สรุปหัวข้อนี้ พระเอกเลือกใช้แต่ทหารประจำการที่เฝ้าเมืองเฝ้าด่านดูแลความสงบแต่ทำใจไปเกณฑ์ชาวบ้านมาเป็นทหารไม่ได้แบบที่สมัยโบราณเขาทำกันเป็นเรื่องปกติ เลยกลายเป็นกองกำลังน้อยกว่า
- คนดีหลงยุค อิเซไค นั่นแล
- แนวอิเซไก ส่วนใหญ่ก็คล้ายๆกัน ตอนแรกที่กำลังพลน้อยก็อาจจ้างจากชาวบ้านที่คัดเลือกมา แต่ส่วนใหญ่ตัวเอกก็จะพัฒนากลุ่มแรกให้พวกนี้เป็นกองทหารประจำไปเลย มากกว่าจะเกณฑ์มาชั่วคราวบ่อยๆ
- คนดี อิเซไก ต้องไม่บังคับชาวบ้านไปรบ ฮะฮ่า
การเป็นทหารอาชีพถึงเป็นแนวคิดยุคหลังไงล่ะครับ และเป็นยุคที่ต้องมีรายได้มหาศาลด้วยเพระาทหารอาชีพราคาแพง
แน่นอน การเอาคลื่นมนุษย์ไปเล่นงานเยอรมันที่เน้นคุณภาพและเครือ่งจักรนั้นก็ได้ผลเช่นกันจากสถิติจะเห็นว่าทหารโซเวียตตายมากกว่าชาวเยอรมันสามเท่าในแทบทุกศึก
แต่นั่นก็แสดงว่าคุณภาพกลบความแตกต่างของจำนวนที่มากเกินไปไม่ได้
ผมถึงค่อนข้างคาใจกับพระเอกอิเซไคหลายๆคนเหมือนกันที่คิดว่าความแตกต่างของกลยุทธจะกลบความแตกต่างด้านจำนวนได้ขนาดนั้น
[quote/]เพราะงี้พระเอกเรื่องที่ผมอ่าน คนแต่งเลยเตือนว่า"MC แม่ม สวะ" ตั้งแต่หน้าสารบัญสินะครับ พี่แกเกณฑ์จากเมืองที่ยึดมาได้หมด แบบหมดจริงๆ คุณภาพช่างมัน เอาจำนวนเข้าข่ม(โครงสร้างกองทัพของเรื่องมันแบบ ทหารเกณฑ์กากๆซะส่วนมาก ทหารฝึกจะเป็น ทหารช่าง แล้วก็ตัดไปไนท์ กับโนเบิลเลย ทหารช่างมีหน้าที่หลักคือคุ้มกันแม่ทัพ หรือ โนเบิล)พี่แกไม่สนใจเรื่องที่ว่าเกณฑมามากไปแล้วเศรษฐกิจจะมีปัญหา ไม่สิ มีปัญหายิ่งดี เพราะเป็นเมืองศัตรู เกณฑ์มาให้ทัพใหญ่ๆเข้าไว้ แล้วเอาชื่อเสียงตัวเองกับขนาดกองทัพอันมหาศาลข่มขู่อีกฝ่ายให้ยอมจำนน พออีกฝ่ายยอมก็เกณฑ์มายัดๆกองทัพแล้วไปต่อ จนถึงเมืองหลักอีกฝ่าย
มุกนั้นผมเจอแค่ในชาดกอย่างมหโสถชาดกเท่านั้นล่ะครับ
เพราะแม้แต่มองโกลยนังต้องมีการรวมเผ่าต่างๆหรือมีข้อตกลงกันบ้างว่าจะรวมกองทัพกันอย่างไรเพราะเราอาจจะฆ่าทหารได้ แต่ไม่มีใครบอกว่าทหารจะไม่หนี
ทหารที่มีความต่อต้านรัฐฐาลที่สุดคืออเมริกาล่ะมั้ง
ที่บอกว่าสมัยเวียดนาม ดราฟท์ชาวบ้านไปก็จะเจอการฆ่าผู้บังคับบัญชาตลอด
ดราฟท์ไม่ใช่ยาวิเศษที่แก้ได้ทุกโรคนะครับในทางปฏิบัติ