[quote/] บางครั้งก็ต้องมองในมุมของเจ้าของบ้านหรือบางครั้งก็เป็นร้านค้า แล้วก็มีหาบเร่แผงลอยมาตั้งอยู่หน้าบ้าน บางรายมีร่มบังแดด ถามว่าจะเกิดอะไรขึ้น? ก็บังหน้าร้านเขามิดไงท่าน เจ้าของบ้านลงทุนหลักล้านหรืออาจจะถึงหลักสิบล้าน แล้วก็มี"คนทำมาหากิน"มาปิดหน้าร้านมิด มันก็ไม่ไหวเหมือนกันนะโยม
ใช่ ปัญหานี้มีมาช้านาน บางร้านเร่ก็เลยใช้วิธีจ่ายสองต่อ คือจ่ายมันทั้งเทศกิจและจ่ายให้
บ้านหน้าร้านส่วนบ้านที่ไม่ยอม เขาก็ทำได้ มีวิธีหลายๆเคส เช่น เปิดร้านหน้าบ้านเอง หา
คนมาเช่าหน้าร้านหรือร้องเรียนว่ามันกีดขวางทางเข้าออกเวลารถมา โดยยอมลงทุนสร้าง
ทางเข้าออก ซึ่งนั่นก็จะกลายเป็นความชอบธรรม เพราะไม่สามารถตั้งร้านเร่ขวางทางได้
และถ้าสุดท้ายแล้ว ก็ยังเกิดข้อพิพาทหล่ะ?? เทศกิจทำอย่างไร? เท่าที่รู้ก็เช่น ให้ร้านเร่
อยู่ฝั่งติดริมถนน หันหน้าเข้าทางฟุตบาท เว้นพื้นที่ให้คนเดินเท้า สักครึ่งเมตร ส่วนทาง
บ้านหน้าร้านก็สามารถตั้งร้านได้หรือให้คนอื่นมาเช่าหน้าร้านได้ ถือเป็นวิธีสมยอมวิธีท้ายๆ
เพราะโดยปกติ เท่าที่รู้ พวกเขาจะประณีประนอมกันให้มากที่สุด ร้านเร่มักยอมจ่ายให้
บ้านหน้าร้าน จะมีก็แค่ร้านเร่ไม่กี่ร้านที่หัวหมอหรือดื้อดึง จนต้องใช้วิธีนี้ ซึ่งส่วนมาก มักจะ
เป็นเร้านเร่เก่าแก่ ที่ตั้งร้านมาก่อนที่จะมีบ้านหลังนั้น ประมาณว่า ฉันค้าขายมาก่อนที่จะสร้าง
บ้านหลังนั้น บ้านหลังนั้นมาทีหลัง ทำไมฉันจะต้องจ่าย
แล้ววิธีแก้เผ็ดร้านเข็นรถเร่แบบนี้ มีวิธีอะไรบ้าง มีเยอะ สีเทาๆทั้งนั้น ฮา ขอไม่อธิบายนะ
^^ แต่ส่วนมากก็ประนีประนอมกันได้ เพราะอย่างน้อยก็ได้เงินหน้าร้านอีกฝ่ายก็ได้ขายต่อไป
จะยกเว้นก็แค่ ร้านเร่หัวหมอสุดๆ อันนี้ก็ค่อยให้คนกลางอย่างเทศกิจเทศบาลไกล่เกลี่ย แต่
เจ้าของบ้านหน้าร้าน อาจใช้วิธีหักดิบก็ได้นะ อย่างเมื่อกี้ ที่บอกว่า ให้ทำทางเข้าออกหน่ะ
อันนี้หล่ะ จะกลายเป็นว่า อดขายไปโดยปริยาย ส่วนมากไม่ทำกันหรอก ถ้าไม่เหลืออดจริงๆ
เพราะอย่างน้อย ก็ได้เงินค่าหน้าร้านเกือบหมื่นจนถึงหลายหมื่อน
และที่สำคัญอีกอย่าง คนมีเงินเหลือจะกิน เจ้าของหน้าบ้านหลังนั้นแม้จะไม่สนจำนวนเงิน แต่
ถ้ามิตรไมตรีดีต่อกัน มันก็เหมือนมีหมาเอ๊ยคนเฝ้าบ้าน คอยดูแลหน้าบ้าน ดูแลคนแปลกหน้า
สรุปว่า บ้าน มีสิทธิทั้งประนีประนอมหรือหักดิบได้ตามควร เป็นผู้มีแต่ต่อ แม้จะมาทีหลัง