เป็นการระบายสิ่งที่เจอครับ แต่เอามาเปรียบเปรียบเปรยอ้อมๆเพื่อเลี่ยงไม่ให้เนื้อหามันฮาร์ดคอร์จัดเกินไป
ณ เมืองแห่งหนึ่ง ได้มีกฎหมายว่าการขายพิซซ่านั้นผิดกฎหมาย ยกเว้นเฉพาะภายในเขตตลาดสีส้มสดเท่านั้นที่ขายได้ แต่ห้ามนำพิซซ่าออกข้างนอก ถ้าตรวจพบโดนรวบไม่สนว่าจะแก่ใกล้ลงโลงหรือเป็นเด็ก 5-6 ขวบ อยากกินนักก็กินภายในตลาดให้เรียบร้อย ถ้าเหลือเป็นเศษก็ให้จัดการยังต้องจัดการกันเองในตลาด
ตลาดแห่งนี้มีนโยบายเปิดรับบุคลากรที่ทำพิซซ่าเก่งๆ เพื่อให้คนที่มีความสามารถด้านนี้ แต่เพราะโดนทางการกดไว้ได้แสดงการทำพิซซ่าหลากหลายสูตรเพื่อขายเลี้ยงชีพและปลดปล่อยซึ่งความสามารถด้านนี้ อาจไม่จำเป็นต้องมีพิซซ่าอย่างเดียว แต่ให้มีสินค้าร่วมรายการกับพิซซ่าได้ ผู้ขายเมื่อจะตั้งแผงจะต้องเสนอสินค้าแล้วให้คณะบริหารอนุมัติก่อน โดยเป็นระบบขายเวียน เช่าเป็นรายกะและรายวัน (ตลาดเปิด 6.00-18.00 น. แต่ละแผงจะมี 2 เจ้าของ เปลี่ยนกันตอนเที่ยง กรณีบางแผงเหมาทั้งวันจะต้องจ่ายแพง+มีค่าธรรมเนียม)
ทว่าในทางปฏิบัติ ระบบอนุมัติไม่ค่อยมีความเป็นธรรมนัก เพราะมีกรณีเจ้าของเดียวเปิดที 2-3 แผงแถมบางแผงเหมาเป็นสัปดาห์ หรืออนุมัติพวกพิซซ่าสูตรซ้ำๆกัน บางร้านก็ไม่มีพิซซ่าขายเลย มีแต่สินค้าที่จะขายข้างนอกก็ได้ไม่ผิดกฎหมาย ส่วนพวกพิซซ่าสูตรล้ำๆก็ได้อนุมัติบ้างไม่ได้อนุมัติบ้าง (ค่อนไปอย่างหลังมากกว่า)
แม้ว่าจะมีพวกเอือมระอาไปเปิดตลาดใหม่ในเขตนอกเมืองที่ไกลหูไกลตาส่วนกลาง แต่ก็ไม่ปังเพราะ conection ทางสังคมไม่เท่าเจ้าของ+ทีมงาน+แบรนด์ตลาดสีส้มสดที่อยู่ในเมือง คนจดจำแต่ตลาดส้มมากกว่า แม้จะโปรโมท+มีรถรับส่งแค่ไหนก็ยังสู้ลำบาก บางที่โดนเจ้าหน้าที่รวบเพราะไม่มีสัมปทาน
แม้บางตลาด เช่น ตลาดสีเทา-ส้มอ่อนจะเปิดกว้างให้ขายได้ แต่ก็ต้องไปขายโซนด้านหลัง โซนเดียวกับที่ขายสื่อน้องพร บริการนวดแนวคุณพร ร้านโคมเขียว หรือตลาดสีเขียวอ่อนที่อนุญาตแค่บางสูตร
ทำให้ตลาดส้มสดอยู่ในสถานะกึ่งผูกขาดต่อไปสำหรับวงการพิซซ่า