![](https://scontent.fphs4-1.fna.fbcdn.net/v/t39.30808-6/338171276_3214915628806811_1924504147733980855_n.png?_nc_cat=106&ccb=1-7&_nc_sid=730e14&_nc_ohc=2cJibroOWPEAX_t9djN&_nc_ht=scontent.fphs4-1.fna&oh=00_AfB5rEbrzPfGfyYMPwTJe7dBIlDVETNe_0P2vKjoqzIXcw&oe=642B9D1E)
ผู้ป่วยรายนี้ เป็นชายวัย 61 ปี จากภูมิภาคตะวันออกของอินเดีย ผู้เดินทางมายังโรงพยาบาลเนื่งจากมีอาการ คอแหบแห้ง อ่อนเพลีย ไอ และกลืนลำบาก
ก่อนที่ต่อมาในการ CT สแกน โรงพยาบาลจะพบฝีประหลาดที่คอของเขา และเมื่อเก็บตัวอย่างไปตรวจสอบ พวกเขาก็พบว่ามันมี DNA ของเชื้อรา ที่กล่าวมาข้างต้นในที่สุด
โดยเจ้าตัวรายงานว่าเขาไม่ได้ทำงานใดๆ ที่อาจจะไปติดเชื้อราดังกล่าวได้โดยตรง แต่ก็มีโอกาสทำงานกับวัสดุที่เน่าเปื่อยและเชื้อราจากพืชอื่นๆ มาเป็นเวลานานเช่นกัน
ดังนั้น แม้ว่าทีมแพทย์จะรักษาผู้ป่วยจนหายได้ไม่ยาก แต่พวกเขาก็ยังต้องเฝ้าติดตามอาการของชายคนนี้อยู่ เพราะตามปกติแล้วมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เชื้อราจากพืชจะมาติดในคนได้
กรณีของเขาจึงอาจเป็นเหมือนสัญญาณเตือนว่าเชื้อราพืชบางชนิดอาจเริ่มวิวัฒนาการเพื่อเอาตัวรอดด้วยการทำให้ตัวเองติดเชื้อในสิ่งมีชีวิตแล้ว และมันก็อาจจะเกิดขึ้นเพราะโลกร้อนด้วย
ที่มา
https://www.facebook.com/CatDumbNews/photos/a.738940689482056/6309896802386389/