[quote/]
คุณสุทธชาต้องเข้าใจก่อนว่ายุคล่าอาณานิคม มันคือยุคเปลี่ยนผ่านจากยุคศักดินา > ยุคจักรวรรดิ์นิยม
เอเชียส่วนใหญ่ตอนนั้นคืออยู่ในยุคศักดินา ขณะที่ชาติตะวันตกที่มาเขาอยู่ในยุคจักรวรรดิ์นิยมแล้ว
ยุคล่าอาณานิคมมันจึงเป็นรอยต่อระหว่าง 2 ยุค
ทีนี้คุณต้องเข้าใจว่าเอเชียที่ยังอยู่ในยุคศักดินา ซึ่งระบบนี้มันอาศัยผู้คุ้มครองกับผู้ถูกคุ้มครอง
ตัวอย่างชัดสุดก็คือเหตุการณ์ "อานัมสยามยุทธ" ที่สุดท้ายทั้งล้านช้างบางส่วนยอมให้ฝรั่งเศษเป็นผู้คุ้มครอง
หรือเหตุการณ์ที่พระนางเจ้าวิคตอเรียจะรับเจ้าดารารัศมี(เจ้าหญิงเชียงใหม่)เป็นลูกบุญธรรม(พุดง่ายๆให้เชียงใหม่อยู่ในการคุ้มครองของอังกฤษ)แต่ไม่สำเร็จ
แล้วพูดถึงอาณานิคมเนี่ย การเป็นอาณานิคมมันเป็นได้สองแบบนะครับ เป็นในทางนิตินัย เช่น พม่า ลาว เวียดนาม อันนี้คือเป็นโดยทางการ
กับอีกแบบหนึ่งคือเป็นแบบพฤตินัย แม้จะไม่มีการส่งผู้สำเร็จราชการมาปกครองดูแลหรือมีหนังสือคำสั่งอะไรก็แล้วแต่ แต่สถานะของประเทศนั้นตกเป็นรองอีกประเทศหนึ่ง เช่น ไทย กรณีสนธิสัญญาบาวริ่ง
WW2 ก่อนจะชาตินิยม คุณสุทธชาต้องมองในทุกมุมมองก่อน ลองคุณมองจากมุมที่คุณเป็นชาวอังกฤษหรือประเทศอื่นๆดูครับ
สมัย WW2 ไทยตัดสินใจประกาศเข้าร่วมสงครามฝ่ายเดียวกับญี่ปุ่นต่อทั้งเมกา อังกฤษ และฝรั่งเศษ
ดังนั้นคุณสุทธชาก็ต้องยอมรับเหมือนกันว่าทั้งเมกากับอังกฤษก็มีสิทธิประกาศสงครามกลับได้เหมือนกันแบบแฟร์ๆ จริงมั้ย
ถ้าฝ่ายอักษะชนะ ก็เหมือนไทยชนะ ไทยก็มีสิทธิเรียกค่าปฏิกรรมสงครามจากศัตรูได้เหมือนกันจริงมั้ย แน่นอนว่าในความเป็นจริงคือฝ่ายสัมพันธมิตรชนะ
ดังนั้นฝ่ายสัมพันธมิตรก็สามารถเรียกค่าปฏิกรรมสงครามได้เหมือนกันถูกมั้ย อันนี้ผมพูดแบบแฟร์ๆเลยนะ แต่ไทยโชคดีกว่าประเทศฝ่ายอักษะอื่น เพราะเมกาตัดสินใจยื่นมือมาช่วย
แต่ก็ไม่ใช่ว่าไทยไม่ต้องจ่ายค่าปฏิกรรมสงครามเลยนะครับ จ่ายเหมือนกัน แต่จ่ายน้อยกว่าฝ่ายอักษะอย่างเยอรมันและญี่ปุ่น
สมมุติว่าประเทศของคุณสุทธชาถูกประเทศของผมประกาศสงครามแล้วปรากฎว่าฝ่ายผมแพ้ คุณจะเรียกค่าปฏิกรรมสงครามมั้ย? แน่นอนว่าคุณเรียก
กลับกันถ้าผมชนะ ผมก็เรียกค่าปฏิกรรมสงครามจากประเทศของคุณสุทธชาเหมือนกัน อันนี้คือพูดแบบแฟร์ๆเลย สงครามมีกฎนะครับ
แค่ส่วนหนึ่งบางส่วนของพม่าเป็นส่วนหนึ่งของอินเดียครับ ไม่ใช่พม่าทั้งหมด เช่น รัฐยะไข่ที่มีชาวท้องถิ่นคือโรฮิงยา
คุณสุทธชามักจะใช้ความชาตินิยมแบบผิดๆ หน้ามืดตามัวหลายครั้ง เข้าข้างชาติตัวเองแบบผิดๆ มันไม่ทำให้อะไรดีขึ้นนะครับ
เวลาคุณจะตัดสินอะไร คุณต้องจำลองตัวเองไปอยู่อีกฝ่ายหนึ่ง แล้วลองเปรียบเทียบว่ามันแฟร์มั้ย ด้วยบรรทัดฐานเดียวกันนะครับ
ดังนั้นเรื่องอังกฤษจะเอาค่าปฏิกรรมสงคราม เขาไม่ผิดนะครับ ไทยประกาศสงครามใส่เขา แล้วเขาอยู่ฝ่ายชนะและเราอยู่ฝ่ายแพ้ เขามีสิทธิเรียกค่าปฏิกรรมสงครามโดยชอบธรรม
เพราะถ้าไทยชนะ ไทยก็เรียกค่าปฏิกรรมสงครามเหมือนกัน ดังนั้นมันแแฟร์เหรอครับที่ไปด่าอังกฤษจะเอาค่าปฏิกรรมสงคราม คิดหลายๆมุม ไม่ใช่คิดแบบชาตินิยมสักแต่เข้าข้างชาติตัวเอง
โลกนี้มันไม่ได้มีประเทศไทยประเทศเดียวในโลกนะครับ คนไทยเป็นมนุษย์ แล้วคนอังกฤษไม่ใช่มนุษย์เหรอครับ?
ถ้าจำไม่ผิดอเมริกาชนะสงครามกับอังกฤษนะ
ถ้าทำสงครามแล้วชนะได้ค่าสงครามไม่ผิด แต่ที่ผิดคือเกือบทุกประเทศอานานิคม เขาโดนรุกรานก่อน
อย่างจีนตอนสงครามฝิ่น ก็เพราะจีนโกรธเลยทำสงครามกัน
ทำไมถึงโกรธล่ะ ก็ลองไม่โกรธ จีนก็พังเพราะฝิ่นอยู่ดี
ยุคล่าอานานิคม มีไหมล่ะ ที่ประเทศที่เป็นอานานิคมเคยประกาศสงครามแล้วยกทัพไปตีถึงประเทศแม่ในยุโรป
เลยแพ้แล้วโดนเรียกค่าสงคราม
เห็นเจอแต่ประเทศในยุโรปเห็นประเทศนั้นนี้รวย เลยมาสูบเลือดสูบเนื้อ
พอไม่พอใจก็ตีกัน ก็ยกทัพจากยุโรปมายึด แต่ถ้าทนได้ก็โดนสูบจนแทบไม่ต่างกับเมืองขึ้นอยู่ดี
ยิ่งถ้ารวยมากๆปลุกปั่นยิ่งหนัก ถึงขั้นสนับสนุนในเกิดสงครามระหว่างคนในพื้นที่ด้วยซ้ำ
ถ้าพ่อค้าต่างแดนทำตัวดีๆใครมันจะทำสงครามด้วย
พูดยังกับพ่อค้ายาเสพติดมีความชอบธรรม
ไทยกับว้าแดงก็เหมือนๆกันนี่แหล่ะ ถ้าไทยประกาศสงครามแล้วแพ้มันก็ต้องจ่าย
แต่ที่เขาด่าไม่ใช่เพราะผู้แพ้จะเสียอะไรเท่านั้น เขาด่าเพราะผู้ที่อยู่ใต้อานานิคม โดนกระทำต่างหาก
อเมริกาอยู่ใต้อานานิคมแล้วเป็นไม่นานแค่ร้อยกว่าปี ต่างกับประเทศอื่นๆโดนไปหลัก 300 ปีได้
ทรัพยากรมีแค่ไหนก็กลี้ยง
ขนาอเมริกายุคใต้อานานิคมเห็นว่ามีพื้นที่แค่ 20-30% ของปัจจุบันเอง
พูดกันจริงๆ อเมริกาก็ยึดที่ดินมาจากคนอื่นเหมือนกันนั่นแหล่ะถึงเจริญขึ้นถึงทุกวันนี้
ถ้าอเมริกาควบรวม แคนนาดากับกรีนแลนด์ได้ ก็จะยิ่งใหญ่ขึ้น