[Type-moon] ระวังตัวกันเอาไว้นะเหล่ามาสเตอร์และแฟนบอยทั้งหลาย

[kass]

[quote/]


ก็นั่นล่ะครับ ผมมองว่าถ้าพวกสาวกซ่าขณะที่กิลยังมีชีวิตอยู่คงโดนกำจัดไปหมดแล้ว เพราะกิลค่อนข้างจะซีเรียสในเรื่องการปกป้องมนุษย์จากสิ่งเหนือธรรมชาติ


ส่วนแมงมุมนั่นออกแนวระดับ lovecraft แล้วล่ะครับ ไม่ใช่สเกลพลังเดียวกัน

กิลมันไม่ได่ซีเรียสเรื่องปกป้องมนุษย์หรอกครับ ถ้ามันจะลุยก็น่าจะเพื่อสนองนีทตัวเองมากกว่า55

[ancora]

[quote/]


กิลมันไม่ได่ซีเรียสเรื่องปกป้องมนุษย์หรอกครับ ถ้ามันจะลุยก็น่าจะเพื่อสนองนีทตัวเองมากกว่า55

ถ้าเชื่อ secret gardenในCCC กิลไล่จัดการตัวประหลาดทั้งหลายเพื่อปกป้อง"มนุษยชาติ"นั่นแหละ
ในเนื้อเรื่องเอนคิดูจะถามตรงๆเลยว่าทำไมถึงต้องเสี่ยงออกมากำจัดปิศาจ
ทั้งที่ไม่ใช่คำสั่งของเทพเจ้า และไม่ได้ทำเพื่อประชาชน(เพราะแค่กิลปกครองอยู่ประชาชนก็เป็นทุกข์แล้ว)

คำตอบคือมันเป็นการวางรากฐานเพื่ออนาคต
(และกิลตอบกลับด้วยว่าการเป็น"ผู้ดูแล"มันไม่ใช่แค่คุ้มครองป้องกันอย่างเดียว วิธีการแบบลมเหนือก็จำเป็น)
อนาคตที่กิลเห็นคือการที่มนุษยชาติจะออกจากโลกนี้แล้วท่องไปในห้วงอวกาศ

อะไรทำนองนั้นแหละครับ

กิลเกรียน(อาเชอร์)กับราชาปราชญ์(แคสเตอร์)มันก็คนเดียวกันนะ

[zethys]

เหมือนว่าอาเชอร์ตู้ทองจะเป็นอวตารความเกรียนของพี่แกมาแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากกว่าอ่ะนะ


ปัญหาอย่างเดียวถ้าเอาเซอร์เวนท์มาสู้กับสาวกก็คือ ส่วนใหญ่สาวกมันสายเล่นของ เซอร์เวนท์มันสายสู้ตรงๆ


โอกาสแพ้สูงมาก ยิ่งถ้าไม่รู้เงื่อนไขในการทำลายพลังของอีกฝ่าย เพราะสาวกหลายตัวใช้RM กันเป็นที่สนุกสนาน


พูดง่ายๆคือเปิดฟีลบัพตัวเองกันสะบั้นหั่นแหลก ในขณะที่เซอร์เวนท์ตัวเปล่าเล่าเปลือย โอกาสบินกลับจุดเซฟสูงมั่กๆ

[kass]

[quote/]

ถ้าเชื่อ secret gardenในCCC กิลไล่จัดการตัวประหลาดทั้งหลายเพื่อปกป้อง"มนุษยชาติ"นั่นแหละ
ในเนื้อเรื่องเอนคิดูจะถามตรงๆเลยว่าทำไมถึงต้องเสี่ยงออกมากำจัดปิศาจ
ทั้งที่ไม่ใช่คำสั่งของเทพเจ้า และไม่ได้ทำเพื่อประชาชน(เพราะแค่กิลปกครองอยู่ประชาชนก็เป็นทุกข์แล้ว)

คำตอบคือมันเป็นการวางรากฐานเพื่ออนาคต
(และกิลตอบกลับด้วยว่าการเป็น"ผู้ดูแล"มันไม่ใช่แค่คุ้มครองป้องกันอย่างเดียว วิธีการแบบลมเหนือก็จำเป็น)
อนาคตที่กิลเห็นคือการที่มนุษยชาติจะออกจากโลกนี้แล้วท่องไปในห้วงอวกาศ

อะไรทำนองนั้นแหละครับ

กิลเกรียน(อาเชอร์)กับราชาปราชญ์(แคสเตอร์)มันก็คนเดียวกันนะ

ไอ้บทนั่นก็เคยอ่านผ่านๆตามาแล้วเเหละ ส่วนนึงผมคิดว่านิสัยกิลมันออกแนวๆถ้ามันจะสู้คือสู้
(จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่) ตามนีทของตัวกิลมันเอง ถ้ามันจะไม่สู้ก็คือไม่สู้ แบบตอนเทียแมท
ถึงกับยอมสละตัวเองรับแสงของเทียแมทเต็มๆ อารมณ์มันคาดเดาไม่ได้ ส่วนตัวคิดว่าถ้าเจอสาวก
กิลมันก็ไม่น่าจะพุ่งเข้าใส่เลยต้องดูฟิลลิ่งของในตอนนั้นด้วย เพราะในเฟทซีโร่มันก็เป็นหนึ่งใน
ต้นเหตุของหายะของเมืองๆนึงเลยเหมือนกันจะบอกว่านี่เป็นวิธีการแบบเหนือลมก็ไม่น่าจะใช่แหละ
ดูตามนีทของกิลมันเองล้วน บทจะดีก็ดีใจหายบทจะร้ายก็ร้ายเต็มๆ

[samuison]

ดูจากคำพูดกิล....ความสัมพันธ์ระหว่างกิลกับมนุษยชาติ ผมมองเป็นระหว่างไจแอนท์กับโนบิตะน่ะครับ


ของของนายคือของของฉัน ของของฉันคือของของฉัน แต่หากมีคนอื่นมาแกล้งโนบิตะนอกจากตนเองก็จะมาช่วย 


เท่าที่มีการใบ้มารู้สึกว่า การตัดสินใจของกิลกับเอ็นคิดู คือ ตัวตัดสินอนาคตของมนุษยชาติน่ะครับ


ที่กิลหงุดหงิดเพราะมนุษย์ไม่ได้สร้างโคโลนี่ที่อวกาศสักทีนั่นเอง และวิทยาศาสตร์นั้นไม่ได้ห่วย เพราะคนอย่างเทสล่านั้นเทพมาก แค่บางครั้งความสามารถมนุษยชาติแพ้ทางพวกสาวก เลยต้องพึ่งพวกวีรชนหรือคนอย่างกิลคอยช่วย

[kass]

ดูจากคำพูดกิล....ความสัมพันธ์ระหว่างกิลกับมนุษยชาติ ผมมองเป็นระหว่างไจแอนท์กับโนบิตะน่ะครับ


ของของนายคือของของฉัน ของของฉันคือของของฉัน แต่หากมีคนอื่นมาแกล้งโนบิตะนอกจากตนเองก็จะมาช่วย 


เท่าที่มีการใบ้มารู้สึกว่า การตัดสินใจของกิลกับเอ็นคิดู คือ ตัวตัดสินอนาคตของมนุษยชาติน่ะครับ


ที่กิลหงุดหงิดเพราะมนุษย์ไม่ได้สร้างโคโลนี่ที่อวกาศสักทีนั่นเอง และวิทยาศาสตร์นั้นไม่ได้ห่วย เพราะคนอย่างเทสล่านั้นเทพมาก แค่บางครั้งความสามารถมนุษยชาติแพ้ทางพวกสาวก เลยต้องพึ่งพวกวีรชนหรือคนอย่างกิลคอยช่วย

อึมก็น่าจะประมาณนั้นแหละครับ จริงๆกิลถ้ามันตัดเรื่องความเกรียนตอนภาคสเตย์ไนท์ไปอะไรๆ มันก็พอจะดูดีในระดับหนึ่ง
เหมือนๆไจแอนท์ในหลายๆมูฟวี่ของโดราเอม่อน