วันหนึ่งผมได้เมลจากเพื่อนที่ตอนนี้กำลังร่างนิยาย แต่ปัญหาคือเขาอยากได้คาแรคเตอร์สไตล์สาวน้อยเวทมนตร์ ทว่าเขาไม่ถนัด แต่ก็ร่างๆ เซตติ่งระดับพลังมาแล้ว ปัญหาคือการลงดีเทลพื้นหลัง เขาเลยขอยืมมือผมมาช่วยงานหน่อยโดยบอกว่าต้องสาวน้อยเวทมนตร์นะ สาวน้อยเวทมนตร์ มาโฮโชวโจที่โคตรเก่ง! นะครับ
ผมถึงกับขำ...สาวน้อยเวทมนตร์งั้นเหรอ ก่อนรับคำแล้วเริ่มลงมือเขียน

ชื่อ : โลลา
อาชีพ : แลนต์เมจิคเชี่ย
อายุ : 12-13
สิ่งที่ชอบ : รายการสำหรับเด็ก พินัตส์ , พายสตอเบอรี่ , ฟรีดา
สิ่งที่ไม่ชอบ : คนไม่ดี , คนที่บ้าบอๆ
ส่วนดีเทลตอนได้พลัง(อาชีพ)ก็....
" โลลาเป็นเด็กสาวเจ้าของผมสีข้าวฟาง เป็นที่รักของคนในปาร์ตี้ เธอทั้งอบอุ่น ชอบดูแลคนอื่นๆ โดยไม่แบ่งแยก แน่นอนเธอค่อนข้างสื่อ จุดทุกคนที่รู้จักกับเธอรู้ดี เธอมีความโอมอ้อมเทียบเท่าพระแม่มาเรียหรือนักบุญเทเรซ่าเลย ท่ามกลางที่เกมไม่ใช่เกม การตายแค่ครั้งเดียวนั้นหมายถึงการลาโลกโดยแท้ไม่ต่างความจริง ดังนั้นทุกคนเลยปฎิญาณว่าจะคุ้มครองเธอราวกับน้องสาวให้ปลอดภัยจนกว่าวันที่ได้รับการปลดปล่อยจะมาถึง เพราะเธอนั้นคือ ดวงประทีปแห่งอรัญนครเลียม่า ....ระหว่างที่เธอกำลังสนุกกับเพื่อนๆ ในดันเจี้ยนที่ว่าปลอดภัย
ขณะนั้นเอง เธอก็เกิดตกลงไปในหลุ่ม(เธอเรียกมันว่าหลุ่มกระต๋าย)ภายในหลุ่มนั้นเป็นเขาวงกตขนาดยักษ์ที่ไม่ได้เกิดจากธรรมชาติแต่เป็นฝีมือของบางอย่างเธอเดาว่างั้น สิ่งที่ให้ความสว่างแกสถานที่นั้นคือเห็ดเรือนแสงที่ขึ้นจำนวนมากเท่านั้น เป็นแอเรียไร้ชื่อที่ยังไม่ถูกพบ ณ สถานที่นั้นก็เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ดุร้ายที่จะโจมตีเพลเยอร์ทันทีที่เข้ามาในระยะสายตา นับเป็นเรื่องเลวร้ายและเกินกำลังอาชีพสายซัพพอร์ตและแนวหน้าอย่างเธอจะรับมือได้ด้วยตัวคนเดียว เธอติดต่อเพื่อนในปาร์ตี้อยู่หลายครั้ง ผลลัพธ์จากความพยายามอันนับไม่ถ้วนคือกรอบและตัวอักษรสีแดงอันสิ้นหวังที่กำลังเย้ยหยันเธอ [พื้นที่ไม่มีสัญญาณ] ดูท่าว่าโชคจะไม่อยู่กับเธออีกแล้ว เธอเข้าใจสิ่งนี้ดีแต่เธอก็ยังพยายามติดต่อหาเพื่อนอย่างบ้าคลั่ง เธอทั้งอ้อนวอน รวมถึงด่าทอต่อสิ่งที่ไม่มีอยู่ต่อหน้าทั้งน้ำตา พยายามยึดสิ่งที่จะรั้งไม่ให้เสียสติไปพลางเอาตัวรอดจากมอนสเตอร์ที่ทั้งขวด กัด และพยายามจะฝังเขี้ยวฉีกทึ้งเธอ.... โลลายังร้องตะโกนต่อไป ร้องต่อไปปานต่อให้เอ็นคอหรือเส้นเสียงฉีกเธอก็ไม่สน(โชคดีที่เกมไม่ได้ลงลายละเอียดขนาดนั้น) เมื่อสงบใจได้แล้วเธอก็หาที่พักที่จะใช้เป็นแคมป์ แต่ในใจเธอนั้นพังทลายลงไปแล้ว เธอเดินอย่างคนหมดอาลัยตายอยาก "ฉันทำอะไรผิด เพราะว่า...ฉันยังทำหน้าที่เด็กดีไม่พอเหรอ ฟรีดา" เธอกล่าว
.... เวลาผ่านไป นับว่าโชคยังอยู่ข้างเธอบ้างที่มอนดรอปสิ่งจำเป็นอย่างอาหารให้ แต่เนื้อมันก็เคี้ยวยากและรสชาติก็หนืดแถมมีรสเค็มมาก(เธอไม่ชอบของเค็ม)แต่ก็พอประทั่งให้มีชีวิตต่อได้ แม้น้ำจากตัวมันจะเหนี่ยวไปหน่อย(อาหารสำรอง ขนม และน้ำของเธอหมดเกลี้ยง) ส่วนการนอน เธอได้นอนแค่วันละสามหรือสี่ชั่วโมงเพราะต้องคอยเฝ้าระวังจากพวกมอนสเตอร์จากทุกทิศทาง(บางตัวที่เป็นสายพันธ์ผสมกับแมลงหรือหนูดำดินได้) แบบนั้นถือเป็นปัญหากับค่าแต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเธอที่เริ่มค่อยๆ ชินแล้ว เธอมีพัฒนาการเมื่อได้มาอยู่ที่เขาวงกตนี่อย่างชัดเจนขึ้นจนอยู่ในระดับที่ไม่ต้องพึ่งพาใครอีก ถึงของดรอปจากมอนในที่นี่จะไม่ค่อยหรูแต่ด้วยเลเวล ค่าประสบการณ์ที่ได้มามากกว่าตอนรวมปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ดีกว่ามาก เธอเติบโตเป็นโซโล่เพลเยอร์ที่สามารถมีชีวิตด้วยตัวคนเดียวได้อย่างเต็มตัว ขณะเดียวกันก็แกร่งขึ้น สถานที่นี้ได้เปลี่ยนเธอเป็นคนใหม่แล้ว
วันหนึ่งเธอได้พบลูกมอนสเตอร์สายพันธ์หนึ่งชื่อ ลุร์ ที่ยังอยู่ในวัยเด็กซึ่งหลงจากฝูง รูปร่างของมันทำเธอยากที่จะพรรณาให้ใครฟังได้ชัดเจนนอกจากว่ามันคล้ายสุนัขไร้ขนแต่ผิวมันก็มีเกล็ด มีเขา ไม่มีหางและดวงตาสีดำบอด เธอตั้งชื่อมันว่า "ฟรีดา" ชื่อเดียวกับลูกหมาที่เธอเเอบเลี้ยงปิดเป็นความลับกับพี่ พ่อและแม่ที่ไม่เคยมีเวลาให้เธอ แต่ต่อมามันก็ตายจากเธอไป ด้วยสภาพถูกขยี้เละ ทุกคนว่าคงมีของหล่นลงมาทับ เเต่เธอรู้ความจริงผิดกับพวกตามืดบอดโง่บรมนั้น ... การพยายามที่จะสนิทกับฟรีดาตรงหน้าค่อนข้างยาก เช่นว่า มันกินอะไร ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เธอต้องสังเกต เรียนรู้ ที่จะอยู่กับมันสักพักเพราะเธออยากจะเป็นเพื่อนและรู้สึกว่ามันอาจมีอะไรเหมือนกับเธอก็ได้ มีหลายครั้งที่เธอถูกมันกัดแต่ตอนนี้ผลลัพธ์ที่ออกมาค่อนไปทางน่าพึ่งพอใจ ในท้ายที่สุดเธอกับ ลุร์ ตัวน้อยก็สนิทกันได้ วันนเวลาในสถานที่แห่งนี้เลยยังพอมีหวังอยู่ เธอจึงมีกำลังใจจะหาทางออกต่อไป และฟรีดาทำให้เธอสดใสและรู้สึกดี
