แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: สมมุติคุณเป็นหัวหน้าตระกูลในโลกแฟนตาซี  (อ่าน 1261 ครั้ง)

ออฟไลน์ DDAvatar

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 591
  • ถูกใจแล้ว: 275 ครั้ง
  • ความนิยม: +11/-20
Re: สมมุติคุณเป็นหัวหน้าตระกูลในโลกแฟนตาซี
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: เมษายน 03, 2024, 09:14:33 AM »
ยุโรป นี่จะเหมือน Game of Throne ครับ ลุกเมียน้อย ไม่มีสิทธิมีเสียงใดๆ
อย่าลืม ศาสนาคริสตร์ในยุคกลางคือทุกอย่าง เขาถึงห้ามมีชู้ ห้ามหย่า ห้ามนอกใจ


แต่ท่านลอรด์ ถ้าเจ้าชู้ก็ฟาดเรียบ นางสนองพระโอษฐยันเมด หรือพวกนางเอกอุปถัมภ์
เมียน้อยนี่ถ้าแบ็คไม่ใหญ่จริงหรือไม่ขึ้นหม้อสุดๆนี่แค่ออกงานยังไม่มีสิทธิเลย


ดังนั้น พวกเมียน้อยถ้ามีลูก ก็แล้วแต่ท่านลอร์ดว่าจะแคร์หรือเปล่า บางคนลูกเมียน้อย
นี่ ท่านลอร์ดไม่รับไม่ดูแลมีชีวิตตามมีตามเกิดเป็นแค่ทาสติดที่ดินด้วยซ้ำ









 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,226
  • ถูกใจแล้ว: 3929 ครั้ง
  • ความนิยม: +299/-402
Re: สมมุติคุณเป็นหัวหน้าตระกูลในโลกแฟนตาซี
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: เมษายน 03, 2024, 03:27:49 PM »
ปัญหาคือแฟนตาซีจีน มันขอแค่มีคน บรรลุระดับสูงคนเดียว ที่เหลือกลาย ตัวประกอบกี๊ๆ หมด
หมายถึง ทั้งตระกูลผู้สืบทอดจะกระจอกงอกง่อยเป็นปัญญาอ่อนแค่ไหน ขอแค่บรรลุพลังถึงขั้นได้
ก็กลายเป็นเสาค้ำยันได้ทั้งตระกูล


ทีนี้กว่าจะบรรลุชั้น ก็ใช้เวลาเป็นพันปี  ไอ้พวกบรรลุเร็ว ก็ใช่ว่าจะรอดจนแก่ได้


สรุปก็คือ ไม่ต้องแจกทรัพยากร ท่านบรรพบุรุษ เอาไปใช้คนเดียวก็พอ คนอื่นไม่ต้อง
ไข่ครับสุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับเซตติ้งของโลกมาเป็นอย่างแรกอย่างที่ท่านว่าถ้าเป็นแฟนตาซีจีนโลกอมตะ อายุสามารถต่อไปได้เรื่อยๆจะแต่งตังผู้สืบทอดทำใมในเมื่อเราอายุยืนกว่าลูกหลานทังหมดสู้ลงทรัพย์ยากรมาที่เราคนเดียวดีกว่าไหม แฟนตาซีมันเลยมีหลายอย่างมากอย่างที่บอกอย่างแรกคือเราอยู่ที่ไหนในโลกแบบไหน แล้วถึงมาดูทรัพย์ยากรที่มีกับความสามารถของเราว่าเอามาไช้ได้แค่ไหน จากนั้นต้องจัดการคู่แข่งว่าทำอะไรได้ถึงค่อยไปแต่งตังผู้สืบทอด คำถามแบบเป็นผู้นำในโลกแฟนตาซีแม่งกว้างเกินไป ถ้าจะถามแบบนี้แล้วอยากได้คำตอบแค่จะจัดการลูกหลานสืบทอดยังไง ควรถามว่าเป็นผู้นำตระกูลในโลกแฟนตาซีแบบเจาะจงไปเลยว่าเป็นใคร คนตอบจะได้รู้เซตติ้งโลกว่าอยู่ระดับไหนเรามีของเท่สไหร่ศัตรูเป็นใครแล้วจะส่งต่อมาดกแบบไหน เช่นถ้าคุณเป็นเซียงเส้าหลงจากเจาะเวลาหาจิ๋นซี หรือเป็นรูเดียสจากเกิดชาตินี้พี่ต้องเทพ เป็นชายแปด เป็นโทมะจากสมาร์ทโฟน หรือเป็นซองจินอู ถ้าไม่ระบุไห้ชัดแค่เซตติ้งโลกมันก็ไม่มีทางตรงกันคำตอบก็จะสะเปะสปะแล้วแต่ ใครจะจินตนาการแฟนตาซีแบบใหนมีกำลังทรัพเท่าไหรมากน้อยไม่มีทางเท่ากันคำตอบจึงมีตังแต่ไร้ขีดจำกัดจนถึงไม่ไห้อะไรใครเลย

ออฟไลน์ humandroy

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 963
  • ถูกใจแล้ว: 379 ครั้ง
  • ความนิยม: +18/-22
Re: สมมุติคุณเป็นหัวหน้าตระกูลในโลกแฟนตาซี
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: เมษายน 04, 2024, 09:00:53 AM »
สิ่งที่สมัยก่อนราชวงศ์ทำกัน ในการคัดสรรผู้ปกครองรุ่นต่อไป ก็เหมือนกับการบ่มเพาะสายพันธุ์ในฟาร์มโคนมนั่นแหละครับ
จากพ่อพันธุ์ที่ดีที่สุด สืบพันธุ์ให้ได้มากที่สุด แม้แต่กับ พี่น้อง ลูก และ แม่ของมันเอง แล้วจากนั้นก็คัดเลือกลูกตัวที่ดีที่สุดมาเป็นพ่อพันต่อไป


แต่ในเคสของคนบางครั้งลูกตัวที่ฉลาดที่สุดไม่ได้สืบทอดตำแหน่งพ่อพันธุ์ เพราะบ่อยครั้ง"ตัวแม่"ก็เข้ามามีส่วนในการแข่งขัน
ความล้มเหลวจึงเกิดขึ้นเมื่อตัวลูกที่อ่อนแอทางพันธุกรรมแต่มีแม่ที่ฉลาดได้สืบทอดตำแหน่งพ่อพันธ์แทนตัวที่ฉลาดที่สุด
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,030
  • ถูกใจแล้ว: 2950 ครั้ง
  • ความนิยม: +162/-427
Re: สมมุติคุณเป็นหัวหน้าตระกูลในโลกแฟนตาซี
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: เมษายน 04, 2024, 09:30:19 AM »
ผมว่าผู้หญิงมีบทบาทมากวก่าที่เราคิดกัน
เอาแบบดชกุนที่ตอนนี้กำลังดังหรือแนวราชวงศ์ฮั่นที่ตอนคนร่วมชิงแผ่นดินตายไปกันหมดโฮไทเฮาก็เข้ามามีบทบาทอย่างมากในการกำหนดคนสืบทอดรุ่นต่อไป
...
นิยายของผมกำลังพยายามจะแซวว่าหากโลกปราณยุทธมันยึดถือกำลังแข้งแกร่งที่สุดจริงน่ะมันจะไม่มีสภาพอย่างนี้หรอก
หากท่านบรรพชนตายไปสักคน ตระกูลก็มีสิทธิสิ้นทันทีเพราะไม่มีใครปกป้องอีกต่อไปแล้ว
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,676
  • ถูกใจแล้ว: 2830 ครั้ง
  • ความนิยม: +187/-0
Re: สมมุติคุณเป็นหัวหน้าตระกูลในโลกแฟนตาซี
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: เมษายน 04, 2024, 10:48:13 AM »
[quote/]
ไข่ครับสุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับเซตติ้งของโลกมาเป็นอย่างแรกอย่างที่ท่านว่าถ้าเป็นแฟนตาซีจีนโลกอมตะ อายุสามารถต่อไปได้เรื่อยๆจะแต่งตังผู้สืบทอดทำใมในเมื่อเราอายุยืนกว่าลูกหลานทังหมดสู้ลงทรัพย์ยากรมาที่เราคนเดียวดีกว่าไหม แฟนตาซีมันเลยมีหลายอย่างมากอย่างที่บอกอย่างแรกคือเราอยู่ที่ไหนในโลกแบบไหน แล้วถึงมาดูทรัพย์ยากรที่มีกับความสามารถของเราว่าเอามาไช้ได้แค่ไหน จากนั้นต้องจัดการคู่แข่งว่าทำอะไรได้ถึงค่อยไปแต่งตังผู้สืบทอด คำถามแบบเป็นผู้นำในโลกแฟนตาซีแม่งกว้างเกินไป ถ้าจะถามแบบนี้แล้วอยากได้คำตอบแค่จะจัดการลูกหลานสืบทอดยังไง ควรถามว่าเป็นผู้นำตระกูลในโลกแฟนตาซีแบบเจาะจงไปเลยว่าเป็นใคร คนตอบจะได้รู้เซตติ้งโลกว่าอยู่ระดับไหนเรามีของเท่สไหร่ศัตรูเป็นใครแล้วจะส่งต่อมาดกแบบไหน เช่นถ้าคุณเป็นเซียงเส้าหลงจากเจาะเวลาหาจิ๋นซี หรือเป็นรูเดียสจากเกิดชาตินี้พี่ต้องเทพ เป็นชายแปด เป็นโทมะจากสมาร์ทโฟน หรือเป็นซองจินอู ถ้าไม่ระบุไห้ชัดแค่เซตติ้งโลกมันก็ไม่มีทางตรงกันคำตอบก็จะสะเปะสปะแล้วแต่ ใครจะจินตนาการแฟนตาซีแบบใหนมีกำลังทรัพเท่าไหรมากน้อยไม่มีทางเท่ากันคำตอบจึงมีตังแต่ไร้ขีดจำกัดจนถึงไม่ไห้อะไรใครเลย


โลกอมตะถ้ามีตระกูลก็ต้องให้ทรัพยากรกับตระกูลครับ ถ้าไม่อยากให้ตระกูลมาถ่วง
การที่เจ้าสำนักจะอัพเวลได้ มันใช้ทรัพยากรระดับเจ้าสำนัก ซึ่งทรัพยากรที่ตระกูลหามาได้ส่วนใหญ่ จะเป็นเป็นเกรดที่ต่ำกว่า
ซึ่งระดับเจ้าสำนักมีมาก็ดี ไม่มีก็ไม่ได้ตัดสินชีวิตขนาดนั้น ถ้าให้เทียบมันจะราวๆ


สมมุติเจ้าสำนักเวล 9 จะอัพไป 10 ถ้าเหล่าผู้อวุโสเวล 8 ก็ยังพอช่วยเหลือได้
แต่ถ้า เจ้าสำนัก 9 อวุโสเวล 5 เจ้าสำนักถ้าไม่ปั้นผู้อวุโสมาเวล 8 ก็ย้ายหนีไปที่อื่นเลยจะได้ไม่ต้องมีคนถ่วง


แต่ปรกติที่เขาตั้งระบบตระกูลหรือระบบสำนักเพราะคนๆนึงไม่สามารถเก่งได้ทุกเรื่อง


อย่างสมมุติผู้นำเป็นสาบบู้เวล 9 แล้วมีผู้อวุโสสายปรุงยาเวล 8 ยังไงก็ดีกว่าไปซื้อข้างนอก
ถ้าผู้นำเวล 9 แต่ผู้อวุโสปรุงยาเวล 5 ยาระดับ 5 แทบไม่ช่วยอะไรเวล 9 แล้วจะไปดูดทรัพยากรยุงมาเติมทำไม


เพราะงั้น ผู้นำเวล 9 เลยมักจะเอาทรัพยากรที่เป็นขยะเวล 1-5 หรือ 6-7 ที่ไม่ใช้เพื่ออัพให้ตระกูลตัวเองมี สายปรุงยาเวล 8
หรือให้อัพเวลจาก 5 ขึ้นมา 7 ก็ยังดี แล้วจะได้พัฒนาต่อไป 8-9 ในซักวัน


แต่ถ้าไม่ให้ทรัพยากรระยะยาวมันไม่เติบโตหรอก


ถ้าให้คำนวนทางเศรษฐศาสตร์ง่ายๆ
ต้นไม้ จาก  เมล็ด เป็น ต้นอ่อน จากเมล็ดๆนึง ราคาไม่ถึง 1 บาทต่อ 1 เมล็ด แต่พอเป็นต้นกล้าราคาเป็น 5-100 บาท ใช้เวลาไม่ถึงเดือน ราคาพุ่งไป 10-100 เท่าได้สบายๆ
แต่จากต้นไม้อายุ 10 ปี เป็น 10 ปี 1 เดือน ราคาแทบไม่ต่างกัน


ถามว่าอยากรวยไวๆ ควรจะเปลี่ยนจากเมล็ดพันธ์ที่ดี เป็นต้นกล้าเยอะๆ หรือปั้นต้นไม้อายุ 100 ปีให้เติบโตใหญ่ขึ้นล่ะ


เพราะงั้นปรกติ เขาเลยเน้นปลูกต้นกล้าใหม่ๆดีๆเยอะๆ ไปพร้อมๆกับการดันให้เสาหลักตระกูลเข้มแข็งยิ่งขึ้น


แล้วยังการทำงานที่ผู้นำไม่อยากเสียเวลาทำเองอีก เช่นขุดเหมือง ถ้าคนขุดอ่อนแอก็ขุดช้า จะไปขุดเองก็เสียเวลาไม่คุ้ม เอาเวลาไปฝึกฝนเรื่องอื่นดีกว่า โดยแบ่งทรัพยากรให้ระดับล่างทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
แล้วเอาส่วนแบ่งลดลง แต่ไม่ต้องเสียเวลาไปทำเองดีกว่า




ส่วนไอ้พวกพระเอกสูตรโกงอย่าไปนับ มันจะมีใครเข้าดันเจี้ยน ที่เหมือนกับถูกหวยกันได้แบบตลอดเวลาการเติบโต


ปรกติมันต้องมีพลาดบ้าง เช่น เข้าไปดันเจี้ยนแล้วนิ้วขาด แขนขาด กระดูกหักต้องพักเป็นเดือนเป็นปี สุดท้ายก็สะดุดบ้าง
แต่ตัวเอกนี่ ทั้งเจอของเทพๆที่คนส่วนใหญ่ทั้งชีวิตไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ ทั้งต่อสู้แล้วไม่เคยพลาดจนฟื้นตัวในเวลาอันสั้นไม่ได้ เวลาเป็นตายชนะตลอด ไม่ก็มีคนช่วย
ยังดีนะบางเรื่องปล่อยพระเอกตายบ้าง แล้วไปเกิดใหม่ในร่างอื่น ไม่งั้นนี่คือดวงโครตเทพ ;D
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,226
  • ถูกใจแล้ว: 3929 ครั้ง
  • ความนิยม: +299/-402
Re: สมมุติคุณเป็นหัวหน้าตระกูลในโลกแฟนตาซี
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: เมษายน 04, 2024, 04:24:59 PM »
[quote/]


โลกอมตะถ้ามีตระกูลก็ต้องให้ทรัพยากรกับตระกูลครับ ถ้าไม่อยากให้ตระกูลมาถ่วง
การที่เจ้าสำนักจะอัพเวลได้ มันใช้ทรัพยากรระดับเจ้าสำนัก ซึ่งทรัพยากรที่ตระกูลหามาได้ส่วนใหญ่ จะเป็นเป็นเกรดที่ต่ำกว่า
ซึ่งระดับเจ้าสำนักมีมาก็ดี ไม่มีก็ไม่ได้ตัดสินชีวิตขนาดนั้น ถ้าให้เทียบมันจะราวๆ


สมมุติเจ้าสำนักเวล 9 จะอัพไป 10 ถ้าเหล่าผู้อวุโสเวล 8 ก็ยังพอช่วยเหลือได้
แต่ถ้า เจ้าสำนัก 9 อวุโสเวล 5 เจ้าสำนักถ้าไม่ปั้นผู้อวุโสมาเวล 8 ก็ย้ายหนีไปที่อื่นเลยจะได้ไม่ต้องมีคนถ่วง


แต่ปรกติที่เขาตั้งระบบตระกูลหรือระบบสำนักเพราะคนๆนึงไม่สามารถเก่งได้ทุกเรื่อง


อย่างสมมุติผู้นำเป็นสาบบู้เวล 9 แล้วมีผู้อวุโสสายปรุงยาเวล 8 ยังไงก็ดีกว่าไปซื้อข้างนอก
ถ้าผู้นำเวล 9 แต่ผู้อวุโสปรุงยาเวล 5 ยาระดับ 5 แทบไม่ช่วยอะไรเวล 9 แล้วจะไปดูดทรัพยากรยุงมาเติมทำไม


เพราะงั้น ผู้นำเวล 9 เลยมักจะเอาทรัพยากรที่เป็นขยะเวล 1-5 หรือ 6-7 ที่ไม่ใช้เพื่ออัพให้ตระกูลตัวเองมี สายปรุงยาเวล 8
หรือให้อัพเวลจาก 5 ขึ้นมา 7 ก็ยังดี แล้วจะได้พัฒนาต่อไป 8-9 ในซักวัน


แต่ถ้าไม่ให้ทรัพยากรระยะยาวมันไม่เติบโตหรอก


ถ้าให้คำนวนทางเศรษฐศาสตร์ง่ายๆ
ต้นไม้ จาก  เมล็ด เป็น ต้นอ่อน จากเมล็ดๆนึง ราคาไม่ถึง 1 บาทต่อ 1 เมล็ด แต่พอเป็นต้นกล้าราคาเป็น 5-100 บาท ใช้เวลาไม่ถึงเดือน ราคาพุ่งไป 10-100 เท่าได้สบายๆ
แต่จากต้นไม้อายุ 10 ปี เป็น 10 ปี 1 เดือน ราคาแทบไม่ต่างกัน


ถามว่าอยากรวยไวๆ ควรจะเปลี่ยนจากเมล็ดพันธ์ที่ดี เป็นต้นกล้าเยอะๆ หรือปั้นต้นไม้อายุ 100 ปีให้เติบโตใหญ่ขึ้นล่ะ


เพราะงั้นปรกติ เขาเลยเน้นปลูกต้นกล้าใหม่ๆดีๆเยอะๆ ไปพร้อมๆกับการดันให้เสาหลักตระกูลเข้มแข็งยิ่งขึ้น


แล้วยังการทำงานที่ผู้นำไม่อยากเสียเวลาทำเองอีก เช่นขุดเหมือง ถ้าคนขุดอ่อนแอก็ขุดช้า จะไปขุดเองก็เสียเวลาไม่คุ้ม เอาเวลาไปฝึกฝนเรื่องอื่นดีกว่า โดยแบ่งทรัพยากรให้ระดับล่างทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
แล้วเอาส่วนแบ่งลดลง แต่ไม่ต้องเสียเวลาไปทำเองดีกว่า




ส่วนไอ้พวกพระเอกสูตรโกงอย่าไปนับ มันจะมีใครเข้าดันเจี้ยน ที่เหมือนกับถูกหวยกันได้แบบตลอดเวลาการเติบโต


ปรกติมันต้องมีพลาดบ้าง เช่น เข้าไปดันเจี้ยนแล้วนิ้วขาด แขนขาด กระดูกหักต้องพักเป็นเดือนเป็นปี สุดท้ายก็สะดุดบ้าง
แต่ตัวเอกนี่ ทั้งเจอของเทพๆที่คนส่วนใหญ่ทั้งชีวิตไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ ทั้งต่อสู้แล้วไม่เคยพลาดจนฟื้นตัวในเวลาอันสั้นไม่ได้ เวลาเป็นตายชนะตลอด ไม่ก็มีคนช่วย
ยังดีนะบางเรื่องปล่อยพระเอกตายบ้าง แล้วไปเกิดใหม่ในร่างอื่น ไม่งั้นนี่คือดวงโครตเทพ ;D


ผมถึงบอกไงครับว่าคำถามมันก็กว้างเกินไปต่างโลกแบบไหนมีทรัพย์ยากรเท่าไหร่มีคนในตระกูลกี่คน ไม่รู้อะไรเลยดังนั้นคนตอบก็ตอบได้หมดตามที่เขาต้องการเพราะเขาสามารถวางเซตติ้งแบบไหนก็ได้ ผมวางไห้เป็นโลกอมตะที่ใครหมัดใหณ่กว่าก็ชนะยิ่งเก่งยิ่งอายุยืนแล้วแบบนี้จะเอาทรัพย์ยากรไปไห้ลูกหลานทำใมจำเป็นต้องมีคนสืบทอดเหรอ ในเมื่อเจ้าตระกูลสามารถอยู่ได้เรื่อยๆใครหนีก็ตบแม่งพลังห่างกันไกลอยู่แล้ว เอาเศษๆทรัพยากรไห้ลูกหลานก็พอเจ้าตระกูลเหมาเรียบหรือถ้าเป็นย้อนอดีตพลังไม่เวอร์ นี่ค่อยเตรียมทุกอย่างไห้ทายาทจุดเริ่มมันก็อยู่ที่เซตติ้งโลกเป็นอันดับแรกแล้วถึงมาตัวตนเราทรัพยากรเรา ผมถึงบอกคำถามแบบนี้ไห้ระบุตัวละครในโลกแฟนตาซีมาเลยดีกว่า คนตอบจะได้รู้ว่าเป็นโลกแบบไหนดรามีซัฟพลายแค่ไหนถามแบบกว้างมากแบบนี้ มันก็ต้องมีตอบระดับเทพเซียนอมตะไม่ต้องสนใครเลย ยันคนธรรมดาอยู่แล้วครับ

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,676
  • ถูกใจแล้ว: 2830 ครั้ง
  • ความนิยม: +187/-0
Re: สมมุติคุณเป็นหัวหน้าตระกูลในโลกแฟนตาซี
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: เมษายน 05, 2024, 12:56:26 PM »
[quote/]


ผมถึงบอกไงครับว่าคำถามมันก็กว้างเกินไปต่างโลกแบบไหนมีทรัพย์ยากรเท่าไหร่มีคนในตระกูลกี่คน ไม่รู้อะไรเลยดังนั้นคนตอบก็ตอบได้หมดตามที่เขาต้องการเพราะเขาสามารถวางเซตติ้งแบบไหนก็ได้ ผมวางไห้เป็นโลกอมตะที่ใครหมัดใหณ่กว่าก็ชนะยิ่งเก่งยิ่งอายุยืนแล้วแบบนี้จะเอาทรัพย์ยากรไปไห้ลูกหลานทำใมจำเป็นต้องมีคนสืบทอดเหรอ ในเมื่อเจ้าตระกูลสามารถอยู่ได้เรื่อยๆใครหนีก็ตบแม่งพลังห่างกันไกลอยู่แล้ว เอาเศษๆทรัพยากรไห้ลูกหลานก็พอเจ้าตระกูลเหมาเรียบหรือถ้าเป็นย้อนอดีตพลังไม่เวอร์ นี่ค่อยเตรียมทุกอย่างไห้ทายาทจุดเริ่มมันก็อยู่ที่เซตติ้งโลกเป็นอันดับแรกแล้วถึงมาตัวตนเราทรัพยากรเรา ผมถึงบอกคำถามแบบนี้ไห้ระบุตัวละครในโลกแฟนตาซีมาเลยดีกว่า คนตอบจะได้รู้ว่าเป็นโลกแบบไหนดรามีซัฟพลายแค่ไหนถามแบบกว้างมากแบบนี้ มันก็ต้องมีตอบระดับเทพเซียนอมตะไม่ต้องสนใครเลย ยันคนธรรมดาอยู่แล้วครับ


ไม่ปั้นคนนี่คือกะโสดไม่มีเมียมีลูกงั้นหรอ
มีลูก 3 คนเฝ้าทั้งวันได้หรอ


หรือชอบแนวอู๋หมิงใน ฟงอวิ๋น
โดนฆ่าล้างตระกูลลูกเมียตายเรียบ เพราะตอนนั้นไม่อยู่บ้าน :o 

ขนาดเมียเนี่ยฟงเป็นวรยุทธยังดับเลย

ครอบครัวนี่โครตถ่วงชีวิตเลย
แนวเทพเซียนเลยต้องมีตระกูลไง

ต่อให้เก่งสุดในโลก ก็ต้องการตระกูลช่วยดูแลครอบครัวอยู่ดี

เมียสวยๆออกนอกบ้าน ถ้าไม่มีคนคุ้มครองนี่ปัญหาอย่างเยอะ

ลูกเทพๆตบคุณชายท้องถิ่นในต่างแดน เจอเรียก พ่อเรียกปู่มาล้างแค้น ไม่มีคนปกป้องนี่ทำไง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 05, 2024, 01:03:26 PM โดย deaddy »
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,030
  • ถูกใจแล้ว: 2950 ครั้ง
  • ความนิยม: +162/-427
Re: สมมุติคุณเป็นหัวหน้าตระกูลในโลกแฟนตาซี
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: เมษายน 05, 2024, 02:30:25 PM »
[quote/]


ไม่ปั้นคนนี่คือกะโสดไม่มีเมียมีลูกงั้นหรอ
มีลูก 3 คนเฝ้าทั้งวันได้หรอ


หรือชอบแนวอู๋หมิงใน ฟงอวิ๋น
โดนฆ่าล้างตระกูลลูกเมียตายเรียบ เพราะตอนนั้นไม่อยู่บ้าน :o 

ขนาดเมียเนี่ยฟงเป็นวรยุทธยังดับเลย

ครอบครัวนี่โครตถ่วงชีวิตเลย
แนวเทพเซียนเลยต้องมีตระกูลไง

ต่อให้เก่งสุดในโลก ก็ต้องการตระกูลช่วยดูแลครอบครัวอยู่ดี

เมียสวยๆออกนอกบ้าน ถ้าไม่มีคนคุ้มครองนี่ปัญหาอย่างเยอะ

ลูกเทพๆตบคุณชายท้องถิ่นในต่างแดน เจอเรียก พ่อเรียกปู่มาล้างแค้น ไม่มีคนปกป้องนี่ทำไง


ตบมันกลับครับ


เพราะพลังห่างกันขั้นหนึ่งเท่ากับสวรรค์และพิภพ


และยิ่งช่วงหลังขั้นย่อยก็ต่างกันราวสวรรค์และพิภพ


การให้ทรัพยาดรแก่ลูกหลานหรือเสียเวลาการฝึกของท่านบรรพชน




หากทำให้ท่านบรรพขนมีพลังน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครึ่งขั้น




คนที่จะตายทั้งตระกูลคือเราเองครับ


...




อย่างที่ท่าน Rumia บอกนั่นล่ะครับ


ว่าหากเชื่ออย่างที่โม้มาตลอดว่าหมัดใครใหญ่คนนั้นแข็งแกร่งที่สุด


คนอื่นนอกจนกท่านบรรพชนอยู่หรือตายนั้นไร้ความหมาย
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,676
  • ถูกใจแล้ว: 2830 ครั้ง
  • ความนิยม: +187/-0
Re: สมมุติคุณเป็นหัวหน้าตระกูลในโลกแฟนตาซี
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: เมษายน 05, 2024, 03:06:15 PM »
[quote/]


ตบมันกลับครับ


เพราะพลังห่างกันขั้นหนึ่งเท่ากับสวรรค์และพิภพ


และยิ่งช่วงหลังขั้นย่อยก็ต่างกันราวสวรรค์และพิภพ


การให้ทรัพยาดรแก่ลูกหลานหรือเสียเวลาการฝึกของท่านบรรพชน




หากทำให้ท่านบรรพขนมีพลังน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครึ่งขั้น




คนที่จะตายทั้งตระกูลคือเราเองครับ


...




อย่างที่ท่าน Rumia บอกนั่นล่ะครับ


ว่าหากเชื่ออย่างที่โม้มาตลอดว่าหมัดใครใหญ่คนนั้นแข็งแกร่งที่สุด


คนอื่นนอกจนกท่านบรรพชนอยู่หรือตายนั้นไร้ความหมาย


ไม่ครับเรื่องจริงถ้าลูกหลานไม่เก่งพอ ท่านบรรพบุรุษไม่ได้ว่างฝึกวิชาครับ อย่าว่าแต่ทรัพยากรเลย


อย่างจะไปไถ สมาคมการค้าที่ต่างเมือง หน้าฉากให้ทรัพยากรตามที่ท่านบรรพบุรุษขอ พอออกนอกเมืองโดนโจรภูเขาที่ สมาคมการค้าจ้างลอบฆ่าคนตายหมดแล้วยึดทรัพ


เก่งแค่ไหนก็ดูแลลูกหลานได้แค่ในเมืองที่อยู่ พอจะขยายไปดูดทรัพยากรต่างเมือง ก็ต้องส่งคนไปทำแทน ไม่งั้นก็ต้องไปเอง


ระหว่างให้บรรพบุรุษ ไปตบทรัพยากรเอง ได้จังหวัดอุดรเท่านั้น กับ ให้ไปเดินทางไป ขอนแก่นหนองคาย และที่ติดๆกัน แล้วก็เสียเวลาฝึก


กับปั้นเด็กให้ไปตบทรัพได้ถึง อุบล อาจจะตบได้ไม่เต็มที่ แต่ตัวเป้งๆบรรพบุรุษไปตีข่มไว้แล้ว


ถ้าบรรพบุรุษ พลังระดับ 9 ไปตบ 8 ทุกตัวไว้หมดแล้ว ลูกหลานก็มีพลังระดับ 7 ก็ไปได้ทั่วแล้ว
แต่ถ้าลูกหลานพลังระดับ 5 บรรพบุรุษต้องไปตบ ตั้งแต่ระดับ 9 ไปยันระดับ 6 ให้หมด ใครที่เก่งขึ้นมาใหม่ บรรพบุรุษก็ต้องไปกำจัดให้หมด จะเอาเวลาที่ไหนไปฝึก :o


ส่วนใช้ชื่อเสียงกดข่มหรอ มันใช้ได้ก็แค่หน้าฉากเท่านั้นแหล่ะ ฆ่าคนไม่เหลือหลักฐาน บรรพบุรุษเก่งแค่ไหนก็ไปแก้แค้นให้ไม่ได้ ;D
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,226
  • ถูกใจแล้ว: 3929 ครั้ง
  • ความนิยม: +299/-402
Re: สมมุติคุณเป็นหัวหน้าตระกูลในโลกแฟนตาซี
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: เมษายน 05, 2024, 04:09:19 PM »
[quote/]


ไม่ครับเรื่องจริงถ้าลูกหลานไม่เก่งพอ ท่านบรรพบุรุษไม่ได้ว่างฝึกวิชาครับ อย่าว่าแต่ทรัพยากรเลย


อย่างจะไปไถ สมาคมการค้าที่ต่างเมือง หน้าฉากให้ทรัพยากรตามที่ท่านบรรพบุรุษขอ พอออกนอกเมืองโดนโจรภูเขาที่ สมาคมการค้าจ้างลอบฆ่าคนตายหมดแล้วยึดทรัพ


เก่งแค่ไหนก็ดูแลลูกหลานได้แค่ในเมืองที่อยู่ พอจะขยายไปดูดทรัพยากรต่างเมือง ก็ต้องส่งคนไปทำแทน ไม่งั้นก็ต้องไปเอง


ระหว่างให้บรรพบุรุษ ไปตบทรัพยากรเอง ได้จังหวัดอุดรเท่านั้น กับ ให้ไปเดินทางไป ขอนแก่นหนองคาย และที่ติดๆกัน แล้วก็เสียเวลาฝึก


กับปั้นเด็กให้ไปตบทรัพได้ถึง อุบล อาจจะตบได้ไม่เต็มที่ แต่ตัวเป้งๆบรรพบุรุษไปตีข่มไว้แล้ว


ถ้าบรรพบุรุษ พลังระดับ 9 ไปตบ 8 ทุกตัวไว้หมดแล้ว ลูกหลานก็มีพลังระดับ 7 ก็ไปได้ทั่วแล้ว
แต่ถ้าลูกหลานพลังระดับ 5 บรรพบุรุษต้องไปตบ ตั้งแต่ระดับ 9 ไปยันระดับ 6 ให้หมด ใครที่เก่งขึ้นมาใหม่ บรรพบุรุษก็ต้องไปกำจัดให้หมด จะเอาเวลาที่ไหนไปฝึก :o


ส่วนใช้ชื่อเสียงกดข่มหรอ มันใช้ได้ก็แค่หน้าฉากเท่านั้นแหล่ะ ฆ่าคนไม่เหลือหลักฐาน บรรพบุรุษเก่งแค่ไหนก็ไปแก้แค้นให้ไม่ได้ ;D
ผมถึงบอกไงครับว่าแฟนตาซีมันกว้างอยู่ที่เซตติ้งโลกแบบไหนถ้าผู้นำสามาราถกลายเป็นอมตะจากทรัพยากรตระกูล แล้วใจดีแบ่งไห้ลูกหลานเตรียมสืบทอดอีกตระกูลที่เน้นผู้นำเก่งอับเกรดผู้นำเก่งมาแย่งละจะทำยังไง แฟนตาซีมันโม้ได้ขั้นสุดระดับครองหลายโลกหลายภพมีพลังดีดนี้วบึ้มจักรวาลยันแบบย้อนอดีตบ้านๆ หัวหน้าตระกูลแบบหงอคงผิดหรอครับที่เก่งคนเดียวครองทรัพยากรทังหมดไว้แล้วเก่งจนไม่ต่องแคร์นรกสวรรค์ คนเดียวกระทืบจนนรกสวรรค์ต้องก้มกราบถ้าหงอคงแบ่งทรัพยากรมันตายตังแต่พยายมมาเอาชิวีตแล้ว ลูกหลานไม่ต้องถามตายเรียบตังแต่ตอนนั้นแล้วถ้าหงอคงแบ่งทรัพยากรปันผู้สืบทอด มันจะอ่อนลงอย่างน้อยครึ่งหนึ่งผู้สืบทอดก็เก่งได้ไม่ถึงหนึ่งในสิบแล้วตระกํลมันจะรอดได้ยังไงครับ นี่คือตัวอย่างกำปันใครใหณ่ไอ้ที่ท่านว่ามามันเหมาะกับยุคปรกติที่ไม่แฟนตาซีครับ ต้องกังวลว่าเราจะตายต้องหาผู้สืบทอด หงอคงนี่คือตัวอย่างเลยอยากได้ใครเป็นเมียก็จัดคนนั้นทรัพยากรก็เหมาคนเดียวเศษๆไห้ลูกหลานยังไงเราก็อมตะอยู่แล้วไม่ต้องกลัวใครถ้ากำปันเราใหณ่กว่า ถ้าเราอ่อนแอมันก็ล่มทังตระกูลแบบเดียวกับจ้าวมังกรที่แบ่งปันทรัพยากรไห้ลูกหลาน แต่เจอหงอคงที่อัดทรัพยากรไว้คนเดียวเดินเข้าไปเอาสมบัติใครห้ามอะไรได้จนจบไซอิ๋วยังไม่กล้าทวงคืนเลย ผมถึงบอกมาไงครับระบุไห้จัดว่าแฟนตาซีแบบไหนไห้ง่ายยกตัวละครแฟนตาซีมาเป็นต้นแบบไห้เทียบเลย เพราะผมไม่รู้ว่าแฟนตาซีของคุณมันเป็นแบบไหนแต่สำหรับผมมันมีตังแต่โลกอมตะยันธรรมดาสามัญย้อนยุคธรรมดา ถ้าผมตอบแฟนตาซีแบบโลกอมตะมันก็ต้องยึดทุกอย่างไว้ที่ผมอยู่แล้ว เพราะผมคนเดียวทำได้ทุกอย่างแต่ถ้าความแฟนตาซีต่ำแค่ย้อนเวลาไร้พลังพิเศษมันก็ต้องกระจายงานเพราะคนเดียว ทำทุกอย่างไม่ได้อยู่แล้ว ตัวอย่างหงอคงมีพลังระดับ10ลูกหลานพลัง1พวกเง็กเซียนมีพลัง9-5ไล่ๆกันมาแต่สุดท้าย ใครกล้าแตะตระกูลหงอคงครับเมื่อรู้ว่าหงอคงมีพลัง10 มันฆ่าใครก็ได้บนสรรค์ กล้าแตะลูกหบานหงอคงที่มีพลัง1ไหมคำตอบคือไม่มีใครกล้า แม้หงอคงจะถูกจองจำห้าร้อยปีแต่ก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรลูกหลานหงอคง เพราะถ้าทำไปโดนฆ่าล้างโคตรแน่นอนพลังเหนือกว่าในแฟนตาซีเทพเซียนเท่ากับ ทำอะไรไม่ได้เลยยกกองทัพพลัง9-5มาเป็นแสนเป็นล้านก็สู้พลัง10คนเดียวไม่ได้ ผมถึงบอกแบบนี้มีความจำเป็นต้องแบ่งทรัพยากรไห้ลูกหลานเหรอ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 06, 2024, 04:01:22 AM โดย Rumia »
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,030
  • ถูกใจแล้ว: 2950 ครั้ง
  • ความนิยม: +162/-427
Re: สมมุติคุณเป็นหัวหน้าตระกูลในโลกแฟนตาซี
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: เมษายน 05, 2024, 11:49:43 PM »
[quote/]


ไม่ครับเรื่องจริงถ้าลูกหลานไม่เก่งพอ ท่านบรรพบุรุษไม่ได้ว่างฝึกวิชาครับ อย่าว่าแต่ทรัพยากรเลย


อย่างจะไปไถ สมาคมการค้าที่ต่างเมือง หน้าฉากให้ทรัพยากรตามที่ท่านบรรพบุรุษขอ พอออกนอกเมืองโดนโจรภูเขาที่ สมาคมการค้าจ้างลอบฆ่าคนตายหมดแล้วยึดทรัพ


เก่งแค่ไหนก็ดูแลลูกหลานได้แค่ในเมืองที่อยู่ พอจะขยายไปดูดทรัพยากรต่างเมือง ก็ต้องส่งคนไปทำแทน ไม่งั้นก็ต้องไปเอง


ระหว่างให้บรรพบุรุษ ไปตบทรัพยากรเอง ได้จังหวัดอุดรเท่านั้น กับ ให้ไปเดินทางไป ขอนแก่นหนองคาย และที่ติดๆกัน แล้วก็เสียเวลาฝึก


กับปั้นเด็กให้ไปตบทรัพได้ถึง อุบล อาจจะตบได้ไม่เต็มที่ แต่ตัวเป้งๆบรรพบุรุษไปตีข่มไว้แล้ว


ถ้าบรรพบุรุษ พลังระดับ 9 ไปตบ 8 ทุกตัวไว้หมดแล้ว ลูกหลานก็มีพลังระดับ 7 ก็ไปได้ทั่วแล้ว
แต่ถ้าลูกหลานพลังระดับ 5 บรรพบุรุษต้องไปตบ ตั้งแต่ระดับ 9 ไปยันระดับ 6 ให้หมด ใครที่เก่งขึ้นมาใหม่ บรรพบุรุษก็ต้องไปกำจัดให้หมด จะเอาเวลาที่ไหนไปฝึก :o


ส่วนใช้ชื่อเสียงกดข่มหรอ มันใช้ได้ก็แค่หน้าฉากเท่านั้นแหล่ะ ฆ่าคนไม่เหลือหลักฐาน บรรพบุรุษเก่งแค่ไหนก็ไปแก้แค้นให้ไม่ได้ ;D




ทั้งหมดที่ว่ามีรากฐานมาจากท่านบรรพนต้องชนะศึกระดับ 9 กับคนอื่นๆก่อนน่ะครับ




ที่ความต่างเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งดาว สามารถตัดสินแพ้ชนะได้




หากแพ้ศึกระดับ 9  ที่เหลือก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเพราะเราจะตายอนาถกันหมด




มุกแบบกำลังภายใน ประมาณเรื่อง warlord จ้าวนักรบกลียะคน่ะครับ




ที่ประมาณยอดฝีมือต้องเดินสำรวจ คำนวณทุกความเป็นไปของสภาพแวดล้อม




สายลมใบไม้ไหว


ต่อสู้ศึกบนดวงจันทร์ตลอดสามปีจนฟ้าฝนหายนะบนโลก




ชนะมาได้เพราะพลังเหนือกว่าขั้นหนึ่ง 99.99เจอกับ 100


ฝ่ายหนึ่งร้อยขนะ


เพราะทุกอย่างเท่ากันหมด ทั้งกระบวนท่า ไหวพริบ สภาพจิตใจ ฯลฯ


จึงตัดสินกันในระดับขั้น 0.01 จริงๆ


ผมมองว่าอาจจะเพราะท่าน deaddy มองแบบโลกสงบสุขไปหน่อย




ลองจินตนาการแบบระดับขั้นเก้าคือคนที่ทำให้โลกมีสภาพอย่างทุกวันนี้น่ะครับ






โอ้ ดวลจันทร์แบ่งเป็นสองเพราะท่านบรรพบุรุษสู้กัลมารบรรพกาล




โอ้ทะเลแยกเป็นสี่ทะเล เพราะท่านบรรพบุรุษสู้กับจอมดาบอันดับหนึ่งแห่งแดนบูรพามุซาชิ


ภูเขากลางแผ่นดินเกิดขึเนเพราะท่านบรรพบุรุษเดินพลังรักษาฝังตัวอยู่ในหุบเขาหลังจากศึกตัดสินชะตากรรมใต้หล้ากับยักษ์ผานกู่


มันเป็นเหมือนตำนานที่กำเนิดโลกนั้นๆประมาณไบเบิ้ลน่ะครับ





http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,676
  • ถูกใจแล้ว: 2830 ครั้ง
  • ความนิยม: +187/-0
Re: สมมุติคุณเป็นหัวหน้าตระกูลในโลกแฟนตาซี
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: เมษายน 07, 2024, 06:35:15 AM »
[quote/]




ทั้งหมดที่ว่ามีรากฐานมาจากท่านบรรพนต้องชนะศึกระดับ 9 กับคนอื่นๆก่อนน่ะครับ




ที่ความต่างเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งดาว สามารถตัดสินแพ้ชนะได้




หากแพ้ศึกระดับ 9  ที่เหลือก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเพราะเราจะตายอนาถกันหมด




มุกแบบกำลังภายใน ประมาณเรื่อง warlord จ้าวนักรบกลียะคน่ะครับ




ที่ประมาณยอดฝีมือต้องเดินสำรวจ คำนวณทุกความเป็นไปของสภาพแวดล้อม




สายลมใบไม้ไหว


ต่อสู้ศึกบนดวงจันทร์ตลอดสามปีจนฟ้าฝนหายนะบนโลก




ชนะมาได้เพราะพลังเหนือกว่าขั้นหนึ่ง 99.99เจอกับ 100


ฝ่ายหนึ่งร้อยขนะ


เพราะทุกอย่างเท่ากันหมด ทั้งกระบวนท่า ไหวพริบ สภาพจิตใจ ฯลฯ


จึงตัดสินกันในระดับขั้น 0.01 จริงๆ


ผมมองว่าอาจจะเพราะท่าน deaddy มองแบบโลกสงบสุขไปหน่อย




ลองจินตนาการแบบระดับขั้นเก้าคือคนที่ทำให้โลกมีสภาพอย่างทุกวันนี้น่ะครับ






โอ้ ดวลจันทร์แบ่งเป็นสองเพราะท่านบรรพบุรุษสู้กัลมารบรรพกาล




โอ้ทะเลแยกเป็นสี่ทะเล เพราะท่านบรรพบุรุษสู้กับจอมดาบอันดับหนึ่งแห่งแดนบูรพามุซาชิ


ภูเขากลางแผ่นดินเกิดขึเนเพราะท่านบรรพบุรุษเดินพลังรักษาฝังตัวอยู่ในหุบเขาหลังจากศึกตัดสินชะตากรรมใต้หล้ากับยักษ์ผานกู่


มันเป็นเหมือนตำนานที่กำเนิดโลกนั้นๆประมาณไบเบิ้ลน่ะครับ








ไม่อ่ะครับ มันไม่สงบสุข แต่มันไม่ใช่ระดับ 9 จะไปไล่ฆ่าระดับ 9 ด้วยกัน
ปรกติมันจะสูสีกันในระดับนึง คือต่อให้เป็น ระดับ 10 มา มันก็มักมี 9 หลายตัวจนระดับ 10 ก็ไม่อยากแลกแบบเป็นตายโดยไม่มั่นใจ


ดูขนาดรัสเซียชนะยูเครนขาดๆ สุดท้ายจบไม่ทัน
ฝั่งพันธมิตรมาช่วยก่อน


คือถ้าแต่ละฝั่งสมดุลไปแล้ว จะไม่ค่อยมีใครอยากให้กองกำลังใดกองกำลังนึงกุมอำนาจทั้งหมด


สรุปคือ ถ้ามีระดับ 9 คือสูงสุดในเขต
พอมีคนระดับ 10 ขึ้นมาในกลุ่ม ก็มักจะไม่ตีกันตรงๆ
แต่ระดับ 10 จะไปดึงฐานเสียงในกลุ่มเพื่อบีบก่อน
พอกองกำลังเกินครึ่งเข้าข้าง ค่อยไปบีบคนที่เหลือ


แต่ถ้าเป็นระดับ 10 ต่างแดนกลุ่มระดับ 9 ทั้งหมดจะรวมใจกันต้านศัตรู เพราะไม่งั้นตัวเองจะเป็นรายต่อไป


ส่วนไอ้เศษเสี้ยวที่ชนะกันไม่มีใครไปบ้าท้าทายกันหรอก
ใช้ชีวิตปรกติก็สบายกันทุกฝ่ายอยู่ละ
ต่อให้โอกาสชนะ 5 โอกาสตาย 1 เขายังไม่คิดจะไปสู้เลย
ต้องโอกาสชนะ 5 แพ้ 1 แต่เอาตัวรอดได้ชัวๆ


ปรกติไอ้พวกระดับผู้นำ มันใช้การเมืองบีบกันล้วนๆ
ไอ้ที่ทะลวงพลังได้แล้วไปตบชาวบ้านน่ะมี
แต่เขามักไม่ลุยซึ่งๆหน้า ต้องยกพวกไปรุม


ชนิดที่ว่าไม่ใช่แค่มั่นใจว่าจะชนะ แต่มั่นใจว่าจะชนะขาดๆ แล้วชวนพวกไปลุยเพื่อให้กวาดล้างได้หมดชัวๆ


เพราะงั้นที่บอก เฉือนกันนิดๆน่ะ ไม่มีการตีกันแรงถึงตายหรอก


ส่วนไอ้ช่องว่างระดับ 9 กับระดับ 10 น่ะ
ยิ่งฝึกได้อายุยืดยาวจนแทบอมตะน่ะ
แปลว่าแต่ละขั้นยิ่งอัพยาก


เช่น ตาเฒ่า อายุ 1000 ปี อยู่ที่ระดับ 9 พอมีคนทะลวงระดับ 10 ได้ คิดว่าเขาใช้เวลากี่ปี
ให้เดาเลย มากกว่า 500 ปี


คือตามสูตรยิ่งแก่ยิ่งอัพยาก ยิ่งขั้นสูงนิ่งอัพยาก
แปลว่า ถ้าคนอายุ 1000 ยังระดับติดอยู่ที่ 9 กัน
แปลว่าเขาเข้าถึงระดับ 9 มาหลาย 100 ปีแล้ว


ถ้าไปสูบทรัพยากรตระกูล 100 แล้วใครจะไปหาทรัพยากรมาให้ 


ถ้าตระกูลอื่นๆตัวผู้ที่แกร่งสุดใช้ทรัพยากรตระกูล 500 ปี คิดที่ 50% ของทรัพยากรที่ได้มาทุกปี
รวมมูลค่าคือ 25000%


แต่ตระกูลที่พอๆกัน ผู้นำตระกูลดูดไป 100%
ก็ต้องใช้เวลา 250 ปี ที่นอกจากเหล่าผู้อวุโสที่เคยทะลวงขั้นไปนานแล้ว ทั้งตระกูลก็จะมีแต่ตัวขั้น 1-3
ที่อายุขัยปรกติ
สมมุติมีผู้อวุโส 7 คนดูแล และตายไปทุกๆ 50 ปีต่อคนจะด้วยตบกับชาวบ้านรึแก่ตายก็ช่าง


พออัดทรัพยากรไป 200 ปี ผู้อวุโสก็เหลือ 3 คน
บอกเลย เจอรุมกินโต๊ะแน่นอน


เจอ 2 ตระกูลที่มีระดับ 9 เท่ากันรุม แต่ แต่ก่อนมีผู้อวุโส 7 คนเท่าๆกัน แต่พอ 2 ตระกูลมารุม
ระดับ 9 ก็ตีกันไป 2 รุม 1 อาจจะ 1 เก่งกว่าแต่ยังเป็นระดับ 9 เหมือนกัน ฆ่ากันไม่ง่าย แต่ก็ยืดเกมยาวๆ
ไม่แลกถึงตาย แค่ถ่วงเวลาไว้


แล้วกลุ่มอวุโส 2 ตระกูล รวม 14 คนมาซัก 10 คน
เจอกับผู้อวุโส 3 คน ที่ไม่ได้รับการสนับสนุนมา 200 ปี


เหล่าผู้อวุโส ทั้ง 10 คนได้รับการสนับสนุนจากตระกูลตลอด 200 ปี


กลายเป็น 3 โดน 10 รุม ตายเรียบ
คนในตระกูลทรัพสินต่างๆโดนเก็บเรียบ


สุดท้ายผู้นำตระกูลที่สูบทรัพยากรทั้งหมดไม่แบ่งใคร
ก็ต้องไปหาทรัพยากรเพื่อฝึกฝนเอง


จากที่ใช้ชีวิตชิลๆฝึกอย่างเดียว
ฝึกไปได้ 20000% ขาดอีก 5000% ถึงจะทะลวงพลังได้


ส่วนคู่แข่งตีว่าได้มา 50% มา 200 ปี ก็ 10000% ขาด 15000% จะทะลวงขั้น


แต่ฝั่งที่ตระกูลโดนเก็บเรียบ ก็ต้องมาหาทรัพยากรเองแล้ว
แถมต้องหนีจากพื้นที่ตระกูลเพราะโดนยึด 


ต่อไปก็โดนตามล่าถึงจะไม่มีใครฆ่าได้ แต่ทรัพยากรที่ให้ระดับ 9 ฝึกจะไม่มีขายในตลาดแล้ว


เพราะทุกฝ่ายที่มีระดับสูงสุดที่ 9 ก็ไม่มีใครปล่อยทรัพยากรระดับ 9 ออกมา
จะไปขโมยอีกฝั่ง ก็มีระดับ 8 หลายคน ระดับ 9 อีก


1-1 อาจจะเอาชนะได้ แต่ไปลุยบ้านเจาๆก็มีระดับ 8 ช่วยรุม

สุดท้ายไม่ต้องเอาชนะทันทีแต่ตัดทรัพยากรไปเรื่อยๆ
ป่วนให้ไม่มีเวลาพัก แล้วในที่สุด ระดับ 8 คนอื่นก็กลายเป็นระดับ 9 ขั้นต่ำ
แต่คนที่ไม่เหลือตระกูล การฝึกฝนก็ลำบาก
จะให้ดีต้องย้ายหนีไปเลย ค่อยกลับมาใหม่




เพราะงั้นโลกมันไม่สงบน่ะถูกแล้ว แต่เขาแค่ไม่เอาระดับสูงสุดออกมาตีกันบ่อยๆ
คนที่จะตัดสินชีวิตตระกูลเลยไม่ใช่ ระดับ 9 หรือ 10


แต่เป็นกองกำลังค้นหาทรัพยากรมาป้อนต่างหาก




แต่ถึงไม่มีการโจมตีตรงๆจากภายนอก
ภายใน ที่ดูดทรัพยากรทั้งหมดให้ผู้นำตระกูล
คิดหรอว่าลูกหลานตระกูลจะชอบ อยู่ไปก็ไม่มีอนาคต
ใครหน่วยก้านดีสุดท้ายก็โดนซื้อตัวไป
ไม่ก็มีสายให้ต่างตระกูลเพื่อแลกกับทรัพยากรเสริม


ตระกูลตกต่ำแล้วไง ผู้นำที่ไม่แบ่งอะไรให้
ต่อให้ใหญ่คับโลกไปสุดท้ายตัวเองก็ไม่ได้อะไรอยู่ดี
เป็นขี้ข้ากองกำลังอื่นยังเติบโต แต่จะให้รอ 250 ปี พวกระดับล่างตายหมดแล้วก็ยังทะลวงพลังไม่ได้
ถึงจะไม่ได้ทรยศหมด แต่ก็จะเกิดการโกงกินภายใน


จนสุดท้าย ต่อให้ไม่มีปัจจัยภายนอก การดูดทรัพย์ทั้งตระกูลไปไม่แบ่งนานๆ จะเกิดความไม่พอใจ
สุดท้ายกำลังการผลิตก็ตกไปเอง เพราะจัดส่งไม่หมดตามสั่ง นอกจากจะได้ทรัพยากรน้อยกว่าที่คาดไว้
เผลอๆ คนทรยศเพียบ


ไปเจอเหมืองใหม่ รายงานตระกูลไปก็ไม่ได้ไรสิวะ
เอาข้อมูบไปขายดีกว่า ตระกูลได้..... เอาข้อมูลขาย...ขายๆๆๆ


ไม่ใช่ว่าคนในตระกูลไม่อยากให้ผู้นำไร้เทียมทาน
แต่การที่ปิดกั้นอนาคตลูกหลานตัวเองเพื่อผู้นำ
ยังไงก็มีคนทรยศ แถมจะเยอะด้วย ;D


 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,030
  • ถูกใจแล้ว: 2950 ครั้ง
  • ความนิยม: +162/-427
Re: สมมุติคุณเป็นหัวหน้าตระกูลในโลกแฟนตาซี
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: เมษายน 07, 2024, 08:06:10 AM »
[quote/]


ไม่อ่ะครับ มันไม่สงบสุข แต่มันไม่ใช่ระดับ 9 จะไปไล่ฆ่าระดับ 9 ด้วยกัน
ปรกติมันจะสูสีกันในระดับนึง คือต่อให้เป็น ระดับ 10 มา มันก็มักมี 9 หลายตัวจนระดับ 10 ก็ไม่อยากแลกแบบเป็นตายโดยไม่มั่นใจ


ดูขนาดรัสเซียชนะยูเครนขาดๆ สุดท้ายจบไม่ทัน
ฝั่งพันธมิตรมาช่วยก่อน


คือถ้าแต่ละฝั่งสมดุลไปแล้ว จะไม่ค่อยมีใครอยากให้กองกำลังใดกองกำลังนึงกุมอำนาจทั้งหมด


สรุปคือ ถ้ามีระดับ 9 คือสูงสุดในเขต
พอมีคนระดับ 10 ขึ้นมาในกลุ่ม ก็มักจะไม่ตีกันตรงๆ
แต่ระดับ 10 จะไปดึงฐานเสียงในกลุ่มเพื่อบีบก่อน
พอกองกำลังเกินครึ่งเข้าข้าง ค่อยไปบีบคนที่เหลือ


แต่ถ้าเป็นระดับ 10 ต่างแดนกลุ่มระดับ 9 ทั้งหมดจะรวมใจกันต้านศัตรู เพราะไม่งั้นตัวเองจะเป็นรายต่อไป


ส่วนไอ้เศษเสี้ยวที่ชนะกันไม่มีใครไปบ้าท้าทายกันหรอก
ใช้ชีวิตปรกติก็สบายกันทุกฝ่ายอยู่ละ
ต่อให้โอกาสชนะ 5 โอกาสตาย 1 เขายังไม่คิดจะไปสู้เลย
ต้องโอกาสชนะ 5 แพ้ 1 แต่เอาตัวรอดได้ชัวๆ


ปรกติไอ้พวกระดับผู้นำ มันใช้การเมืองบีบกันล้วนๆ
ไอ้ที่ทะลวงพลังได้แล้วไปตบชาวบ้านน่ะมี
แต่เขามักไม่ลุยซึ่งๆหน้า ต้องยกพวกไปรุม


ชนิดที่ว่าไม่ใช่แค่มั่นใจว่าจะชนะ แต่มั่นใจว่าจะชนะขาดๆ แล้วชวนพวกไปลุยเพื่อให้กวาดล้างได้หมดชัวๆ


เพราะงั้นที่บอก เฉือนกันนิดๆน่ะ ไม่มีการตีกันแรงถึงตายหรอก


ส่วนไอ้ช่องว่างระดับ 9 กับระดับ 10 น่ะ
ยิ่งฝึกได้อายุยืดยาวจนแทบอมตะน่ะ
แปลว่าแต่ละขั้นยิ่งอัพยาก


เช่น ตาเฒ่า อายุ 1000 ปี อยู่ที่ระดับ 9 พอมีคนทะลวงระดับ 10 ได้ คิดว่าเขาใช้เวลากี่ปี
ให้เดาเลย มากกว่า 500 ปี


คือตามสูตรยิ่งแก่ยิ่งอัพยาก ยิ่งขั้นสูงนิ่งอัพยาก
แปลว่า ถ้าคนอายุ 1000 ยังระดับติดอยู่ที่ 9 กัน
แปลว่าเขาเข้าถึงระดับ 9 มาหลาย 100 ปีแล้ว


ถ้าไปสูบทรัพยากรตระกูล 100 แล้วใครจะไปหาทรัพยากรมาให้ 


ถ้าตระกูลอื่นๆตัวผู้ที่แกร่งสุดใช้ทรัพยากรตระกูล 500 ปี คิดที่ 50% ของทรัพยากรที่ได้มาทุกปี
รวมมูลค่าคือ 25000%


แต่ตระกูลที่พอๆกัน ผู้นำตระกูลดูดไป 100%
ก็ต้องใช้เวลา 250 ปี ที่นอกจากเหล่าผู้อวุโสที่เคยทะลวงขั้นไปนานแล้ว ทั้งตระกูลก็จะมีแต่ตัวขั้น 1-3
ที่อายุขัยปรกติ
สมมุติมีผู้อวุโส 7 คนดูแล และตายไปทุกๆ 50 ปีต่อคนจะด้วยตบกับชาวบ้านรึแก่ตายก็ช่าง


พออัดทรัพยากรไป 200 ปี ผู้อวุโสก็เหลือ 3 คน
บอกเลย เจอรุมกินโต๊ะแน่นอน


เจอ 2 ตระกูลที่มีระดับ 9 เท่ากันรุม แต่ แต่ก่อนมีผู้อวุโส 7 คนเท่าๆกัน แต่พอ 2 ตระกูลมารุม
ระดับ 9 ก็ตีกันไป 2 รุม 1 อาจจะ 1 เก่งกว่าแต่ยังเป็นระดับ 9 เหมือนกัน ฆ่ากันไม่ง่าย แต่ก็ยืดเกมยาวๆ
ไม่แลกถึงตาย แค่ถ่วงเวลาไว้


แล้วกลุ่มอวุโส 2 ตระกูล รวม 14 คนมาซัก 10 คน
เจอกับผู้อวุโส 3 คน ที่ไม่ได้รับการสนับสนุนมา 200 ปี


เหล่าผู้อวุโส ทั้ง 10 คนได้รับการสนับสนุนจากตระกูลตลอด 200 ปี


กลายเป็น 3 โดน 10 รุม ตายเรียบ
คนในตระกูลทรัพสินต่างๆโดนเก็บเรียบ


สุดท้ายผู้นำตระกูลที่สูบทรัพยากรทั้งหมดไม่แบ่งใคร
ก็ต้องไปหาทรัพยากรเพื่อฝึกฝนเอง


จากที่ใช้ชีวิตชิลๆฝึกอย่างเดียว
ฝึกไปได้ 20000% ขาดอีก 5000% ถึงจะทะลวงพลังได้


ส่วนคู่แข่งตีว่าได้มา 50% มา 200 ปี ก็ 10000% ขาด 15000% จะทะลวงขั้น


แต่ฝั่งที่ตระกูลโดนเก็บเรียบ ก็ต้องมาหาทรัพยากรเองแล้ว
แถมต้องหนีจากพื้นที่ตระกูลเพราะโดนยึด 


ต่อไปก็โดนตามล่าถึงจะไม่มีใครฆ่าได้ แต่ทรัพยากรที่ให้ระดับ 9 ฝึกจะไม่มีขายในตลาดแล้ว


เพราะทุกฝ่ายที่มีระดับสูงสุดที่ 9 ก็ไม่มีใครปล่อยทรัพยากรระดับ 9 ออกมา
จะไปขโมยอีกฝั่ง ก็มีระดับ 8 หลายคน ระดับ 9 อีก


1-1 อาจจะเอาชนะได้ แต่ไปลุยบ้านเจาๆก็มีระดับ 8 ช่วยรุม

สุดท้ายไม่ต้องเอาชนะทันทีแต่ตัดทรัพยากรไปเรื่อยๆ
ป่วนให้ไม่มีเวลาพัก แล้วในที่สุด ระดับ 8 คนอื่นก็กลายเป็นระดับ 9 ขั้นต่ำ
แต่คนที่ไม่เหลือตระกูล การฝึกฝนก็ลำบาก
จะให้ดีต้องย้ายหนีไปเลย ค่อยกลับมาใหม่




เพราะงั้นโลกมันไม่สงบน่ะถูกแล้ว แต่เขาแค่ไม่เอาระดับสูงสุดออกมาตีกันบ่อยๆ
คนที่จะตัดสินชีวิตตระกูลเลยไม่ใช่ ระดับ 9 หรือ 10


แต่เป็นกองกำลังค้นหาทรัพยากรมาป้อนต่างหาก




แต่ถึงไม่มีการโจมตีตรงๆจากภายนอก
ภายใน ที่ดูดทรัพยากรทั้งหมดให้ผู้นำตระกูล
คิดหรอว่าลูกหลานตระกูลจะชอบ อยู่ไปก็ไม่มีอนาคต
ใครหน่วยก้านดีสุดท้ายก็โดนซื้อตัวไป
ไม่ก็มีสายให้ต่างตระกูลเพื่อแลกกับทรัพยากรเสริม


ตระกูลตกต่ำแล้วไง ผู้นำที่ไม่แบ่งอะไรให้
ต่อให้ใหญ่คับโลกไปสุดท้ายตัวเองก็ไม่ได้อะไรอยู่ดี
เป็นขี้ข้ากองกำลังอื่นยังเติบโต แต่จะให้รอ 250 ปี พวกระดับล่างตายหมดแล้วก็ยังทะลวงพลังไม่ได้
ถึงจะไม่ได้ทรยศหมด แต่ก็จะเกิดการโกงกินภายใน


จนสุดท้าย ต่อให้ไม่มีปัจจัยภายนอก การดูดทรัพย์ทั้งตระกูลไปไม่แบ่งนานๆ จะเกิดความไม่พอใจ
สุดท้ายกำลังการผลิตก็ตกไปเอง เพราะจัดส่งไม่หมดตามสั่ง นอกจากจะได้ทรัพยากรน้อยกว่าที่คาดไว้
เผลอๆ คนทรยศเพียบ


ไปเจอเหมืองใหม่ รายงานตระกูลไปก็ไม่ได้ไรสิวะ
เอาข้อมูบไปขายดีกว่า ตระกูลได้..... เอาข้อมูลขาย...ขายๆๆๆ


ไม่ใช่ว่าคนในตระกูลไม่อยากให้ผู้นำไร้เทียมทาน
แต่การที่ปิดกั้นอนาคตลูกหลานตัวเองเพื่อผู้นำ
ยังไงก็มีคนทรยศ แถมจะเยอะด้วย ;D



ขึ้นอยู่กับว่าท่านมองว่า"ความแตกต่างของขั้นหนึ่งนั้นราวกับสวรรค์และพิภพ"คือข้อเท็จจริงหรือโม้กันในเรื่องน่ะครับผม :P

 อย่างที่ผมบอกผมเอามาจากมุกแนวปราณยุทธนั่นล่ะที่ชอบเล่นมุกว่า

"ระดับขั้นต้นของขั้นเก้าสามารถกำจัดขั้นแปดสามคนได้ไม่เกินสิบกระบวนท่า"

หรืออธิบายว่า(

"ยิ่งความแตกต่างของขั้นย่อยของขั้นหลังๆมากกว่าขั้นแรกๆราวสวรรค์และพิภพ"

ผมเข้าใจดีว่าเพราะอะไรผมเจอคนแต่งคนไทยคนหนึ่งบอกว่า

"พยายามเนิร์ฟลพังของพระเอกในอตนหลังๆเพราะการตีข้ามสองขั้นมันโกงเกินไป"

ผมก็เลิกคิ้วเลยว่านี่น่ะคือปัญหาที่นิยายปราณยุทธทุกเรื่องเจอและวิธีแก้ปัญหาน่ะคิดกันมานานแล้วคือการบอกว่า

"ขั้นย่อยของขั้นสิบนั้นเพียงแค่หนึ่งขั้นก็ห่างกันราวกับสวรรค์และพิภพ"

เป็นการเนิร์ฟพลังของพระเอกที่โจมตีข้ามสองขั้นใหญ่แบบไม่ต้องเนิร์ฟพลังของพระเอกโดยตรง

หรือเรื่องที่ท่านบอกว่าพระเอกไปตีกับสกุลใหญ่ ตีชนะทุกคนจนท่านบรรพบุรุษออกมาพระเอกต้องหนีไปซ่อนก่อนแล้วค่อยกลับมาตีใหม่
เรื่องที่ท่านเคยยกมาตอนนั้นสามารถมองได้อีกอย่างว่า

"หากท่านบรรพชนไม่แข็งแกร่งพอ พระเอกคงทำลายตระกูลตั้งแต่ตอนบุกคราวแรก"

หากให้ผมอธิบายแบบเศรษฐศาสตร์หน่อยคงเพราะมาจากรากฐานแนวคิด

"ขั้นย่อยของขั้นสูงมีความแตกต่างมากว่าขั้นใหญ่ของขั้นแรกราวกับสวรรค์และพิภพ"

มันหมายความวว่าหากมองจากการลงทุนและประสิทธิภาพ ประสิทะิผลที่ออกมาแล้วการเอาทุนไปลงกับคนที่มีพลังสุงสุดจะได้ผลตอบแทนกลับมามากที่สุดน่ะครับ ???

แนวคิดของท่านตั้งอยู่บนรากฐานที่ว่า
"จำนวนยังมีความหมาย"

หากท่านบรรพบุรุษเรามีพลังเหนือกว่าชาวบ้านหนึ่งขั้น
ทั้งที่ตามที่โม้ไว้ท่านบรรพชนควรจะกำจัดได้ไม่เกินสิบกระบวนท่าไม่ว่าจะมากี่คนก็ตาม

..
ผมเจอมุกแนวแวมไพร์ถามว่าอาหารของแวมไพร์อายุเยอะๆคืออะไร?
คือแวมไพร์ที่อายุน้อยลงมาแต่ละรุ่น ::)

ว่าท่านบรรพชนสามารถเปลี่ยนคนที่ตนเองต่อสู้แล้วชนะเป็นยาลุกกลอนได้


ท่านบรรพชนระดับสิบเอาชนะคนระดับเก้าสามคนที่รุมได้ก็เอามาทำเป็นยาลูกกลอน

มีประสิทธิภาพมากกว่าไปผจญภัยหาของอื่นๆเพิ่มอีกมาก

เพราะทั้งแผ่นดินคงหาร่างกายที่มีพลังปราณมากเท่าคนระดับเก้าสามคนได้ไม่กี่อย่าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 07, 2024, 08:08:42 AM โดย samuison »
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,676
  • ถูกใจแล้ว: 2830 ครั้ง
  • ความนิยม: +187/-0
Re: สมมุติคุณเป็นหัวหน้าตระกูลในโลกแฟนตาซี
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: เมษายน 07, 2024, 02:18:58 PM »
[quote/]
ขึ้นอยู่กับว่าท่านมองว่า"ความแตกต่างของขั้นหนึ่งนั้นราวกับสวรรค์และพิภพ"คือข้อเท็จจริงหรือโม้กันในเรื่องน่ะครับผม :P

 อย่างที่ผมบอกผมเอามาจากมุกแนวปราณยุทธนั่นล่ะที่ชอบเล่นมุกว่า

"ระดับขั้นต้นของขั้นเก้าสามารถกำจัดขั้นแปดสามคนได้ไม่เกินสิบกระบวนท่า"

หรืออธิบายว่า(

"ยิ่งความแตกต่างของขั้นย่อยของขั้นหลังๆมากกว่าขั้นแรกๆราวสวรรค์และพิภพ"

ผมเข้าใจดีว่าเพราะอะไรผมเจอคนแต่งคนไทยคนหนึ่งบอกว่า

"พยายามเนิร์ฟลพังของพระเอกในอตนหลังๆเพราะการตีข้ามสองขั้นมันโกงเกินไป"

ผมก็เลิกคิ้วเลยว่านี่น่ะคือปัญหาที่นิยายปราณยุทธทุกเรื่องเจอและวิธีแก้ปัญหาน่ะคิดกันมานานแล้วคือการบอกว่า

"ขั้นย่อยของขั้นสิบนั้นเพียงแค่หนึ่งขั้นก็ห่างกันราวกับสวรรค์และพิภพ"

เป็นการเนิร์ฟพลังของพระเอกที่โจมตีข้ามสองขั้นใหญ่แบบไม่ต้องเนิร์ฟพลังของพระเอกโดยตรง

หรือเรื่องที่ท่านบอกว่าพระเอกไปตีกับสกุลใหญ่ ตีชนะทุกคนจนท่านบรรพบุรุษออกมาพระเอกต้องหนีไปซ่อนก่อนแล้วค่อยกลับมาตีใหม่
เรื่องที่ท่านเคยยกมาตอนนั้นสามารถมองได้อีกอย่างว่า

"หากท่านบรรพชนไม่แข็งแกร่งพอ พระเอกคงทำลายตระกูลตั้งแต่ตอนบุกคราวแรก"

หากให้ผมอธิบายแบบเศรษฐศาสตร์หน่อยคงเพราะมาจากรากฐานแนวคิด

"ขั้นย่อยของขั้นสูงมีความแตกต่างมากว่าขั้นใหญ่ของขั้นแรกราวกับสวรรค์และพิภพ"

มันหมายความวว่าหากมองจากการลงทุนและประสิทธิภาพ ประสิทะิผลที่ออกมาแล้วการเอาทุนไปลงกับคนที่มีพลังสุงสุดจะได้ผลตอบแทนกลับมามากที่สุดน่ะครับ ???

แนวคิดของท่านตั้งอยู่บนรากฐานที่ว่า
"จำนวนยังมีความหมาย"

หากท่านบรรพบุรุษเรามีพลังเหนือกว่าชาวบ้านหนึ่งขั้น
ทั้งที่ตามที่โม้ไว้ท่านบรรพชนควรจะกำจัดได้ไม่เกินสิบกระบวนท่าไม่ว่าจะมากี่คนก็ตาม

..
ผมเจอมุกแนวแวมไพร์ถามว่าอาหารของแวมไพร์อายุเยอะๆคืออะไร?
คือแวมไพร์ที่อายุน้อยลงมาแต่ละรุ่น ::)

ว่าท่านบรรพชนสามารถเปลี่ยนคนที่ตนเองต่อสู้แล้วชนะเป็นยาลุกกลอนได้


ท่านบรรพชนระดับสิบเอาชนะคนระดับเก้าสามคนที่รุมได้ก็เอามาทำเป็นยาลูกกลอน

มีประสิทธิภาพมากกว่าไปผจญภัยหาของอื่นๆเพิ่มอีกมาก

เพราะทั้งแผ่นดินคงหาร่างกายที่มีพลังปราณมากเท่าคนระดับเก้าสามคนได้ไม่กี่อย่าง



ประเด็นสรุปง่ายๆเลยครับถ้าเคยเล่นเกมมาเยอะจะรู้


ในเกมที่ทรัพยากรเท่ากัน คนที่เลือกเอาทรัพยากรไปอัพระดับความสามารถในการต่อสู้อย่างเดียวจะแพ้ในระยะยาว


แต่ใครที่เน้นเพิ่มความสามารถในการหาทรัพยากร
แรกๆอาจจะรบด้อยกว่า แต่ถ้าไม่แพ้ไปก่อน ยังไงก็ชนะ


จริงอยู่ ยูนิทเทพ อาจจะเอาชนะได้หมด แต่สุดท้ายจะแพ้ เพราะยูนิทเทพจะโดนถ่วงเวลา


พูดง่ายๆ ระดับ 10 อาจจะไร้เทียมทาน
แต่ถ้าไม่มีระดับ 8 และต่ำกว่าเกื้อหนุน ระดับ 9 ก็เป็ระดับ 10 ไม่ได้


ถ้าเล่นเกมจะเจอประจำ ใครทุ่มที่การรบทั้งหมดแรกๆชนะหมด แต่จะดีช่วงนึง หลังจากนั้น จะเกิดปัญหาไปต่อยาก
สุดท้ายจะแพ้ตลอด


ถ้าใครเล่นเกมบ่อยๆจะเจอ แนวเกมที่มีการบริหารทรัพยากร
ถ้าใครโฟกัสที่อัพความเก่งของการรบมากๆโดยไม่โฟกัสอย่างอื่นเลย สุดท้าย ขั้นในการอัพถัดๆไปจะช้ามาก เพราะทรัพยากรได้น้อย
แต่ถ้าเน้นหาทรัพยากรอย่างเดียวไม่มีความแข็งแกร่งเลย สุดท้ายจะโดนปล้นจนแตก


เพราะงั้นเวลาเล่นเกม ต้องหาอัตราส่วนที่เหมาะสมเอาเองคือให้ขยายการหาทรัพยากรให้มากที่สุด แต่ก็รบไม่แพ้ คือไม่ต้องชนะ แค่ยันให้อยู่ 
ต่อให้ยูนิทสุดเทพแห่งยุค ก็ใช้ทรัพยากรที่มีมากกว่า ถ่วงไปไม่ให้แพ้ พัฒนาไปด้วย ช่วงแรกพวกปั้มกองกำลังมาโหดๆ แต่ถ้าตีชาวบ้านไม่ชนะ ระยะยาวจะแพ้


แต่ถ้าชนะ แล้วขยายอาณาเขตผ่านการบุกตีมากๆ
พวกกองกำลังอื่นๆที่เข้มแข็งกว่าก็จับตามอง
กองกำลังที่อยู่ติดๆกันก็จะรวมหัวกันต่อต้าน




พูดง่ายๆ ทรัพนากร 100% ถ้าอัพลงให้คนเดียว 100%
ตอนระดับไม่สูงเวลจะอัพไว
แต่ถ้าทิ้งช่วงยาวๆ ฝั่งที่อัพการหาทรัพยากร จะชนะขาดเพราะไม่ได้ทรัพยากร 100% แต่อาจเพิ่มเป็น 1000%


ตอนหัวหน้าตระกูล พลังระดับ 5 ก็มักพลังไม่ต่างจาก 4 มาก
ถึงจะใช้พลังระดับ 5 ไปไถกองกำลังระดับ 4 ได้
แต่ถ้าไถมากไป เกิดลูกหลานกองกำลังระดับ 4 ไปเรียนที่เมืองหลวง
แล้วถูกใจนายน้อยกองกำลังระดับ 6-7 เขาก็หาข้ออ้างมากวาดล้าง กองกำลังระดับ 5 ที่ไปข่มเหงตระกูลได้


คือไม่ใช่ว่า กองกำลังระดับ 5 จะต่อต้านกองกำลังระดับ 6 ไม่ได้เลย ถ้าร่วมมือกัน
แต่ประเด็นคือ กองกำลังระดับ 6 เขามีข้ออ้าง
ว่าฮูหยินนายน้อย โดนกองกำลังนึงข่มเหง
เขาเลยมาล้างแค้น มากวาดล้างกองกำลังระดับ 5 แค่กลุ่มเดียว กองกำลังระดับ 5 อื่นๆเขาก็ไม่หาเหาใส่หัว


แปลว่า ถ้าจะสร้างความแค้น ควรจะเคลียร์ให้หมด


แต่พอไม่เน้นปั้นคนจำนวนมากเน้นแค่เจ้าสำนัก
สุดท้าย ลูกหลานก็เป็นแค่คนไร้ค่า ต่อให้เจ้าสำนักเก่งกว่าปรกติแต่ก็ไม่ไร้เทียมทาน


ส่วนพวกปั้นลูกหลาน ก็สามารถ สานสัมพันธ์ กองกำลังอื่นๆผ่านการแต่งงานได้


ต่อให้ท่านปู่เจ้าไร้เทียมทานในเมืองนี้แต่ตัวเจ้าเป็นเพียงขยะชิ้นนึง
เจ้าก็เป็นเพียงแค่ตัวตลกของเมือง ที่ข้าคุยกับเจ้าก็แค่สงสาร
ตอนนี้คุณชาย.... จากกองกำลังใหญ่ในเมืองหลวงสนใจข้า
เจ้าก็จงตัดใจจากข้าเสียเถอะ ข้ากับเจ้ามันอยู่กันคนละโลก ;D 

สุดท้ายลูกหลานตระกูลที่เน้นแค่ผู้นำ สุดท้ายก็ทำได้แค่แต่งกับกองกำลังอ่อนชั้นกว่าเพราะไม่กล้าหือ
แต่พอระดับกองกำลังใกล้กันหรือมากกว่า
เขาก็มองลูกหลานตระกูลนี้แค่ขยะ ไม่ควรสานสัมพันธ์ผ่านการแต่งงาน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 07, 2024, 02:21:25 PM โดย deaddy »
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,226
  • ถูกใจแล้ว: 3929 ครั้ง
  • ความนิยม: +299/-402
Re: สมมุติคุณเป็นหัวหน้าตระกูลในโลกแฟนตาซี
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: เมษายน 07, 2024, 03:05:06 PM »
เอิ่มถ้าเล่นเกมประจำจริงความต่างของเลเวลแค่1ก็ได้เปรียบมากยิ่งถ้าห่างกันหนึ่งขั้นมันคือตีไม่เข้าเลยนะครับ ความต่างของคอมมอนกับแรร์มันห่างกันไกลเอาคอมมอนมาเป็นร้อยก็สู้แรร์ตัวเดียวไม่ได้ และความต่างจะทวีคูนเข้าไปอีกถ้าเป็นแรร์กับอีปิกคราวนี้หนึ่งต่อแสนยังสะกิดไม่ได้เลย ยิ่งเป็นอีปิกกับลีเจนไม่ต้องถามจำนวนไม่มีความหมายแล้ว อัตราการห่างของพลังในแต่ละขั้นไม่ไช่หนึ่งขั้นเท่ากับเก่งสู้ขั้นต่ำกว่าได้แค่สิบคนครับ แต่มันจะทวีคูนยกตัวอย่างอินเด็กเลเวล5ตบเลเวล4เป็นพันได้แต่เลเวล4สู้เลเวลสาได้แค่สองสามคน เลเวล3เก่งกว่าเลเวล2นิดหน่อยเลเวล1แค่ได้เปรียบเลเวล0ขั้นพลังมันเก่งแบบทวีคูณครับ ไม่ไช่เก่งกว่าหนึ่งเลเวลแต่เก่งกว่าหนึ่งขั้นภ้าเทียบเป็นตัวเลขขั้นหนึ่งพลัง10ขั้นสอง100ขั้นสาม1000ขั้นสี่10000ขั้นห้า100000 แต่มันไม่ได้หมายความว่าเก่งกว่าแค่สิบเท่ายิ่งขั้นเยอะขั้นต่ำกว่ายิ่งจะทำอะไรไม่ได้ เพราะความต่างของพลังมันมากถ้าเปรียบกับอาวุธอาจจะชัดเจนขั้นหนึ่งหินขั้นสองดาบหอกขั้นสี่ปืนขั้นห้ารถถังเครื่องบินขั้นหกนิวเคลีย มันจะสู้ไหวในด้านจำนวนแค่ขั้นแรกๆครับพอขั้นสูงไปจำนวนไม่มีความหมาย

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,676
  • ถูกใจแล้ว: 2830 ครั้ง
  • ความนิยม: +187/-0
Re: สมมุติคุณเป็นหัวหน้าตระกูลในโลกแฟนตาซี
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: เมษายน 07, 2024, 07:57:03 PM »
เอิ่มถ้าเล่นเกมประจำจริงความต่างของเลเวลแค่1ก็ได้เปรียบมากยิ่งถ้าห่างกันหนึ่งขั้นมันคือตีไม่เข้าเลยนะครับ ความต่างของคอมมอนกับแรร์มันห่างกันไกลเอาคอมมอนมาเป็นร้อยก็สู้แรร์ตัวเดียวไม่ได้ และความต่างจะทวีคูนเข้าไปอีกถ้าเป็นแรร์กับอีปิกคราวนี้หนึ่งต่อแสนยังสะกิดไม่ได้เลย ยิ่งเป็นอีปิกกับลีเจนไม่ต้องถามจำนวนไม่มีความหมายแล้ว อัตราการห่างของพลังในแต่ละขั้นไม่ไช่หนึ่งขั้นเท่ากับเก่งสู้ขั้นต่ำกว่าได้แค่สิบคนครับ แต่มันจะทวีคูนยกตัวอย่างอินเด็กเลเวล5ตบเลเวล4เป็นพันได้แต่เลเวล4สู้เลเวลสาได้แค่สองสามคน เลเวล3เก่งกว่าเลเวล2นิดหน่อยเลเวล1แค่ได้เปรียบเลเวล0ขั้นพลังมันเก่งแบบทวีคูณครับ ไม่ไช่เก่งกว่าหนึ่งเลเวลแต่เก่งกว่าหนึ่งขั้นภ้าเทียบเป็นตัวเลขขั้นหนึ่งพลัง10ขั้นสอง100ขั้นสาม1000ขั้นสี่10000ขั้นห้า100000 แต่มันไม่ได้หมายความว่าเก่งกว่าแค่สิบเท่ายิ่งขั้นเยอะขั้นต่ำกว่ายิ่งจะทำอะไรไม่ได้ เพราะความต่างของพลังมันมากถ้าเปรียบกับอาวุธอาจจะชัดเจนขั้นหนึ่งหินขั้นสองดาบหอกขั้นสี่ปืนขั้นห้ารถถังเครื่องบินขั้นหกนิวเคลีย มันจะสู้ไหวในด้านจำนวนแค่ขั้นแรกๆครับพอขั้นสูงไปจำนวนไม่มีความหมาย


ใช่ครับ 1 ขั้นแตกต่างกันมหาศาล แต่ทรัพยากรที่ใช้ก็มหาศาลยิ่งกว่า


ถ้าไม่เชื่อลองกดคำนวนใน excel ได้ครับ


สมมุติ รายได้ 2 ตระกูล เริ่มที่ 10000 เท่ากัน
ค่าพลังคือ ทุกขั้นจะใช้ทรัพยากรมากกว่าเดิม 10 เท่า
โดยเริ่มที่ 10 ไปขั้น 6 คือ 1 ล้าน
โดยให้อัตราการเกิดใหม่ 5% ต่อปี ทำให้รายรับเพิ่ม 5% ปี
โดยมีผู้อวุโสเดิม และเจ้าสำนักที่ขั้น 5 ตราบใดที่ยังไม่ถึงขั้น 6 ยังไม่มีปัญหา

คิดเป็น 2 เคสคือ
1 ยัดทรัพยากรเข้าที่ ผู้มีพรสวรรค์สุด 100% เริ่มที่ขั้น 1

2 กระจายทรัพยากร โดยค่าตอบแทนการจะจายทรัพยากรจะเป็น
ให้ผู้มีพรสวรรค์สุด ค่าตอบแทนจะ=0 เพราะไม่ทำมาหากิน ฝึกวิชาอย่างเดียว 
และ ส่วนที่แบ่งไปให้อย่างอื่นๆ ปั้นคนอื่นๆ ลงทุนกิจกรรมต่างๆ มีการเติบโตที่ 15%

ผลการคำนวน excel บอกว่า .....

เคสที่ 1 ผู้ที่มีพรสวรรค์สุด จะสะสมพลัง 1 ล้าน หรือ
ขั้น 6 ได้ใน 37 ปี
ขั้น 7 ใน 81 ปี
ขั้น 8 ใน 128 ปี
ขั้น 9 ใน 175 ปี

เคสที่ 2 แบ่งทรัพยากรให้ ผู้มีพรสวรรค์ 30% เอาไปขยายการหารหาทรัพยากร 70% คือทุกกิจกรรมนะ
ผู้มีพรสวรรค์สุด จะสะสมพลังได้ครบ 1 ล้าน
หรือขั้น 6 ใน 35 ปี
ขั้น 7 ใน 57 ปี
ขั้น 8 ใน 79 ปี
ขั้น 9 ใน 101 ปี

โดยปีที่ 500
ตระกูลแรกจะมีรายได้ต่อปีที่ 374 ล้านๆ
ส่วนตระกูล 2 จะมีรายได้ที่ 462 ล้านๆๆๆ หรือรายได้มากกว่า ตระกูลแรก ประมาณ ล้านๆ เท่า

คือตระกูลแรก เติบโต 5% จากการเกิด และอัดทรัพยากรให้คนๆเดียวทะลวงพลังรัวๆ
ส่วนตระกูล 2 เติบโต 5% จากการเกิด และแบ่งส่วนไป ลงทุน 70% ได้ผลตอบแทน 15% ต่อปี

แต่ถ้า แบ่งเป็น 50 50
จะมีพลังสะสม 1 ล้านหรือ
ขั้น 6 ที่ 38 ปี
ขั้น 7 ที่ 67 ปี
ขั้น 8 ที่ 98 ปี

เคส 50 50 จะไปขั้น 6 ช้ากว่า 100 ต่อ 0 ที่ 1 ปี
แต่จะไปขั้น 7 ไวกว่า 14 ปี

โดยจุดที่จะเติบโตไวสุดที่เสมอกันที่ขั้น 6 คือ ให้ผู้มีพรสวรรค์ 13% เอาไปลงทุน 87%
ปีที่ 36 ยัดให้ผู้มีพรสวรรค์ 100% จะมีพลังสะสม 9.58 แสน
ในขณะที่  ให้ผู้มีพรสวรรค์ 13% จะมีพลังสะสม 9.56 แสน คืออ่อนกว่านิดหน่อย
แต่จะทะลวงขั้น 6 หรือพลัง 1 ล้านในปีที่ 37 พร้อมๆกัน

แต่ ให้ผู้มีพรสวรรค์ 13% จะทะลวงขั้น 7 ไวกว่า 26 ปี

--------------------------------------------------------
ผลสรุปโมลเดลการคำนวนคือ การยัดทรัพยากรให้ ผู้มีพรสวรรค์ 100%
จะทำให้เติบโตในช่วงแรกไว และไปทะลวงขั้น 6 ใน 37 ปี
แต่ถ้าแบ่งทรัพยากรไปขยายขนาดกิจการและเครือข่ายต่างๆ ผลตอบแทนเติบโต 15%
ผลตอบแทนที่ขั้น 6 อาจจะแตกต่างไม่มากแต่ขั้น 7 เป็นต้นไป การลงทุนทั้งหมดไปที่คนมีพรสวรรค์สุดจะ แพ้ขาด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 07, 2024, 08:44:46 PM โดย deaddy »
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,226
  • ถูกใจแล้ว: 3929 ครั้ง
  • ความนิยม: +299/-402
Re: สมมุติคุณเป็นหัวหน้าตระกูลในโลกแฟนตาซี
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: เมษายน 07, 2024, 08:09:26 PM »
[quote/]


ใช่ครับ 1 ขั้นแตกต่างกันมหาศาล แต่ทรัพยากรที่ใช้ก็มหาศาลยิ่งกว่า


ถ้าไม่เชื่อลองกดคำนวนใน excel ได้ครับ


สมมุติ รายได้ 2 ตระกูล เริ่มที่ 10000 เท่ากัน
ค่าพลังคือ ทุกขั้นจะใช้ทรัพยากรมากกว่าเดิม 10 เท่า
โดยเริ่มที่ 10 ไปขั้น 6 คือ 1 ล้าน
โดยให้อัตราการเกิดใหม่ 5% ต่อปี ทำให้รายรับเพิ่ม 5% ปี
โดยมีผู้อวุโสเดิม และเจ้าสำนักที่ขั้น 5 ตราบใดที่ยังไม่ถึงขั้น 6 ยังไม่มีปัญหา

คิดเป็น 2 เคสคือ
1 ยัดทรัพยากรเข้าที่ ผู้มีพรสวรรค์สุด 100% เริ่มที่ขั้น 1

2 กระจายทรัพยากร โดยค่าตอบแทนการจะจายทรัพยากรจะเป็น
ให้ผู้มีพรสวรรค์สุด ค่าตอบแทนจะ=0 เพราะไม่ทำมาหากิน ฝึกวิชาอย่างเดียว 
และ ส่วนที่แบ่งไปให้อย่างอื่นๆ ปั้นคนอื่นๆ ลงทุนกิจกรรมต่างๆ มีการเติบโตที่ 15%

ผลการคำนวน excel บอกว่า .....

เคสที่ 1 ผู้ที่มีพรสวรรค์สุด จะสะสมพลัง 1 ล้าน หรือ
ขั้น 6 ได้ใน 37 ปี
ขั้น 7 ใน 81 ปี
ขั้น 8 ใน 128 ปี
ขั้น 9 ใน 175 ปี

เคสที่ 2 แบ่งทรัพยากรให้ ผู้มีพรสวรรค์ 30% เอาไปขยายการหารหาทรัพยากร 70% คือทุกกิจกรรมนะ
ผู้มีพรสวรรค์สุด จะสะสมพลังได้ครบ 1 ล้าน
หรือขั้น 6 ใน 35 ปี
ขั้น 7 ใน 57 ปี
ขั้น 8 ใน 79 ปี
ขั้น 9 ใน 101 ปี

โดยปีที่ 500
ตระกูลแรกจะมีรายได้ต่อปีที่ 374 ล้านๆ
ส่วนตระกูล 2 จะมีรายได้ที่ 462 ล้านๆๆๆ หรือรายได้มากกว่า ตระกูลแรก ประมาณ ล้านๆ เท่า

คือตระกูลแรก เติบโต 5% จากการเกิด และอัดทรัพยากรให้คนๆเดียวทะลวงพลังรัวๆ
ส่วนตระกูล 2 เติบโต 5% จากการเกิด และแบ่งส่วนไป ลงทุน 70% ได้ผลตอบแทน 15% ต่อปี

แต่ถ้า แบ่งเป็น 50 50
จะมีพลังสะสม 1 ล้านหรือ
ขั้น 6 ที่ 38 ปี
ขั้น 7 ที่ 67 ปี
ขั้น 8 ที่ 98 ปี

เคส 50 50 จะไปขั้น 6 ช้ากว่า 100 ต่อ 0 ที่ 1 ปี
แต่จะไปขั้น 7 ไวกว่า 14 ปี

โดยจุดที่จะเติบโตไวสุดที่เสมอกันที่ขั้น 6 คือ ให้ผู้มีพรสวรรค์ 13% เอาไปลงทุน 87%
ปีที่ 36 ยัดให้ผู้มีพรสวรรค์ 100% จะมีพลังสะสม 9.58 แสน
ในขณะที่  ให้ผู้มีพรสวรรค์ 13% จะมีพลังสะสม 9.56 แสน คืออ่อนกว่านิดหน่อย
แต่จะทะลวงขั้น 6 หรือพลัง 1 ล้านในปีที่ 37 พร้อมๆกัน

แต่ ให้ผู้มีพรสวรรค์ 13% จะทะลวงขั้น 7 ไวกว่า 26 ปี

--------------------------------------------------------
ผลสรุปโมลเดลการคำนวนคือ การยัดทรัพยากรให้ ผู้มีพรสวรรค์ 100%
จะทำให้เติบโตในช่วงแรกไว และไปทะลวงขั้น 6 ใน 37 ปี
แต่ถ้าแบ่งทรัพยากรไปขยายขนาดกิจการและเครือข่ายต่างๆ ผลตอบแทนเติบโต 15%
ผลตอบแทนที่ขั้น 6 อาจจะแตกต่างไม่มากแต่ขั้น 7 เป็นต้นไป การลงทุนทั้งหมดไปที่คนมีพรสวรรค์สุดจะ แพ้ขาด
แล้วผมถึงบอกไงครับว่าถ้ารวมแล้วเราเก่งกว่าหนึ่งขั้นแต่ที่เหลือกากหมดกับเราเก่งและที่เหลือเก่งริงๆลงมา
เราขั้น10ที่เหลืหนึ่งหมดกับเราขั้น9ลูกหลานขั้น1-8จำนวนมากนี่คือที่ท่านถามนาผมก็ต้องบอกว่า เราเก่งคนเดียวขั้น10ก็ต้งดีกว่าจริงไหมครับ เพราะท่านไม่ได้ระบุนี่ว่าเรามีทรัพยากรเท่าไหร่จริงไหมยิ่งไม่รู้ว่าตระกูล เชื่อได้แค่ไหนมันก็ต้องไห้ตัวเองเก่งสุดไว้ก่อนเป็นเรื่องปรกติ ถ้าอยากได้คำตอบอื่นมันต้องมีรายละเอียดมากกว่านี้

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,676
  • ถูกใจแล้ว: 2830 ครั้ง
  • ความนิยม: +187/-0
Re: สมมุติคุณเป็นหัวหน้าตระกูลในโลกแฟนตาซี
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: เมษายน 07, 2024, 08:54:22 PM »
[quote/]
แล้วผมถึงบอกไงครับว่าถ้ารวมแล้วเราเก่งกว่าหนึ่งขั้นแต่ที่เหลือกากหมดกับเราเก่งและที่เหลือเก่งริงๆลงมา
เราขั้น10ที่เหลืหนึ่งหมดกับเราขั้น9ลูกหลานขั้น1-8จำนวนมากนี่คือที่ท่านถามนาผมก็ต้องบอกว่า เราเก่งคนเดียวขั้น10ก็ต้งดีกว่าจริงไหมครับ เพราะท่านไม่ได้ระบุนี่ว่าเรามีทรัพยากรเท่าไหร่จริงไหมยิ่งไม่รู้ว่าตระกูล เชื่อได้แค่ไหนมันก็ต้องไห้ตัวเองเก่งสุดไว้ก่อนเป็นเรื่องปรกติ ถ้าอยากได้คำตอบอื่นมันต้องมีรายละเอียดมากกว่านี้


ลองอ่านโมเดลที่คำนวนดีๆครับ ถ้าอัดให้คนๆเดียวทั้งหมด อัพจากขั้น 1 ไปขั้น 6 โดยสมมุติมีผู้อวุโสเดิมที่ขั้น 5 ไว้ประคองสมดุล
การขยายขนาดกิจการ จะเริ่มมีผลจริงๆที่ขั้น 7 คือยัดคนๆเดียวเก่งไวจริงๆในช่วงแรก แต่หลังจากนั้นจะมีทรัพยากรให้ทะลวงช้ากว่าอีกฝั่งนับ 10 ปี


แปลว่า กว่ารุ่นปัจจุบันจะแบกตระกูลได้ ตระกูลที่แบ่งทรัพยากรไปขยายกิจการแค่เติบโต 15% จากส่วนที่ลงทุน ก็จะแซงตระกูลที่ยัดทรัพยากรแบบไม่เห็นฝุ่น 


เพราะมันไม่ใช่การยัดทรัพยากรลงคนๆเดียวแล้วมันจะเวลอัพได้ในทันที มันกินเวลาหลายปี
ตระกูลที่เน้นการขยายตัวของตระกูลมากกว่าการเน้นคนๆเดียว จะได้เปรียบในระยะยาว

แถมโมเดล 15% คือลง 100 ได้คืนมา 15 นะ ไม่ใช่กำไร 15% เพราะถ้าคิดกำไร 15% มันจะโครตโหดกว่าเดิมอีก

แบบ ปีนี้ได้ 10000 ปีถัดไป เพิ่ม 15% ของส่วนที่ลงทุน เช่น ไปลงทุนกับคนในตระกูลเพื่อเพิ่มกำลังในการหาทรัพยากรเพิ่ม 15%
เช่น จ่ายให้ลูกน้องไป 100 ลูกน้องต้องหามาเพิ่มยอดปีหน้าให้เป็น 115
แล้วปีถัดไป ก็จ่ายให้ลูกน้อง 115 แต่ปีถัดไปอีกลูกน้องต้องหามาให้ได้ 132
คือไม่ใช่กำไร แต่เป็นค่าแรง และให้ลูกน้องเพิ่มระดับพลังด้วย

คือพวกเอ็งรับทรัพยากรแล้วเอ็งต้องหาด้วย แล้วคิดค่าหัวคิวว่างั้น คือรับไป 100 เอ็งต้องผลิตงานให้ตระกูล 115

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 07, 2024, 09:08:37 PM โดย deaddy »
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,226
  • ถูกใจแล้ว: 3929 ครั้ง
  • ความนิยม: +299/-402
Re: สมมุติคุณเป็นหัวหน้าตระกูลในโลกแฟนตาซี
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: เมษายน 08, 2024, 12:19:34 AM »
[quote/]


ลองอ่านโมเดลที่คำนวนดีๆครับ ถ้าอัดให้คนๆเดียวทั้งหมด อัพจากขั้น 1 ไปขั้น 6 โดยสมมุติมีผู้อวุโสเดิมที่ขั้น 5 ไว้ประคองสมดุล
การขยายขนาดกิจการ จะเริ่มมีผลจริงๆที่ขั้น 7 คือยัดคนๆเดียวเก่งไวจริงๆในช่วงแรก แต่หลังจากนั้นจะมีทรัพยากรให้ทะลวงช้ากว่าอีกฝั่งนับ 10 ปี


แปลว่า กว่ารุ่นปัจจุบันจะแบกตระกูลได้ ตระกูลที่แบ่งทรัพยากรไปขยายกิจการแค่เติบโต 15% จากส่วนที่ลงทุน ก็จะแซงตระกูลที่ยัดทรัพยากรแบบไม่เห็นฝุ่น 


เพราะมันไม่ใช่การยัดทรัพยากรลงคนๆเดียวแล้วมันจะเวลอัพได้ในทันที มันกินเวลาหลายปี
ตระกูลที่เน้นการขยายตัวของตระกูลมากกว่าการเน้นคนๆเดียว จะได้เปรียบในระยะยาว

แถมโมเดล 15% คือลง 100 ได้คืนมา 15 นะ ไม่ใช่กำไร 15% เพราะถ้าคิดกำไร 15% มันจะโครตโหดกว่าเดิมอีก

แบบ ปีนี้ได้ 10000 ปีถัดไป เพิ่ม 15% ของส่วนที่ลงทุน เช่น ไปลงทุนกับคนในตระกูลเพื่อเพิ่มกำลังในการหาทรัพยากรเพิ่ม 15%
เช่น จ่ายให้ลูกน้องไป 100 ลูกน้องต้องหามาเพิ่มยอดปีหน้าให้เป็น 115
แล้วปีถัดไป ก็จ่ายให้ลูกน้อง 115 แต่ปีถัดไปอีกลูกน้องต้องหามาให้ได้ 132
คือไม่ใช่กำไร แต่เป็นค่าแรง และให้ลูกน้องเพิ่มระดับพลังด้วย

คือพวกเอ็งรับทรัพยากรแล้วเอ็งต้องหาด้วย แล้วคิดค่าหัวคิวว่างั้น คือรับไป 100 เอ็งต้องผลิตงานให้ตระกูล 115


ผมถึงบอกไงครับว่ามันไม่อยู่ในคำถามก็ถามแค่ว่าเป็นหัวหน้าตระกูลในโลกแฟนตาซีแค่นั้นนิ แปลว่าไม่ว่าจะทรัพยากรฯหรืออะไรต่างๆคนตอบกำหนดเองได้หมด ถ้ากำหนดแบบที่ท่านว่ามามันก็ตอบได้แค่จำกัดคนเก่งไม่กระจายไปหมดแต่กระจายแค่ไม่กี่คน
และจะไปไห้ลูกหลานหาไห้ทำใมครับถ้าเรากำปันใหณ่สุดก็ปล้นคนอื่ซึ่งๆหน้าก็จบใครจะมีปัณญาทำอะไรได้ แบบหงอคงลงบาดาลปล้นเสาค้ำฟ้าขึ้นสวรรค์ปล้นแม่งทุกอย่างท้ออมตะหมดสวนยากลันแสนปีปล้นมันหมด แล้วไงใครทำอะไรได้จะไปตีลูกลิงเลเวล1เหรอตราบใดที่หงอคงยังอยู่ก็เตรียมตัวตาย และอย่าบอกว่าแก้แค้นไห้ลูกหลานเพราะหาหลักฐานไม่ได้ ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานตบมันไห้หมดก็พอตบมันทุกตระกูลจนกว่าจะยอมส่งคนร้ายนั้นแหละจำเป็นต้องมีหลักฐานที่ไหน เก่งกว่าหนึ่งขั้นเท่ากับขั้นต่ำกว่าทำอะไรไม่ได้ครับทางนั้นเล่นงานลูกหลานเราหลับหลังได้ แต่เราเล่นงานซึ่งๆหน้าได้แถมไม่จำกัดแค่ลูกหลานด้วย ที่นิยายตัวร้ายมันเล่นงานตัวเอกก็เพราะพลังเหนือกว่าจนไม่ต้องสนใจอะไรระดับขั้นห่างกันแค่หนึ่ง ตระกูลให้ณ่ในเมืองกับชาวบ้านมันคือห่างกันขั้นเดียวนะครับแน่นอนว่าไม่ต้องสนใจชาวบ้านเลย ผมถึงบอกไงครับว่าคำว่าแฟนตาซีมันกว้างเกินไป คำว่าหัวหน้าตระกูลใหณ่ในโลกแฟนตาซีอย่างหงอคงที่ผมยกมาไม่ไช่หัวหน้าตระกูลใหณ่ในโลกแฟนตาซีเหรอ ตัวอย่างชัดเจนด้วยและอย่าบอกว่าลูกหลานหงอคงไม่มีความสามารถเก่งได้ ในไซอิ๋วมีปีศาจลิงที่มาจากสวนผลไม้หลังหงอคงถูกผนึกได้บุกถล่มสวรรค์ แปลว่าถ้าไม่มีหงอคงลูกหลานมันก็ไข้ทรัพยากรเก่งขึ้นได้ผมถึงบอกว่าถ้าไม่มีตัวอย่างมาไห้ชัดมันเป็นอะไรก็ได้ ถ้าเอาที่ท่านว่ามามันก็ต้องไม่กระจายทรัพยากรอยู่ดีจริงไหม แต่เป็นทำไห้คนในตระกูลไม่กี่คนเก่งที่สุดไห้ได้อยู่ดี มันก็เหมือนที่ผมบอกแต่แค่มีขีดจำกัดในทรัพยากรทำไห้เราเก่งคนเดียวไม่ได้แค่นั้น

ออฟไลน์ deaddy

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY3
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,676
  • ถูกใจแล้ว: 2830 ครั้ง
  • ความนิยม: +187/-0
Re: สมมุติคุณเป็นหัวหน้าตระกูลในโลกแฟนตาซี
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: เมษายน 08, 2024, 01:04:07 AM »
[quote/]
ผมถึงบอกไงครับว่ามันไม่อยู่ในคำถามก็ถามแค่ว่าเป็นหัวหน้าตระกูลในโลกแฟนตาซีแค่นั้นนิ แปลว่าไม่ว่าจะทรัพยากรฯหรืออะไรต่างๆคนตอบกำหนดเองได้หมด ถ้ากำหนดแบบที่ท่านว่ามามันก็ตอบได้แค่จำกัดคนเก่งไม่กระจายไปหมดแต่กระจายแค่ไม่กี่คน
และจะไปไห้ลูกหลานหาไห้ทำใมครับถ้าเรากำปันใหณ่สุดก็ปล้นคนอื่ซึ่งๆหน้าก็จบใครจะมีปัณญาทำอะไรได้ แบบหงอคงลงบาดาลปล้นเสาค้ำฟ้าขึ้นสวรรค์ปล้นแม่งทุกอย่างท้ออมตะหมดสวนยากลันแสนปีปล้นมันหมด แล้วไงใครทำอะไรได้จะไปตีลูกลิงเลเวล1เหรอตราบใดที่หงอคงยังอยู่ก็เตรียมตัวตาย และอย่าบอกว่าแก้แค้นไห้ลูกหลานเพราะหาหลักฐานไม่ได้ ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานตบมันไห้หมดก็พอตบมันทุกตระกูลจนกว่าจะยอมส่งคนร้ายนั้นแหละจำเป็นต้องมีหลักฐานที่ไหน เก่งกว่าหนึ่งขั้นเท่ากับขั้นต่ำกว่าทำอะไรไม่ได้ครับทางนั้นเล่นงานลูกหลานเราหลับหลังได้ แต่เราเล่นงานซึ่งๆหน้าได้แถมไม่จำกัดแค่ลูกหลานด้วย ที่นิยายตัวร้ายมันเล่นงานตัวเอกก็เพราะพลังเหนือกว่าจนไม่ต้องสนใจอะไรระดับขั้นห่างกันแค่หนึ่ง ตระกูลให้ณ่ในเมืองกับชาวบ้านมันคือห่างกันขั้นเดียวนะครับแน่นอนว่าไม่ต้องสนใจชาวบ้านเลย ผมถึงบอกไงครับว่าคำว่าแฟนตาซีมันกว้างเกินไป คำว่าหัวหน้าตระกูลใหณ่ในโลกแฟนตาซีอย่างหงอคงที่ผมยกมาไม่ไช่หัวหน้าตระกูลใหณ่ในโลกแฟนตาซีเหรอ ตัวอย่างชัดเจนด้วยและอย่าบอกว่าลูกหลานหงอคงไม่มีความสามารถเก่งได้ ในไซอิ๋วมีปีศาจลิงที่มาจากสวนผลไม้หลังหงอคงถูกผนึกได้บุกถล่มสวรรค์ แปลว่าถ้าไม่มีหงอคงลูกหลานมันก็ไข้ทรัพยากรเก่งขึ้นได้ผมถึงบอกว่าถ้าไม่มีตัวอย่างมาไห้ชัดมันเป็นอะไรก็ได้ ถ้าเอาที่ท่านว่ามามันก็ต้องไม่กระจายทรัพยากรอยู่ดีจริงไหม แต่เป็นทำไห้คนในตระกูลไม่กี่คนเก่งที่สุดไห้ได้อยู่ดี มันก็เหมือนที่ผมบอกแต่แค่มีขีดจำกัดในทรัพยากรทำไห้เราเก่งคนเดียวไม่ได้แค่นั้น


เก่งแค่ไหนไปเรียกตีนมากๆก็โดนรุมกระทืบครับ


ตอนหงอคงโดนไท่ซ่างเหล่าจวินจับขังในหม้อยา
ถ้าเขาคิดจะกวาดล้างเขาหัวกั่วซัน ลิงบนเขาตายเรียบครับ


แล้วเขาก็ยอมๆแล้วยังไม่พอใจ สุดท้ายระดับบนเขาเลยลงมาจัดการเอง สุดท้ายหงอคงก็โดนขังไป 500 ปีถ้าตำไม่ผิด
ถ้าหงอคงไปสร้างหนี้แค้นแรงๆ ตระกูลลิงบนเขาก็โดนฆ่าเรียบ แต่บนสวรรค์ในนิยายไซอิ๋ว เป็นเทพนิสัยดี
ลองเป็นเทพกรีกสิ ลิงบนเขาไม่ตายก็โดนสาป


ในนิยายไซอิ๋ว หงอคงเกือบจะเก่งสุดก็จริง
แต่ในการเดินทาง หงอคงแพ้บ่อยมาก คืออาจไม่ได้แพ้ในการสู้ตรงๆ แต่ถ้าไม่ได้รับการช่วยก็มิชชั่นเฟลไปหลายรอบ


ถ้าวัดกันจริงๆ หงอคงเท่ากับโดนล้างตระกูลไปแล้ว
เพราะโดนขังไป 500 ปีจนพระถังมาช่วย
แถมขอให้เจ้าแม่กวนอิมช่วยอีกกี่รอบไม่แน่ใจ


แต่พูดง่ายๆ หงอคงแทบจะไร้เทียมทาน แต่แพ้รัวๆ
จนต้องให้ตัวตนระดับสูงกว่าช่วย
ถ้าหงอคงยังเป็นตัวป่วนต่อไม่ทำงานให้ เขาคงไม่ช่วย


แถมถ้าอิงตามนิยายจีนสมัยนี้ ป่านนี้ตระกูลลิงตายเรียบเพราะโดนล้างแค้นช่วงหงอคงไม่ว่างมาปกป้องครอบครัวไปแล้ว
 

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก