ช่วงนี้วงการพระ นี่มาแรงกันจัง อยากตั้งมู้มานานล่ะว่า สาเหตุมันจากอะไรกันแน่

[sariora123]

ถ้าพระพุทธศาสนา จะเผยแพร่ไปต่างชาติ ต้องตัด พิธีกรรมไม่จำเป็น นิทาน ตำนาน ออก เอาแต่คำสอน (ซึ่งก็มีพระบางท่านทำแล้วและได้ผลด้วย) ซึ่งผมจะเรียกว่า วัดเผยแพร่
แต่ที่เป็นข่าวดังๆ ที่เห็นกันเยอะในต่างประเทศส่วนมากก็ แค่ วัดไทย สาขาต่างประเทศที่ มีไว้เพื่อ(ทำเงิน?) คนไทยในต่างประเทศเท่านั้น
ไม่งั้นฝรั่งก็มองว่า ก็ถือคริส หรือ ไร่ศาสนาเหมือนเดิมไปดีกว่า

นิทาน ส่วนมากมีประโยชน์ ตรงใช้สอนได้ ครับ

ปัญหาคือ คนพุธทโดยเฉลี่ย ฟังแล้วคิดตามไม่ได้
เชื่ออย่างเดียวว่า จริง

[Rem 870]

[quote/]


ลองดิ ครับยาก และเละทั้งวงการสงฆ์

พระคึกฤทธิ์ เคยพูดว่า ทำไมเราถึงต้องจัดงานศพแบบนี้
ในเมื่อ ตามหลักพุทธจริงๆ แล้วไม่มีบอกให้จัดงานศพ สวดศพแบบที่ทำกันในปัจจุบัน นะครับ

ขนาดพระผู้หลักผุ้ใหญ่ ยังไม่อยากคิดจะเปรี่ยน เพราะอ้างว่าเป็นประเพณีทำสืบมา

แต่เสือกไม่สอนว่าจริงๆ แล้วพุทธดั้งเดิมแล้วควรทำอย่างไร


บอก วงการพระ นี่บอกเลยว่า เน่ายันไส้ในเยอะ พระกลุ่มที่รู้กันก็ไม่อยากจะยุ่งเพราะเปรี่ยนอะไรไม่ได้

  งานศพคืนนึงนี่จ่ายเงินอ้วกเลยนะครับพระมากี่คนก็ต้องใส่ซองเท่านั้น บางวัดมีขั้นต่ำด้วยนะ สมมุติมา 1 คนจ่ายให้ 1,000 บาทมา 10 คนก็จ่ายให้ 10,000 บาท   พัดลม 1 ตัววันหนึ่งมีค่าเช่าด้วยนะบางวัดคิด 400  พัดลมไอน้ำวันนึงคิด 1,000 บาท สาธุมายพระพุทธเจ้าช่วย 

[blakaros]

[quote/]  งานศพคืนนึงนี่จ่ายเงินอ้วกเลยนะครับพระมากี่คนก็ต้องใส่ซองเท่านั้น บางวัดมีขั้นต่ำด้วยนะ สมมุติมา 1 คนจ่ายให้ 1,000 บาทมา 10 คนก็จ่ายให้ 10,000 บาท   พัดลม 1 ตัววันหนึ่งมีค่าเช่าด้วยนะบางวัดคิด 400  พัดลมไอน้ำวันนึงคิด 1,000 บาท สาธุมายพระพุทธเจ้าช่วย 

ถ้าจำได้   ก่อนข่าวสีกากอล์ฟจะมีช่วงนึงที่มีคนเอาค่าใช้จ่ายต่อคืนของงานศพมาแฉ   ถ้าวัดดังๆนี่เหยียบแสน   รองลงมาหน่อยนี่หลักหมื่นนะครับ   ต่างจังหวัดยังหลักหมื่นเลย




สมัยบวชได้ลงสวดศพอยู่ 4-5 คืน   ได้ใส่ซองมาเกือบ 2 พัน   คิดเอาละกันว่าสะพัดขนาดไหน

[sariora123]

แถวบ้านผมใส่ซองแค่ 200 เท่านั้นแหละ เจ้าอาวาท ให้400




นอกนั้น ค่าข้าวเลี้ยงแขก


ก็ไม่เยอะเท่าไรนะ ถ้าแดกกันเปลือง ก็ไล่แม่ง


งานไม่ช่วยออกตัง แล้วอย่าเรื่องมาก

[sariora123]

พอไปค้น ประวัติวัตที่เป็นข่าว มาแล้ว + กับหลายๆ อย่างที่ทำ บอกเลยว่า
มีคนจ้องเล่นงาน วัดนี้เยอะ  หลักๆ ก็คือเงินเยอะ ปลิงเข้ามาดูดไม่ได้ล่ะมั้ง

+ สอนแหกวัฒนธรรมเดิมๆ

หลายเรื่องที่คนด่ากันพอไปดูๆ แล้วย้อนแย้งกันเองก็เยอะ

[Rem 870]

ถ้าพระพุทธศาสนา จะเผยแพร่ไปต่างชาติ ต้องตัด พิธีกรรมไม่จำเป็น นิทาน ตำนาน ออก เอาแต่คำสอน (ซึ่งก็มีพระบางท่านทำแล้วและได้ผลด้วย) ซึ่งผมจะเรียกว่า วัดเผยแพร่
แต่ที่เป็นข่าวดังๆ ที่เห็นกันเยอะในต่างประเทศส่วนมากก็ แค่ วัดไทย สาขาต่างประเทศที่ มีไว้เพื่อ(ทำเงิน?) คนไทยในต่างประเทศเท่านั้น
ไม่งั้นฝรั่งก็มองว่า ก็ถือคริส หรือ ไร่ศาสนาเหมือนเดิมไปดีกว่า

  ตามนั้นเลยครับศาสนาพุทธเป็น 1 ในศาสนาที่ดูดเงินได้เก่งที่สุดในโลกนะเพราะมีประเพณีการจัดงานอะไรต่างๆเยอะเหลือเกิน  มันก็เลยไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ญี่ปุ่นในสมัยโนบุนากะจะจัดการกับวัดพุทธแบบนั้น  อีกอย่างหนึ่งก็คือวัดพุทธจะสร้างอาคารอะไรนักหนาเดี๋ยวสร้างโบสถ์เดี๋ยวสร้างพระเดี๋ยวสร้างอุโบสถสร้างแต่ละทีก็ใช้เงินโคตรเยอะ  บางทีผมเจอพระที่มาจากสุโขทัยมาเรี่ยไรเงินถึงบ้านผมก็มี ป.ล บ้านผมอยู่อีสาน

[Black7nos]

[quote/]  ตามนั้นเลยครับศาสนาพุทธเป็น 1 ในศาสนาที่ดูดเงินได้เก่งที่สุดในโลกนะเพราะมีประเพณีการจัดงานอะไรต่างๆเยอะเหลือเกิน  มันก็เลยไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ญี่ปุ่นในสมัยโนบุนากะจะจัดการกับวัดพุทธแบบนั้น  อีกอย่างหนึ่งก็คือวัดพุทธจะสร้างอาคารอะไรนักหนาเดี๋ยวสร้างโบสถ์เดี๋ยวสร้างพระเดี๋ยวสร้างอุโบสถสร้างแต่ละทีก็ใช้เงินโคตรเยอะ  บางทีผมเจอพระที่มาจากสุโขทัยมาเรี่ยไรเงินถึงบ้านผมก็มี ป.ล บ้านผมอยู่อีสาน

เป็นทุกศาสนาครับ ถ้าเราเอาศาสนามามีเอี่ยวกับการเมือง+กฎหมาย
สมัยก่อนคริสตจักรโรมันแคทอริกก็รวยจากใบสารภาพบาป จนสร้างสถาปัตยกรรมมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ได้
หรือเอาอย่างเรื่องโกโก้หรือช็อกโกแลตก็ได้ เมื่อก่อนเป็นสินค้าต้องห้ามนะครับ เพราะเป็นสินค้าของพวกแขก
แต่มีพ่อค้าอิตาลีหัวใสเป็นประโยชน์จากลูกกาเกา เขาจึงล็อบบี้กับพระสันตปาปา และทำให้พระสันตปาปายุติการแบนสินค้าผลกาเกา


จะพุทธ หรือ อิสลามก็ไม่ต่างกันครับ ดังนั้นในแนวคิดรัฐสมัยใหม่ เขาต้องแยกศาสนาให้ออกจากการเมืองจริงๆ
ให้รัฐสมัยใหม่อยู่ในฐานะรัฐฆราวาส(Secular State) หรือ รัฐที่เป็นกลางทางศาสนา


วิธีแก้ปัญหาของไทยนะมันง่ายมาก แต่อย่างว่ามันมีคนเสียผลประโยชน์
1.ยกเลิก พรบ.สงฆ์ 2505 เพื่อให้ประเทศไทยอยู่ในสถานะเป็นกลางทางศาสนาจริงๆ ไม่สนับสนุนศานาใดเป็นพิเศษ
2.ยกเลิก สำนักพุทธ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้หมด ให้ทุกศาสนาอยู่ในสถานะเดียวกันทั้งหมด
3.วัด จะต้องจดทะเบียนในรูปแบบนิติบุคคลแบบไม่แสวงหากำไร(กฎหมายนี้มีอยู่แล้วไปอ่านได้ ตัวเดียวกับมูลนิธิต่างๆ) คนที่ถือเงินพระจะต้องให้วัดเป็นคนถือในนามนิติบุคคลเท่านั้น ห้ามพระหรือนักบวชใดๆถือเงินในบัญชีหรือกระเป๋าตัวเอง
4.พระจะถือเงินในบัญชีหรือกระเป๋าส่วนตัวไม่ได้ ถ้าพระหรือนักบวชคนไหนถือเงินเกิน ให้ถือว่าเงินนั้นเป็นรายได้ และเก็บภาษีเงินได้แบบบุคคลทันที (มีเงินรายได้ต่อปีไม่เกิน 120,000 บาท ถือเกินคิดภาษีแบบบุคคลได้ปกติไปเลย)
5.ห้ามเอางบประมาณแผ่นดินใดๆ ไปใช้ support นิติบุคคลทางศาสนาใดๆก็ตาม นิติบุคคลไม่แสวงหากำไรจะต้องหาเงินเองเพื่อจ่ายค่าน้ำค่าไฟและค่าอาหารเอง เพราะนิติบุคคลไม่แสวงหากำไร ได้สิทธิทางภาษีคือไม่เสียภาษีอยู่แล้ว


ทำตาม 5 ข้อที่ผมเขียนมาจะเป็นการแก้ปัญหาเรื่องศาสนาพุทธและศาสนาอื่นในไทยแบบยั่งยืนถาวรเลย ผมเอาหัวเป็นประกันเรื่องนี้เลย ผมวิจัยเรื่องนี้มาซักพักแล้วจนได้ข้อสรุปวิธีแก้ปัญหาแบบม้วนเดียวจบ

แถมให้อีกข้อ ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้น นิติบุคคลแบบไม่แสวงหากำไร จะต้องส่งงบประมาณเพื่อให้ Audit ตรวจงบบัญชีการเงินทุกปี
https://resolution.soc.go.th/PDF_UPLOAD/2565/P_405439_17.pdf
https://www.rd.go.th/66893.html
เนี่ย กฎหมายมีอยู่แล้ว ก็หัดใช้ให้เป็นประโยชน์ซะบ้าง

[สุทธชา]

[quote/]


เป็นทุกศาสนาครับ ถ้าเราเอาศาสนามามีเอี่ยวกับการเมือง+กฎหมาย
สมัยก่อนคริสตจักรโรมันแคทอริกก็รวยจากใบสารภาพบาป จนสร้างสถาปัตยกรรมมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ได้
หรือเอาอย่างเรื่องโกโก้หรือช็อกโกแลตก็ได้ เมื่อก่อนเป็นสินค้าต้องห้ามนะครับ เพราะเป็นสินค้าของพวกแขก
แต่มีพ่อค้าอิตาลีหัวใสเป็นประโยชน์จากลูกกาเกา เขาจึงล็อบบี้กับพระสันตปาปา และทำให้พระสันตปาปายุติการแบนสินค้าผลกาเกา


จะพุทธ หรือ อิสลามก็ไม่ต่างกันครับ ดังนั้นในแนวคิดรัฐสมัยใหม่ เขาต้องแยกศาสนาให้ออกจากการเมืองจริงๆ
ให้รัฐสมัยใหม่อยู่ในฐานะรัฐฆราวาส(Secular State) หรือ รัฐที่เป็นกลางทางศาสนา


วิธีแก้ปัญหาของไทยนะมันง่ายมาก แต่อย่างว่ามันมีคนเสียผลประโยชน์
1.ยกเลิก พรบ.สงฆ์ 2505 เพื่อให้ประเทศไทยอยู่ในสถานะเป็นกลางทางศาสนาจริงๆ ไม่สนับสนุนศานาใดเป็นพิเศษ
2.ยกเลิก สำนักพุทธ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้หมด ให้ทุกศาสนาอยู่ในสถานะเดียวกันทั้งหมด
3.วัด จะต้องจดทะเบียนในรูปแบบนิติบุคคลแบบไม่แสวงหากำไร(กฎหมายนี้มีอยู่แล้วไปอ่านได้ ตัวเดียวกับมูลนิธิต่างๆ) คนที่ถือเงินพระจะต้องให้วัดเป็นคนถือในนามนิติบุคคลเท่านั้น ห้ามพระหรือนักบวชใดๆถือเงินในบัญชีหรือกระเป๋าตัวเอง
4.พระจะถือเงินในบัญชีหรือกระเป๋าส่วนตัวไม่ได้ ถ้าพระหรือนักบวชคนไหนถือเงินเกิน ให้ถือว่าเงินนั้นเป็นรายได้ และเก็บภาษีเงินได้แบบบุคคลทันที (มีเงินรายได้ต่อปีไม่เกิน 120,000 บาท ถือเกินคิดภาษีแบบบุคคลได้ปกติไปเลย)
5.ห้ามเอางบประมาณแผ่นดินใดๆ ไปใช้ support นิติบุคคลทางศาสนาใดๆก็ตาม นิติบุคคลไม่แสวงหากำไรจะต้องหาเงินเองเพื่อจ่ายค่าน้ำค่าไฟและค่าอาหารเอง เพราะนิติบุคคลไม่แสวงหากำไร ได้สิทธิทางภาษีคือไม่เสียภาษีอยู่แล้ว


ทำตาม 5 ข้อที่ผมเขียนมาจะเป็นการแก้ปัญหาเรื่องศาสนาพุทธและศาสนาอื่นในไทยแบบยั่งยืนถาวรเลย ผมเอาหัวเป็นประกันเรื่องนี้เลย ผมวิจัยเรื่องนี้มาซักพักแล้วจนได้ข้อสรุปวิธีแก้ปัญหาแบบม้วนเดียวจบ

แถมให้อีกข้อ ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้น นิติบุคคลแบบไม่แสวงหากำไร จะต้องส่งงบประมาณเพื่อให้ Audit ตรวจงบบัญชีการเงินทุกปี
https://resolution.soc.go.th/PDF_UPLOAD/2565/P_405439_17.pdf
https://www.rd.go.th/66893.html
เนี่ย กฎหมายมีอยู่แล้ว ก็หัดใช้ให้เป็นประโยชน์ซะบ้าง

- รับรองอิสลามบุกยึด  พวกนี้ทุ่มเงินตัวเองและวิธีหนักๆเผยแพร่เอาเดี๋ยวจะซวยแบบอเมริกานะ วัยรุ่นเกิดอเมริกาบางคนไปเข้าไอซิส อัลกออิดะห์

- คือ ท่านอาจคิดวิธีแก้นะใช่ แต่ไม่คิดการแทรกแซงจากภายนอกรวมไว้ด้วย ญี่ปุ่นไม่มีศาสนา แต่ลัทธิบ้าๆมีมากกว่าไทยเยอะ

[Rem 870]

[quote/]


- รับรองอิสลามบุกยึด  พวกนี้ทุ่มเงินตัวเองและวิธีหนักๆเผยแพร่เอาเดี๋ยวจะซวยแบบอเมริกานะ วัยรุ่นเกิดอเมริกาบางคนไปเข้าไอซิส อัลกออิดะห์

- คือ ท่านอาจคิดวิธีแก้นะใช่ แต่ไม่คิดการแทรกแซงจากภายนอกรวมไว้ด้วย ญี่ปุ่นไม่มีศาสนา แต่ลัทธิบ้าๆมีมากกว่าไทยเยอะ

  ตามนั้นเลยครับเดี๋ยวนี้ตามบ้านนอกมัสยิดเยอะมากนะ

[samuison]

[quote/]


- รับรองอิสลามบุกยึด  พวกนี้ทุ่มเงินตัวเองและวิธีหนักๆเผยแพร่เอาเดี๋ยวจะซวยแบบอเมริกานะ วัยรุ่นเกิดอเมริกาบางคนไปเข้าไอซิส อัลกออิดะห์

- คือ ท่านอาจคิดวิธีแก้นะใช่ แต่ไม่คิดการแทรกแซงจากภายนอกรวมไว้ด้วย ญี่ปุ่นไม่มีศาสนา แต่ลัทธิบ้าๆมีมากกว่าไทยเยอะ

ไม่เชิงครับ


ราชวงศ์ถังต้องจำกัดจำนวยงนพระที่บวช ออกบัตรพระ


ของไทย ร. 4 ร.5 ก็มีปัญหาพระปลอมระบาด


จัดระเบียบศาสนาผมว่าควรทำ




ไม่ใข่เผด็จการริดรอน เสรีภาพ เพราะเราไม่ได้ควบคุมเรื่องคำสอนหากไม่ผิดกฎหมาย




แต่ทรัพย์สิน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ เส้นทางการเงินนี่ต้องบอกรัฐ




พระพุทธเจ้าไม่ได้บอกสักคำ ว่าให้รักษาเงินตราและปกปิดเงินตราและทรัพย์สินเป็นความลับ




ผมคิดมาตลอดง่า เจ้าอาวาส ขรัวตาแก่ ไม่ใช่คนมีความรู้เท่าไร


คอมพิวเตอร์ต่างๆก็ใช้ให้เด็กทำ


และทำท่าว่าข้าเก่ง รู้มากมาตลอดชีวิต




ควรจะให้ทำงานที่ต้องทำอย่างบัญขีบ้างที่ต้องส่งส่วนกลาง

[sariora123]

[quote/]  ตามนั้นเลยครับเดี๋ยวนี้ตามบ้านนอกมัสยิดเยอะมากนะ

จำข่าวไม่ผิดทางภาคใต้ งบมาให้ทำอย่างนึง แต่เสือกเอาไปสร้างมัสยิด สรุป ได้โดนทุบกับติดคุก

โครงการมีทำมาแดกงบ 


เอาจริงๆ วัดทางพุทธ นี่จะสร้าง ชาวบ้านต้องรวมเงินกันเอ ง 

[Rem 870]

แล้วพออิสลามมีจำนวนมากๆ ความบรรลัยก็จะเกิดครับ  อิสลามบางคนไปอยู่ยุโรปศาสนาของเขาไม่กินเหล้าแต่คนอื่นเขาไม่ใช่ไงเขาจะกินเหล้า ก็ทำท่ามีตำรวจศาสนาตามไปราวีเขา  แล้วในยุคนี้ที่มีอินเตอร์เน็ต มีมือถือ มีการติดต่อสารพัด แล้บอิสลามเวลาจะสวดมนต์ตอนเช้าก็ต้องเปิดผ่านลำโพง  ถามว่าเพื่อ? 

[sariora123]

แล้วพออิสลามมีจำนวนมากๆ ความบรรลัยก็จะเกิดครับ  อิสลามบางคนไปอยู่ยุโรปศาสนาของเขาไม่กินเหล้าแต่คนอื่นเขาไม่ใช่ไงเขาจะกินเหล้า ก็ทำท่ามีตำรวจศาสนาตามไปราวีเขา  แล้วในยุคนี้ที่มีอินเตอร์เน็ต มีมือถือ มีการติดต่อสารพัด แล้บอิสลามเวลาจะสวดมนต์ตอนเช้าก็ต้องเปิดผ่านลำโพง  ถามว่าเพื่อ? 

นึกถึงพม่า แฮะ พม่า มีกฏหมาย ว่าด้วยการนับถือศาสนา
ว่าห้ามมีการบังคับเปรี่ยนศาสนาเด็ดขาดไม่ว่าจะด้วยกรณีใดก็ตาม โทษโครตแรง ครับ
พวกที่แต่งกะมุส คือมีข้ออ้างได้ครับว่า ไม่เปรี่ยน ถ้าใครบอกให้เปรี่ยน ไม่งั้นไม่ได้แต่ แจ้งความโดนหิ้ว แทบยกครัว


จรึงๆ นึกถึง เจงกิสข่านนะ
ต่อนเจงกิสข่าน ตีเมืองไปทั่ว มีคนเล่าว่า เจงกิสข่านได้ออกกฏหมายว่า ทุกคนมีสิทธินับถือศาสนาใดก็ได้ ห้ามไม่ให้ผู้ใดบังคับ เด็ดขาด