
ในประวัติศาสตร์ยุคศักดินาของญี่ปุ่น เหล่าขุนศึกต่างต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจ พวกเขามองถึงตำแหน่งยอดขุนศึกผู้กุมอำนาจปกครองญี่ปุ่นในนามของ "โชกุน" (Shogun)
แน่นอนว่าเราต้องเคยได้ยินหรือรู้จักกับตำแหน่งโชกุนมาก่อน ว่าแต่เคยสงสัยไหมว่า ในเมื่อญี่ปุ่นก็มีประมุขอย่างเทงโน (Tenno) หรือสมเด็จพระจักรพรรดิอยู่แล้ว แล้วตำแหน่งโชกุนคืออะไร มีที่มาจากไหน
แล้วทำไมในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น เราถึงไม่เคยเห็นโชกุนโค่นล้มสมเด็จพระจักรพรรดิแล้วก่อตั้งราชวงศ์ใหม่ เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับดินแดนใกล้เคียงอย่างจีน?
การจะทำความเข้าใจในเรื่องนี้ได้ เราก็ต้องย้อนกลับไปดูที่มาและจุดเริ่มต้นของตำแหน่งโชกุนกันก่อน โดยย้อนกลับในยุคเฮอัน (Heian Period 794-1185) โชกุนมีที่มาจากตำแหน่งที่เรียกว่า "เซอิไทโชกุน" (Seii -taishogun) ที่แปลว่า ขุนศึกปราบคนเถื่อน
ในยุคนั้นญี่ปุ่นได้ทำการบุกเบิกดินแดนโตโฮกุ (Tohoku) ทางตอนเหนือของเกาะฮนชู ซึ่งมีคนพื้นเมืองชาวเอมิชิ (Emichi) อาศัยอยู่ ทำให้ญี่ปุ่นต้องเผชิญหน้ากับชาวเอมิชิอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ราชสำนักจึงแต่งตั้งขุนศึกเพื่อทำหน้าที่ปราบปรามชาวเอมิชิ โดยขุนศึกที่ว่านี้ก็คือเซอิไทโชกุนหรือต่อมาเรียกสั้น ๆ ว่าโชกุน
อย่างไรก็ตามปลายยุคเฮอัน ชนชั้นนักรบผงาดกลายเป็นชนชั้นที่ทรงอำนาจที่สุดในญี่ปุ่น ราชสำนักเกิดความอ่อนแอ ที่สำคัญอำนาจของสมเด็จจักรพรรดิก็ถูกริดรอนไปอยู่กับขุนนางตระกูลต่าง ๆ อย่างเช่น ตระกูลฟุจิวาระ (Fujiwara) และตระกูลไทระ (Taira)
ในที่สุดในปี 1192 หลังจากขุนศึกตระกูลมินาโมโตะ (Minamoto) เอาชนะเหนือตระกูลไทระและฟุจิวาระได้ มินาโมโตะ โยริโตโมะ (Minamoto Yoritomo) ก็ได้รับการแต่งตั้งจากจักรพรรดิให้เป็นโชกุน
ทว่าการเป็นโชกุนของโยริโตโมะแตกต่างจากโชกุนยุคก่อน เนื่องจากโยริโตโมะได้เปลี่ยนให้โชกุนจากเดิมที่เป็นตำแหน่งขุนศึกปราบคนเถื่อน กลายเป็นตำแหน่งที่กุมอำนาจทั้งการทหารและการเมืองอย่างเบ็ดเสร็จ เปรียบเสมือนผู้นำทางพฤตินัยของญี่ปุ่น
ตำแหน่งโชกุนของโยริโตโมะยังสามารถสืบทอดกันได้ผ่านทางสายเลือด แม้จะต้องได้รับการแต่งตั้งจากราชสำนัก แต่ก็เป็นแค่ในเชิงพิธีกรรมเท่านั้น
ตั้งแต่นั้นมา โชกุนจะตั้งรัฐบาลเป็นของตัวเองแยกออกจากราชสำนักของสมเด็จจักรพรรดิ รัฐบาลของโชกุนในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า "บากุฟุ" (Bakufu) หรือ "Shogunate" ในภาษาอังกฤษ คำว่าบากุฟุมีความหมายถึงกระโจมของขุนศึกที่อยู่ในสนามรบ
“สมเด็จพระจักรพรรดิยังทรงปกครองประเทศในนามของพระองค์ แต่รัฐบาลที่แท้จริงดำเนินการโดยเหล่าขุนศึก”
“เพราะพวกเขา (ขุนศึก) มีอำนาจทางการทหาร ในที่สุดพวกเขาก็แย่งชิงอำนาจของสมเด็จพระจักรพรรดิและกลายเป็นผู้ปกครองเสียเอง” เฟรเดอริก ครินส์ (Frederik Cryns) ที่ปรึกษาด้านประวัติศาสตร์ของซีรีส์ FX Shogun ที่ออกฉายในปี 2024 อธิบายผ่านรายการพอดแคสต์ของเว็ปไซต์ History Extra
ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น มีรัฐบาลของโชกุนอยู่ทั้งหมดสามยุค คือโชกุนคามาคุระ (Kamakura Shogunate 1192-1333) โชกุนอะชิกางะ (Ashikaga Shogunate 1336-1573) และโชกุนโทคุงาวะ (Tokugawa Shogunate 1603-1867)
ส่วนราชสำนักของสมเด็จพระจักรพรรดิจะตั้งอยู่ที่เมืองเกียวโต สมเด็จพระจักรพรรดิทรงมีสถานะเป็นผู้นำของญี่ปุ่นในเชิงสัญลักษณ์ เป็นผู้นำของศาสนาชินโต และมีสถานะเป็นที่สักการะบูชาจากชาวญี่ปุ่น สภาวะดังกล่าวจะดำรงอยู่จนถึงปี 1867 จนเกิดการปฏิรูปเมจิ (Meiji Restoration) ที่นำไปสู่จุดสิ้นสุดของรัฐบาลโชกุน
แล้วเหตุใดโชกุนที่เรียกได้ว่ากุมอำนาจได้ขนาดมากมายขนาดนั้น ถึงไม่โค่นล้มสมเด็จพระจักรพรรดิ แล้วตั้งราชวงศ์ขึ้นเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิเสียเอง คำตอบก็มาจากความเชื่อที่ถูกปลูกฝังมาช้านานของญี่ปุ่น และระบบโครงสร้างทางสังคมในยุคศักดินา
ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่า สมเด็จพระจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ยามาโตะ (Yamato) เป็นทายาทของอะมาเตระสุ (Amaterasu) เทพีแห่งดวงอาทิตย์ สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่นจึงเปรียบเสมือนเป็นเทพเจ้าที่มีชีวิต และสมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่นก็ได้สืบทอดสายเลือดแบบไม่ขาดตอนนับแต่ตั้งราชวงศ์จนถึงปัจจุบัน
โชกุนแม้ว่าจะแย่งชิงอำนาจการปกครองญี่ปุ่นจากสมเด็จพระจักรพรรดิ แต่เพื่อให้อำนาจที่ได้มามีความชอบธรรม โชกุนจึงต้องให้สมเด็จพระจักรพรรดิและราชสำนักให้การสนับสนุนด้วย เพราะโชกุนก็ปกครองญี่ปุ่นในนามของสมเด็จพระจักรพรรดิ ดังนั้นการล้มล้างราชวงศ์ จึงไม่ใช่ทางที่ถูกนัก
ความเชื่อเกี่ยวกับสมเด็จพระจักรพรรดิของญี่ปุ่นยังแตกต่างจากความเชื่อของจีน เพราะจีนมีความเชื่อว่า อำนาจที่สวรรค์มอบให้จักรพรรดิในการปกครองแผ่นดินหรือที่เรียกว่าอาณัติสวรรค์ (Mandate of Heaven) สามารถถูกถอดถอนได้ทุกเมื่อหากประมุขผู้น้้นไร้คุณธรรม เหตุนี้ทำให้ประวัติศาสตร์ของจีนจึงมักเกิดการก่อตั้งและล้มล้างราชวงศ์อยู่บ่อยครั้ง แต่สำหรับญี่ปุ่น อาณัติสวรรค์จะอยู่คู่กับสมเด็จพระจักรพรรดิตราบชั่วนิจนิรันดร์
“หากคุณเคยเห็นรูปเหมือนอย่างเป็นทางการของโชกุน พวกเขามักจะสวมชุดคลุมมากกว่าชุดเกราะ”
“ชุดคลุมเหล่านี้บ่งบอกถึงตำแหน่งที่ขุนศึกหรือโชกุนมีในโครงสร้างราชการในเกียวโต พวกขุนศึกมองว่าชนชั้นสูง (ราชสำนัก) เป็นผู้ปรับปรุงสังคม และ (ขุนศึก) พยายามเลียนแบบวัฒนธรรมของพวกเขา” ไมเคิล เวิร์ธ (Michael Wert) ผู้เชี่ยวชาญเอเชียตะวันออกของมหาวิทยาลัยมาร์แกตต์ สหรัฐฯ อธิบาย
นอกจากนี้ในบางช่วงเวลา แม้แต่โชกุนเองก็ไม่มีอำนาจเหมือนกัน อย่างเช่นในยุคโชกุนคามาคุระ ที่ตระกูลมินาโมโตะ (Minamoto) ที่ก่อตั้งรัฐบาลโชกุนเป็นโชกุนได้แค่สามชั่วรุ่น ก็ถูกตระกูลโฮโจ (Hojo) แย่งชิงอำนาจไป โดยตระกูลโฮโจได้แต่งตั้งตัวเองเป็นชิกเก็ง (Shikken) หรือผู้สำเร็จราชการแทนโชกุน เพื่อแย่งอำนาจจากโชกุนอีกทอดนึง ก่อนแต่งตั้งโชกุนจากตระกูลอื่นที่ฝ่ายโฮโจชักใยได้แทน
อีกหนึ่งเหตุผลที่โชกุนไม่โค่นล้มสมเด็จพระจักรพรรดิ ก็เพราะตระกูลที่ก่อตั้งรัฐบาลโชกุนอย่างมินาโมโตะ อะชิคางะ และโทคุงาวะ ถูกมองว่าเป็นเชื้อพระวงศ์เช่นกัน เพราะทั้งสามตระกูลมีบรรพบุรุษที่สืบย้อนไปได้ถึงสมเด็จพระจักรพรรดิเซวะ (Seiwa) ในช่วงศตวรรษที่ 9
#HistofunDeluxe
อ้างอิง
• กรกิจ ดิษฐาน. ญี่ปุ่น ประวัติศาสตร์แห่งอำนาจ จากเทพเจ้าถึงซามูไร (2021). สำนักพิมพ์ยิปซี
• สตีเฟน เทิร์นบูล (เขียน) วรรธนา วงษ์ฉัตร (แปล). คู่มือนักรบญี่ปุ่น (2017). สำนักพิมพ์ยิปซี
• History Extra. What is a shōgunate in Japanese history?.
https://www.historyextra.com/period/medieval/what-is-a-shogun-first-shogunate/?fbclid=IwY2xjawMlLW5leHRuA2FlbQIxMABicmlkETFmazMzYW9SbEh3NnROellJAR6XsyK8h_8Qv3VxbkG_-n0vrTS2cycgAN3dqNpJI0mV7OY7WBFFAP0mp-eBmw_aem_feiVyC-wzA7sk_8SZYMiOQhttps://web.facebook.com/photo/?fbid=1372358424896603&set=a.439959808136474
