดจากกองมรดกด้วย ;D   


คือถ้าเอ็งคิดว่าการเลี้ยงเอ็งเป็นความพอใจของพ่อแม่ไม่ใช่บุญคุณ
ก็รับการดูแลขั้นต่ำตามที่กฏหมายระบุไว้พอ ;D


เดี๋ยวปั้มลูกใหม่ก็ได้ ถ้าแก่กันจนไม่มีประจำเดือนก็เอามรดกที่เตรียมไว้ไปให้หมอช่วย ;D


จงจำไว้ครับว่า
ถ้าหาก เลี้ยงลูกคนแรกเป็นอย่างไร
 มีลูกคนต่อๆ ไปก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไรหลอกนะ 
เท่าที่ผมเห็นคนมีลูกหลายๆ คน สุดท้าย มันจะมีนิสัยร่วมเหมือนๆ กันบางอย่างเพราะคนเลี้ยง นั่นแหละ  ไม่หนีไปไหนไม่ไกลหลอก

    เด็กมันเหมือนคอมที่ไม่ได้ลงโปรแกรม  ปัญหาคือการเลี้ยงดูที่เหมือนการใส่โปรแกรมเข้าไปนั่นแหละ     
     ผมเคยได้ยินมาเยอะแล้วไม่ว่าจะฝรั่ง เอเชีย ด้วยกันเอง ด่าคนไทยนี่น่ะเลี้ยงลูกไม่เป็น ไม่เข้าใจตรรกะ เหตุผล การเลี้ยงดูเด็ก  ผมล่ะนึกถึงหนังสือ
    เลี้ยงลูกอย่างไรให้เป็นฆาตรกร   คือเขาตามศึกษาประวัติของฆาตรกรโรคจิตคนนึงหรือหลายๆ คนจนทำให้เข้าใจว่า อะไรทำให้เขาเป็นแบบนั้นได้  รวมไปถึงลักษณะการเลี้ยงดูสภาพแวดล้อมต่าง   ใช้เป็นคู้มืออ้างอิงในการเลี้ยงเด็กได้
    โรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว 
     ฆาตรกร เด็กแว้น ขยะสังคม  คนขี้โกง  คนจังไร ทั้งหลายก็ไม่ได้เกิดขึ้นในวันเดียวเช่นกัน 
     เขาถูกเลี้ยงดูมาให้เป็นแบบนั้น แต่คนเรามันไม่เข้าใจเรื่องนี้ต่างหาก


 ;D ;D ;D ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2021, 12:28:21 PM โดย sariora123 »
 

ออฟไลน์ pol

  • สาวกผู้สนับสนุนเซนนิคุง2Y
  • จอมทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 17,728
  • ถูกใจแล้ว: 20681 ครั้ง
  • ความนิยม: +363/-6
  • เพศ: ชาย
  • นักอู้มือหนึ่ง
 ;Dในความเป็นจริงแล้วเกียรติของอัศวินไม่ได้มาจากอัศวิน แต่มาจากศัตรูของอัศวิน ครับ
 :) :) :) :) :) :) :) :)
ย้อนแย้งดีไหมล่ะ  ;D เรื่องนี้น่าจะย้อนไปในสมัยสงครามศาสนา(ครูเสด) โน้นแหละ ที่ฝ่ายซาลาดิน นั้น
ต่อสู้อย่างมีระบบระเบียบ มีเกียรติรักษาในคำพูดของตัวเอง
เลยเป็นที่มาของ เกียรติและศักษ์ศรี ของอัศวินที่คนเริ่มต้นไม่ใช่อัศวิน ;D ;D ;D

แบบในสามก๊กคนที่ ถูกทำให้เชื่อว่าโง่และอ่อนแอที่สุดกลับกันอาจเป็นคนที่ฉลาดที่สุด
อย่างเล่าเสี้ยน ที่แม้ว่าจะรบแพ้ ยอมสวามิพรรก โดนด่าว่าเป็นพวกขี้ขลาด
แต่กลับรักษาชีวิตไว้ได้ เมืองไม่โดนถล่ม เรียกได้ว่า อย่างน้อยการทูตการเจรจาฝีปากต้องดีไม่น้อยแหละนะ

จริงๆแล้วเกียรติของอัศวินถูกสร้างขึ้นมาเพื่อควบคุมอัศวินต่างหากครับ(ฮา)  เพราะสมัยก่อนๆเลยอัศวินนี่โคตรโจร ;D  ตีกัน-ประลองกัน-ข่มขืนชาวบ้านฯลฯ แล้วราชากับขุนนางก็เดือดร้อนเพราะเก็บภาษีไม่ได้(ฮา) โบสถ์ก็ซวยเพราะไม่ได้รับเงินบริจาคเลยสร้างเรื่องราวดีๆที่อัศวินเป็นพระเอกขึ้นมาซึ่งก็ดีขึ้นมา"นิดนึง"
 

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,044
  • ถูกใจแล้ว: 3007 ครั้ง
  • ความนิยม: +208/-2
[quote/]
โดยสัดส่วนประชากรแล้ว ชายมีน้อยกว่าผู้หญิงด้วยนะ   
แล้วส่วนมาก ที่ผมเห็น หมายถึงผู้หญิงล่ะนะ  เอาแบบปกติดี ๆ นี่ไม่เคยเจอเลยสักคน
 :)


[quote/]
ตลอด ปวศ. โลก เท่าที่มีบันทึก ผู้ชายมันฆ่ากันเองมากี่พันปีแล้วท่าน  :) ;D
และมันก็ยังคงฆ่ากันต่อไปอีกนั่นแหละ  แต่ทำไมหลายพันปีมานี้ วัฒนธรรมหญิงเป็นใหญ่มันเกิดขึ้น มาแบบจริงๆ จังๆ ไม่ค่อยได้เลยล่ะ
ประวัติศาสตร์มักซ้ำรอยเสมอ นี่คือความจริงของโลกเรา  ;) ;D

เหตุผล ที่ผมเองไม่มีเมียสักที เพราะแม่งหาดีๆ ไม่ค่อยได้แหละนะ   
มันมีหมดนั่นแหละ ไม่ว่าจะชายหรือหญิง ที่แม่งหวังจะไปเกาะคู่ตัวเองแดก 
ถ้าหากมองในแง่โลกเสรี และความเท่าเทียมกันทางเพศ แล้ว ชีวิตคู่นั้นควร ช่วยกันหากิน หาเลี้ยงครอบครัว ช่วยกัน สร้าง ไม่ใช่ผลักไปให้ใครคนใดคนนึง
      นึงถึงมู้ในพันทิปเก่า ที่ผัวจนก็ว่าไม่ดีจะทิ้งไปหาผัวที่รวยกว่า อืม มองมุนกลับ มึงไม่ทำมาหากินให้รวยแล้วไปหาผัวตามสเปกมึงวะ
สังคมที่ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันผมไม่เคยเห็นจริงๆ อ่ะนะ เห็นแต่พวกกระแดะอยาก...... มากกว่า เพรียกับโลกนี้  ???


[quote/]


จงจำไว้ครับว่า
ถ้าหาก เลี้ยงลูกคนแรกเป็นอย่างไร
 มีลูกคนต่อๆ ไปก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไรหลอกนะ 
เท่าที่ผมเห็นคนมีลูกหลายๆ คน สุดท้าย มันจะมีนิสัยร่วมเหมือนๆ กันบางอย่างเพราะคนเลี้ยง นั่นแหละ  ไม่หนีไปไหนไม่ไกลหลอก

    เด็กมันเหมือนคอมที่ไม่ได้ลงโปรแกรม  ปัญหาคือการเลี้ยงดูที่เหมือนการใส่โปรแกรมเข้าไปนั่นแหละ     
     ผมเคยได้ยินมาเยอะแล้วไม่ว่าจะฝรั่ง เอเชีย ด้วยกันเอง ด่าคนไทยนี่น่ะเลี้ยงลูกไม่เป็น ไม่เข้าใจตรรกะ เหตุผล การเลี้ยงดูเด็ก  ผมล่ะนึกถึงหนังสือ
    เลี้ยงลูกอย่างไรให้เป็นฆาตรกร   คือเขาตามศึกษาประวัติของฆาตรกรโรคจิตคนนึงหรือหลายๆ คนจนทำให้เข้าใจว่า อะไรทำให้เขาเป็นแบบนั้นได้  รวมไปถึงลักษณะการเลี้ยงดูสภาพแวดล้อมต่าง   ใช้เป็นคู้มืออ้างอิงในการเลี้ยงเด็กได้
    โรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว 
     ฆาตรกร เด็กแว้น ขยะสังคม  คนขี้โกง  คนจังไร ทั้งหลายก็ไม่ได้เกิดขึ้นในวันเดียวเช่นกัน 
     เขาถูกเลี้ยงดูมาให้เป็นแบบนั้น แต่คนเรามันไม่เข้าใจเรื่องนี้ต่างหาก


 ;D ;D ;D ;D


การเลี้ยงเด็กในแต่ละช่วงอายุจะต่างกันครับ
หมายถึงคนเลี้ยงนะ
สังเกตุได้เลย ตอนพ่อแม่เราสอนเราตอนเราเป็นเด็ก
กับตอนเลี้ยงหลานจะต่างกันมากพอสมควรเลย


สาเหตุหลักคือพ่อแม่ตอนอายุน้อยแล้วกำลังสร้างตัว
จะเลี้ยงดูเด็กแตกต่างกับตอนวัยที่มีตัง แล้วอายุมากขึ้น


เพราะงั้นลูกที่อายุห่างกันสิบยี่สิบปีจะได้นิสัยที่แตกต่างกันค่อนข้างเยอะ


เพราะงั้นไม่ต้องกลัวครับได้ลองผิดลองถูกสั่งสมประสพกามมามากๆลูกคนหลังๆไม่เหมือนคนแรกแน่นอน
 

ออนไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 13,061
  • ถูกใจแล้ว: 5296 ครั้ง
  • ความนิยม: +445/-445
[quote/]


การเลี้ยงเด็กในแต่ละช่วงอายุจะต่างกันครับ
หมายถึงคนเลี้ยงนะ
สังเกตุได้เลย ตอนพ่อแม่เราสอนเราตอนเราเป็นเด็ก
กับตอนเลี้ยงหลานจะต่างกันมากพอสมควรเลย


สาเหตุหลักคือพ่อแม่ตอนอายุน้อยแล้วกำลังสร้างตัว
จะเลี้ยงดูเด็กแตกต่างกับตอนวัยที่มีตัง แล้วอายุมากขึ้น


เพราะงั้นลูกที่อายุห่างกันสิบยี่สิบปีจะได้นิสัยที่แตกต่างกันค่อนข้างเยอะ


เพราะงั้นไม่ต้องกลัวครับได้ลองผิดลองถูกสั่งสมประสพกามมามากๆลูกคนหลังๆไม่เหมือนคนแรกแน่นอน


เกรงว่า ถ้าใช้ประสปการณ์ สุดท้ายเละ มากกว่าครับ
สมัยกก่อน เรียน มัธยม(โรงเรียนหลวง)  อจ.แกยังเล่าเรื่องท่านทูตที่แกรู้จัก แกบอกว่า เขาวางแผนไว้ว่า จะมีลูก3 คน คนสุดท้ายเอาไว้เลี้ยงตัวเอง แต่พอเอาเข้าจริง ส่งจบ ป.เอกหมด 3 คนเลย :D   


จริงๆ แล้วหลักการเลี้ยงเด็กมันมีอยู่นะ ถ้าผมจำไม่ผิดเป็นหนังสือ เมืองไทยน่าจะไม่ค่อยมี แต่ในต่างประเทศเขามี เขียนอธิบายการเลี้ยงเด็กไว้ค่อนข้างละเอียดว่าเลี้ยงอย่างไร สุดท้ายจะได้ผลเป็นอย่างไร
     เลี้ยงด้วยประสปการณ์แบบนั้นผมบอกได้ว่า สุดท้ายแล้วจะมีนิสัญร่วมบางอย่างที่เหมือนกัน แน่ๆ
      เอาแบบใกล้ตัว ญาติๆ กัน เป็นพี้น้องกัน คนพี่ชีวิตเละเทะค่อนข้างมาก   คนน้องถือว่าประสปความสำเร็จระดับนึง   
แต่ 2 คนนี้เหมือนกันคือชีวิตครอบครัวพังพินาศสุดๆ    กับนิสัยไม่ฟังใคร(EGO สูงมาก)   
      ผมถึงได้เชื่อไงว่า ถ้าเลี้ยงกันแบบไม่มีหลัก ไม่มีพื้นฐาน สุดท้ายคนบ้านเดียวกันจะมีบางอย่างที่เป็นนิสัยร่วมที่เหมือนกัน   ไม่ว่าคนๆ นั้นจะประสปความสำเร็จ หรือชีวิตลงเหว จะมีจุตร่วมบางอย่างเหมือนกัน
 

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,044
  • ถูกใจแล้ว: 3007 ครั้ง
  • ความนิยม: +208/-2
[quote/]


เกรงว่า ถ้าใช้ประสปการณ์ สุดท้ายเละ มากกว่าครับ
สมัยกก่อน เรียน มัธยม(โรงเรียนหลวง)  อจ.แกยังเล่าเรื่องท่านทูตที่แกรู้จัก แกบอกว่า เขาวางแผนไว้ว่า จะมีลูก3 คน คนสุดท้ายเอาไว้เลี้ยงตัวเอง แต่พอเอาเข้าจริง ส่งจบ ป.เอกหมด 3 คนเลย :D   


จริงๆ แล้วหลักการเลี้ยงเด็กมันมีอยู่นะ ถ้าผมจำไม่ผิดเป็นหนังสือ เมืองไทยน่าจะไม่ค่อยมี แต่ในต่างประเทศเขามี เขียนอธิบายการเลี้ยงเด็กไว้ค่อนข้างละเอียดว่าเลี้ยงอย่างไร สุดท้ายจะได้ผลเป็นอย่างไร
     เลี้ยงด้วยประสปการณ์แบบนั้นผมบอกได้ว่า สุดท้ายแล้วจะมีนิสัญร่วมบางอย่างที่เหมือนกัน แน่ๆ
      เอาแบบใกล้ตัว ญาติๆ กัน เป็นพี้น้องกัน คนพี่ชีวิตเละเทะค่อนข้างมาก   คนน้องถือว่าประสปความสำเร็จระดับนึง   
แต่ 2 คนนี้เหมือนกันคือชีวิตครอบครัวพังพินาศสุดๆ    กับนิสัยไม่ฟังใคร(EGO สูงมาก)   
      ผมถึงได้เชื่อไงว่า ถ้าเลี้ยงกันแบบไม่มีหลัก ไม่มีพื้นฐาน สุดท้ายคนบ้านเดียวกันจะมีบางอย่างที่เป็นนิสัยร่วมที่เหมือนกัน   ไม่ว่าคนๆ นั้นจะประสปความสำเร็จ หรือชีวิตลงเหว จะมีจุตร่วมบางอย่างเหมือนกัน



แต่ผมเห็นพวกญาติผมที่มีลูกตั้งแต่ 3  คนขึ้นไป
ไม่มีใครที่นิสัยเหมือนกันครับ ถึงจะมีความเข้ากันได้แต่นิสัยคนละอย่างชัดเจน


อย่างบ้านนึงมีลูกสาวสามคน คนแรกแนวเซเลปหน่อยแต่นิสัยเข้ากับคนง่ายหน่อย


คนสองจริงจังขยันซัพพอร์ทขยันงานบ้าน แต่พี่น้องคนอื่นทำงานบ้านแทบไม่เป็น


คนสามออกทอมๆลุยๆเป็นเด็กติดเกม แต่ตอนนี้เลิกละ


ทั้งสามคนเป็นสายภาษาชอบต่างประเทศไปเรียนต่อรึทำงานต่างประเทศทุกคน 
นี่คือเค้าอายุห่างกันไม่มาก


พอดูอีกบ้าน มีลูก 8 คน คนที่ 3 กับ 7 อายุต่างกัน 12 ปี
ที่จำได้เพราะ ปีไก่เหมือนกัน คนอื่นไม่ได้จำ


ลูกคนโตนิสัย..นักการเมือง


คนสองนักวิชาการมุ่งมุ่นขยันไม่อดออมพัฒนาแต่เก็บตัว


คนสามขยันประหยัดอดออมขยันหาเงินรู้จักลงทุน


คนสี่บ้าหวย ขยันธรรมะ เข้าวัดขอหวยประจำ
ลงทุนตามพี่สามสอน แต่ตังส่วนใหญ่ลงหวย
แต่พี่ลงที่ดิน


คนห้าปากตลาด ไม่ขยันเรียน บ้าผู้ชายเรียนจบแค่ม.ปลาย ในขณะที่พี่ๆจบ ป.ตรียันเอก


คนหกนิสัยดีมองโลกในแง่ดีเว่อๆ ขยัน
ชอบอะไรก้าวหน้า  ในขณะที่พี่ๆอนุรักษ์นิยม
พูดดีคนไหนรู้จักมีแต่ถูกชะตาอยากคุยด้วย เจ้านายรักชอบ


คนเจ็ดขี้เกียจ มองโลกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่ค่อยสนความก้าวหน้า
ถึงจะหน้าตาดีแต่ไม่มีเจ้านายอยากสนับสนุน
ไปทำงานทางโลกก็ได้ออกจากงาน ไปเป็นพระก็โดนมัคทายกเขม่น


คนแปด ก็ดีหน้าตาดีพูดเก่งเข้ากับคนได้
แต่ก็โกหกเก่งเหมือนกัน




การมองโลกทั้ง แปดคน ต่างกันมีตั้งแต่แนวก้าวหน้ายันแนวอนุรักษ
การเงินมีตั้งแต่ขยันหาเงินประหยัดอดออมยันแทบไม่มีเงินเก็บ
วิธีการใช้เงินมีตั้งแต่เอาไปลงลูกจนหมด สะสมความมั่งคั่ง ยันบ้าหวย


อุปนิสัย มีตั้งแต่ใครรู้จักมีแต่รักใคร่ชอบพอยัน
ใครเห็นก็อยากหลบ




หรือแม้กระทั่งพี่ผม เถียงกันทุกเรื่อง ผู้หญิง การใช้เงิน การมองโลก
แนวซีรี่ที่ดู อาหาร เพลง งานอดิเรก สถาบัน คณะ
การแต่งตัวรสนิยม


เพราะงั้นผมไม่เชื่อครับว่าเลี้ยงเหมือนกันจะได้ผลลัพธ์เดียวกัน


แต่ก็แน่นอนว่าพวกสกิลต่างๆที่มีมักจะคล้ายกัน
แต่นิสัยและแนวคิดผมเห็นต่างกันสิ้นเชิงเลย


แต่ถ้าสอนลูกแบบสุดโต่งอาจจะคล้ายกันก็ได้
เช่น ตีลูกรุนแรงประจำ ระเบียบจัดไรงี้


แต่เลี้ยงลูกแบบไทยๆฟันธง แต่ละคนก็แต่ละสไตล์


เพราะระบบสังคมจะเเหล่อหลอมจุดยืนของแต่ละคนอัตโนมัติ
เช่น พี่ชายคนโตจะร่างกายแข็งแรง สามารถคุมน้องๆได้
หรือถ้าเป็นเชื้อจีน พี่ชายคนโต ไม่มีทางนิสัยเหมือน น้องชายคนเล็กแน่นอน ;D
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,382
  • ถูกใจแล้ว: 3104 ครั้ง
  • ความนิยม: +188/-432
[quote/]


แต่ผมเห็นพวกญาติผมที่มีลูกตั้งแต่ 3  คนขึ้นไป
ไม่มีใครที่นิสัยเหมือนกันครับ ถึงจะมีความเข้ากันได้แต่นิสัยคนละอย่างชัดเจน


อย่างบ้านนึงมีลูกสาวสามคน คนแรกแนวเซเลปหน่อยแต่นิสัยเข้ากับคนง่ายหน่อย


คนสองจริงจังขยันซัพพอร์ทขยันงานบ้าน แต่พี่น้องคนอื่นทำงานบ้านแทบไม่เป็น


คนสามออกทอมๆลุยๆเป็นเด็กติดเกม แต่ตอนนี้เลิกละ


ทั้งสามคนเป็นสายภาษาชอบต่างประเทศไปเรียนต่อรึทำงานต่างประเทศทุกคน 
นี่คือเค้าอายุห่างกันไม่มาก


พอดูอีกบ้าน มีลูก 8 คน คนที่ 3 กับ 7 อายุต่างกัน 12 ปี
ที่จำได้เพราะ ปีไก่เหมือนกัน คนอื่นไม่ได้จำ


ลูกคนโตนิสัย..นักการเมือง


คนสองนักวิชาการมุ่งมุ่นขยันไม่อดออมพัฒนาแต่เก็บตัว


คนสามขยันประหยัดอดออมขยันหาเงินรู้จักลงทุน


คนสี่บ้าหวย ขยันธรรมะ เข้าวัดขอหวยประจำ
ลงทุนตามพี่สามสอน แต่ตังส่วนใหญ่ลงหวย
แต่พี่ลงที่ดิน


คนห้าปากตลาด ไม่ขยันเรียน บ้าผู้ชายเรียนจบแค่ม.ปลาย ในขณะที่พี่ๆจบ ป.ตรียันเอก


คนหกนิสัยดีมองโลกในแง่ดีเว่อๆ ขยัน
ชอบอะไรก้าวหน้า  ในขณะที่พี่ๆอนุรักษ์นิยม
พูดดีคนไหนรู้จักมีแต่ถูกชะตาอยากคุยด้วย เจ้านายรักชอบ


คนเจ็ดขี้เกียจ มองโลกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่ค่อยสนความก้าวหน้า
ถึงจะหน้าตาดีแต่ไม่มีเจ้านายอยากสนับสนุน
ไปทำงานทางโลกก็ได้ออกจากงาน ไปเป็นพระก็โดนมัคทายกเขม่น


คนแปด ก็ดีหน้าตาดีพูดเก่งเข้ากับคนได้
แต่ก็โกหกเก่งเหมือนกัน




การมองโลกทั้ง แปดคน ต่างกันมีตั้งแต่แนวก้าวหน้ายันแนวอนุรักษ
การเงินมีตั้งแต่ขยันหาเงินประหยัดอดออมยันแทบไม่มีเงินเก็บ
วิธีการใช้เงินมีตั้งแต่เอาไปลงลูกจนหมด สะสมความมั่งคั่ง ยันบ้าหวย


อุปนิสัย มีตั้งแต่ใครรู้จักมีแต่รักใคร่ชอบพอยัน
ใครเห็นก็อยากหลบ




หรือแม้กระทั่งพี่ผม เถียงกันทุกเรื่อง ผู้หญิง การใช้เงิน การมองโลก
แนวซีรี่ที่ดู อาหาร เพลง งานอดิเรก สถาบัน คณะ
การแต่งตัวรสนิยม


เพราะงั้นผมไม่เชื่อครับว่าเลี้ยงเหมือนกันจะได้ผลลัพธ์เดียวกัน


แต่ก็แน่นอนว่าพวกสกิลต่างๆที่มีมักจะคล้ายกัน
แต่นิสัยและแนวคิดผมเห็นต่างกันสิ้นเชิงเลย


แต่ถ้าสอนลูกแบบสุดโต่งอาจจะคล้ายกันก็ได้
เช่น ตีลูกรุนแรงประจำ ระเบียบจัดไรงี้


แต่เลี้ยงลูกแบบไทยๆฟันธง แต่ละคนก็แต่ละสไตล์


เพราะระบบสังคมจะเเหล่อหลอมจุดยืนของแต่ละคนอัตโนมัติ
เช่น พี่ชายคนโตจะร่างกายแข็งแรง สามารถคุมน้องๆได้
หรือถ้าเป็นเชื้อจีน พี่ชายคนโต ไม่มีทางนิสัยเหมือน น้องชายคนเล็กแน่นอน ;D
ก็นั่นล่ะครับ
ผมเจอแนวคิดในนิยายกลับไปยุคหกศูนย์แล้วตกใจเหมือนกัน
ที่อาหารการกินให้หลานชายก่อน หลานสาวแห้วไป

แนวความคิดแบบนี้ น่าจะทำให้ผู้หญิงคิดว่าตนเองเสียเปรียบผู้ชายมาตลอดชีวิตล่ะมั้งครับ ???
หารู้ไม่ครอบครัวบางครอบครัว โอ๋ลูกสาวจะตายลูกชายกินของเหลือๆพ่อไม่ใส่ใจอีกนั่นล่ะ
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก