ในที่สุด NFL ก็ออกมายอมรับว่า "เราผิด" และยอมให้นักกีฬายอมประท้วงอย่างสงบได้
https://twitter.com/NFL/status/1269034074552721408NFL ได้ออกมาประกาศขอโทษ และเปลี่ยนจุดยืน หลังจากที่การประท้วง ได้แพร่หลายไปทั่วประเทศ และนอกประเทศ
และได้มีกระแสสังคม รวมถึงคนมีชื่อเสียงมากมาย ที่ได้ย้อนกล่าวโทษไปถึง NFL ที่ไม่ยอมรับการประท้วงอย่างสงบ
ซึ่งก่อนหน้านี้ในปี 2016 โคลิน เคเปอร์นิก ได้คุกเข่าประท้วงอย่างสงบในขณะที่เริ่มเปิดเพลงชาติก่อนที่จะเริ่มการแข่ง
เพื่อแสดงจุดยืนทางสัญลักษณ์เพื่อความเท่าเทียมกันของคนผิวสี
รวมถึงต่อต้านความรุนแรงเกินกว่าเหตุจากเหตุการณ์ ตำรวจได้วิสามัญ พอล โอนีล เด็กชายผิวสีที่ไม่มีอาวุธ ในช่วงเวลาก่อนหน้านั้น
เหตุการณ์ดังกล่าวถูกวิพากย์วิจารณ์อย่างหนัก จนประธานาธิปดี โดนัลด์ ทรัมพ์ ได้ตำหนิ และกดดันให้ NFL จัดการ
NFL ได้ประกาศบังคับให้ทุกคนต้องยืนตรงเคารพธงชาติ ไม่เช่นนั้นจะถูกลงโทษอย่างหนัก
แม้โคลินจะได้เล่นจนจบฤดูกาล แต่ทีมไม่ต่อสัญญากับโคลิน และไม่มีทีมไหนรับโคลิน ซึ่งเป็นนักกีฬาดาวรุ่งในขณะนั้น เข้าทีมจนถึงปัจจุบัน
ในเหตุการณ์ของ จอร์จ ฟลอยด์ ชื่อของโคลิน ได้ถูกนำมาพูดถึงอีกครั้ง
เพราะเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ตั้งใจประท้วงอย่างสงบ แต่นอกจากไม่ได้รับการฟังจากผู้มีอำนาจแล้ว
ชีวิตของเขายังพังทลาย จากเพียงการนั่งคุกเข่าประท้วงเฉยๆอีกด้วย
ทำให้ประชาชนชาวสหรัฐจำนวนไม่น้อย มองว่าการประท้วงอย่างสงบ ไม่ใช่คำตอบ และลงออกมาประท้วงบนท้องถนน
หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น 4 ปี
ที่การประท้วงและความรุนแรง ลุกลามไปทั่วสหรัฐฯ จากการที่ NFL และผู้มีอำนาจทั้งหลายไม่ยอมรับการประท้วงอย่างสงบ
NFL ถูกวิพากย์วิจารณ์อย่างหนัก ทั้งจากประชาชนเดิมที่ไม่ชอบการตัดสินใจของ NFL ตั้งแต่แรก
และ แม้แต่คนที่เป็นกลาง หรือผู้สนับสนุนในขณะนั้นเอง ก็ยังมองว่าการจัดการของ NFL ในเรื่องนี้
เป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุหลัก ที่ทำให้เกิดการประท้วง และความรุนแรงไปทั่วสหรัฐฯ