แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: ความแตกต่างระหว่าง "ประชานิยม" กับ "สวัสดิการ"  (อ่าน 1048 ครั้ง)

ออฟไลน์ Black7nos

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,359
  • ถูกใจแล้ว: 3346 ครั้ง
  • ความนิยม: +214/-280
Re: ความแตกต่างระหว่าง "ประชานิยม" กับ "สวัสดิการ"
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: เมษายน 18, 2024, 10:29:49 AM »
3000 บาท ต่อเดือนปัจจุบันคนแก่ 13 ล้านคน คือปีละ 5 แสนล้านนะ ปีละนะไม่ใช่ 5 แสนล้านโครมเดียว แบบเพื่อไทย
แบ่งเป็นงบปีละ 1.6 ล้าน 2 ปี และงบใช้หนี้ ธกส ปีละ 60000 ล้าน ไปอีก 10-20ปี



รายได้ ต่อปีของรัฐบาล แค่ปีละ 2.66 ล้าน และมีแนวโน้มว่าจะลดลงต่อเนื่องจากสังคมผู้สูงอายุ และตัวเลข
ที่ต้องจ่าจะต้องมากขึ้น ตามโครงสร้างประชากร


คนคิดนโยบาย เคยคิดบ้างไหม ว่า อีก 20 ปี นโยบายนี้จะเป็นไง


แต่ พี่ชายผมพูดไว้ทำให้ผมคิดได้ว่าจะแคร์อะไรเราเป็นคนรุ่น ที่ยังทันรับผลประโยชน์ คนที่ต้องใช้หนี้มันคือพวกเฮโล
เลือกก้าวไกลนั่นแหละ เขาพอใจกับ นโยบายแบบนี้ก็ปล่อยไป





3,000 x 13,000,000 = 39,000,000,000 หรือประมาณ 4 หมื่นล้านบาทครับ ไม่ใช่หลักแสนล้าน
ส่วนอายุขัยเฉลี่ยของไทย(ณ ปี 66)คือ 78 ปีครับ ดังนั้น 78 - 60 = 18 ปี


แต่การจ่ายแบบนี้เป็นการจ่ายแบบ Uniform คือจ่ายแบบทุกๆปีเท่ากัน ดังนั้น Cashflow มันจะไม่แอ่นท้องช้าง
เพราะมันกระจายทุกๆ ปี เท่าๆกัน เหมือนเรานอนบนที่นอนตะปูนั่นแหละครับ ทำไมตัวเราไม่ถูกตะปูแทงทะลุ ก็เพราะทั้งร่างกายเรามันแผ่ขยายกระจายน้ำหนัก
หลักการเดียวกันครับ เพราะ งบประมาณถูกกระจายแผ่ออก ดังนั้น Cashflow จะไม่เกิดการ Short เงินครับ


หลักการเหมือนการทำบัญชีการตัดจ่ายค่าเสื่อมเครื่องจักรครับ ทำไมตอนเราซื้อเครื่องจักร 1 ล้านบาท ใช้งาน 5 ปี
ทำไมนักบัญชีไม่ลงรายจ่ายตูม 1 ล้านบาทตูมในบัญชีในคราวเดียว แต่ค่อยๆลงปีละ 2 แสนบาท แทนละครับ
ก็เพราะการลงบัญชีแบบนี้คุณจะไม่เจ็บตัวหนัก เพราะนิติบุคคลมันรายได้หักรายจ่ายแล้วเอากำไรเป็นตัวตั้งในการคิดภาษี
ดังนั้นคุณจะเสียภาษีน้อยลงครับ แล้ว Cashflow คุณจะไม่ระเบิด

ถ้า Cashflow ติดลบ หมายถึง กระแสเงินสดในมือของคุณจริงๆติดลบ กราฟแอ่นท้องช้าง เท่ากับ Game Over จริงๆ เลยนะครับ
ตราบเท่าที่ยังมีเงินสดในมือ Cashflow ไม่ติดลบแอ่นท้องช้าง คุณยังรอดนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 18, 2024, 11:06:11 AM โดย Black7nos »
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ pol

  • สาวกผู้สนับสนุนเซนนิคุง2Y
  • จอมทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 16,684
  • ถูกใจแล้ว: 19192 ครั้ง
  • ความนิยม: +360/-0
  • เพศ: ชาย
  • นักอู้มือหนึ่ง
Re: ความแตกต่างระหว่าง "ประชานิยม" กับ "สวัสดิการ"
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: เมษายน 18, 2024, 10:49:27 AM »
ปัญหาง่ายๆที่ไม่ยอมบอกกันก็คือ เอาเงินมาจากไหน?  :)  กล้าๆไปเก็บเงินจากศาสนารึเปล่าครับ? เมืองไทยเงินจมอยู่กับวัด สำนักสงฆ์ มัสยิด โบสถ์ ฯลฯ เยอะมากเลยนะนั่น อ้อ แล้วก็อย่าพูดว่าจะลดงบประมาณกองทัพเน้อ ตรงที่ไทยอยู่มันเป็นดงตีนชัดๆ ซ้าย ขวา บน ล่าง นี่ตีนล้วนๆ
 

ออฟไลน์ Black7nos

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,359
  • ถูกใจแล้ว: 3346 ครั้ง
  • ความนิยม: +214/-280
Re: ความแตกต่างระหว่าง "ประชานิยม" กับ "สวัสดิการ"
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: เมษายน 18, 2024, 10:57:55 AM »
ปัญหาง่ายๆที่ไม่ยอมบอกกันก็คือ เอาเงินมาจากไหน?  :)  กล้าๆไปเก็บเงินจากศาสนารึเปล่าครับ? เมืองไทยเงินจมอยู่กับวัด สำนักสงฆ์ มัสยิด โบสถ์ ฯลฯ เยอะมากเลยนะนั่น อ้อ แล้วก็อย่าพูดว่าจะลดงบประมาณกองทัพเน้อ ตรงที่ไทยอยู่มันเป็นดงตีนชัดๆ ซ้าย ขวา บน ล่าง นี่ตีนล้วนๆ


ผมว่าก้าวไกลกล้าเก็บนะ ตอนก่อนจะตั้งรัฐบาลช่วงแรกตอนรองผอ.สำนักพุทธพูดกล่าวหาพรรคก้าวไกล วิโรจน์ออกมาใส่สำนักพุทธเลย
รอง ผอ.สำนักพุทธ แทบจะต้องเปิดการ์ดรู้เท่าไม่ถึงการณ์แทบไม่ทัน คุณ @pol เห็นหรือเปล่าว่าอีกฝ่ายกลัวก้าวไกลแค่ไหน
ปกติถ้าเป็นกลุ่มการเมืองอื่นจะไปต่อรองแล้วเรื่องมันก็ค่อยๆเงียบ แต่พอเป็นก้าวไกลมันไม่ต่อรองด้วย เลยต้องรีบหงายการ์ดเพราะกลัวก้าวไกลเป็นรัฐบาลแล้วถูกเพ่งเล็งเป็นอันดับแรก


ในโซเชียล วิโรจน์นี่เดือดถึงขั้นบอกว่าถ้าเป็นรัฐบาลจะสืบเรื่องการคอรัปชั่นเงินบริจาควัดของสำนักพุทธด้วย ราชการในกระทรวงวัฒนธรรมตอนนั้นดิ้นกันเป็นแถว
ถ้าเป็นวิโรจน์ กับ โรม สองคนนี้มันตัววิ่งเข้าไปบวกเลย สองคนนี้มันบวกใส่ทุกคน IO ทหาร ตั๋วตำรวจ ค้ามนุษย์ Call center
เรื่องใหญ่กว่านี้ก็ทำมาหมดแล้ว ผมว่าเรื่องวัดกับสำนักพุทธ ผมว่าสองคนนี้กล้าบวกอยู่แล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 18, 2024, 10:59:53 AM โดย Black7nos »
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ DDAvatar

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 591
  • ถูกใจแล้ว: 275 ครั้ง
  • ความนิยม: +11/-20
Re: ความแตกต่างระหว่าง "ประชานิยม" กับ "สวัสดิการ"
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: เมษายน 18, 2024, 12:14:59 PM »
3000 x12 x 13 000 000  = 468,000 ล้าน มันไม่ใช่ 3000 ต่อปีนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 18, 2024, 12:17:14 PM โดย DDAvatar »
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Black7nos

ออฟไลน์ Black7nos

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,359
  • ถูกใจแล้ว: 3346 ครั้ง
  • ความนิยม: +214/-280
Re: ความแตกต่างระหว่าง "ประชานิยม" กับ "สวัสดิการ"
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: เมษายน 18, 2024, 12:35:51 PM »
3000 x12 x 13 000 000  = 468,000 ล้าน มันไม่ใช่ 3000 ต่อปีนะ


ขอโทษที่คิดผิด ลืมคูณเดือน แต่มันก็คือการกระจายจ่ายครับ ไม่ใช่เป็นก้อน ดังนั้น Cashflow มันจะไม่แอ่นลงแบบทันทีทันใดทีเดียว
ส่วนเงินที่จะเอามา ผมว่าก้าวไกลน่าจะบอกไว้แล้วครับว่าเอามาจากไหน ก็คือการปรับลด/ปฏิรูปบางองค์กรในหน่วยงานราชการ รวมถึงลดเงินงบประมาณที่ให้ราชวงศ์ด้วย
แล้วดึงทรัพย์สินของบางองค์กรมาเป็นของกระทรวงการคลัง
- ลดจำนวนนายพล ลดรายจ่าย
- ยกเลิกทหารเกณฑ์ เปลี่ยนมาเป็นสมัครอย่างเดียว ลดรายจ่าย
- ดึงธุรกิจของทหาร มาเป็นของกระทรวงการคลัง เช่น สนามกอล์ฟ โรงแรม ช่องโทรทัศน์ วิทยุ สนามม้า ฯลฯ เพิ่มรายได้
- ลดการนำเข้าอาวุธจากต่างประเทศ เน้นการผลิตอาวุธหรือซื้ออาวุธที่ผลิตในประเทศ
- ยกเลิกโครงการที่มีชื่อโครงการเฉลิมพระเกียรติทั้งหมดที่จัดโดยหน่วยราชการอื่นเพราะถือว่าแอบอ้าง จากนี้ไปจะต้องเป็นสำนักราชวังเป็นคนทำเท่านั้น ลดรายจ่ายและการคอรัปชั่น
- ดึงโครงการพระราชดำริจากเดิมที่สำนักราชวังดูแล ให้ไปอยู่ในการดูแลของกระทรวงที่ตรงกับหน้าที่ เช่น กระทรวงเกษตร กระทรวงอุตสาหกรรม ฯลฯ
- ยุบบางองค์กรที่ไม่ได้ใช้งานจริงแล้วในปัจจุบัน หรือเกิดประโยชน์จริง เช่น กรมหม่อนไหม ฯลฯ

ธุรกิจหลายธุรกิจขององค์กรราชการที่ได้กำไรเนี่ย หลายธุรกิจเงินรายได้ไม่เข้ารัฐนะครับ แต่เข้ากระเป๋าใครก็ไม่รู้ อันนี้คือเรื่องจริง
เอาง่ายๆ อย่างธุรกิจน้ำผลไม้ดอยคำเนี่ย เงินเข้ากระเป๋าใครครับ เข้าประเทศเข้ากระทรวงการคลังหรือเปล่า? ก็ไม่ จริงมั้ยครับ
แต่เงินที่เอาไปลงทุนซื้อเครื่องจักรในการผลิตเนี่ย อันนี้จากงบประมาณประเทศจริงๆนะครับ
อีกอย่างตอนนี้ดอยคำเนี่ย ผมไม่รู้ว่าอยู่ในสถานะอะไรกันแน่ ไม่รู้ว่าในฐานะบริษัท หรือในฐานะรัฐวิสาหกิจกันแน่

ทำตามนี้ประเทศไทยมีงบพอแน่นอน ผมเคยพูดตลอดว่าจริงๆแล้วประเทศไทยไม่ได้จนไม่ได้ไม่มีเงินนะครับ ประเทศไทยมีอันดับ GDP Top 30 ของโลก มั้ง
แต่ปัญหาจริงๆ เกิดจากการใช้งบประมาณเสียมากกว่า การใช้งบไม่มีประสิทธิภาพทำให้เราเหมือนไม่มีตังทำอะไร
ถ้าเพื่อไทยกล้าตัดกล้างบ กล้าโอนธุรกิจบางอย่างมาเป็นของรัฐ ผมว่าก็มีเงินแจก 10,000 บาทเหมือนกันครับ แต่จะกล้าหรือเปล่าอันนี้ต้องดูกันต่อไป แล้วก็ต้องใช้เวลาทำด้วย
ส่วนนโยบาย 3,000 บาท ของก้าวไกลที่แจกคนชรา อันที่จริงมันไม่ใช่นโยบายที่เขาบอกเข้าไปแล้วทำเลยนะครับ แต่ใช้เวลา 4 ปี ในการ Set Up ระบบ
เพราะเขาต้องแก้กฎหมายและปฏิรูประบบราชการก่อนในช่วง 3 ปีแรก เพื่อให้ได้งบประมาณมาทำตรงนี้ ถ้าเข้าไปอ่านรายละเอียดก็มีเขียนไว้แล้วก็จะเห็นว่าเขาทำตัวท้ายสุด

นโยบายที่ก้าวไกลบอกว่าจะทำเลย คือ การแก้กฎหมายแรงงาน ปฏิรูปที่ดิน การร่างกฎหมาย LGBT การปฏิรูปองค์กรตำรวจ+ราชการอื่นๆ การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ปรับสิทธิประกันสังคม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 18, 2024, 12:47:18 PM โดย Black7nos »
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ pol

  • สาวกผู้สนับสนุนเซนนิคุง2Y
  • จอมทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 16,684
  • ถูกใจแล้ว: 19192 ครั้ง
  • ความนิยม: +360/-0
  • เพศ: ชาย
  • นักอู้มือหนึ่ง
Re: ความแตกต่างระหว่าง "ประชานิยม" กับ "สวัสดิการ"
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: เมษายน 18, 2024, 12:54:03 PM »
ลดจำนวนอาวุธที่นำเข้าจากต่างประเทศ... อย่าเลยครับท่าน เปลืองเงินกว่าเดิมเยอะนา ปืนไรเฟิล M 4 ตีไปกลมๆ 60,000 นี่รวมค่าโน่นนี่นั่นเอาไว้แล้ว ทหารไทยทั้งหมดนี่ผมรวม บก เรือ อากาศ แล้วก็รวมที่ไม่ใช่หน่วยรบด้วยนะ 360,000 คน  360,000 x 60,000= สองหมื่นหนึ่งพันล้านบาท แต่มันจ่ายทีเดียวจบเพราะอายุการใช้งานตีง่ายๆ 40-50 ปี ในกรณีที่ใช้งานทุกวัน  แต่ความเป็นจริงมันไม่ถึงครับ ซื้อมาจริงๆ แสนกระบอกก็จบแล้ว แต่ถ้าเปิดโรงงานสมมุติว่าใช้เงินตอนเปิด 5,000 ล้าน เหมือนจะน้อยกว่าเยอะ แต่ค่าจ้างพนักงาน ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าบำรุงรักษา ฯลฯ ไม่เกิน 10 ปี ผมว่าจ่ายมากกว่าแหงๆ  นี่เอาแค่อาวุธปืนนะ เครื่องบิน เรือรบ รถถัง นี่ลงทุนเป็นแสนๆล้านก็ยังทำไม่ได้เลยครับ ขนาดอินเดียที่สามารถผลิตอะไรได้บ้าง รถถังของเขาจ่ายไปยับๆยังใช้งานจริงไม่ได้เลยนะนั่น
 

ออฟไลน์ Lucifer216

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,323
  • ถูกใจแล้ว: 1047 ครั้ง
  • ความนิยม: +32/-0
Re: ความแตกต่างระหว่าง "ประชานิยม" กับ "สวัสดิการ"
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: เมษายน 18, 2024, 01:03:15 PM »
ถ้าเคส 10000 กับ 3000 นี่ผมเลือก 3000 นะ อย่างน้อยก็มีข้อมูลว่าจะเอาเงินจากไหนมาทำ แล้วทำได้เมื่อไหร่ยังไงหรือถ้าไม่ได้ติดตรงไหนก็คงออกมาบอก เทียบกับ 10000 บอกทำได้ทันทีได้ทุกคนแต่ไม่บอกที่มาว่าจะเอาเงินจากไหนมาให้ ความน่าเชื่อถือมันต่างกันเยอะ แล้วสุดท้ายจนทุกวันนี้ 10000 จะครบปีแล้วยังไม่ได้เลย  :-X


ทุกวันนี้ผมก็ยังคิดไม่ออกว่าเบี้ยคนชรา 600 ต่อเดือนเนี่ยมันจะไปพออะไร ค่าข้าว ต่อวันยังไม่พอเลย ต่อให้เป็น 3000 ตกวันละ 100 ยังไม่พอเลยไหนจะน้ำ-ไฟอีก คนไทยชอบคิดว่าไม่เป็นไรมีลูก-หลานเลี้ยงซึ่งจริงๆก็ไม่ผิดนะ แต่มันใช่เหรอเคยได้ถามภาระลูก-หลานกันหรือเปล่าว่าแต่ละเดือนเป็นยังไง ทำไมไม่คิดว่าถ้าสวัสดิการรัฐมันดีขึ้นตัวเองก็สบายขึ้น ลูก-หลานก็รับภาระลดลงมันจะดีกว่าไหม เจอคนแก่ๆบอกมันทำไม่ได้หรอก ทุกวันนี้ไม่มีผลงานอะไร ขี้โม้ไปวันๆ ก็ได้แต่บอกไปว่า เขาจะทำได้ไงก็ไม่ได้เป็นรัฐบาลนิ พอเขาจะเป็นก็รวมหัวกันไม่ให้เขาเป็นแล้วเขาจะทำอะไรได้ ก็ได้แต่วนๆกับหน้าเดิมๆที่เห็นกันมาไม่รู้กี่สิบปีแต่ก็ไม่ได้พัฒนาอะไรขึ้นเลยมันถึงได้จมกันอยู่แบบนี้ไม่ได้เดินหน้าต่อเท่าที่ควรจะเป็น


อีกอย่างคนไทยชอบผลงานที่จับต้องได้เป็นรูปธรรมมากกว่า เพราะงั้นไม่แปลกที่ยังมีคนปกป้องอย่างยุคที่ผ่านมามีการอนุมัตรถไฟฟ้าหลายสายมากๆ คนก็จะบอกว่านี่ไงผลงานลุงแล้วยังมีอีกเยอะแต่ไม่ออกข่าว ซึ่งมันก็จริงเพราะเป็นผลงานที่เห็นแต่พวกโครงสร้างพื้นฐานต่างๆก็ยังเหมือนเดิมบางอย่างแย่ลงด้วยซ้ำแต่คนไม่สนใจเพราะไม่เห็นไง อันนี้ก็น่าหนักใจเหมือนกัน


ปล.ถึงจะบ่นงั้นงี้แต่ 10000 ออกผมก็รับนะ ไหนๆก็จะเป็นหนี้แล้วก็ขอเงินมาใช้หน่อยเหอะ  ;D
 

ออฟไลน์ Black7nos

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,359
  • ถูกใจแล้ว: 3346 ครั้ง
  • ความนิยม: +214/-280
Re: ความแตกต่างระหว่าง "ประชานิยม" กับ "สวัสดิการ"
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: เมษายน 18, 2024, 03:23:36 PM »
ลดจำนวนอาวุธที่นำเข้าจากต่างประเทศ... อย่าเลยครับท่าน เปลืองเงินกว่าเดิมเยอะนา ปืนไรเฟิล M 4 ตีไปกลมๆ 60,000 นี่รวมค่าโน่นนี่นั่นเอาไว้แล้ว ทหารไทยทั้งหมดนี่ผมรวม บก เรือ อากาศ แล้วก็รวมที่ไม่ใช่หน่วยรบด้วยนะ 360,000 คน  360,000 x 60,000= สองหมื่นหนึ่งพันล้านบาท แต่มันจ่ายทีเดียวจบเพราะอายุการใช้งานตีง่ายๆ 40-50 ปี ในกรณีที่ใช้งานทุกวัน  แต่ความเป็นจริงมันไม่ถึงครับ ซื้อมาจริงๆ แสนกระบอกก็จบแล้ว แต่ถ้าเปิดโรงงานสมมุติว่าใช้เงินตอนเปิด 5,000 ล้าน เหมือนจะน้อยกว่าเยอะ แต่ค่าจ้างพนักงาน ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าบำรุงรักษา ฯลฯ ไม่เกิน 10 ปี ผมว่าจ่ายมากกว่าแหงๆ  นี่เอาแค่อาวุธปืนนะ เครื่องบิน เรือรบ รถถัง นี่ลงทุนเป็นแสนๆล้านก็ยังทำไม่ได้เลยครับ ขนาดอินเดียที่สามารถผลิตอะไรได้บ้าง รถถังของเขาจ่ายไปยับๆยังใช้งานจริงไม่ได้เลยนะนั่น


ความหมายของผม คือ อะไรที่ผลิตหรือประกอบในประเทศได้ก็เอามาประกอบในประเทศเถอะ
เช่น รถหุ้มเกราะติดปืนกล ก็ซื้อแค่ตัวปืนกล ส่วนรถก็ประกอบเองในประเทศ แล้วก็เอามาประกอบกับปืน
พูดง่ายๆ แทนที่จะซื้อรถหุ้มเกราะติดปืนกลเป็นก้อนเดียวจากต่างประเทศ ก็ซื้อแค่ส่วนที่เราทำเองในประเทศไม่ได้ แล้วมาประกอบในประเทศเองก็เท่านั้นเอง


รถกระบะติดปืนกล ของโครตดี
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ pol

  • สาวกผู้สนับสนุนเซนนิคุง2Y
  • จอมทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 16,684
  • ถูกใจแล้ว: 19192 ครั้ง
  • ความนิยม: +360/-0
  • เพศ: ชาย
  • นักอู้มือหนึ่ง
Re: ความแตกต่างระหว่าง "ประชานิยม" กับ "สวัสดิการ"
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: เมษายน 18, 2024, 03:41:03 PM »
 ???  อาวุธถ้าไม่คิดจะส่งออกนี่ทำเยอะๆไม่คุ้มน่อ  ตอนนี้ไทยก็ผลิตรถหุ้มเกราะมาขายกับมาใช้งานอยู่แล้วครับ โดยการซื้อเครื่องยนต์ เกราะ ปืน ฯลฯ มาประกอบแล้วขายอยู่แล้วครับ บริษัทชัยเสรีมั๊ง
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Black7nos

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,228
  • ถูกใจแล้ว: 3931 ครั้ง
  • ความนิยม: +299/-402
Re: ความแตกต่างระหว่าง "ประชานิยม" กับ "สวัสดิการ"
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: เมษายน 18, 2024, 03:50:53 PM »
[quote/]


น้ำมันดิบคิดเป็นหน่วย Barrel (ถังน้ำมัน) 1 บาเรล = 158.987 ลิตร
ถ้าน้ำมันดิบ 82.75 เหรียญ(ณ วันนี้) = 82.75/158.987 = 0.52 เหรียญ/ลิตร
คิดเป็นเงินไทย ณ เวลาปัจจุบัน = 0.52 x 36.82 = 19.16 บาท/ลิตร ครับ


ราคาน้ำมันดีเซล ในวันนี้ = 30.44 บาท/ลิตร
ดังนั้นส่วนต่างจริงๆของน้ำมันดีเซล กับ น้ำมันดิบ = 30.44 - 19.16 = 11.28 บาท/ลิตร


ผมว่ามันเยอะแปลกๆอยู่ดีนะ ต่อให้รวม Cost การกลั่นน้ำมันดิบเป็นดีเซล + VAT + ภาษีหัก ณ ที่จ่าย + กองทุนน้ำมัน
ราคามันเปลี่ยนจากน้ำมันดิบ มาเป็นน้ำมันดีเซล เกือบ 11.28/19.16 = 58.87% อันนี้แพงเท่ากับภาษีสรรพสามิตรเก็บพวกเหล้าบุหรี่จากต่างประเทศเลยนะ


ผมว่าอันนี้แปลกแล้ว แทรกแซงยังไงให้แพงกว่าเดิม มาเล 16.60 บาท/ลิตร ประหลาดแล้ว เหมือนจงใจให้เกิดธุรกิจค้าน้ำมันเถื่อนเลย

ไช่ครับคิดแบบไหนต้นทุนก็ถูกกว่าที่แทรกแทรงไม่รวมกองทุนน้ำมันราคาน้ำมันก็แพงกว่าปรกติรวมกองทุนก็ยิ่งแพงเข้าไปอีก บอกว่าขาดทุนแต่ผมก็ไม่เห็นเอาเงินไปลดค่าน้ำมันซักบาทซื้อมา12ขาย20+4มาตลอดหลายสิบปีคำถามคือแล้วเงินไปไหน เอามาลดแทรกอะไรก็ในเมื่อขายทำกำไรบวกภาษีบวกเงินส่วนต่างกองทุน4บาทมาตลอด

ออฟไลน์ DDAvatar

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 591
  • ถูกใจแล้ว: 275 ครั้ง
  • ความนิยม: +11/-20
Re: ความแตกต่างระหว่าง "ประชานิยม" กับ "สวัสดิการ"
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: เมษายน 18, 2024, 04:30:05 PM »
น้ำมันดิบดูไบ 100 บาเรล ได้ ดีเซลแค่ 20-30 บาเรล เท่านั้นเอง
ที่ได้ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำมันเตา และพวก LPG จะได้น้อยสุด

และเราใช้น้ำมันดีเซลเป็น คิด 60% ของ น้ำมันสำเร็จรูป
พูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าเราต้องการน้ำมัน ดีเซลเท่าที่เราใช้ในทุกวัน
เราต้องนำเข้าน้ำมันดิบ 2 เท่าจาก ปริมาณน้ำมันดีเซลที่เราใช้
ถึงจะมีน้ำมันดีเซลพอใช้ บริโภคในประเทศ แต่เห็นว่าเรานำเข้า
ดีเซลสำเร็จรูปส่วนหนึ่งนะ


และ ผลิตภัณฑ์ อื่นๆ ถ้าขายไม่ได้ ก็จะเป็นของเหลือใช้ เสียค่าใช้จายในการจัดเก็บ
แต่ เข้าใจว่าโรงกลั่นไทย จะมีส่วนที่เป็นปริโตเคมีส่งออกด้วย

จำตารางไม่ได้ แต่ ปัจจุบัน ไทยเราเอากำไรจากราคาน้ำมันเบนซินมาอุดหนุนดีเซล
ถ้าขายในราคา ตลาดจริงๆ ดีเซลจะแพงกว่า ปัจจุบันไปอีกมากและเบนซินจะถูกลง
เพราะ เกินความต้องการไปเยอะ

ไทยเราอุดหนุนหนักๆ คือ LPG กับ ดีเซล
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 18, 2024, 05:01:09 PM โดย DDAvatar »
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: deaddy

ออฟไลน์ Pacifist

  • หมีเต็มตัว
  • *
  • กระทู้: 86
  • ถูกใจแล้ว: 18 ครั้ง
  • ความนิยม: +2/-2
Re: ความแตกต่างระหว่าง "ประชานิยม" กับ "สวัสดิการ"
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: เมษายน 19, 2024, 09:16:47 AM »
ผมว่าประเด็นมันไม่ใช่ลดงบในแง่ที่ว่าไม่เหลือให้ทำอะไรเลย แต่ที่มีมันเยอะเกินความจำเป็นแบบไม่เกิดประโยชน์


ปัญหาคือเงินมันไปจมที่ "เงินทอน" แทนที่จะไปลงในส่วนที่ควรจะได้จริงๆ มากกว่า


ดูได้จากพอจะแตะที ออกมาดิ้นกันใหญ่
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Black7nos

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,228
  • ถูกใจแล้ว: 3931 ครั้ง
  • ความนิยม: +299/-402
Re: ความแตกต่างระหว่าง "ประชานิยม" กับ "สวัสดิการ"
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: เมษายน 19, 2024, 03:57:11 PM »
น้ำมันดิบดูไบ 100 บาเรล ได้ ดีเซลแค่ 20-30 บาเรล เท่านั้นเอง
ที่ได้ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำมันเตา และพวก LPG จะได้น้อยสุด

และเราใช้น้ำมันดีเซลเป็น คิด 60% ของ น้ำมันสำเร็จรูป
พูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าเราต้องการน้ำมัน ดีเซลเท่าที่เราใช้ในทุกวัน
เราต้องนำเข้าน้ำมันดิบ 2 เท่าจาก ปริมาณน้ำมันดีเซลที่เราใช้
ถึงจะมีน้ำมันดีเซลพอใช้ บริโภคในประเทศ แต่เห็นว่าเรานำเข้า
ดีเซลสำเร็จรูปส่วนหนึ่งนะ


และ ผลิตภัณฑ์ อื่นๆ ถ้าขายไม่ได้ ก็จะเป็นของเหลือใช้ เสียค่าใช้จายในการจัดเก็บ
แต่ เข้าใจว่าโรงกลั่นไทย จะมีส่วนที่เป็นปริโตเคมีส่งออกด้วย

จำตารางไม่ได้ แต่ ปัจจุบัน ไทยเราเอากำไรจากราคาน้ำมันเบนซินมาอุดหนุนดีเซล
ถ้าขายในราคา ตลาดจริงๆ ดีเซลจะแพงกว่า ปัจจุบันไปอีกมากและเบนซินจะถูกลง
เพราะ เกินความต้องการไปเยอะ

ไทยเราอุดหนุนหนักๆ คือ LPG กับ ดีเซล
ผมเบื่อมากไช่ครับน้ำมันดิบมันไม่ไช่กลายเป็นน้ำมันที่ไช้100%แต่ส่วนที่กลันเป็นอย่างอื่น ก็มีมูลค่าสูงครับพูดเหมือนว่ากลันน้ำมันเสร็จที่เหลือทิ้งไม่คิดมูลค่าคิดแบบนี้ มันก็ขาดทุน100%อยู่แล้วครับส่วนต่าง40%ที่แปรรูปเป็นอย่างอื่นเข้ากระเป๋าใครไม่รู้ และไช่ผมก็รู้เหมือนคุณว่ากองทุนน้ำมันบอกว่าขาดทุนเพราะ แปรรูปมาไช้ได้เพียง60%แต่ที่เหลือไม่บอกและ4บาทต่อลิทธมันเหลือเฟือจะอุดส่วนต่างครับ น้ำมัน100ลิทธไช้น้ำมันดิบ160ลิทธส่วนต่างคือสองสามบาทต่อลิทธ แต่เก็บเพิ่ม4บาบวกภาษีคิดแบบไหนก็ได้เงินเกินไปเยอะครับทำยังไงไห้ขาดทุนดีกว่ส เมื่อขายของ100บาทในต้นทุน60-80บาทมาตลอดไม่คิดอีก40%ที่เเปรรูปเป็นอย่างอื่น ที่ไม่รู้เงินไปกองตรงไหนเลยนะ

ออฟไลน์ DDAvatar

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 591
  • ถูกใจแล้ว: 275 ครั้ง
  • ความนิยม: +11/-20
Re: ความแตกต่างระหว่าง "ประชานิยม" กับ "สวัสดิการ"
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: เมษายน 19, 2024, 07:25:26 PM »
ก็เหมือนคนเอาราคาวัตถุดิบตั้งต้นแล้วบอกว่าผู้แปรรูปต้องขายเท่าราคาวัตถุดิบ
ไม่ต้องคิดค่าใช้จ่ายอื่นๆเลย


โรงกลั่นกำไรจริงๆอยู่ที่ค่าการกลั่น เฉลีย10ปีอยู่ที่ 2-2.5 บาตรต่อลิตร ไม่ใช่ธุรกิจที่ทำกำไรดีนักหรอก
ไม่งั้นราคา TOP คงไป 150 แล้ว ไม่อยู่ที่ 60 บาทอย่างปัจจุบัน ปีที่แล้ว
กำไรต่อหุ้น ราวๆ 10% ช่วงโควิดนี่ถึงขาดทุนเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 19, 2024, 07:30:11 PM โดย DDAvatar »
 

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,679
  • ถูกใจแล้ว: 2830 ครั้ง
  • ความนิยม: +187/-0
Re: ความแตกต่างระหว่าง "ประชานิยม" กับ "สวัสดิการ"
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: เมษายน 19, 2024, 09:53:54 PM »
ก็เหมือนคนเอาราคาวัตถุดิบตั้งต้นแล้วบอกว่าผู้แปรรูปต้องขายเท่าราคาวัตถุดิบ
ไม่ต้องคิดค่าใช้จ่ายอื่นๆเลย


โรงกลั่นกำไรจริงๆอยู่ที่ค่าการกลั่น เฉลีย10ปีอยู่ที่ 2-2.5 บาตรต่อลิตร ไม่ใช่ธุรกิจที่ทำกำไรดีนักหรอก
ไม่งั้นราคา TOP คงไป 150 แล้ว ไม่อยู่ที่ 60 บาทอย่างปัจจุบัน ปีที่แล้ว
กำไรต่อหุ้น ราวๆ 10% ช่วงโควิดนี่ถึงขาดทุนเลย



ไม่ได้ๆ นายทุนต้องทำธุรกิจให้ขาดทุนล้มละลายไปเลยยิ่งดี ไม่งั้นจะเป็นเอาเปรียบประชาชน ;D 


ยิ่ง ptt ควรล้มละลายให้ไวๆเลย เพราะเอากำไรมหาศาล
พวกนายทุนที่เอาเปรียบจะได้ชิบหายให้หมด
โดยเฉพาะนายทุนต่างชาติอย่างอย่างกระทรวงการคลัง
หรือพวกสหกรณ์ กองทุน ประกันสังคมต่างๆ
แล้วนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเลยดีกว่า
อย่างมาเลเซีย ค่าน้ำมันดีเซลครึ่งเดียวของไทยเอง

ถ้าซื้อเขาได้ก็คงจะดีเนอะ ดูอย่างสิงคโปร์ เขายังขายราคา 2 เท่ากว่าเทียบกับเราเลย
ส่วนประเทศติดๆเราก็ขายกัน แพงกว่าเราทั้งนั้น
มีแค่ประเทศที่มีบ่อน้ำมันถึงจะถูกกว่าเรา

นำเข้าจากจีนแบบลาวก็ราคาราวๆ 1 เหรียญ ต่อลิตร
กำไรก็ให้จีนไป
หรือถ้านำเข้าจากสิงคโปร์ราคาคง 2 เหรียญ แต่เขาเอาน้ำมันจากไหนไม่แน่ใจ
แต่พม่า กับกัมพูชา น่าจะนำเข้าจากไทย
ไม่ดีๆเดี๋ยวกระทรวงการคลังมีกำไร ไทยไม่ควรส่งออกแพงให้ประเทศเพื่อนบ้าน ;D 




top นี่กำไรคิดเป็น % ราว 3-5%  มันมากไปสำหรับ ราคาน้ำมันบังคับขาย
ต้องกำไรปีละ 0.1% พอแล้ว จะได้ไม่มีทุนไปทำ r&d
ไปซื้อเทคโนโลยีต่างชาติเองเลยไวกว่า


กำไรน่ะบ. พวกนี้ไม่ต้องเอาเยอะหรอก
เดี๋ยวพอเครื่องจักรพัง ก็ME้มาซื้อใหม่เอา ไม่ต้องมีเงินสำรองหรอก  ;D 
top มีทุนต่างชาติถือเกือบ 20% ได้มั้ง ให้มันชิบหายไปเลย
ถึงที่เหลือจะเป็นไทยถือก็เถอะ แต่จะสู้ลดราคาขายขาดทุนให้คนไทยตรงๆได้อย่างไร ;D 


ถ้าเรามัวอุดหนุน บ.ไทยอยู่แบบนี้จะไปพัฒนาสู้ยุโรปได้ยังไง ที่นู่นเขาจ่ายค่าดีเซลเกือบ 2 เหรียญกัน
ดูอย่างประเทศเจริญแล้วมีประเทศไหนบ้าง ที่เขาขายน้ำมันถูกๆกัน ;D


ไอ้ บ.พวกนี้มันขี้โกงซุกต้นทุน กำไร บ.จริงๆ มหาศาลกว่านี้มาก


โดยเฉพาะกระทรวงการคลังโครตเลว บริหารยังไงเอาเปรียบชิบหาย


ไอ้พวกผู้ตรวจสอบก็โง่ ไม่รู้ว่าโดน ptt ตกแต่งบัญชี
พวกนักวิเคราะห์ก็โง่ ดูไม่ออกว่า ptt ชี้แจงราคาต้นทุนอันเป็นเท็จ


..กินยาไปนอนก่อนละ ฉลองหนักจนป่วย ;D

 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: pol

ออฟไลน์ Black7nos

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,359
  • ถูกใจแล้ว: 3346 ครั้ง
  • ความนิยม: +214/-280
Re: ความแตกต่างระหว่าง "ประชานิยม" กับ "สวัสดิการ"
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: เมษายน 20, 2024, 11:09:51 AM »
[quote/]


ไม่ได้ๆ นายทุนต้องทำธุรกิจให้ขาดทุนล้มละลายไปเลยยิ่งดี ไม่งั้นจะเป็นเอาเปรียบประชาชน ;D 


ยิ่ง ptt ควรล้มละลายให้ไวๆเลย เพราะเอากำไรมหาศาล
พวกนายทุนที่เอาเปรียบจะได้ชิบหายให้หมด
โดยเฉพาะนายทุนต่างชาติอย่างอย่างกระทรวงการคลัง
หรือพวกสหกรณ์ กองทุน ประกันสังคมต่างๆ
แล้วนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเลยดีกว่า
อย่างมาเลเซีย ค่าน้ำมันดีเซลครึ่งเดียวของไทยเอง

ถ้าซื้อเขาได้ก็คงจะดีเนอะ ดูอย่างสิงคโปร์ เขายังขายราคา 2 เท่ากว่าเทียบกับเราเลย
ส่วนประเทศติดๆเราก็ขายกัน แพงกว่าเราทั้งนั้น
มีแค่ประเทศที่มีบ่อน้ำมันถึงจะถูกกว่าเรา

นำเข้าจากจีนแบบลาวก็ราคาราวๆ 1 เหรียญ ต่อลิตร
กำไรก็ให้จีนไป
หรือถ้านำเข้าจากสิงคโปร์ราคาคง 2 เหรียญ แต่เขาเอาน้ำมันจากไหนไม่แน่ใจ
แต่พม่า กับกัมพูชา น่าจะนำเข้าจากไทย
ไม่ดีๆเดี๋ยวกระทรวงการคลังมีกำไร ไทยไม่ควรส่งออกแพงให้ประเทศเพื่อนบ้าน ;D 




top นี่กำไรคิดเป็น % ราว 3-5%  มันมากไปสำหรับ ราคาน้ำมันบังคับขาย
ต้องกำไรปีละ 0.1% พอแล้ว จะได้ไม่มีทุนไปทำ r&d
ไปซื้อเทคโนโลยีต่างชาติเองเลยไวกว่า


กำไรน่ะบ. พวกนี้ไม่ต้องเอาเยอะหรอก
เดี๋ยวพอเครื่องจักรพัง ก็กู้มาซื้อใหม่เอา ไม่ต้องมีเงินสำรองหรอก  ;D 
top มีทุนต่างชาติถือเกือบ 20% ได้มั้ง ให้มันชิบหายไปเลย
ถึงที่เหลือจะเป็นไทยถือก็เถอะ แต่จะสู้ลดราคาขายขาดทุนให้คนไทยตรงๆได้อย่างไร ;D 


ถ้าเรามัวอุดหนุน บ.ไทยอยู่แบบนี้จะไปพัฒนาสู้ยุโรปได้ยังไง ที่นู่นเขาจ่ายค่าดีเซลเกือบ 2 เหรียญกัน
ดูอย่างประเทศเจริญแล้วมีประเทศไหนบ้าง ที่เขาขายน้ำมันถูกๆกัน ;D


ไอ้ บ.พวกนี้มันขี้โกงซุกต้นทุน กำไร บ.จริงๆ มหาศาลกว่านี้มาก


โดยเฉพาะกระทรวงการคลังโครตเลว บริหารยังไงเอาเปรียบชิบหาย


ไอ้พวกผู้ตรวจสอบก็โง่ ไม่รู้ว่าโดน ptt ตกแต่งบัญชี
พวกนักวิเคราะห์ก็โง่ ดูไม่ออกว่า ptt ชี้แจงราคาต้นทุนอันเป็นเท็จ


..กินยาไปนอนก่อนละ ฉลองหนักจนป่วย ;D




ปตท.ไม่ได้กำไรน้ำมันครับ แต่กำไรจากผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ได้แก่ พลาสติก โฟม ประเทศไทยผลิตสิ่งเหล่านี้มากที่สุดในโลกแล้ว
เพียงแต่น้ำมันของไทยเนี่ย ผมว่าตัวเลขมันมีการ Top up แปลกๆ อ๋อ อีกอย่าง ปตท.เป็นรัฐวิสาหกิจนะครับ ถือหุ้นโดยรัฐบาลมากที่สุด


นายทุนน่ะเขาไม่ขาดทุนง่ายๆหรอกครับ ถ้าไม่ได้ทำอะไรโง่ๆ อย่างไปลงทุนเกินตัวแล้วเจ๊ง แบบอิตาเลี่ยน-ไทยที่ทวาย
หรือไปแข่งใน Marketshare ที่ตัวเองไม่ถนัดแล้วแพ้ แถมลงทุนไปเยอะเกิน


เหตุที่ไม่ขาดทุนง่ายๆ เพราะการคิดภาษีของบริษัทนิติบุคคลมันไม่ได้เอารายได้มาเป็นฐาน มันเอากำไรมาเป็นฐานต่างหากครับ
ดังนั้นผมต่อให้ถึงบริษัทขาดทุน ก็ไม่ต้องจ่ายภาษี ต่างจากบุคคลทั่วไป แถม %การเสียภาษีสูงสุดมันน้อยกว่าบุคคลทั่วไปด้วย
นิติบุคคลสูงสุดคือ 20% จากกำไร ขณะที่บุคคลทั่วไปคือเสีย 35% จากรายได้


นายทุนมีแต้มต่อขนาดนี้มากกว่าคนอื่นขนาดนี้แล้วยังทำธุรกิจเจ๊งอีกนะ คนอ่อนแอสมควรแพ้ไปครับ
เป็นไปตาม ทฤษฎีคัดสรรของธรรมชาติ ผู้ที่อยู่รอดคือผู้ที่แข็งแกร่งกว่า ถ้าเป็นผมเป็นรัฐบาล ผมจะไม่ช่วย เพราะคุณทำตัวคุณเอง
ถ้าธุรกิจไหนมันทำแล้วต้องตกแต่งบัญชี ก็ไม่สมควรทำตั้งแต่แรกแล้วครับ มันส่อแววเจ๊งแต่แรกทำให้ต้องตกแต่งบัญชี ไปทำธุรกิจอื่นดีกว่าครับ


พูดถึงใกล้ตัวผมอย่างงานก่อสร้าง เช่น งานอสังหาฯ สิ่งที่ผมเห็นคืออย่างอสังหาไทยนะ
สร้างคอนโด สร้างบ้านจัดสรรขึ้นมาเกลื่อน โดยหวังคนต่างชาติมาซื้อ โดยเฉพาะจีนเทา
คนไทยธรรมดาแทบไม่มีโอกาสจอง เพราะพวกจีนเทามันเหมาทั้ง Floor โดยกะหวังไปซื้อเก็งกำไร+ฟอกเงินในคราวเดียว
บางโครงการนะ Kickoff ไม่ถึงเดือนแม่งจองหมดทั้งตึก จนทำให้ราคาอสังหาฯดีดขึ้นจนประชาชนคนธรรมดาทั่วไปซื้อไม่ได้ เพราะแข่งราคากับจีนเทาพวกนี้ไม่ไหว
ทั้งที่นายทุนอสังหาไทย มันใช้สิทธิของ BOI เพื่อผลประโยชน์ต่างๆ ในการ Development ที่ดิน แต่กลับไม่ทำตามวัตถุประสงค์ของ BOI เลย
จุดประสงค์ของ BOI คือการขายบ้านให้แก่คนไทย ให้อย่างน้อยคนไทยมีบ้านหลังแรกของชีวิต บ้านหลังแรกของชีวิตสำคัญมากนะ
ทำให้นายทุนอสังหาฯ แข่งกันทำ New High ทั้งมูลค่าโครงการด้วยความละโมบ และยอดขายมากขึ้นเรื่อยๆ เงินเดือนประชาชนขึ้นกี่ % แล้วราคาบ้านหรือคอนโดขึ้นกี่% ลองเทียบกันดูมั้ยครับ


แล้วพอโควิดมา เศรษฐกิจจีนฟองสบู่จากพิษอสังหาฯ เกิดอะไรขึ้นครับ นายทุนอสังหาที่แข่งกันผลิตบ้านผลิตคอนโดก่อนหน้านี้ด้วยความละโมบก็เกิดขายไม่ออก
บ้าน+คอนโดที่สร้างมา เกิดของค้าง Stock แล้วล่าสุดพวกกลุ่มอสังหาฯหลายสิบกลุ่มไปทำหนังสือถึงรัฐบาลให้ขอให้ช่วยของนโยบายจูงใจเพื่อซื้ออสังหาฯไม่นานมานี้เอง
ผมถามจริงๆ ว่านี่เรียกว่าการทำตัวเองเจ็บเองเพราะความละโมบของตัวเอง แล้วจะมาร้องหารัฐบาลผลักให้รัฐบาลรับภาระคิดนโยบายระบายของค้าง Stock ของตัวเองอีก
ตัวเองทำตัวเองก็สมควรแก้ปัญหาด้วยตัวเองไปสิ อยากละโมบเองก็ช่วยไม่ได้ ช่างอ่อนแอ อ่อนแอจริงๆ

ผมจะบอกให้นะ ปล่อยให้พวกนายทุนพวกนี้ไปเผชิญชะตาตามเวรตามกรรมของมัน ถ้ามันลงทุนเกินตัวเยอะมันก็เจ็บเยอะตาม ลงทุนเกินตัวน้อยก็เจ็บน้อย
เดี๋ยวพวกนี้ก็ต้องลดราคาบ้าน+คอนโดเพื่อระบาย Stock ของมันเอง ราคาอสังหาฯในตลาดมันจะได้ลดลงมา ตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อุปสงค์-อุปทาน
พอราคาลดลงมาถึงระดับหนึ่ง เดี๋ยวประชาชนคนไทยก็สามารถมีกำลังพอซื้อได้เอง ไม่จำเป็นต้องออกนโยบายหรือแคมเปญจช่วยพวกนี้เลย
จริงๆ ปล่อยให้มันเจอบทเรียนซักหนึ่งหรือสองบทเรียนบ้างจะได้เข็ดไม่ลงทุนเกินตัว หวังฟันกำไรจากพวกจีนเทาอีก

เดี๋ยวนี้นายทุนไทยนิสัยเสีย แม่งทำตัวเป็นโนบิตะ และคิดว่ารัฐบาลเป็นโดราเอม่อน
อะไรๆก็โดราเอม่อน(รัฐบาล) ไม่งั้นเดี๋ยวกลายเป็น "โดราเอม่อนช่วยฉันด้วย" ทุกที
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 20, 2024, 11:19:00 AM โดย Black7nos »
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ pol

  • สาวกผู้สนับสนุนเซนนิคุง2Y
  • จอมทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 16,684
  • ถูกใจแล้ว: 19192 ครั้ง
  • ความนิยม: +360/-0
  • เพศ: ชาย
  • นักอู้มือหนึ่ง
Re: ความแตกต่างระหว่าง "ประชานิยม" กับ "สวัสดิการ"
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: เมษายน 20, 2024, 12:35:07 PM »
ของบางอย่างมันใหญ่เกินกว่าที่จะปล่อยให้ล้มนะครับ ลองนึกภาพปูนซีเมนต์ไทยล้มดูสิครับว่าจะบรรลัยแค่ไหน?  ???  อย่างต่างประเทศก็ทำแบบนี้กันบ่อยๆครับ วิกฤตซับไพรม์ที่อเมริกาก็มาจากสินทรัพย์ที่ด้อยค่า เช่น อสังหาริมทรัพย์ห่วยๆแต่ในที่สุดรัฐก็ต้องไปอุ้ม  อย่างจีนตอนนี้ก็มีวิกฤตเยอะมากแต่ไม่เป็นข่าวเฉยๆหรอกครับเราเลยไม่รู้ว่ามี
 

ออฟไลน์ Black7nos

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,359
  • ถูกใจแล้ว: 3346 ครั้ง
  • ความนิยม: +214/-280
Re: ความแตกต่างระหว่าง "ประชานิยม" กับ "สวัสดิการ"
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: เมษายน 20, 2024, 01:08:43 PM »
ของบางอย่างมันใหญ่เกินกว่าที่จะปล่อยให้ล้มนะครับ ลองนึกภาพปูนซีเมนต์ไทยล้มดูสิครับว่าจะบรรลัยแค่ไหน?  ???  อย่างต่างประเทศก็ทำแบบนี้กันบ่อยๆครับ วิกฤตซับไพรม์ที่อเมริกาก็มาจากสินทรัพย์ที่ด้อยค่า เช่น อสังหาริมทรัพย์ห่วยๆแต่ในที่สุดรัฐก็ต้องไปอุ้ม  อย่างจีนตอนนี้ก็มีวิกฤตเยอะมากแต่ไม่เป็นข่าวเฉยๆหรอกครับเราเลยไม่รู้ว่ามี


ปูนใหญ่ ปูนซีเมนต์ไทย ใครถือหุ้นตอนนี้ครับ? มันคงจะเจ๊งหรอกครับ ตัว Supplier มันไม่ค่อยมีปัญหาหรอกครับ
ของค้าง Stock มันก็ Spare ตามที่ Silo มันมี มันไม่มีทางขาดทุนหรอกครับ อีกทั้งมันมีธุรกิจอื่นพวกผลิตภัณฑ์อื่นอีกเพียบ


แต่ที่ค้าง Stock ส่วนใหญ่ตอนนี้คือ กลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาฯครับ มันผลิตมาเพื่อเอาไปขายจีนเทา
พอจีนมันฟองสบู่แตก พวกนี้มันก็ขายไม่ออก มันเลยค้าง Stock ครับ แต่พวกนี้มันใช้สิทธิประโยชน์ของ BOI
แล้วเงื่อนไขของสิทธิมันแลกกับว่า บอกว่าจะสร้างบ้าน+คอนโดเพื่อขายคนไทย แต่ไปขายให้ชาวต่างชาติแทน
ถ้ามันเจ๊งเพราะทำผิดเงื่อนไขเองแต่แรก เพราะโลภเอง ก็สมควรแล้วครับ
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: pol

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,679
  • ถูกใจแล้ว: 2830 ครั้ง
  • ความนิยม: +187/-0
Re: ความแตกต่างระหว่าง "ประชานิยม" กับ "สวัสดิการ"
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: เมษายน 21, 2024, 07:37:22 AM »
นายทุนนิสัยเสียให้ รบ. ช่วยน่ะใช่ครับ
แต่ก่อนมีแต่รากหญ้ามาก่อม็อบแทบทุกปี


แต่เรื่องให้ รบ. ช่วยต้องทำใจครับมันเป็นสากลโลก
แม้กระทั่งอีลอนยังพูดเองเลย ว่าถ้า รบ. ไม่ช่วย
เทสล่าก็จะพ่ายแพ้แก่รถจีน


ส่วนประเทศไทยแฟร์กับทุนต่างชาติมากตลอด
จนตอนนี้แทบไม่เหลือ made in thailand
ที่เป็นสินค้าเทค หรือมูลค่าสูงแล้ว


ตอนนี้ระดับสูงไทยนำเข้าหมด ระดับล่าง
ก็เจอจีนถล่มตลาดชนิดที่ว่า ราคาหน้าโรงงานในไทย
แพงกว่าราคาส่งจากจีนถึงหน้าบ้านลูกค้า


จนป้าเยนเล่นออกมาพูดเลยโลกไม่ต้องการสินค้าจีน


ตอนนี้ บ.ไทยก็อ่วมเลย แต่ก่อนจีนโฟกัสส่งของไปขายยุโรป อเมริกา แต่พอเขากีดกัน
จีนก็เร่งขยายไปตลาดอื่นๆแทน


แถม รบ.จีนสนับสนุน คนจีนที่ไปหาตังเข้าประเทศด้วย
ชนิดที่ว่า การสนับสนุนจาก รบ.จีน ทำให้คนจีนได้เปรียบคนพื้นเมืองอีก


เห็นว่าในลาวนี่ เงินสนับสนุนต่อหัวนี่หลักล้านเลย
กิจการคนลาวก็ชิบหายสิ ;D 


ส่วนการอพยพไปอเมริกา เรื่องสายลับน่ะเรื่องรอง
เรื่องใหญ่คือเขาส่งคนไปยึดกิจการอเมริกาต่างหาก


คือแม่มไปตั้งร้านแข่งคนในพื้นทึ่แล้วจ้างหน้าร้านเป็นคนท้องถิ่นก็ไม่มีใครรู้ละ
แต่สินค้าที่ขาย นำเข้าจากจีน ;D 


ประเทศอื่นส่งออกสินค้า ส่วนจีนส่งออกแม่ค้า ;D

 

ออฟไลน์ Black7nos

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,359
  • ถูกใจแล้ว: 3346 ครั้ง
  • ความนิยม: +214/-280
Re: ความแตกต่างระหว่าง "ประชานิยม" กับ "สวัสดิการ"
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: เมษายน 21, 2024, 11:57:32 AM »
นายทุนนิสัยเสียให้ รบ. ช่วยน่ะใช่ครับ
แต่ก่อนมีแต่รากหญ้ามาก่อม็อบแทบทุกปี


แต่เรื่องให้ รบ. ช่วยต้องทำใจครับมันเป็นสากลโลก
แม้กระทั่งอีลอนยังพูดเองเลย ว่าถ้า รบ. ไม่ช่วย
เทสล่าก็จะพ่ายแพ้แก่รถจีน


ส่วนประเทศไทยแฟร์กับทุนต่างชาติมากตลอด
จนตอนนี้แทบไม่เหลือ made in thailand
ที่เป็นสินค้าเทค หรือมูลค่าสูงแล้ว


ตอนนี้ระดับสูงไทยนำเข้าหมด ระดับล่าง
ก็เจอจีนถล่มตลาดชนิดที่ว่า ราคาหน้าโรงงานในไทย
แพงกว่าราคาส่งจากจีนถึงหน้าบ้านลูกค้า


จนป้าเยนเล่นออกมาพูดเลยโลกไม่ต้องการสินค้าจีน


ตอนนี้ บ.ไทยก็อ่วมเลย แต่ก่อนจีนโฟกัสส่งของไปขายยุโรป อเมริกา แต่พอเขากีดกัน
จีนก็เร่งขยายไปตลาดอื่นๆแทน


แถม รบ.จีนสนับสนุน คนจีนที่ไปหาตังเข้าประเทศด้วย
ชนิดที่ว่า การสนับสนุนจาก รบ.จีน ทำให้คนจีนได้เปรียบคนพื้นเมืองอีก


เห็นว่าในลาวนี่ เงินสนับสนุนต่อหัวนี่หลักล้านเลย
กิจการคนลาวก็ชิบหายสิ ;D 


ส่วนการอพยพไปอเมริกา เรื่องสายลับน่ะเรื่องรอง
เรื่องใหญ่คือเขาส่งคนไปยึดกิจการอเมริกาต่างหาก


คือแม่มไปตั้งร้านแข่งคนในพื้นทึ่แล้วจ้างหน้าร้านเป็นคนท้องถิ่นก็ไม่มีใครรู้ละ
แต่สินค้าที่ขาย นำเข้าจากจีน ;D 


ประเทศอื่นส่งออกสินค้า ส่วนจีนส่งออกแม่ค้า ;D




ต่างชาติจะไม่ถูกกว่าได้ไงครับ ในเมื่อมันจงใจหนีภาษีโดยการสำแดงไอเทมให้ศุลกากรผิดรายการ แล้วศุลกากรแม่งเสือกก็รู้เห็นเป็นใจ เหมือนเรื่องหมูเถื่อน
หรือแม้แต่กางเกงช้างที่ต่างชาติขายถูกกว่าเรา เพราะมันหนีภาษีนำเข้า ลองบังคับให้เก็บภาษีนำเข้าแบบจริงๆจังๆสิ ราคาก็สูงกว่าไทยอยู่ดี


ของผลิตในไทย ต้องเจอทั้งภาษี VAT ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ฯลฯ
ของผลิตในต่างประเทศ แม่งหนีภาษีหรือไม่ก็จงใจสำแดงรายการผิดประเภทเพื่อให้เสียน้อยกว่าที่ควรจะเป็น แล้วศุลกากรแม่งก็ไม่เปิดตู้คอนเทนเนอร์เช็ค


ผมถามจริงว่าแล้วของไทยคงสู้ได้หรอก อีกฝั่งเจอภาษีอ่วม อีกฝั่งไม่เจอภาษีอะไรเลย


หรือเอาชัดๆเลยก็ได้ชายแดนพม่า ริมแม่น้ำเมยเนี่ย คนเดินข้ามแม่น้ำยังข้ามได้ชิวๆเลย
แม่งก็ไปจ้างคนพม่ามาแบกของข้ามแม่น้ำ แม่น้ำแม่งสูงน้อยกว่าเข่าเสียอีก แค่นี้ก็หนีภาษีไทยโดยไม่ต้องผ่านด่านได้สบายๆแล้ว
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก