[quote/]
ยังไม่ได้พูดถึงปรีดีเลยสักคำ
ที่พูดคือเทียบหงอกกับ ป.เพศที่สาม ว่าหงอกฉลาดกว่าเรียนรู้ความผิดพลาดตัวเองเร็วมาก ป.เพศที่สามกว่าจะเรียนได้อีกนานเป็นเดือน หงอกนี่รู้สองสามวันเปลี่ยนตัวเองละ ก่อนบาดเจ็บเก่งมากๆ ดูสัมภาษณ์เก่าๆหงอกตอนอายุเท่า ป.เพศที่สาม ความคิดอะไรทำได้ดีกว่า ขนาดมีตัวช่วยน้อยกว่า สมัยนี้มีสื่อ ตาโนมก็เป็นยิวนี่ หงอกรู้นะว่าใครหลอกใช้ แต่เขียนบทความให้ แต่หลอกใช้ไม่ได้ ป.เพศที่สามเขียนแบบนี้ใช้เวลานาน หงอกนี่แป๊ปเดี๋ยว สองคนนี่ห่างชั้นกันเยอะ
เราพูดถึงความน่าจะเป็นพวกนี้ไม่คิดซ้อนแผนความน่าจะเป็น การเมืองคือการประสานประโยชน์ พวกฉลาดขั้นอัจฉริยะหลายคนกล้ามาก ดูประวัติคนก่อตั้งออราเคิลสิ สตีป จ็อบ หลายคนใจกล้าเสี่ยงแบบคาดไม่ถึง สู้ในแบบพวกเขา ท้าทายจุดเปลี่ยนชีวิตตลอด ถ้าไม่มีอะไรท้าทายจะหยุดนิ่ง พวกนี้คือรู้จุดพลาดเปลี่ยนเลย คนธรรมดาไม่เปลี่ยน
คิสซิงเจอร์บอกว่า ความคิดคนเราเปลี่ยนไปตามเวลา ฉันไม่ใช่คนฉลาดแต่คิดตลอดเวลา [quote/]
อีสปว่า พวกขาดทุนมีเป็นสายquantนั้นโดน แต่พวกเทพมันไม่สน พวกเทพมันว่าลงทุนแบบนี้เสียเวลา เจมส์ ไซมอนส์น่าจะยิ้มเลย เพราะระบบของกองทุนใหญ่จะช้อนซื้อหุ้นราคาถูกเร็วมาก ดีไม่ดีตาเจมส์ช่วยเม่าปั่นด้วยซ้ำ แล้วขายแพง เรื่องหุ้นอธิบายอีกยาว เราว่าทางที่ดีอ่านหนังสือหุ้นสักห้าร้อยเล่มค่อยลงทุน
ขอโทษครับพูดรวมๆไปกับคนที่สับสนเรื่องชื่อ ป. น่ะครับ มีป.หลายคนในการเมืองของเรา ฮา
แค่จะบอกว่าเคสช่วยเพื่อนและที่บ่นตอนแพ้ไปแล้ว ก็เพราะยึดถืออุดมคตจิกฎหมายระหว่างประเทศและอุดมการณ์มากเกินไปคนละอย่างกับแนวคิดของ kissinger ที่มองว่าอุดมการร์สร้างปัญหามากกว่าแก้ปัญหาผมมองว่าอ.หงอก แกศึกษาประวัติศาสตร์มาเป็นหลัก? แกเคยบ่นเรือ่งเทคโนโลยีเฟซบุ๊คต่างๆอยู่ผมมองว่าแกมีจุดอ่อนตรงเกิดต่างยุคน่ะครับ ฮาแต่แกอาจจะเป็นคนที่เหมาะที่สุดที่จะวิเคราะห์นโยบายของอเมริกาที่ Kissinger ยังใช้อยู่ก็เป็นไปได้
ป. ถนัดเอาติ๊กตีอกหรือเทคโนโลยีมากกว่า
ดูสองคนนี้แล้วเริ่มเข้าใจความเป็นไปของโลกได้เหมือนกัน
Kissinger นี่หากให้ผมวิเคราะห์แบบมือสมัครเล่น ผมคิดว่าแกแบบขงเบ้งนั่นล่ะ ที่คิดว่าคนจะตัดสินใจอย่างมีเหตุผลไม่เอาอารมณ์มาเกี่ยว คุยกันที่ผลประโยชน์อย่างเดียว
แต่ คุ้นๆหลกัการมาเฟียอิตาลีหรือเปล่าล่ะครับ?ที่ว่า จะไม่เอาของที่รักที่สุดไปจากผู้คน เลอืกเอาว่าจะเอาลุกสาวหรือเอาร้านค้าไว้..คนที่ยังมีสิ่งให้เสีย ก็จะยังอดทนทุกอย่างได้ต่อไป
ผมมองว่าตอนนี้สถานการณ์มันแปลกๆเพระาเรามีโรคระบาดทั้งโลก ทอมแฮงก์ดาราทางทีวีทำให้คนรู้สึกว่าเป็นโรคภัยที่ร้ายแรงมากเพระาคนแก่อมีอายุ อยู่ตามป่าตามเขาอย่างป้าบ้านผมก็รู้จักทอม แฮงก์ เลยรู้วสึกว่าโรคระบาดอันตรายมากในสภาพที่คนรู้สึกว่า "จะตายวันไหนก็ไม่รู้"
จะเป็นเรื่องที่แปลกหรือหากคนเราจะตัดสินใจว่า "อะไรจะเกิดขึ้นก็ช่วงมันล่ะ เอาสนุกไว้ก่อน"
การเมืองหรอืการสร้างอาณาจักรเกิดได้จากการมองเกมส์ระยะยาว แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากคนเราไม่คิดจะมองยาวกันล่ะเพระาคิดว่าตนเองไม่น่าจะรอด?
..
ผมเห็นด้วยกับท่านนะเรื่องเจ้าใหญ่จะได้มากกว่าเจ้าเล็กแน่ๆ และเจ้าเล้กจะเจ็บตัวมหาศาล คนที่ฉลาดควรจะเลือกเดินทางออกมาได้แล้ว ถือต่อไปในสภาพที่มีความเสี่ยงสูงมันไร้สาระสิ้นดี ทำอย่างนั้นไปทำไม?
หลายคนที่เป็นมืออาชีพมองว่าคนพวกนั้นทำเพื่อเงิน ก็พยายามบอกจนปากฉีกว่า มีสติกันหน่อย game stop มีค่าไม่ถึงสองหมื่นห้าพันล้านดอลหรอกนะจะเสียเงินเอานะ มีแต่บริษัทใหญ่ๆต่างหากที่จะได้มากกว่าพวกคุณทุกคนรวมกันเสียอีก...
มันทำให้ผมชักคิดได้ว่า หากมีมหาเศรษฐีคนหนึ่งพร้อมที่จะฆ่าตัวตายเสียทรัพย์สินจนหมดตัว..ไม่เท่ากับว่าระบบนี่เกิดได้เพระามหาเศรษฐีเอาตนเองเป็นตัวประกันหรอกหรือครับ?
หากเราตัดสินใจอย่างมีเหตุผล
มีgame plan ตาม game theory อะไรไหมที่คนตัวเล็กจะชนะเกมส์นี้?หรือต้องทำอย่างคนป่ามีปืน planet of the ape ที่ต้องทำลายระบบเก่าเท่านั้นเพราะระบบเดิมอยุ่เราไม่มีทางชนะ?
การที่คนหนึ่งจะเตะกระดานทั้งกระดาน..อันที่จริงมันก็เป้นการมีเหตุมีผลหรือเปล่า ว่าเป้นวิธีหนึ่งที่จะเล่นเกมส์เกมส์นี้?
ผมไปเจอคนพูดมาประโยคหนึ่งน่าคิดเหมือนกันว่า
game theory เกิดขึ้นได้เพราะยึดหลักสองประการคือ เกมส์เกิดในช่องว่างไม่มีปัจจัยภายนอก และทุกคนที่เล่นเกมส์นั้นเป้นคนที่มีเหตุผลพยายามเลือกสิ่งที่มีประโยชน์สูงสุดให้กับตนเอง
ลืมพิจารณาความเกลียดชังและความแค้นไป
The prince ,ีว่าคนอ่านเข้าใจผิดเรือ่งกลัวกับรักแต่ประโยคที่สำคัญต่อไปคือ.งไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ต้องหลีกเลี่ยงจากการโดนเกลียดชัง
ที่ท่านเล่าให้ผมฟังเรือ่งมหาเศรษฐีไม่แจ้งความจับคนที่ปล้นตนเอง ทำให้ผมคิดได้น่ะครับ คนฉลาดคำนวณผลประโยชน์ตลอด สามารถทำให้คนที่ปล้นเลิกล้มความคิดได้
ใครว่านี่เรียกลงทุน หุ้นเกมสตอปมันคือการลง ตีน อย่างนึง
ไม่รู้ว่าใครเริ่มจุดกระแส แต่ 1 ในคนเริ่มก็ Elon นี่แหละที่เห็น กองทุน จะทำ ช็อต ฟันกำไรเล่น
(จากประวัติชีวิต Elon เองก็เคยวนๆ เวียนๆ อยู่ในวงการเกมเหมือนกันนะ)
แกเห็นเลยเคืองซื้อเก็บ + มีปล่อยข่าว หลังจากนั้นแหละก็ตามสภาพ
มีข่าวกันเลยว่า ถล่มซื้อกันทั้ง ยุโรป อินเดีย รัสเซีย
ซื้อหุ้น เพื่อ MEME ไม่ใช่การลงทุนแต่อย่างใด
อเมริกามันมี เรื่องของพวก Elite ดีปสเตท อะไรประมาณนี้อยู่ ซึ่งถ้าไปกระทุ้งถูกจุด
คนทางนั้นจะ ปรี๊ดมาก คือทนไม่ได้
เคยบอก @samuison ไว้เมื่อก่อนว่า อเมริกาคือประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยความบ้าคลั่ง ท่าจะจริงแฮะ
มันมีคำกล่าวบอกว่า 2008 ไม่ได้รับการชำระสะสาง
หากมองว่าพวกที่ทำให้เกิดขึ้นยังอยู่ชิลๆและหากมีการช่วยในตอนนี้ที่บรรยากาศสองฝ่ายกำลังระอุนี่ อเมทรกิาได้ลุกเป็นไฟจริงๆแน่ๆ