ทำไมคนพิการถึงมีสถานะแตกต่างจากอย่างอื่น

[deaddy]

[quote/]


ท่าน @providence_gundam พูดแบบนี้มันทำให้ผมนึกถึงคนหนึ่งนะครับที่ขับรถเร็วแล้วประสบอุบัติเหตุชนที่ต่างประเทศแล้วตาบอดไปข้างหนึ่งแล้วต้องใส่ตาปลอม

เอาแค่เมารึทะเลาะวิวาท ก็มีโอกาสพิการแล้ว


อย่างญาติๆผม ล้มในห้องน้ำ ไม่พิการ แค่ icu แล้วตายเพราะปอดหาย ไม่รู้ว่าโควิทไหม เพราะญาติๆไม่ติดใจชันสูตร


อย่างเพื่อนที่ทำงาน โดนงูกัด เลยยังไม่รู้ไม่อยากถามรายละเอียด
แต่สรุปรักษาหายแต่ขายาวไม่เท่ากัน ไปตัดอะไรมั่งไม่แน่ใจนานละลืม
เขาเลยต้องทำรองเท้าพิเศษให้พื้นข้างนึงสูงขึ้นให้สมดุล


เอาจริงๆ อาการพิการหลายอย่างแทบไม่มีผลกับการงาน
อย่างตาบอดสี  ไปขายล็อตเตอรี่ รับเงินก็เสียเวลาดูเลขนิดนึง  
แต่คนที่รู้จักเขาก็ไปเรียนมหาลัยปรกตินะ จำไม่ได้เรียนสาขาไหน

[humandroy]

ประเด็นคือ ไม่ใช่กลุ่มคนที่ได้รับสิทธิพิเศษ
แต่เป็นกลุ่มคนที่เรียกร้องสิทธิพิเศษโดยไม่สมเหตุสมผลจนก่อปัญหาแก่ส่วนรวม


คนพิการได้รับสิทธิพิเศษ เพราะพวกเขาใช้ชีวิตได้ยากลำบาก และสิทธิพิเศษของพวกเขาจริงๆแล้วก็ไม่ได้กระทบอะไรกับคนส่วนรวมมากนัก
ต่างกับพวกเรียกร้องสิทธิพิเศษจนเกินพอดี
ไม่ใช่ว่าเป็นพวก LPGBBQ(แปลว่าบ้านบึ้ม) อะไรนั่นแล้วจะเป็นคนไม่ดีไปหมด แต่ปัญหาคือคนที่มันก่อกวนไปทั่วทุกวงการ


ปล.ไอ้สิทธิคนพิการบางอย่างมันก็เป็นแค่ข้ออ้างของคนจัดให้ เช่นประมูลซื้อรถโดยสารแล้วล็อคสเป็กให้มีทางเดินกลางกว้างพอให้วิลแชร์วิ่งได้เป็นต้น(อยู่มาปูนนี้แล้วยังไม่เคนเห็นใครโยกวิลแชร์ขึ้นรถเมล์ได้ด้วยตัวเองเลย) เห็นๆอยู่ว่ามันไม่สามารถใช้งานได้จริง แต่ไอ้คนขายกับคนซื้อมันฮั้วกันไง ซึ่งคุณจะไปโทษคนพิการไม่ได้   

[Black7nos]

[quote/]


เอาแค่เมารึทะเลาะวิวาท ก็มีโอกาสพิการแล้ว


อย่างญาติๆผม ล้มในห้องน้ำ ไม่พิการ แค่ icu แล้วตายเพราะปอดหาย ไม่รู้ว่าโควิทไหม เพราะญาติๆไม่ติดใจชันสูตร


อย่างเพื่อนที่ทำงาน โดนงูกัด เลยยังไม่รู้ไม่อยากถามรายละเอียด
แต่สรุปรักษาหายแต่ขายาวไม่เท่ากัน ไปตัดอะไรมั่งไม่แน่ใจนานละลืม
เขาเลยต้องทำรองเท้าพิเศษให้พื้นข้างนึงสูงขึ้นให้สมดุล


เอาจริงๆ อาการพิการหลายอย่างแทบไม่มีผลกับการงาน
อย่างตาบอดสี  ไปขายล็อตเตอรี่ รับเงินก็เสียเวลาดูเลขนิดนึง  
แต่คนที่รู้จักเขาก็ไปเรียนมหาลัยปรกตินะ จำไม่ได้เรียนสาขาไหน

สงสัยในที่นี้ไม่มีใครรู้ว่าผมหมายถึงใครที่ขับรถชนที่ต่างประเทศแล้วตาบอดข้างหนึ่ง เอาเถอะ ถึงรู้ก็เหยียบเอาไว้ละกัน


.................


ขอให้ผมได้ขยายความเพิ่มเติมจากคุณ deaddy
ประเด็นก็คือความหมายคำว่า Take Care ของผม คือ การให้การศึกษาขั้นต่ำจนคนพิการพอจะทำงานหาเลี้ยงชีพเองได้ครับ
แค่นี้คนพิการก็ไม่ต้องเป็นภาระของรัฐ แถมรัฐก็ได้ภาษีจากการทำมาหาได้ของเขาอีกต่างหาก




ผมเข้าใจว่าคนเราเกิดมารวยจนไม่เท่ากัน แต่อย่างน้อยก็ต้องการให้คนไม่ว่าใครก็ตามไม่ต้องเริ่มต้นจากชีวิตติดลบ อย่างน้อยให้เขา Start จากศูนย์เป็นขั้นต่ำ
เพราะถ้าปล่อยให้เขาเริ่มต้นจากชีวิตติดลบ อันนี้นี่แหละจะกลายเป็นภาระสังคมทันทีแม้ว่าเจ้าตัวจะอยากหรือไม่ก็ตาม
ซึ่งวิธีที่ไม่ให้ชีวิตเริ่มต้นติดลบและเขาสามารถเลี้ยงชีพยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง ก็คือ การศึกษาครับ การศึกษาคือวิธีเดียวที่แก้ปัญหาที่ต้นเหตุของปัญหาเกือบทุกอย่างจริงๆ

[providence_gundam]

[quote/]


สงสัยในที่นี้ไม่มีใครรู้ว่าผมหมายถึงใครที่ขับรถชนที่ต่างประเทศแล้วตาบอดข้างหนึ่ง เอาเถอะ ถึงรู้ก็เหยียบเอาไว้ละกัน


.................


ขอให้ผมได้ขยายความเพิ่มเติมจากคุณ deaddy
ประเด็นก็คือความหมายคำว่า Take Care ของผม คือ การให้การศึกษาขั้นต่ำจนคนพิการพอจะทำงานหาเลี้ยงชีพเองได้ครับ
แค่นี้คนพิการก็ไม่ต้องเป็นภาระของรัฐ แถมรัฐก็ได้ภาษีจากการทำมาหาได้ของเขาอีกต่างหาก




ผมเข้าใจว่าคนเราเกิดมารวยจนไม่เท่ากัน แต่อย่างน้อยก็ต้องการให้คนไม่ว่าใครก็ตามไม่ต้องเริ่มต้นจากชีวิตติดลบ อย่างน้อยให้เขา Start จากศูนย์เป็นขั้นต่ำ
เพราะถ้าปล่อยให้เขาเริ่มต้นจากชีวิตติดลบ อันนี้นี่แหละจะกลายเป็นภาระสังคมทันทีแม้ว่าเจ้าตัวจะอยากหรือไม่ก็ตาม
ซึ่งวิธีที่ไม่ให้ชีวิตเริ่มต้นติดลบและเขาสามารถเลี้ยงชีพยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง ก็คือ การศึกษาครับ การศึกษาคือวิธีเดียวที่แก้ปัญหาที่ต้นเหตุของปัญหาเกือบทุกอย่างจริงๆ

หมกมุ่นจังครับ ตัวอย่างมีตั้งเยอะ แต่ก็อุตส่าห์ยกตัวอย่างมาได้เนอะ จริงๆคงรักมากแน่นอน


ไม่ต่อนะ เพราะนอกประเด็นจากหัวกระทู้


กรณีพิการไม่ตรงจุด ไม่กระทบกับงาน ไม่มีปัญหา ใช้โควตาปกติยังได้ ผมไม่ถือว่าพิการนะ

หลายๆที่เปิดโควตานี้ ไว้รับคนที่ไม่มีประสิทธิภาพ เช่นแขนขาด เอาไปแบกของหนัก มันทำไม่ได้อยู่แล้ว อยู่กินแรงชาวบ้านโดยเฉพาะ อันนี้เพื่ออะไร


ในเมื่อคนพิการตรงสายทำงานไม่ได้ประสิทธิภาพ ส่วนคนไม่ตรงสาย ก็ทำงานได้ปกติไม่ต้องใช้โควตาคนพิการ แล้วจะมีโควตาคนพิการไปทำไม ก็ทำเหมือนคนปกติไปสิ


เคยได้ยินว่าคนพิการอยากให้คนมองเหมือนคนปกติ งั้นก็ไม่ต้องมีสิทธิพิเศษของคนพิการ จะมีไปทำไม

[deaddy]

[quote/]


หมกมุ่นจังครับ ตัวอย่างมีตั้งเยอะ แต่ก็อุตส่าห์ยกตัวอย่างมาได้เนอะ จริงๆคงรักมากแน่นอน


ไม่ต่อนะ เพราะนอกประเด็นจากหัวกระทู้


กรณีพิการไม่ตรงจุด ไม่กระทบกับงาน ไม่มีปัญหา ใช้โควตาปกติยังได้ ผมไม่ถือว่าพิการนะ

หลายๆที่เปิดโควตานี้ ไว้รับคนที่ไม่มีประสิทธิภาพ เช่นแขนขาด เอาไปแบกของหนัก มันทำไม่ได้อยู่แล้ว อยู่กินแรงชาวบ้านโดยเฉพาะ อันนี้เพื่ออะไร


ในเมื่อคนพิการตรงสายทำงานไม่ได้ประสิทธิภาพ ส่วนคนไม่ตรงสาย ก็ทำงานได้ปกติไม่ต้องใช้โควตาคนพิการ แล้วจะมีโควตาคนพิการไปทำไม ก็ทำเหมือนคนปกติไปสิ


เคยได้ยินว่าคนพิการอยากให้คนมองเหมือนคนปกติ งั้นก็ไม่ต้องมีสิทธิพิเศษของคนพิการ จะมีไปทำไม

ในไทยไม่เคยได้ยินว่ามีปัญหานะ แต่ยุโรปเคยได้ยินอยู่
แบบเอาคนพิการมาทำงานที่คนไม่พิการจะทำดีกว่า
แล้วงานดันพวก ขายตั๋ว หรือพนง.ต้อนรับอะไรทำนองนี้
นักท่องเที่ยวต่างชาติเลยอารมณ์เสียแล้วบุลลี่ไป แน่นอนนักท่องเที่ยวก็โดนส่งกลับทันที


ตอนนั้นยังไม่มีกระแส woke พอมาฟังตอนนี้ อาจจะจริงมั้ง
ที่บางประเทศเขาก็พยายามดันให้คนกลุ่มนี้ได้งานไม่สำคัญ แต่จำเป็นต้องมีคนทำ


บ้านเราก็พวก พนง. รถโดยสาร กระเป๋างี้ ดูก็รู้ว่า ร่างกายหรือจิตใจต่างจากปรกติหน่อยๆ
แต่ก็ดีกว่าพวกคนจรจัดหรือคนบ้าเยอะ เรียกว่าทำงานได้นั่นแหล่ะ แค่ไม่สบายตานิดๆ

[providence_gundam]

[quote/]


ในไทยไม่เคยได้ยินว่ามีปัญหานะ แต่ยุโรปเคยได้ยินอยู่
แบบเอาคนพิการมาทำงานที่คนไม่พิการจะทำดีกว่า
แล้วงานดันพวก ขายตั๋ว หรือพนง.ต้อนรับอะไรทำนองนี้
นักท่องเที่ยวต่างชาติเลยอารมณ์เสียแล้วบุลลี่ไป แน่นอนนักท่องเที่ยวก็โดนส่งกลับทันที


ตอนนั้นยังไม่มีกระแส woke พอมาฟังตอนนี้ อาจจะจริงมั้ง
ที่บางประเทศเขาก็พยายามดันให้คนกลุ่มนี้ได้งานไม่สำคัญ แต่จำเป็นต้องมีคนทำ


บ้านเราก็พวก พนง. รถโดยสาร กระเป๋างี้ ดูก็รู้ว่า ร่างกายหรือจิตใจต่างจากปรกติหน่อยๆ
แต่ก็ดีกว่าพวกคนจรจัดหรือคนบ้าเยอะ เรียกว่าทำงานได้นั่นแหล่ะ แค่ไม่สบายตานิดๆ

ปัญหานี้เกิดน้อยมากในไทย เพราะคนไทยขี้สงสารครับ ทั้งๆที่ทำงานด้อยประสิทธิภาพ แต่เพราะความพิการ ทำให้เกิดความสงสาร (ขนาดในกระทู้นี้ก็ยังมองคนพิการในรูปแบบที่น่าสงสารเลย)


ส่วนคนที่ไม่ได้สงสารก็จะร้องเรียนเพราะคนพวกนี้ทำงานได้งานที่แย่กว่าปกติจริงๆ แต่ก็จะไปเจอหัวหน้าขี้สงสาร หรือคนอื่นที่ขี้สงสารอยู่ดี สุดท้าย คนๆนั้นที่ทนเห็นความด้อยประสิทธิภาพของคนพิการไม่ได้ก็จะออกไปเอง


มันเลยเป็นปัญหาใหญ่ยากมากๆครับ ยิ่งกับองค์กรใหญ่ๆไม่เกิด เพราะซุกปัญหานี้ไว้ใต้พรมครับ งานไปโหลดพนง.คนอื่นแทน โดยรวมเลยยังดูปกติดีครับ


บางองค์กรที่เห็นตรงนี้ เค้าก็ตัดนโยบายนี้ทิ้งแต่แรก หรือพวกมาพิการทีหลัง หรือตรวจพบมะเร็งก็ไล่ออกทันที เพราะเค้ารู้ปัญหาที่จะตามมา จึงต้องตัดไฟแต่ต้นลม ผมก็รู้สึกว่าสุดโต่งไปนิด แต่ก็ยุติธรรมดีแล้ว ว่าไม่ได้

สิ่งที่เหมาะสมคือหางานที่ไม่ทำให้ความพิการมากระทบงาน เหมาะที่สุด และตัดสิทธิคนพิการออก เพราะคุณได้งานที่ไม่เกี่ยวข้องกับความพิการแล้ว


อนึ่งความรู้สึกขี้สงสาร การเห็นใจผู้อื่น ก็เป็นนิสัยของ woke ครับ ทำให้เกิดการ bias โดยไม่รู้ตัว

[ichamkung]

งานที่คนพิการทำได้ดีสุดก็เป็นเจ้านายตัวเอง ยกเว้นไปทำสตาร์ทอัพ หรือทำตาม passion ตัวเอง เช่น คนนั่งรถเข็นไปแข่งรถ

[deaddy]

[quote/]


ปัญหานี้เกิดน้อยมากในไทย เพราะคนไทยขี้สงสารครับ ทั้งๆที่ทำงานด้อยประสิทธิภาพ แต่เพราะความพิการ ทำให้เกิดความสงสาร (ขนาดในกระทู้นี้ก็ยังมองคนพิการในรูปแบบที่น่าสงสารเลย)


ส่วนคนที่ไม่ได้สงสารก็จะร้องเรียนเพราะคนพวกนี้ทำงานได้งานที่แย่กว่าปกติจริงๆ แต่ก็จะไปเจอหัวหน้าขี้สงสาร หรือคนอื่นที่ขี้สงสารอยู่ดี สุดท้าย คนๆนั้นที่ทนเห็นความด้อยประสิทธิภาพของคนพิการไม่ได้ก็จะออกไปเอง


มันเลยเป็นปัญหาใหญ่ยากมากๆครับ ยิ่งกับองค์กรใหญ่ๆไม่เกิด เพราะซุกปัญหานี้ไว้ใต้พรมครับ งานไปโหลดพนง.คนอื่นแทน โดยรวมเลยยังดูปกติดีครับ


บางองค์กรที่เห็นตรงนี้ เค้าก็ตัดนโยบายนี้ทิ้งแต่แรก หรือพวกมาพิการทีหลัง หรือตรวจพบมะเร็งก็ไล่ออกทันที เพราะเค้ารู้ปัญหาที่จะตามมา จึงต้องตัดไฟแต่ต้นลม ผมก็รู้สึกว่าสุดโต่งไปนิด แต่ก็ยุติธรรมดีแล้ว ว่าไม่ได้

สิ่งที่เหมาะสมคือหางานที่ไม่ทำให้ความพิการมากระทบงาน เหมาะที่สุด และตัดสิทธิคนพิการออก เพราะคุณได้งานที่ไม่เกี่ยวข้องกับความพิการแล้ว


อนึ่งความรู้สึกขี้สงสาร การเห็นใจผู้อื่น ก็เป็นนิสัยของ woke ครับ ทำให้เกิดการ bias โดยไม่รู้ตัว

เรื่องความสงสารมันเป็นมุมมองประชาชนทั่วไปครับ แต่ในเชิงนโยบาย คิดหรอครับว่าเขาจะสนใจขนาดนั้น


ผมว่ามันเป็นเรื่องระบบ ทุนนิยมมากกว่า กล่าวคือ ถ้าร่างกายดีค่าตัวแพง
ต่อให้กดค่าตัวก็ใช่ว่าสเปกสูงเขาจะมาสมัคร
แต่คนพิการตะหางานยากกว่า ทำให้ยอมรับเนื้อหางาน และค่าจ้างที่ต่ำกว่าปรกติได้


อย่างบ้านนอก ญาติผม ให้ค่าแรง 2 เท่าของค่าแรงขั้นต่ำมันยังไม่อยากทำกันเลย
ทั้งที่งานไม่หนัก แต่ก็หาคนไม่ได้ ที่มาทำก็อู้ๆ หาทางหนีงาน
ครั้นจะจ้างแรงงานต่างด้าว มันก็เป็นงานที่ทำวันเดียวจบ


สรุปคือ เถ้าแก่บางคนอยากได้แรงงานคนไทยทำงาน แต่ก็หาคนปรกติมาสมัครตามเรทที่ต้องการไม่ได้


ส่วนการสนับสนุนอื่นๆทางนโยบายรัฐ ก็ปรกติ เพราะทุกคนมี 1 เสียง

[providence_gundam]

[quote/]


เรื่องความสงสารมันเป็นมุมมองประชาชนทั่วไปครับ แต่ในเชิงนโยบาย คิดหรอครับว่าเขาจะสนใจขนาดนั้น


ผมว่ามันเป็นเรื่องระบบ ทุนนิยมมากกว่า กล่าวคือ ถ้าร่างกายดีค่าตัวแพง
ต่อให้กดค่าตัวก็ใช่ว่าสเปกสูงเขาจะมาสมัคร
แต่คนพิการตะหางานยากกว่า ทำให้ยอมรับเนื้อหางาน และค่าจ้างที่ต่ำกว่าปรกติได้


อย่างบ้านนอก ญาติผม ให้ค่าแรง 2 เท่าของค่าแรงขั้นต่ำมันยังไม่อยากทำกันเลย
ทั้งที่งานไม่หนัก แต่ก็หาคนไม่ได้ ที่มาทำก็อู้ๆ หาทางหนีงาน
ครั้นจะจ้างแรงงานต่างด้าว มันก็เป็นงานที่ทำวันเดียวจบ


สรุปคือ เถ้าแก่บางคนอยากได้แรงงานคนไทยทำงาน แต่ก็หาคนปรกติมาสมัครตามเรทที่ต้องการไม่ได้


ส่วนการสนับสนุนอื่นๆทางนโยบายรัฐ ก็ปรกติ เพราะทุกคนมี 1 เสียง

บ.ที่มองในระดับบุคคลก็ยังมีอยู่ ควรจะยกเลิกไปให้หมด


จริงๆคนพิการมี 1 เสียงนี่น่าเปลี่ยนเป็นคิดตาม % ที่มีอยู่นะ คะแนนไม่เต็ม 1 เสียง ต่างหากถึงจะยุติธรรม

[deaddy]

[quote/]


บ.ที่มองในระดับบุคคลก็ยังมีอยู่ ควรจะยกเลิกไปให้หมด


จริงๆคนพิการมี 1 เสียงนี่น่าเปลี่ยนเป็นคิดตาม % ที่มีอยู่นะ คะแนนไม่เต็ม 1 เสียง ต่างหากถึงจะยุติธรรม

ประเทศจีนก็งี้ครับ เขาถึงเจริญไว
จีนบอกประเทศเขาเหลื่อมล้ำมากทั้งเงิน ทั้งการศึกษา
เพราะงั้น ทุกคนมี 1 เสียงเลือกตั้งระดับล่างได้ แต่ระดับผู้นำประเทศ ให้แค่ผู้มีคุณสมบัติ


จำไม่ได้ละ มีกี่ร้อยล้านเสียง ประเทศที่ด่าจีนไม่เป็นประชาธิปไตยนี่ ส่วนใหญ่มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งน้อยกว่าจีนอีก


แค่จีนเขาคัดพวกที่ไม่มีความสามารถจะพิจารณาสิ่งดีที่สุดสำหรับประเทศออกแค่นั้น


ไทยก็น่าจะทำมั่ง ใครมีการศึกษาต่ำกว่า ม.ต้น ให้งดการได้สิทธิ์ไปเรื่อยๆจนกว่าจะผ่าน
ใครที่ป่วยโรคต้องห้ามที่กำหนด ให้ยึดสิทธิ์ไปจนกว่าจะหาย
ใครโดนศาลตัดสินให้รับโทษจำคุก ให้ระงับสิทธิ์ไปจนกว่า จะออกจากคุก และ เพิ่มเวลาอีกเท่าตัว
คนที่ไม่ยื่นภาษี ก็ได้สิทธิ์เลือกตั้งระดับท้องถิ่นเท่านั้น