สมัยที่ผมเพิ่งเข้าวงการ Visual Novel ใหม่ๆได้เล่นเกมๆหนึ่ง เป็นแนวไปพักแรมในชนบทที่มีตำนานเก่าแก่แล้วเผชิญกับสิ่งลี้ลับแบบที่ตัวเองชอบ ตอนนั้นที่หยิบเกมขึ้นมาเล่นเพราะยังอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก เกมแนว Mystery ที่เล่นได้เลยมีจำกัด
(เล่น Patch อังกฤษ) หลังเล่นจบก็รู้สึกว่าเกมยอดเยี่ยมมาก แต่พอได้อยู่วงการ Visual Novel ไปนานๆ
(ตั้งแต่อ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออกยันสอบ N1 ผ่าน) เห็นเกมต่างๆมาเยอะ ถึงได้ตระหนักได้จริงๆว่าเกมมันสุดยอดขนาดไหน เนื้อเรื่องไม่ต้องพูดถึง ส่วนภาพหรือเพลงนั้นทั้งๆที่เกมเก่ามากแล้ว แต่กลับทัดเทียมเกมยุคปัจจุบันหลายๆเกมได้สบาย
ทว่า เป็นเรื่องน่าแปลกใจที่เกมสุดยอดขนาดนี้แถมอุตส่าห์
มี Patch อังกฤษแล้วทั้งที แต่กลับไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก คิดว่าน่าเสียดาย จึงเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อแนะนำให้รู้จักเกมนี้กันครับ
(จริงๆคือเขียนเพื่อสนอง Need ตัวเองนั่นล่ะ)アオイシロAoishiro
ปราสาทน้ำเงินOP เกมข้างล่างเอามาจากเวอร์ชั่น PS2 ไม่ใช่เวอร์ชั่น PC
(ทาง Official Website ไม่ได้โพสต์คลิปเวอร์ชั่น PC ไว้)พล็อตเรื่องโอซาไน โชวโกะเป็นกัปตันชมรมเคนโด้ของโรงเรียนสตรีเซย์โจ โรงเรียนคุณหนูชื่อดัง
ในปิดเทอมฤดูร้อนนี้ เธอไปเข้าค่ายฝึกซ้อมกับชมรมที่อุนาซากะ เมืองชนบทริมทะเลที่มีตำนานเก่าแก่
การเข้าค่ายครั้งนี้น่าจะเป็นการเข้าค่ายสานสัมพันธ์ที่สนุกสนานธรรมดาๆ
ทว่า กลับมีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สาวน้อยปริศนาลอยมาเกยตื้นที่ชายฝั่ง
รองกัปตันชมรมโดนผีเล่นงาน
ตอนกลางคืนมีสมาชิกชมรมพบเห็นสัตว์ประหลาด
แล้วยังมีเรื่องที่ตัวโชวโกะเองรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูกราวกับว่าในอดีตเคยมาที่นี่มาก่อน
สุดท้ายแล้วพวกโชวโกะจะเป็นยังไงกันแน่นะ
ตัวละครใส่ Spoil ไว้จะได้ไม่เกะกะ
Aoishiro เนี่ยเป็นเกมแบบไหนงั้นเหรอ ?เป็นเกมแนว Mystery ที่ชมรมเคนโด้หญิงไปเข้าค่ายฤดูร้อนกันแล้วเจอกับสิ่งลี้ลับครับ
ในเรื่องมีฉากที่ทำให้สัมผัสได้ถึงการเข้าค่ายที่สนุกสนานของชมรมเคนโด้หญิง, ฉาก Action ต่อสู้เอาชีวิตรอดด้วยดาบ แล้วก็ฉากที่เป็นแนว Horror นิดๆ
ระหว่างที่เล่นไปก็จะเจอกับปมปริศนามากมาย ในขณะที่เหตุการณ์ในรูทที่เล่นอยู่กำลังดำเนินไป ก็มีเหตุการณ์มากมายดำเนินต่อไปในที่ๆมองไม่เห็นเช่นกัน ซึ่งเหตุการณ์ที่มองไม่เห็นเหล่านั้นจะมาส่งผลต่อเนื้อเรื่องรูทที่เล่นอยู่ในภายหลัง
ด้วยเหตุนี้เกมนี้จึงเปรียบเสมือนจิ๊กซอว์ แต่ละรูทจะเฉลยปริศนาแค่บางส่วน การเล่นแค่รูทเดียวไม่อาจเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องหลังได้ ในการที่จะเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้นั้นจำเป็นต้องเล่นรูทอื่นเพื่อให้รู้ถึงปมปริศนาเหล่านั้นด้วย
(และหากมองจากรูทอื่น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรูทที่เล่นอยู่ก็ถือเป็นเหตุการณ์ที่ดำเนินไปในที่ๆมองไม่เห็นเช่นกัน)เรียกได้ว่าดึงจุดเด่นของเกมแนว Visual Novel ออกมาได้อย่างเต็มที่ ต่างจากหลายๆเกมที่เหตุการณ์ในแต่ละรูทไม่เกี่ยวข้องกันบ้าง, หากไม่เข้ารูทจะไม่เกิดเหตุการณ์ขึ้นบ้าง
เกมนี้ตัวเอกเป็นผู้หญิง และนางเอกทุกคนก็เป็นผู้หญิง พูดง่ายๆคือเป็นเกมแนว Yuri นั่นเอง
แต่เพราะเป็นเกมเรท 15+ จึงไม่มีฉากอย่างว่าแต่อย่างใด
(ไม่มีก็จริง แต่บางฉากนี่อีกนิดเดียวก็จะ 18+ แล้ว เอาไปเล่นในที่ในสาธารณะไม่ได้แน่นอน)อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นเกมแนว Yuri แต่เกมนี้ก็ไม่ได้เน้นความรักระหว่างตัวเอกกับนางเอกเท่าไรนัก
(ถึงจะมีฉากที่ชวนจิ้นหลายฉากก็ตามที) จะเน้นไปที่เนื้อเรื่องและปริศนาในเกมซะมากกว่า และโชวโกะเธอเองก็มีรสนิยมปกติธรรมดา ไม่ได้ชอบเพศเดียวกันแต่อย่างใด
(แม้การกระทำหลายอย่างของเธอจะชวนให้คิดก็เถอะ) เลยอดเห็นเธอได้คู่กับนางเอกในเรื่อง
ไหนๆพูดแล้วก็ขอเสริมอีกนิดว่าเกมนี้ต่างจาก
Akai Ito ของค่ายเดียวกันตรงที่แม้จะเป็นเกมแนว Yuri เหมือนกันแต่ “ฮาโต้ เคย์” ตัวเอกเกม Akai Ito เป็นสาวแนวเคะ ส่วนโชวโกะเธอได้ทั้งสองแนว ขึ้นอยู่กับว่าเล่นรูทไหน
อีกประเด็นที่พูดถึงเกมนี้แล้วไม่พูดไม่ได้คือ “ความยาก” ครับ
สำหรับผมแล้วเกมนี้เป็น Visual Novel ที่ยากที่สุดเท่าที่เคยเล่นมา
(ไม่นับ Visual Novel Hybrid ซึ่งยากที่ระบบการเล่น ไม่ใช่ยากที่การเลือกตอบ)น่าปวดหัวตรงที่ตัวเลือกหลายอันในเกมนี้ไม่ได้ส่งผลทันทีแบบตอบผิดปุ๊บตายปั๊บ ตัวเลือกตอนต้นเกมบางอันก็เพิ่งมาส่งผลตอนท้ายเกม ทำให้รู้ได้ยากว่าตอบอะไรพลาดไปตรงไหนบ้าง
ถ้าสั่งเบอร์เกอร์ตับในวันที่ 2 ก็มีโอกาสโดนยักษ์ตบตายในวันสุดท้ายได้
(อาจจะฟังดูบ้าๆแต่เรื่องจริง)ฉากจบมี Good End
(สีขาว), Normal End
(สีฟ้า)ที่ใครจะตายยังไงก็ช่าง ขอแค่โชวโกะยังมีชีวิตอยู่ก็ถือว่าเป็น Normal End แล้ว, Bad End
(สีแดง)ที่โชวโกะตาย
จากในรูปจะสังเกตได้ว่า Bad End เกลื่อนเลยทีเดียว
แถมใน Bad End 1 ฉาก ทางเข้าก็ไม่ได้มีแค่ทางเดียว ด้านล่างจะเป็นการยกตัวอย่างวิธีไปเจอ Bad End No.4
กว่าจะเล่นไปถึง Good End ตายแล้วตายอีก
ด้วยเหตุนี้ในหมวด Visual Novel ธรรมดา
(ไม่ใช่เกมแนว Hybrid)จึงขอยกเกมนี้ให้เป็น Visual Novel ที่ยากที่สุดครับ
เกมตั้งใจทำมากเกมมีขนาดไฟล์ถึง 7.9 GB ซึ่งจัดว่าบ้ามากในสมัยนั้น
(และสมัยนี้ด้วย)แต่องค์ประกอบต่างๆก็ทำออกมาได้ดี ผู้พัฒนาใส่ใจกับรายละเอียดต่างๆสมกับขนาดไฟล์ 7.9 GB จริงๆ
ด้วยความใส่ใจที่ว่า ผมเลยมองว่าต่อให้ไม่นับด้านเนื้อเรื่องซึ่งเป็นจุดเด่น เกมนี้ก็ยังสามารถทัดเทียมกับเกมราคา Full Price หลายๆเกมในยุคปัจจุบันได้สบาย
การลงสี Character Sprite จะต่างกันไปตามเวลา มีแยกกลางวัน/ที่สว่าง, ตอนเย็น, กลางคืน/ที่มืด
แล้วตัวละครยังขยับปากเวลาพูด, กะพริบตาได้ด้วย
อาหารบนโต๊ะจะเปลี่ยนไปทุกมื้อ
เกมนี้มี System Voice เป็นเสียงโชวโกะ คำทักทายของโชวโกะตอนเปิดโปรแกรมจะต่างกันไปตามเวลาที่เปิดโปรแกรมขึ้นมา
เปิดเกมตอนเช้า : อรุณสวัสดิ์ แผนการวันนี้ล่ะ ? เล่นเกมทั้งวันเหรอ ?
เปิดเกมหลังเที่ยง : เลยเที่ยงมาแล้วแท้ๆ จะเล่นได้แบบสบายๆจนถึงมื้ออาหารเย็นรึเปล่านะ
เปิดเกมตอนหัวค่ำ : ข้าวเย็นหรืออาบน้ำหรือการบ้าน ทำเรื่องที่ควรทำเรียบร้อยแล้วรึยัง ?
เปิดเกมกลางดึก : ให้ตายสิ จะเริ่มเล่นเวลาแบบนี้เนี่ยนะ เอาเถอะ ไม่เป็นไร
แล้วยังเปลี่ยน System Voice จากโชวโกะเป็นคนอื่นได้ด้วย
(ถ้าเป็นนามิจะมีให้ 2 เวอร์ชั่น ตอนยังพูดไม่ได้กับตอนพูดได้แล้ว)ระบบ Save ก็ดีมาก นอกจากเมนู Save Load แล้วยังมีเมนูจัดการช่องเซฟมาให้ด้วย
ช่องเซฟแต่ละช่องจะมีชื่อ Chapter และวันในเกมกำกับไว้
สามารถ Save ได้ถึง 99 ช่องโดยที่แต่ละหน้าไม่ได้จำกัดจำนวนช่องเซฟสูงสุดไว้
และในโหมดจัดการช่อง Save ยังสามารถเรียง Save, ย้าย Save ไปไว้หน้าอื่น, เปลี่ยน Icon ของหน้าเซฟแต่ละหน้าได้ด้วย
ระบบอื่นๆที่คิดว่าทำออกมาได้ดีก็มีปุ่ม Jump ที่จะข้ามไปยังตัวเลือกถัดไปหรือส่วนที่ยังไม่ได้อ่านได้ทันที
(เร็วกว่าปุ่ม Skip ที่แค่เร่งความเร็วเฉยๆ)ภาษายากไหมถ้าถามว่าภาษายากไหม ผมขอตอบว่ายากสลัด ยากนรก จากเท่าที่เคยเล่นมาทั้งหมดเกมนี้น่าจะยากที่สุดแล้วมั้ง
(ยังไม่เคยลองเกมของค่าย light แต่รายนั้นน่าจะอ่านยากเฉพาะฉากร่ายเวทกับตัวหนังสือแนวตั้ง)ถ้าเป็นเกมสายเวทอย่าง Tokeijikake no Leyline หรือ Fortissimo EXS//Akkord:nächsten Phase แม้จะมีศัพท์เกี่ยวกับเวทมนตร์ แต่เพราะเป็นศัพท์เฉพาะของเกมๆนั้น เลยต้องมีฉากอธิบาย Setting ของเกม
(เช่นพลังเวทคืออะไร)อยู่แล้ว ขอแค่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นและตั้งใจอ่านตอนอธิบายก็ไม่มีปัญหา
แต่ Aoishiro นั้นเป็นเกมที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของญี่ปุ่น คุยเรื่องประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น, ตำนานญี่ปุ่น, เรื่องที่ใช้ศัพท์เฉพาะทางอย่างกีฬาเคนโด้ ฯลฯ กันได้หน้าตาเฉย เริ่มเกมมาไม่ทันไรก็มีท่อนแรกของเฮย์เกะโมโนงาตาริมาแล้ว และเพราะถือว่าเป็นเรื่องที่คนญี่ปุ่นรู้กัน ศัพท์บางคำก็เลยไม่มีอธิบาย ถ้าเก่งแค่ภาษาอย่างเดียว ไม่มีความรู้รอบตัวเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้จะงงได้
แถมมิกิวะยังเป็นพวกบ้าอักษรคันจิสุดๆ ชอบพูดถึงอักษรคันจิ, ใช้อักษรคันจิเล่นคำ ทำให้เกมนี้ไม่เหมาะกับมือใหม่ด้านภาษาญี่ปุ่นอย่างแรง
และข่าวร้ายที่สุดสำหรับมือใหม่ด้านภาษาญี่ปุ่น โปรแกรม Hook Text อย่าง ITH ใช้กับเกมนี้ไม่ได้ครับ
อย่างไรก็ตามเกมก็ไม่ได้ใจร้ายเกินไปนัก ได้มีการเตรียมหนังสืออภิธานศัพท์มาให้ผู้อ่านเวลาเจอศัพท์ที่ต้องอาศัยความรู้รอบตัวด้วย
หนังสืออภิธานศัพท์
(ใส่ Spoil ไว้จะได้ไม่เกะกะ)Patch ภาษาอังกฤษหากสนใจเกมนี้แต่อ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออกหรือได้ยินว่าภาษาญี่ปุ่นยากก็ช้าก่อน อย่าเพิ่งถอยหนี
เกมนี้มี Patch อังกฤษครับ !
ถึงเมนูบางส่วน, หนังสืออภิธานศัพท์จะไม่ได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษ แต่เนื้อเรื่องได้รับการแปลอย่างครบถ้วนครับ
คุณภาพการแปลก็อยู่ในระดับที่อ่านรู้เรื่อง สามารถสนุกกับเนื้อเรื่องเกมไปได้
(แต่โดยส่วนตัวคิดว่ายังไงอ่านต้นฉบับได้ก็ดีกว่า)อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษก็จำเป็นต้องมีความรู้ภาษาญี่ปุ่นเล็กน้อย
(เล็กน้อยจริงๆ) เพราะเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษแปลบางคำทับศัพท์ เช่น…
อายาชิโระเรียกโชวโกะว่า Syouko-san
(คุณโชวโกะ)โมโมโกะเรียกอายาชิโระว่า Hime-sempai
(รุ่นพี่เจ้าหญิง)พวกโชวโกะเรียกครูอาโออิ ฮานาโกะว่า sensei
(คุณครู)ท่านั่งเซย์ซะ
(นั่งทับส้นเท้าหลังเหยียดตรง)ก็แปลแบบทับศัพท์ว่า Seiza
เป็นต้น
จึงจำเป็นต้องมีความรู้ภาษาญี่ปุ่นเล็กน้อยเพื่อให้เข้าใจคำศัพท์เหล่านี้
นอกนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร……
……ถ้าไม่นับมิกิวะน่ะนะ
สุดท้ายทำไมคุณหนูอายาชิโระไม่มีรูท ! ทำม๊าย ทำไม บ้าเอ๊ย !