แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: อาจารย์ในนิยาย-คิดอย่างไรกับอาจารย์ที่ให้เรียนรู้ด้วยตนเองครับ?  (อ่าน 3872 ครั้ง)

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,426
  • ถูกใจแล้ว: 3122 ครั้ง
  • ความนิยม: +189/-432
คิดอย่างไรกับอาจารย์ที่ให้พระเอกเผชิญกับปัญหาและเรียนรู้ด้วยตนเองครับ?

สังเกตอาจารย์พรรค์นี้ก็อย่างอ.ดัมเบิ้ลดอร์หรือโคลวรี๊ด

ที่ต้องให้ลูกศิษย์เลือดตกยางออกก่อนถึงจะโผล่มาอธิบายตอนจบเรื่อง ???


ไปอ่านความคิดเห็นของเจเค ที่น้องสาวบอกว่าทำไมดัมเบิ้ลดอร์โหดจัง ไม่ยอมมาช่วยในตอนที่แฮกริดลำบาก

เล่นเอาเจเคงงไปพักหนึ่ง


แสดงว่า ตัวละครประเภทอาจารย์พวกที่ให้ลูกศิษย์เรียนรู้เองนี่ คือตัวแทนคนเขียนในบางส่วนสินะครับ?

ว่าคนเขียนอาจจะไม่รู้ตัวเลยว่า วิธีการสอนพรรค์นี้ของตนเองมันโหดสัส คนธรรมดาหรือศิษย์ธรรมดาไปไม่รอดกับการสอนพรรค์นี้ของอาจารย์


คือเก่งจริงหากจบมาเพราะหากเก่งไม่พอก็จะตาย :(


เช่น ซากุระที่พรสวรรค์สูงกว่าโคลวรี๊ด หรือ แฮร์รี่ ที่ดวงพระเจ้าช่วยตลอด


หากวิจารณ์กันตามเนื้อผ้า ยูจิโร่ยังเป็นครูที่ดีกว่าอีก สอนวิชาให้บากิก็อธิบายเป็นฉากๆและขั้นตอนมากกว่าโคลวรี๊ดหรือดัมเบิ้ลดอร์อีก

อย่างน้อยกระโดดลงเขาหรือชกกับค้างคาวในถ้ำก็ทำให้ดูเป็นตัวอย่างก่อน

หวงอี้พยายามอธิบายแบบกลางๆ


ว่าคนมีพรสวรรค์ทั่วไป ล่างฟานหวินจะอธิบายอย่างละเอียด  คนที่ระดับอัจฉริยะ ล่างฟานหวินแนะนำนิดหน่อยที่เหลือให้ไปฝึกด้วยตนเองเอา


ไปเจอคำหนึ่งที่เขาเรียกประมาณว่า school of hardknock โรงเรียนหมัดหนัก

คือการสอนแบบให้ลูกศิษย์ไปเจอของจริงเอาแบบโหดๆ เจ็บตัวจะได้จำได้ง่ายกว่าว่าอย่างนั้น



หากดูภาพรวมแล้ว คนมีพรสวรรค์ระดับพระเอกนางเอกของเรื่องฝึกด้วยวิธีนี้ก็ไม่เป็นไรหรอก แต่มันไม่เหมาะกับลูกศิษย์ระดับธรรมดาน่ะครับ


ผมรู้สึกว่ามันเป็นแนวคิดแบบ "ครูพักลักจำ"

แบบสมัยก่อนที่เราต้องขโมยวิชาครูเอาเอง ชิงไหวชิงพริบกับอาจารย์ จะซ่อมรถ อาจารย์จะให้เราไปเอาเครื่องมือ พอกลับมาส่วนที่อาจารย์ซ่อมกับเสร็จแล้ว ลูกศิษย์ขโมยวิชาไม่ทัน


ตามเรื่องเล่าที่เคยได้ยินมา จะได้วิชาก็ต้องมอมเหล้าอาจารย์หรือพันมวนกัญชาให้อาจารย์ก่อน วิชาจะมาตอนนั้น


แต่รู้สึกแปลกๆที่คนเขียนใช้มุกให้พระเอกเรียนรู้ด้วยตนเองบ่อยๆแทนที่จะสอนอย่างเป็นงานเป็นการ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 24, 2019, 09:56:10 PM โดย samuison »
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ oper885

  • พลทหารหมี
  • **
  • กระทู้: 187
  • ถูกใจแล้ว: 66 ครั้ง
  • ความนิยม: +8/-5
ก็รูู้สึกปกตินะครับ เพราะทุกอย่างมีเหตุมีผลครับ หรือน่าจะมีนั่นแหละ
ดัมเบิลดอร์มี นร. ให้ดูแลมากมาย หน้าที่ก็เยอะ
ยูจิโร่มีบากิคนเดียว...
ครูพักลักจำ... ก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่ดี ที่ว่าไม่ดีเพราะว่า หากไม่เข้าใจ ก็ไม่มีใครแนะแนวได้ ครับ
ส่วนจะได้วิชาต้องมอมเหล้าอาจารย์หรือพันมวนกัญชานั้น... มองได้สองมุมครับ
มุมแรกคือเคล็ดลับ ข้อดีข้อเสียวิธีการ วิชาความรู้ ครับ อีกมุมหนึ่งก็ลองคิดดูให้เราดื่มเหล้าหรือสูบกัญชาพร้อมกับอ่านหนังสือครับ ได้มากได้น้อยไม่ขอกล่าว...
- ส่วนการเรียนรู้แบบเรียนรู้ด้วยตัวเอง เผชิญปัญหา ผมว่าในส่วนของโปรเจ็คจบ ป.ตรี โท เอก เราก็น่าจะผ่าน ๆ กันมานะครับ
ลองคิดว่า เขียนโครงงาน -> โดนกรรมการสับ -> อ.ที่ปรึกษามาอธิบาย -> เขียนโครงงานต่อ -> โดนกรรมการสับเละ ...ลูปนรก
 

ออนไลน์ Overmars

  • นักปราชญ์แห่งเขาเซนนิคุมะ
  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,259
  • ถูกใจแล้ว: 2221 ครั้ง
  • ความนิยม: +228/-225
อาจารย์ที่ให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยตัวเองนี่ คือต้องแบบนักเรียนต้องอยู่ในระดับแอดวานซ์ มีพื้นฐานแน่นพอตัวแล้วอ่ะ !

ถ้าเป็นหนังจีน ก็คือ ลูกศิษย์เป็นวิทยายุทธขั้นสูงแล้ว แต่ยังไปไม่ถึงขั้นสูงสุด อะไรประมาณนี้

ถ้าในชีวิตจริง ก็คือตอนทำวิทยานิพนธ์ปล่อยให้นิสิตนักศึกษาคิดเอาเองจากความรู้ที่สอนไปตลอด 4-6 ปี ที่ผ่านมา

ไม่ใช่ว่าเพิ่งมาแค่ปีหนึ่งก็บอกให้นักเรียนไปเรียนรู้เอาเอง มันไม่ใช่ !!! อย่างนั้นมันแค่ครูขี้เกียจสอนเท่านั้นแหละ !
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 24, 2019, 10:09:53 PM โดย Overmars »
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: hillmaker

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,426
  • ถูกใจแล้ว: 3122 ครั้ง
  • ความนิยม: +189/-432
ก็รูู้สึกปกตินะครับ เพราะทุกอย่างมีเหตุมีผลครับ หรือน่าจะมีนั่นแหละ
ดัมเบิลดอร์มี นร. ให้ดูแลมากมาย หน้าที่ก็เยอะ
ยูจิโร่มีบากิคนเดียว...
ครูพักลักจำ... ก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่ดี ที่ว่าไม่ดีเพราะว่า หากไม่เข้าใจ ก็ไม่มีใครแนะแนวได้ ครับ
ส่วนจะได้วิชาต้องมอมเหล้าอาจารย์หรือพันมวนกัญชานั้น... มองได้สองมุมครับ
มุมแรกคือเคล็ดลับ ข้อดีข้อเสียวิธีการ วิชาความรู้ ครับ อีกมุมหนึ่งก็ลองคิดดูให้เราดื่มเหล้าหรือสูบกัญชาพร้อมกับอ่านหนังสือครับ ได้มากได้น้อยไม่ขอกล่าว...
- ส่วนการเรียนรู้แบบเรียนรู้ด้วยตัวเอง เผชิญปัญหา ผมว่าในส่วนของโปรเจ็คจบ ป.ตรี โท เอก เราก็น่าจะผ่าน ๆ กันมานะครับ
ลองคิดว่า เขียนโครงงาน -> โดนกรรมการสับ -> อ.ที่ปรึกษามาอธิบาย -> เขียนโครงงานต่อ -> โดนกรรมการสับเละ ...ลูปนรก
โคลวร๊ดมันเป็น ไปเก็บการ์ด----เก็บได้ เก่งกว่าโคลรี๊ด                                ----เก็บไม่ได้ตาย การ์ดออกอาละวาดสร้างความทุกข์เข็ญให้มวลมนุษย์
มันเหมือนกับให้โจทย์มาและจะผ่านไปได้หรือไม่ ตายหรือรอดน่ะครับ
ที่ชมยูจิโร่มากกว่าเพราะอย่างน้อยก็ทำให้ดูและอธิบายเทคนิคให้บากิเข้าใจก่อนว่าจะเอาวิชาไปใช้อย่างไร
ไม่ใช่ให้คลำทางกันเอาเองแบบโคลวรี๊ดหรือดัมเบิ้ลดอร์
อาจารย์ที่ให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยตัวเองนี่ คือต้องแบบนักเรียนต้องอยู่ในระดับแอดวานซ์ มีพื้นฐานแน่นพอตัวแล้วอ่ะ !

ถ้าเป็นหนังจีน ก็คือ ลูกศิษย์เป็นวิทยายุทธขั้นสูงแล้ว แต่ยังไปไม่ถึงขั้นสูงสุด อะไรประมาณนี้

ถ้าในชีวิตจริง ก็คือตอนทำวิทยานิพนธ์ปล่อยให้นิสิตนักศึกษาคิดเอาเองจากความรู้ที่สอนไปตลอด 4-6 ปี ที่ผ่านมา

ไม่ใช่ว่าเพิ่งมาแค่ปีหนึ่งก็บอกให้นักเรียนไปเรียนรู้เอาเอง มันไม่ใช่ !!! อย่างนั้นมันแค่ครูขี้เกียจสอนเท่านั้นแหละ !
ก็นั่นล่ะุครับ
เอาแบบที่เคยฟังมา
master คือต้องรู้ในศาสตร์นั้นๆอย่างถ่องแท้
doctorate สร้างสรรค์วิชาแขนงใหม่ให้แก่ศาสตร์นั้นๆได้
หากวัดกันตามหลักที่โคลวรี๊ดชมว่า ซากุระสร้างสรรค์สิ่งใหม่และจะเหนือกว่าโคลวรี๊ด

ในทางสายวิชาเท่ากับว่าซากุระเรียนในโหมด ปริญญาเอก ดอกเตอร์แลบ้ว ไม่ใช่แค่ระดับสาวน้อยเริ่มฝึกเวทมนตร์
"สร้างสรรค์ความรู้เขึ้นใหม่ในแขนงนัะ้นๆ" มันคือสูงสุดของสาย
แต่ละคนเป็นอาจารยืหรือปรมาจารย์ของตนเอง
สามารถพูดได้เต็มปากว่าในความรู้เรื่องเฉพาะเจาะจงเรื่องนีั้ ไม่มีใครเก่งกว่าเราในความรู้เรื่องเฉพาะนี้

ที่ว่าขี้เกียจก็อาจจะใช่ครับ
คนเขียนอาจจะไม่ใช่ครูที่เก่งเองด้วยเลยไม่ได้มองโดยภาพรวมของการสอนวิชา
ผมถึงบอกว่าเป็นเรื่องน่าตลกที่ยูจิโร่ ยังเป็นอาจารย์ที่ดีกว่า

เวลาตบแจ็ก ก็อธิบายด้วยว่าการกัดมีข้อดีข้อเสียและข้อควรระวังอย่างไร  ..ไม่น่าเชื่อว่ายูจิโร่จะเป็นครูที่ดีกว่าคนที่ดูใจดีอย่างดัมเบิ้ลดอร์หรือโคลวรี๊ด ???
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,389
  • ถูกใจแล้ว: 4070 ครั้ง
  • ความนิยม: +347/-403
อย่างแรกนะครับแฮรี่ไม่ได้เรียนทุกอย่างด้วยตัวเองทุกอย่างมีสอนในรร.ทุกเวทที่แฮรี่ไช้มีคนสอนเสมอมันไม่เคยแม้แต่คิดที่จะเรียนด้วยตัวเองสักครัง สิ่งเดียวที่เรื่องแฮรี่มันขาดไปในรร.คือความปลอดภัยครับรร.ห่านี่โคตรอันตรายไม่ต้องพูดอีเว้นต่างๆที่แฮรี่เจอเพราะบอส แต่รัวรร.มีต้นหวดฟาดรถบินเละ สวนรร.มีสัตว์อันตรายอย่างแมงมุมกินคน ในสระตกไปมีปีศาจทะเลกินคน คือความปลอดภัยอยู่ตรงไหนครับ แถมคนนอกเข้าออกสบายการไช้เวทของภูตก็ตรวจสอบไม่ได้ ถ้าผมเป็นตัวร้ายในเรื่องนะรร.ห่านี่ถูกระเบิดตังแต่วันเเรกๆแล้ว

ออฟไลน์ Flady

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 432
  • ถูกใจแล้ว: 821 ครั้ง
  • ความนิยม: +54/-15
มันก็มองได้หลายมุมล่ะนะ...  ;)


ตามมุมมองของเราแล้ว การที่เราไปขอวิชาจากอาจารย์ในสมัยก่อนนั้น การที่เขาจะไม่สอนอะไรมากมายก็เป็นเรื่องปกติ เพราะเขาไม่ได้อยากจะสอนตั้งแต่แรกแล้ว
การเรียนในสมัยนี้ไม่ใช่เรื่องของการส่งวิชาความรู้อย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของการนำทางด้วย ไม่ใช่การส่งความรู้จากยอดฝีมือที่สนใจจะพัฒนาตัวเองแต่อย่างเดียว
เหมือนแต่ก่อน แต่เป็นการถ่ายทอดความรู้จากคนที่รับหน้าที่ในการนำทางและให้ความรู้โดยเฉพาะ เป็นระบบที่มุ่งหวังให้ผู้เรียนได้ความรู้ไปใช้ก่อนที่จะเดินทางพลาด
ไปเหมือนที่คนสมัยก่อนเดินมาเองคนเดียว เพราะอย่างนั้นการสอนแบบปล่อยให้คนเรียนหาความรู้เองทั้งหมดนั้นก็คงจะไม่เข้ากับยุคนี้เสียเท่าไหร่  ;)


ไม่ได้หมายความว่าอาจารย์ควรจะ 'ชี้นำ' หรือคอยจูงมือลูกศิษย์อยู่ตลอด จะว่ายังไงดีล่ะ? สอนหรือให้คำแนะนำพอที่จะให้เห็นทางไปต่อได้ นั่นล่ะคือขั้นต่ำที่ควรจะทำ
จริงๆการปล่อยให้คลำทางเองนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดร้ายแรงเท่าไหร่นัก แต่ถ้าอย่างนั้นมันก็จะหมายความว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาจากตัวศิษย์เองทั้งหมดจริงๆ
อาจารย์ไม่ได้เป็นส่วนสำคัญอะไรเลย เพราะอย่างนั้นการรักษาจุดสมดุลระหว่างการนำทางและการปล่อยให้เรียนรู้เองนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญมากๆในการที่ตัวคนสอนจะ
สามารถเรียกตัวเองว่าเป็น 'อาจารย์' และยินดีรับรางวัลจาก 'ผลงาน' ของตัวเองได้อย่างภาคภูมิ  :)


ที่เราพยายามจะบอกอาจจะดูเปรียบเทียบกับในนิยายลำบากไปหน่อยก็จริง แต่อย่างน้อยนี่ก็เป็นหลักการที่เรายึดถือเอาไว้ล่ะนะ  :D
LN&Manga Connoisseur(ฝึกหัด) (แต่งตั้งตัวเอง)
อยู่ระหว่างการพิจารณาเปิดบริการแนะนำ(กึ่งยัดเยียด)อาหาร(นิยาย/มังงะ)
 

ออฟไลน์ nosta

  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 2,522
  • ถูกใจแล้ว: 1150 ครั้ง
  • ความนิยม: +106/-145
มันก็เป็นวิธีนึงแต่ไม่ควรให้ถึงขนาดเสี่ยงตาย ยกเว้นฝึกรบพิเศษ
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,389
  • ถูกใจแล้ว: 4070 ครั้ง
  • ความนิยม: +347/-403
ความจริงไอ้การที่อจ.ไห้เรียนรู้ด้วยตัวเองมันก็ไม่ไช่ไม่สอนอะไรนะครับแต่ส่วนมากมักจะเป็นงานที่ต้องไช้ความชำนาณแต่คนเรียนต้องมีความรู้มาในระดับหนึ่งแล้ว เช่นเซพทำอาหารคนเรียนต้องทำอาหารเป็นมาก่อนไม่ไช่แค่ในระดับหนึ่งแต่ต้องทำเป็นมาก่อนถึงมาเรียนรู้ด้วยตัวเองกับอจ. เพื่อพัตนาฝีมือไปในระดับมือโปรหรือเอาง่ายๆคือการเรียนรู้ด้วยตัวเองจากอจ.คือการที่คนเรียนมีอาชีพในด้านนั้นๆอยู่แล้วมาขอเรียนกับอจ.ที่เก่งยิ่งกว่าเพื่อไห้ตัวเองเก่งขึ้นไปอีกขั้นจุดนี้อจ.จะไม่มาสอนตังแต่หนึ่งแต่จะทำไห้ดูหรือศึกษาร่วมกันผลที่ออกมาถ้าเป็นการทำอาหารรสชาติจะไม่เหมือนอจ.แต่จะได้รสชาติของตัวเองที่ดีกว่าเดิม การสอนแบบนี้มันเป็นการสอนมืออาชีพที่ทำทุกอย่างได้อยู่แล้วครับไม่ไช่สอนทุกอย่างกับกับตังแต่หนึ่งเพราะผู้เรียนไม่รู้อะไรเลยถ้าสอนแบบจูงมือไห้มืออาชีพผลคือของก็อปปี้แต่ถ้าสอนแบบเรียนรู้ด้วยตัวเองกับมืออาชีพผลคือได้อริจินอลของตัวเอง จุดมุ่งหมายของการสอนทังสองแบบมันต่างกันครับกลุ่มเป้าหมายของคนเรียนก็ต่างกัน
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: AlexW

ออฟไลน์ gaiar33

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 11,229
  • ถูกใจแล้ว: 6563 ครั้ง
  • ความนิยม: +295/-263
  • เพศ: ชาย
  • หัวหน้าองค์กร(ไม่)ลับ
ถ้าสอนมันทุกอย่างทุกระเบียบนิ้ว   เด็กมันก็เป็นง่อยล่ะครับ ไม่ต้องใช้หัว ไม่ต้องลองทำอะไรด้วยตัวเองเลย

อย่างผมสอนหลานชายวาดการ์ตูน ผมก็สอนแค่เทคนิคลอกแบบ หลังจากนั้นปล่อยเลย  ผ่านไปสองปีวาดเก่งเองทันใด

ยกเว้นบางเรื่องที่ เสี่ยงถึงชีวิตนั่นแหล่ะคือสิ่งที่คนเป็นครูควรสอนเด็กทุกอย่าง

* gaiar33 ส่วนจะเข้าหัวมั้ยมันก็ เรื่องใครเรืองมัน   
 

ออฟไลน์ Diamos

  • นักปราชญ์แห่งเขาเซนนิคุมะ
  • ยอดขุนพลหมี
  • *****
  • กระทู้: 5,014
  • ถูกใจแล้ว: 29939 ครั้ง
  • ความนิยม: +446/-110
  • เพศ: ชาย
ถ้าตอบในมุมผม ผมว่าที่ดัมเบิลดอร์ทำกับแฮรี่ก็โหดไปนะครับ 555+

คือแกวางแผนให้แฮรี่เป็นคนจบเรื่องกับโวลเดอร์มอร์ แต่แกแทบไม่ทิ้งคำใบ้อะไรสักอย่างให้แฮรี่เลย นี่ถ้าแฮรี่ไม่ได้ใช้พลังตัวเอก + ดวง นี่ โวลเดอร์มอร์ได้ครองโลกพ่อมดไปแล้วละครับ ส่วนแฮรี่ก็คงกลายเป็นปุ๋ยไปแล้วนั่นละ
สถาปนิก, นักออกแบบและสร้างสรรค์เพื่อเหล่าหมีผู้น่ารัก
โครงการนิยายแต่ง หน้าหลัก;Age of War;DSU Board
 

ออฟไลน์ pol

  • สาวกผู้สนับสนุนเซนนิคุง2Y
  • จอมทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 17,728
  • ถูกใจแล้ว: 20731 ครั้ง
  • ความนิยม: +364/-6
  • เพศ: ชาย
  • นักอู้มือหนึ่ง
อย่างแรกนะครับแฮรี่ไม่ได้เรียนทุกอย่างด้วยตัวเองทุกอย่างมีสอนในรร.ทุกเวทที่แฮรี่ไช้มีคนสอนเสมอมันไม่เคยแม้แต่คิดที่จะเรียนด้วยตัวเองสักครัง สิ่งเดียวที่เรื่องแฮรี่มันขาดไปในรร.คือความปลอดภัยครับรร.ห่านี่โคตรอันตรายไม่ต้องพูดอีเว้นต่างๆที่แฮรี่เจอเพราะบอส แต่รัวรร.มีต้นหวดฟาดรถบินเละ สวนรร.มีสัตว์อันตรายอย่างแมงมุมกินคน ในสระตกไปมีปีศาจทะเลกินคน คือความปลอดภัยอยู่ตรงไหนครับ แถมคนนอกเข้าออกสบายการไช้เวทของภูตก็ตรวจสอบไม่ได้ ถ้าผมเป็นตัวร้ายในเรื่องนะรร.ห่านี่ถูกระเบิดตังแต่วันเเรกๆแล้ว
ถ้าเป็นผมจะวางยาพิษใส่อาหารครับ รับรองว่าตายเกลี้ยง
ส่วนเรื่องการที่อาจารย์ให้เด็กเรียนรู้ด้วยตัวเองนี่ขอบอกว่าใช้ไม่ได้ครับ ถ้าเป็นแบบนี้จะมีอาจารย์ไว้เพื่ออะไร?  จริงอยู่ว่าในนิยายแฮรี่นี่มันรอดมาได้ก็เป็นเพราะบทของคนเขียนต่างหาก. ความเป็นจริงนี่ตายไปแล้วครับ
 

ออฟไลน์ humandroy

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,161
  • ถูกใจแล้ว: 472 ครั้ง
  • ความนิยม: +22/-22
นิยายมันก็เรื่องแต่งเอามันส์เข้าว่า


แต่เรื่องจริง ชีวิตคนทำงาน


ระหว่างคนที่ชื้ทางให้แล้วเดินเองได้ กับคนที่ต้องจูงจมูกถึงจะเดิน แค่นี้ก็น่าจะรู้แล้วว่าใครเรียนรู้ได้มากกว่ากัน


คนที่จะได้รับการสนับสนุนคือคนที่แค่ชี้ทางก็เดินเองได้ ส่วนคนที่ต้องจูงจมูกถึงจะทำงานได้ ก็คือคนที่จะถูกดองไว้ตรงนั้น


เพราะนิยายคือความบันเทิง แต่ชีวิตคือการเรียนรู้ มันจึงเหมือนบ้างไม่เหมือนบ้าง เป็นไปตามความสะใจของคนแต่ง
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,426
  • ถูกใจแล้ว: 3122 ครั้ง
  • ความนิยม: +189/-432
อย่างแรกนะครับแฮรี่ไม่ได้เรียนทุกอย่างด้วยตัวเองทุกอย่างมีสอนในรร.ทุกเวทที่แฮรี่ไช้มีคนสอนเสมอมันไม่เคยแม้แต่คิดที่จะเรียนด้วยตัวเองสักครัง สิ่งเดียวที่เรื่องแฮรี่มันขาดไปในรร.คือความปลอดภัยครับรร.ห่านี่โคตรอันตรายไม่ต้องพูดอีเว้นต่างๆที่แฮรี่เจอเพราะบอส แต่รัวรร.มีต้นหวดฟาดรถบินเละ สวนรร.มีสัตว์อันตรายอย่างแมงมุมกินคน ในสระตกไปมีปีศาจทะเลกินคน คือความปลอดภัยอยู่ตรงไหนครับ แถมคนนอกเข้าออกสบายการไช้เวทของภูตก็ตรวจสอบไม่ได้ ถ้าผมเป็นตัวร้ายในเรื่องนะรร.ห่านี่ถูกระเบิดตังแต่วันเเรกๆแล้ว
หมายถึงวิชาก็ไปขวนขวายเอาเองน่ะครับ
เพราะวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดห่วยแตกมาก

แฮร์รี่ต้องไปเรียนคาถา เอ็กเป็กโตเอาเอง
ตอนปีท้ายๆ ดัมเบิ้ลดอร์ก็ไม่ได้สอนวิชาต่อสู้อะไรให้ แค่สั่งงานให้ทำเกี่ยวกับข้อมูลของโวลเดอมอร์
ที่แฮร์รี่เก่งเพราะ school of hardknock อย่างที่ผมว่าล่ะครับ
คือไปเสกคาถา เสี่ยงตายเอาจริงๆในสถานการณ์จริงๆ
พอรอดมา่ได้เลยเก่งกว่าทุกคนในรุ่นเดียวกันอย่างเห็นได้ชัดก็ตั้งแต่ปีสี่
ดัมเบิ้ลดอร์ไม่ได้ช่วยอะไรแม้แต่น้อย นอกจากใบ้แบบซับซ้อน
นิยายมันก็เรื่องแต่งเอามันส์เข้าว่า


แต่เรื่องจริง ชีวิตคนทำงาน


ระหว่างคนที่ชื้ทางให้แล้วเดินเองได้ กับคนที่ต้องจูงจมูกถึงจะเดิน แค่นี้ก็น่าจะรู้แล้วว่าใครเรียนรู้ได้มากกว่ากัน


คนที่จะได้รับการสนับสนุนคือคนที่แค่ชี้ทางก็เดินเองได้ ส่วนคนที่ต้องจูงจมูกถึงจะทำงานได้ ก็คือคนที่จะถูกดองไว้ตรงนั้น


เพราะนิยายคือความบันเทิง แต่ชีวิตคือการเรียนรู้ มันจึงเหมือนบ้างไม่เหมือนบ้าง เป็นไปตามความสะใจของคนแต่ง
ใช่ครับเอามันส์เข้าว่า แต่ผมมองว่า ทั้งเจเคและแคลมป์เห็นตรงกันแบบแปลกๆน่ะครับ
หากสารถพาตามตรง
ผมมองว่าทั้งแคลมป์หรือเจเค เป็นครูที่ดีไม่ได้หรอก

ยูจิโร่ยังเป็นครูที่ดีกว่า
มีการแสดงตัวอย่าง อธิบายเทคนิค และบอกกล่าวเป้าหมายชัดเจนว่าคาดหวังอะไรจากบากิในการที่ให้เอาเลือดราดตนเองในถ้ำค้างคาวหรือโดดหน้าผา
การปล่อยให้คนตรัสรู้ด้วยตนเองน่ะ มันคือจุดที่เกิดให้เกิดความไม่พอใจมาหลายครั้งแล้วครับ
เป็นเรื่องที่การบริหารสมัยใหม่ต้องเน้นย้ำว่า ต้องมีเป้าหมายให้ชัดเจนว่าจะคาดหวังอะไรระหว่างพนักงานกับผู้จัดการ

ผมมองว่า

แคลมป์กับเจเคดันคิดเหมือนกัน
เทียบกันแล้วผู้เฒ่าเต่้า ในการสอนโกคูก็ยังมีการฝึกสอนเป็นตารางเวลามากกว่า
มีการฝึกต่อสู้ ให้ไปส่งนม อธิบายเคล็ดวิชาคลื่นเต่าและสอนการอ่านหนังสือฯลฯ

ไม่ใช่มามุกแบบแคลมป์หรือเจเคน่ะครับ
[quote/] ถ้าเป็นผมจะวางยาพิษใส่อาหารครับ รับรองว่าตายเกลี้ยง
ส่วนเรื่องการที่อาจารย์ให้เด็กเรียนรู้ด้วยตัวเองนี่ขอบอกว่าใช้ไม่ได้ครับ ถ้าเป็นแบบนี้จะมีอาจารย์ไว้เพื่ออะไร?  จริงอยู่ว่าในนิยายแฮรี่นี่มันรอดมาได้ก็เป็นเพราะบทของคนเขียนต่างหาก. ความเป็นจริงนี่ตายไปแล้วครับ
แฮร์รี่มันมีฮีลลิ่งแฟ็กเตอร์ครับ ฟันหักไปถ้าไม่ใช่การโจมตีด้วยคาถาจะหายภายในไม่ถึงนาที ฮา
แต่ยาพิษคงจะวางยากเพราะอย(ู่ในการดูแลของพวกเอลฟ์ในห้องครัว
ยกเว้นจะวางยาทั้งครัวนั่นล่ะ
ถ้าตอบในมุมผม ผมว่าที่ดัมเบิลดอร์ทำกับแฮรี่ก็โหดไปนะครับ 555+

คือแกวางแผนให้แฮรี่เป็นคนจบเรื่องกับโวลเดอร์มอร์ แต่แกแทบไม่ทิ้งคำใบ้อะไรสักอย่างให้แฮรี่เลย นี่ถ้าแฮรี่ไม่ได้ใช้พลังตัวเอก + ดวง นี่ โวลเดอร์มอร์ได้ครองโลกพ่อมดไปแล้วละครับ ส่วนแฮรี่ก็คงกลายเป็นปุ๋ยไปแล้วนั่นละ
ใช่ครับ เป็นเรื่องที่ผมไม่ค่อยพ่อใจตัวละครแนว"อาจารย์ผู้ลึกลับ" ที่เจเคหรือแคลมป์พยายามจะเขียนในเรื่องน่ะครับ
ผมถึงบอกว่า ผู้เฒ่าเต่ากับยูจิโร่ยังเป็นอาจารย์ที่ชัดเจนกว่า มีเป้าหมายชัดเจนและอธิบายทางเทคนิคให้ศิษย์เข้าใจได้ง่ายกว่า
ไม่รู้ทำไมเจเคหรือแคลมป์เอาตัวละครทำให้เข้าใจยากๆขึ้นมาก็ไม่ืรู้
เข้าใจว่าในลักษณะการแต่งเรื่อง อาจารย์ที่ดูเข้าใจยาก ทำให้ดูลึกลับ มีพลังอำนาจมากจนคนในเรื่องทำความเข้าใจไม่ได้
แต่พอมาพิจารณาตามเนื้อผ้า พวกนี้ไม่ใช่อาจารย์ที่ดีเลยสักคนเดียว

ถ้าสอนมันทุกอย่างทุกระเบียบนิ้ว   เด็กมันก็เป็นง่อยล่ะครับ ไม่ต้องใช้หัว ไม่ต้องลองทำอะไรด้วยตัวเองเลย

อย่างผมสอนหลานชายวาดการ์ตูน ผมก็สอนแค่เทคนิคลอกแบบ หลังจากนั้นปล่อยเลย  ผ่านไปสองปีวาดเก่งเองทันใด

ยกเว้นบางเรื่องที่ เสี่ยงถึงชีวิตนั่นแหล่ะคือสิ่งที่คนเป็นครูควรสอนเด็กทุกอย่าง

* gaiar33 ส่วนจะเข้าหัวมั้ยมันก็ เรื่องใครเรืองมัน   

ผมไปเจอแนวความคิดในเรื่องทหารอย่างหนึ่งมาครับคือ

การฝึกทหาร มาตรการความปลอดภัยและยุทธวิธีต่างๆนั้น ไม่ใช่สอนให้คนที่ถูกฝึกเป็นคนฉลาด
แต่คือมาตรการที่แม้แต่คนที่ถูกฝึกเป็นคนปัญยาทึบ(มาตรฐานประมาณ IQ90ในการเข้าทหารอเมริกัน) ก็สามารถวางแผนยุทธวิธีที่มีความผิดพลาดน้อยที่สุดได้การฝึกมันคือการกำจัด"ความไม่เอาไหน" ออกไปแม้แต่จะในคนที่ปัญยาทึบก็ตาม

มันไม่ใช่เรื่องของการที่เด็กเป็นง่อยครับในเคสแฮร์รี่หรือซากุระนี้
มันเป็นเรื่องปล่อยไปให้เด็กจะตายเอากับพวกของแข็งในโลกเวทมนตร์

ความจริงไอ้การที่อจ.ไห้เรียนรู้ด้วยตัวเองมันก็ไม่ไช่ไม่สอนอะไรนะครับแต่ส่วนมากมักจะเป็นงานที่ต้องไช้ความชำนาณแต่คนเรียนต้องมีความรู้มาในระดับหนึ่งแล้ว เช่นเซพทำอาหารคนเรียนต้องทำอาหารเป็นมาก่อนไม่ไช่แค่ในระดับหนึ่งแต่ต้องทำเป็นมาก่อนถึงมาเรียนรู้ด้วยตัวเองกับอจ. เพื่อพัตนาฝีมือไปในระดับมือโปรหรือเอาง่ายๆคือการเรียนรู้ด้วยตัวเองจากอจ.คือการที่คนเรียนมีอาชีพในด้านนั้นๆอยู่แล้วมาขอเรียนกับอจ.ที่เก่งยิ่งกว่าเพื่อไห้ตัวเองเก่งขึ้นไปอีกขั้นจุดนี้อจ.จะไม่มาสอนตังแต่หนึ่งแต่จะทำไห้ดูหรือศึกษาร่วมกันผลที่ออกมาถ้าเป็นการทำอาหารรสชาติจะไม่เหมือนอจ.แต่จะได้รสชาติของตัวเองที่ดีกว่าเดิม การสอนแบบนี้มันเป็นการสอนมืออาชีพที่ทำทุกอย่างได้อยู่แล้วครับไม่ไช่สอนทุกอย่างกับกับตังแต่หนึ่งเพราะผู้เรียนไม่รู้อะไรเลยถ้าสอนแบบจูงมือไห้มืออาชีพผลคือของก็อปปี้แต่ถ้าสอนแบบเรียนรู้ด้วยตัวเองกับมืออาชีพผลคือได้อริจินอลของตัวเอง จุดมุ่งหมายของการสอนทังสองแบบมันต่างกันครับกลุ่มเป้าหมายของคนเรียนก็ต่างกัน
แนวความคิดเหมือนเป็นการสอนคนที่เป็นอยู่แล้วมากกว่าล่ะครับ

ดัมเบิ้ลดอร์ไม่ได้แนะนำทริกในการป้องกันตนเองต่อแฮร์รี่แม้แต่นิดเดียวคาถาเสกโล่ออกมาที่ใช้กับโวลเดอร์มอก็ไม่ได้สอนแม้แต่น้อย
ทั้งที่แฮร์รี่มันบ้าบอ แต่ป้องกันตัวเป้นวิชาเดียวที่ผมคิดว่าแฮร์รี่มีความเข้าใจดีพอแล้วที่ต้องการการสอนจากดัมเบิ้ลดอร์เป็นพิเศษ

คงไม่สามารถบอกได้ว่ามีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่าการให้เด(็กที่ตนเองบอกว่าเป็นห่วงมีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้นหรอกครับ
ดัมเบิ้ลดอร์ยังแถว่าห่วงแฮร์รี่มากกว่าคนอื่นๆอีกต่างหาก

ที่ผมต้องยกเคสแฮร์รี่มา เพราะวิชาป้องกันตัวมันห่วยแตกมากเพราะต้องเปลี่ยนคนสอนทุกปี
จุดนี้ดัมเบิ้ลดอร์ควรจะรู้ตัวมาลงมือสอนเองบ้าง
มันก็เป็นวิธีนึงแต่ไม่ควรให้ถึงขนาดเสี่ยงตาย ยกเว้นฝึกรบพิเศษ
เคสแฮร์นี่เป็นเรื่องที่อันตรายมาหาตนเอง
เคสซากุระเป็นเคสที่โคลว รู้อยู่แล้วว่าการ์ดจะหลุดออกมา...

อย่างว่าล่ะครับ มันคือการแสดงภาพพจน์"อาจารย์ที่ดูลึกลับทรงพลัง"ของคนเขียนที่พยายามจะสื่อให้คนอ่านดูแต่มันเป็นเรีื่องที่พอเราหยุดคิดสักนิดจะเริ่มคิดว่า "นัี่มันไม่ใช่ล่ะ อาจารย์ที่ดีไม่ควรทำอย่างนี้"

มันก็มองได้หลายมุมล่ะนะ...  ;)


ตามมุมมองของเราแล้ว การที่เราไปขอวิชาจากอาจารย์ในสมัยก่อนนั้น การที่เขาจะไม่สอนอะไรมากมายก็เป็นเรื่องปกติ เพราะเขาไม่ได้อยากจะสอนตั้งแต่แรกแล้ว
การเรียนในสมัยนี้ไม่ใช่เรื่องของการส่งวิชาความรู้อย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของการนำทางด้วย ไม่ใช่การส่งความรู้จากยอดฝีมือที่สนใจจะพัฒนาตัวเองแต่อย่างเดียว
เหมือนแต่ก่อน แต่เป็นการถ่ายทอดความรู้จากคนที่รับหน้าที่ในการนำทางและให้ความรู้โดยเฉพาะ เป็นระบบที่มุ่งหวังให้ผู้เรียนได้ความรู้ไปใช้ก่อนที่จะเดินทางพลาด
ไปเหมือนที่คนสมัยก่อนเดินมาเองคนเดียว เพราะอย่างนั้นการสอนแบบปล่อยให้คนเรียนหาความรู้เองทั้งหมดนั้นก็คงจะไม่เข้ากับยุคนี้เสียเท่าไหร่  ;)


ไม่ได้หมายความว่าอาจารย์ควรจะ 'ชี้นำ' หรือคอยจูงมือลูกศิษย์อยู่ตลอด จะว่ายังไงดีล่ะ? สอนหรือให้คำแนะนำพอที่จะให้เห็นทางไปต่อได้ นั่นล่ะคือขั้นต่ำที่ควรจะทำ
จริงๆการปล่อยให้คลำทางเองนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดร้ายแรงเท่าไหร่นัก แต่ถ้าอย่างนั้นมันก็จะหมายความว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาจากตัวศิษย์เองทั้งหมดจริงๆ
อาจารย์ไม่ได้เป็นส่วนสำคัญอะไรเลย เพราะอย่างนั้นการรักษาจุดสมดุลระหว่างการนำทางและการปล่อยให้เรียนรู้เองนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญมากๆในการที่ตัวคนสอนจะ
สามารถเรียกตัวเองว่าเป็น 'อาจารย์' และยินดีรับรางวัลจาก 'ผลงาน' ของตัวเองได้อย่างภาคภูมิ  :)


ที่เราพยายามจะบอกอาจจะดูเปรียบเทียบกับในนิยายลำบากไปหน่อยก็จริง แต่อย่างน้อยนี่ก็เป็นหลักการที่เรายึดถือเอาไว้ล่ะนะ  :D
ก็ใช่ครับ แนวคิดสมัยนใหม่เป็นการที่ให้นักเรียนค้นคว้าด้วยตนเองก็จริง
แต่อาจารย์ก็ควรจะอยู่ข้างๆเพื่ออธิบายว่าควรจะค้นคว้าอยบ่างไรสร้างแนวคิดการค้นคว้าหาความรู้และปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทางแนะแนวทางต่างๆแบบเดียวกับหน้าที่ที่อ.แนะแนวในห้องเรียนควรจะทำแต่ไม่ค่อยได้ทำนั่นล่ะครับ
ตรามความหมายของท่านที่ว่ามา ยูจิโร่และผุ้เฒ่าเต่าก็เป็นอาจารยืที่เข้ากับความหมายของท่านและแนวคิดปัจจุบันมากกว่าดัมเบิ้ลดอร์หรือโคลวรี๊ดล่ะครับ ???
แนวความคิดของโรงเรียนและการสอนปัจจุบัน มีไว้เพื่อสามารถทำใ้สอนเด็กจำนวนมากๆได้และมีแหล่งค้นคว้าสมบูรณ์พร้อมากกว่า

สถานการณ์ที่เสี่ยงอันตรายถึงชีวิตควรจะมีการสอนตั้งแต่พื้นฐานหรือใกล้ชิดมากกว่านั้นร

ผมไปเจอมุกในเควสต์ที่ผมเคยอ่าน
ทำสัญญากับปีศาจให้สาอนเวทมนตร์ให้

ปีศาจเป็นอาจารย์สอนแบบอนุรักษ์นิยม ที่เริ่มสอนตั้งแต่พื้นฐานของการร่ายคาถาและอธิบายตั้งแต่รากฐานเลยว่าทำไมคาถานี้ถึงเป็นอย่างนี้ มีความเป็นมาเป็นไปอย่างไร ???
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ Diamos

  • นักปราชญ์แห่งเขาเซนนิคุมะ
  • ยอดขุนพลหมี
  • *****
  • กระทู้: 5,014
  • ถูกใจแล้ว: 29939 ครั้ง
  • ความนิยม: +446/-110
  • เพศ: ชาย
[quote/]
หมายถึงวิชาก็ไปขวนขวายเอาเองน่ะครับ
เพราะวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดห่วยแตกมาก

แฮร์รี่ต้องไปเรียนคาถา เอ็กเป็กโตเอาเอง
ตอนปีท้ายๆ ดัมเบิ้ลดอร์ก็ไม่ได้สอนวิชาต่อสู้อะไรให้ แค่สั่งงานให้ทำเกี่ยวกับข้อมูลของโวลเดอมอร์
ที่แฮร์รี่เก่งเพราะ school of hardknock อย่างที่ผมว่าล่ะครับ
คือไปเสกคาถา เสี่ยงตายเอาจริงๆในสถานการณ์จริงๆ
พอรอดมา่ได้เลยเก่งกว่าทุกคนในรุ่นเดียวกันอย่างเห็นได้ชัดก็ตั้งแต่ปีสี่
ดัมเบิ้ลดอร์ไม่ได้ช่วยอะไรแม้แต่น้อย นอกจากใบ้แบบซับซ้อน
[quote/]
ใช่ครับเอามันส์เข้าว่า แต่ผมมองว่า ทั้งเจเคและแคลมป์เห็นตรงกันแบบแปลกๆน่ะครับ
หากสารถพาตามตรง
ผมมองว่าทั้งแคลมป์หรือเจเค เป็นครูที่ดีไม่ได้หรอก

ยูจิโร่ยังเป็นครูที่ดีกว่า
มีการแสดงตัวอย่าง อธิบายเทคนิค และบอกกล่าวเป้าหมายชัดเจนว่าคาดหวังอะไรจากบากิในการที่ให้เอาเลือดราดตนเองในถ้ำค้างคาวหรือโดดหน้าผา
การปล่อยให้คนตรัสรู้ด้วยตนเองน่ะ มันคือจุดที่เกิดให้เกิดความไม่พอใจมาหลายครั้งแล้วครับ
เป็นเรื่องที่การบริหารสมัยใหม่ต้องเน้นย้ำว่า ต้องมีเป้าหมายให้ชัดเจนว่าจะคาดหวังอะไรระหว่างพนักงานกับผู้จัดการ

ผมมองว่า

แคลมป์กับเจเคดันคิดเหมือนกัน
เทียบกันแล้วผู้เฒ่าเต่้า ในการสอนโกคูก็ยังมีการฝึกสอนเป็นตารางเวลามากกว่า
มีการฝึกต่อสู้ ให้ไปส่งนม อธิบายเคล็ดวิชาคลื่นเต่าและสอนการอ่านหนังสือฯลฯ

ไม่ใช่มามุกแบบแคลมป์หรือเจเคน่ะครับ
[quote/]
แฮร์รี่มันมีฮีลลิ่งแฟ็กเตอร์ครับ ฟันหักไปถ้าไม่ใช่การโจมตีด้วยคาถาจะหายภายในไม่ถึงนาที ฮา
แต่ยาพิษคงจะวางยากเพราะอย(ู่ในการดูแลของพวกเอลฟ์ในห้องครัว
ยกเว้นจะวางยาทั้งครัวนั่นล่ะ
[quote/]
ใช่ครับ เป็นเรื่องที่ผมไม่ค่อยพ่อใจตัวละครแนว"อาจารย์ผู้ลึกลับ" ที่เจเคหรือแคลมป์พยายามจะเขียนในเรื่องน่ะครับ
ผมถึงบอกว่า ผู้เฒ่าเต่ากับยูจิโร่ยังเป็นอาจารย์ที่ชัดเจนกว่า มีเป้าหมายชัดเจนและอธิบายทางเทคนิคให้ศิษย์เข้าใจได้ง่ายกว่า
ไม่รู้ทำไมเจเคหรือแคลมป์เอาตัวละครทำให้เข้าใจยากๆขึ้นมาก็ไม่ืรู้
เข้าใจว่าในลักษณะการแต่งเรื่อง อาจารย์ที่ดูเข้าใจยาก ทำให้ดูลึกลับ มีพลังอำนาจมากจนคนในเรื่องทำความเข้าใจไม่ได้
แต่พอมาพิจารณาตามเนื้อผ้า พวกนี้ไม่ใช่อาจารย์ที่ดีเลยสักคนเดียว

[quote/]
ผมไปเจอแนวความคิดในเรื่องทหารอย่างหนึ่งมาครับคือ

การฝึกทหาร มาตรการความปลอดภัยและยุทธวิธีต่างๆนั้น ไม่ใช่สอนให้คนที่ถูกฝึกเป็นคนฉลาด
แต่คือมาตรการที่แม้แต่คนที่ถูกฝึกเป็นคนปัญยาทึบ(มาตรฐานประมาณ IQ90ในการเข้าทหารอเมริกัน) ก็สามารถวางแผนยุทธวิธีที่มีความผิดพลาดน้อยที่สุดได้การฝึกมันคือการกำจัด"ความไม่เอาไหน" ออกไปแม้แต่จะในคนที่ปัญยาทึบก็ตาม

มันไม่ใช่เรื่องของการที่เด็กเป็นง่อยครับในเคสแฮร์รี่หรือซากุระนี้
มันเป็นเรื่องปล่อยไปให้เด็กจะตายเอากับพวกของแข็งในโลกเวทมนตร์

[quote/]
แนวความคิดเหมือนเป็นการสอนคนที่เป็นอยู่แล้วมากกว่าล่ะครับ

ดัมเบิ้ลดอร์ไม่ได้แนะนำทริกในการป้องกันตนเองต่อแฮร์รี่แม้แต่นิดเดียวคาถาเสกโล่ออกมาที่ใช้กับโวลเดอร์มอก็ไม่ได้สอนแม้แต่น้อย
ทั้งที่แฮร์รี่มันบ้าบอ แต่ป้องกันตัวเป้นวิชาเดียวที่ผมคิดว่าแฮร์รี่มีความเข้าใจดีพอแล้วที่ต้องการการสอนจากดัมเบิ้ลดอร์เป็นพิเศษ

คงไม่สามารถบอกได้ว่ามีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่าการให้เด(็กที่ตนเองบอกว่าเป็นห่วงมีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้นหรอกครับ
ดัมเบิ้ลดอร์ยังแถว่าห่วงแฮร์รี่มากกว่าคนอื่นๆอีกต่างหาก

ที่ผมต้องยกเคสแฮร์รี่มา เพราะวิชาป้องกันตัวมันห่วยแตกมากเพราะต้องเปลี่ยนคนสอนทุกปี
จุดนี้ดัมเบิ้ลดอร์ควรจะรู้ตัวมาลงมือสอนเองบ้าง
[quote/]
เคสแฮร์นี่เป็นเรื่องที่อันตรายมาหาตนเอง
เคสซากุระเป็นเคสที่โคลว รู้อยู่แล้วว่าการ์ดจะหลุดออกมา...

อย่างว่าล่ะครับ มันคือการแสดงภาพพจน์"อาจารย์ที่ดูลึกลับทรงพลัง"ของคนเขียนที่พยายามจะสื่อให้คนอ่านดูแต่มันเป็นเรีื่องที่พอเราหยุดคิดสักนิดจะเริ่มคิดว่า "นัี่มันไม่ใช่ล่ะ อาจารย์ที่ดีไม่ควรทำอย่างนี้"

[quote/]
ก็ใช่ครับ แนวคิดสมัยนใหม่เป็นการที่ให้นักเรียนค้นคว้าด้วยตนเองก็จริง
แต่อาจารย์ก็ควรจะอยู่ข้างๆเพื่ออธิบายว่าควรจะค้นคว้าอยบ่างไรสร้างแนวคิดการค้นคว้าหาความรู้และปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทางแนะแนวทางต่างๆแบบเดียวกับหน้าที่ที่อ.แนะแนวในห้องเรียนควรจะทำแต่ไม่ค่อยได้ทำนั่นล่ะครับ
ตรามความหมายของท่านที่ว่ามา ยูจิโร่และผุ้เฒ่าเต่าก็เป็นอาจารยืที่เข้ากับความหมายของท่านและแนวคิดปัจจุบันมากกว่าดัมเบิ้ลดอร์หรือโคลวรี๊ดล่ะครับ ???
แนวความคิดของโรงเรียนและการสอนปัจจุบัน มีไว้เพื่อสามารถทำใ้สอนเด็กจำนวนมากๆได้และมีแหล่งค้นคว้าสมบูรณ์พร้อมากกว่า

สถานการณ์ที่เสี่ยงอันตรายถึงชีวิตควรจะมีการสอนตั้งแต่พื้นฐานหรือใกล้ชิดมากกว่านั้นร

ผมไปเจอมุกในเควสต์ที่ผมเคยอ่าน
ทำสัญญากับปีศาจให้สาอนเวทมนตร์ให้

ปีศาจเป็นอาจารย์สอนแบบอนุรักษ์นิยม ที่เริ่มสอนตั้งแต่พื้นฐานของการร่ายคาถาและอธิบายตั้งแต่รากฐานเลยว่าทำไมคาถานี้ถึงเป็นอย่างนี้ มีความเป็นมาเป็นไปอย่างไร ???


ความจริงตามเนื้อเรื่องเอง เหมือนจะมีตอนที่ดับเบิลดอร์เคยโดนว่าอยู่นะครับ ว่าไม่ใช่อาจารย์ที่ดีเท่าไหรนักในเล่มสุดท้าย (เหมือนจะสเนปนี่แหละ ที่เป็นคนต่อว่า)
สถาปนิก, นักออกแบบและสร้างสรรค์เพื่อเหล่าหมีผู้น่ารัก
โครงการนิยายแต่ง หน้าหลัก;Age of War;DSU Board
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,389
  • ถูกใจแล้ว: 4070 ครั้ง
  • ความนิยม: +347/-403
สำหรับโกคูผมเห็นต่างกันครับคนสอนวิชาไห้จริงๆคือมิสเตอร์โปโป้ครับนี่คือการที่โกคูมีคนจับมาสอนจริงๆครังแรกสำหรับปู่เต่า ผมเห็นแค่ฝึกร่างกายกับทดสอบกำลังล้วนๆที่สอนจริงจังของปู่เต่าคือการเรียนหนังสือครับปู่เต่านี่เป็นการสอนแบบไห้เรียนเองของจริงยิ่งกว่าแฮรี่หลายเท่าครับ ไม่มีสอนกระบวนท่าวิชาคลื่นเต่าก็ไม่สอนพวกโกคูต้องดูจำมาทำเองไม่มีอธิบายใดๆ ผิดกับแฮรี่ทุกอย่างมีสอนในรร.นร.สามารถถามอจ.คนไหนก็ได้แต่แฮรี่มันไม่พยายามจะเรียนเองครับ ดูอย่างเพื่อนมันที่อยากเรียนจนได้นาฟิกายืมครูมาเรียนสองวิชาพร้อมกัน แปลว่าถ้าคุณต้องการรร.พร้อมจะสอนทุกอย่างที่มี ส่วนที่ว่าต้องหาเรียนป้องกันศาสตร์มืดห่วยเพราะรร.มันไม่มีครับไช่ครับรร.ไม่มีครูที่พร้อมจะสอนแล้วจะสอนได้ยังไง คนที่เก่งก็ไม่ได้สอนเพราะสอนปรุงยาอยู่แล้วสุดท้ายก็อยู่ที่ตัวแฮรี่เองที่ไม่กล้าไปขอรับการสอนทังที่ครูก็พร้อมจะสอนอยู่แล้วถ้านร.ขอ ผมว่าแฮรี่นี่ครูจับยัดวิชามากกว่าเรื่องอื่นที่สุดแล้วแค่ช่วงที่แฮรี่เรียนมันต้องสร้างช่องโหว่ในเรื่องไห้นักเวทมันป้องกันตัวได้กากๆเพื่อไห้ตัวร้ายได้มีบทโดยการยัดอจ.สุดกากมาสอนแค่นั้นครับ ส่วนการเรียนปกติแฮรี่ที่ไม่เป็นอะไรสักอย่างมาแบบโล่งๆถ้าเทียบกับปัจจุบันคือมาเรียนแบบอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้บวกเลขไม่เป็น อจ.สอนในรร.ทุกอย่างตังแต่นับหนึ่งไปจนบินได้เลยครับและแฮรี่ไม่ไช่เด็กขยันหาความรู้เอาจริงๆแม่งขึ้เกรียดด้วยซ้ำการบ้านทำบ้างลืมบ้างบทเรียนไม่เคยทบทวนแต่อจ.สอนจนทำได้ทุกอย่างนี่เรียกว่าจับมือสอนก็ว่าได้ ผิดกับปู่เต๋าที่ทำแค่ฝึกร่างกายกับสอนหนังสือข้อดีของปู่คือเส้นสายเยอะทำไห้ไปเรียนต่อกับแมวกับโป้โป้ได้ด้วยเส้นสายตอนเรียนก็มีสายสัมพันทำไห้ตอนเรียนสะดวกสบายกว่าคนไม่รู้จัก

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,426
  • ถูกใจแล้ว: 3122 ครั้ง
  • ความนิยม: +189/-432
[quote/]


ความจริงตามเนื้อเรื่องเอง เหมือนจะมีตอนที่ดับเบิลดอร์เคยโดนว่าอยู่นะครับ ว่าไม่ใช่อาจารย์ที่ดีเท่าไหรนักในเล่มสุดท้าย (เหมือนจะสเนปนี่แหละ ที่เป็นคนต่อว่า)
ไม่เชิงว่าเรื่องการเป็นอาจารย์ครับ
ว่ากันตั้งแต่แนวคิดพื้นฐานเลยว่า เลี้ยงดูแลให้โตก็เพื่อตายเพื่อแผนของดัมเบิ้ลดอร์

ผมเจอคนหนึ่งอธิบายว่าทำไมมองว่าดัมเบิ้ลดอร์ไม่สอน?

ก็เพระาเราเข้าใจดัมเบิ้ลดอร์ผิด
ดัมเบิ้ลดอร์ไม่เคยคิดว่า แฮร์รี่จะเอาชนะโวลเดอมอร์ได้ด้วยทักษะเลยแม้แต่น้อย
การกระทำที่ผ่านมาของดัมเบิ้ลดอร์เช่นไม่ให้แฮร์รี่เป็นนพรีเฟ็คด้วยเหตุผลว่า แฮร์รี่มีเรื่องรับผิดชอบเยอะพอแล้วนั้น
มันแปลความได้ว่า

ดัมเบิ้ลดอร์อยากให้แฮร์รี่มีความสุขมากที่สุดก่อนที่จะตาย
การฝึกมันลำบาก ไม่รุ้จะทำไปแทำไม ในเมื่อเดี๋ยวก็จะตายแล้ว?

เรื่องที่ควรจะสร้างความมั่นใจให้แฮร์รี่อย่างเป้นพรีเฟคก็มองว่าเป็นภาระเรื่องที่บั่นทอนกำลังใจอย่างฝึกสกัดใจก็มองว่าเป็นเรื่องที่ต้องทำเสียอย่างนั้น
มันมีเรื่องที่โทษดัมเบิ้ลดอร์ได้หลายเรื่อ

แต่ที่ผมต้องโทษที่สุดคือ เจเค

มันคือมุกของนักเขียนที่เขียนให้พ่อมดที่แข็งแกร่งอยู่ฝ่ายดีและต้องตอบคำถามคนอ่านว่า
"ทำไมพ่อมดฝ่ายดี ไม่ยอมแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นก่อนพระเอก/นางเอก"?
มันก็เลยเป็นที่มาของแฮร์รี่ที่ประสบอันตรายและโคลวรี๊ดส่งหนังสือเวทย์ให้ซากุระ
คนเขียนทั้งแคลมป์และเจเค ดันคิดอย่างเดียวกันเรื่องการเรียนการสอน

ผมมองว่า เจเค คิดว่าดัมเบิ้ลดอร์ทำดีแล้ว
แต่น้องสาวของเจเคเองมองว่าดัทมเบิ้ลดอร์เป็นคนโหดนั่นล่ะครับ

แคลมป์หรือเจเค ไม่เข้าใจว่าพฤติกรรมหรือแนวคิดของตนเอง ไม่ใช่วิถีทางของอาจารย์ที่ดี
สำหรับโกคูผมเห็นต่างกันครับคนสอนวิชาไห้จริงๆคือมิสเตอร์โปโป้ครับนี่คือการที่โกคูมีคนจับมาสอนจริงๆครังแรกสำหรับปู่เต่า ผมเห็นแค่ฝึกร่างกายกับทดสอบกำลังล้วนๆที่สอนจริงจังของปู่เต่าคือการเรียนหนังสือครับปู่เต่านี่เป็นการสอนแบบไห้เรียนเองของจริงยิ่งกว่าแฮรี่หลายเท่าครับ ไม่มีสอนกระบวนท่าวิชาคลื่นเต่าก็ไม่สอนพวกโกคูต้องดูจำมาทำเองไม่มีอธิบายใดๆ ผิดกับแฮรี่ทุกอย่างมีสอนในรร.นร.สามารถถามอจ.คนไหนก็ได้แต่แฮรี่มันไม่พยายามจะเรียนเองครับ ดูอย่างเพื่อนมันที่อยากเรียนจนได้นาฟิกายืมครูมาเรียนสองวิชาพร้อมกัน แปลว่าถ้าคุณต้องการรร.พร้อมจะสอนทุกอย่างที่มี ส่วนที่ว่าต้องหาเรียนป้องกันศาสตร์มืดห่วยเพราะรร.มันไม่มีครับไช่ครับรร.ไม่มีครูที่พร้อมจะสอนแล้วจะสอนได้ยังไง คนที่เก่งก็ไม่ได้สอนเพราะสอนปรุงยาอยู่แล้วสุดท้ายก็อยู่ที่ตัวแฮรี่เองที่ไม่กล้าไปขอรับการสอนทังที่ครูก็พร้อมจะสอนอยู่แล้วถ้านร.ขอ ผมว่าแฮรี่นี่ครูจับยัดวิชามากกว่าเรื่องอื่นที่สุดแล้วแค่ช่วงที่แฮรี่เรียนมันต้องสร้างช่องโหว่ในเรื่องไห้นักเวทมันป้องกันตัวได้กากๆเพื่อไห้ตัวร้ายได้มีบทโดยการยัดอจ.สุดกากมาสอนแค่นั้นครับ ส่วนการเรียนปกติแฮรี่ที่ไม่เป็นอะไรสักอย่างมาแบบโล่งๆถ้าเทียบกับปัจจุบันคือมาเรียนแบบอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้บวกเลขไม่เป็น อจ.สอนในรร.ทุกอย่างตังแต่นับหนึ่งไปจนบินได้เลยครับและแฮรี่ไม่ไช่เด็กขยันหาความรู้เอาจริงๆแม่งขึ้เกรียดด้วยซ้ำการบ้านทำบ้างลืมบ้างบทเรียนไม่เคยทบทวนแต่อจ.สอนจนทำได้ทุกอย่างนี่เรียกว่าจับมือสอนก็ว่าได้ ผิดกับปู่เต๋าที่ทำแค่ฝึกร่างกายกับสอนหนังสือข้อดีของปู่คือเส้นสายเยอะทำไห้ไปเรียนต่อกับแมวกับโป้โป้ได้ด้วยเส้นสายตอนเรียนก็มีสายสัมพันทำไห้ตอนเรียนสะดวกสบายกว่าคนไม่รู้จัก
ท่านอาจจะลืิมว่าคุริลินเป็นศิษย์เส้าหลินมาก่อนและโกคูมีคุณปู่โกเท็นฝึกมาให้ก่อนนะครับ ฮา :P

เรื่องนิสัยของแฮร์รี่ มันก็มีคลาสพิเศษนะครับ
คลาสคาถาผู้พิทักษ์ไง
ว่าไปแล้วแฮร์รี่เรียนนอกรอบมากกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ
แค่ไม่ได้เรียนกับดัมเบิ้ลดอร์เท่านั้นล่ะครับ และไม่ใช่การต่อสู้โดยตรง
คนที่ปรับยพื้นฐานจริงๆคือลุปินในปีสามเฮอร์ไมโอนี่ให้โน๊ตตอนปีสี่ตอนแข่งถ้วยอัคนี
 สกัดใจตอนปีห้าปีหากดัมเบิ้ลดอร์ไม่สอนอะไรเพิ่ม แต่ดันมอบงานให้ทำ นี่ล่ะครับที่เป็นประเด็นของผม
ว่าไแปแล้ว มีคนรู้สึกว่าบุคลิกแฮร์รี่แปลกไปตั้งแต่ช่วงที่เจเคดังเอ๊ยตั้งแต่ปีสี่เป็นต้นไป
จากเด็กที่ชอบบคลุมโปงทำการบ้านตอนปีสาองปีสาม ดันกลายเป็นเด็กที่ดุขี้เกียจไปเสียได้..
บอกเรื่องปู่เต้า พลังคลื่นเต่าหน่อย
คือปู่เต้่าแกไม่คิดว่ามันจะทำได้น่ะครับเพราะแกก็ฝึกมาหลายสิบปี เหมือนกับวิชาขั้นสุดยอดของสำนักน่ะ
พยายามจะทำตัวอย่างให้ดูว่าเป็นเป้าหมายที่ต้องทำตามแต่ไอ้คุริลินกับโกคูมันอัจฉริยะน่ะ เลยผิดแผนปู่เต้่าในการสอนเรื่องนั้น
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ Diamos

  • นักปราชญ์แห่งเขาเซนนิคุมะ
  • ยอดขุนพลหมี
  • *****
  • กระทู้: 5,014
  • ถูกใจแล้ว: 29939 ครั้ง
  • ความนิยม: +446/-110
  • เพศ: ชาย
[quote/]
ไม่เชิงว่าเรื่องการเป็นอาจารย์ครับ
ว่ากันตั้งแต่แนวคิดพื้นฐานเลยว่า เลี้ยงดูแลให้โตก็เพื่อตายเพื่อแผนของดัมเบิ้ลดอร์

ผมเจอคนหนึ่งอธิบายว่าทำไมมองว่าดัมเบิ้ลดอร์ไม่สอน?

ก็เพระาเราเข้าใจดัมเบิ้ลดอร์ผิด
ดัมเบิ้ลดอร์ไม่เคยคิดว่า แฮร์รี่จะเอาชนะโวลเดอมอร์ได้ด้วยทักษะเลยแม้แต่น้อย
การกระทำที่ผ่านมาของดัมเบิ้ลดอร์เช่นไม่ให้แฮร์รี่เป็นนพรีเฟ็คด้วยเหตุผลว่า แฮร์รี่มีเรื่องรับผิดชอบเยอะพอแล้วนั้น
มันแปลความได้ว่า

ดัมเบิ้ลดอร์อยากให้แฮร์รี่มีความสุขมากที่สุดก่อนที่จะตาย
การฝึกมันลำบาก ไม่รุ้จะทำไปแทำไม ในเมื่อเดี๋ยวก็จะตายแล้ว?

เรื่องที่ควรจะสร้างความมั่นใจให้แฮร์รี่อย่างเป้นพรีเฟคก็มองว่าเป็นภาระเรื่องที่บั่นทอนกำลังใจอย่างฝึกสกัดใจก็มองว่าเป็นเรื่องที่ต้องทำเสียอย่างนั้น
มันมีเรื่องที่โทษดัมเบิ้ลดอร์ได้หลายเรื่อ

แต่ที่ผมต้องโทษที่สุดคือ เจเค

มันคือมุกของนักเขียนที่เขียนให้พ่อมดที่แข็งแกร่งอยู่ฝ่ายดีและต้องตอบคำถามคนอ่านว่า
"ทำไมพ่อมดฝ่ายดี ไม่ยอมแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นก่อนพระเอก/นางเอก"?
มันก็เลยเป็นที่มาของแฮร์รี่ที่ประสบอันตรายและโคลวรี๊ดส่งหนังสือเวทย์ให้ซากุระ
คนเขียนทั้งแคลมป์และเจเค ดันคิดอย่างเดียวกันเรื่องการเรียนการสอน

ผมมองว่า เจเค คิดว่าดัมเบิ้ลดอร์ทำดีแล้ว
แต่น้องสาวของเจเคเองมองว่าดัทมเบิ้ลดอร์เป็นคนโหดนั่นล่ะครับ

แคลมป์หรือเจเค ไม่เข้าใจว่าพฤติกรรมหรือแนวคิดของตนเอง ไม่ใช่วิถีทางของอาจารย์ที่ดี
[quote/]
ท่านอาจจะลืิมว่าคุริลินเป็นศิษย์เส้าหลินมาก่อนและโกคูมีคุณปู่โกเท็นฝึกมาให้ก่อนนะครับ ฮา :P

เรื่องนิสัยของแฮร์รี่ มันก็มีคลาสพิเศษนะครับ
คลาสคาถาผู้พิทักษ์ไง
ว่าไปแล้วแฮร์รี่เรียนนอกรอบมากกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ
แค่ไม่ได้เรียนกับดัมเบิ้ลดอร์เท่านั้นล่ะครับ และไม่ใช่การต่อสู้โดยตรง
คนที่ปรับยพื้นฐานจริงๆคือลุปินในปีสามเฮอร์ไมโอนี่ให้โน๊ตตอนปีสี่ตอนแข่งถ้วยอัคนี
 สกัดใจตอนปีห้าปีหากดัมเบิ้ลดอร์ไม่สอนอะไรเพิ่ม แต่ดันมอบงานให้ทำ นี่ล่ะครับที่เป็นประเด็นของผม
ว่าไแปแล้ว มีคนรู้สึกว่าบุคลิกแฮร์รี่แปลกไปตั้งแต่ช่วงที่เจเคดังเอ๊ยตั้งแต่ปีสี่เป็นต้นไป
จากเด็กที่ชอบบคลุมโปงทำการบ้านตอนปีสาองปีสาม ดันกลายเป็นเด็กที่ดุขี้เกียจไปเสียได้..
บอกเรื่องปู่เต้า พลังคลื่นเต่าหน่อย
คือปู่เต้่าแกไม่คิดว่ามันจะทำได้น่ะครับเพราะแกก็ฝึกมาหลายสิบปี เหมือนกับวิชาขั้นสุดยอดของสำนักน่ะ
พยายามจะทำตัวอย่างให้ดูว่าเป็นเป้าหมายที่ต้องทำตามแต่ไอ้คุริลินกับโกคูมันอัจฉริยะน่ะ เลยผิดแผนปู่เต้่าในการสอนเรื่องนั้น



ถ้าพูดตามจริง ตัวละครในแฮี่ที่ผมชอบที่สุดคือศาสตร์จารย์สเนปนะครับ


เพราะผมมองว่าคนนี้คือตัวละครที่ปิดทองหลังพระ เป็นคนตรงไปตรงมา และมีความรักที่เด็ดเดี่ยวอย่างแท้จริง


ผมชอบแกตั้งแต่เล่มแรกแล้ว เพราะเอาจริง ๆ ไอที่แฮรี่บ่น ๆ นะ ผมยังคิดเลย ว่ามึงทำตัวเองทั้งนั้นไม่ใช่เรอะ ? 555+
สถาปนิก, นักออกแบบและสร้างสรรค์เพื่อเหล่าหมีผู้น่ารัก
โครงการนิยายแต่ง หน้าหลัก;Age of War;DSU Board
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Sasageyo

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,389
  • ถูกใจแล้ว: 4070 ครั้ง
  • ความนิยม: +347/-403
และสุดท้ายผมยังไม่เคยเห็นผู้อำนวยการรร.คนไหนมาสอนนะครับจะว่าไปดับเบิ้ลดอมันแหกจากผอ.รร.มากโขอยู่ และผมยังเห็นว่ารร.มันก็มีระบบที่ครูต้องสอนเป็นประจำในแต่ละวิชาที่รับผิดชอบอยู่แล้ว ถ้าไม่นับความกากของอจ.สอนป้องกันรร.นี้ก็สอนปกตินะครับและยังสนับสนุนนร.แทบทุกอย่างแบบแทบจะไร้เงื่อนไขด้วยแม้แต่คำขอที่โคตรไร้เหตุผลแบบเฮอไมโอนี่ที่อยากเรียนควบสองยังไห้ คิดเอาเองครับโลกเราถ้าต้องการเรียนเพิ่มต้องทำยังไง ทังต้องหาเรียนนอกเวลาเองหาครูหรือรร.เสริมเองพร้อมจ่ายตังเพิ่ม แต่รร.ของแฮรี่ไม่ขอแค่นร.ขอเท่านั้นที่แย่คือความปลอดภัยของรร.ครับแม่งอย่างห่วยการคุ้มครองนร.แย่เข้าขั้นกาก รู้ว่าเป้าหมายคือใครแต่การคุ้มครองก็แย่ทุกทีไช่ครับดับเบินดอไม่เคยคิดจะไห้แฮรี่ไปตบบอส เพราะบอสเป็นแฟนหนุ่มของตัวเองคิดจะจัดการเรื่องแฟนตัวเองด้วยตัวเอง(ซึ่งก็แม่งไม่ได้สักครัง) ซึ่งถ้าจะไห้ติเรื่องแฮรี่มีจุดบอดเยอะมากสมกับที่เขียนนิยายครังแรกและถ้าไห้นับเทียความสนุกในเรื่องแบบเดียวกันมันสู้เพอร์ซี่แจ็กสันไม่ได้เลย ถ้าจะนับยอดขายความสำเหร็จผมว่าจังหวะการมาของนิยายมันพอดีมากกว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 25, 2019, 04:58:42 PM โดย Rumia »
 

ออฟไลน์ DDAvatar

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 868
  • ถูกใจแล้ว: 422 ครั้ง
  • ความนิยม: +28/-20
มันขึ้นอยู่กับเรื่องที่ อาจารย์ให้ไปค้นคว้านะครับ
ปัญหาของระบบการศึกษาไทยคือโตจนจะจบปี 4
แล้วบางคนยังเรียนรู้เอง ค้นคว้าศึกษาเองไม่เป็น

คือนักเรียนปี 1 มันควรจะค้นคว้าหาความรู้เองในบางเรื่องได้แล้ว
จริงๆ การให้นักเรียนไปค้นคว้า หาความรู้เอง เป็น สิ่งจำเป็นที่
นักศึกษามหาลัยควรทำได้ตั้งแต่ปี 1 แต่บ้านเราอาจารย์โอ๋
ก็เลยไม่ค่อยโหดเท่าไหร่ ดังนั้นอาจารย์ที่ไล่ให้นักศึกษา
ไปค้นคว้าเองเลยมองว่าโหดไป

อาจารย์ที่จบจากนอกหลายท่านก็บอกว่าสมัยอยู่เมืองนอกนี่
อยู่ในห้องสมุดกับห้องแล็ปแทบไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันกันเลยทีเดียว

อย่างบางเรื่องเช่นถ้าเรียนคณะเศรษฐศาสตร์ ตำราพื้นฐาน พวก อดัมสมิธ
คาร์ลมากซ์ แองเกล พวกนี้ไม่ควรจะต้องสอนแล้วแต่ควรอ่านเองจนจบแล้ว
ในห้องเรียน คือเวลามานั่งวิพากษ์

หรือเรียน IT ก็ไมควรจำเป็นต้องสอนการโปรแกรมมิ่ง แต่ควรศึกษาเองมาระดับหนึ่งแล้ว
อย่างน้อย ก็ควรเป็นสักภาษาหนึ่งเป็นฐาน ต้นภาคบอกว่าจะใช้ภาษาอะไรพอกลางภาคก็ควร
เป็นกันระดับหนึ่งแล้ว ไม่งั้นคงไม่เหลือเวลาสอน ทฤษฎีบทอะไร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 25, 2019, 10:06:03 PM โดย DDAvatar »
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Sasageyo

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,426
  • ถูกใจแล้ว: 3122 ครั้ง
  • ความนิยม: +189/-432
[quote/]


ถ้าพูดตามจริง ตัวละครในแฮี่ที่ผมชอบที่สุดคือศาสตร์จารย์สเนปนะครับ


เพราะผมมองว่าคนนี้คือตัวละครที่ปิดทองหลังพระ เป็นคนตรงไปตรงมา และมีความรักที่เด็ดเดี่ยวอย่างแท้จริง


ผมชอบแกตั้งแต่เล่มแรกแล้ว เพราะเอาจริง ๆ ไอที่แฮรี่บ่น ๆ นะ ผมยังคิดเลย ว่ามึงทำตัวเองทั้งนั้นไม่ใช่เรอะ ? 555+




ผมรู้สึกว่านิสัยแฮร์รี่ขึ้นลงแปลกๆเหมือนกัน




จากเด็กทีทดูแอคทีฟบางเรื่อง ในบางเรื่องก็เป็นไม่แอคทีฟ




บาวเรื่องต้องใฟ้เฮอร์ไมโอนี่อธิบายให้แฮร์รี่(และผู้อ่าน)เข้าใจ


แต่บางทีก็รู้เรื่องดีกว่าเฮอร์ไมโอนี่ราวกับผีบอก




สเนปว่ากันตามตรง ผมว่าเจเคใช้มุกซ้ำกันหลายครั้งมันไม่ค่อนดีเท่าไร




หากศิลาอาถรรพ์เป็นตอนเดียวจบคงน่าประทับใจกว่านี้




นี่ความสัมพันธ์ยืดเยื้อมาเจ็ดเล่มก็ยังเล่นปมเดิมเสียอย่างนั้น




[ในห้องเรียน คือเวลามานั่งวิพากษ์]  เสียดายที่ไทยเราการวิพากษ์ถือเป็นการหักหน้าซะงั้น  แถม
ไม่ยอมจบ  เหมือนทะเลาะเป็นเด็กๆ  อยากให้นักศึกษาไทยรู้จักแยกแยะและปรับเปลี่ยนทัศนคติ
สักที






เรายังขาดความคิดว่า "มีแต่การวิจารณ์จึงทำให้ก้าวหน้า"น่ะครับ




ไม่มองว่าความรู้คือเป้าหมาย




ผมชักเชื่อฝ่ายนีโอนาซีบางอย่างแล้วว่า วัฒนธรรมที่มีลักษณะเด่นเฉพาะเท่านั้น ถึงจะสามารถทำวิทยาการให้ก้าวไกลได้






มันขึ้นอยู่กับเรื่องที่ อาจารย์ให้ไปค้นคว้านะครับ
ปัญหาของระบบการศึกษาไทยคือโตจนจะจบปี 4
แล้วบางคนยังเรียนรู้เอง ค้นคว้าศึกษาเองไม่เป็น

คือนักเรียนปี 1 มันควรจะค้นคว้าหาความรู้เองในบางเรื่องได้แล้ว
จริงๆ การให้นักเรียนไปค้นคว้า หาความรู้เอง เป็น สิ่งจำเป็นที่
นักศึกษามหาลัยควรทำได้ตั้งแต่ปี 1 แต่บ้านเราอาจารย์โอ๋
ก็เลยไม่ค่อยโหดเท่าไหร่ ดังนั้นอาจารย์ที่ไล่ให้นักศึกษา
ไปค้นคว้าเองเลยมองว่าโหดไป

อาจารย์ที่จบจากนอกหลายท่านก็บอกว่าสมัยอยู่เมืองนอกนี่
อยู่ในห้องสมุดกับห้องแล็ปแทบไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันกันเลยทีเดียว

อย่างบางเรื่องเช่นถ้าเรียนคณะเศรษฐศาสตร์ ตำราพื้นฐาน พวก อดัมสมิธ
คาร์ลมากซ์ แองเกล พวกนี้ไม่ควรจะต้องสอนแล้วแต่ควรอ่านเองจนจบแล้ว
ในห้องเรียน คือเวลามานั่งวิพากษ์

หรือเรียน IT ก็ไมควรจำเป็นต้องสอนการโปรแกรมมิ่ง แต่ควรศึกษาเองมาระดับหนึ่งแล้ว
อย่างน้อย ก็ควรเป็นสักภาษาหนึ่งเป็นฐาน ต้นภาคบอกว่าจะใช้ภาษาอะไรพอกลางภาคก็ควร
เป็นกันระดับหนึ่งแล้ว ไม่งั้นคงไม่เหลือเวลาสอน ทฤษฎีบทอะไร


ถ้าอย่างนั้นยังดีครับ




เคสดัมเบิ้ลดอร์และโคลวรี๊ด


เหมือนกับอ.สอนบริหารธุรกิจ และให้ท่านไปลงทุนเอาชนะจอร์จ โซรอสให้ได้ด้วยตนเองน่ะครับ




มันจะไปรอดไหมล่ะครับ?


เคสแฮร์รี่ก็เหมือนกับ ไปลงทุนแบบบิทคอยน์ที่ไร้มูลค่าในตอนแรกด้วยพิซซ่า และกลายมาเป็นรวยแข่งกับจอร์จ โซรอสได้...




ถามว่าเป็นไปได้ไหม?




ก็ต้องตอบว่ามีความเป็นไปได้




จะถามว่าคนธรรมดามีโชคฟ้าประทานอย่างนั้นไหม?


ก็คงต้องตอบว่ายากล่ะครับ






มันเหมือนกับเป็นนักฟิสิกส์และบอกนักเรียนว่า


พวกเธอเรียนฟิสิกส์ครบ 16 หน่วยกิตแล้ว




ต่อไปนี้ให้พวกเธอพิสูจน์หักล้างสัมพันธภาพให้ได้ ทำไม่ได้ตาย


...


นั่นคือสิ่งที่ดัมเบิ้ลดอร์กับโคลวรี๊ดให้แฮร์รี่และซากุระทำล่ะครับ




ผมโทษคนเขียนอย่างเจเคและแคลมป์




มันเป็นมุกที่คนเขียนเหมือนกับถูกบังคับให้เขียนอย่างนี้ หากต้องเขียนถึง"พ่อมดที่มีพลังมหาศาล"




เจอในเควสต์ที่พยายามจะหักมุมในการให้ปรมาจารย์บอกว่า


การเรียนรู้จนยรรลุนั้นคือการเรียนรู้ชั่วชีวิต ปรมาจารย์เวิน สำเร็จวิชาห้าธาตุ แต่ผู้เล่นใบ้มากกว่าสิบธาตุ วิถีทางที่จะบรรลุก็คนละอย่างกัน


เรียนรู้จากทุกสิ่งในชีวิตประจำวันค่อยๆสั่งสมไป




วิชาห้าธาตุไม่มีทางลัด




บอกกล่าวอย่างชัดแจ้ง แม้ไม่ใช่เทคนิคละเอียด แต่ก็ชี้แนะถึงแนวทางที่มุ่งหน้าไปได้


วิชาสั่งสมและขัดเกลาอยู่เสมอ




และสุดท้ายผมยังไม่เคยเห็นผู้อำนวยการรร.คนไหนมาสอนนะครับจะว่าไปดับเบิ้ลดอมันแหกจากผอ.รร.มากโขอยู่ และผมยังเห็นว่ารร.มันก็มีระบบที่ครูต้องสอนเป็นประจำในแต่ละวิชาที่รับผิดชอบอยู่แล้ว ถ้าไม่นับความกากของอจ.สอนป้องกันรร.นี้ก็สอนปกตินะครับและยังสนับสนุนนร.แทบทุกอย่างแบบแทบจะไร้เงื่อนไขด้วยแม้แต่คำขอที่โคตรไร้เหตุผลแบบเฮอไมโอนี่ที่อยากเรียนควบสองยังไห้ คิดเอาเองครับโลกเราถ้าต้องการเรียนเพิ่มต้องทำยังไง ทังต้องหาเรียนนอกเวลาเองหาครูหรือรร.เสริมเองพร้อมจ่ายตังเพิ่ม แต่รร.ของแฮรี่ไม่ขอแค่นร.ขอเท่านั้นที่แย่คือความปลอดภัยของรร.ครับแม่งอย่างห่วยการคุ้มครองนร.แย่เข้าขั้นกาก รู้ว่าเป้าหมายคือใครแต่การคุ้มครองก็แย่ทุกทีไช่ครับดับเบินดอไม่เคยคิดจะไห้แฮรี่ไปตบบอส เพราะบอสเป็นแฟนหนุ่มของตัวเองคิดจะจัดการเรื่องแฟนตัวเองด้วยตัวเอง(ซึ่งก็แม่งไม่ได้สักครัง) ซึ่งถ้าจะไห้ติเรื่องแฮรี่มีจุดบอดเยอะมากสมกับที่เขียนนิยายครังแรกและถ้าไห้นับเทียความสนุกในเรื่องแบบเดียวกันมันสู้เพอร์ซี่แจ็กสันไม่ได้เลย ถ้าจะนับยอดขายความสำเหร็จผมว่าจังหวะการมาของนิยายมันพอดีมากกว่า




ตัวร้ายที่เป็นแฟนหนุ่มนั่นภาคสัตว์มหัศจรรย์ครับ ฮา




ต้องแถว่าทำสัญญากับกรินเดลวัลด์ว่าจะไม่ทำร้ายกันและกันเอาไว้




ฮาดีเหมือนกันที่ทุกคนในเรื่องแม้กระทั่งตัวร้ายยอมรับว่าดัมเบิ้ลดอร์เก่งกว่า




การให้คนที่เก่งสุดยอดอยู่ฝ่ายพระเอกมีข้อเสียอย่างนี้ล่ะครับ






เพอร์ซี่ย์ แจ็กสันก็เช่นกัน




ต้อวทำให้เทพเป็นพวกที่ไม่ยอมทำอะไรที่เป็นประโยชน์เท่าไร


ก่อปัญหาให้กึ่งเทพตามแก้ไข


...




ว่าไปแล้วความดังของแฮร์รี่ผมว่ามันก็แปลกๆเหมือนกัน




ไปเจอทฤษฎีสมคบคิดว่าเป็นหนังสือ แอนตี้ไครสต์ ซาตานที่ได้รับการโปรโมตไปทั่วโลก




จำได้ว่ามีแปลไทยเล่มสามทั้งที่เล่มสี่ยังไม่ออกในไทย




นับเป็นอะไรที่แปลกมากๆ  มีการโปรโมตและอวยสูงต่างจากเรื่องอื่นในแนวเดียวกันจริงๆ
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Sasageyo

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก