ทุกคนมีมุมมองต่างกัน แต่ผมสนับสนุนการมีครอบครัว ผัวเดียวเมียเดียวนะ
จากการคำนวณ ผัวเดียวเมียเดียวทำให้สังคมมีการกระจายพันธุกรรมหลากหลายที่สุดและมีการเลี้ยงดูดีที่สุดโดยค่าเฉลี่ย
ผมเป็นหนุ่มที่ไม่มีครอบครัวเหมือนกัน แต่มองโลกในแง่ร้ายมากกว่าท่าน seikafujina จนทะลุไปอีกด้านหนึ่ง
ว่าความทุกกข์ในการสร้างครอบครัวคือสิ่งจำเป็นและหลีกเลี่ยงไม่ได้ในการทำให้สังคมคงอยู่ได้
การมีครอบครัวคือการแบ่งทรัพยากรที่สร้างความสุขส่วนตัวให้กับเรา ลงทุนต่อรุ่นลูกที่จะเติบโตขึ้นในอนาคต
พ่อแม่บางคนลูกตายเพราะมะเร็งทั้งที่ส่งจนเรียนจบปริญญาตรี ทำให้พ่อที่เป็นผู้ใช้แรงงานตัดสินใจบวชตลอดชีวิต
ขอถามคนมีครอบครัวบ้างล่ะครับ ? ครอบครัวนับว่าคุ้มค่าไหมกับทรัพยากรและอิสระที่เสียไป?
มุกอย่างพ่อบ้านใจกล้า คนอาจจะมองว่าตลก ผมมองว่าน่าเศร้ามากกว่า
แต่อย่างว่าล่ะ หากสังคมจะอยู่ต่อไป ขาดสถาบันที่เรียกว่าครอบครัวไม่ได้
ขอตอบในฐานะคนมีครอบครัวครับ มันมีข้อดี คือ การมีครอบครัวมันเหมือนเป็นแรงกระตุ้นให้เรามุ่งมั่นสร้างฐานะให้มั่นคง คิดรอบด้านและรอบคอบเวลาที่เราจะทำอะไรลงไปเพราะเราไม่ใช่ตัวคนเดียว และมันเหมือนน้ำหล่อเลี้ยงชีวิต อย่างเวลาทำงานมาเหนื่อยๆ เจอลูกถามว่าพ่อเหนื่อยมั้ยคะ หนูนวดให้มั้ยคะ เจอแบบนี้ทีไรผมนี่น้ำตาคลอด้วยความสุขเลยล่ะครับ ผมกับลูกก็ใช่ว่าจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันตลอดเวลาที่ต้องขึ้นเวรดึกลงเวรอีกทีตอนเช้าลูกก็ไปโรงเรียนแล้วเลยไม่ได้เจอหน้ากัน บางทีเจอเวรบ่ายดึกติดกันหลายวันเล่นเอาแทบไม่ได้เจอหน้าลูกเกือบทั้งอาทิตย์ แต่เวลาอยู่กันพร้อมหน้าผมก็ให้เวลาทั้งลูก ทั้งเมียเต็มที่เลยนะ พาไปเที่ยว ดูหนัง ช๊อปปิ้ง ผมกับเมียไม่เคยทะเลาะกันแรงๆเลย เพราะผมค่อนข้างจะใจเย็นและเข้าใจเธอในหลายๆ อย่าง มุมมองของหญิงกับชายในบางเรื่องมันก็ขัดกันบ้าง เช่น เรื่องเงินทอง เราก็จะมาคุยกันหาข้อตกลงที่ดีที่สุด เพราะต่างก็ช่วยกันหาเงินเข้าบ้าน ผมเป็นเทคนิคการแพทย์ แฟนผมเป็นพยาบาล (รพ.ทหาร) ก็จะช่วยๆกันเก็บเงินเป็นค่าใช้จ่ายในบ้านดังนั้นเรื่องเงินเลยไม่มีปัญหา แต่จะมีปัญหาใหญ่ๆตอนนี้คือต้องมาจัดแบ่งเวลาให้ลูกเพราะต่างก็ทำงานทั้งคู่ เลยต้องเช็คตารางเวรกันดีๆ แต่บางวันพวกบ้านแฟนก็มาเที่ยวหาหลานก็เลยพอจะให้ช่วยฝากดูแลได้ ซึ่งตรงจุดนี้อาจจะเรียกว่าเป็นข้อเสียของการมีครอบครัวที่ทั้งผัวและเมียทำงานนอกบ้านทั้งคู่ แต่โชคดีที่บ้านเราเป็นครอบครัวใหญ่พวก ลุงๆ ป้า จะคอยมาเยี่ยม มาดูแลลูกเราให้ก็สบายใจไม่ต้องจ้างคนมาเลี้ยง ส่วนข้อเสียอีกอย่างคือ มีเวลาอ่านนิยายกับมังงะน้อยลง

แต่ทำไงได้มาอ่านหนังสือให้นางฟ้าตัวน้อยฟังแทนก็ได้ 555 อ่ออีกอย่างเวลาเล่นเกมผมหดเหลือนิดดดเดียวเล่นเกมรถถังไม่ไปไหนซักที เรียกได้ว่าเวลาส่วนตัวหดหายไปเยอะมากกกกก แต่ก็เอาเวลามาทุ่มให้ลูกแทนมันก็จะมีความสุขไปอีกแบบ นี่กะว่าถ้าลูกโตจนอยู่ซักม.ต้นจะดึงเข้ามาเป็นชาวหมีด้วยกันซะเลย 555 วางแผนระยะยาวสิบปีเลย จะว่าไปผมเองก็ถือว่าโชคดีเรื่องชีวิตครอบครัวที่มีลูกน่ารักไม่ค่อยดื้อ สอนอะไรไปก็เข้าใจ แต่บางทีก็ปวดหัวกับความขี้สงสัยของพวกเด็กๆเหมือนกัน เพราะเค้าชอบมาถามเราบ่อยๆ เจอบางคำถามนี่เอาซะไปไม่เป็น อย่างตอนซื้อตุ๊กตามินนี่ให้ก็โดนไปทีว่าทำไมมินนี่ตัวใหญ่กว่าหมีพูล่ะพ่อ มินนี่เป็นหนูต้องตัวเล็กกว่าสิ เอากะเด็กมันสิ(ตุ๊กตาหมีพูที่ซื้อให้ก่อนหน้ามันตัวเล็กกว่า) แหม่กว่าจะอธิบายจนเข้าใจเล่นเอาเหนื่อย อันนี้จะนับเป็นข้อเสียก็ได้นะ เพราะต้องคอยเตรียมรับมือกับคำถามแปลกๆของลูก ส่วนเมียผมเธอก็จะไม่ค่อยมายุ่งเรื่องงานอดิเรกของผม บางทีเธอก็มีถามชวนๆ ว่าพ่อวันนี้ไม่ไปซ้อมยิงปืนเหรอ ซึ่งจริงๆ แล้วคุณเธอตะหากอยากไปยิงปืนที่สนาม
ร่ายมาซะยาวเหมือนอวดครอบครัวตัวเองไงมะรู้ แต่ที่อยากจะบอกก็คือชีวิตโสด หรือชีวิตคู่มันก็มีดี มีเสียแตกต่างกันครับ อยู่ที่ตัวเราเองจะชอบแบไหน อย่างถ้ารักอิสระยังไม่อยากรับผิดชอบอะไรมากนอกจากตัวเองก็อย่าเพิ่งคิดมีคู่เลยครับ แต่ถ้ารู้สึกว่าพร้อมที่จะรับใครสักคนเข้ามาในชีววิตแล้วล่ะก็ แนะนำว่าลองเปิดใจตัวเองมองคนใกล้ตัวคุณดูก็ได้นะครับเผลอๆคุณอาจจะไม่รู้ตัวว่าอาจจะมีคนแอบชอบคุณอยู่เหมือนผมนี่แหละ อิอิ
ปล. ชีวิตคู่จะมีความสุขได้นอกจากคำว่ารักแล้ว คุณต้องให้เกียรติ์ซึ่งกันและกัน ซื่อสัตย์ต่อคนที่คุณรัก ไม่ไปมีเล็ก มีน้อยจะดีที่สุด ส่วนเรื่องบนเตียงนั้นก็แล้วแต่ว่าคู่ไหนจะชอบแบบไหนน่ะครับ บางคู่ถึงไม่ค่อยได้ทำการบ้าานบ่อยๆ แต่บทมันจะมีลูกมันก็มีได้นะ แต่บางคู่ทำกันทุกทางทั้งวิธีธรรมชาติกับไปให้หมอช่วยสารพัดกว่าจะมีได้หมดไปหลายแสน ของแบบนี้มันอยู่ที่ดวงจริงๆ