แต่โลกไม่ได้ใจดีขนาดนั้น วันนั้นมีฝนตกน้ำที่ซึมผ่านดินได้ไหลลงไปในที่ที่โลลาอยู่ มอนสเตอร์ส่วนใหญ่ในที่นั้นเริ่มดุร้ายขึ้น พวกมันไม่ชอบที่ชื้นผิดกับเธอและฟรีดา ระหว่างที่กำลังฝ่ามอนหฤโหดเพื่อกลับแคมป์หลังการสำรวจโบราณสถานขณะที่ใกล้ถึงทางออกก็มีไซครอปโกเลมเขามาขว้าง พร้อมกับมีสัตว์ประหลาดตัวอื่นๆ ทั้งสิ้นเจ็ดแปดตัวไล่มาเธอเลยสู้อย่างไม่มีทางเลือก ความเหนื้อยล้า หนังตาที่หนัก ร่างกายเจ็บปวดเมื่อยเหมือนจะปริอแตก ทว่าเธอรีดแรงที่เหลือออกมาอย่างหนักด้วยพลังใจแล้วเหวี่ยงอาวุธในมือเข้าใส่ฝ่ายตรงข้าม เธอใช้สกิลที่มีอยู่ในสล็อตอย่างรอบคอบให้คุ้มที่สุด การต่อสู้ทั้งกดดันและตึงเครียดในสถานการณ์อยู่ในวงล้อมศัตรู แต่อย่างน้อยก็มีฟรีดาคอยระวังหลังให้พอที่เธอจะพักหายใจสักวินาทีหนึ่งได้ พวกเธอต่างปกป้องซึ่งกันและกัน
จนการต่อสู้ใกล้จะจบ พลังชีวิตของเธอเข้าโซนอันตราย เวทมนตร์ก็ไม่ค่อยมีเหลือใช้ ค่าสติของเธอก็ติดลบจนทำเธอให้เธอล้มทั้งยืน ตอนนั้นเองมีอาวุธชิ้นใหญ่พุ่งเข้ามาหาร่างเล็กอิดโรยของเธอ ฟรีดาที่อยู่ในระยะไกลได้พุ่งเข้ามาขวางผ่านการใช้ความสามารถของการเดินทางผ่านมิติความกว้างที่งอโค้ง มายืนรับการโจมตีแทนเธอ โลลานิ้งค้าง ภาพสุดท้ายที่เธอเห็นคือ ฟรีดาถูกทุบต่อหน้าต่อตา... มันเกิดขึ้นอีกแล้ว ... เธอกรี๊ดร้องมากกว่าครั้งไหนๆ กอดร่างที่เหลือแต่เศษเนื้อกับกระดูกพยายามรั้งเพื่อนคนเดียวที่อยู่ด้วยกันในสถานที่อันเปลี่ยวเหงานี้ และแล้วซากของฟรีดาระเหิดหายไป เธอกำแบมือก่อนจับอาวุธขึ้นใหม่ เธอกัดฟัดแน่นจนได้ยินเสียงของฟันที่เสียดสีกัน แล้วกระโจนร่างที่กำลังพังของเธอใส่สัตว์ประหลาดยักษ์
เธอทั้งฟัน แทง ทุบ ขยี้ ต่อย ทั้งขวดกระชาก ทั้งกัด เธอใช้งานสกิลทุกอย่างที่มีอย่างบ้าคลั้ง ร่างกายเธอส่งเสียงกรี๊ดร้องหนักแต่เธอไม่สนจนเธอทำลายศัตรูที่ฆ่าเพื่อนเธอและตัวอื่นๆ ที่หาที่ตาย ทุกอย่างจบลงเหลือเธอแค่คนเดียวพลังชีวิตเหลือ 2 เปอร์เซน เมื่อรู้สึกตัวเธอเก็บของจากการต่อสู้อย่างเงียบและเดินกลับแคมป์คนเดียวท่ามกลางนองน้ำที่ป่นกับเลือดและเหงื่อ เธอถอดใจหนัก "...จบแล้วสินะ น่าเบื่อจัง การเล่นฆ่าเวลาเนี่ย"
ผ่านไปอีกหลายวันสถานที่นั้นได้ทรมานเธอหลากหลายรูปแบบไม่ใช่แค่ร่างกายแต่ยังรวมถึงจิตใจที่เธอแต่งขึ้นมาด้วย การตายของฟรีดาครั้งที่สองนี่ทำเธอเจ็บปวดมากกว่าโดนพวกสัตว์ร้ายเสียบเหล็กในเข้าเธออย่างจังอีก
เธอนึกถึงหลายสิ่งหลายอย่าง เธอนั้นพยายามแล้วพยายามอีก พยายามมาตลอดมากกว่าเด็กรุ่นเดียวกันตั้งห้าเท่าเพื่อที่จะเป็นอย่างที่หลายคนอยากจะให้เป็น ทั้งเป็นเด็กดีเพื่อเป็นลูกที่ดีในสายตาคนในครอมครัวที่ชอบกดดัน เป็นนักเรียนดีเด่นทั้งที่รู้สึกขยะแขยงสายตาคนในห้องรวมทั้งคุณครูด้วย และเป็นหัวหน้าห้องที่น่าภาคภูมิซึ่งที่จริงเธอเกลียดหน้าที่ที่แสนน่าเบื่อนี่มาก ที่เธอทำตามที่คนอื่นบอกมาตลอดชีวิตก็เพราะตอนเป็นตัวเองทีไรก็มักมีแต่เรื่องไม่ดี การเป็นคนอื่นอย่างที่คนนอกอยากให้เป็นนับเป็นทางเลือกที่สบายกว่าหลายขุมและฉลาดเธอเชื่ออย่างนั้นแม้แต่ตอนเข้ามาติดในเกมนี่ เธอเข้ามาในเกมก็เพื่อเป็นตัวเองแต่สุดท้ายก็มันก็อีหร็อบเดิม แต่ตอนนี้เธอไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เธอแค่อยากจะฆ่า ฆ่าเท่านั้น และสนุก หัวเราะรื่นเริ่งไปกับมันด้วยใจบริสุทธิ์ ไม่ใช่ด้วยเหตุผลเพื่อจะมีชีวิต แต่เพื่อทำลายตัวเธอเอง ภาพในอดีตไม่มีความหมายสำหรับเธออีก ตลอดมาเป็นแค่การเล่นละคร ใจจริง และตัวจริงเธอคือมนุษย์กล่วงโบ๋ ที่ไม่รู้สึกอะไรแม้แต่ตอนฆ่าคนจรจัดใกล้บ้านที่ฆ่าฟรีดาด้วยค้อนบดเนื้อ เธอเป็นสัตว์ประหลาดน่าสมเพชและน่าอับอายที่แค่อยากจะสนองตอบความต้องการผู้อื่นเพื่อที่จะไม่รู้สึกว่าตัวเองประหลาด และหวังน้อยๆ ว่าคนอื่นจะมองเธออย่างที่เธอเป็น ไม่ต้องยอมรับก็ได้ แค่อย่าทิ้งเธอไปก็พอ ...แต่สิ้่งที่ทำมามันไร้ค่า ไร้ประโยชน์ ไม่มีความหมายทั้งหมดเลย
คืนนั้นเธอฝันถึงสถานที่แปลกประหลาด เธอกำลังล่องลอย ณ ที่นั้นเป็นที่ที่เธอพรรณาไม่ได้เลยว่ามันเป็นสถานที่เช่นไร กลับหัวกลับหาง สูงหรือต่ำ กว้างหรือใกล้ มีเก้าอี้ ตุ๊กตากระต๋าย นาฬิกา ตึกอาคารทรงหัวหอมพิลึก เ ที่นั้นมีดวงดาวเต็มไปหมดแต่พื้นหลังเป็นสีหลายเฉดสีที่สลับเปลี่ยนไปมา เธอเห็นโบราณสถานที่เคยเข้าไปสำรวจหลายครั้งก่อนสะดุ้งตื่น
เธอรีบเตรียมพร้อมตามปกติเพื่อออกล่า และระหว่างออกจากเขตแคมป์เธอก็พบกับร่างๆ หนึ่งรูปลักษณ์สิ่งนั้นเหมือนอวาตาร์มนุษย์ แต่เป็นภาพนอยด์เบลอๆ ระบุเพศไม่ได้ ไม่มีหน้า สูงเท่าเธอ(ซึ่งต่อมาเธอเรียกสิ่งๆ นี้ว่า นอยด์แมน) สิ่งนั้นทำสัญญาณมือให้เธอตามมา เมื่อมาถึงลานกว้างหน้าโบราณสถาน ทันใดนั้นมีแผ่นดินไหวรุนแรงขึ้น ฟิลเกิดฉีกออก พิคเซลแตก ร่างอวาตาร์เธอสั่นราวกับน้ำกระเพื่อม รู้สึกเจ็บที่หัวราวมีคนเอาค้อนตีนเข้าใส่แล้วพยายามกระชากวิญญาณเธออกจากร่างอวาตาร์ ภาพที่เห็นผ่านจอมีภาษามนุษย์ต่างดาวและตัวเลขวิ่งไปมาจนทำเธอจะบ้า เธอมองไปที่มันที่นำเธอมาที่นี่ เธอยกอาวุธขึ้นหมายจะทำลายต้นตอความทรมาน แต่ทันทีที่เข้าถึงทุกอย่างก็ดับลง ...
โลลารู้สึกตัว เธอนอนควับหน้าอยู่หน้าลานกว้าง เธอลุกยืนขึ้นพลางเจ็บที่หัว ความปวดร้าวจากตอนนั้นมันเกินจะจินตนาการและเธอไม่คิดว่าจะอยากได้มันอีก เธอกวาดตาหา 'มัน' เธอพบเพียงความว่างเปล่ามีแค่เธอคนเดียว แต่ว่าเมื่อเธอสังเกตที่มือ มือนั้นกำลังถือของใหญ่โต มันเป็นค้อนศึกที่ใหญ่กว่าผู้ใหญ่ที่สูงกว่าเธอหลายเท่า ลวดลายถูกดีไซต์สวยงามขณะเดียวกันก็สื่อถึงความบ้าคลั้ง ตัวหัวทำจากวัสดุบางอย่างที่ไม่เคยเห็นมันส่องแสงสีแดง ถูกแกะสลักเป็นหัวของสัตว์ร้ายที่เธอไม่เคยเห็นคล้ายจะผสมหมี อีกา และหมาป่าในหัวๆ เดียว และเมื่อสังเกตตัวเอง โลลาก็ตกใจ เธออยู่ในชุดหนังเสริมเกราะอ่อนบางจุดทับด้วยโค้ตมีฮู้ดยาวสีดำขลิบแดง รองเท้าบู๊ตยาวถึงเข่า ร่างกายยังสูงเท่าเดิมแต่สีผิวจากขาวเป็นแทนอ่อน เส้นผมดำสนิท พอขย้ายหน้าจอส่วนตา สีตาก็เปลี่ยนเป็นสีทองเหลื่องปนทองแดง เธอนิ่งค้าง ที่ปลายเท้าเธอมีข้อความเขียนไว้ว่า
"จงน้อมรับพลังเสีย ลูกหลานแห่งออร์เกธมอสเอ๋ย"
หลายอย่างประเดประดังเข้าหาเธอจนเธอปวดหัวอีกครั้ง เธอลองกดไปที่เมนูปรากฎว่าข้อมูลทุกอย่างในอวาตาร์ที่ใช้ถูกเปลี่ยนหมด อาชีพเก่าที่ใช้มาตลอดถูกเปลี่ยนเป็น <แฮมเมอร์ เฮด นาฮัลด์> เธอไม่เคยได้ยินอาชีพนี่มาก่อน เว้นเสียแต่ข่าวลือของอาชีพพิเศษที่เรียกกันว่า อาชีพสาย แชมป์เปี้ยน ที่มีน้อยคนจะได้และมีจำกัดจำนวนผู้ถือครอง โดยการได้จะต้องผ่านเงื่อนไขและความยากที่โหดหิน บางทีอาชีพนี้ก็อาจจะเป็นหนึ่งในเจ็ดอาชีพแชมเปี้ยนก็ได้ และเธอคงจะเป็นคนแรกที่ได้มันมาครอง
ทันที่ที่เธออ่านจบเธอหัวเราะในลำคอก่อนระเบิดเสียงหัวเราะด้วยความบ้าคลั่ง บางอย่างข้างในตัวเธอได้ตื่นขึ้นแล้ว พร้อมตัดสินใจว่าต่อไปนี้เธอจะฆ่าทุกอย่างที่เจอในเขาวงกตนี้ ทุกอย่างที่เขามาในสายตาราวกับเธอเป็นมอนสเตอร์เสียเอง เหยื่อรายแรกของเธอคือพวกลุร์น่าสมเพช ในเมื่อเธอหาทางออกไม่ได้ และมันไม่มีอยู่ ไม่ว่าจะพยายามเท่าไร เธอยอมแพ้ เลือกจะทำสิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ นั้นคือเธอจะขยี้ ทุบ ทุบ และ ทุบอะไรก็ตามที่เห็น หนึ่งตัว สองตัว สามตัว สี่ตัว... เธอจะทำอย่างนี้ตลอดไปจนกว่าเธอจะมีใครสักคนฆ่าได้
โลกใบนี้มันดีจังเลย น่าขยะแขยง โสโครก โคตรน่ารังเกียจ ฉันรักมัน!!
..........
อือ ฟีแบ็คที่ผมได้หลังจากนั้นคือ "สาวน้อยเวททมนตร์จริงเหรอ?"