แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

โพสในกระทู้ล่าสุดจากทุกบอร์ด

หน้า: [1] 2 3 ... 10
1
ญี่ปุ่นการตลาดห่วยยับเยิน ยัน ปัจจุบัน




 กันพลาของญี่ปุ่น เอาจริงๆ มันขายได้นะในระดับนึงเลย แต่พี่แก /ไม่ยอมผลิต เอง ค่ายจีนเอาไปแดก




ซึ่งมันก็มีทางแก้ได้ง่ายๆ ครับคือ ไปทำ ซับแบลนสักเจ้า แล้วผลิตออกมา ก็ได้  ซับแบลนคือเน้นราคาถูกไว้ก่อน




ผมนึกถึงตอนทำงานกะพวกญี่ปุ่น   โรงงานมีของเสียเหลือทิ้งเยอะ
(จริงๆ มันก็ไม่เสียหลอก แต่มันเอาเข้าเครื่องอัตโนมัติไม่ได้ แต่ถ้าเอาไปประกอบด้วยมือ มันจะทำได้ไม่มีปัญหา
      เคยเสนอ ว่าให้เปิดซับแบลนด์ โดยเอาของที่ผลิตไม่ได้แบบปกติ นี่แหละไปทำขาย แบบขายตามใจกู มีก็ขายไม่มีก็ไม่ขาย ให้เซลขอลบริษัทไปหาเสนอตามร้านค้าขายมันถูกกว่าปกติหน่อย  ดีกว่าทิ้งทั้งหมด ไม่ได้อะไรเเถต้องเสียค่าทำลายอีก
       แต่ก็ไม่ทำ จะมาอ้างว่าไม่ได้มาตรฐาน
       มาตรฐานพ่องเมืองเหรอสัด โรงงานแม่ที่โกเบ ยังมี/ลน์แบบที่ผลิตด้วยมืออยู่เลย ไอ่สัด 


บอกตามตรง นะ ญี่ปุ่น บริหารถายในกับการตลาด แม่ง มีปัญหาชิบหายเป็นแบบนี้เเม่งถึงแพ้จีนบริษัทจีนไง    ยอมรับว่ามันระเบียบสูง แต่วิธีทำงาน พวกมีมีปัญหาตลอดจริงๆ สัด
2

ไอ้เกมห่วยแตกหาดีไม่ได้ ที่อาตาริทำมาเพราะหวังเกาะใบบุญหนังแต่แป็กนั่นอะนะ
3
ห้องสันทนาการ / Re: (ฐานบัญชาการ) Hololive กลุ่มไอดอล (?) Vtuber
« กระทู้ล่าสุด โดย Singhastar เมื่อ วันนี้ เวลา 04:15:58 PM »
วิธีเป็นซอมบี้
4
ตำนานอีกเรื่องหนึ่งก็เกมส์อีที ที่ทำให้ค่ายอาตาริถึงกับล้มละลายไปเป็นที่เรียบร้อย ตลับเกมตอนนั้นต้องเอาไปฝังที่ทะเลทราย แต่พอมาตอนนี้ก็กลายเป็นตลับเกมที่หายากและมีราคาสูงซะงั้น
5
เป็นเรื่องที่เห็นได้บ่อยๆเลย ที่พอเห็นสินค้าตัวไหนมีกระแสค่อนข้างดีก็พยายามขยายไลน์ซีรี่ย์เพื่อหวังฟันกำไรแต่สุดท้ายอ่านกระแสผิดสิ่งที่เหลือเลยมีแค่สินค้าตีกลับกับตัวเลขขาดทุน
6
จุดเริ่มต้นของคำว่าพรีบรรลัย แต่ก็เข้าใจอยู่ เดา demand พลาดทียับ ไม่แปลกที่จะหลอนจนบัดนี้ ???
7


หากพูดถึงของเล่นของ Bandai ที่เป็นที่นิยมในช่วงยุคปี 90 หลาย ๆ คนคงนึกถึงดิจิม่อนและทามาก็อตจิ ซึ่งเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดจิ๋วที่ผู้เล่นสามารถมีสัตว์เลี้ยงดิจิทัลได้กันอย่างแน่นอน แต่รู้หรือไม่ว่าแม้ทามาก็อตจิจะเป็นที่นิยมอย่างถล่มทลายในเวลานั้น กลับสร้างความภาระอันหนักอึ้งให้กับ Bandai จนขาดทุนมากถึง 6.6 พันล้านเยน! (ประมาณ 1,500 ล้านบาท) และทำให้ Bandai เปลี่ยนวิธีทำธุรกิจมาจนถึงทุกวันนี้

https://twitter.com/okachimachijkt/status/1791090519046844772?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1791090519046844772%7Ctwgr%5E0ab0c29caf91a362d908a3e1e29c41196413c5aa%7Ctwcon%5Es1_&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.online-station.net%2Fentertainment%2F811659%2F

โดยมีโพสต์หนึ่งบน X ของผู้ใช้ชื่อ @okachimachijkt ได้รับความสนใจในหมู่ชาวญี่ปุ่นเมื่อเร็ว ๆ นี้ หลังหยิบยกข้อมูลเก่ามาอธิบายว่าทำไมแม้ฟิกเกอร์กันพลาของ Bandai นั้นจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่าอยู่ตลอด แต่ทางบริษัทกลับไม่ผลิตเพิ่มเป็นจำนวนมากเลย เหตุผลอาจเป็นเพราะว่าเคยเข็ดกับกรณีเครื่องทามาก็อตจิมาก่อนนี่เอง

ทามาก็อตจินั้นเดิมทีวางขายในช่วงเดือนพฤศจิกายน 1996 ก่อนจะเริ่มวางขายในต่างประเทศและกลายเป็นที่นิยมอย่างสูง แต่ Bandai ดูเหมือนจะประเมินกระแสสูงเกินไปหน่อย จึงออกทามาก็อตจิซีรีส์ใหม่ ๆ ที่มีสัตว์ประเภทใหม่ ๆ ตั้งแต่สุนัข แมว ไปจนถึงสัตว์ป่า หรือกระทั่งมารและเทวดาตัวน้อย

จนกระทั่งปี 1998 คาดว่า Bandai นั้นขายทามาก็อตจิไปได้ประมาณ 20 ล้านเครื่องในญี่ปุ่นและอีก 20 ล้านเครื่องในต่างประเทศ แต่กระแสบูมนั้นดูเหมือนจะเริ่มซาลงแล้ว ทำให้มีร้านค้าต่าง ๆ ตีทามาก็อตจิที่ขายไม่ออกคืนให้กับ Bandai หลายกล่อง ขณะที่ในบริษัทก็สื่อสารกันไม่ดี ทำให้ยังมีการดีไซน์และผลิตทามาก็อตจิซีรีส์ใหม่ ๆ ออกมาอีกเรื่อย ๆ

อีกเหตุผลหนึ่งคือ Bandai ประเมินความต้องการทามาก็อตจิสูงเกินจริง เพราะมีลูกค้าหลายคนที่สั่งจองหลาย ๆ ร้านเพราะอยากได้ของไว ๆ ทำให้ผลิตมากเกินความต้องการ จนในที่สุดก็ขาดทุนถึง 6 พันล้านเยนเพราะมีทามาก็อตจิขายไม่ออกถึง 2.5 ล้านเครื่อง ต้องนำไปกำจัดทิ้ง จนมีข่าวโคมลอยอยู่ในช่วงหนึ่งบอกว่าทามาก็อตจิเหล่านั้นถูกนำไปฝังบนเกาะโอไดบะที่มนุษย์ถมขึ้นมาในอ่าวโตเกียว

ขณะเดียวกันบริษัทอื่น ๆ ก็เริ่มทำสินค้าเลียนแบบทามาก็อตจิซึ่งมักมีราคาถูกกว่าออกมาด้วย แถมยังมีสัตว์เลี้ยงหลายตัวในเครื่องเดียวหรือมีดีไซน์ใหม่ ๆ ที่ถูกใจคนเล่นกว่า ทามาก็อตจิปลอมเหล่านี้จึงแย่งยอดขายของ Bandai ไปอีก

ความล้มเหลวที่แฝงอยู่ในความสำเร็จของทามาก็อตจินี้เองที่ทำให้ชาวญี่ปุ่นจึงมองว่าอาจเป็นบทเรียนสุดขมขื่นของ Bandai จนทำให้เปลี่ยนวิธีทำธุรกิจมาจนถึงทุกวันนี้ เลือกผลิตสินค้าอย่างระมัดระวังและไม่ผลิตมากเกินไป แม้จะเป็นกันพลาที่ขายดีมาก ๆ ก็ตาม

แปลและเรียบเรียงจาก
Automaton Media

https://www.online-station.net/entertainment/811659/?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR1aCbW_1mWZwVnuVpf1dX-e3ttMCSrRKWnEJjOuhnA46Im4L8SNGvPiTOA_aem_ASR2E9Q6AStxy7vUh7eOheffQTc5v0vgx5-O8SFlarxdfThObtYIH78QBRJyzsHY1qMaXaBtfnHH2IbEVUwc-Ri2

 ??? ??? ??? ??? ???
8
คำถามคือรีเมคเพื่ออะไรก่อน?
เช่น เพื่อฉากต่อสู้ที่ดีขึ้น หรือ แบบเก่าขาดรายละเอียดบางอย่างในเนื้อเรื่องที่สำคัญ
หรือ อยากสร้างรูทใหม่ในแนวฮาเร็ม กรณีมีนางเอกหลายคน


เรื่องรีเมคผมไม่ค่อยแน่ใจนะ แต่ส่วนตัวอยากให้มังงะไทยบางเรื่องได้เป็นอนิเมะ
1.การิน ของ อัยย์
2.Path a way ของ Sinzire
3.วันทองไร้ใจ ของ Mu
4.เกิดใหม่ครั้งนี้จะสร้างประเทศที่ดีได้หรือเปล่านะ ของ Starless Night


ผมมองว่า 4 เรื่องนี้มีองค์ประกอบครบ และสมควรน่าลงทุนทำเป็นอนิเมะ
1.ตัวละครมีพัฒนาการทั้งตัวเองและความสัมพันธ์
2.เนื้อเรื่องค่อนข้างลึกและน่าสนใจ
3.ตัวร้ายมีมิติและค่อนข้างเก่งอาจจะเท่าหรือเหนือกว่าตัวเอก ไม่ใช่ตัวร้ายแบบร้ายแบบไม่มีที่มาไม่มีเหตุผลรองรับการกระทำ
4.ตัวเอกเดินเรื่องไม่ได้เทพและเก่งไปซะทุกอย่าง ดูมีความเป็นมนุษย์ มีการตัดสินใจผิดพลาด และมีการเรียนรู้ความผิดพลาดของตัวเอง


หมายเหตุ : จริงๆ ถ้าพวก LGBT หรือ พวกเฟมินิสต์ อยากจะลงทุนทำแนว LGBT ที่คนไม่เกลียดและคนอื่นก็ดูได้ ผมแนะนำ "วันทองไร้ใจ" เลยครับ ของดีจริง และไม่ได้ยัดเยียดด้วย กลมกล่อมกำลังดีเลย
https://www.reddit.com/r/OtomeIsekai/comments/125spby/loveless_heroine_an_isekai_that_takes_place_in/
แถมต่างชาติชอบเรื่องนี้มากด้วย คอมเม้น Reddit หลายคนก็ชอบเรื่องนี้

แต่ส่วนตัวผมชอบเรื่อง "เกิดใหม่ครั้งนี้จะสร้างประเทศที่ดีได้หรือเปล่านะ" ของ Starless Night ที่สุด สำหรับผมเรื่องนี้ดีที่สุด
9



อันนี้ fanmade ครับ ???  ผมจัดอยู่ประเภทเดียวกับ tsukihime ครับ


ปล.ไหนๆจขกท.ก็พูดถึงหมัดดาวเหนือแล้ว


ผมพูดถึงต้นฉบับมันอีกทีอย่าง mad max หน่อยละกัน


ไตรภาคแรกก็อย่างว่าเลย ภาคแรก ชายแทร่ ผู้หญิงคือมีบทแค่มาตาย ภาค road warrior เริ่มมีตัวละครหญิงสู้คนแล้ว ถึงจะยังมีฉากผู้หญิงเป็น sex object ก็เหอะ แต่ด้วย setting โลกไม่แปลกใจ แต่ภาค thunderdome มีผู้นำเป็นผู้หญิงนะ บทโอเคด้วย มองยุคสมัยนั้นถือว่าลุงแก woke ระดับนึงเลยนะ


แล้วถ้าจะบอกว่าลุงยังไม่ woke ภาค fury road กับ furiosa ที่กึ่งๆรีบูท นี่ถือว่า woke+feminism เลยครับ แต่เป็นงาน woke ที่ไม่รู้สึกถึงความยัดเยียดเลย แบบมีชั้นเชิง มีศิลป์มากๆในระดับที่ woke, femx แม่งไม่มีปัญญาทำได้

ผมย้อนดู fury road อีกรอบ ไอ้ max นี่มันก็แค่ตัวประกอบซัพสุดเทพ stat โกงที่บังเอิญมาร่วมตี้หลบหนีแท้ๆเลย ตัวเอกหลักของภาคนี้มันคือ furiosa กับ nux ไอ้เด็ก warboy ต่างหาก แล้วมองดูดีๆ ตี้ตัวเอกนอกจาก max, nux มันคือผู้หญิงต่อสู้กับชายแทร่ชัดๆ ไอแก๊งยายที่มาทีหลังก็หญิงล้วน คนฆ่า Immorton Joe ที่เป็นตัวร้ายหลัก ก็เจ๊ฟูรินะ + ผู้หญิงอีกคนที่เป็นเมียโจนะครับ พรี่แม็กแม่งไปตีกับไอ้ลูกสมองกล้ามอยู่ ส่วนสาเหตุที่ไม่มีคนดำ ก็ออสเตรเลียคนดำน้อยอ่ะครับ จบ


ถ้าเอ็งจะ woke ควรทำให้ได้แบบลุงจอร์จ มิลเลอร์ครับ ทำหนัง feminism จ๋าๆจนชายแทร่สนุก เอนจอยไปกับหนังที่ชายแทร่โดนกระทืบ ไม่รู้ว่าตัวเองโดนแซะตลอดทั้งเรื่องได้อ่ะครับ 55
10
ห้องรับแขก / Re: Mufasa The Lion King ว่าที่หนังเจ๊งของดิสย์นี
« กระทู้ล่าสุด โดย hackac เมื่อ วันนี้ เวลา 01:21:05 PM »

ไม่ได้แสดงห่วยหรอก ปกติพระเอกต้องแสดงแบบลูกผู้ชายมาดเข้มดูสุขุม แต่อันนี้ดันแสดงแบบตุงติ่งกระเทยเต็มขั้น แฟนที่ดูครบทุกซีซั่นเลยรับไม่ได้นะ
หน้า: [1] 2 3 ... 10
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก