แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: เห็นด้วยกับแนวความคิด "วรยุทธใต้หล้า ผลแพ้ชนะตัดสินกันที่ความเร็ว" หรือเปล่าครับ  (อ่าน 9362 ครั้ง)

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,426
  • ถูกใจแล้ว: 3122 ครั้ง
  • ความนิยม: +189/-432
ก็ตามหัวข้อครับ ตอนนี้ผมกำลังเขียนแฟนฟิคและนึกถึง ฉากต่อสู้

ไปค้นมาก็มีการบอกว่า ที่เราต้องมีการแบ่งแยกน้ำหนักนักมวย เพราะ รุปร่างและขนาดร่างกายนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ประสบการณ์และฝีมือจะก้าวข้ามไปได้


ความเร็วก็เช่นกัน หากมีความเร็วที่มากกว่าฝ่ายตรงข้าม จนฝ่ายตรงข้าม ไม่สามารถจับต้องได้ก็สามารถที่จะเอาชนะได้

แต่ผมมองว่านั่นต้องอยู่ในเงื่อนไขของการที่มีความเร็วแล้ว ยังต้องมีพลังที่สามารถใช้ความเร็วนั้นจัดการศัตรูได้ด้วยความรวดเร็วด้วยครับ

หากมีแต่ความเร็ว แต่ไม่สามารถใช้ความเร็วนั้นจัดการศัตรูได้ก็เปล่าประโยชน์ ทุกท่านคิดว่าอย่างไรบ้างครับ?

ยกตัวอย่างการ์ตูน ในฉากต่อสู้ อย่าง ราชากับ ประธานในเรื่อง ฮันเตอร์ ราชาเร็วกว่าดดยรวม แต่ท่าของการประสานมือของประธานนั้นเร็วกว่าการเคลื่อนไหวธรรมดา แทบจะไม่สูญเปล่าเลย และเทพคันนก็โจมตีได้ในทันที

แต่ แม้จะรวดเร็วจนหลบไม่ได้ แต่ก็ขาดพลังที่มากพอที่จะพิชิตราชาได้

หรือผมมองในอีกตัวละครหนึ่ง คือจีโต้ ที่มีความเร็วจนวนรอบโมราอุได้ แต่ มีพลังไม่มากพอ หรือไม่มีท่าไม้ตายที่สามารถจัดการศัตรูได้ในทีเดียว ตอนตายก็ไม่ได้แสดงความเร็วของตนเองเพราะหันหลังให้กับศัตรูตายไปอย่างน่าเสียดาย

ทุกท่านคิดว่าอย่างไรบ้างครับ เกี่ยวกับความเร็วและการต่อสู้?

ผมนึกถึง แฟนคอมมิคที่เถียงกัน มีบางคนบอกว่า แบทแมนวางแผนในการฆ่าซูเปอร์แมนได้ แต่ซูเปอร์แมน แค่ใช้ซูเปอร์สปีดแล้วชกก็จบ

ผมเห็นด้วยฝนแง่หนึ่งที่ว่า ถ้าคนที่มีซูเปอร์สปีดจริงๆ มาเขียนเป็นฉากต่อสู้มันจะน่าเบื่อมาก ???
เพราะจะสามารถจัดการศัตรูได้อย่างง่ายดาย เหมือน เรื่องเอ็กเมน ที่ต้องมีการตัดบท ตัวที่มีซูปเปอร์สปีดออกไป

ตอนนี้ผมก็ยังสงสัยเลยว่าไอ้ตัวที่มีซูเปอร์สปีดนี่มันจะถูกปืนยิงให้ตายแบบในหนังได้อย่างไร หรือคิดตามหลักพลัง ทำไมซูเปอร์แมนไม่ใช้ซูเปอร์สปีดเวลาชกกันกับแบทแมน..

ความจริงก็พอจะเข้าใจเหตุผลอยู่ เพราะการต่อสู้จะจบเร็วมากและไม่สามารถวาดหรือเขียนการต่อสู้ที่น่าสนใจได้ถ้าฝ่ายหนึ่งดันมีซูเปอร์สปีดจริงๆ
คิดว่า คนที่มีความสามารถซูปเอร์สปีดจะน่าเบื่อหรือเปล่าครับ?

ความจริงผมก็พอคิดวิธีที่ทำให้ไม่น่าเบื่อคือการสร้างศัตรูให้มีความสามารถรักษาตนเองและร่างกายทนทานจากการโจมตี แต่มุกนี้คงใช้ได้ไม่บ่อยนักน่ะครับ
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ redxsword

  • เจ้าสำนักหมี
  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 3,282
  • ถูกใจแล้ว: 22098 ครั้ง
  • ความนิยม: +1617/-194
  • เพศ: ชาย
  • ของแท้ต้องมีรูปฮีจังอยู่ที่ปก
    • สำนักกฎหมายเอสแอนด์เอ็น
คนที่เขียนอย่างนี้มีนะ ลักษณะการเขียนก็คือบิ้วอารมณ์ไปให้ถึงจุดหนึ่ง ๆ แล้วดำเนินการขั้นแตกหัก


เวลาบรรยายก็จะบรรยายบรรยากาศในการสัปยุทธ เช่น


บนเก้าอี้นั้นนั่งไว้ด้วยชายผู้หนึ่ง
ชายผู้นั้นมีหนวดเครายาวเฟิ้ม
คิ้วดกดำของชายผู้นั้นเป็นสีขาวคล้ายบริสุทธิ์ยิ่ง
เปลวไฟในโรงเตี้ยมสว่างไสววูบวาบ


ที่นั่นมีชายอีกผู้หนึ่งยืนประจันหน้ากับมัน
มันผู้นั้นยืนย่อตัวรวบรวมสมาธิไว้อย่างมั่นคง
จ้องมองนิ่งไปยังชายผู้นั่งอยู่บนเก้าอี้นั้น
ความเงียบเข้าปกคลุมไปทั่วโรงเตี้ยม
แม้แต่เถ้าแก่และเสี่ยวเอ้อต่างล้วนเงียบงัน


เพียงพริบตาที่ชายผู้ยืนอยู่ขยับวูบ
มือของชายที่นั่งอยู่ก็สบัดออก
ทันใดนั้นพลันมีตะเกียบงอกอยู่ที่ศีรษะของชายผู้ยืนอยู่นั้น
การกระทำของชายที่นั่งอยู่รวดเร็วอย่างยิ่ง เงียบงันอย่างยิ่ง
เพียงขยับมือไปวูบเดียวตะเกียบที่วางอยู่บนโต๊ะก็อันตธานหายไป
กลับไปโผล่อยู่เบื้องบนของศีรษะชายผู้ยืนอยู่นั้น
ชายที่นั่งอยู่กลับยกจอกน้ำชาขึ้นมาดื่มกินอย่างไม่รู้สึกรู้สาอย่างไร
ทิ้งไว้ซากศพของชายที่ยืนอยู่นั้นยังอยู่ตรงนั้นต่อไป
ทุกผู้คนในบริเวณต่างไม่มีใครกล้าแม้จะขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว
ทุกผู้ต่างกริ่งเกรงฝีมือของชายผู้นี้ยิ่ง






(ยาวพอไหม?)


แนะนำให้ไปอ่านวิธีการเขียนของ "โกวเล้ง" ครับ
 

ออฟไลน์ sariora123

  • จอมพลหมีชั้นกลาง
  • **
  • กระทู้: 13,387
  • ถูกใจแล้ว: 5397 ครั้ง
  • ความนิยม: +445/-445
ต้องไปหาดูมวยสมัยเก่าๆ ดูครับ มีอยู่คู่นึงเพื่อนผมมันเอามาให้ดู คือมวยหมัดสายลุย เจอมวยเตะ  ผลออกมาคือ ฝ่ายหมัดยอมแพ้ไปทั้งๆ ที่หลายยกมาแกทำท่าได้เปรี่ยบมาตลอด ลดระยะไม่ให้เตะได้ถนัด แต่อีกฝ่ายผมก็ยอมใจว่าคือยืนอยู่ในท่าไม่น่าเตะได้ก็เตะได้อีก  เตะไม่ได้แต่มีโอกาศเมื่อไรก็ไม่พลาด  ส่วนตัวผมแล้วมันไม่ได้อยู่ที่ด้าน พลัง หรือ ความเร็ว แต่เป็นโอกาศชนะ ว่ามองเห็นไหม เห็นแล้วจะคว้ามันได้ทันหรือไม่ต่างหาก  เว้นแต่ว่า ไอ้พลังกับ ความเร็วที่ว่ามันต่างกันมากอย่างมีนัยสำคัญ อันนี้มีผลแน่
 

ออฟไลน์ kaytaro

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY2
  • หมีเต็มตัว
  • *
  • กระทู้: 41
  • ถูกใจแล้ว: 7 ครั้ง
  • ความนิยม: +2/-1
จริงครับ

เพราะถ้าเร็วกว่า ถ้าไม่ชนะแน่ๆ ก็หนีได้แน่ๆครับ 555

 ;D ;D ;D ;D ;D
 

ออฟไลน์ redxsword

  • เจ้าสำนักหมี
  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 3,282
  • ถูกใจแล้ว: 22098 ครั้ง
  • ความนิยม: +1617/-194
  • เพศ: ชาย
  • ของแท้ต้องมีรูปฮีจังอยู่ที่ปก
    • สำนักกฎหมายเอสแอนด์เอ็น
ตอนนี้ ถ้ามองจากมุมคนที่อ่านนิยายกำลังภายในหรือบู๊เฮียบมาค่อนข้างเยอะแล้ว ผมว่าลักษณะการต่อสู้(บู๊)ที่บรรยายในนิยายกำลังภายในมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ (จริง ๆ รวมถึงนิยายประเภทอื่นที่มักจะอ้างอิงบทบู๊ไปด้วย) จะมีการบรรยายลักษณะการต่อสู้(บู๊) คือ


1. การบรรยายบทบู๊โดยตรง ส่วนใหญ่คือคนที่บรรยายแบบนี้ได้ ถ้าไม่ได้มีจินตนาการมาก หรือก็ต้องเคยศึกษาวิชาการต่อสู้มาก่อนไม่มากก็น้อย ลักษณะการนำเสนอแบบนี้คนที่โดดเด่นมากก็คือ กิมย้ง ซึ่งท่านปู่กิมมักจะบรรยายถึงฉากที่มีการเตะต่อยปล่อยหมัดอย่างละเอียด เพราะปู่แกเล่นมวยจีนอยู่ครับ  ซึ่งไม่น่าแปลกใจอะไรนักที่จะทำให้ผู้อ่านเกิดความรู้สึกว่ามัน "สมจริง" เพราะที่บรรยายมาน่ะ มันสามารถประยุกต์ใช้กับต่อสู้ได้เลย


2. การบรรยายบทบู๊โดยอ้อม ส่วนใหญ่คนที่บรรยายในลักษณะนี้ จะใช้จินตนาการเข้าช่วยเป็นหลัก เพราะตัวเองไม่เคยศึกษาวิชาการต่อสู้มาก่อน ลักษณะการนำเสนอแบบนี้คนที่โดดเด่นมากก็คือ โกวเล้ง ซึ่งท่านอาโกวนั้นไม่เคยเรียนวิชาการต่อสู้มาก่อนครับ แถมยังเป็นขี้เหล้าตัวยงอีกต่างหาก เรื่องฝึกวิชาการต่อสู้เพื่อเสริมสร้างสุขภาพเนี่ยอย่าได้คิด ทุกวันมีแต่นั่งดื่มสุราทำลายตับ เมื่อรู้ตัวว่าไม่สามารถจะบรรยายการต่อสู้(บู๊)ให้เกิดความสมจริงขึ้นได้ ดังนั้นแล้ว ควรจะทำอย่างไรเล่า ท่านอาโกวจึงเน้นการสร้างบรรยากาศส่งเสริมการต่อสู้ในอึดใจเดียวขึ้นมา ซึ่งการสร้างบรรยากาศนี้ทำให้ผู้อ่านเกิดความรู้สึกเทียมขึ้นมาว่ามัน "สมจริง" เพราะบรรยากาศพาไป


โดยหลัก ๆ ถ้าศึกษาบทบู๊ ก็มักจะมีวิธีการใหญ่ ๆ อยู่ 2 วิธีอย่างนี้น่ะครับ แล้วส่วนตัวผมก็ชอบใช้วิธีการสร้างบรรยากาศทำให้การต่อสู้จบลงในชั่วอึดใจเดียวด้วยนะ รู้สึกว่ามันทำให้ผู้อ่านไม่เยิ่นเย้อกับบทบู๊เกินไปด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 10, 2016, 11:21:37 PM โดย redxsword »
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: pol

ออฟไลน์ RealRiTy

  • นักปราชญ์แห่งเขาเซนนิคุมะ
  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 973
  • ถูกใจแล้ว: 4974 ครั้ง
  • ความนิยม: +616/-25
เฉพาะเรื่องความเร็ว ผมแบ่งว่าเป็นความเร็วในแบบของสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตนะ


สิ่งมีชีวิตที่โดดเด่นด้านความเร็วเป็นเพราะสรีระออกแบบมาให้เข้ากับความเร็วนั้น ดังนั้นถึงจะเร็วแค่ไหนก็มีขีดจำกัดถึงแค่ขอบเขตที่ไม่ทำลายตัวเอง ถึงจะมีพลังในระดับหนึ่งแต่ไม่ใช่ที่สุด
แต่กับสิ่งไม่มีชีวิตนั้นต้องใช้พลังเพื่อสร้างความเร็ว ในส่วนนี้ความเร็วคือพลัง ถ้าเร็วกว่าก็คือมีพลังมากกว่าด้วย


อันนี้ไม่อ้างอิงแฟนตาซีนะครับ นับเฉพาะฟิสิกส์
 

ออฟไลน์ natask

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,649
  • ถูกใจแล้ว: 635 ครั้ง
  • ความนิยม: +46/-23
  • เพศ: ชาย
  • หาไม่เจอหรือเธอว์มีดุ้น
ผมว่าไม่ควรจะใช้คำว่าความเร็ว(speed)นะ ให้ใช้พวกความคล่องตัวหรือ agi หรือ perfect reaction จะดีกว่า
คือความเร็วมันอารมณ์ไม่ยืดหยุ่นอ่ะ อารมณ์เหมือนจรวดวิ่งไปทางขวา แล้วคุณจะให้กลับมาทางซ้าย มันต้องชะลอ หยุด แล้วเร่งใหม่
เอาง่ายๆคงเป็นแรงเฉี่อยของแต่ละบุคคล กล้ามโต ช้าแต่ต่อยหนัก กล้ามปานกลาง ต่อยเร็ว หนักรองลงมา กล้ามน้อย ต่อยเร็วมาก แต่ก็หนักน้อยสุด

ที่อยากให้คำว่า reaction เพราะมันดูเข้ากว่า อารมณ์เหมือนการตอบสนองอย่างฉับพลัน การใช้ท่าที่ถูกต้องเข้าโจมตี ตั้งป้องกัน มันช่วยทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวน้อยที่สุด
อยากให้มองว่าร่างกายคนปกติมันมีขีดจำกัดในการรับรู้(ในอายชิลล์21 ใช้คำว่าอิมพัล) คือถ้าสู้กันธรรมดามันมีหลายปัจจัยมาก ถ้าประสบการณ์ รูปร่าง การฝึกฝน พรสววรค์

ผมจึงชอบคำนี้มากกว่า ไม่ใช่เร็วกว่า แต่หลายรอบกว่า ซึ่งจะทำได้ต้องเคลื่อนไหวให้เหมาะสมที่สุด จะเร็วเท่าที่ขีดจำกัดของมนุษย์คนนึงจะทำได้
นึกภาพก็หนังอาจารย์ยิปไง ต่อยเร็วๆและถี่ๆรัวๆน่ะทำได้ แต่ความเสียหายต่อhit มันจะไม่มาก(เน้นความเสียหายสะสมมากกว่า)

ปล. ผมรู้สึกว่ายิ่งเร็วมากๆแบบแฟลชนี่มันจะต่อยใครเขาไม่เข้าด้วยซ้ำ 555 เพราะอนุภาคในร่างกายเวลามันเร็วมากมันจะกลายเป็นคลื่นเพราะไม่เสถียร
ถ้าจะต่อยกันมันก็ต้องลดความเร็วลงกลับมาเป็นอนุภาคก่อนแล้วค่อยต่อย

ปล. พึ่งอ่าน exe มา ESP กานดาแหละ ประมาณนั้น

 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,426
  • ถูกใจแล้ว: 3122 ครั้ง
  • ความนิยม: +189/-432
คนที่เขียนอย่างนี้มีนะ ลักษณะการเขียนก็คือบิ้วอารมณ์ไปให้ถึงจุดหนึ่ง ๆ แล้วดำเนินการขั้นแตกหัก


เวลาบรรยายก็จะบรรยายบรรยากาศในการสัปยุทธ เช่น


บนเก้าอี้นั้นนั่งไว้ด้วยชายผู้หนึ่ง
ชายผู้นั้นมีหนวดเครายาวเฟิ้ม
คิ้วดกดำของชายผู้นั้นเป็นสีขาวคล้ายบริสุทธิ์ยิ่ง
เปลวไฟในโรงเตี้ยมสว่างไสววูบวาบ


ที่นั่นมีชายอีกผู้หนึ่งยืนประจันหน้ากับมัน
มันผู้นั้นยืนย่อตัวรวบรวมสมาธิไว้อย่างมั่นคง
จ้องมองนิ่งไปยังชายผู้นั่งอยู่บนเก้าอี้นั้น
ความเงียบเข้าปกคลุมไปทั่วโรงเตี้ยม
แม้แต่เถ้าแก่และเสี่ยวเอ้อต่างล้วนเงียบงัน


เพียงพริบตาที่ชายผู้ยืนอยู่ขยับวูบ
มือของชายที่นั่งอยู่ก็สบัดออก
ทันใดนั้นพลันมีตะเกียบงอกอยู่ที่ศีรษะของชายผู้ยืนอยู่นั้น
การกระทำของชายที่นั่งอยู่รวดเร็วอย่างยิ่ง เงียบงันอย่างยิ่ง
เพียงขยับมือไปวูบเดียวตะเกียบที่วางอยู่บนโต๊ะก็อันตธานหายไป
กลับไปโผล่อยู่เบื้องบนของศีรษะชายผู้ยืนอยู่นั้น
ชายที่นั่งอยู่กลับยกจอกน้ำชาขึ้นมาดื่มกินอย่างไม่รู้สึกรู้สาอย่างไร
ทิ้งไว้ซากศพของชายที่ยืนอยู่นั้นยังอยู่ตรงนั้นต่อไป
ทุกผู้คนในบริเวณต่างไม่มีใครกล้าแม้จะขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว
ทุกผู้ต่างกริ่งเกรงฝีมือของชายผู้นี้ยิ่ง






(ยาวพอไหม?)


แนะนำให้ไปอ่านวิธีการเขียนของ "โกวเล้ง" ครับ
ฮา ผมชอบโกวเล้งมากครับ เป็นการสร้างบรรยากาศ ประมาณ ถ้ามีดบินปาออกไป เซี่ยงกัวกิมฮ้งก็ตายแน่นอน เชื่อมั่นว่าจะสามารถรับมีดบินของลี้น้อยได้ แต่ความจริงก็พิสูจน์แล้วว่าไม่มีใครทำได้
นี่เป็นการบรรยายที่ดี ผมว่าคงต้องดัดแปลงเล้กน้อยเพื่อไม่ให้กลายเป็นบรรยายแบบดกวเล้งเกินไป อาจจะมีการเปลี่ยนเป้นมุมมองของบุคคลที่สาม มุมมองของคู่ต่อสู้ที่สุ้กับคู่ต่อสู้ที่มีความเร็วเหนือมนุษย์นั้น

รู้สึกตัวอีกทีก็เสียชีวิต ในท่ายืนไปแล้ว
ต้องไปหาดูมวยสมัยเก่าๆ ดูครับ มีอยู่คู่นึงเพื่อนผมมันเอามาให้ดู คือมวยหมัดสายลุย เจอมวยเตะ  ผลออกมาคือ ฝ่ายหมัดยอมแพ้ไปทั้งๆ ที่หลายยกมาแกทำท่าได้เปรี่ยบมาตลอด ลดระยะไม่ให้เตะได้ถนัด แต่อีกฝ่ายผมก็ยอมใจว่าคือยืนอยู่ในท่าไม่น่าเตะได้ก็เตะได้อีก  เตะไม่ได้แต่มีโอกาศเมื่อไรก็ไม่พลาด  ส่วนตัวผมแล้วมันไม่ได้อยู่ที่ด้าน พลัง หรือ ความเร็ว แต่เป็นโอกาศชนะ ว่ามองเห็นไหม เห็นแล้วจะคว้ามันได้ทันหรือไม่ต่างหาก  เว้นแต่ว่า ไอ้พลังกับ ความเร็วที่ว่ามันต่างกันมากอย่างมีนัยสำคัญ อันนี้มีผลแน่
ผมมมองในแง่หนึ่งว่า ความเร็วต้องมีพลังพอที่จะจัดการได้ในทีเดียวด้วยน่ะครับ และการเตะนั้นเป็นเรื่องของความได้เปรียบจาก "ระยะ" อีกต่างหาก
จริงครับ

เพราะถ้าเร็วกว่า ถ้าไม่ชนะแน่ๆ ก็หนีได้แน่ๆครับ 555

 ;D ;D ;D ;D ;D
ครับ หนีก็คือกลึยุทธอย่างหนึ่ง ถ้ายังไม่ตายและหนีได้ก็อาจจะกลับมาชนะในภายหลังได้ การหนีไม่ใช่เรื่องน่าอับอาย ถ้าตายต่างหากที่ไม่มีโอกาสแก้มือ


ฮิมเรื่องแนวความสมจริงของกิมย้ง กับ เหนือจริงของโกวเล้งนี่น่าสนใจครับ

ผมเห็นด้วยครับที่แนวการบรรยายของโกวเล้งนั้นไม่ยืดเยื้อประมาณหนังคาวบอย ถ้าดดนแทงไปมันก็ตาย ตัดสินกันชั่วพริบตาเดียว

แต่เรื่องที่ผมแต่งมันเป็นแนว เฟท สเตไนท์ ที่มีพลังเวทย์และอื่นๆเป้นองคืประกอบด้วยนะครับ แต่ผมก็ยังคิดว่า ถ้าเป็นการต่อสู้ในระดับของมนุษย์ ไม่ใช่ผู้อมตะ ความเร็วนั้นเป็นสิ่งที่สำคญมาก เพราะถ้าโดนยิง ฟันก็ตายได้ง่ายๆ
จริงครับก็วรยุทธไม่ได้ห้ามใช้อาวุธนี่อึดหรือถึกแค่ไหนโดนอาวุธเข้าไปยังไงก็ไม่รอด
แบบในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรไง เล้งฮู้ชงมีแรงเสียที่ไหนใช้กระบี่แทงเอา แทงเอา ก็ไม่เห็นร่างกายจะทนกระบี่ได้นี่ครับ
ครับ มองในแง่หนึ่งผมว่าสมจริงมากในเรื่องกระบี้เย้ย เป็นแนวการเอาตัวรอดอย่างแท้จริง ว่าใครดดนแทงตา ตามันก็บอด โดนฟันแขน แขนก็ขาด
แต่ผมมองว่ามันมีศตรูที่ทำให้เงื่อนไขที่ใช้กับพวกเหนือมนุษย์ไม่ได้ อย่าง ราชากับประธานน่ะครับ
เพราะซุปไม่ฆ่าคน แบทเลยกร่างวางแผนได้น่ะ
ผมไปอ่านบอร์ด คอมิคเถียงกันมันมากครับ จนมีคนสรุปไว้อย่างที่ว่า คือ วางแผนจัดการศัตรูนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าอีกฝ่ายโยนตึกใส่คุณได้โดยไม่วางแผนก็แปลว่าอีกฝ่ายมีแผนที่ชนะคุณมากกว่า
พุดง่ายๆคือผมมองว่า ผู้แต่ง ไม่ยอมให้ซูเปอร์แมนใช้ ซูเปอร์สปีดในตอนต่อสู้น่ะครับ
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,426
  • ถูกใจแล้ว: 3122 ครั้ง
  • ความนิยม: +189/-432
ผมว่าไม่ควรจะใช้คำว่าความเร็ว(speed)นะ ให้ใช้พวกความคล่องตัวหรือ agi หรือ perfect reaction จะดีกว่า
คือความเร็วมันอารมณ์ไม่ยืดหยุ่นอ่ะ อารมณ์เหมือนจรวดวิ่งไปทางขวา แล้วคุณจะให้กลับมาทางซ้าย มันต้องชะลอ หยุด แล้วเร่งใหม่
เอาง่ายๆคงเป็นแรงเฉี่อยของแต่ละบุคคล กล้ามโต ช้าแต่ต่อยหนัก กล้ามปานกลาง ต่อยเร็ว หนักรองลงมา กล้ามน้อย ต่อยเร็วมาก แต่ก็หนักน้อยสุด

ที่อยากให้คำว่า reaction เพราะมันดูเข้ากว่า อารมณ์เหมือนการตอบสนองอย่างฉับพลัน การใช้ท่าที่ถูกต้องเข้าโจมตี ตั้งป้องกัน มันช่วยทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวน้อยที่สุด
อยากให้มองว่าร่างกายคนปกติมันมีขีดจำกัดในการรับรู้(ในอายชิลล์21 ใช้คำว่าอิมพัล) คือถ้าสู้กันธรรมดามันมีหลายปัจจัยมาก ถ้าประสบการณ์ รูปร่าง การฝึกฝน พรสววรค์

ผมจึงชอบคำนี้มากกว่า ไม่ใช่เร็วกว่า แต่หลายรอบกว่า ซึ่งจะทำได้ต้องเคลื่อนไหวให้เหมาะสมที่สุด จะเร็วเท่าที่ขีดจำกัดของมนุษย์คนนึงจะทำได้
นึกภาพก็หนังอาจารย์ยิปไง ต่อยเร็วๆและถี่ๆรัวๆน่ะทำได้ แต่ความเสียหายต่อhit มันจะไม่มาก(เน้นความเสียหายสะสมมากกว่า)

ปล. ผมรู้สึกว่ายิ่งเร็วมากๆแบบแฟลชนี่มันจะต่อยใครเขาไม่เข้าด้วยซ้ำ 555 เพราะอนุภาคในร่างกายเวลามันเร็วมากมันจะกลายเป็นคลื่นเพราะไม่เสถียร
ถ้าจะต่อยกันมันก็ต้องลดความเร็วลงกลับมาเป็นอนุภาคก่อนแล้วค่อยต่อย

ปล. พึ่งอ่าน exe มา ESP กานดาแหละ ประมาณนั้น


มันเป็นการพูดกันรวมๆน่ะครับ ประมาณ เราจะเห็นพวกสายความเร็วในการ์ตูนต่อสู้ส่วนใหญ่ ก็มีการมองเห็นการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ด้วยความรวดเร็วเหมือนกัน
หรืออย่างคิรัว ที่โกงดดยการใช้กระแสไฟฟ้าบังคับร่างกายดดยตรงเพื่อการตอบสนองขั้นเร็วสูงสุด
จะลองเปลี่ยน เป็น reaction ก็น่าจะพอได้ครับ เช่นปฏิกิริยาการตอบสนองต่ออันตรายในเรื่อง แต่ผมมองว่าความเร็วในการจู่โจม น่าจะตรงประเด็นกว่าในการโจมตีคู่ต่อสู้ไม่ให้หลบได้
[quote/] ถ้าพี่ซุปจะฆ่าจริงๆไม่จำเป็นต้องลงมาต่อยด้วยเลยบินอยู่ห่างๆใช้ขว้างของใส่ก็ตายแล้วแต่ในหนังมันอวยแบทแมนไงครับพี่ซุปเลยลงมาต่อยด้วย ตอนผมยังเด็กเคยดูซุปเปอร์แมนภาคเก่าๆพี่แกบินเร็วซะจนให้โลกหมุนกลับได้ :( แต่ดันต่อยแบทไม่ตาย ;D
ครับเป็นเรื่องที่แฟนบอยเถียงกันมานานแล้วในเรื่องนี้ครับ ความจริงมีคนบอกว่า ไอ้คนที่มีซูเปอร์สปีดนี่ไม่ควรจะถูกลอบดจมตีได้ง่ายๆนะ เหมือนกับที่มีคนบ่นว่าโกคูโดนลอบโจมตีด้วยปืนหรือท่าไม้ตายบางอย่างได้นั่นล่ะครับ คนที่ดดนของพวกนี้ได้คือตัสเอก แต่ไม่เคยมีใครจัดการตัวร้ายได้ด้วยวิธีนั้นเลย
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,389
  • ถูกใจแล้ว: 4070 ครั้ง
  • ความนิยม: +347/-403
กาตูนฟรังเริ่มต้นด้วยเหตุเเละผลเเต่พอเขียนไปยาวๆๆเหตุเเละผลจะเริ่มมัวดูอย่างซูปตัวมันเองควรจะเป็นตัวละครที่เทพมากๆๆเขียนไปเขียนมาเริ่มเอาหินมาเพิ่มลดสถานะเพิ่มจุดอ่อนโดยส่วนตัวเเล้วคิดว่าพลังโจมตีเเปรผันกับความเร็วไม่มีทางทีวัตถุหนักเท่ากันเเต่เคลื่อนที่ช้ากว่าจะทำความเสียหายได้มากกว่าเเน่นอนเเต่ถาพูดถึงการต่อสู้ถ้าไม่เร็วกว่าชนิดไม่สามารถรับรู้ได้เเล้วความเร็วก็อาจเเพ้ได้ในความเป็นจริงมันมีดักต่อยเค้าเตอร์นะอยู่ที่การฝึกฝนเช่นถ้าไห้เกรียนมีพลังความเร็ว100มาเจอนักสู้พลัง50เกรียนก็สู้ไม่ได้นะ

ออฟไลน์ natask

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,649
  • ถูกใจแล้ว: 635 ครั้ง
  • ความนิยม: +46/-23
  • เพศ: ชาย
  • หาไม่เจอหรือเธอว์มีดุ้น
เพิ่มเติมนิดครับ ถ้าประมาณที่ผมบอกมันพอมีวิธีสร้างศัตรูแก้ทางกันอยู่
ลองอ่านbleach ตอน305 ก็ดีครับ ถ้าสมองคุณมีการรับรู้ได้เร็วเหนือมนุษย์ คุณอาจมีจุดอ่อนด้านร่างกายตามไม่ทันแบบกรณ๊นี้ก็เป็นไป
ผมไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร ประมาณถ้าคุณชินกับการรับรู้ค่านึง แล้วร่างกายคุณโดนอะไรซักอย่างทำให้การรับรู้ผิดไปจากปกติมันจะเกิดการดีเลย์ในการคุมร่างกาย(lag)


นึกภาพเล่นเกมออนไลน์ที่ปิง3000+ ให้คนเล่นแทนส่วนรับรู้ แล้วภาพหน้าจอคอมแสดงผลแทนร่างกายที่ขยับ (เคสนี้คุณสู้กับคนปิง33ไม่ได้แน่ ไม่ว่าคุณจะเก่งแค่ไหน)
ถ้าจะสร้างคู่กัดก็ให้คู่ต่อสู้มีสามารถทำให้การรับรู้ผิดปกติ(พิษสมอง/หรือ time dilation จากอะไรซักอย่างเช่น ไฟฟ้า หลุมดำ ทำนองนั้น)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 11, 2016, 12:36:22 AM โดย natask »
 

ออฟไลน์ gundari

  • หมีฝึกหัด
  • *
  • กระทู้: 6
  • ถูกใจแล้ว: 1 ครั้ง
  • ความนิยม: +0/-0
แล้วแต่คนเขียนรึเปล่าครับ อย่างกิมย้งเขียนต่อให้เร็วขนาดไหนแต่ถ้าปราณไม่ถึงก็ตีไม่เข้าอยู่ดี
 

ออฟไลน์ kuma kuma kuma bear

  • พลทหารหมี
  • **
  • กระทู้: 128
  • ถูกใจแล้ว: 17 ครั้ง
  • ความนิยม: +11/-5
  • เพศ: ชาย
  • ก็แค่คนอ่านนิยายหมีๆคนนึง
เอาตรงๆอิงหลักความเป็นจริงเลยนะทำไมธนูหน้าไม้ถึงสำคัญกับการศึกยุคก่อนทำไมเดี๋ยวนี้ปืนถึงถูกใช้แพร่หลายเพราะมันเร็วและเป็นการโจมตีระยะไกลที่ทำให้ผู้ใช้อยู่ห่างจากศัตรูยังไงละอย่าเอาพวกนิยายOPมาคิดนะคนบ้าอะไรจะอึดถึกทนขนาดนั้นเทียบง่ายๆนักดาบปกติสู้กันดาบใครฟันโดนก่อนก็ชนะนี้คือเรื่องง่ายที่แค่คิดตามก็เห็นภาพละว่าความเร็วเป็นตัวกำหนดชัยชนะ
ชายหนุ่มผู้ที่กำลังจะกลายเป็นจอมเวทย์
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: gintamaben

ออฟไลน์ Rumia

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,389
  • ถูกใจแล้ว: 4070 ครั้ง
  • ความนิยม: +347/-403
ตามจริงมันก็ไช่ทีใครไวกว่าก็ชนะเเต่เเบบนั้นก็เเต่งนิยายไม่ได้สิ เพราะถ้าเราช้ากว่าก็เท่ากับว่าไม่ชนะ ถ้าความไวมันที้งกันไม่มากจนเกินไปประสบการณ์ก็มีส่วนมาก นิยายกำลังภายในรุ่นก่อนๆตัวเอกมักมีเหตุตกผาได้วิชามาทำไห้เหนือกว่าชาวบ้านเเต่พอเจอพวกปรมจานก็สู้ไม่ได้ทังที่พลังมันมากกว่า

ออฟไลน์ Exboss

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,570
  • ถูกใจแล้ว: 1100 ครั้ง
  • ความนิยม: +99/-116
พลังและความเร็วไม่อาจขาดทั้งสองสิ่งนี้ไปได้ แต่มีนักสู้อยู่สองประเภท หนึ่ง ใช้พลังเพื่อสร้างความเร็ว สองใช้ความเร็วในการสร้างพลัง
หรือไม่ก็ ถ้าบุกเร็วกว่า แต่ไม่อาจทำลายการป้องกันได้เพราะอีกฝ่ายระยะทางไกล้กว่า รัดกุมกว่า ทรงพลังกว่า
ฝ่ายบุกทำลายการป้องกันได้ แต่ไม่โดน เพราะอีกฝ่ายเร็วกว่า สามารถสร้างระยะได้ไกลกว่า ตื่นตัวต่อการจู่โจมเสมอไม่ประมาณ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 11, 2016, 09:15:08 AM โดย Exboss »
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,426
  • ถูกใจแล้ว: 3122 ครั้ง
  • ความนิยม: +189/-432
เพิ่มเติมนิดครับ ถ้าประมาณที่ผมบอกมันพอมีวิธีสร้างศัตรูแก้ทางกันอยู่
ลองอ่านbleach ตอน305 ก็ดีครับ ถ้าสมองคุณมีการรับรู้ได้เร็วเหนือมนุษย์ คุณอาจมีจุดอ่อนด้านร่างกายตามไม่ทันแบบกรณ๊นี้ก็เป็นไป
ผมไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร ประมาณถ้าคุณชินกับการรับรู้ค่านึง แล้วร่างกายคุณโดนอะไรซักอย่างทำให้การรับรู้ผิดไปจากปกติมันจะเกิดการดีเลย์ในการคุมร่างกาย(lag)


นึกภาพเล่นเกมออนไลน์ที่ปิง3000+ ให้คนเล่นแทนส่วนรับรู้ แล้วภาพหน้าจอคอมแสดงผลแทนร่างกายที่ขยับ (เคสนี้คุณสู้กับคนปิง33ไม่ได้แน่ ไม่ว่าคุณจะเก่งแค่ไหน)
ถ้าจะสร้างคู่กัดก็ให้คู่ต่อสู้มีสามารถทำให้การรับรู้ผิดปกติ(พิษสมอง/หรือ time dilation จากอะไรซักอย่างเช่น ไฟฟ้า หลุมดำ ทำนองนั้น)
ผมว่ามันทีสิ่งที่เรียกว่า ความทรงจำของกล้ามเนื้อน่ะครับ ถ้าเป็นมุก การ์ตูน หรือนิยายก็คือ แม้พระเอกความจำเสื่อม แต่ร่างกายยังจำการเคลื่อนไหวได้ เรียบกว่า คนที่เทพ ต่อให้ความจำเสื่อมก็เทพอยู่

กรณีที่ร่างกายตามไม่ทันนั่นผมว่าเป็นเคสที่คนทีี่มัสัมผัสรวดเร็ว แต่ไม่ได้ฝึกฝนร่างกายให้เคยชินกับประสาทสัมผัสของตนเองน่ะครับ
นึกภาพสิครับ ว่าต่อให้เราคิดยังไง โกคู ก็ไม่น่าโดน ผู้ร้ายข้างถนนใช้ปืนยิงเอาได้ใช่ไหมล่ะครับ? โดนคนร้ายเอาปืนยิงนี่ถือว่าเสียศักดิ์ศรีมาก มิสเตอร์ซานตานยังปราบคนมีปืนได้สบายเลย
เอาตรงๆอิงหลักความเป็นจริงเลยนะทำไมธนูหน้าไม้ถึงสำคัญกับการศึกยุคก่อนทำไมเดี๋ยวนี้ปืนถึงถูกใช้แพร่หลายเพราะมันเร็วและเป็นการโจมตีระยะไกลที่ทำให้ผู้ใช้อยู่ห่างจากศัตรูยังไงละอย่าเอาพวกนิยายOPมาคิดนะคนบ้าอะไรจะอึดถึกทนขนาดนั้นเทียบง่ายๆนักดาบปกติสู้กันดาบใครฟันโดนก่อนก็ชนะนี้คือเรื่องง่ายที่แค่คิดตามก็เห็นภาพละว่าความเร็วเป็นตัวกำหนดชัยชนะ
ใช่เลยครับ ระยะการโจมตี และความเร็ว ถ้าเปรียบเปรยมวยคือ ช่วงแขนและความเร็วในการออกหมัด ทำไมถึงต้องมีการแบ่งรุ่นเพราะพวกตัวใหญ่ได้เปรียบกว่ามาก
ถ้าเป็นเรื่องในจักรวาลการ์ตูนหรือนิยายที่ไม่มีพลัง op ผมว่าก็เป็นอย่างที่ท่านว่าล่ะครับ เร็วกว่าก็ชนะ แต่ฉากต่อสู้จะจบไวมาก
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ zero130

  • ไอ้แมลงสาปแผลงฤทธิ์
  • แม่ทัพหมีชั้นกลาง
  • *****
  • กระทู้: 2,189
  • ถูกใจแล้ว: 530 ครั้ง
  • ความนิยม: +61/-17
  • เพศ: ชาย
เห็นด้วยแต่ก็ไม่ทั้งหมด ความเร็วและจังหวะเป็นสิ่งจำเป็นในการชนะก็จริง เพราะถ้าเราเร็วกว่า จังหวะดีกว่า ถ้าเป้นต่อสู้ทั่วไปใช้อาวุธคนที่ลงมือได้ก่อนย่อมมีชัย โจมตีจุดอ่อนหรือทำให้ศัตรูหมดสภาพก่อนจะได้โจมตีเรา แต่ยังไงขาดเรื่อง "พลัง" ไม่ได้ เพราะถ้ามือเปล่าหรือถืออาวุธด้อยกว่าไปสู้กับคนที่ใส่เกราะก็ทำอะไรไม่ได้ และสำคัญที่สุดคือ "วิธีการใช้หรือกลยุทธ์" ต่อให้พลังมากแค่ไหน เร็วเท่าใด แต่ถ้าใช้ไม่ถูกวิธี ถูกจังหวะ ถูกสถานการร์ย่อมพลาดท่าและส่งผลย้อนกลับ หลักๆการต่อสู้ก็ "พลัง" "ความเร็ว" "กลุยุทธ์"
 

ออฟไลน์ pentong

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 731
  • ถูกใจแล้ว: 89 ครั้ง
  • ความนิยม: +10/-9
  • เพศ: ชาย
ต้องถามลิ้มคิมฮวงว่า มีใครหลบมีแกได้บ้าง  ;D
 

ออฟไลน์ punpun4

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 748
  • ถูกใจแล้ว: 140 ครั้ง
  • ความนิยม: +19/-27
จำไม่ได้เคยอ่านในหนังจีนเรื่องไหน  สุดท้ายแล้ววิทยายุทธทั้งหลายกลับสู่พื้นฐาน4อย่าง เร็ว แรง แม่น  มั่น  เร็วสำคัญที่สุด ตามมาด้วยพลังที่จะเจาะการป้องกัน  ตามมาด้วยความแม่นยำ เพราะดาบแม้ว่าเร็วและคมแค่ไหนถ้าฟันไม่ถูกก็เปล่าประโยชน์  สุดท้ายจิตใจมั่นคงอ่านสถานะการณ์รอบคอบไม่ว่าได้เปรียบเสียเปรียบ
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 9,426
  • ถูกใจแล้ว: 3122 ครั้ง
  • ความนิยม: +189/-432
เห็นด้วยแต่ก็ไม่ทั้งหมด ความเร็วและจังหวะเป็นสิ่งจำเป็นในการชนะก็จริง เพราะถ้าเราเร็วกว่า จังหวะดีกว่า ถ้าเป้นต่อสู้ทั่วไปใช้อาวุธคนที่ลงมือได้ก่อนย่อมมีชัย โจมตีจุดอ่อนหรือทำให้ศัตรูหมดสภาพก่อนจะได้โจมตีเรา แต่ยังไงขาดเรื่อง "พลัง" ไม่ได้ เพราะถ้ามือเปล่าหรือถืออาวุธด้อยกว่าไปสู้กับคนที่ใส่เกราะก็ทำอะไรไม่ได้ และสำคัญที่สุดคือ "วิธีการใช้หรือกลยุทธ์" ต่อให้พลังมากแค่ไหน เร็วเท่าใด แต่ถ้าใช้ไม่ถูกวิธี ถูกจังหวะ ถูกสถานการร์ย่อมพลาดท่าและส่งผลย้อนกลับ หลักๆการต่อสู้ก็ "พลัง" "ความเร็ว" "กลุยุทธ์"
ครับผม ก็คงเป้นเรื่องของการมีครบเพื่อนำไปสู่ชัยชนะล่ะนะครับ รู้ว่าตนเองต้องฝช้กำลังและความเร็วอย่างไรน่าจะเป็นทางนำไปสู้ชัยชนะ
ต้องถามลิ้มคิมฮวงว่า มีใครหลบมีแกได้บ้าง  ;D
ทางเทคนิค มีคนที่จัดการแกได้ก่อนที่แกจะปามีด และคนที่อ้วนเกินไปจนมีดปาไม่เข้า แต่ คนพวกนั้นดดนกระบี่แทงตายไม่ก็อยากลองของอย่างเซี่ยงกัวกิมฮ้ง
จำไม่ได้เคยอ่านในหนังจีนเรื่องไหน  สุดท้ายแล้ววิทยายุทธทั้งหลายกลับสู่พื้นฐาน4อย่าง เร็ว แรง แม่น  มั่น  เร็วสำคัญที่สุด ตามมาด้วยพลังที่จะเจาะการป้องกัน  ตามมาด้วยความแม่นยำ เพราะดาบแม้ว่าเร็วและคมแค่ไหนถ้าฟันไม่ถูกก็เปล่าประโยชน์  สุดท้ายจิตใจมั่นคงอ่านสถานะการณ์รอบคอบไม่ว่าได้เปรียบเสียเปรียบ
ฮืม เคสนี้ถ้าให้เปรียบเปรยผมรู้สึกว่า เคล้ด แรง หนักแน่น มันสามารถอุดช่องว่างได้ด้วยการฝึกฝนและทักษะยุทธน่ะครับ แต่ความเร็วเป็นสิ่งที่อาจเรียกได้ว่าอุดด้วยทักษะยุทธหรือประสบการณืได้ยากกว่าอย่างอื่น
แรงอาจจะมีการผ่อนแรง หนัก แน่น แม่น อาจจะมีเด้ดบุปผาต่อหยก หรือวิชาลวงตา วิชาผ่อนแรง
..แต่ความเร็วเป็นสิ่งที่รับมือด้วยประสบการณ์หรือการฝึกฝนได้ยากมาก
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก