คนเยอะ---->เรื่องเยอะ----->กฏหมายแข็ง----->อำนาจตำรวจสูง
LA นี่ประท้วงบ่อย ถึงไม่เท่าฝรั่งเศลก็เถอะ คงชินกันแล้ว
Pam Bondi อัยการสูงสุดสหรัฐฯ กล่าวถึงสถานการณ์ในลอสแอนเจลิส:
"มันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นประเทศโลกที่สาม"
ทรัมป์เรียกผู้ประท้วงในลอสแอนเจลิสว่า "สัตว์":
"เมื่อวานนี้ผมโทรหาผู้ว่าการ Newsom และบอกเขาว่าเขาต้องทำงานให้ดีกว่านี้ เขาทำงานแย่มาก และหากเราไม่ส่งกองกำลัง National Guard ไป ลอสแอนเจลิสคงกำลังลุกไหม้อยู่ในตอนนี้ เรามีคนเลวๆ พวกเขาเป็นสัตว์ และพวกนี้เป็นผู้ก่อจลาจลที่ถูกจ้างมา"
"พวกเขาเป็นผู้ยั่วยุรับจ้าง เป็นนักยุยง มีคนจ้างพวกเขา คุณคิดว่ามีใครจะเดินไปที่ริมถนน แล้วเริ่มทุบทำลายสิ่งของ พร้อมมีอุปกรณ์ครบมือ แล้วแจกจ่ายให้คนอื่นใช้เป็นอาวุธโดยบังเอิญหรือ? นี่คือผู้ก่อจลาจลรับจ้าง นักยุยง หรือผู้ยั่วยุ จะเรียกอะไรก็ตามแต่"
น่าจะพยายามกวาดล้างผู้อพยพ เหตุมีข่าวลือ จะโปรเจคกวาดล้างอาญาชกรรมและผู้อพยพครั้งใหญ่
ประเทศที่มีประท้วงบ่อย vs ประเทศที่ประท้วงอะไรไม่ได้เลย
อย่างหลังอันตรายกว่านะครับ เพราะ ประชาชนไม่มีสิทธิคานอำนาจและตรวจสอบรัฐได้เลยครับ รอรับกรรมอย่างเดียว
ถ้าคุณไปญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เรื่องประท้วงก็เป็นเรื่องปกติไม่ต่างจากประเทศยุโรปครับ ตอนผมไปเที่ยวญี่ปุ่นก็เจอประท้วง 2 ครั้ง
ครั้งแรกเป็นของการเมืองญี่ปุ่นกับเรื่องข้อพิพาทเรื่องพื้นที่ทางทะเลกับประเทศอื่น อีกอันเป็นเรื่องพนักงานประท้วงเจ้าของกิจการ(น่าจะเรื่องค่าแรง)
แน่นอนว่าบางครั้งมันมีพวกฉวยโอกาสแฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ประท้วงเพื่อรอโอกาสปล้นทรัพย์สินร้านค้า แต่นั่นต้องแยกประเด็นครับ
ขโมยของก็คือขโมยของ ประท้วงก็คือประท้วง
สื่อไทยนำเสนอว่าฝรั่งเศษ หรือยุโรปอันตรายอย่างนู้นอย่างนี้ พ่อแม่ที่เกษียณแล้วของผมพึ่งไปเที่ยวฝรั่งเศษ-เบลเยี่ยม-ฮอลแลนด์-เยอรมันร่วมครึ่งเดือน
ไปเที่ยวด้วยตัวเอง ไม่เห็นเจออะไรอันตรายเลย สื่อที่นำเสนอข่าวในไทยบางทีมันใส่ไข่เยอะเกิน อย่างบางคนบอกเมกาเผาเมืองอย่างนั้น ของจริงเผาไม่ถึง 2 ตร.ม ดันตีข่าวว่าเผาทั้งเมือง