ไม่เหลืออ่ะบอกเลย ดูต่างประเทศช่วงนี้สิครับเละแค่ไหน ขนาดจีนยังต้องระเบิดเขื่อนทิ้งรัวๆ หิมะตกในซาอุดิอาระเบีย ขั้วโลกเหนือมีพายุฝนถล่ม น้ำแข็งขั้วโลกละลายรัวๆ
นักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศ ประกาศแล้วว่าตอนนี้ภูมิอากาศโลกเข้า "เข้าเส้นสีแดง" ซึ่งหมายถึง หมดทางเยียวยา แล้วครับ
เขาก็เตือนกันมา 20 ปีแล้ว แต่มนุษย์เกือบทั้งโลกไม่สนแมวอะไร ยิ่งคนไทยเกินครึ่งประเทศไม่รู้ร้อนรุ้หนาว ด่าแต่ว่าฝนตกน้ำท่วมเป็นฝีมือนายก...มนุษย์เราทำอะไรกับธรรมชาติไว้ กำลังได้รับผลตอบแทน ก็ตามนั้น และมันจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆทุกเดือนทุกปี
โครงการอพยพไปดวงจันทร์ ดาวอังคาร และอาศัยอยู่ในโคโลนี นอกโลกกำลังเร่งพัฒนา นี่ก็เป็นอีกเหตุที่บอกได้ว่า "มนุษย์เราทำลายโลกจนถึงจุดเรือหายแล้ว"หลายคนที่ทำเป็นไม่สนใจก็เตรียมตัวเอาไว้ให้ดีเลย
ไม่ล่ะครับ ผมจะด่านายกอย่างไรเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนมาอย่างไรก็จะด่าเมหือนเดิม
เพราะคนเราไม่ใช่พระเอกหนังไทย
เราไม่สามารถเอาปืนพกกระบอกเดียวไปยิงกับพวกลักลอบสัตว์ป่าหรือนายทุนขุดภูเขาเผากระท่อมได้ ต้องพึ่งพาอำนาจรัฐ
ผมไม่สามารถแก้ปัญหาได้โดยการบุกเข้าไปในจวนผู้ว่ากทม. เอาปืนจ่อหัวผู้ว่าและบอกว่าให้ไปปรับผังเมืองบัดเดี๋ยวนี้ ก่อนที่น้ำจะท่วมและกรุงเทพจม
คนเราทำอย่างนั้นไม่ได้ครับ
จากการคำนวณของผม ความผิดไม่ได้ตกอยู่ที่ประชาชนเจ็ดสิบล้าน แต่อยู่ที่ประชากรราวๆ 100 8นในประเทศครับจัดการ 100 คนนี้ได้ ก็แก้ปัญหาในประเทศเราได้
เราท่านไม่สามารถลงโทืษคนที่ไม่มีอำนาจได้ครับว่า ไม่ยอมเลปี่ยนแปลงแก้ไข เพระาคนที่แก้ไขได้คือคนที่มีอำนาจเท่านั้น
ยกเว้นแต่คนไม่มีอำนาจจะทำอย่างที่ผมว่าคือรวมตัวกันไปล้อมจวนผู้ว่ากทม.และบังคับให้ทำตามอย่างที่ผมบอกนั่นล่ะ
ซึ่งมันทำไม่ได้ ในโลกของความเป็นจริงนั่นเอง
...
พยายามทำความเข้าใจแบบไม่ประชดกันคือ การทำอุตสาหกรรมนั้น คือสิ่งที่ทำให้โลกปัจจุบันคงอยู่ได้ ไม่มีบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ไหนจะยอมตัดผลกำไรตนเองเพื่อโลกของเราและตอนนี้ คิดว่าใครคือบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านั้น?
ทำไมแต่ละประเทศทั่วโลก ปากพูดอย่างแต่ลงมือทำอีกอย่างเหมือนกัน?
เพระาผลประโยชน์มันมากเกินไปกว่าที่คนธรรมดาอย่างเราจะนึกถึง
ดังนั้นแก้ปัญหาดดยการด่าคนธรรมดานั้น ด่าไม่ตรงจุดครับ
หากจะด่าก็ต้องด่าที่ว่าคนธรรมดาไม่ยอมไปล้อมจวนผู้ว่าและบังคับนโยบายที่เราต้องการจริงๆนั่นล่ะ