
ผู้กำกับยามาโมโตะ ยูทากะ หรือยามะคัน
ประกาศ Project ภาพยนตร์อนิเม Original จอเงินเรื่องใหม่ในชื่อ "ฮาคุโบะ"
หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า "Twilight"
สถานที่ในการดำเนินเรื่องคือเมืองอิวากิ จังหวัดฟุกุชิมะ
คาดการว่าจะฉายในปี 2018
Project นี้ผู้กำกับยามาโมโตะเปิดระดมทุนสาธารณะผ่านทาง CAMPFIRE
โดยตั้งเป้าไว้ที่ 15 ล้านเยน ภายในเวลา 64 วัน
สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ :
https://camp-fire.jp/projects/view/11715นอกจากนี้ผู้ร่วมระดมทุนจะได้รับของตอบแทนตามจำนวนเงินที่ให้การสนับสนุนด้วย ตัวอย่างเช่น
・ใบประกาศเกียรติคุณ (ข้อความจากผู้กำกับ)
・นิยายต้นฉบับ (※พร้อมลายเซ็นผู้กำกับ)
・ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกผู้ให้การสนับสนุน Project
(เช่น ได้รับแจ้งความคืบหน้าต่างๆให้ทราบทางเมล์)
・ได้มีชื่อขึ้นใน end credit
ฯลฯ
มีตั้งแต่ 5,000 เยน จนถึง 500,000 เยน
(ส่วนกรณีที่ต้องการถอนเงินคืน จะมีการเพิ่มเมนู Return เข้ามาให้ในภายหลัง)
นอกจากนี้ที่หน้าเว็บยังมีนิยายฉบับ Web Novel ลงเอาไว้ด้วยกันทั้งหมด 2 ส่วน ดังนี้
【ครึ่งแรก】
https://camp-fire.jp/updates/view/25052#main【ครึ่งหลัง】
https://camp-fire.jp/updates/view/25051#mainสำหรับตัว Web Novel ผมทดลองแปลคร่าวๆดูแค่ส่วนต้นๆตามความเข้าใจนะครับ
หากมีจุดใดที่แปลผิดพลาดสามารถทักท้วงได้นะครับ
「ฮาคุโบะ」
โดย ยามาโมโตะ ยูทากะ
ฉันน่ะ ชอบชุดเบลเซอร์มากกว่าชุดกะลาสี
*(เครื่องแบบนักเรียนชุดเบลเซอร์จะเป็นแบบเสื้อสูท)
โรงเรียน ม.ต้นรัฐบาลต้องใส่ชุดกะลาสีสีดำ ผ้าผูกคอสีขาว
เชยชะมัดเลย
พี่ชายเป็นคนที่หัวดีกว่าฉันไปเสียหมด
สอบเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมฯได้ แถมยังได้สวมเบลเซอร์สีกรมท่าด้วย
น่าอิจฉาจัง
ฉันเลือกโรงเรียนม.ปลายจากเครื่องแบบนี่แหละ
ถึงพ่อแม่จะพยายามทุกวิถีทางแต่ก็ไม่เป็นผล และยังโดนล้ออีก ขยะแขยงจนสิ้นหวังเลยล่ะ
ตั้งแต่ ม.ต้นปี 3 เป็นต้นมาก็เลยพยายามตั้งใจเรียนอย่างหนัก
และก็เลือกโรงเรียนที่อยู่อันดับสูงสุดในเอกสารแนะแนวไว้
ถึงผลสอบพรีเทสต์ตอนเดือนธันวาคมจะออกมาได้ C แต่ก็สอบผ่านมาได้ราวกับปาฏิหาริย์เลย
จากบ้านไปโรงเรียนไม่ว่าจะขึ้นรถไฟหรือรถเมล์ก็ใช้เวลา 2 ชั่วโมง
ทุกทีฉันตื่นนอนตอนตี 5 ครึ่ง แล้วก็หลับต่อ
แต่ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันจะได้สวมเสื้อเบลเซอร์
ตอนที่บังเอิญได้มองในกระจกที่อยู่ตรงหน้าก็พลันคิดว่า "น่ารักจัง" ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ไม่ใช่ตัวเองนะ หมายถึงเครื่องแบบน่ะ
คงต้องสังคายนาร่างกายตัวเองใหม่แล้วสิ
แต่ก็ยังลดน้ำหนักไม่ได้สักที
พร้อมจับก้อนเนื้อที่พุงไปพลาง
สำหรับกิจกรรมชมรมฉันอยู่ชมรมดนตรีนะ
ตอนแรกฉันถูกชวนเข้าชมรมแตรวงโดยโอคามุระซังซึ่งเป้นเพื่อคนแรกในชั้นแต่ก็ได้ปฏิเสธไป
เพราะอยากจะกลับไปเล่นไวโอลินแบบที่เคยเล่นตอน 4 ขวบ
ถึงการที่วงออเคสตร้ามีสมาชิเพียง 10 คน จะเป็นเรื่องที่ดูน่าเจ็บปวดก็เถอะ
แต่เพราะตอน ม.ต้น มีน้อยกว่านี้อีกก็เลยชินแล้วล่ะ
ดีใจจังเลย ในที่สุดฉันก็ได้เล่นในวงเล็กๆแทนที่จะต้องมาเล่นเดี่ยวแล้ว
-----------------------------------------------------------------------