ตอนที่ 5 ซินเดอเรลล่า สานาเอะ

อุชิมัทสึเสนอความคิดการกระตุ้นอุตสาหกรรมไม้แกะสลัก ด้วยปฎิมากรรมปลา Bonito ตากแห้ง ที่ทำได้ง่าย แต่ถูกคัดค้านว่ามันเป็นปลาไม่ใช่ งานไม้แกะสลัก
ระหว่างนั้นโยชิโนะ วิตกกังวลเรื่องสานาเอะถอดใจ ยอมแพ้ และคำพูดดูแคลนของคาสึชิ เรื่องที่เธอไม่มีความเข้าใจงานไม้แกะสลัก แต่โยชิโนะไม่ยอมแพ้และฮึดสู้ เธอบอกพวกเพื่อนๆ ขอเวลาศึกษาเรื่องงานไม้แกะสลัก โดยเริ่มต้นที่ Ranma ของบ้านอุชิมัทสึ คินุได้อธิบายว่าเป็นแบบที่สร้างเมื่อตอนฉลองแต่งงานครบ 25 ปี และสร้างมาได้กว่า 20 ปี ต่อมาอุชิมัทสึได้ติดต่อ เก็น เจ้าของบ้านเช่าที่สานาเอะเคยอยู่ เพื่อพาโยชิโนะไปดู

สานาเอะที่หมดกำลังใจ และถูกมากิ ตัดพ้อเรื่องยอมแพ้ เธอจึงออกมาข้างนอกบ้านพัก
ระหว่างนั้นชิโอริและริริโกะได้ช่วยกันหาข้อมูลงานไม้แกะสลักจากหนังสือและอินเตอร์เน็ต จนทั้งคู่มาสะดุดที่ภาพวาดของร้านแองเจลิก้า
ทางด้านทัตสึโอะชวนคาสึชิไปร่วมงานศพผู้ว่าจ้างทำ Ranma แต่คาสึชิไม่ไป โดยให้เหตุผล เขาจะพยายามทำงานชิ้นที่คนจ้างเสียชีวิตให้เสร็จ เพื่อเป็นการแสดงความเคารพ

โยชิโนะกับอุชิมัทสึ หาข้อมูล Ranma ทั่วเมือง จนสิ้นสุด ตอนเย็น ที่บ้าน เก็น ระหว่างขับรถกลับโยชิโนะ ก็เห็นสานาเอะเดินอย่างไร้จุดหมาย ต่อมาสานาเอะหยุดเพราะได้ยินเสียงเรียกทานข้าวเย็นของคู่สามี ภรรยา ในบ้านที่เธอผ่าน เธอเศร้าและเดินมาจนถึงสถานีรถไฟเมืองมาโนะยามะ

สานาเอะได้กดเครื่องดื่มมาดื่มและพบกับทัตสึโอะที่กลับมาจากงานศพ เขากดเครื่องดื่มเหมือนเธอและเล่าเริ่องผู้ตาย ว่าเป็นลูกค้าประจำของอาจารย์ที่สอนงานแกะสลักของเขา และได้มานั่งคุยร่วมเก้าอี้กับเธอ ทั้งคู่คุยเกี่ยวกับบทความในบล็อกของสานาเอะ เปรียบเทียบกับสถานีรถไฟ ว่าทั้งคอมพิวเตอร์และสถานีรถไฟ ล้วนเชื่อมต่อกับสิ่งต่างๆ เธอจะรู้สึกดีขึ้น ถ้าขับรถไฟไปที่ต่างๆ พร้อมเล่าเรื่องรองเท้าเปรียบเหมือนรถไฟ แต่ทัตสึโอะชอบถอด ออก กระโดดเท้าเปล่า สานาเอะล้อขำๆ ว่าเหมือน ซินเดอเรลล่า ทัตสึโอะตอบกลับ ตัวเขาเป็นซินเดอเรลล่ามีขนหน้าแข้งเยอะ สานาเอะจึงอารมณ์ดีขึ้น และกลับที่พัก

เมื่อถึงที่พักสานาเอะพบโยชิโนะ ชวนกินพิซซ่าหน้าผัก และคุยสนุกๆ ให้เธอไม่เครียด สานาเอะขอตัวกลับห้องพัก เธอเปิดโน๊ตบุ๊ค ดูเว็บบล็อกของเธอ ถอนหายใจ เศร้าๆ แล้วก็ปิดมันลง

วันต่อมาโยชิโนะและเพื่อนๆ เว้นแต่สานาเอะ ออกรวบรวมข้อมูลงานไม้แกะสลักทั่วเมืองมาโนะยามะ ทั้งร้านช่างแกะสลัก วัด โรงงาน สตูดิโอและสถานที่ต่างๆ จนต่อมาได้ประชุมห้าสาวท่องเที่ยว ขาดเพียงสานาเอะ ชิโอริได้สรุปปัญหาเรื่องช่างแกะสลักไม่ค่อยมีงานให้ทำเพราะยุคสมัยที่เปลี่ยนไป รูปแบบดั้งเดิมไม่ค่อยได้ความนิยม มากิเสนอช่างไม้แกะสลักฝีมือจำนวนลดลงเรื่อยๆ โยชิโนะจึงเสนอความคิดปรับปรุงปราสาทชูปาคาบูระด้วยงานไม้แกะสลัก โดยทำเป็นปราสาทขนาดใหญ่ ทำทีละน้อยๆ ต่อเนื่องเป็นร้อยๆ ปี เหมือน Sagrada Familia ในสเปน เพื่อเป็นแลนด์มาร์คส่งเสริมการท่องเที่ยว เพิ่มงานให้ช่าง และรักษาช่างฝีมือให้คงอยู่ โดยเรียกว่า Sakura Pond Familia
เมื่อโยชิโนะ เสนอต่ออุชิมัทสึ ก็ถูกปฎิเสธเพราะเป็นไปไม่ได้ ไม่มีงบประมาณจะทำ โยชิโนะเสนอให้เพิ่มค่าเข้าชมและขายของที่ระลึกเพิ่ม แต่ถูกปฎิเสธเพราะทุกวันนี้ปัญหาหลักคือไม่มีนักท่องเที่ยว ความสำเร็จของ Sagrada Familia เพราะมีสถาปนิกที่มีความสามารถอย่าง Gaudi ในการออกแบบและหาผู้สนับสนุนเงิน ถ้าโยชิโนะทำได้ก็ไปทำดูเอง จนเธอต้องยอมรับ

ระหว่างดูทีวี สานาเอะกังวลว่าเธอจะหนีปัญหาเหมือนตอนอยู่โตเกียว ระหว่างนั้นทัตสึโอะก็มาหาสานาเอะถึงที่บ้านพัก ทั้งคู่ออกไปคุยกันที่ร้านของแองเจลิก้า โดยถูกเสริฟด้วยเครื่องดื่มและอาหารแบบคู่รัก ทัตสึโอะเอารองเท้าที่ทำจากไม้โดยได้ความคิดจากบทสนทนาเรื่อง ซินเดอเรลล่า ระหว่างเขากับเธอ มาให้ดู พร้อมขอความเห็นจากสานาเอะ
สานาเอะเห็นทัตสึโอะทำรองเท้าแบบนี้ออกมา เลยสงสัยว่าทำงานแกะสลักออกมาเป็นรองเท้าแบบนี้ คาสึชิ จะไม่บ่นอะไรเหรอ แต่ทัตสึโอะบอกไม่สนใจ และเล่าเรื่องคาสึชิมุ่งมั่นทำงานแกะสลักให้เสร็จต่อจากอาจารย์ที่ตายไปแล้ว ทั้งๆที่คนที่สั่ง งานแกะสลักชิ้นนี้ก็พึ่งจะตายและทำให้คำสั่งซื้อต้องยกเลิก

มากิอธิบายความเป็นจริงเรื่องแผนของโยชิโนะเป็นไปไม่ได้ ริริโกะเสนอให้โยชิโนะขอความช่วยเหลือจากมิสเตอร์แซนดัล และอธิบายว่ามิสเตอร์แซนดัล คือศิลปินวาดภาพชื่อดัง Alexandre Cena Davis Celibidache ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่รู้จัก และเขาเป็นคนวาดภาพประดับร้านของแองเจลิก้า โยชิโนะเลยคิดจะไปขอความช่วยเหลือ แต่พอกำลังจะไป ก็เห็นมิสเตอร์แซนดัลขึ้นรถตำรวจไปแล้ว
ที่บ้านพัก มากิ ชิโอริและริริโกะ คุยกันสนุกสนานเรื่องมิสเตอร์แซนดัลมาทำอะไร ที่มาโนะยามะ ระหว่างคุยทุกคนเป็นห่วงสานาเอะ ที่ออกไปข้างนอก
ระหว่างนั้นสานาเอะ ได้เดินผ่านร้านของทัตสึโอะและคาสึชิที่กำลังมุ่งมั่นกับงานแกะสลักไม้ เธอหยุดดูและคิด
ต่อมาโยชิโนะกลับจากสถานีตำรวจ ถึงบ้านพัก พร้อมอวดรูปที่มิสเตอร์แซนดัลวาดให้ระหว่างดื่มชาที่สถานีตำรวจ เธอเล่าว่ามิสเตอร์แซนดัล ต้องการไปดื่มชากับตำรวจที่สถานี จึงขึ้นรถตำรวจมา

วันต่อมาพวกเธอวางแผนหาสปอนเซอร์และแบ่งหน้าที่กันทำ ระหว่างที่โยชิโนะขึ้นรถเมลของทาคามิสาวะ เขาได้ถามจุดหมายของเธอ และล้อเล่นกับเธอ โยชิโนะรู้สึกเขินนิดๆ ในความผิดพลาดในอดีตของเธอ
ตกเย็นโยชิโนะกลับที่พัก พบสานาเอะกำลังดูรองเท้าไม้ ทั้งคู่คุยกัน เปรียบเทียบรองเท้าไม้ของทัตสึุโอะกับ Ranma ของคาสึชิ ในเรื่องเส้นทางชีวิตที่ทุกคนมี ล้วนแตกต่างกัน และให้ผลที่ไม่เหมือนกัน ตามแต่ละบุคคล ย่อมมีทั้งได้รับและไม่ได้รับความชื่นชม ความสำเร็จ จากทุกๆ คน แต่กลุ่มของพวกเราต้องการตัวคุณ ทำให้สานาเอะคิดได้เและมีไฟอีกครั้ง
สานาเอะที่มีไฟ ได้เสนอแนะปัญหาและวิธีแก้เรื่อง เงินทุนและการระดมทุน โดยเปลี่ยนจุดเริ่มต้นจากปราสาทมาเป็นสถานีรถไฟ ที่เป็นประตูสู่เมืองมาโนะยามะ เหมือนความคิดที่แสดงออกในรูปของมิสเตอร์แซนดัล เธอเสนอให้ประดับ Ranma ที่ห้องรอผู้โดยสาร โดยได้ความคิดจาก เพดาน Sistine chapel และรู้ว่าจะหา Ranma ได้จากไหน

ทั้งห้าสาวได้มาที่ร้านของคาสึชิ และได้พูดเจรจาขอ Ranma จากคาสึชิ ซึ่งคาสึชิก็ยอมนำ Ranma ของตนเอามาแขวนไว้ที่สถานีรถไฟ และเริ่มโครงการ Sakura pond familia กับศิลปะงานแกะสลักไม้ ของเมือง มาโนยามะ ด้วยการสานต่อโดยใช้เวลานับร้อยปีต่อจากนี้ สานาเอะรู้สึกภาคภูมิใจในความสำเร็จของก้าวแรก พร้อมกับทุกๆ คน นักท่องเที่ยวที่มาเยือนสถานีรถไฟต่างก็ชื่นชม Ranma ที่นำมาประดับ