แบบว่าเคยเชื่อต่อวาทะหรือคำที่เอามาPopraganda แต่พอแสวงหาคำตอบหรือไปเจอกับตัวเองกลับไม่เป็นอย่างที่หวังจนเปลี่ยนทัศนะคติครับ
...สำหรับผมมี...1.คนจนจริงใจเป็นคนดีทางใจอันนี้ผมเคยเชื่อเพราะเมื่อก่อนผมไม่ค่อยมีสังคมที่ไหน ดูจากละคร หนัง การ์ตูนบางเรื่องที่นำเสนอว่าคนรวยเป็นพวกไม่จริงใจ เอาแต่หาผลประโยชน์ เจ้าเล่ห์ หน้าซื่อใจคด ส่วนคนจนน่าสงสารต้องต่อสู้กับสิ่งเหล่านั้นด้วยความดีและความเจริญทางจิตใจ
แต่หลังจากที่ผมได้ไปอยู่ในสังคมคนจนจริงๆ คือได้อยู่ในกลุ่มเฟซเป็นพวกคนหาเช้ากินค่ำอาชีพหนึ่ง เป็นงานบริการอย่างหนึ่งที่ผมสนใจ แต่พอคลุกคลีจริงๆขอบอกเลยว่าน่าปวดหัวมาก บางคนดีพูดด้วยได้ แต่พวกที่แย่ๆก็เยอะพอตัว เคยติอย่างหนึ่งเรื่องการไม่คำนึงถึงความปลอดภัยลูกค้า ผลคือโดนคนหนึ่งด่ายับ แถมยังลากกรณีผมไปด่าในเฟซส่วนตัวของมัน อ้างว่ารายใหญ่ยังเคยทำแบบนี้เก่งแต่เจ้าเล็กๆ(แต่ชาตินึงจะเห็นเจ้าใหญ่เผลอทำอย่างนั้นที แต่ถ้าเป็นระดับเดียวกับมันทำเหี้ยๆแบบนั้นเพียบเห็นเพียบ)
พอแย้งเรื่องไม่พอมีความพอดีดีก็ตัดพ้อแทนที่จะปรับปรุง บางคนในนั้นพอเพื่อนร่วมอาชีพทำผิดแล้วมีคนแย้ง(นอกกลุ่มในเพจดัง)ก็ไปด่าเขาเสียๆหายๆ ย้ำตรงเรื่องอีกฝ่ายโง่ ไร้สมอง บุลลี่เรื่องรูปร่างหน้าตา เรื่องใส่แว่นสารพัด อ้างขาดทุนรัฐไม่ช่วยสนับสนุนเงินให้ ถ้าไม่ให้ทำอาชีพนี้จะให้ไปปล้น-ข่มขืนหรอ ไล่ไปใช้บริการอย่างอื่น ทำเป็นหยิ่งว่าด่าพวกกูสุดท้ายก็ยังเห็นมาใช้บริการพวกกูยังกับฝูงคนอพยพ เอาแต่ปิดปากไม่ให้เค้าหมารวมแต่เผือกทำตัวให้น่าเหมารวม ท้าตี-ท้าบวกไปทั่ว แต่พอมีคนทนไม่ไหวด่ากลับ-ท้ากลับก็อ้างเพศแม่ซะงั้น(พวกมันส่วนมากเป็นผู้หญิง) แทนที่จะดึงสติก็พากันลงเหวซะงั้น
ผลคือไม่สงสารคนจนทุกคนแบบสุดตัวอย่างเมื่อก่อน เลือกจากการประพฤติปฎิบัติเอา ใครทำดีสนับสนุน ใครทำชั่วแล้วอ้างจนก็...ตายยกครัวไปก็เรื่องของมึง
2.เพศหญิงต้องได้รับการคุ้มครองเพราะผมตอนเด็กๆถูกปลูกฝังเรื่องการให้ความเคารพผู้หญิงในฐานะเพศแม่ ห้ามใช้กำลังหรือด่าทอถ้าอีกฝ่ายเป็นเพศหญิง ห้ามนินทาผู้หญิง เพราะพวกเธอคือเพศเดียวกับแม่ ยังไงแรงหญิงก็สู้แรงชายไม่ได้ อีกทั้งด้วยบุคลิกผมตอนเด็กๆนั้นเป็นคนนุ่มนิ่ม ไม่ค่อยชอบเล่นกับพวกผู้ชายเพราะพวกนั้นเล่นแรง ทำอะไรสกปรก ชอบพูดเรื่องใต้สะดือ เสียงดัง เลยอยู่กับกลุ่มผู้หญิงมากกว่า
แต่สืบเนื่องจากกรณีก่อน เพราะเมื่อคบไปนานๆผมก็เริ่มเจอด้านมืดของสังคมสาวๆ ทั้งเรื่องขี้นินทา พูดคำหยาบ ล้อเลียนปมด้อยคนอื่น ขี้ขโมยก็ไม่แพ้สังคมผู้ชายเลย ยิ่งตอน ม.ต้นยิ่งหนักเพราะมีลูกเพื่อนแม่เข้าผสมโรงด้วย ยุให้คนในห้องรังเกียจ ไล่ไปนั่งหลังห้อง สู้กลับก็ไม่ได้เพราะกำแพงทางเพศ เคยตบกลับผลคือครูเข้าข้างพวกมันเพราะครูเองก็เป็นเพศหญิงและเข้าข้างคนเพศตัวเองเหมือนกับว่าเคยไปตีฉิ่งกับพวกมัน
พอขึ้น ม.ปลาย-มหาลัยก็คบกลุ่มเพื่อนผู้ชาย(มีผู้หญิงปนบ้างแต่เป็นแนวๆที่ไม่หญิงจ๋ามาก กับสาวห้าว) เห็นได้ว่าดีขึ้นเยอะ แสดงให้เห็นว่าเรื่องความหยาบคายหรือเรื่องเล่นแรงก็มีทั้งสองสังคมเพศนี่แหละ มีดี-มีเลวปนๆกันไป ไม่ควรเข้าข้างเพศใดเพศหนึ่งมากเกินไป