*หากยุค80-90คือสนามรบสำหรับหนังสือการ์ตูนไพเรท ปี2000-2009ก้เป็นสนามรบสำหรับแผ่นไพเรทเช่นกัน
*ก่อนหน้าจะมีแผ่นไพเรทออกมา บางคนเต้องพึ่งบริการร้านขายของเล่นที่สนิทกันสั่งวิดีโอจากญี่ปุ่นมา ส่วร้านบางร้านก้เอาวิดีโอบางส่วนมาขายย่อยอีก
*ใครมีวิดีโอจากญี่ปุ่นนี้ถือว่าบ้านรวยมากเพราะราคานั้นแพงพอสมควร(ม้วนละ500-600บาทขึ้นไป) แต่ถ้าใครอยากได้ของถูก(300-500)ก็เป้นม้วนของฮ่องกงที่ต้องมาวัดดวงกันว่าจะได้เสียงจีนหรือเสียงญี่ปุ่น
*ม้วนอุลตร้าแมนจะแพงกว่าของไรเดอร์
*เคยเห้นบางร้านเอาก็อดซิลล่า2000กับกาเมร่า3มาขายได้น่ะเออ
*บางร้านได้นำวิดีโอคูก้ามาขาย แน่นอนตอนนั้นยังไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าคูก้าคืออะไร
*ในปี2001 สิ่งที่ผมเห็นตามตลาดแผ่นหนังคืออากิโตะแผ่นที่1ของค่ายเจ-มีเดียร์ซึ่งมาวางขายหลังจากที่ญี่ปุ่นฉายไปได้3สัปดาห์(เกือบๆ1เดือน)
*ซึ่งเจ-มีเดียร์เคยทำTFภาคคาร์โรบ็อทมาก่อนแล้ว(เหมือนเป้นการทดลองงาน)
*อากิโตะของค่ายนี้ได้รับคำชมเรื่องการพากษ์ แต่ก็ต้องแลกกับภาพที่ไม่ค่อยชัดเท่าไรนัก
*ตรงกันข้ามกาโอเรนเจอร์ที่คุณภาพนั้นออกมาค่อนข้างแย่ ในขณะนั้นเองก็มีค่าย3ดาวทำกาโอเรนเจอร์เช่นกันแต่คุณภาพไม่ต่างกันเท่าไรนัก
*อุลตร้าแมนคอสมอสก็เคยมีแผ่นไพเรท คุณภาพนั้นก็แย่พอๆกับกาโอเรนเจอร์ของค่ายอื่น
*อากิโตะของค่ายเจ-มีเดียร์ถูกยอมรับในยุคนั้นว่าทำออกมาได้สมบูรณ์ที่สุด(จนกระทั่งDEXทำออกมา)
*ริวคิออกมาค่ายเจก็ทำ แต่คุณภาพอาจจะดร็อปไปจากเดิม(มีหลายคนบอกว่ามีการแอบตัดฉาก)
*ด้วยความดังของริวคิ ก็มีหลายค่ายทำ(แต่ไม่จบ)พร้อมกับคุณภาพชวนหัวเราะ
*เพราะเข็ดกับกาโอเรนเจอร์รึเปล่าทำให้ค่ายเจไม่ทำเฮอริเคนเจอร์ออกมา แต่ทำแผ่นสรุปเนื้อหาออกมา3แผ่น
*เฮอริเคนมีหลายเจ้าที่ทำ แต่หน้าปกขึ้นว่าแผ่นที่1กลับไม่มีตอนแรก จนกลายเป็นอีเวนท์หาเฮอริเคนเจอร์ตอนที่1และเนื้อหาช่วงแรกไปพักใหญ่ๆ
*จนมีอยู่เจ้านึงทำออกมาและเรียงตอนตามปกติ (ซึ่งผ่านไปได้ครึ่งทางแล้ว)
*เมือ่ไฟซ์มาค่ายเจเปลี่ยนชื่อเป็นimk(..............................................)
*ค่ายนี้ทำไฟซ์เป้นปกติสุข แต่ก็มีอีเวนท์ที่เกิดเปลี่ยนเสียงพากษ์ของตัวละครหลักอยู่บางแผ่น
*ถ้าปัญหานี้ดูเล็กไปเมื่อเทียบกับแกรนเซเซอร์ของค่ายนี้(นับถือคนพากษ์มาก)
*imkทำอาบะเรนเจอร์ด้วย แต่ก็มีอีกค่ายที่ทำเช่นกัน(ใช้ทีมพากษ์พญาไฟ)
*ปี2004 มี2ค่ายที่มาแชร์ตลาดคือค่ายรีเทิร์นและดีเซล
*การแข่งขันสูงมากเรียกได้ว่าเราแถบจะดูทันญี่ปุ่นแบบหายใจรดต้นคอ(ช้าไปแค่2สัปดาห์)
*เรื่องที่แข่งกันมากที่สุดไม่ใช่ไรเดอร์เบลด แต่เป็นเดกะเรนเจอร์
*แต่ทุกอย่างสะดุดลงเมื่อค่ายโรซประกาศลิขสิทธิ์หลังจากที่ออกอากาศที่ญี่ปุ่นไปได้20กว่าตอน
*ในปีนั้นค่ายรีเทิร์นก้ได้้ออกแผ่นควบ แกรนเซเซอร์1ตอน และเซเลอรมูนคนแสดงอีก1ตอน ก่อนที่2เรื่องนี้จะแยกไปมีแผ่นเป้นของตอนเอง
*ปี2002-2005 เป็นยุคทองแผ่นไพเรทเลยก้ว่าได้ เพราะมีทั้งการ์ตูนและหนังยอดมนุษย์จากยุค70 80 และ90 มาวางขายเต็มแผง บางเรื่องเอาของวิดีโอสแควร์และไรท์พิคเจอร์มาขายใหม่ บางเรื่องก้ออกจนจบ บางเรื่องก็ลอบแพ
*ต่อทุกอย่างก็มีวันเลิกรา เมื่อธุริกิจนี้เข้าสู่ช่วงขาลงในปลายปี2005
*ทุกอย่างถึงจุดสิ้นสุดเมื่อDEXประกาศลิขสิทธิ์ไรเดอร์เฮเซย์เกือบทั้งหมด ยุคสมัยแผ่นไพเรทเริ่มจบลง
*ค่ายโรซก็หักดิบด้วยเช่นกัน โดยประกาศว่าผูกขาดขบวนการ5สีเป็นที่เรียบร้อย
*อีกทั้งการมาของยูทูป นั่นก้เป็นผลกระทบอย่างแรงอีกขั้นนึง
*จนในที่สุดหลายเจ้าปิดกิจการ ส่วนimkเปลี่ยนชื่อภักดีฟิล์มทำไลฟ์แมนก่อนที่ลาวงการไป
*แต่ก็ยังมีบางเจ้าก้ยังทำอยู่แต่ก้ไม่ได้ขายดีเท่าไรนัก จนผมเห็นแผ่นไพเรทครั้งสุดท้ายในปี2013
*เขียนขึ้นจากความทรงจำล้วนๆ ผิดตรงไหนก็บอกด้วยน่ะครับ